ตอนที่ 21 : Lost in love Chapter 20 แผนรัก แผนร้าย [100%]

Lost in love Chapter 20
แผนรัก แผนร้าย
“พี่ยงฮวาก็ไปที่นั่นด้วยหรอครับ?”
เป็นเพราะมินฮยอกเอาแต่ทำงาน ก่อนหน้าฮโยยอนชวนให้มาด้วยกัน แต่เขากลับไม่ยอมมา
“ก็ใช่น่ะสิ พี่พูดในฐานะผู้หญิง พี่ดูออกว่าจองยงฮวาคนนี้ไม่ธรรมดาเลย นายมัวแต่ทำงาน ระวังเถอะ งานนี้มีหวังได้กินแห้วกระป๋องแน่”
ความจริงแล้วทุกครั้งที่ผ่านมามินฮยอกพยายามที่จะไม่คิดอะไร เขาคิดว่าทุกครั้งที่ได้พบยงฮวาอยู่กับจูฮยอนจะต้องเป็นแค่ความบังเอิญ หากแต่ในความบังเอิญก็เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นความตั้งใจ
ฮโยยอนกดตัดสายโทรศัพท์มือถือลงด้วยความหงุดหงิด มีจูฮยอนอยู่ที่ไหนยงฮวาจะต้องอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ ยิ่งถ้าแต่งงานแค่ในนามเหมือนที่มินฮยอกเล่าให้ฟังยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต่อให้ปาร์คชินเฮจะอยู่ด้วยตรงนี้ เธอก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีผลอะไรอยู่ดี
….
“คุณจูฮยอน…อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันที่นี่เลยสิคะ จะได้ไม่ต้องลำบากลงมือทำอาหารกันเอง” ปาร์คชินเฮเอ่ยปากชวน แต่จูฮยอนคิดว่าที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่ ส่งเด็กๆกลับบ้านหมดแล้ว เธอก็ควรที่จะไปดูบ้านพักของตัวเองเสียที ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้บ้านหลังนั้นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
“ขอบคุณมากนะคะ แต่ว่า…ฉันขอรบกวนแค่ผักสดในไร่ก็พอค่ะ นานๆครั้งคุณถึงจะมีเวลาได้หยุดพักผ่อน ฉันไม่อยากรบกวนจริงๆค่ะ ฉันขอตัวไปดูพี่ฮโยยอนกับเลิฟลี่ทางด้านนั้นก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวค่ะ”
“….”
จูฮยอนหยุดชะงัก ถึงจะอยากเดินหนีไปให้ไกลแต่กลับต้องยอมหยุดพูดคุยกับคนที่เธอไม่มีอะไรจะพูดด้วย
ชินเฮเดินอ้อมมาดักหน้าจูฮยอนเอาไว้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยงฮวาถึงยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรก เขาเคยเล่าให้เธอฟังว่าเคยมีรักแรกตั้งแต่ตอนอายุแค่ 20 ตอนนั้นจูฮยอนคงแค่อายุ 18 ซึ่งก็ยังจัดว่าพวกเขายังเด็กด้วยกันทั้งคู่ ยงฮวาบอกกับเธอว่า…เขาไม่อาจลืมผู้หญิงคนนี้ได้
“สมมติว่า…ถ้าฉันหย่ากับยงฮวาแล้ว แล้วคุณจะยินดีกลับมาหาเขาไหมคะ?” ปาร์คชินเฮเอ่ยถามหน้าเครียด หากแต่จูฮยอนกลับรู้สึกตกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าปาร์คชินเฮจะรู้เรื่องของเธอกับยงฮวาด้วย
“คุณรู้หรอคะ?”
“ตลอดมา…ยงฮวามีหัวใจไว้เพื่อรักผู้หญิงแค่คนเดียว ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ ถ้าเขาไม่บอก ฉันคงไม่รู้หรอกว่าเป็นคุณ”
“….” จูฮยอนยืนนิ่ง ยงฮวามีหัวใจไว้เพื่อรักผู้หญิงแค่คนเดียว ยิ่งได้ฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าความรักมันช่างทำให้เจ็บปวดได้มากเสียจนอยากที่จะตัดใจแล้วลืมๆเรื่องราวทุกอย่างไปให้หมดโดยเร็ว
“ฉันไม่ว่าอะไร ถ้าคุณกับยงฮวา… ”
“เรื่องของฉันกับเขา เป็นไปไม่ได้อีกแล้วค่ะ” จูฮยอนเสียงแข็งพร้อมกับเตรียมจะเดินหนี ทว่าคำตอบนั้นกลับทำให้หัวใจของชินเฮรุ่มร้อน
“แล้วถ้าสมมติว่า…มีผู้ชายอีกคนที่เหมือนจะดีและเพียบพร้อมเดินเข้ามาหาคุณ คุณจะทำยังไงกับเขาคะ?”
“ฉันเป็นอิสระ ถ้าคนคนนั้นยินดีให้ฉันเลือก ฉันอาจจะเลือกเขาก็ได้ค่ะ”
เป็นคำตอบที่สร้างความผิดหวังและชวนให้รู้สึกโมโหไม่น้อย เธอคิดว่าซอจูฮยอนจะแตกต่างกับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่เลย ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่ใจเย็นยืนปั้นหน้าอยู่เฉยๆแบบนี้แน่ ที่ใจเย็นถามก็เพราะแอบหวังว่าถ้าเธอยอมปล่อยยงฮวาให้ แล้วจูฮยอนจะตอบรับ คนอย่างปาร์คชินเฮ…ยอมทิ้งผู้ชายอย่างลีจงซอกได้ แต่จะไม่มีวันยอมให้เขาทิ้งเธอเพื่อไปเสวยสุขคนเดียวเป็นอันขาด
“ชินบีเป็นลูกของฉันกับลีจงซอกค่ะ”
…!!
เลิฟลี่ช่วยคุณครูฮโยยอนเก็บผัก หนูน้อยถือตะกร้าเดินไปจนทั่วไร่ หากแต่บ่อน้ำที่อยู่ใกล้ๆกันมีปลาเต็มไปหมดเลย
เพราะความอยากรู้อยากเห็น เลิฟลี่จึงลืมหน้าที่ของตัวเองไปชั่วขณะ หนูน้อยก้าวเข้ามานั่งเล่นริมบ่อน้ำ แล้วชะโงกมองดูปลาในนั้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ
หนูน้อยชินบีแอบซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ ดวงตาที่ควรจะใสซื่อกลับจ้องมองพี่สาวตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง ถ้าหากเลิฟลี่ตกลงไปในน้ำนั่น แล้วเธอจะไม่กลับขึ้นมาอีกเลย ชินบีก็จะไม่เสียคุณพ่อไป
“ไหนขอดูหน่อยสิคะ ว่าเก็บได้เยอะแค่ไหนแล้ว” จูฮยอนเดินเข้ามาถามคุณครูฮโยยอนด้วยรอยยิ้ม หากแต่ฮโยยอนดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะจูฮยอนไม่ยอมบอกเธอตั้งแต่ต้นว่าไร่แสงแห่งรักเป็นไร่ของจองยงฮวา
“ดูทำหน้าเข้า ถ่ายไม่ออกหรอคะ ถ้าถ่ายไม่ออกก็ควรที่จะต้องกินผักให้เยอะๆเลยนะ”
“ไม่ต้องมาพูดดี รีบมาช่วยเก็บเลย” ฮโยยอนบ่นอุดอู้
จูฮยอนลงมือช่วยเก็บผัก หากแต่กลับต้องแปลกใจที่พบว่าเลิฟลี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้
“พี่ฮโยยอน เลิฟลี่ไปไหนคะ?”
“….”
“เมื่อกี้…เมื่อกี้ก็ยังอยู่นะ”
ยงฮวายืนยิ้มพอใจเมื่อเห็นเด็กน้อยสองคนนั่งดูปลากันอยู่ด้วยความเพลิดเพลิน ถึงภาพนั้นจะน่าเอ็นดูมากแค่ไหน แต่ก็อันตรายมากเกินไปหากว่ามีใครพลาดตกลงไปในบ่อน้ำ
“ชินบี ปลาตัวนั้นสีแดง ตัวนี้สีม่วง แล้วตัวนั้นสีอะไรจ๊ะ?”
เด็กหญิงตัวเล็กนั่งจ้องมองปลาหลากสีตาใส แม้ว่าตอนแรกจะคิดอยากให้เลิฟลี่ตกลงไปในบ่อน้ำ แต่พอได้มาดูปลาใกล้ๆ ความเพลิดเพลินกลับช่วยขับกล่อมเอาความรู้สึกไม่ดีให้หายไปจนหมดสิ้น
“สี…สีน้ำเงิน ใช่ไหมคะ?”
“ถูกต้องเลย เก่งจริงๆ”
แค่คำเดียวที่น้องสาวตัวเล็กตอบกลับมา เลิฟลี่ก็ถึงกับอมยิ้มดีใจ คนเป็นพี่สาวเล่าให้น้องสาวตัวเล็กฟังว่าวันนี้ตนกับเพื่อนๆได้ร่วมทำอะไรกันมาบ้าง เสียงเล็กๆ ดังฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำเอาจูฮยอนกับฮโยยอนที่ก่อนหน้าช่วยกันตามหาเลิฟลี่แทบตาย ต่างก็พากันถอนหายใจโล่งอก
“เด็กๆ มาทำอะไรตรงนี้ มันอันตรายนะรู้ไหม” ยงฮวาช่วยดึงเด็กน้อยทั้งสองคนห่างออกมาจากบ่อน้ำ จูฮยอนเห็นอย่างนั้นจึงตัดสินใจรีบเรียกเลิฟลี่ให้มาหา
“เลิฟลี่ เรากลับกันเถอะจ๊ะ รบกวนคุณลุงนานเกินไปแล้ว ขอบคุณสำหรับผักผลไม้พวกนี้ด้วยนะคะ”
สำหรับยงฮวาแล้วคำขอบคุณมันไม่จำเป็นเลย ในไร่แห่งนี้จูฮยอนอยากได้อะไร เขายินดีมอบให้เธอหมดทุกอย่าง เหมือนกับเมื่อก่อนที่เคยมอบมันเทศที่ดีที่สุดให้
“ถ้าขาดอะไรอีกก็บอก พี่จะเก็บไปให้เพิ่มเอง”
“ไม่แล้วล่ะค่ะ แค่นี้ก็เยอะมากแล้ว” จูฮยอนกระตุกข้อมือเล็กเตรียมจะพาเลิฟลี่กลับ หนูน้อยไม่รอช้าไม่ลืมที่จะเอ่ยคำลาน้องสาวตัวเล็ก
“พี่กลับก่อนนะจ๊ะ แต่ว่าคุณลุงขา หนูพาชินบีไปเล่นที่บ้านด้วยได้ไหมคะ?”
ฮโยยอนยืนบ่นอุดอู้ จูฮยอนก็รู้อยู่เต็มอกว่าปาร์คชินเฮเป็นผู้หญิงเรื่องเยอะมากแค่ไหน ยอมให้เลิฟลี่คบกับชินบี แถมยังชวนพากันมาเล่นที่บ้าน นี่ถ้าเกิดว่าลูกสาวเค้าเกิดเป็นอะไรไปอีก พวกเราทุกคนคงได้ปวดหัวกันอีกยาวเลยแน่ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี” จูฮยอนเองก็ลำบากใจเหมือนกัน แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะขนาดว่าปาร์คชินเฮที่ว่าหวงและรักลูกสาวมากๆ ยังยอมให้ชินบีมาเล่นที่นี่ เด็กสองคนนี้มีโชคชะตาคล้ายกัน มีพ่อแต่กลับไม่ได้อยู่กับพ่อของตัวเอง
“หวังว่าจะไม่ซวยซ้ำสองหรอกนะ”
“โธ่…พี่ก็ ไม่ซวยหรอกค่ะ ดูสิคะ เด็กสองคนเล่นกันน่ารักจะตาย”
ดูท่าชินบีจะชอบวาดรูประบายสีมาก ทันทีที่มาถึงเลิฟลี่ชวนให้ระบายสีด้วยกัน เด็กทั้งสองคนก็ตั้งหน้าตั้งตาช่วยกันระบายสีอย่างเดียว ไม่ดื้อไม่ซนเลย
ฮโยยอนก้มหน้าก้มตาทำอาหารมื้อเย็นต่อไป ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว หากแต่คนที่รักและหวงลูกสาวมากๆอย่างปาร์คชินเฮ ไม่น่าจะกล้ายอมปล่อยชินบีมากับคนอื่นง่ายๆ จะบอกว่าเธอมองโลกในแง่ร้ายก็ยอม
“มาค่ะ ฉันช่วยหั่น”
“หั่นเร็วๆเลย ท้องร้องแล้วเนี่ย”
ก่อนหน้านี้เพียงแค่สามวัน อาอึนฮีบอกว่าจะส่งคนมาทำความสะอาดบ้านให้ พอมาถึงวันนี้ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย ไม่มีฝุ่นผงหรืออะไรที่ไม่น่ามองเลยแม้สักอย่างเดียว อาอึนฮีหาคนได้เก่งมากเสียจนทำให้จูฮยอนแอบหวั่นกลัว
สองสาวช่วยกันทำอาหารอยู่ในห้องครัว ขณะที่เด็กน้อยสองคนช่วยกันระบายสีอยู่ในห้องโถง
เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดทำให้จูฮยอนหลงคิดว่า ไม่เป็นยงฮวาก็อาจจะเป็นปาร์คชินเฮมารับชินบีกลับบ้าน หากแต่พอเดินออกมาดูด้วยตัวเอง เธอถึงพบว่าผู้มาเยือนไม่ใช่คนสองคนที่เธอคาดเดาเอาไว้
“จูฮยอน…ทำอาหารอยู่ใช่ไหมจ๊ะ ไม่ต้องทำแล้วนะ เดี๋ยวอาจัดการให้เอง”
คนเป็นหลานสาวยืนเคว้งอยู่หน้าบ้าน มองดูคนของอาขนของสดเข้าไปในบ้าน ซออึนฮีเตรียมมาพร้อมทั้งแม่บ้านและแม่ครัว ทุกคนเริ่มต้นทำงานกันอย่างเป็นมืออาชีพ ทำเอาฮโยยอนถึงกับไม่เหลือที่ยืนในห้องครัว ต้องออกมานั่งรวมอยู่กับเด็กสองคนที่ห้องด้านนอก
“คือหนูแค่ตั้งใจจะมาพักผ่อนแบบสบายๆน่ะค่ะ อาไม่น่าจะต้องลำบากเลย” คนเป็นหลานเดินตามเข้ามาอธิบาย ทุกอย่างที่ซออึนฮีเตรียมมาดูสมบูรณ์แบบมากเกินไป ถ้าจะบอกว่านี่คือความเอาใจใส่ที่อามอบให้ จูฮยอนคิดว่ามันไม่น่าจะต้องขนาดนี้ เว้นเสียแต่ว่า…มีเหตุผลอื่นแอบแฝง
“ไม่ได้หรอกจ๊ะ วันนี้มีแขกสำคัญจะมาที่นี่ด้วย”
“แขก…ใครหรอคะ?” อยู่ดีดีก็จะมีคนมาหาในช่วงเวลาที่ตั้งใจมาพักผ่อน จูฮยอนคิดว่ามันดูไม่ปกติเอาเสียเลย
“ยังไม่รู้สินะจ๊ะ เป็นแขกคนสำคัญที่พี่ซอนมินอยากให้เธอทำความรู้จักกับเขาเอาไว้ อาคิดว่า…มันเป็นโอกาสที่ดีที่หลานของอาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ อย่าปิดกั้นตัวเอง หรือเอาชีวิตไปยึดติดอยู่กับเรื่องในอดีต อาอยากเห็นวันที่หลานของอามีความสุข”
จูฮยอนเข้าใจหมดทุกอย่าง ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากเรื่องในอดีต ทางเดียวที่จะปกป้องเลิฟลี่ได้ก็คือเธอจะต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่
“หนูจะไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ที่อยากทำอีกแล้วใช่ไหมคะ?”
แม้จะรู้ว่าหมดหวัง นับตั้งแต่วันที่ปล่อยเด็กคนนั้นไปแล้ว แต่จูฮยอนก็ยังหวังว่าตัวเองจะสามารถเป็นแม่ให้กับเลิฟลี่ได้ในสักวันหนึ่ง
ซออึนฮีตบที่บ่าของหลานสาวเบาๆเป็นการปลอบโยน วันนี้จูฮยอนทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวเพียงเท่านั้น
“อย่ามองกลับไปข้างหลังอีก อย่าทำลายอนาคตของตัวเองด้วยเรื่องในอดีต ทุกอย่างมันกำลังไปได้ด้วยดีแล้ว เธอจะต้องท่องจำเอาไว้”
ท่องจำเอาไว้…วันนี้คำสอนของซออึนฮีแตกต่างไปจากเดิม เมื่อก่อนท่านสอนเธอว่าเรื่องทุกอย่างล้วนมีเหตุผลเสมอ บทเรียนที่อาเคยพร่ำสอนด้วยความรักและความเข้าใจไม่เคยมีคำว่าต้องท่องจำเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ค่ะ หนูจะเดินต่อไปข้างหน้า เดินไปให้ดี ทิ้งเรื่องทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังให้หมด ซอจูฮยอนในวันนี้…ไม่เหมือนซอจูฮยอนในอดีตอีกแล้ว หนูจะจดจำแล้วทำตามทุกคำแนะนำของอาแน่นอนค่ะ”
วันนี้หลานสาวของซออึนฮีดูแปลกไป รับคำหนักแน่นว่านอนสอนง่ายมากเสียจนทำให้คนเป็นอารู้สึกกลัวได้อย่างที่ไม่เคยเป็น ที่ผ่านมาอึนฮีอ่านคนอย่างจูฮยอนออกเสมอ จุดอ่อนของจูฮยอนก็คือเลิฟลี่ และมันก็เป็นเรื่องยากมากด้วยที่จูฮยอนจะยอมทิ้งเด็กคนนั้นง่ายดายแบบนี้ แต่วันนี้จูฮยอนกลับยอมที่จะละทิ้ง
“อาหาคนมาทำงานได้เก่งจังนะคะ บ้านสะอาดมากเลย แล้วหนูยังเดาได้อีกด้วยว่าอาหารมื้อนี้จะต้องเป็นเมนูระดับภัตตาคารแน่ๆ”
“หลานก็ชมเกินไป ถ้าอยากให้อาช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะจ๊ะ”
“จริงด้วย หนูเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย, อาจำได้ไหมคะ ผู้หญิงคนนั้นที่อาเคยจ้างมาเป็นคนนำทางเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เมื่อเดือนก่อน…หนูพบคนคนนี้ด้วยค่ะ เธอมาทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงเรียนของหนู”
“หรอจ๊ะ!? แปลกจริง อาตามคนคนนี้มาตลอด แต่ทำไม…ทำไมถึงได้จุดใต้ตำตอแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นควรที่จะแจ้งความเลยนะจ๊ะ ถึงจะผ่านมานานแล้ว แต่อาคิดว่ายังไงก็ยังเอาเรื่องได้อยู่” ซออึนฮีเผยรอยยิ้มหวาน ไม่มีสีหน้าท่าทางที่ดูเป็นกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว ผิดกับที่จูฮยอนคาดเอาไว้ เธอคิดว่าถ้าพูดเรื่องนี้ออกมา อาจะต้องแสดงพิรุธอะไรให้ได้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร นอกไปจากรอยยิ้มที่ยังคงดูเอ็นดูกันเหมือนเดิม
เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดทำให้บทสนทนาของสองอาหลานมีอันต้องสะดุดลงไป ชินบีละสายตาออกจากสมุดภาพระบายสี เด็กน้อยจ้องมองชายหนุ่มคนตรงหน้าก่อนที่จะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ
“คุณลุง…คุณลุงมารับหนูกลับบ้านแล้ว”
ฮโยยอนถึงกับอึ้งไปเลย เธอคาดไม่ถึงว่าลีจงซอกจะมาปรากฎตัวที่นี่ โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น
“ชินบีไม่ใช่ลูกของยงฮวา แล้วเด็กนั่นลูกใครล่ะ?”
“ถ้าผมบอกพี่แล้ว พี่จะต้องเหยียบเอาไว้เลยนะครับ ห้ามพูดออกมาเด็ดขาด ถ้าพี่พูดออกมา พี่จะต้องขึ้นคาน ไม่มีคนรักไปตลอดทั้งชาตินี้แล้วก็ชาติหน้า”
น้องชายแช่งเอาไว้ว่ายังไงฮโยยอนไม่เคยลืม มินฮยอกบอกว่าลีจงซอกเป็นพ่อของชีนบี ถึงที่ผ่านมาจะน้ำท่วมปากมาตลอดแต่เธอก็พูดออกมาไม่ได้เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ เรื่องของพวกเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าละครน้ำเน่า คนเป็นพ่อไม่ยอมรับลูกของตัวเองเพราะกลัวว่าจะเสียอนาคต ขณะที่อีกคนยอมรับลูกของคนอื่นเป็นลูกของตัวเอง เพราะถูกหลอกเลยต้องจำยอม
ชินเฮขอให้ยงฮวาช่วยไปรับชินบีกลับมา เป็นความตั้งใจของเธอแต่แรกแล้วที่จะให้ยงฮวาได้พบกับลีจงซอก ตอนแรกเธอคิดว่าจะปรึกษาหารือเรื่องนี้กับยงฮวาก่อน แต่เธอคิดว่าให้ยงฮวาได้ไปรู้เห็นทุกอย่างด้วยตัวเอง แล้วจากนั้นค่อยกลับมาพูดคุยกันก็ยังไม่สาย
อาหารบนโต๊ะมีแต่เมนูเลิศรส หากแต่ฮโยยอนกลับกินข้าวไม่ลงเพราะท่าทีของซออึนฮีที่เอาแต่ชงลีจงซอกให้หลานสาวตลอดเวลา ฮโยยอนนั้นคันปากยิบๆอยากโพล่งบอกสิ่งที่เธอรู้กลางโต๊ะอาหารให้รู้แล้วรู้รอดไป หากแต่เพื่อมารยาทอันดีงาม เธอจึงจำต้องเก็บซ่อนสิ่งที่ตัวเองรู้เอาไว้
จูฮยอนเองก็รู้สึกอึดอัดไม่ต่างกัน ตอนแรกเธอไม่เข้าใจหรอกว่าอยู่ดีดีชินเฮพูดเรื่องพ่อของชินบีขึ้นมาทำไม แต่ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว
“อาหารถูกปากมากเลยครับ ผมรู้สึกเกรงใจแล้วก็…รู้สึกขอบคุณมากจริงๆ”
ซออึนฮียิ้มร่าด้วยความพอใจ คนอย่างลีจงซอกเป็นผู้ชายประเภทที่ผู้หญิงทุกคนควรหลีกหนีให้ห่างไกล เธอยอมรับในหัวใจของปาร์คชินเฮจริงๆ ที่หลงรักคนประเภทนี้
“ชินบี…อิ่มแล้วหรอจ๊ะ อยากกินอะไรอีกไหม บอกคุณครูได้นะจ๊ะ” ฮโยยอนถามเด็กน้อยด้วยความเอาใจใส่ ให้มันรู้ไปว่าพ่อของเด็กจะนั่งทนโท่อยู่ตรงนี้ได้อีกนานแค่ไหนกัน
“หนูชินบีมาเล่นที่นี่ แล้วแม่ของชินบีล่ะจ๊ะ ปาร์คชินเฮอยู่ที่ไร่ด้วยหรือเปล่า?” ซออึนฮีถามขึ้นมา
“อยู่ค่ะ คุณปาร์คชินเฮ น่าจะมารับชินบีด้วยตัวเอง…ในเร็วๆนี้” จูฮยอนปรายตาหันมองลีจงซอกพร้อมกับรอยยิ้ม คนเป็นพ่อเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าเด็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือลูกสาว แต่เขาก็ยังทำนิ่งเฉยอยู่ได้ ทำเหมือนกับว่าเด็กคนนี้ไม่มีความสำคัญและไม่มีตัวตนสำหรับเขาเลย
….
ยงฮวามาหยุดยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าบ้าน เห็นว่ามีรถจอดอยู่หลายคันจนดูน่าแปลกใจ ทั้งที่ก่อนหน้าเลิฟลี่บอกเองว่าจูฮยอนตั้งใจมาพักผ่อนกันเป็นการส่วนตัว มีแค่เลิฟลี่ จูฮยอนแล้วก็ฮโยยอน สามคนเท่านั้น
เห็นประตูบ้านเปิดทิ้งเอาไว้ ยงฮวาจึงแอบเดินเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านประตูชั้นแรกเข้ามาจนถึงห้องโถง จนกระทั่งได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน เขาจึงเดินตามเสียงนั้นเข้ามาจนถึงโต๊ะอาหาร
ลีจงซอกนั่งปั้นหน้าทำเนียนเป็นสุภาพบุรุษอยู่ท่ามกลางเด็กและผู้หญิง นั่งอยู่ตรงข้ามกับลูกสาวของเขาเลย
“หลานของผมตั้งใจเรียนหนักมาก แกบอกด้วยว่าอยากที่จะเข้าเรียนโรงเรียนของคุณจูฮยอนให้ได้”
“หรอคะ? ดีจังค่ะ ขยันแบบนี้ต้องสอบได้คะแนนดีแน่ๆค่ะ”
“….”
การสนทนามีอันต้องสะดุดลงทั้งหมด เมื่อยงฮวาเดินเข้ามาปรากฎตัวให้ทุกคนได้เห็น
“คุณลุง มารับชินบีกลับบ้านหรอคะ?” เลิฟลี่ทักทายคุณลุงยงฮวาด้วยรอยยิ้ม เด็กหญิงใสซื่อไม่รู้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของพวกผู้ใหญ่จึงพูดทักทายยงฮวาออกมาด้วยความสนิทสนม
ซออึนฮีพอใจที่ได้พบยงฮวา ขณะที่ลีจงซอก เขาก็เป็นแค่ไก่โง่ๆตัวหนึ่งที่ถูกเธอต้อนมาเข้ากรงเท่านั้น หลานสาวของเธอในวันนี้ก็ไม่ต่างไปกับปาร์คชินเฮ ภาพลักษณ์แม่พระของซออึนฮีกำลังสั่นสะเทือนอย่างหนัก ถ้าขืนยังปล่อยเวลาให้เนิ่นนานมากกว่านี้ สิ่งที่คาดหวังเอาไว้คงไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้
“ช่วยไปคุยกันข้างนอกหน่อยได้ไหมครับ คุณลีจงซอก” ยงฮวาออกปากเสียงแข็ง พลางหันมองใส่จูฮยอนด้วยความไม่พอใจ ถึงคนถูกมองจะรู้ตัวดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยให้เรื่องทุกอย่างดำเนินต่อไป จะเกิดอะไรก็ต้องเกิด
….
ยงฮวากับจงซอกออกมาพูดคุยกันที่หน้าบ้าน คนอย่างลีจงซอกไม่รับผิดชอบลูกของตัวเองไม่พอ เขายังกล้าเสนอหน้าเสนอตัวมาเป็นชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมให้จูฮยอนได้เลือกอีก
“คิดถึงชินบีบ้าง อย่าทำอะไรให้มันมากไปกว่านี้อีกเลย”
“ผมทำอะไร ผมก็แค่มาตามคำเชิญของอาจารย์… ” จงซอกแก้ตัว
“คุณเล่นละครตบตาใครก็ได้ ยกเว้นผม” ยงฮวาพูดสวน
“….” ลีจงซอกยืนนิ่งเมื่อเห็นใครอีกคนปรากฎออกมายืนอยู่ตรงหน้า ปาร์คชินเฮก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้า จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรักและความชัง
เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งปรี่เข้ามาหาผู้เป็นแม่ ชินเฮกอดลูกสาวเอาไว้แน่น ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จ้องมองออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
จูฮยอนจูงมือพาเลิฟลี่กลับเข้ามาในบ้าน เหลือแค่ฮโยยอนที่แอบยืนดูสถานการณ์แบบเกาะติดขอบจอไม่ยอมไปไหน
เลิฟลี่กระตุกดึงข้อมือของน้าสาว จูฮยอนก้มมองเด็กน้อยแล้วฝืนที่จะยิ้มออกมา แม้ว่าในใจจะเป็นทุกข์ก็ตามที
“จะต้องไม่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่นอนจ๊ะ แต่เลิฟลี่ก็จะต้องอยู่ใกล้ๆน้าเอาไว้ด้วยนะ”
ยงฮวาพาชินเฮกับจงซอกมาเคลียร์กันต่อที่ไร่ และเพราะกลัวว่าชินบีจะได้ยินเรื่องที่ไม่สมควรจะได้ยิน ยงฮวาจึงรับหน้าที่พาชินบีออกมาเดินเล่นดูปลาในสวน
“ทำไมมองหน้าพ่อแบบนั้น มันไม่ชินสินะ” ยงฮวานั่งมองหน้าเด็กน้อยแล้วอมยิ้ม เขาคงเป็นบ้าไปแล้วที่ตอนนี้ยังยิ้มได้ จะว่าไปก็รู้สึกสงสารชินบีอย่างจับใจ น่าเสียดายที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดี ไม่เคยแม้แต่จะมอบความรักความจริงใจให้กับเด็กคนนี้เลย
ฝ่ามือหนาบรรจงลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มอย่างแผ่วเบา หวังว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นลูกสาวที่น่ารัก ถ้าหากโชคดี ชินบีอาจจะไม่ลืมจองยงฮวาในวันนี้ก็ได้
“ไม่ว่ายังไง…พ่อก็จะเป็นพ่อให้หนูนะ ถ้าวันข้างหน้าคิดถึงหรือว่าลำบากก็มาหาพ่อได้ตลอด พ่อคนนี้ไม่มีวันทอดทิ้งลูกอยู่แล้ว เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนแล้วก็อย่าเอาแต่ใจนักล่ะ เข้าใจไหม?”
ยงฮวาดึงร่างเล็กเข้ามากอด มันเป็นอ้อมกอดครั้งแรกที่ออกมาจากหัวใจ ไม่ได้เป็นการเสแสร้งแกล้งทำเพื่อสร้างภาพเหมือนกับที่ผ่านมา
ชินเฮได้รับฟังคำพูดแก้ตัวมากมาย จงซอกบอกว่าเขาก็แค่ไปบ้านนั้นตามคำเชิญของซออึนฮี ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงเหมือนกับที่ชินเฮหรือยงฮวาเข้าใจ
“คุณคิดว่าในโลกนี้ จะมีใครที่โง่กว่าฉันอีกหรือเปล่า? ลีจงซอกเป็นคนยังไง ฉันจะไม่รู้เชียวหรือ”
“มันไร้สาระน่า ผมก็กลับมาแล้ว คุณจะเอายังไงอีก”
“คุณคงคิดว่าถ้าวันนี้ผ่านได้ วันต่อๆไปก็จะสานสัมพันธ์กับซอจูฮยอนต่ออย่างราบรื่นสินะคะ ทรัพย์สมบัติของตระกูลซอน่าจะมีเยอะเกินคุ้มอยู่ ถ้าฮุบมาได้แล้วคงตายตาหลับ”
“สมบัติอะไรของคุณ คนอย่างผมเนี่ยนะ จะหวังสมบัติหวังเงินของคนอื่น”
“แล้วที่ผ่านมามันไม่ใช่ว่าเพราะเงินหรอคะ ไม่ใช่เพราะเงิน เพราะชื่อเสียงหรอกหรอที่ทำให้คุณ…เห็นแก่ตัวได้มากขนาดนี้”
จงซอกกำมือแน่น ชินเฮยิ่งพูดก็ยิ่งจี้ใจดำ เป็นเรื่องจริงที่ชินเฮรู้จักเขาดี แต่ที่มาโวยวายใส่กันแบบนี้ เธอมาโวยวายในฐานะอะไรแน่
“จะทิ้งผมอยู่แล้วนี่ แล้วจะมาโวยวายใส่กันทำไม คุณมีทางไป ผมก็มีทางไปด้วยเหมือนกัน”
“เลว…คุณมันเลวจริงๆ”
“ผมเลวแต่คุณก็เคยอยู่กับคนเลวๆแบบผมนี่แหละ เราสองคนมันก็เลวพอกัน ขนาดมียงฮวาเป็นสามี คุณยังมานอนกับผมได้เลย”
เพี๊ยะ!!
ความเจ็บแสบบนผิวแก้มข้างซ้ายไม่ได้ทำให้ลีจงซอกเจ็บปวดมากสักเท่าไหร่นัก บางทีเขาอาจจะเลวมากเกินไปจนด้านชาไปหมดแล้วก็ได้ ไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าคนที่กำลังจะถูกลูกเมียทอดทิ้งรู้สึกแย่แค่ไหน
โทรศัพท์ของจูฮยอนมีข้อความเด้งเข้ามาตลอดเวลา และคนที่ส่งมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นยงฮวานั่นเอง
[เธอห้ามแต่งงานกับลีจงซอกเด็ดขาด ถ้าคิดจะมีใครใหม่จริงๆ ช่วยหาคนที่ดีกว่านี้ด้วย]
[เรามีเรื่องจะต้องพูดคุยกันนะ ตอนนี้พี่รออยู่หลังบ้าน…]
[ออกมา ภายในห้านาที ถ้าไม่ออกมา คืนนี้เธอจะต้องเสียใจ]
จูฮยอนแอบแง้มผ้าม่านเพื่อมองหาเจ้าของข้อความ เธอรู้ว่ายงฮวายืนอยู่ตรงนั้นนานแล้ว แต่จะให้เธอออกไปฟังเขาพูดหรืออธิบายอะไร มันใช่เวลาเสียที่ไหนกัน ในเมื่อปาร์คชินเฮกับชินบี รวมไปถึงลีจงซอกก็อยู่ที่ไร่ด้วย
“น้าจูฮยอนขา หนูอาบน้ำแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”
การมาของเลิฟลี่ทำให้จูฮยอนถึงกับสะดุ้งตกใจ แต่พอตั้งหลักได้ก็เอาแต่มองดูลูกสาวแล้วก็ยิ้ม
“ดีมากจ๊ะ วันนี้ปลูกผักเก่งมากเลยนะ เอาไว้มาสอนน้าด้วยสิ ยังจำวิธีอยู่ได้ไหม?”
“ได้เลยค่ะ จำได้หมดเลย แต่ว่าตอนนี้… ” เลิฟลี่เอามือปิดปากหาวดวงตาหวานเชื่อม เพลียแดดมาทั้งวัน หนูน้อยก็เลยง่วงนอนเร็วมากเป็นพิเศษ
“ถ้าง่วงแล้วก็เข้านอนเถอะจ๊ะ”
ฮโยยอนออกมาจากในห้องน้ำหลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธออยากรู้ว่าจูฮยอนคิดยังไงกับลีจงซอก ยิ่งเลิฟลี่เข้านอนเร็วก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้พูดได้ถามอะไรบ้าง หากแต่จูฮยอนกลับนั่งหาว ทำเหมือนจะเข้านอนตามเลิฟลี่ไปเสียอย่างนั้น
“อะไร…ง่วงแล้วหรอ?”
“ค่ะ อยู่ดีดีก็ง่วง เราเข้านอนกันเลยนะคะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆ แล้วค่อยไปเดินเที่ยวตลาดกัน”
ฮโยยอนยืนมองจูฮยอนตาปริบๆ คุณน้าเข้านอนตามหลานสาวตัวเล็กไปในแบบติดๆ ไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรบ้างเลย ตอนนี้น้ำกำลังท่วมปากของเธอไปหมดแล้ว อยากบ้วนออกบ้างก็บ้วนไม่ได้
ไฟในห้องนอนของจูฮยอนดับมืดลงแล้ว ยงฮวารู้สึกผิดหวังที่จูฮยอนไม่ยอมออกมาหาตน โทรไปหาก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปหาก็ไม่ยอมตอบ
กำลังจะตัดใจถอยหลังกลับ แต่ยงฮวาก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้พบเข้ากับชินเฮอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“อุ้ย…ตกใจหมด!”
“เค้าไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความแค่นี้ก็เลยคิดจะถอดใจแล้วหรอ” ชินเฮถามแกมหยอก
“ใครบอกว่าถอดใจ จะไปเก็บของต่างหาก ยังไงก็ต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ไม่ยอมออกมาดีนัก คืนนี้รู้ฤทธิ์แน่”
เห็นยงฮวายังมีแรงฮึด ชินเฮก็เลยโล่งใจ เธอไม่รู้หรอกว่าจูฮยอนรักยงฮวาแค่ไหน เธอรู้แค่ว่ายงฮวารักจูฮยอนมากก็เท่านั้น ที่ผ่านมาแค่ต้องมาจมอยู่กับเธอกับชินบี ชีวิตของเขาก็พังมากพอแล้ว หวังว่าหลังจากที่เธอไปแล้ว ยงฮวาจะมีโอกาสได้อยู่กับคนที่เขารักบ้าง
“ฉันจะกลับแล้วนะ”
“อ้าว…ไม่อยู่พักก่อนล่ะ เดินทางดึกดื่น จะไหวหรอ?”
“ไหวสิ ฉันจะพาจงซอกกลับด้วย เขาจะได้ไม่อยู่สร้างปัญหาให้นายอีก”
โทรศัพท์ของจูฮยอนสั่นตลอดจนทำให้เจ้าตัวต้องลุกขึ้นมาปิดเครื่อง ฮโยยอนกับเลิฟลี่ปรือตามอง ก่อนที่จะพากันนอนหลับต่อเมื่อเห็นจูฮยอนล้มตัวนอนกลับลงมา
[ถ้าไม่ออกมา พี่จะเข้าไปหาเองนะ]
ยงฮวาขู่แบบนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะปิดไฟนอน จนตอนนี้เวลาผ่านเลยมาเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย
ซออึนฮีนอนพักอยู่อีกห้อง ถึงจะเข้านอนเร็วกว่าใครแต่อันที่จริงแล้ว เธอยังไม่ได้เข้านอนเหมือนกับที่ทุกคนเข้าใจ
‘ยอซินซู’ เป็นคนที่ซออึนฮีเคยว่าจ้างให้มาเป็นคนนำทางเพื่อไปที่น้ำตกเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่ผ่านมาซออึนฮีทั้งให้เงินและช่วยฝากงานให้ แต่ให้เงินไปเท่าไหร่ สุดท้ายเงินก็หมดแล้วก็ไม่พ้นเธออยู่ดี แถมล่าสุดยังก่อเรื่องไปทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงเรียนของจูฮยอนอีกด้วย
“คิดเสียว่า…เธอทำตัวเองก็แล้วกันนะ”
ยงฮวาบอกให้จองชินจอดรถรอ โดยให้ห่างจากประตูรั้วประมาณ 10 เมตร ส่วนตัวของเขาแอบลอดรั้วลวดหนามเข้ามาทางด้านหลัง งานนี้เป็นยังไงเป็นกัน เขาจะต้องพูดกับจูฮยอนให้รู้เรื่องให้ได้
จูฮยอนลืมตากลับขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้ ในใจของเธอไม่ได้คิดถึงใครอื่น นอกไปจากคนที่ส่งข้อความมาข่มขู่ว่าจะเข้ามาหา
“จะกล้าขนาดนั้นจริงๆหรอ?” ร่างบางลุกออกจากเตียงนอน เปิดประตูห้องออกอย่างเงียบกริบก่อนที่จะก้าวออกมา จูฮยอนเดินตรงเข้าหาหน้าต่าง แหวกผ้าม่านออกดู แต่ก็ไม่เห็นถึงความปกติใดๆที่ด้านนอก
“ฉันคงหูฝาดไปเอง คงแค่ขู่ ไม่น่าจะกล้ามาจริงๆหรอก” จูฮยอนส่ายหน้าก่อนที่จะกลับหลังหัน ตั้งใจเดินกลับเข้าห้องนอน หากแต่อยู่ดีดีกลับถูกฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาปิดเข้าที่ริมฝีปาก
…!!
ลมหายใจอบอุ่นตกกระทบเข้ากับลำคอระหง จูฮยอนตาโตตกใจ ทำได้แค่ส่งเสียงประท้วงอื้ออึงในลำคอ
“ถ้าส่งเสียงร้องได้เห็นดีกันแน่ บอกให้ออกมาก็ไม่ออก”
เสียงกระซิบนั้นฟ้องทุกอย่าง ไม่มีใครกล้าทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ นอกเสียจากจองยงฮวาแค่คนเดียว
“ปล่อยเลยนะคะ! ฉันจะออกหรือไม่ออก พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาเข้าบ้านคนอื่นในยามวิกาลแบบนี้ ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแจ้งตำรวจ”
“แน่จริงก็แจ้งเลยสิ ถ้าพี่ถูกจับติดคุก พี่จะอ้อนขอให้เลิฟลี่ไปเยี่ยม”
อะไรๆก็อ้างเลิฟลี่ตลอด ได้ฟังแล้วทำให้อดหมั่นไส้ไม่ได้ จูฮยอนเหยียบลงบนเท้าของยงฮวาเต็มแรง ทั้งบดทั้งขยี้เต็มแรงเกิด แต่กลับถูกยงฮวาแก้เผ็ดด้วยการดึงเอาตัวเข้ามากอดแน่น
“ปล่อยนะคะ!”
ทั้งสองคนต้องตกใจหนักไปกว่าเดิม เมื่ออยู่ดีดีไฟในห้องโถงก็สว่างพรึ่บขึ้นมา เลิฟลี่ขยี้ตายืนดูน้ากับคุณลุงด้วยความงัวเงีย
“น้ากับคุณลุง…กำลังคุยกันอยู่หรอคะ?” ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นน้า เลิฟลี่ก็เลยตามออกมาหา แต่มองหาแล้วไม่เห็น ได้ยินแต่เสียงก็เลยลองเปิดไฟดู ทำเอายงฮวากับจูฮยอนหน้าซีดเผือด ตกใจจนแทบจะผละออกจากกันไม่ทัน
“กลับไปได้แล้วค่ะ ฉันจะไปนอนแล้ว”
ยงฮวาคว้าข้อมือบาง เตรียมการมาขนาดนี้แล้วจะยอมให้เรื่องมันจบง่ายๆได้ยังไง
“เลิฟลี่…ไปนอนก่อนนะคะ ขอเวลาให้ลุงได้คุยกับน้าจูฮยอนก่อน ถ้าพูดคุยธุระกันเสร็จแล้ว ลุงจะพาน้าจูฮยอนกลับเข้าไปนอนกับเลิฟลี่แน่นอนจ๊ะ”
“ค่ะ” เพราะยังคงง่วงและงัวเงีย เลิฟลี่จึงยอมเดินกลับเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย
ยงฮวาได้ทีในช่วงที่จูฮยอนกำลังพลั้งเผลอ ฉุดพาร่างบางออกจากบ้านมาด้วยความรวดเร็ว
จูฮยอนดิ้นรนขัดขืนไม่ยินยอม พอต่อต้านหนักเข้าก็ถูกยงฮวาจับอุ้มขึ้นมาพาดไว้บนบ่า ท่อนแขนเรียวยาวทั้งทุบทั้งฟาดใส่ลงที่กลางแผ่นหลังเสียหลายตุ้บ ยงฮวากัดฟันเดินตรงลิ่วมาถึงยังรถที่จองชินขับมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว
“จะพาฉันไปไหนคะ!? เราคุยกันที่บ้านก็ได้” เห็นว่าถึงขั้นมีรถมาจอดรอ จูฮยอนก็ถึงกับใจเสีย เธอไม่คิดว่ายงฮวาจะกล้าทำถึงขั้นนี้ มันมากเกินกว่าการออกมาพูดคุยกันในแบบธรรมดาๆแล้ว
ร่างบางถูกจับยัดใส่เข้ามาในรถ แล้วจากนั้นลีจองชินก็ขับรถออกมาด้วยความรวดเร็ว จูฮยอนยังไม่ทันได้ตะโกนร้องขอให้คนช่วยเหลือก็ถูกยงฮวาใช้เทปกาวปิดเข้าที่ริมฝีปาก พอดิ้นรนขัดขืนทุบตียงฮวาหนักเข้า เขาก็สวมบทโหดเอาเทปกาวมาพันข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้
จูฮยอนด่ากลับด้วยแววตา ยงฮวารู้ดีว่าพฤติกรรมของตัวเองนั้นมันห่ามมากแค่ไหน
“ไม่ทำอะไรหรอกน่า แค่พามาคุยเฉยๆ เดี๋ยวคุยเสร็จแล้วจะพากลับมาส่งเองนั่นแหละ”
คุยอะไรถึงขั้นต้องทำแบบนี้ ถ้าเธอหลุดไปได้เมื่อไหร่ จะต้องเอาคืนเขาแน่นอน ส่วนคนที่คาดไม่ถึงว่าจะกล้าร่วมขบวนการด้วยก็คือลีจองชิน
“คือผม…ผมขัดใจพี่ยงฮวาไม่ได้ครับ พี่เค้าสั่งยังไง ผมก็ต้องทำอย่างนั้น แต่พี่เค้ายืนยันกับผมจริงๆนะครับว่าแค่อยากพูดคุย ปรับความเข้าใจกับคุณจูฮยอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีแน่นอนครับ” เห็นสายตาที่จ้องมองมาแล้วทำให้จองชินร้อนตัวจนทนอยู่เฉยไม่ได้ เขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่ยงฮวาตัดสินใจแล้ว เขาก็ขัดใจไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
************************100%***********************
อย่าลืมนะคะ อย่าลืมคอมเม้นท์ให้ไรเตอร์ด้วย
Dear Santa ตอน 3 อัพแล้วนะคะ ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
http://writer.dek-d.com/angleinblue/writer/viewlongc.php?id=1412273&chapter=3
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ส่วนอิพี่ยงก็จัดหนักเลยนะ555+ เคลียให้รู้เรื่องล่ะ
จงอย่าให้น้องแต่งงานกับจงซอกนะ
เคลียร์กันให้รู้เรื่องน้าาา
พี่ยงนี่เจ้่าแผนการมาก คุยดีๆก็ได้มั้ง
ที่รักคนที่เห็นแก่ตัวอย่างจงซอก แล้วนั่นยงจะลักพาตัวซอไปเคลียร์ที่ไหนเหรอ
คุณที่เจ้าแผนการจริงๆ
ยงสู้ๆๆนะ ถ้าไม่ยอมคุยดีๆใช้กำลังไปเลย ต้องเอาให้ยอม เรารอและทุ่มเทขนาดนี้ อย่าปล่อยให้ไปแต่งงานกับคนอื่น สู้ๆๆๆๆ
เรื่องราวเข้มข้นจริงๆ ทำละครได้เลย เรื่องนี้ ชอบบ
สงสารก็เด็กๆสองคนไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย
ลักพาต้วม.เมียตัวเองตลกมากเลยยง
คุยกันให้เข้าใจซะนะแล้วร่วมมือกันเอาครอบครัวกลับคืนมานะ
จัดการยัยคุณอาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แม่น้องซอด้วย
ไปๆมาๆคนที่น่าสงสารสุดคือชินเฮกะชินบีนะเนี่ยเฮ้ออออ
รอตอนต่อไปนะค๊าาาา
แล้วพี่ยงจะโดนซอทำอะไรบ้างเนี่ยถ้าซอเป็นอิสระ 555555