คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เมียของผม -โดยพุดดี้
เมียของผม
ผมแอบรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อว่า “ฟาง” ทุก ๆ เช้าเธอมักจะไปนั่งเล่นที่ลอมฟาง ผมเฝ้ามองดูเธอทุกวัน ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวนะ เพราะผมเห็นเธอเขินอาย และลอบยิ้มมาทางผม และแล้วความสัมพันธ์ของเราก็เริ่มงอกเงย เวลาผ่านไป เราทั้งสองกลายเป็นคู่รักกัน แต่เรื่องของเรื่องก็คือ พ่อของเธอไม่ยอมรับผม ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ผมมันจน มีแต่จะพาลูกสาวเขาไปลำบาก นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับผมและฟาง เราตัดสินใจหนีตามกันไป ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก่อนไปเราให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดทรยศ ขอให้มีอันเป็นไปด้วยประการต่าง ๆ ตั้งแต่เราหนีไปด้วยกันชีวิตผมก็ราบรื่นดี ตอนนี้ฟางของผมไม่เหมือนเดิม ดูอ้วนขึ้นเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าผมเลี้ยงดูเธอดีหรือว่าเธอกำลังจะมีลูก แต่ผมว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ที่ที่เราหนีมานี้ค่อนข้างจะไกลผู้คนสักหน่อย ผมไม่อยากให้ใครเอาเราไปนินทาน่ะ เรามีแค่ที่นาไม่กี่แปลงที่เราเช่าเขาทำนา กะต๊อบหลังเล็ก ๆ ที่เราทั้งสองเรียกมันว่า “บ้าน” แปลงปลูกผักขนาดย่อม และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ลอมฟาง แน่นอนเมียของผมสั่งว่าต้องมีให้ได้ หลายเดือนต่อมา เมียผมเจ็บท้องใกล้คลอด สัญชาตญาณ บอกให้ผมวิ่ง วิ่งไปตามชาวบ้านมาช่วยเมียผม ลำพังตัวผมเองคงทำอะไรไม่ได้ ผมวิ่งไปถึงบ้านน้าผาดที่ให้ผมเช่านา ผมบอกแกว่าเมียผมกำลังจะคลอด แกตกใจมาก ตะโกนลั่นบ้านให้ไอ้จุกคนใช้รีบไปตามยายแม้นหมอตำแย (สมัยก่อนยังไม่มีรถราแบบทุกวันนี้นี่) ส่วนผมแกบอกให้รีบกลับไปดูเมียแล้วต้มน้ำไว้ แน่นอนผมแทบจะเหาะกลับบ้านมาเลยล่ะ แม้ว่าทางที่ผมวิ่งผ่านมานั้นจะเต็มไปด้วยหลุม บ่อ โคลน ทรายและต้นหนามกระสุนที่ยื้อแย่งที่ว่างบนขาผม สงสัยมันคงเป็นห่วงเมียผมเลยขอติดไปบ้านผมด้วย พอถึงบ้าน ผมแทบสิ้นสติ คุณพระช่วย ! นั่นมันตัวอะไรน่ะ ภาพตรงหน้าคือภาพผู้หญิงแก่ ๆ คนหนึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิงและขาวโพลน ใบหน้าขาวซีด ตาสีแดง ตามแขนและลำตัวเกรอะกรังไปด้วยรอยเลือด ที่ปากมีเลือดสด ๆ ไหลออกมา ผมยืนนิ่ง ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น แต่เหมือนนังผีร้ายจะรู้ตัว มันหันมามองทางผม แสยะยิ้ม เลือดไหลออกมาตามเขี้ยวที่ยาวโง้ว แล้วกระโดดหายไป ผมแทบทรุด แต่แล้วสติก็กลับคืนมา แล้วเมียผมล่ะ ! ไม่รอช้าผมรีบวิ่งเข้าบ้าน ภาพที่ปรากฏ ทำให้ผมเข่าอ่อน สภาพเมียผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ถูกชำแหละ เนื้อถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ตรงบริเวณพื้นนองไปด้วยเลือดและตับไตไส้พุงที่ไหลออกมากองรวมกัน ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว ที่ท้องเมียผม ศพทารกตัวน้อย ที่เหลือเพียงส่วนหัวอยู่บนกองลำไส้ ส่วนแขนและขากระจายไปรอบ ๆ เสื้อผ้าเมียผมหลุดเป็นชิ้น ๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก และดวงตาเบิกโพลง ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งทรุดลงตรงนั้น ไม่นานผมก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น แขนเมียผมกำลังขยับ ! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ดวงตาเบิกโพลงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ใบหน้าเหยเกค่อย ๆ หันมาทางผม แสยะยิ้มกว้าง เนื้อตัวผมแข็งทื่อ ขณะเดียวกันนั้น หัวทารกน้อยก็ค่อย ๆ ลอยขึ้น ลอยขึ้น ตรงหน้าผมเลือดแดงฉานทะลักออกทางปาก จมูก ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้านั้นจ้องมองผม แล้วพุ่งเข้ามาหา......อ๊าก .....!! ผมตะโกนสุดเสียง ทำให้เมียผมสะดุ้งตื่น “ฝันร้ายอีกแล้วเหรอคะ” แม้อากาศจะไม่ร้อนแต่ผมก็เหงื่อออกโชก นี่ก็ผ่านมาจะยี่สิบแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้ผมมักฝันร้ายอย่างนี้บ่อย ๆ หรือว่า ฟาง ต้องการมาทวงสัญญา ผมผิดเองที่แต่งงานใหม่ ชีวิตที่ต้องอยู่กับความทุกข์ ขมขื่นใจตลอดเวลามันก็น่าเศร้ามิใช่หรือ ดา เมียใหม่ของผม เธอดีทุกอย่าง จะมีข้อเสียอยู่นิดหน่อยก็ตรงที่เธอไม่ชอบอาบน้ำแปรงฟันเท่าไร เธอบอกว่ามันเปลืองและเสียเวลาทำมาหากิน ตอนนี้ผมก็ยังคงอยู่ที่เดิมในที่นาที่เช่าเขา แต่บ้านใหญ่ขึ้นมาหน่อย เป็นบ้านชั้นเดียวมีใต้ถุน ทุกเช้าผมจะออกไปเลี้ยงควาย และนั่งเล่นใต้ลอมฟาง ที่ที่ผมฝัง “ฟาง” เมียเก่าที่ล่วงลับ วันนี้อากาศร้อนผิดปกติ ดูเหมือนฝนกำลังจะตก แต่นี่มันหน้าหนาวนะ สมัยนี้ฝนไม่ค่อยตกต้องตามฤดูกาลสักเท่าไร ผมตัดสินใจกลับบ้านนอนพักดีกว่า เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ วันนั้นผมหลับตั้งแต่หัวค่ำ ดาเองก็แปลกใจ ทั้งที่ผมบอกเธอว่าคืนนี้ผมจะออกไปดักปลา ขณะที่ผมกำลังหลับอยู่นั้น พลันผมก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ต้นแขนผม พร้อมกับกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ผมตกใจมาก ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามอง ความเย็นเริ่มแผ่ขยายขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับกลิ่นที่ทวีความรุนแรงขึ้น ผมจะทำยังไงดี ผมรู้สึกว่ามีมือมือหนึ่งมาจับแขนผม ผมพยายามดิ้น แต่มือนั้นก็ยิ่งจับแน่นขึ้น พร้อมกับเสียง “เป็นอะไร” เท่านั้นแหละผมแทบช็อค หรือสิ่งที่ผมกลัวกำลังจะเกิดขึ้น ฟางคนรักเก่าจะกลับมาทวงสัญญา ผมไม่กล้าลืมตา ยังไงผมก็จะไม่ลืมตาเด็ดขาด ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับผม หรือว่าผีอำ ต้องใช่แน่ ๆ โอ๊ย ผมจะรอดมั๊ยเนี่ย ดาอยู่ที่ไหนทำไมไม่มาช่วยผม ยิ่งอยู่นานกลิ่นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น จนผมแทบทนไม่ไหว ใช่สิถ้าเราไม่อยากได้กลิ่น เราต้องกลั้นหายใจ ผมคิด ผมไม่กล้าหายใจทางปากเพราะกลัวถูกล้วงตับไตไส้พุง ทางที่ดีต้องป้องกันไว้ก่อน ตอนนี้ล่ะ ไม่ว่ากลิ่นจะแรงแค่ไหน ผมก็ไม่กลัวแล้ว แม้ว่าผมจะทรมานที่หายใจไม่ออก แต่ผมยอม ดีกว่าให้ผมได้กลิ่นนั่น ผมหลับตาปี๋ ไม่ลืมตาเด็ดขาด ไม่หายใจเด็ดขาด ในสมองผมมีอยู่แค่นี้ ร่างกายผมเริ่มแน่นิ่ง ผมได้ยินเสียง ดา ภรรยาที่รักของผมตะโกนเรียก แต่ผมไม่รู้สึกอะไรแล้ว ตอนนี้ผมยืนหัวเราะมองภาพตัวเองนอนอยู่บนเตียง มีดานั่งอยู่บนตัวผมมีถังใส่ผ้าสำหรับเช็คตัวอยู่ข้าง ๆ เธอพยายามปลุกให้ผมตื่น ผมมองเธอแล้วยืนหัวเราะอยู่อย่างนั้น สักพักตำรวจก็มาที่บ้าน ดาร้องไห้ไม่หยุดที่ผมจากไปกะทันหัน ตำรวจบอกว่าผมตายเพราะขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่มีผีมาเอาตัวผมไปอย่างที่ดาบอกกับตำรวจ แต่ดาก็ยังปักใจเชื่ออย่างนั้น การตายของผมยังเป็นปริศนาสำหรับทุกคน
แม้แต่คุณเองก็สงสัยใช่ไหมครับ...
“อ้อ ผมได้บอกคุณหรือยังว่าดาเมียผมน่ะ ปากเหม็นแค่ไหน”
by ... puddy
ความคิดเห็น