คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ลอมฟางอาถรรพ์ -โดย รุ้งดาว
ลอมฟางอาถรรพ์
แสงแดดยามเช้าสาดส่อง ทุ่งนาอันเหลืองอร่ามราวกับทองคำ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วกังวานไกล ปลุกผู้คนให้ลุกขึ้น หุงหาข้าวปลาอาหาร เตรียมตัวไปท้องไร่ท้องนากันแต่เช้า เป็นวิถีชีวิตของคนในชนบท ที่ทำอาชีพเกษตรกรรม
มีเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งครอบครัวของเขาทำอาชีพ ทำนา เลี้ยงสัตว์ เขาอยู่กับพ่อแม่และยายที่แก่ เขามีชื่อว่าเด็กชายรักชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ไอ้ชาติ” ชาติเป็นคนนิสัยดี ช่วยครอบครัวทำงาน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าจะหนักหรือเบา ชาติช่วยได้ทุกอย่าง ชาวบ้านในบริเวณนั้นจึงรักชาติเหมือนลูกหลาน มีอะไรก็จะเอามาให้เป็นประจำ ชาติเป็นคนพูดเก่ง ขี้เล่น ขี้สงสัย เมื่อมีปัญหาอะไรชาติจะมาปรึกษาพ่อ แม่ และยายอยู่เป็นประจำ ทุก ๆ วัน พ่อแม่ของชาติ จะออกไปทำนาแต่เช้า และชาติมีหน้าที่เอากับข้าวไปส่งพ่อกับแม่ เอาวัวออกไปเลี้ยงในทุ่งทุก ๆ วัน ตอนเช้ายายของชาติจะเป็นคนทำกับข้าวให้ทุกคนกิน เพราะยายของชาติทำกับข้าวอร่อย พอพอชาติตื่นเช้าจะต้องเข้าครัวไปหายาย “ยายจ๋า ทำกับข้าวอะไรบ้างครับ หอมจังเลย” เสียงชาติถามมาแต่ไกล “ยายกำลังแกงส้มดอกแคของชอบของชาติอยู่ แกงบวน * ต้มพะโล้ น้ำพริกปลาทู ผักต้มกับลอดช่องน้ำกะทิ ชาติไปเอาชามกับปิ่นโตมาให้ยายหน่อย ” ยายบอก
“ได้ครับ รอเดียวนะครับ ”
ชาติก็ไปเอาชามกับปิ่นโตมาให้ใส่แกง ยายตักอาหารใส่ปิ่นโต เอาข้าวใส่หม้อ และเตรียมจาน ชาม ช้อนใส่ตระกร้า
“ชาติ เดี๋ยวเอากับข้าว และของที่ยายเตรียมไว้ไปให้พ่อกับแม่ของเจ้าที่นาทีนะ เพราะวันนี้ที่นามีการลงแขก ** เกี่ยวข้าวกันอยู่ แล้วกลับมากินข้าวกัน วันนี้ยายทำแต่ของชอบที่ชาติชอบทั้งนั้นเลย” ยายส่งปิ่นโตขนาดใหญ่ให้หลานชาย ก่อนที่จะวิ่งไปที่นาด้วยความรีบเร่ง
แคร่ *** ไม้ไผ่ข้างบ้านที่ไว้ใช้สังสรรค์ของคนในครอบครัว โดยเฉพาะยามเช้า แคร่ไม้ไผ่จะเป็นที่ยายกับชาติชอบมาทานอาหารเช้าด้วยกัน อาหารมากมายหลายชนิดถูกวางรออยู่จนเต็มแคร่
“ชาติมากินข้าวได้แล้วกับข้าวกับปลาเย็นหมดแล้วลูก” ยายส่งเสียงเรียก หลานชายกำลังวิ่งไปที่ห้องครัว เพื่อยกอาหารที่ยายทำมายังแคร่
“ครับยาย ผมนึกว่ายังไม่ได้ยกมาไว้ ผมจะไปยกมาให้ เรามากินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวแล้ว” หลังจากทั้งสองคนอิ่มข้าวแล้ว ชาติเก็บชามไปล้าง แล้วรีบเอาวัวออกไปเลี้ยงในทุ่ง กับต้องไปช่วยพ่อกับแม่เกี่ยวข้าวที่นา
เมื่อชาติไปที่นาก็เห็นคนมากมายกำลังลงแขกเกี่ยวข้าวกัน บ้างก็หยุดพักเหนื่อย บ้างก็ร้องเพลงหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน ชาติเห็นอย่างนั้นก็เลยเข้าไปร่วมร้องเพลงกับพวกผู้ใหญ่อย่างมีความสุข
พอตกเย็นพระอาทิตย์ลับหายไปจากขอบฟ้า ฝูงนกบินกลับรัง ชาวบ้านที่มาช่วยกันเกี่ยวข้าวก็เกี่ยวกันจนเสร็จ ต่างคนก็ต่างเดินกลับบ้าน ชาติก็ต้องไปเอาวัวเข้าคอก แล้วสุมไฟให้วัว พ่อกับแม่ของชาติกลับมาบ้านเห็นอาหารมากมายอยู่บนแคร่ที่ยายของชาติเตรียมไว้ให้
“ไปอาบน้ำอาบท่าเสีย เดี๋ยวจะได้มาทานข้าวกัน” ยายบอก
บรรยากาศการนั่งทานข้าวของครอบครัวก็มีการปรึกษากันว่า “จะจ้างรถสีข้าวมาสีข้าวที่บ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องไปซื้อข้าวสารกิน และฟางที่เหลือจะได้มาลอมฟาง **** ให้วัวกินในยามที่แห้งแล้งไม่มีหญ้า ชาติจะได้ไม่ต้องลำบาก” พ่อกับแม่ปรึกษากัน
รุ่งเช้าพ่อไปตามรถสีข้าวที่อยู่ข้างบ้านให้มาสีข้าว แม่เรียกชาติ “ชาติ เจ้าไปเอาจอบมาถางหญ้าเตรียมที่เอาไว้ลอมฟาง” “ได้ครับแม่” ชาติตอบ
หลังจากนั้นชาติก็เดินถือจอบไปหลังบ้านตามที่แม่บอก ชาติเห็นอะไรไม่รู้เหมือนภูเขาเป็นดินก่อตัวขึ้นสูงมีรู และมีผ้าสามสีผูก เพราะปกติชาติจะเป็นคนช่างสงสัยและชอบถาม แต่มาครั้งนี้ชาติกลับไม่ถามพ่อแม่ ชาติเลยคิดไปเองว่าเป็นกองดินธรรมดา ด้วยความเป็นเด็กก็เลยเอาจอบขุดดินพวกนั้นแล้วเกลี่ยให้เป็นพื้นเดียวกัน หลังจากสีข้าวเสร็จ
“ชาติมาขนฟางที่เหลือมาลอมฟางไว้ที่ที่ลูกเตรียมไว้ด้วยนะ” พ่อเรียก
“ได้ครับพ่อ เดี๋ยวผมไป” ชาติตะโกนบอก หลังจากนั้นชาติก็เอาฟางมาลอมฟางจนเสร็จ แต่ชาติก็รู้สึกไม่ดีต่อร่างกายเลย ชาติไปบอกพ่อกับแม่ว่า
“ผมปวดตามร่างกายไปหมดทั้งตัวเลย ไม่รู้เป็นอะไรครับ” แม่บอกว่าคงเป็นเพราะลูกขนฟางมากเกินไปจึงทำให้เป็นเช่นนี้
ต่อมาไม่นานร่างกายของชาติก็เริ่มไม่มีแรง อ่อนเพลีย แขนขาขยับไม่ได้ พ่อกับแม่จึงพาชาติไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก หมอก็ให้ยามาทานแต่ก็ไม่หายดี ยายของชาติชอบเชื่อเรื่องไสยศาสตร์จึงเดินไปหลังบ้านที่จะไปกราบไหว้จอมปลวกที่เก่าแก่ของบ้านให้ช่วยชาติให้หาย พอยายเดินไปไม่พบจอมปลวกแต่กลับพบลอมฟาง ยายจึงเดินกลับมาถามว่าทำไมเอาฟางไปทับจอมปลวกอย่างนั้น พ่อกับแม่ของชาติไม่รู้เรื่องยายจึงไปถามชาติที่นอนอยู่บนบ้านว่า “ชาติเจ้าไปทำอะไรกับจอมปลวกหรือเปล่า”
“ทำครับ ก็แค่เอาจอบไปขุดมันออกก็แค่นั้น” ชาติตอบ
“ตายแล้ว ! เจ้าชาติเจ้านี้ทำอะไรไม่ถามผู้ใหญ่ก่อน ยายรู้แล้วว่าทำไมเจ้าถึงได้เป็นแบบนี้” ยายจึงเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่า “จอมปลวกที่ลูกของพวกเจ้าไปทำลายนั้นเป็นจอมปลวกเก่าแก่ ที่อยู่คู่กับบ้านเรามานาน แม่จะไปกราบไหว้เป็นประจำ เหมือนว่า เป็นศาลเจ้าที่ก็ว่าได้ การที่ลูกของพวกเจ้าไปทำแบบนี้ ท่านคงจะโกรธเลยทำร้ายให้ลูกของพวกเจ้าเป็นอย่างนี้ไงล่ะ”
“จะมีวิธีแก้ได้ไหมจ๊ะ” แม่ของชาติถาม
“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมธูปเทียนดอกไม้มาให้ลูก แล้วให้ชาติมันไปขอขมาลาโทษท่านจอมปลวกที่ลอมฟางที่พวกเจ้าทำไว้นั่นแหละ” ยายบอก
หลังจากที่ชาติไปขอขมาเสร็จ ชาติรู้สึกตัวเองว่า ดีขึ้น มีเรี่ยวแรงเหมือนแต่ก่อน แขนขาขยับได้เหมือนเดิม ร่างกายก็แข็งแรงสมบูรณ์วิ่งเล่นพูดเก่ง ขี้สงสัยเหมือนเดิม ชาติบอกกับยายว่า “ต่อไปนี้ ชาติทำอะไรหรือสงสัยอะไร ชาติจะมาถามยายทุกครั้ง จะไม่ตัดสินใจทำอะไรผิดลงไปอีกแล้ว”
“เข็ดหรือยังล่ะ นี่เป็นบทเรียนของเจ้า จำไว้” ยายพูด
จบแล้วค่ะ
มีดอกจัน ก็มีดังนี้
* แกงบวน หมายถึง แกงชนิดหนึ่งที่มีเครื่องในหมูต้มผัดกับเครื่องแกง ผสมน้ำคั้น จากใบไม้บางชนิดทำให้น้ำแกงมีสีเขียว รสหวานเค็ม
** ลงแขก หมายถึง ช่วยกันทำงานโดยผลัดเปลี่ยนเป็นที่ที่ไป
*** แคร่ หมายถึง ที่สำหรับนั่งหรือนอน มีรูปสี่เหลี่ยมทำจากฟาก หรือไม้ไผ่ซี่ ๆ
**** ลอมฟาง หมายถึง ฟางที่กองทับซ้อนกับขึ้นเป็นจอม
by rungdown
ความคิดเห็น