ตอนที่ 32 : Hate you, I hate you Chapter 31 :: Final day [100%]
Hate you, I hate you Chapter 31
Final day
จูฮยอนสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือ ร่างบางผวารีบลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ดวงตากลมโตหันมองหาใครบางคนที่ควรจะนอนอยู่เคียงข้าง
ร่างบางลุกออกจากเตียง นึกขันตัวเองที่นอนหลับฝันหวาน เมื่อคืนนี้ยงฮวาไม่ได้ทำอะไรเธอเลย เขาแค่จูบแล้วเราต่างฝ่ายต่างก็หลับไป แต่เธอกลับเก็บเอามาฝันต่อ มันช่างเป็นฝันที่น่าละอายอะไรอย่างนี้
“ยงฮวา…จองยงฮวา… ” ยงฮวาน่าจะตื่นนอนแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะกำลังทำอะไรอยู่ อาจจะลุกขึ้นมาทำอาหารเช้า จูฮยอนคิดว่าเขาจะต้องอยู่ในห้องครัวแน่ๆ หากแต่พอตามเข้ามาหาจริงๆ เขากลับไม่ได้อยู่ในนี้เลย
“ไปไหนของเขานะ?”
ดวงตากลมโตหันมองหา บนโต๊ะอาหารไม่มีอาหารเช้า จูฮยอนเริ่มต้นตามหาสามีของเธอไปจนทั่วทั้งบ้าน แต่ก็ไม่พบ
จุนฮีปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นว่าจูฮยอนกลับมาที่บ้าน พี่สาวของเธอกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปทำงานเหมือนกับในทุกวัน
“ยงฮวาล่ะ เธอเห็นเขาไหม?”
“….” น้องสาวตัวเล็กส่ายหน้าเชื่องช้า จูฮยอนอดโมโหไม่ได้ที่พบว่ายงฮวาหายไปโดยไม่บอกกล่าวกันเลยแม้สักคำ
“ถ้าอย่างนั้น พี่ไปทำงานก่อนแล้วกัน สงสัยวันนี้คงได้สายแน่ๆเลย” จูฮยอนบ่นได้ไม่กี่คำก็ต้องรีบร้อนออกจากบ้านไป
จุนฮีมองตามพี่สาวหน้าเศร้า ไม่เข้าใจว่ายงฮวาคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำอย่างนี้ เขาบอกกับเธอว่าจะหาทางบอกทุกอย่างกับจูฮยอนในคราวหลัง แต่เท่าที่ดูแล้วเหมือนการกระทำตอนนี้จะเป็นการตั้งใจหลบหน้าจูฮยอนมากกว่า
อยู่ดีดียงฮวาก็หายไปโดยไม่บอกกล่าว ทำเอาจูฮยอนอารมณ์เสียได้ทั้งวัน เธอโทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย แม้แต่ส่งข้อความไปหาเขาก็ไม่ได้ตอบกลับมา, จะไปไหน ไปทำอะไร เธอไม่เคยว่าไม่เคยก้าวก่ายอยู่แล้ว แต่นี่มันไม่ใช่ ก็แค่เอ่ยปากบอกกันไม่กี่คำ มันยากนักหรือ
“จูฮยอนจะมาถึงช่วงหกโมงเย็น เธอจะให้พวกเราชวนจูฮยอนพูดคุยแล้ววางยานอนหลับไม่ใช่เรื่องยาก แต่พี่ขอเถอะ อย่าให้ทำอะไรที่มันมากเกินไปนักเลย จูฮยอนแต่งงานแล้ว ถ้าเรื่องนี้เคลียร์กันไม่ได้ ชีวิตของจูฮยอนจะต้องพังแน่ๆ” แทยอนนอนคิดมาตลอดทั้งคืน จริงอยู่ว่าวิธีนี้อาจใช้พิสูจน์ความรักของยงฮวาได้ แต่เธอก็กลัว กลัวว่าปัญหาจะลุกลามบานปลายเป็นเรื่องใหญ่
“พี่ก็เห็นด้วยกับแทยอนนะ แผนของเธอมันเหมือนละครไปหน่อย จะให้วางยานอนหลับแล้วจับถอดผ้าขึ้นเตียงถ่ายรูปส่งไปให้ยงฮวาดู พี่ว่า…ตัดขั้นตอนออกหน่อยดีกว่า ไม่ต้องถอดเสื้อหรอกนะ แค่ถ่ายรูปบนเตียงก็น่าจะบ้านแตกได้แล้วแหละ” มิยองสนับสนุนความเห็นของแทยอนอีกคน ถึงตอนแรกเธอจะนึกสนุกอยากแกล้งยงฮวามากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเธอก็กลัวว่าผลลัพธ์นั้นจะย้อนกลับมาทำให้จูฮยอนต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
ซูโฮมองหน้าแทยอนกับมิยองอย่างชั่งใจ เขายอมรับว่าแผนการที่ตัวเองคิดไว้มันดูไม่เข้าท่าแถมยังน้ำเน่ามากเกินไป ยอมตัดลดขั้นตอนลงหน่อย เอาแบบที่พอประมาณเหมือนที่แทยอนกับมิยองท้วงติง น่าจะดีกว่า
“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นก็แค่ถ่ายรูปกับจูฮยอนบนเตียงหลังจากที่เธอนอนหลับ หรือถ้าพวกพี่สองคนไม่สบายใจ เราถ่ายวีดีโอไว้อีกม้วน รวมเป็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังไปเลยน่าจะดีกว่า”
“โอเคนะ พี่เห็นด้วย เพิ่มเบื้องหลังด้วย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น จะได้หยิบเอามาใช้ได้” แทยอนตอบรับแผนการ หลังจากนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืนส่งผลให้เธอรู้สึกปวดหัวไม่น้อย หลายครั้งที่หิวแต่พอได้เห็นอาหารแล้วกลับไม่อยากกิน สงสัยว่าจบแผนการนี้เธอจะต้องได้ไปเที่ยวโรงพยาบาลบ้างแล้ว
“ไหวไหมเนี่ย หน้าเธอดูซีดๆไปนะ” มิยองถามด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นไร ไหวอยู่” แทยอนฉีกยิ้มให้ เธอคิดว่าช่วงนี้อาจจะแค่เครียดและกดดันกับหลายๆเรื่อง ไหนจะยังกำหนดการเดินทางของแบคฮยอนที่ใกล้เข้ามาอีกด้วย ถึงเขาจะแค่ไปเรียน แต่แทยอนกลับรู้สึกหวิวๆในใจ อาจเป็นเพราะว่าเราสองคนได้พบกันทุกวันเลยก็ได้ พอแค่คิดว่าจะไม่มีเขาอีก คงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องใจหาย
จูฮยอนเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวไปหาพี่สาวทั้งสองตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ วันนี้แปลกไปกว่าวันไหนๆ เพราะไม่ว่าจะหันมองออกไปข้างนอกกี่ครั้ง ก็ไม่พบยงฮวาแม้แต่เงา
“คนบ้านี่! อยู่ดีดีหายไปไหนของเขา ถ้าทำงานอยู่ก็แค่บอกว่าทำงาน อย่าให้ต้องตามไปหาถึงบริษัทนะ นายตายแน่!”
เมื่อก่อนมียงฮวามาคอยตามเฝ้าจูฮยอนมักจะรู้สึกรำคาญ แต่พอเขาไม่มา เธอก็รู้สึกหงุดหงิดเหมือนจะยอมรับสภาพไม่ได้
จุนฮีเพิ่งกลับออกมาหลังจากเยี่ยมแม่ของเธอ น้องสาวตัวเล็กทำได้แต่ยืนแอบมองดูพี่สาวอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ถ้าไม่จำเป็นในตอนนี้เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับจูฮยอนตรงๆ เหตุก็เพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะหลุดพูดทุกอย่างที่รู้ออกมา
วันนี้มาเยี่ยมแม่ ท่านก็เอาแต่พร่ำบอกว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพี่สาวของตัวเอง พอเจอหน้าเธอท่านก็เอาแต่ถามรบเร้าอยากจะเจอป้าอินฮวาให้ได้ พอเธอไม่รู้จะตอบอะไร แม่ก็เอาแต่ร้องไห้แล้วก็บอกว่าท่านไม่ได้ทำอะไรพี่สาวของตัวเองเลย แถมยังถามด้วยว่าเธอเชื่อท่านหรือเปล่า?
ความจริงที่รู้อยู่เต็มอกแต่ไม่อาจพูดได้ทำให้จุนฮีรู้สึกทรมาน เธออึดอัดมาก แต่ก็ต้องอดทน ตอนนี้ทุกคนที่เธอรักทำให้เธอรู้สึกแบบนี้กันแทบทุกคน พอลืมตาขึ้นมาในแต่ละวันก็ต้องอดทน ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไร ทั้งที่รู้อยู่เต็มใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่ต้องแอบยืนดู หรือไม่ก็ส่ายหน้าเพื่อเลี่ยงคำตอบ
เห็นจุนฮีเอาแต่ยืนหลบมุมแอบดูพี่สาว จงฮยอนก็ยิ่งรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไรนะ”
คำพูดสั้นๆแค่ประโยคเดียวทำให้จุนฮีถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหว
“เราจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่คะ แล้วพี่ยงฮวาคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกตรงๆ ว่าฉันกลัวใจพี่เค้าจริงๆ”
จงฮยอนฉุดดึงพาจุนฮีเดินออกมาด้วยกันที่ด้านนอก เมื่อพ้นสายตาของผู้คน เขาจึงช่วยซับน้ำตาให้เธอ เขาเองก็อึดอัดเหมือนกันแต่พยายามคิดไตร่ตรองดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะพูด มันเป็นเรื่องของคนแค่สองคน แล้วตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เขาหรือจุนฮีจะพูดอะไรได้
“ไม่เอาน่า ไม่ร้องนะ ถ้าเธอตาบวม คงไม่พ้นสายตาของคุณจูฮยอนแน่ๆ”
ร่างบางเดินเรื่อยเปื่อยกลับออกมาจากโรงพยาบาล จูฮยอนโบกรถแท็กซี่แล้วนั่งด่ายงฮวาในใจมาตลอดทาง ตอนนี้เธอเป็นห่วงเขามาก ไม่รู้ว่าที่ติดต่อไม่ได้เพราะไปเป็นอะไรหรือเปล่า
“ทำไงดี?” จูฮยอนตัดสินใจโทรหาจุนฮี ถ้าไม่ได้เบาะแสอะไรเลย เธอตั้งใจว่าจะเปลี่ยนทิศทางแล้วไปตามหายงฮวาก่อนที่จะไปพบกับพี่สาวทั้งสองคน
เมื่อพี่สาวโทรหาจุนฮีก็ไม่รีรอรีบกดรับสายในทันที เพราะยงฮวารู้แน่ว่าการเงียบหายไปของตัวเองจะต้องทำให้จูฮยอนไม่สบายใจแน่ ดังนั้นเขาจึงเตรียมหาทางออกในเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
“คือว่า…พี่ยงฮวางานยุ่งมากเลยน่ะค่ะ ฝากให้ฉันบอกพี่ว่าวันนี้คงกลับบ้านไม่ได้”
“เขาโทรบอกเธอหรอ?” จูฮยอนซักเสียงตึง เธอเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่ ถึงไม่ยอมบอกให้เธอได้รู้ ทั้งที่เรื่องแค่นี้มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง
“พี่จูฮยอน อย่าโกรธพี่ยงฮวาเลยนะคะ” เสียงของจุนฮีสั่นเครือราวกับกำลังจะร้องไห้ คนเป็นพี่สาวจับน้ำเสียงได้ เธอจึงค่อยๆลดระดับความฉุนเฉียวทางอารมณ์ลง
“จุนฮี…แล้วนี่อยู่ที่บ้านหรือเปล่าจ๊ะ?”
“ค่ะ ใช่ค่ะ ฉัน…อยู่บ้านแล้ว”
“ดีแล้วจ๊ะ แล้วจงฮยอนล่ะ เขาอยู่ข้างๆเธอด้วยไหม? ขอพี่คุยกับเขาหน่อยได้ไหมจ๊ะ” โทนเสียงของจูฮยอนดูใจเย็นลงมาก ทว่าจุนฮีก็ยังคงเศร้าไม่หายอยู่ดี
จงฮยอนใจหายวาบเมื่อจุนฮีส่งโทรศัพท์ของเธอให้ จูฮยอนอยากพูดกับเขา ต้องไม่ใช่เรื่องตลกแน่ๆ
“สวัสดี…สวัสดีครับ คุณจูฮยอน”
เสียงของเขาช่างฟังดูประหม่า ยังไม่ทันไรเลยก็ใจฝ่อเสียแล้ว
“คือฉันมีเรื่องอยากรบกวนคุณน่ะค่ะ ถ้าคุณจะอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวของฉัน ฉันไม่ว่าอะไร แต่ว่า…ห้ามทำอะไรเกินเลยนะคะ” จูฮยอนเสียงแข็ง ทำเอาคนฟังถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก
“ไม่ต้องห่วงครับ ทันทีที่กลับมาคุณตรวจดูกล้องวงจรปิดได้เลย” จงฮยอนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เขาจะไปกล้าทำอะไรจุนฮีได้ยังไง ลำพังแค่จะจับมือถือแขนยังแล้วแต่โชคชะตาเลย
สั่งกำชับแกมขู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว จูฮยอนจำต้องมุ่งหน้าไปหาพี่สาวทั้งสองคนตามที่นัดหมายกันเอาไว้ ถึงใจจะแอบเคืองยงฮวาไม่หายแต่ก็ต้องจำยอมระงับสติอารมณ์แล้วค่อยไปจัดการกับเขาในภายหลัง ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น เธอจะอาละวาดให้บ้านแตกเลยคอยดู
เห็นน้องสาวเดินเข้ามาในโรงแรม แทยอนกับมิยองก็พากันรีบส่งสัญญาณบอกให้ซูโฮเตรียมความพร้อม
โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเดียวกันกับในครั้งที่ยงฮวาคิดวางแผนขู่แบล็คเมล์เธอในครั้งที่มินฮยอกกำลังจะแต่งงานกับคริสตัล พี่สาวทั้งสองคนบอกกับเธอว่าวันนี้มีการยกกองถ่ายมาถ่ายทำมิวสิควิดีโอตัวใหม่ของศิลปินในค่าย ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะเกือบเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว
จูฮยอนส่งยิ้มรับพี่สาวทั้งสอง เราสามคนพี่น้องไม่ได้พบไม่ได้พูดคุยกันมาตั้งหลายวันแล้ว สารภาพตามตรงว่าจูฮยอนไม่ชอบช่วงเวลาที่โกรธกับพี่สาวของเธอเลย
ทว่าทั้งที่ตั้งใจว่าจะเดินเข้าไปหาพี่สาวทั้งสอง กลับกลายเป็นว่าใครคนหนึ่งกลับแย่งเอาความสนใจไปจากแทยอนและมิยองได้จนหมดสิ้นเพียงแค่กะพริบตาครั้งเดียวเท่านั้น
จูฮยอนตาโต เธอกะพริบตาหลายครั้งหลายหนเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เธอเห็นตอนนี้ไม่ใช่คนที่ทำให้เธออารมณ์เสียมาตลอดทั้งวัน
“จองยงฮวา… ”
“จูฮยอน! พวกพี่อยู่ทางนี้นะ” แทยอนกับมิยองเดินตามน้องสาวด้วยความมึนงง ยิ่งเดินใกล้เข้ามา สิ่งที่ได้เห็นพร้อมกันถึงสามคนก็ทำให้แทยอนและมิยองถึงกับพูดไม่ออก
ยงฮวาเดินควงแขนผู้หญิงคนหนึ่งหายเข้าไปในห้องบนชั้นสอง จูฮยอนมึนงงคิดไม่ถึงว่าคนอย่างยงฮวาควงแขนผู้หญิงอื่นได้ด้วยหรือ เธอคนนั้นสวมกระโปรงสั้นกุดแค่คืบเดียว เสื้อผ้าของเจ้าหล่อนทุกตารางนิ้ว ไม่มีตรงไหนไม่รัดเนื้อหนังร่างอรชรของเธอเลย พวกเขาสองคนเดินพูดคุยกระหนุงกระหนิง หลายครั้งที่ผู้หญิงคนนั้นซบไหล่ของยงฮวาด้วย
จูฮยอนหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ ที่ยงฮวาบอกว่างานยุ่งมันคืองานประเภทไหน แล้วถึงขั้นต้องมาเดินควงแขนให้ผู้หญิงอื่นซบอย่างนี้เลยเชียวหรือ
“จูฮยอน…ใจ…ใจเย็นๆก่อน” แทยอนช่วยให้สติน้องสาว ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเองก็อยากรู้เต็มกลืน สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติเลยสักนิด ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่ายงฮวามีผู้หญิงคนอื่น
“เปิดเข้าไปเลย ถ้าเปิดไม่ออก พี่จะช่วยแงะเอง” มิยองตั้งท่าเตรียมบู้เต็มที่ พวกเธอใช้เวลาเตรียมแผนกันมาหลายวัน ให้รู้ไปว่าแผนทั้งหมดจะพังเพราะยงฮวาแอบมีกิ๊ก
จูฮยอนนับหนึ่งถึงสิบในใจ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนที่อยู่ในห้องนั้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ยงฮวารับสายของเธอในวันนี้
“นายอยู่ไหนหรอ? ตอนนี้…นายอยู่ที่ไหน?” เสียงของจูฮยอนนิ่งสงบ ไม่มีอารมณ์ใดๆใส่เพิ่มเติมลงมาเลยแม้แต่น้อย
“ผมอยู่ที่บริษัท กำลังเตรียมประชุม แค่นี้ก่อนนะ เสร็จงานแล้วจะโทรกลับไปอีกครั้ง”
ความรู้สึกในตอนนี้คล้ายกับตอนที่จับมีดเพื่อเตรียมผ่าศพเป็นครั้งแรก มันน่ากลัวแต่ก็ต้องทำใจกล้า แม้แต่จะหลับตาแกล้งทำไม่สนใจก็ทำไม่ได้
ตลอดช่วงเวลาสั้นๆ จูฮยอนทำแค่รับฟังสิ่งที่พี่สาวพูดออกมา แน่นอนว่ามันมีทั้งถ้อยคำปลอบโยนและถ้อยคำปลุกกระตุ้น แต่สำหรับจูฮยอนแล้วสภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับยืนอยู่ในห้องผ่าตัดแล้วก็มีผู้ช่วยสองคนหยิบเครื่องไม้เครื่องมือส่งให้
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย จูฮยอนตั้งใจเปิดให้มันกว้างออกทีละน้อย เพื่อที่จะได้ค่อยๆ โฟกัสสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าให้ชัดๆ
แทยอนกับมิยองถึงกับต้องเอามือปิดปากตัวเอง สิ่งที่พวกเธอเห็นก็คือยงฮวาในชุดคลุมอาบน้ำกับผู้หญิงคนนั้นที่เพิ่งจะผละจากเขาไปได้ไม่กี่วินาที
เสียงประตูกระแทกกับผนังดังปังเป็นสัญญาณให้ยงฮวาต้องมองออกไปที่หน้าประตู ความจริงแล้วจูฮยอนกับพี่สาวของเธอไม่น่าจะเข้ามาได้ง่ายๆ แต่ที่เข้ามาได้ก็เพราะเขาตั้งใจไม่ล็อคประตูตั้งแต่แรก
จูฮยอนหน้าชาตัวชา ดวงตากลมโตจิกมองตามร่างบางที่สวมแค่เสื้อคลุมหมิ่นเหม่จวนจะหลุดอยู่รอมร่อ สายตาที่ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองมาที่เธอไม่ได้ใสซื่อหรือไม่รู้ความ ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่จะไม่ตกใจเลยด้วยซ้ำที่ได้เห็นเธอ
“นั่นใครหรอคะ? คุณไม่ได้นัดฉันแค่คนเดียวหรอกหรอ?”
ยงฮวาไม่ได้พูดหรือแก้ตัว สิ่งที่เขาทำต่อหน้าเธอก็คือ บอกให้ผู้หญิงคนนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วกลับออกไปก่อน
มิยองถลกแขนเสื้อ จับได้คาหนังคาเขาขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้หนีรอดไปได้ง่ายๆได้อย่างไร
“ถ้าเธอออกทางประตูนี้ เธอเสียโฉมแน่ ยัยผู้หญิงหน้าด้าน!”
“ถ้าพวกคุณทำอะไรฉัน…ฉันจะแจ้งความนะ” หญิงสาวขู่กลับด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
จูฮยอนหันขวับมาจ้องมองเจ้าหล่อน เธอถอนหายใจทิ้งนับครั้งไม่ถ้วน มือไม้ของเธอสั่นระริก แต่ถึงจะไม่พอใจแค่ไหนเธอก็ต้องอดทน อีกทั้งยังไม่อยากให้มือของพี่สาวต้องมาแปดเปื้อน
“ปล่อยเธอเถอะค่ะ ให้เธอไปเถอะ”
มิยองกับแทยอนจำต้องหลีกทาง แต่มิยองก็ยังไม่วายรีบผลักร่างบางให้พ้นออกจากประตูด้วยสุดจะทนไหว
จูฮยอนยืนจ้องหน้ายงฮวานิ่ง อยากร้องไห้หรือปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา แต่เธอมีศักดิ์ศรีมากกว่านั้น เขาไม่ต้องอธิบายหรือพูดอะไร เธอก็ดูออกอยู่แล้ว นอกจากความโกรธ คงมีแต่ความเกลียดแล้วก็ความผิดหวังที่เธอไม่อาจหักห้ามตัวเองได้
กว่าจะรู้ตัวว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมรับสาย หรือทำแม้แต่ส่งข้อความตอบกลับมา เธอก็ถูกคนตรงหน้าเขี่ยหัวใจทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างมันโกหกทั้งเพ
แหวนที่แสนมีค่า ทุกครั้งกว่าจะถอดมันออกได้ก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญ ทว่าเวลานี้จูฮยอนสามารถถอดมันออกได้ในครั้งเดียว
เธอขว้างแหวนใส่หน้าเขาเต็มแรง ไม่สนใจและไม่คาดหวังว่าวันพรุ่งนี้ชีวิตของตัวเองจะดำเนินไปในทิศทางไหน
“คนเลว! ไปตายซะ!!”
มิยองกับแทยอนวิ่งตามน้องสาวกลับออกไป จูฮยอนพูดแค่ประโยคเดียวพร้อมกับคืนแหวนให้ด้วยวิธีที่ทำให้ยงฮวาเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต
คนอย่างจองยงฮวาไม่เคยคิดว่าวันนี้จะทำให้จูฮยอนต้องเจ็บปวด เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะถอดแหวนแล้วขว้างมันกลับคืนมาแบบนี้ ถึงทุกอย่างที่จูฮยอนเห็นมันจะไม่จริง แต่เขาก็พอใจในผลของมัน
เวลานี้คล้ายว่าแหวนจะถูกชะล้างด้วยน้ำตา เขาเพียงคิดว่าอยากให้ทุกอย่างจบในช่วงเวลาที่จูฮยอนยังไม่ได้เผยความในใจ มันย่อมดีกว่ารอให้เธอหลุดบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมาแล้วก็ต้องมาเสียใจภายหลัง
“ขอโทษ…ขอโทษที่…ที่ผมทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้”
จูฮยอนเอาแต่นั่งร้องไห้ ซูโฮยืนดูสถานการณ์แล้วจำต้องล้มเลิกแผนการทั้งหมด เขาโมโหและโกรธแทนจูฮยอนเป็นอย่างมาก ไหนแทยอนกับมิยองยืนยันเองว่ายงฮวารักจูฮยอนนักหนา แต่สุดท้ายกลับพาผู้หญิงอื่นมาเข้าโรงแรม
“….” แทยอนกับมิยองนั่งเฝ้าน้องสาวร้องไห้แล้วต่างก็พากันเศร้า พวกเธอสองคนรู้สึกแย่มากที่ช่วยอะไรจูฮยอนไม่ได้เลย
“ถ้าพี่เป็นเธอ พี่จะตบแม่นั่น แล้วก็ตบสามีชีกอของเธอให้หน้าหัน” มิยองโพล่งขึ้นมาอย่างเหลืออด เธอคับแค้นใจ โกรธตัวเองที่ทำอะไรยงฮวาไม่ได้ วันก่อนเขายังยืนยันกับพวกเธอว่ารักจูฮยอนมากมาย แต่วันนี้สิ่งที่ทำมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
จูฮยอนสะอื้นจนตัวโยน พี่สาวของเธอพูดถูก เธอควรจะตบเขาให้สาแก่ใจหรือทำอะไรก็ได้ให้คนอย่างจองยงฮวาเจ็บ แต่เธอทำไม่ได้เพราะไม่อยากให้ทั้งสองมือต้องแปดเปื้อน
สัมผัสจากจองยงฮวารวมไปถึงถ้อยคำบอกว่ารัก ไม่เว้นแม้แต่จุมพิตบนหน้าผากที่เธอเคยหลงใหลมัน ตอนนี้ทุกอย่างไม่ต่างอะไรกับเชื้อโรคที่น่าขยะแขยงสำหรับเธอ
ซูโฮทนดูไม่ไหวจนต้องรีบรุดออกมาตามหาคนเลวที่ทำให้จูฮยอนต้องเสียใจ ตั้งแต่เล็กจนโตผู้ชายคนเดียวที่ทำให้จูฮยอนต้องร้องไห้ มีแค่พ่อของเธอเท่านั้น
จูฮยอนรักและผูกพันกับพ่อของเธอมากแค่ไหน ซูโฮมั่นใจและคิดว่าตัวเองคือคนที่เข้าใจเธอดีมากที่สุด บ่อยครั้งที่เธอมักจะเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอเป็นคนใจดีและเก่งมากแค่ไหน จูฮยอนภูมิใจในตัวพ่อของเธอมาก แต่ขณะเดียวกันเธอก็เสียใจมากที่ท่านเลือกที่จะทิ้งเธอไป แล้วอย่างยงฮวาเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำให้จูฮยอนร้องไห้ฟูมฟายอย่างนี้
“ไอ้เลวเอ้ย!”
ซูโฮเดินปรี่เข้ามาในห้องเป้าหมาย ยงฮวาซึ่งกำลังแต่งตัวตกใจเล็กน้อยที่พบซูโฮที่นี่ แต่เขาก็ต้องปั้นหน้าทำเหมือนไม่รับรู้อะไร
“แกมันเลวจริงๆ กล้าดียังไงถึงกล้านอกใจจูฮยอนแบบนี้!?”
ในสายตาของยงฮวา ซูโฮยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ใจร้อนวู่วาม ใช้แต่อารมณ์ไม่เคยใช้สมอง
“ผมต้องตอบคำถามคนนอกอย่างคุณด้วยหรอ นี่มันเรื่องของผมกับจูฮยอน คุณเป็นคนนอก เดือดร้อนทำไมไม่ทราบ”
“แก!”
คนตรงหน้าถลาเข้าหา ตั้งใจจะรัวหมัดใส่มนุษย์หน้าตายหมายจะให้สาแก่ใจ หากแต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัวของยงฮวา จงฮยอนก็รีบวิ่งแล่นเข้ามาขวาง
“ผมเป็นทนายความ ถ้าคุณก่อเรื่องผมจะไม่เอาคุณไว้” จงฮยอนพูดขู่จบก็รีบโทรศัพท์เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยขึ้นมาควบคุมสถานการณ์
“นี่กล้าขู่ฉันหรอ บอกเจ้านายแกให้ไปหากระโปรงมานุ่ง จูฮยอนต้องร้องไห้เสียใจก็เพราะแก ระวังตัวเถอะ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่”
มิยองกับแทยอนซึ่งแอบตามซูโฮมายืนดูสถานการณ์อยู่หน้าประตูห้อง เมื่อก่อนพวกเธอสองคนเคยคิดว่าคนอย่างยงฮวาคงไม่กล้าออกนอกลู่นอกทาง คนอย่างเขาถ้ารักใครแล้วก็น่าจะรักจริง แต่สุดท้ายเขาก็ ‘ดีแตก’
“อยากเรียกใครอีกก็เรียกมาเลย เรียกนายกรัฐมนตรีมาเลยก็ได้ คนทำเลว ต้องป่าวประกาศ” มิยองตะโกนเสียงดังมาจากหน้าประตู เธอไม่อยากเหยียบย่างเข้าไปเสวนากับคนที่ทำให้น้องสาวของพวกเธอต้องเสียใจ
“จองยงฮวา…คุณทำให้พวกเราผิดหวังมาก คุณมีอะไรอยากอธิบายหรืออยากแก้ตัวบ้างหรือเปล่า?” แทยอนแอบคาดหวังว่ายงฮวาจะมีเหตุผลที่พอจะทำให้เธอหรือจูฮยอนรับได้ เขาควรที่จะพูดหรืออธิบาย อย่างน้อยก็แค่ยืนยันว่ายังรักจูฮยอนอยู่เหมือนเดิมก็ยังดี
เวลานี้ยงฮวาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับใครเลยแม้สักคน แต่พวกเขาทุกคนล้วนพุ่งตรงมาที่นี่เอง ทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะหลบหนี
“ทุกอย่าง…ก็เป็นอย่างที่พวกคุณเห็น ผมกับจูฮยอน เราสองคนคงจบแล้วล่ะ”
จบ…คำเดียวจริงๆ ที่ทำให้ซูโฮ แทยอนและมิยองถึงกับยืนอึ้ง นี่มันคือวันอะไรกันแน่ วันนี้กับวันก่อนคนที่บอกว่ารักจูฮยอนและขอให้พวกเธอไว้วางใจให้เขาดูแลน้องสาวของพวกเธอคือคนเดียวกันแน่หรือ
ไม่มีอะไรให้ต้องพูดหรือถามต่ออีกแล้ว ถึงแม้จะน่าโมโหมากแค่ไหน แต่แทยอนและมิยองคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จูฮยอนจะต้องลดตัวมางอนง้อหรือพูดคุยอะไรกับยงฮวาอีก
“กลับกันเถอะซูโฮ อย่าไปเสียเวลากับคนแบบนี้เลย”
หลังทุกคนยอมกลับออกไป จงฮยอนได้แต่นั่งถอนหายใจ คิดวิตกกังวลไปต่างๆนานาว่าถ้าเขามาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยงฮวาก็เหมือนกัน นี่หรือคือทางออกในแบบที่เขาต้องการ ลงทุนจ้างผู้หญิงมาอุปโลกน์ว่านอนด้วยกันเพื่อให้จูฮยอนเข้าใจผิดแล้วก็โกรธจนถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ ถ้าหูของยงฮวาไม่ได้มีความผิดปกติ จงฮยอนมั่นใจว่าเขาจะต้องได้ยินแน่ๆว่าตอนนี้จูฮยอนเป็นยังไง
“ทางออกของพี่ ก็คือทำให้คุณจูฮยอนเสียใจ แล้วตัวพี่ล่ะครับ พี่เจ็บหรือเปล่า?”
ไม่มีทางว่ายงฮวาจะไม่เจ็บ การกระทำของตัวเองบีบหัวใจมากแค่ไหน ยงฮวารู้ดี เขาก็แค่อยากให้จูฮยอนเกลียดมากๆ เพื่อที่ว่าพอเขาตายไป เธอจะได้ไม่เสียใจอะไรมากมายนัก
“จบแบบนี้แหละดีแล้ว ต้องจบก่อนที่จูฮยอนจะรักฉันไปมากกว่านี้”
ยิ่งยงฮวาพูดจงฮยอนก็ยิ่งสะอึก ยงฮวารู้ตลอดว่าความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคนคืออะไร เขาไม่อยากให้จูฮยอนเสียใจก็เลยเลือกที่จะให้เธอเกลียดเขาแทน
“ผมเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเมื่อก่อนคุณจูฮยอนถึงได้เกลียดพี่ เธอเกลียดที่พี่เลือกจะเป็นพระเอกโดยไม่ดูเวล่ำเวลา” ตอนนี้ยงฮวาอาจจะทำให้จูฮยอนเกลียดได้สำเร็จ แต่เขาไม่คิดบ้างหรือว่าหากจูฮยอนรู้เหตุผลของเขาในคราวหลัง เธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน
“ตลอดมา พี่เอาแต่เก็บซ่อนทุกอย่าง จนถึงตอนนี้พี่ก็เลือกจะทำอย่างนั้น ตอนนี้ผมรู้สึกอะไรรู้ไหม ผมอึดอัด อยากหนีไปไกลๆ ไม่อยากร่วมรับรู้อะไรเกี่ยวกับพี่อีกแล้ว”
“ต่อให้นายไม่อยากรู้ นายก็จะต้องรู้…พรุ่งนี้หลังการตรวจดีเอ็นเอเสร็จ ฉันต้องการที่จะทำพินัยกรรม”
“อะไรนะครับ? ผมหูฝาดใช่ไหมที่ได้ยินพี่บอกว่าจะทำพินัยกรรม?” จงฮยอนถามย้ำหน้าตื่น ลำพังแค่เจ็บป่วยจนมีความเสี่ยงต่อชีวิตแล้ว แต่ละเรื่องที่ยงฮวาทำล้วนมีแต่เรื่องน่ากลัวทั้งนั้น
จูฮยอนมาเก็บเสื้อผ้าเพื่อย้ายออกจากบ้านโดยมีแทยอนกับมิยองตามมาช่วย ได้เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว จุนฮีก็ยิ่งไม่สามารถห้ามน้ำตาได้
“พี่จูฮยอน…อย่าไปเลยนะคะ ถ้าพี่ไปแล้ว ฉันจะอยู่กับใคร?”
ทุกอย่างที่ตัดสินใจทำไม่ต่างอะไรกับเป็นความเห็นแก่ตัว จูฮยอนไม่มีทางเลือกอื่น เธอต้องเอ่ยปากขอยืมเงินก้อนใหญ่จากซูโฮเพื่อเอามาจ่ายให้ยงฮวาเป็นค่าซ่อมบ้าน
“ไปอยู่กับพี่ไหมล่ะ เธอจะยอมทิ้งคนที่นี่แล้วไปอยู่กับพี่ไหม?”
“….” คำตอบของน้องสาวมีแต่น้ำตา จูฮยอนรู้อยู่แล้วว่าจุนฮีจะต้องเลือกอยู่กับยงฮวา จะว่าไปแล้วน้องสาวแท้ๆของเธอสนิทสนมและเติบโตมากับยงฮวาเลยด้วยซ้ำไป
“พี่ไม่โกรธที่เธอจะอยู่ที่นี่ต่อ แต่ขอให้จำไว้ว่าไม่ว่าเธอจะมีปัญหา หรือมีเรื่องอะไร เธอไปหาพี่ได้เสมอ พี่ยินดีที่จะช่วยเธอทุกเรื่อง เธอคือน้องสาวของพี่ พี่รักเธอนะจ๊ะ”
สองพี่น้องผวากอดกันไว้แน่น จูฮยอนไม่มีใจจะทนอยู่ต่อ เธอไม่อยากเห็นหน้ายงฮวา ไม่อยากแม้แต่จะใช้อากาศหายใจร่วมกับคนแบบนั้น
“พี่จูฮยอน ทุกอย่างที่พี่ยงฮวาทำ เพราะว่า…พี่เค้ารักพี่นะคะ”
จูฮยอนกัดริมฝีปากกลั้นน้ำตา นี่หรือคือความรัก เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงยอมรับไม่ได้ ท่านยอมแม้กระทั่งละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวแล้วก็เลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยการยอมแต่งงานกับคนอื่น
“ถ้าเธอไปเยี่ยมน้าซองอึน ก็แวะไปหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”
จุนฮีนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านจนกระทั่งยงฮวากลับมาถึง เป็นเรื่องน่าใจหายสำหรับยงฮวาเมื่อได้รู้ว่าจูฮยอนมาเก็บของออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว
“นี่หรอคะคือทางออกที่พี่ต้องการ พี่จูฮยอนไปแล้วนะคะ แล้วพี่เค้าก็ดูโกรธมากด้วย”
ยงฮวานั่งลงเคียงข้างน้องสาวตัวเล็ก เขาจ้องมองดูทุกอย่างเบื้องหน้าน้ำตาคลอ
“ทำไมพี่ไม่บอกพี่จูฮยอนว่าพี่ป่วยหนักแค่ไหน ฉันรู้ว่าพี่จูฮยอนจะไม่มีทางทิ้งพี่ไปแบบนี้ ถ้าเธอรู้เหตุผลที่แท้จริง”
เขาจะบอกกับจูฮยอนยังไงว่าเขากำลังจะต้องตาย เขาจะบอกกับคนที่รักยังไงว่าเขาจะใช้ชีวิตอยู่กับเธอได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้ก็ไม่ต่างอะไรกับการลาไปเตรียมตัวตาย เขาคงทำใจไม่ได้และยิ่งเจ็บหนักไปกว่าเดิมถ้าทำให้จูฮยอนต้องผิดหวัง แค่คิดถึงวันที่เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้าง เขาก็ยิ่งเสียใจ
“ให้จูฮยอนโกรธเกลียดพี่เหมือนเดิมแหละดีแล้ว วันหน้าถ้าโชคดีอาจมีคนดีดีมาดูแลเธอแทนพี่ก็ได้ ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติ ถ้าจูฮยอนเป็นฝ่ายฟ้องหย่าก็จะเกิดประโยชน์มาก หรือต่อให้เธอไม่ฟ้องพี่จะทำพินัยกรรมไว้ พอพี่ตายทั้งเธอทั้งจูฮยอนจะได้ไม่ต้องลำบาก”
************************100%*************************
กินมาม่าอีกสักมื้อสองมื้อนะคะ ช่วยชาติประหยัดไง (เกี่ยวหรอออออ? อิอิ)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สงสารซอสุดชีวิตค่ะตอนนี้ ไหนบอกว่ารักไง.. ทำแบบนี้เพื่อ?????
สงสารน้องซอจัง ดราม่าสุด ๆ
มันเจ็บด้วยกันทั้งคู่นะ
จะเป็นคนดีไปไหนย้งเอ้ย
ไรเตอร์สู้ๆ
เฮ่อ...
ของหวานบูดซะแล้ว
ปล.ไรเตอร์สู้ๆคะ
ถ้าซอรู้ จะต้องช่วยสุดความสามารถแน่ๆ ใจคอจะทำงี้จิงหรอ
ขอให้ซอรู้ความจิงเรวๆ แล้วมาช่วยยง
อยากให้ใครก็ได้ที่รู้อาการเจ็บป่วยของยง ช่วยบอกความจริงให้น้องรู้หน่อยเถอะ
ว่ายงกำลังป่วยหนัก น้องจะได้เข้าใจไม่โกรธเกลียดยงแลมาดูแลยงแทน
ทำไมแกถึงได้ดูถูกความรักของน้องซอแบบนี้นะ
ปล.พอแล้วมั้งคะไรเตอร์เค้าอืดดดดดมากพอแล้ว T^T
ไรเตอร์สู้ๆ
แล้วไม่คิดว่าซอมารู้ทีหลังจะเจ็บกว่าเหรอนี่