ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : girl\'s talk 2
พอได้ดื่มน้ำส้มเย็นๆจนชื่นใจแล้ว ลูกน้ำก็อาการดีขึ้น  อาการหวาดผวาเมื่อครู่เริ่มลดน้อยลง และกลับมาร่าเริงดังเดิม
“ยัยตัวแสบ  ทำให้พี่ใจหายหมด  เกือบตายแล้วมั้ยล่ะ” ฉันตำหนิ  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย  แถมยังหัวเราะ อมยิ้มแก้มตุ่ยอีกแน่ะ
“แหม แต่ว่าพี่ฝนก็ได้รู้จักกับนายคนนั้นไม่ใช่หรอคะ” ลูกน้ำทำตาเล็กตาน้อย  ท่าทางเจ้าเล่ห์อย่างเหลือร้าย  “อีกอย่าง  เค้าก็เกือบจะ.. ผายปอดให้น้ำแล้วด้วย  รู้งี้แกล้งให้ทำเป็นไม่รู้สึกตัวอีกหน่อยดีกว่า”
“นี่ยัยลูกน้ำ.. หรือว่า..” ฉันพูดไม่ออกแล้วค่ะ  ทำไมหนอยัยลูกน้ำถึงต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงขนาดนี้
“ใช่แล้วค่ะ  น้ำอ่ะว่ายน้ำเก่งออกจะตาย มีหรือจะมาจมน้ำเอาง่ายๆอย่างงี้”  ลูกน้ำทำท่าจุ๊ปากจนหน้าหมั่นไส้  “จริงๆแล้วน้ำแกล้งต่างหากล่ะคะ” แล้วขยิบตาอีกครั้ง
“ตายแล้วลูกน้ำ  ทำไมเล่นอะไรแผลงๆอย่างงี้ล่ะ  พี่ตกใจแทบตาย  วันหลังถ้าเล่นอีกนะ พี่จะตีให้ก้นลายเลยคอยดู” 
ดูท่าลูกน้ำจะไม่ได้เกรงกลัวในคำพูดของฉันสักนิดเลย  กลับกระซิบข้างหูว่า “แต่ว่าพี่ฝนก็ได้รู้ชื่อเค้าไม่ใช่หรอคะ  ไม่ดีหรอคะ”
ฉันฉุกคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะร่วน  “ดีๆๆๆ” เอาล่ะฉันยอมรับแล้วก็ได้ ว่าแผนยัยลูกน้ำเยี่ยมจริงๆ  แม้จะต้องแลกกับการใจหายใจคว่ำของฉันก็ตาม 
มาตอนนี้ฉันก็มองนายคนนั้นได้อย่างเต็มตาแล้ว  ท่าทางของเขาน่าหลงใหลจริงๆนะ ฉันว่าคนหล่อๆอย่างงี้มีให้คิดอยู่ไม่กี่อย่างหรอก 1.มีแฟนแล้ว กับ 2.เป็นเกย์  3.แมงดา แต่ฉันอยากให้เป็นอย่างที่ 4 มากกว่าคือ เป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายและโสดสนิท  ถ้าอย่างงั้นมันคงเป็นปาฎิหาริย์แล้วล่ะค่ะ  ในโลกนี้มีคนอย่างงั้นอยู่น้อยเหลือเกิน 
“พี่ฝน ไปเล่นน้ำกันต่อเถอะ” ยัยลูกน้ำดึงมือฉันให้ลุกจากเก้าอี้
“นี่น้ำ แล้วเค้าจะไม่สงสัยหรอ  ตะกี้เพิ่งจมน้ำอยู่แท้ๆ”
“เอาน่าพี่ฝน เชื่อมือน้ำดิ่”  เอาก็เอาค่ะ  ฉันกับลูกน้ำก็ลงสระอีกครั้ง  เท่านั้นแหละค่ะที่นายคนนั้นรีบว่ายมาหาพวกเราทันที
“นี่เธอ เด็กเพิ่งจมน้ำน่ะ  ขวัญเสียจะแย่ คุณยังจะพาลงมาว่ายน้ำอีกหรอ” โห  ทำอย่างกับพ่อฉันแน่ะ  ความอดทนฉันมันหมดแล้วล่ะค่ะ หล่อก็หล่อเถอะ แต่ถึงเวลาระเบิดก็ต้องระเบิดล่ะ
“นี่นายนั่นแหละ  ไม่ใช่พ่อชั้นซักหน่อย ทำมาสั่งโน่นสั่งนี่  ก็ยัยนี่อยากจะลงมาว่ายน้ำเองนี่นา ให้ชั้นทำไงล่ะ”  ดูท่าเขาก็อึ้งกับคำตอบของฉันอยู่เหมือนกัน
“อะไรกัน คนเค้าพูดด้วยดีๆนะ  มาบ่นยังกับยายแก่ให้ฟัง” ปากคอเราะร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะนายคนนี้
“นายนั่นแหละ  ถ้าไม่ติดที่ว่าช่วยลูกน้ำไว้เมื่อกี้ ป่านนี้ชั้นก็ด่าไม่เลี้ยงแล้วเหมือนกัน” เราเถียงกันอยู่ครู่หนึ่งจนลืมลูกน้ำไป  ในที่สุดฉันก็ทนทะเลาะกับนายคนนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว  ก็อดเสียดายอยู่เหมือนกันที่เจอกันครั้งแรกแทนที่จะสร้างความประทับใจให้เขา กลับต้องมายืนด่ากันในน้ำเสียนี่
“ไปกันเถอะลูกน้ำ”  ฉันหันกลับไปหาลูกน้ำ แต่ว่าลูกน้ำไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว 
“ลูกน้ำ!! อยู่ไหนอ่ะ” ฉันมองไปรอบๆบริเวณสระและขอบสระ แต่ไม่พบใครเลย  “ลูกน้ำหายไปไหนอ่ะ  เพราะนายคนเดียวเลย”  ฉันร้องเรียกลูกน้ำ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ
“นั่น!”  เขาชี้ไปยังบริเวณกลางสระ  และพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว  ฉันต้องว่ายน้ำตามไป  เขาดำมิดลงในน้ำ และอึดใจเดียวกันนั้นเอง ก็อุ้มลูกน้ำที่กำลังสำลักน้ำอย่างทรมานขึ้นมา
“น้ำ!!”  ฉันเข้าไปจะอุ้มตัวลูกน้ำ  แต่นายคนนั้นกลับอุ้มตัวลูกน้ำไปวางไว้ที่ขอบสระเสียเอง
“ผมบอกแล้วไงว่าให้ดูแลเด็กดีๆ  แล้วเป็นไงล่ะ เกิดเรื่องจนได้  เธอนี่มันเซ่อซ่าจริงๆ”
“น้ำ กลับ!” ฉันคิดว่าน้ำจะแกล้งจมน้ำเหมือนเมื่อครู่ แต่ที่ไหนได้ น้ำทำท่าเหมือนคนกำลังจะตาย
“นี่เธอ  เด็กสำลักน้ำขนาดนี้จะให้กลับไปทั้งอย่างงี้เนี่ยนะ  ใจดำชะมัด” เขาส่งสายตาดุๆมาที่ฉัน
“น้ำ กลับ!!!”
“พี่ฝน  ..ขา ขาน้ำ ” น้ำพูดเสียงสั่น  นายคนนั้นจึงจับเท้าเธอขยับไปมา เสียงโอดครวญของลูกน้ำก็ดังขึ้นเป็นระยะ
“ตะคริวน่ะ  อีกแป็บเดียวก็หายนะ” เขาพูดกับน้ำด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนเหลือเกิน ผิดกับตอนที่คุยกับฉันลิบลับ
“ชั้นว่าพาลูกน้ำกลับห้องดีกว่า  เอามานี่” ฉันดึงตัวลูกน้ำไปจากตาคนนั้น  แล้วพยุงยัยตัวแสบขึ้นอย่างยากลำบาก  เพราะลำพังตัวฉันเองก็ยืนขึ้นยากอยู่แล้ว  ก็คนเพิ่งขึ้นจากน้ำนี่คะ  ตัวก็หนักเป็นธรรมดาแหละ
“ผมไปส่งให้ดีกว่า ขืนให้เธอพาขึ้นไปคงต้องไปล้มเอากลางทางแหงๆ” เขาอุ้มลูกน้ำขึ้นอย่างสบายๆ “ห้องไหนล่ะ”
“..637”
to be continue
“ยัยตัวแสบ  ทำให้พี่ใจหายหมด  เกือบตายแล้วมั้ยล่ะ” ฉันตำหนิ  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย  แถมยังหัวเราะ อมยิ้มแก้มตุ่ยอีกแน่ะ
“แหม แต่ว่าพี่ฝนก็ได้รู้จักกับนายคนนั้นไม่ใช่หรอคะ” ลูกน้ำทำตาเล็กตาน้อย  ท่าทางเจ้าเล่ห์อย่างเหลือร้าย  “อีกอย่าง  เค้าก็เกือบจะ.. ผายปอดให้น้ำแล้วด้วย  รู้งี้แกล้งให้ทำเป็นไม่รู้สึกตัวอีกหน่อยดีกว่า”
“นี่ยัยลูกน้ำ.. หรือว่า..” ฉันพูดไม่ออกแล้วค่ะ  ทำไมหนอยัยลูกน้ำถึงต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงขนาดนี้
“ใช่แล้วค่ะ  น้ำอ่ะว่ายน้ำเก่งออกจะตาย มีหรือจะมาจมน้ำเอาง่ายๆอย่างงี้”  ลูกน้ำทำท่าจุ๊ปากจนหน้าหมั่นไส้  “จริงๆแล้วน้ำแกล้งต่างหากล่ะคะ” แล้วขยิบตาอีกครั้ง
“ตายแล้วลูกน้ำ  ทำไมเล่นอะไรแผลงๆอย่างงี้ล่ะ  พี่ตกใจแทบตาย  วันหลังถ้าเล่นอีกนะ พี่จะตีให้ก้นลายเลยคอยดู” 
ดูท่าลูกน้ำจะไม่ได้เกรงกลัวในคำพูดของฉันสักนิดเลย  กลับกระซิบข้างหูว่า “แต่ว่าพี่ฝนก็ได้รู้ชื่อเค้าไม่ใช่หรอคะ  ไม่ดีหรอคะ”
ฉันฉุกคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะร่วน  “ดีๆๆๆ” เอาล่ะฉันยอมรับแล้วก็ได้ ว่าแผนยัยลูกน้ำเยี่ยมจริงๆ  แม้จะต้องแลกกับการใจหายใจคว่ำของฉันก็ตาม 
มาตอนนี้ฉันก็มองนายคนนั้นได้อย่างเต็มตาแล้ว  ท่าทางของเขาน่าหลงใหลจริงๆนะ ฉันว่าคนหล่อๆอย่างงี้มีให้คิดอยู่ไม่กี่อย่างหรอก 1.มีแฟนแล้ว กับ 2.เป็นเกย์  3.แมงดา แต่ฉันอยากให้เป็นอย่างที่ 4 มากกว่าคือ เป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายและโสดสนิท  ถ้าอย่างงั้นมันคงเป็นปาฎิหาริย์แล้วล่ะค่ะ  ในโลกนี้มีคนอย่างงั้นอยู่น้อยเหลือเกิน 
“พี่ฝน ไปเล่นน้ำกันต่อเถอะ” ยัยลูกน้ำดึงมือฉันให้ลุกจากเก้าอี้
“นี่น้ำ แล้วเค้าจะไม่สงสัยหรอ  ตะกี้เพิ่งจมน้ำอยู่แท้ๆ”
“เอาน่าพี่ฝน เชื่อมือน้ำดิ่”  เอาก็เอาค่ะ  ฉันกับลูกน้ำก็ลงสระอีกครั้ง  เท่านั้นแหละค่ะที่นายคนนั้นรีบว่ายมาหาพวกเราทันที
“นี่เธอ เด็กเพิ่งจมน้ำน่ะ  ขวัญเสียจะแย่ คุณยังจะพาลงมาว่ายน้ำอีกหรอ” โห  ทำอย่างกับพ่อฉันแน่ะ  ความอดทนฉันมันหมดแล้วล่ะค่ะ หล่อก็หล่อเถอะ แต่ถึงเวลาระเบิดก็ต้องระเบิดล่ะ
“นี่นายนั่นแหละ  ไม่ใช่พ่อชั้นซักหน่อย ทำมาสั่งโน่นสั่งนี่  ก็ยัยนี่อยากจะลงมาว่ายน้ำเองนี่นา ให้ชั้นทำไงล่ะ”  ดูท่าเขาก็อึ้งกับคำตอบของฉันอยู่เหมือนกัน
“อะไรกัน คนเค้าพูดด้วยดีๆนะ  มาบ่นยังกับยายแก่ให้ฟัง” ปากคอเราะร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะนายคนนี้
“นายนั่นแหละ  ถ้าไม่ติดที่ว่าช่วยลูกน้ำไว้เมื่อกี้ ป่านนี้ชั้นก็ด่าไม่เลี้ยงแล้วเหมือนกัน” เราเถียงกันอยู่ครู่หนึ่งจนลืมลูกน้ำไป  ในที่สุดฉันก็ทนทะเลาะกับนายคนนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว  ก็อดเสียดายอยู่เหมือนกันที่เจอกันครั้งแรกแทนที่จะสร้างความประทับใจให้เขา กลับต้องมายืนด่ากันในน้ำเสียนี่
“ไปกันเถอะลูกน้ำ”  ฉันหันกลับไปหาลูกน้ำ แต่ว่าลูกน้ำไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว 
“ลูกน้ำ!! อยู่ไหนอ่ะ” ฉันมองไปรอบๆบริเวณสระและขอบสระ แต่ไม่พบใครเลย  “ลูกน้ำหายไปไหนอ่ะ  เพราะนายคนเดียวเลย”  ฉันร้องเรียกลูกน้ำ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ
“นั่น!”  เขาชี้ไปยังบริเวณกลางสระ  และพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว  ฉันต้องว่ายน้ำตามไป  เขาดำมิดลงในน้ำ และอึดใจเดียวกันนั้นเอง ก็อุ้มลูกน้ำที่กำลังสำลักน้ำอย่างทรมานขึ้นมา
“น้ำ!!”  ฉันเข้าไปจะอุ้มตัวลูกน้ำ  แต่นายคนนั้นกลับอุ้มตัวลูกน้ำไปวางไว้ที่ขอบสระเสียเอง
“ผมบอกแล้วไงว่าให้ดูแลเด็กดีๆ  แล้วเป็นไงล่ะ เกิดเรื่องจนได้  เธอนี่มันเซ่อซ่าจริงๆ”
“น้ำ กลับ!” ฉันคิดว่าน้ำจะแกล้งจมน้ำเหมือนเมื่อครู่ แต่ที่ไหนได้ น้ำทำท่าเหมือนคนกำลังจะตาย
“นี่เธอ  เด็กสำลักน้ำขนาดนี้จะให้กลับไปทั้งอย่างงี้เนี่ยนะ  ใจดำชะมัด” เขาส่งสายตาดุๆมาที่ฉัน
“น้ำ กลับ!!!”
“พี่ฝน  ..ขา ขาน้ำ ” น้ำพูดเสียงสั่น  นายคนนั้นจึงจับเท้าเธอขยับไปมา เสียงโอดครวญของลูกน้ำก็ดังขึ้นเป็นระยะ
“ตะคริวน่ะ  อีกแป็บเดียวก็หายนะ” เขาพูดกับน้ำด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนเหลือเกิน ผิดกับตอนที่คุยกับฉันลิบลับ
“ชั้นว่าพาลูกน้ำกลับห้องดีกว่า  เอามานี่” ฉันดึงตัวลูกน้ำไปจากตาคนนั้น  แล้วพยุงยัยตัวแสบขึ้นอย่างยากลำบาก  เพราะลำพังตัวฉันเองก็ยืนขึ้นยากอยู่แล้ว  ก็คนเพิ่งขึ้นจากน้ำนี่คะ  ตัวก็หนักเป็นธรรมดาแหละ
“ผมไปส่งให้ดีกว่า ขืนให้เธอพาขึ้นไปคงต้องไปล้มเอากลางทางแหงๆ” เขาอุ้มลูกน้ำขึ้นอย่างสบายๆ “ห้องไหนล่ะ”
“..637”
to be continue
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น