ตอนที่ 13 : Hate you, I hate you Chapter 12 :: Joseon man [100%]

Hate you, I hate you Chapter 12
Joseon man
จุนฮีนั่งละเลียดชิมสตูลเนื้อฝีมือของพี่ชาย เพราะอร่อยแบบนี้นี่เอง พี่สาวของเธอถึงได้กินมันจนหมดเกลี้ยง แต่การแสดงออกของจูฮยอนไม่ถือว่าผิดปกติ คนที่เจอของอร่อยถูกใจก็มักจะเป็นอย่างนี้กันทุกคน แต่ที่แปลกก็คือยงฮวาต่างหาก เธออุตส่าห์กระซิบบอกแล้วว่าจูฮยอนกินสตูลของเขาจนหมดเกลี้ยงหวังว่าเขาจะดีใจ แต่ที่ไหนได้เธอกลับได้เห็นหน้าเครียดๆของเขาแทน
เมื่อเช้าก็มีสีหน้าไม่ค่อยดี พอมาตอนนี้ไม่แน่ใจว่ายงฮวาจะตื่นกลัวเรืออีกหรือเปล่า แต่พอถามว่าไม่สบายตรงไหน เขาก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร
“คุณจุนฮี คุณจงฮยอนมาน่ะค่ะ”
พอได้ยินว่าจงฮยอนมา จุนฮีก็ถึงกับยอมทิ้งสตูลเนื้อเมนูอร่อยแล้วรีบลุกออกมาหาเขาในทันที
เห็นใบหน้าสดใสของจุนฮีแล้ว จงฮยอนก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย ครบกำหนดหนึ่งเดือนที่ชเวซองอึนถูกกักบริเวณและได้รับการบำบัดรักษา เขามาที่นี่เพื่อตั้งใจมาบอกข่าวดีแก่เธอว่าตอนนี้ทางตำรวจอนุญาตให้เข้าเยี่ยมชเวซองอึนแล้ว
“จริงหรอคะ ฉันเยี่ยมแม่ได้แล้วจริงๆใช่ไหม” จุนฮียิ้มกว้างอย่างดีใจ เธอคิดถึงแม่ทุกวัน อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าท่านจะเป็นอย่างไร จะกินอิ่มนอนหลับหรือว่าคิดถึงเธอบ้างหรือเปล่า
“ข่าวดีมากจริงๆ ฉันอยากไปหาแม่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“พรุ่งนี้ครับ ใจเย็นๆไว้ก่อนดีกว่า วันพรุ่งนี้พี่จะพาเธอไปเอง”
จุนฮีดีใจไปก็แสดงอาการง่วงหงาวหาวนอนอย่างที่ไม่เคยเป็น อยู่ดีดีเธอก็รู้สึกง่วงนอนมาก มีอาการเหมือนกับแม่ของเธอตอนที่กินยานอนหลับเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
“เป็นอะไร…เธอสบายดีหรือเปล่า?”
“ฉัน…รู้สึกแปลกๆน่ะค่ะ… ” จุนฮีพูดไปก็ปิดปากกลั้นหาว เธอพยายามห้ามตัวเองไม่ยอมที่จะนอนหลับ แต่สุดท้ายเธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้
“จุนฮี!” อยู่ดีดีหญิงสาวก็ทรุดลงต่อหน้าต่อตา จงฮยอนตกใจมากโผเข้าประคองร่างบางเอาไว้ เขาไม่แน่ใจว่าจุนฮีหลับไปหรือว่าเป็นลมหมดสติไปกันแน่
….
….
คำตอบทุกอย่างถูกเฉลยเมื่อจงฮยอนพาจุนฮีมาถึงโรงพยาบาล หมอยืนยันว่าจุนฮีแค่หลับไปเพราะยานอนหลับ อีกทั้งจงฮยอนยังได้รับคำยืนยันจากแม่บ้านว่าก่อนหน้าจุนฮีกินสตูลเนื้อที่ยงฮวาเป็นคนปรุงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจูฮยอนกับยงฮวาก็กินสตูลหม้อนี้ด้วยเหมือนกัน จริงอยู่ว่าจุนฮีเป็นตัวตั้งตัวตีทำในตอนแรกเริ่ม แต่ยงฮวาเป็นคนรับอาสาปรุงในระหว่างที่จุนฮีไปซื้อกาแฟ ทุกอย่างดูมีพิรุธ จงฮยอนรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน
ยงฮวาสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดีดีโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา แต่ถึงเสียงของมันจะดังมากน้อยแค่ไหนก็ไม่ทำให้หญิงสาวที่ยังคงนอนหลับใหลลืมตาตื่นขึ้นมาได้อยู่ดี
“ตอนนี้พี่อยูที่ไหนครับ?”
น้ำเสียงของจงฮยอนแปลกไปกว่าในทุกครั้ง และจงฮยอนก็โล่งใจมากที่พบว่ายงฮวาไม่ได้หลับ แต่นั่นก็ยิ่งหมายความว่าเรื่องที่เขาคาดเดาเอาไว้อาจจะเป็นจริง
ยงฮวาหันมองดูร่างบาง คราวนี้เขาไม่ได้พาจูฮยอนเข้าโรงแรมม่านรูด และเขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเขาพาเธอมาที่ไหน และแน่นอนว่าวันนี้เขากับจูฮยอนจะไม่ไปงานแต่งงานของมินฮยอกกับคริสตัล
“ฉันมางานแต่งงาน อยู่บนเรือ”
“อย่าโกหกผมเลยครับ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้อยู่ในงานนั้น…ตอนนี้จุนฮีหลับสนิทเพราะกินสตูลเนื้อของพี่เข้าไป แล้วคุณจูฮยอนล่ะครับ คุณจูฮยอนเป็นเหมือนจุนฮีด้วยหรือเปล่า?”
…!!
เมื่อถูกจับได้ยงฮวาก็ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กได้ทั้งตัว เขาตกใจที่รู้ว่าจุนฮีกินสตูลหม้อนั้นเข้าไปด้วย
“ไม่ว่าพี่จะทำไปเพื่ออะไรก็ตาม ผมแน่ใจว่าพี่มีเหตุผล แต่ก็น่าจะบอกผมสักนิด จุนฮีเกือบจะต้องถูกล้างท้องแล้วนะครับ”
ยงฮวาเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่ได้ใช้ยานอนหลับเกินขนาด มันจัดว่าออกฤทธิ์ได้ช้ามากเลยด้วยซ้ำ
“พี่ใช้มันแค่นิดเดียว แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจใช้มันกับจุนฮี”
“ผมรู้ครับ เอาเป็นว่าผมจะดูแลจุนฮีให้เอง เสร็จธุระแล้วก็พากันกลับมาอย่างปลอดภัยนะครับ ผมรู้ว่าพี่ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีกับคุณจูฮยอนแน่ๆ”
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ยงฮวาอาจจะต้องทำบางอย่างที่ขัดกับความรู้สึกและความต้องการของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จะหยุดจูฮยอนแค่วันนี้ แต่เขาต้องการจะหยุดและควบคุมเธอให้ได้อย่างน้อยก็จนกว่าจะครบหนึ่งปี
“ฝากจุนฮีด้วยนะ เสร็จเรื่องแล้วฉันจะรีบกลับไป บอกทุกคนด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเป็นสามีของจูฮยอน ฉันไม่มีทางทำเรื่องไม่ดีกับเธออย่างแน่นอน”
ยงฮวาวางโทรศัพท์ลงด้วยความละอายใจ ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ได้นอกจากเอาแต่บอกว่า ‘ขอโทษ’ ตลอดเวลา
ที่นี่คือโรงแรมหรูเกรดดี และมันก็เป็นครั้งแรกที่ยงฮวาพาผู้หญิงเข้ามาที่นี่ เขาก็เหมือนกับวัตถุโบราณอย่างที่จูฮยอนเคยบอก เขาไม่เคยคิดทำเรื่องนี้กับใคร แม้แต่จะจับมือหญิงอื่นก็ไม่เคย แต่วันนี้วัตถุโบราณเก่าคร่ำครึแพ้แรงยั่วยุ เขากล้าทำแม้กระทั่งจูบเธอ แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังอยากจูบเธอ อยากอยู่กับเธอแบบนี้ให้นานๆ
ยงฮวาถอดสูทตัวหรูน้ำตาคลอ เขาไม่เคยคิดอยากทำเรื่องที่คนอื่นคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความสนุกสนานชั่วครั้งชั่วคราว เคยลั่นวาจาว่าไม่ชอบอะไร แต่สุดท้ายกลับรับได้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่จูฮยอนเป็น ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไม่ว่าเขาจะโกรธหรือเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเพราะเธอคนนี้คือซอจูฮยอนคนที่เขาเฝ้ามองหา เขาถึงต้องยอมให้เธอเสมอ
เตียงนอนนุ่มยวบลงเมื่อร่างสูงล้มตัวลงมา ทว่าจูฮยอนก็ยังคงนอนหลับสนิทไม่รู้สึกตัว ยงฮวากัดริมฝีปากพร้อมกับข่มลมหายใจรุ่มร้อน มือหนาแตะไล้แก้มนุ่มแผ่วเบาก่อนที่จะทาบริมฝีปากแนบลงบนนวลแก้มของหญิงสาว
เรื่องที่เสียใจที่สุดก็คือตอนที่เห็นจูฮยอนกำลังจะจมน้ำแล้วเขาก็ไม่อาจช่วยเธอได้เพราะว่าตอนนั้นเขาว่ายน้ำไม่เป็น มาตอนนี้เรื่องที่ทำให้เสียใจมากกว่านั้นก็คือเธอไม่ยอมหยุดตามที่เขาขอร้อง
“ผมรับได้ทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ยกเว้นเรื่องนี้ที่ผมจำเป็นจะต้องห้าม ผมไม่ได้ทำเพราะว่าเห็นแก่คำขอร้องของคริสตัล แต่ผมต้องทำ…เพื่อคุณ”
จบจากเสียงกระซิบนั้นผ้าห่มผืนหนาถูกดึงขึ้นมาห่มคลุมให้กับร่างบาง ยงฮวาหลับตาแน่นพร้อมกับกลั้นลมหายใจก่อนที่จะสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม มือไม้และหัวใจของเขาอ่อนยวบ รับรู้อยู่แก่ใจดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรแต่ก็ยังต้องฝืนใจทำ
ชุดกระโปรงลูกไม้สีน้ำเงินถูกปลดออกเป็นชิ้นแรกด้วยความทุลักทุเล ทำเอายงฮวาหัวใจเต้นแรงจนเกือบจะหลุดออกจากอก เขาปาดเหงื่อให้กับตัวเองเป็นสิบๆครั้ง รับรู้ได้ในทุกช่วงวินาทีว่าในทันทีที่จูฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาเขาจะต้องพบเจอกับอะไร
ถึงแม้จูฮยอนจะไม่ได้ไปร่วมงานตามที่นัดหมาย แต่มินฮยอกก็ยังต้องแข็งใจเข้าร่วมพิธีเพราะไม่อยากทำให้คริสตัลและครอบครัวของเธอต้องผิดหวัง
มินฮยอกทำทุกอย่างตามที่จองชินแนะนำ เขากินยาแก้เครียด กินยาแก้เมาเรือ กินมันทุกยาที่จะสามารถช่วยระงับยับยั้งโรคปอดแหกเอาไว้ได้ แต่ถึงกระนั้นพอถึงเวลาที่ต้องจูงมือพาคริสตัลก้าวลงบนเรือ เขากลับใจโหวงจนเกือบจะหายใจไม่ได้
“เข้มแข็งเอาไว้นะครับ ทำใจให้สบาย อดทนไว้นะครับ อีกเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”
คำแนะนำของจิตแพทย์หนุ่มช่วยให้มินฮยอกสามารถกลับมาหายใจได้ดังเดิม แต่ใบหน้าของเขากลับยังคงดูซีดมากจนทำให้ทุกคนสังเกตได้
งานแต่งงานของคู่ดาราดาวรุ่งที่เจ้าตัวเองออกมายอมรับอย่างหน้าชื่นอกตรมและประกาศตัวต่อหน้าสื่อว่าฝ่ายหญิงนั้นท้องก่อนแต่ง ออกข่าวไปทุกช่องทุกสถานี
แทยอน แบคฮยอน มิยองและนิชคุณต่างก็ให้ความสนใจกับงานแต่งงานสุดฉาวครั้งนี้ แต่ถึงแม้เหมือนตอนแรกจะมีแต่กระแสแอนตี้ แต่ไปๆมาๆ พอทั้งสองคนออกมายอมรับ ก็เริ่มมีกลุ่มคนส่วนหนึ่งออกมาให้การสนับสนุน มินฮยอกกับคริสตัลอายุเกินยี่สิบแล้ว พวกเขาไม่ใช่เด็ก ในเมื่อกล้าที่จะรัก พวกเขาก็กล้าที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราทุกคน ณ ที่นี้ก็คิดแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
“จูฮยอนเคยบอกว่ามินฮยอกกลัวเรือ… ” สิ้นคำพูดของแทยอน ทั้งสามคนต่างก็พากันจ้องมองเจ้าบ่าวที่ยืนทำหน้าตากระอักกระอ่วนอยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อ
“นั่นจองชินก็ไปด้วยนี่นา โห…แต่เอ…ทำไมไม่เห็นจูฮยอนเลย” มิยองพยายามที่จะมองหา หากแต่ส่องหาน้องสาวจนจอทีวีเกือบจะแตกแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของจูฮยอนเลย
“เลิกส่อง แล้วไปทำความสะอาดสักทีเถอะ ห้องนี้ก็ไม่เลวเลยนะ แต่มันรกแล้วฝุ่นมันก็…หนาจน… ”
“อ่า ไปก็ได้ เดี๋ยวมานะ” มิยองยอมลุกตัดความรำคาญ อุตส่าห์ชวนมากินข้าว แต่นิชคุณลำพังถ้าบ้านไม่สะอาดเขาก็กินข้าวไม่ลง หลายครั้งที่เคยถามตัวเองว่ารักคนแบบนี้ที่ตรงไหน แรกเริ่มอาจจะแค่หน้าตา แต่สุดท้ายแม้แต่เธอเองก็มีข้อเสียเต็มไปหมดแล้วนิชคุณก็รับได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้มิยองคิดว่าเราสองคนเข้ากันได้ดี และนิชคุณก็รักเธอมากด้วย
“มา ผมใส่ถุงมือให้นะ”
มิยองยื่นทั้งสองมือให้ เธอชอบให้เขาบ่นแล้วก็ดูแลเอาอกเอาใจเธอแบบนี้ อีกไม่กี่วันจูฮยอนก็จะได้แต่งงาน เธอเองก็ฝันว่าสักวันจะได้แต่งงานด้วยเหมือนกัน
“ผมว่ารวบผมด้วยดีกว่า หันหลังมา ผมทำให้เอง”
มิยองหันหลังให้แฟนหนุ่ม นิชคุณอ่อนโยนและเอาใจใส่ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เขาเป็นคนหนุ่มในอุดมคติของสาวๆในที่ทำงานทั้งหมดเลยก็ว่าได้
แทยอนกับแบคฮยอนนั่งมองตากันแล้วยิ้ม พวกเขารู้ดีว่านิชคุณหนุ่มวิศวกรหนุ่มจากประเทศไทยเป็นคนรักความสะอาดมากขนาดไหน ถ้ามองด้วยสายตาแล้วอาจเป็นเรื่องยากกับการจะค้นหาความรักที่เขามีต่อมิยอง แต่ทั้งแทยอนและแบคฮยอนรู้และเข้าใจดีว่านิชคุณรักและเป็นห่วงมิยองมากแค่ไหน
“เราสองคน…ไปเดินเล่นข้างนอกกันดีไหมครับ”
….
นานๆครั้งเราสองคนถึงจะมีเวลามาเดินเล่นด้วยกันแบบนี้ ที่ผ่านมาถึงแทยอนจะว่างงาน แต่แบคฮยอนก็ยังต้องเรียนหนังสือ ดังนั้นเวลาของเราจึงไม่ตรงกัน นี่เธอก็ยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าปีหน้าจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
“ถ้าเรียนจบแล้ว เธอจะทำอะไรต่อ?”
“ผมหรอครับ ผมอยากทำงาน แต่แม่บอกว่าผมควรที่จะไปเรียนต่อ”
“เรียนต่อ…เรียนที่ไหนหรอ?” แทยอนถามกลับหน้าซีด
“ต่างประเทศครับ แต่ผมไม่อยากไปหรอกนะ ถ้าผมไปแล้วพี่จะอยู่ยังไง”
แทยอนไม่อยากหลอกตัวเองว่าเธอใจหายมากแค่ไหน แต่ถึงจะไม่อยากอยู่ไกลกัน แต่แทยอนรู้ว่าเธอไม่ควรห้ามไม่ให้แบคฮยอนไปเรียนต่อ เพราะว่านั่นคืออนาคตของเขา
“อย่าห่วงพี่เลยนะ พี่อยู่ได้ ลองนายไม่ไป แม่นายคงได้โกรธแน่ๆ”
“ผมก็ไม่อยากให้แม่โกรธ แต่ผมกลัวว่าพี่จะเหงาแล้วก็มีแฟนใหม่”
“พี่ไม่มีหรอก ถ้านายไม่มี พี่จะมีใครได้” แทยอนยิ้มกว้าง เสแสร้งแกล้งทำเป็นร่าเริง สนับสนุนให้แบคฮยอนไป ใจของเธอโหวงเหวงไปหมด ไม่เคยเตรียมใจมาก่อนว่าวันหนึ่งเราจะต้องอยู่ห่างไกลกัน ถึงแม้จะไม่ได้ห่างกันวันนี้ แต่หลังจากนี้หมายความว่าเธอจะต้องทำใจเตรียมพร้อมรับในเวลาที่จะไม่มีแบคฮยอนมาเดินอยู่ข้างๆแบบนี้อีก
“เอาจริงๆนะครับ ผมไม่อยากไปเลย” แบคฮยอนคว้ามือของหญิงสาวมาเกาะกุมไว้ เขาไม่อยากทิ้งแทยอนไว้คนเดียว ถ้าเลือกได้เขาอยากอยู่ดูแลเธอที่นี่มากกว่า
“ถ้ามีโอกาสก็ควรที่จะรีบคว้าเอาไว้ นายยังเดินได้อีกไกล ส่วนพี่…จะรอเธออยู่ที่นี่นะ” คำพูดเหล่านี้ทำให้แทยอนรู้สึกเจ็บแปลบในอก อนาคตของเธอไม่สำคัญ แต่แบคฮยอนยังมีแม่ มีครอบครัว ขณะที่เธอถึงไม่มีใครก็ไม่เป็นไร
ในทันทีที่จบพิธี มินฮยอกถึงกับเข่าอ่อนจนถึงกับเดินไม่ได้ ก่อนหน้าเขาพยายามบอกเธอหลายครั้งให้เปลี่ยนสถานที่จัดงาน แต่เธอไม่รับฟังหาว่าเขาคิดตุกติกเพราะไม่อยากแต่งงาน
ที่ซอจูฮยอนเข้าออกบ้านของเขาก็เพราะเธอเป็นทั้งเพื่อน เป็นที่ปรึกษาแล้วก็ช่วยแนะนำจิตแพทย์มาช่วยรักษาอาการกลัวเรือให้ พวกเขาสองคนไม่ได้มีอะไรกันเหมือนที่เธอเข้าใจ ทุกครั้งที่ซอจูฮยอนไปบ้านนั้นเธอมีสถานะเป็นแค่ผู้ช่วยของลีจองชินเท่านั้น
“ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามลีจองชิน หรือจะถามแม่บ้านก็ได้ ตอนที่จูฮยอนมา แม่บ้านก็อยู่ด้วยตลอด”
สีหน้าของมินฮยอกตอนนี้ไม่สู้ดีเอามากๆ แต่เขาก็ยังพยายามจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้คริสตัลเข้าใจ เราสองคนพลาดที่ไม่ได้พูดคุยกันเท่าที่ควรจะเป็น มินฮยอกเองยอมรับว่าเขาเองก็ผิดที่ใช้ความพยายามน้อยเกินไป
“ในสายตาของเธอ เห็นพี่เป็นคนแบบไหน ถ้ามองว่าพี่แย่ก็ไม่เป็นไร แต่ถึงขั้นมองเพื่อนของพี่แบบนั้น มันไม่ถูกต้องเลย”
“พักก่อนเถอะค่ะ อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลย”
“พี่ต้องพูด วันนี้พี่จะพูดให้หมด… ” เพียงแค่ลุกขึ้นมานั่ง มินฮยอกก็ถึงกับตาลาย เขาอยากจะอาเจียนเต็มทน ตอนนี้รู้สึกผะอืดผะอมจนทนนอนไม่ได้ แต่ครั้นจะลุกขึ้นมานั่งก็แทบจะไม่มีแรง
“พี่คะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันจะตามคุณจองชินมาดูพี่นะคะ อดทนไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะคะ!”
ความวุ่นวายในวันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าบ่าวกลัวเรือจนงานเกือบจะล่ม แต่ทว่าในคืนเข้าหอก็ยังปั่นป่วนวุ่นวาย คริสตัลต้องวิ่งปรี่ออกจากห้องหอมาตามหมอไปรักษาสามีของเธอทั้งน้ำตา
ร่างบางเริ่มจะพลิกตัวไปมาบนเตียงนอน ปลุกให้ยงฮวาต้องลืมตาตื่น ในยามเช้าตรู่แสงอาทิตย์ที่น่าลุ่มหลงให้ความรู้สึกอบอุ่นจนไม่อยากลุกออกจากเตียงนอนนุ่มๆ ดูเหมือนว่าในคืนที่ผ่านมาจะเป็นคืนที่ทำให้จูฮยอนรู้สึกได้ว่าเธอนอนหลับเต็มตื่นและนอนหลับสนิทมากกว่าทุกคืนที่ผ่านมา
จูฮยอนเริ่มต้นยืดแขนขาทั้งที่ยังคงไม่ลืมตาตื่น หากไม่ติดว่าต้องไปเข้าเวร เธอจะไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียงเป็นแน่แท้ ดวงตากลมโตปรือตารับแสงสว่างก่อนที่จะกะพริบถี่ๆ พร้อมกับหันมองไปรอบห้อง ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด และเธอก็เห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ปลายเตียง
ยงฮวาติดกระดุมเสื้อทีละเม็ดทั้งที่อกสั่นขวัญหายไปหมดแล้ว เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรจูฮยอนเลยทั้งนั้น ที่ทำไปอย่างมากสุดก็คือถอดเสื้อผ้าให้เธอก็เท่านั้น
ใบหน้าของคนที่ยืนอยู่ปลายเตียงฉายเด่นอยู่ในกระจกเงา จูฮยอนตกใจที่รู้ว่าตัวเองอยู่กับเขา ทว่าถึงจะอยู่กับยงฮวาก็ไม่ได้ตกใจเท่ากับสภาพเปลือยเปล่าของตัวเอง
จูฮยอนร้องไม่ออก เธอทั้งทุบทั้งตีตัวเองพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้นอนมากจนเบลอหรือยังคงฝัน เสื้อผ้าทั้งหมดของเธออยู่ที่พื้น ขณะที่ยงฮวากำลังยืนสวมเสื้อผ้าอยู่ที่ปลายเตียง
“กรี๊ด!!”
ยงฮวาตกใจในเสียงนั้น หากแต่เขาก็ยังต้องปั้นหน้าเป็นวัตถุโบราณตามฉายาที่จูฮยอนตั้งให้ พยายามที่จะนิ่งเฉย หนักแน่นและไร้ซึ่งความรู้สึก
“นาย! นายทำอะไรฉัน!?” จูฮยอนก้มมองตัวเองแล้วก็มองอีก สภาพที่ได้เห็นทำให้เธอคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อวานเธอควรจะไปร่วมงานแต่งงานของมินฮยอกกับคริสตัล ถ้าทุกอย่างไม่ผิดพลาดเธอจะต้องกลับบ้าน ไม่ใช่มานอนอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้ และที่สำคัญก็คือคนที่คิดไว้ใจว่าไม่มีทางทำอะไรเกินเลยกลับกลายมาเป็นคนพรากเอาความบริสุทธิ์ไปทั้งที่เธอไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ
เห็นจูฮยอนเริ่มร้องไห้ ยงฮวาก็รีบเร่งมือแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะคิดว่าจะสามารถควบคุมจูฮยอนไว้ได้ เขาไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินเธอเลยจริงๆ
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณจะไปทำงานสายนะ”
สิ้นคำพูดนั้นหมอนใบใหญ่ก็ลอยมาฟาดเข้ากับใบหน้าอย่างจัง แม้แต่โคมไฟที่หัวเตียง จูฮยอนก็ขว้างปามันมาที่เขา แต่ยังโชคดีที่ยงฮวาหลบทัน แต่โคมไฟแตกกระจายไม่มีเหลือ
“ทำอะไรของคุณ จะบ้าหรือไง!” มือหนาฉุดรั้งสองแขนของหญิงสาวเอาไว้แน่น จูฮยอนจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความเจ็บใจและเจ็บปวด จองยงฮวาเห็นเธอเป็นอะไร ถึงได้มาฉวยโอกาสทำแบบนี้กับเธอได้
“บอกฉันสิ ว่านายไม่ได้ทำอะไร นายก็แค่…แค่จะแกล้งฉันใช่ไหม”
ยงฮวาก้มหน้าข่มลมหายใจ ถึงอยากตอบว่าใช่ แต่เขาก็ไม่อาจพูดได้
“กับคนอื่นคุณยังนอนกับพวกเขาได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับผมที่เป็นสามี ผมมีสิทธิ์ไม่ใช่หรอ?”
ฝ่ามือของจูฮยอนฟาดเข้ามาที่แก้มของเขาอย่างหนักหน่วงและรุนแรงมากที่สุดที่เคยโดน ยงฮวาเจ็บแสบจนตัวสั่นระริกแต่ก็ยังคงปั้นหน้าทำเรียบเฉยราวกับคนไร้ซึ่งความรู้สึก
“เลว! นายมันเลวจริงๆ”
ก็คงจะเป็นอย่างนั้น สำหรับเธอแล้วเขาเป็นได้ทุกอย่าง วัตถุโบราณบ้าง มนุษย์ยุคหินบ้าง เป็นคนดี เป็นพระเอกและเป็นคนเลว แล้วแต่เธอจะเรียก เพราะว่าเขาเป็นให้เธอได้ทุกอย่าง
“ต่อไปนี้…ถ้าคุณยุ่งกับผู้ชายอื่น โดยเฉพาะคังมินฮยอก ผมจะส่งรูปของเราบนเตียงนี้ให้เขาได้ดู ผมอยากรู้ว่าจะมีผู้ชายกี่คนรับคุณได้เหมือนผม”
จูฮยอนกำมือแน่น ยอมรับว่าคาดไม่ถึงว่ายงฮวาจะกล้าทำอย่างนี้กับเธอได้ พรากเอาความบริสุทธิ์ของเธอไปไม่พอ ยังถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์กันอีก นี่หรือคือคนที่แม่ของเธอไว้วางใจและรักนักหนา
“ทำกันขนาดนี้ เพียงเพราะจะข่มขู่ไม่ให้ฉันยุ่งกับคนอื่น…หรอ?” เสียงของจูฮยอนแผ่วเบาปานจะหมดเรี่ยวแรง ยงฮวาไม่อาจทนฟังและทนเห็นน้ำตาของเธอได้นานนัก เขาจึงช่วยเก็บเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาวางให้บนเตียง
“รีบอาบน้ำแต่งตัวซะ ผมจะไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”
ทุกอย่างจบลงในห้องนั้น ยงฮวามาส่งจูฮยอนที่โรงพยาบาล วันนี้คุณหมอคนสวยไม่ได้แต่งหน้าแต่กลับสวมชุดสวยมาทำงาน ไม่มีใครรู้ว่าจูฮยอนตั้งใจสวมชุดนี้เพื่อไปงานแต่งงาน ไม่ใช่แต่งมันเพื่อมาทำงานในวันนี้
ยงฮวามองตามร่างบางด้วยความห่วงใย แต่อย่างน้อยเขาก็ยังสบายใจได้บ้างที่ไม่เห็นจูฮยอนร้องไห้ออกมาอีก
ถึงแม้เธอจะเข้าใจผิด แต่เขาคิดว่าเรื่องนี้คงไม่บั่นทอนหรือทำให้จูฮยอนเสียใจอะไรมากมาย ตลอดเวลาที่เธอคบหาเพื่อนชายหลากหลาย เขาก็ทรมานเหมือนกันที่ต้องทนเห็นเธอขึ้นห้องไปพร้อมกับคนอื่น
“แค่ปีเดียวที่คุณต้องอดทน หลังจากนั้น…ผมคงทำอะไรคุณไม่ได้อีกแล้ว”
“ตายแล้ว…คุณหมอตื่นสายใช่ไหมคะ หน้าสดมาเลย”
จูฮยอนเดินผ่านพยาบาลไปอย่างไม่ยินดียินร้าย ทำเองคนทักถึงกับต้องยืนอึ้งเพราะคุณหมอจูฮยอนไม่เคยเป็นเหมือนวันนี้เลย
ทันทีที่จูฮยอนมาถึง จองชินก็รีบมาหาเธอด้วยข้องใจว่าทำไมเมื่อวานนัดกันแล้วถึงไม่ได้มา พอเขาโทรไปหา โทรศัพท์ของเธอกลับปิดเครื่อง พอโทรเข้าบ้านก็ไม่มีใครตอบได้ว่าจูฮยอนไปไหน พอวางสายไปสักพัก ทนายความประจำบ้านของเธอก็โทรกลับมา บอกว่าจูฮยอนติดธุระด่วนจึงทำให้เธอไปร่วมงานแต่งงานไม่ได้
จากตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้ามาร้องไห้ แต่เมื่อเห็นจองชิน เธอก็จำเป็นจะต้องเก็บกลั้นความรู้สึกเอาไว้
“เมื่อวานไปไหนมา คุณจงฮยอนบอกว่าเธอติดธุระด่วน”
งานนี้ไม่ใช่มีแค่จองยงฮวา แต่เหมือนจะทำกันเป็นขบวนการ จูฮยอนเจ็บปวดมาก แต่เธอกลับปริปากบอกใครไม่ได้
“พอดีเจอเพื่อนเก่าน่ะ ไม่ได้พบกันนานมาก, จองชินวันนี้ฉันขอลาครึ่งวันนะ ตอนเย็นฉันจะกลับมาเข้าเวรใช้ อยู่ให้ถึงเช้าเลยก็ได้ ตอนนี้ฉันปวดหัวมาก รู้สึกไม่ค่อยดีเลย”
จูฮยอนพูดจบก็เดินพรวดพราดออกไป จองชินกำลังจะอ้าปากบอกว่าจุนฮีก็อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ด้วย แต่จูฮยอนกลับรีบร้อนออกไปก่อน เมื่อวานก็ไม่ได้ไปร่วมงานตามที่นัดกันเอาไว้ มาวันนี้กลับบอกว่าปวดหัวแล้วก็ขอลางานกะทันหัน เธอก็เป็นแบบนี้ตลอด ชอบทำให้ต้องเป็นห่วงอยู่เรื่อย
หินก้อนแล้วก้อนเล่าถูกเขวี้ยงลงมาในแม่น้ำ ไม่ว่ามองไปทางไหนดวงตาของจูฮยอนก็จะเห็นแต่จองยงฮวา ไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งที่เฝ้าหวงแหนมานานจะถูกทำลายลงเพราะคนคนนี้
“นายจองยงฮวา! จองยงฮวา! ยงฮวา! นายมนุษย์ยุคหิน! ไอ้วัตถุโบราณจอมฉวยโอกาส! ฉันเกลียดนาย!!” จูฮยอนปาก้อนหินรัวลงมาในแม่น้ำจนแขนเกือบจะหลุด ร่างบางทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ราวกับคนเสียสติที่ริมแม่น้ำ
เหมือนแค่หลับตาแล้วก็ตกอยู่ในฝันร้าย จูฮยอนพยายามปลอบตัวเองว่าการเสียครั้งแรกมันไม่ทำให้เธอถึงตาย หากแต่เธอทำใจไม่ได้ที่ถูกฉวยโอกาส แถมคนคนนั้นยังเป็นคนที่เธอเกลียดด้วย
“ฮือ…ฉันอุตส่าห์ถนอมตัวเองเป็นอย่างดี ขนาดพี่มิยองบอกว่าให้รีบๆทิ้งเวอร์จิ้นเพราะกลัวแมงมุมมาทำรัง ฉันยังไม่คิดกลัวแมงมุมเลย แล้วนาย…นายกล้าดียังไงถึงมาทำกับฉันแบบนี้… ”
ขณะที่ยงฮวาเองก็ไม่สบายใจ เพราะรู้ดีว่าวิธีที่ตัวเองใช้มันไม่ใช่วิธีที่สุภาพบุรุษเขาทำกัน หากแต่ถ้าไม่เพราะว่าจูฮยอนเอาแต่ดื้อดึง เขาก็คงจะไม่เล่นแรงถึงขนาดนี้
รอยฝ่ามือของเธอยังติดแน่นอยู่บนแก้ม เขาต้องเอาน้ำอุ่นประคบรอยแดงมันถึงได้จางลง คราวนี้เป็นตบที่เจ็บที่สุดในชีวิต แต่เขาก็สมควรโดนแบบนี้แล้วล่ะ โชคดีเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ฆ่าเขาให้ตาย แต่ยิ่งไม่ทำอะไรเลย แล้วไม่ยอมแม้แต่จะหันมามองหน้ากัน ยงฮวาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจจนแทบจะไม่เป็นอันทำการทำงาน
“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง จะร้องไห้หรือว่าเดินแจกยิ้มให้คนอื่นไปทั่ว ขอล่ะ ได้โปรดหยุดสักทีเถอะ ถ้าขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมหยุด ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคุณแล้ว”
….
หลายชั่วโมงที่จูฮยอนเอาแต่นั่งร้องไห้ ทุกคนที่เดินผ่านมาและผ่านไปล้วนพากันหันมาจ้องมอง แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจว่าตัวเองจะต้องอายหรือต้องสร้างภาพยิ้มสวยให้ คนกำลังทุกข์ใจอยู่ ตอนนี้แม้แต่หมายังจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นี่หมาน้อย ไม่เคยเห็นคนเศร้าหรือไง ไปไกลๆก่อนเลยนะ ยังไม่ว่างเล่นด้วยหรอก ไปหาคนเล่นด้วยข้างหน้าโน่นเลย”
“อะไรของเธอ หมามองก็ผิดหรอเนี่ย”
ลีจองชินส่งน้ำอัดลมให้ จูฮยอนนั่งร้องไห้มาหลายชั่วโมงแล้ว เขากลัวว่าเธอจะเสียน้ำตาตายที่ตรงนี้
“ดื่มซะ จะได้สดชื่น”
“รู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่?”
“ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ จะไม่รู้ได้ยังไง”
จูฮยอนเช็ดน้ำตาก่อนที่จะรับน้ำอัดลมหอมหวานมาเปิดดื่มเติมพลัง วันเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองนั่งร้องไห้ตรงนี้มาครึ่งวันแล้ว
จองชินทิ้งตัวนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว แม่น้ำแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญ ทุกครั้งที่จูฮยอนไม่สบายใจ เธอมักจะมาที่นี่เสมอ เขายังรู้ลึกว่าถ้าหากคนที่จูฮยอนโกรธเป็นยงฮวา เธอจะเขวี้ยงก้อนหินลงน้ำอย่างบ้าคลั่ง
“พี่ยงฮวาทำอะไรให้เธอโกรธล่ะ”
จูฮยอนหลบสายตา ข้อเสียของจองชินก็คือเขาเป็นคนช่างสังเกตและช่างจดจำมากเกินไป
“ฉันพูดไม่ได้ แต่ว่า…ครั้งนี้เขาทำให้ฉันโกรธมากเลยจริงๆ” จูฮยอนสะอื้นออกมาอีกทั้งที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว จองชินทำอะไรไม่ได้มากนอกจากหยิบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ถึงอยากรู้ว่ามันคือเรื่องอะไร แต่ถ้าจูฮยอนไม่อยากบอก เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้ถาม
“ถ้ายังโกรธอยู่ ก็ขว้างก้อนหินอีกสิ”
“ขว้างไม่ไหวแล้ว ปวดแขน… ”
จูฮยอนร้องไห้แทบตาย หากแต่จองชินกลับต้องกลั้นหัวเราะ เพียงเพราะเธอบอกว่าปวดแขน
“เอาอย่างนี้ งั้นฉันช่วยขว้างให้เอง คราวนี้ฉันเอาเขาตายแน่ จองยงฮวา…นายวัตถุโบราณแห่งยุคโชซอน”
ยงฮวานั่งมองดูจูฮยอนกับจองชินอยู่ในรถ แรกเริ่มที่มาถึงเขารู้สึกแย่มากที่ทำให้จูฮยอนต้องร้องไห้เสียใจ หากแต่พอเห็นว่าเธอมีคนปลอบใจแล้ว เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไป ถ้าจูฮยอนได้เห็นหน้าเขาตอนนี้ เธออาจจะยิ่งโกรธมากไปกว่าเดิมอีกก็ได้
“เกลียดกันมากขนาดนั้นเลยหรอ แต่ผมน่ะ ไม่เคยเกลียดคุณเลยนะ ที่เคยพูดไป ผมโกหกทั้งนั้น”
*************************100%**************************
จองชินเป็นคนดี๊ดี ว่าแต่ใครจะคู่ควรกับคุณหมอจองชินล่ะเนี่ย??
อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รีบไปสารภาพกับซอเลยว่ามันไม่ใช่ น้องเข้าใจผิดหมดแล้ว
เกือบทำให้จุนฮีแย่อีกต่างหาก ยงอ่ะ จะงอนนน
รู้อยุ่แล้วว่าถ้าทำผลลัพท์จะเปนยัง แต่ก้เลือกที่จะทำ เพราะไม่อยากให้ซอไปยุ่งกับคนอื่น
รักเขาก้บอกไปซิ ปากจะหนักไปไหน
ถ้าอิพี่รู้คว่ามจริงขึ้นมา อย่ามาคร่ำครวน เบื่อพระเอก
คิดได้ไงเนียยยยยยยย !!
นั่นก็พี่ นี่ก็เพือน จะอยู่ข้างใครดี
ทำมัยตอนนี้เค้าสงสารยงจัง
คงเสียใจที่ทำให้น้องน้องซอร้องให้
ยอมให้เขาเกลียดเพื่อปกป้องเขาไว้
รักขนาดไหนก็คงไม่กล้า เห็นไหมนอนกอดยังไม่กล้าเลย
เพราะยงเป็นวัตถุโบราณ 555
ตัลรู้ความจริงสักทีนะว่ามินกะซอไม่ได้มีอะไรกัน
ปล.ไรเตอร์สู้ๆคะ