สิ่งที่มองเห็นใน ..."ซีรี่ส์เกาหลี"

เนื้อเรื่อง

++  สิ่งที่มองเห็นใน... "ซีรี่ส์เกาหลี" ++

            ซีรี่ส์จากเกาหลีนับว่าเป็นละครยอดฮิตของคนไทยเราแล้ว ณ ทุกวันนี้ เพราะว่าฉากอันแสนโรแมนติก เหตุการณ์ณ์ที่โดนใจวัยทีนของบ้านเราทั้งที่ คู่พระ-นาง บางคู่อายุอานามปาเข้าไปเกือบ 30 แล้ว นางเอกหน้าใสคิกขุ พระเอกก็หล่อบาดใจ นั่นอาจเป็นจุดขายที่เข้ามาถูกจังหวะไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นแต่เป็นทั้งแถบเอเชีย แต่บางเรื่องความดังก็ไม่ได้อยู่ในเอเชียเท่านั่น

              เหตุการณ์ที่คิดว่าโดน คิดว่าเท่ห์ อยากทำตามพระเอกหรือนางเอก เพื่อให้ได้เหมือนกับในหนัง ทั้งที่ไม่ได้ดูและคำนวณถึงหน้าตาตนเองเลยว่าบวกกันอย่างไรก็ยังไปไม่ถึงครึ่งของคนที่อยากเป็นเลย และทั้งที่เหตุการณ์ที่ทางทีมงานสร้างได้เนรมิตขึ้นมาความเป็นจริงแล้วอย่างเราๆงี้ทำได้ที่ไหนกัน รถเข้าโค้งหน้าปัดความเร็วขึ้นเป็นร้อยพุ่งตกเขาแต่ตัวละครเอกของเรากลับพุ่งออกจากรถ มายืนทำเป็นบาดเจ็บดูผลงานรถตนเองตกเขารถก็แพงกลับไม่แสดงออกถึงความเสียดายบ้างเลย ผู้ร้ายไล่ล่าก็เหลือเกิน มาถึงขั้นนี้ก็ยังตามล่าตัวเอกไม่ได้ มีเพียงแค่เฉียดฉิว เกือบทุกเรื่องมักจะไม่ค่อยได้เห็นว่าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล พอจะมาถึงคนที่ทำแผลให้ก็ทำเป็นบาดเจ็บหนักแต่พอพันแผลเสร็จไม่ถึงชั่วโมงก็หาย กลายเป็นว่าได้ผ้าพันแผลมาเป็นแฟชั่นยอดฮิตไปอีก

             ส่วนใหญ่ซีรี่ย์หรือภาพยนตร์เหล่านี้มักจะเน้นถึงความเป็นฮีโร่กับเหตุการณ์ที่ชีวิตประจำวันของคนเราที่ไม่พึงปฏิบัตินั่นเอง เช่น ฉากยิงกันสนั่นเมือง คาดผ้าสีแดงแบ่งพวกไล่ฟันกันกลางถนนทำตนเป็นเหมือนอยู่เหนือกฎหมาย ขัดคำสั่งของผู้มีพระคุณเพื่อหาความสุขใส่ตัวโดยคิดว่าตนเองแน่แล้วสุดท้ายก็ได้รับการอภัย หรือแม้แต่ฉากหน้าด้านของนางร้ายที่ส่งผลทำให้นางเอกก็เป็นนางเอ๊กนางเอก หากจะพูดถึงเรื่องของหน้าตากันแล้วนอกจากพระรองจะหล่อกว่าพระเอกแล้ว นางร้ายยังต้องสวยกว่านางเอกอีกด้วยนะ แม้นางเอกบ้างเรื่องก็ออกจะซื่อบื้อ แต่งตัวไม่เฟี้ยวแต่กลับถูกรุมรักเพียงผู้เดียวเท่านั้น ในฉากการร้องไห้ก็มักจะเห็นร้องแบบน้ำตาไหลข้างเดียวเหมือนกัน เอ๊จะแกล้งเป็นฉลาดน้อย ว่าผู้กำกับดูมุมกล้องแล้วฉากแบบนี้ให้ความรู้สึกออกจะดีหรือไม่รู้น้ำตาบ่แม่นของจริง

เอ่ยอีกฉากหนึ่งคือไม่ค่อยเห็นมีฉากฟูมฟายร้องไห้หน้าตาน่าเกลียดเลย แล้วก็ผู้ชายเกาหลีตีบทได้แตกเก่งมากร้องไห้ง่ายที่สุด เวลาจะขอแต่งงานแบบ Surprise มักจะชอบใส่แหวนไว้ในไอติม สงสัยผู้หญิงเกาหลีชอบไอติม แบบนี้ต้องให้แท่งใหญ่ๆกว่าคนอื่นซะแล้ว หรือไม่ก็พระเอก-นางเอก ต้องเดินข้ามถนนมาเจอกัน ตรงไฟแดงและข้ามมากอดกันกลางถนน ดูยังไงหรือกี่ครั้งก็ยังคงประทับใจตามไปด้วยอยู่ดี

           นอกจากนั้นสังคมของความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของเขาก็ยังต่างกับประเทศเราอีกด้วย แล้วเกี่ยวกันได้อย่างไรนะหรือลองมาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่การกระทำในประเทศของเขาที่ทำให้วัยรุ่นในประเทศเรา คิดว่าตนเองจะเป็นจุดเด่นในสายตาโดยเฉพารเพศตรงข้าม อย่างแรก ชอบเลี้ยวรถกลับบนถนนแบบไม่มีเกาะกลาง หรือไม่มีที่สำหรับ U-turn แล้วตำรวจไม่จับ ความจริงแล้วเรื่องมีอยู่ว่า ที่เกาหลี เขาสามารถจะวกกลับหรือจอดรถได้ทุกที่ ไม่มีตำรวจ เพราะว่าทุกสี่แยกหรือเกือบทุกๆหนึ่งกิโลเมตรมักจะมีกล้องวงจรปิดคอยตรวจจับรถที่ทำผิดกฎแล้วหลังจากนั้นประมาณเกือบอาทิตย์ใบเสร็จค่าปรับจะส่งไปที่บ้านตามที่อยู่ของเจ้าของรถ แล้วไปจ่ายตังค์ที่ธนาคาร หากโดนเข้าจริงๆ แบบนี้ขอบอกว่าแพงสุดๆต่างกับบ้านเราถ้าเจรจาดีค่าปรับก็แค่ 100 เดียว และมักจะเห็นพระเอกไปเมาเหล้าหรือทำอกหักที่ร้านบะหมี่ หรือราเมง คิมบับ(ข้าวห่อสาหร่าย)พร้อมกับเหล้าจิบเหล้าชนิดหนึ่งที่มีขวดสีเขียว เห็นกี่เรื่องก็สีเขียว เขาเรียกว่า โซจู หรือ ซูล ผู้หญิงก็กินได้ คล้ายๆเหล้าขาวแต่มีดีกรีไม่แรงเท่ากับบ้านเรา

           ประโยชน์ของเหล้าและร้านบะหมี่ คือ เพื่อแก้หนาวนั่นเอง ดูแล้วบรรยากาศแบบเงียบๆ เหงาดี หากเป็นบ้านเราจะทำได้อย่างมีความสุขคงไม่กี่วันเพราะหนาวนี้ก็ยังไม่ถึง 10 วันเลย ยังไม่ทันอกหักเสียด้วยซ้ำ และนางเอก มักชอบเดินๆๆๆวิ่งๆๆๆก็เพราะว่าภูมิอากาศของประเทศนี้ไม่ร้อน ไม่อบอ้าว ไม่เหนียวตัว ไม่มีฝุ่นควัน วิ่งแล้วก็ยังสวยยังน่ารักอยู่เหมือนเดิม

           ลองมาสังเกตที่เรียกว่าพฤติกรรมแปลกๆและเราไม่คุ้นเคยที่เห็นกันบ่อยในซีรี่ส์ คือ การกินข้าวหรือบะหมี่ ก็มักจะกินจากหม้อที่ต้มนั่นเอง หรือว่าคงจะขี้เกลียดล้างจาน เวลาเขาต้มบะหมี่ เขาจะยกหม้อมากินเลยไม่ใช่ขี้เกลียดแต่เพราะเป็นหม้อที่ใช้แทนถ้วยได้ หากกินไม่หมดก็จะเก็บเข้าตู้เย็นไว้กินมื้อต่อไปได้ ดูแล้วก็เป็นการประหยัดไปอีกแบบที่สังเกตหม้อหุงข้าวของเขา หุงทีเก็บไว้กินได้เกือบอาทิตย์โดยไม่บูดด้วย

            ที่เห็นบ่อยๆของพฤติกรรมอีก คือ ชอบพูด สู้ๆ (อาจ้า อาจ้า) พร้อมกับกำมือ เหตุที่ทำเช่นนั้นจริงๆก็คือ เป็นการให้กำลังใจคนอื่น ประมาณว่า สู้ๆสู้ตายนะ เป็นคำที่ฟังแล้วเหมือนจะเล่นๆแต่จริงใจ คนที่ได้ยินก็จพรู้สึกสบายๆหรือแม้แต่การเลี้ยวรถแล้วอยากจะจอดตรงไหนก็จอดตามใจฉันเลย สิ่งหนึ่งสำหรับความจริงในข้อนี่คือ กฎมีไว้แหก ถ้าไม่มีการแหวกกฎจะตั้งกฎมาทำไม อย่าคิดไปเรื่องอื่นก่อนนะเดี๋ยวจะไปไม่ตรงจุดประสงค์ของ จุดไคล์แมกซ์ แต่ทำไมไม่ทำตามกฎกันสักนิดล่ะ ในละครซีรี่ส์สงสัยจะไม่ค่อยมีตำรวจจราจรนะว่ามั้ย

            แล้วทำไมไม่ขึ้นแท็กซี่ ไม่ว่าจะอยู่ริมถนนก็ตาม จะต้องเดิน..จนกว่าจะถึงจุดหมาย สงสัยว่า 2 มือล้วงกระเป๋ามันเท่ห์กว่า หรือเดินให้กระโปรงพลิ้วผมไสว ทั้งที่อากาศก็ออกจะเย็นแบบสุดๆเลยนะ

             ต้องมีฉากแบกทุกเรื่อง ไม่เธอขี่หลังฉัน ฉันก็ขี่หลังเธอ ซึ่งก็เป็นเรื่องน้อยนักที่จะเห็นเรื่องใดที่จะไม่ทำอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้อิจฉานะรู้แล้วล่ะว่าเพราะอะไร แซวหน่อยนะ ใครๆเองก็อยากได้อยู่ใกล้ชิด ได้แนบสนิทเพื่อรับไออุ่นและหวานให้เหมือนกับในละครบ้างสินะ

             ตัวละครในเรื่องมักจะใช้โทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ เหตุเพราะว่าเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วหรือที่ผ่านมา เกาหลีจะฮิตมือถือแบบพับมาก ส่วนใหญ่จะฮิตของ Any call ของ Samsung แต่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นฮิตแบบสไลด์มากกว่า เวลาสไลด์ก็จะมีเสียงคิกขุ อาโนเนะ เป็นสัญญาณเปิดเครื่อง ก็เข้ากับใบหน้าอันจุ๋มจิ๋มดี แบบโนเกียไม่ค่อยจะมีขายหรอกนะที่ประเทศเขาอะ

           ทุนและงบประมาณในการสร้างสถานที่และโลเคชั่น ไม่อยากเชื่อเลยว่าทุนสร้างแต่ละเรื่องจะน้อยเพียงนั้นถึงขนาดต้องใช้สถานที่ซ้ำกันถ่ายในฉากที่ทำงานของพระเอกและนางเอก หรือบางครั้งก็เล่นซะบ้านหลังเดียวกันเลยนั่นแหละ แต่ถึงอย่างไรซีรี่ส์ที่เข้ามาฉายในบ้านเราในขณะนี้และที่ผ่านมา ละครของเขาดูจะเริ่ดซะขนาด ประทับใจทุกเรื่องจริงมั้ยอะ 

อ่านกันมาก็ตั้งเยอะแล้วงะ แสดงความคิดเห็นข้างล่างหน่อยจิจ๊ะ