ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : boัy\'s talk 1
ผมชื่อริวครับ  เกิดและโตในประเทศญี่ปุ่น  แต่อย่าเพิ่งสงสัยนะครับว่าทำไมผมถึงพูดไทยได้ชัดเจนและคล่องแคล่วเช่นนี้  ก็เพราะว่าพ่อของผมเป็นคนไทยครับ และพ่อก็มักจะมาผมไปที่ประเทศไทยทุกๆวันหยุดปิดเทอม  และให้ผมพูดภาษาไทยที่บ้านครับ  ผมจึงเชี่ยวชาญในทั้ง 2 ภาษา
ปีนี้ผมอายุ 16 ปีครับ ขึ้นไฮสคูลปี 2 แต่ว่าพ่อผมต้องย้ายกลับไปทำงานที่ประเทศไทย  ผมกับแม่จึงต้องย้ายตามไปด้วย  เห็นว่าพ่อติดต่อทางโรงเรียนที่ประเทศไทยไว้เรียบร้อยแล้ว และจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
“เฮ้ยริว แกจะไปจริงๆหรอวะ” มาซายะพูดขึ้น  มาซายะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่มของผมทีเดียว เราโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกันเป็นประจำ  ผมเองก็คงคิดถึงมันมากเช่นเดียวกัน
“อืม.. พ่อฉันต้องย้ายไปทำงานที่โน่น” ผมตอบมันอย่างเศร้าๆ
“อย่างงี้พวกเราก็คิดถึงแกแย่สิวะ” ทาคาชิ หนึ่งในเพื่อนสนิทของผมพูดขึ้น
“เอาน่า  เดี๋ยวฉันจะขอพ่อให้กลับมาเยี่ยมพวกแกทุกปิดเทอมเลย”
“ก็แค่แป็บเดียวแหละวะ  พอนานๆเข้าแกก็ขี้เกียจมา” มาซายะแย้ง
“ถ้ามาไม่ได้ฉันก็ยังติดต่อกับพวกแกทางอีเมล์ได้อยู่ดีแหละ  ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ถ้างั้นแกจะทำยังไงกับอายะจังวะ” โทรุที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง  อายะจังเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ผมสนิทด้วยมากที่สุด  ได้ยินพวกเพื่อนๆมันพูดว่า อายะจังน่ะแอบชอบผม
“ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ฉันชอบอายะจังแบบเพื่อน ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น” ผมชี้แจงใหัโทรุฟัง ผมว่าไอ้โทรุนี่แหละที่ชอบอายะจังซะเอง
“งั้นก่อนไป แกอย่าลืมไปคุยกับอายะจังให้เข้าใจล่ะ” โทรุย้ำผมอีกครั้ง  ผมเองก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว
“นี่เย็นมากแล้ว ฉันกลับบ้านก่อนนะเว้ย” ผมบอกลาเพื่อนๆ
“โชคดีเว้ย แกจะไปไทยเมื่อไหร่นะ  พรุ่งนี้รึป่าว” มาซายะถาม
“อื้ม  แล้วเจอกันนะ  ฉันคงไปประมาน 2 อาทิตย์  โชคดีนะทุกคน” ผมโบกมือลาพวกมันแล้วเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์เหงาๆ
ก่อนหน้าที่ผมจะต้องย้ายไปอยู่ประเทศไทยนั้นพ่อก็พาผมไปเที่ยวทะเลทางแถบภาคใต้ของประเทศไทยครับ นั่นก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว  ผมเป็นคนรักทะเลและชอบการว่ายน้ำมาก  ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมก็มักจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศที่โอกินาวาเป็นประจำทุกครั้งที่มีโอกาส
พอพ่อพามาที่แปลกใหม่ผมก็ตื่นเต้นมากทีเดียวครับ  เราพักโรมแรมระดับหรูเหมือนกัน  ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าโรงแรมชื่ออะไร  รู้แต่ว่ามีสระว่ายน้ำให้ผมเล่นก็พอใจแล้ว
วันที่มาเช็คอินนั้นผมเห็นอีกครอบครัวหนึ่งมาพร้อมกันครับ  ครอบครัวนั้นมีกัน 4 คน คงจะเป็นพ่อแม่ และลูกอีก 2 คน คนพี่คงอายุพอๆกับผม  เธอผอมเพรียว หน้าตาหวานแต่คมเข้ม ผิวสีแทนอย่างคนไทย ผมซอยสั้นประบ่า  อาจจะเรียกว่าเป็นรักแรกพบก็ได้มั้งครับ ที่ผมเห็นเธอคนนั้นแล้วรู้สึกถูกชะตาอย่างประหลาด  ผมว่าผมพบปลายของด้ายแดง*แล้วล่ะครับ  แต่ว่าเธอคงไม่ได้สังเกตเห็นผมหรอกครับ เพราะเธอกำลังยุ่งๆกับการตรวจเช็คกระเป๋าเดินทาง
เย็นวันนั้น ผมลงไปว่ายน้ำเล่น ผมเห็นเธอกับน้องสาวของเธอก็กำลังเล่นน้ำอยู่เช่นเดียวกันครับ  แต่ผมก็ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปทำความรู้จักหรอกนะ
แต่ว่าอยู่ดีๆ น้องสาวของเธอก็ว่ายน้ำมาหาผม  ผมคิดว่าอย่างงั้นนะ แล้วก็ทำท่าเหมือนจะจมน้ำ  ผมที่ถนัดการว่ายน้ำ พอเห็นอย่างงี้มีหรือจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงคนนั้นกำลังแกล้งจมน้ำเพื่อเรียกร้องความสนใจ  ผมเองซึ่งอยากใกล้ชิดกับพี่สาวของเธออยู่แล้วจึงช่วยอุ้มเธอขึ้นมา  ผมเห็นพี่สาวของเธอรีบวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง จึงอดนึกตำหนิเด็กหญิงคนนี้ไม่ได้
“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ” เธอบอกกับผมทันทีที่ขึ้นมาหาน้องสาวเธอ
“ดีนะที่ผมช่วยไว้ทัน  ทีหน้าทีหลังหัดดูแลเด็กดีๆซะมั่งสิ  ปล่อยให้ว่ายที่ลึกๆคนเดียวได้ยังไงน่ะ  เธอนี่เป็นพี่ภาษาอะไรกัน” ผมแสร้งตำหนิ  เพราะจะให้พูดตรงๆว่าเธอกำลังโดนน้องสาวหลอกก็ใช่ที่
“ขอโทษค่ะ” สีหน้าเธอเจื่อนอย่างคนสำนึกผิด จนผมอดสงสารไม่ได้ แต่ก็แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เหมือนกัน  เธอจะทำหน้าอย่างไงนะเมื่อรู้ว่าคนที่สำลักน้ำตรงหน้ากำลังโกหก
“ช่างเถอะ อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน  ผมไม่ได้อยู่ช่วยได้ทุกครั้งหรอกนะ” ผมพูดพร้อมกับพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เพราะผมทั้งขำและตื่นเต้นเหลือเกิน  ไม่เคยเป็นอย่างงี้มาก่อนเลยด้วยครับ อีกอย่างเธออยู่ในชุดว่ายน้ำที่ทำให้ผมเขิน
“เดี๋ยว  แล้วคุณชื่ออะไร” เธอตะโกนถามขณะที่ผมกำลังจะกระโดดน้ำแก้เขิน
“ก่อนจะถามชื่อคนอื่นน่ะ บอกชื่อตัวเองก่อนสิ”  ผมจึงถือโอกาสถามชื่อเธอไปในตัว
“ฝน” เป็นชื่อที่น่ารักทีเดียวครับ
“ริว”  ผมบอกชื่อผมไป และรีบกระโดดน้ำทันที เพราะถ้าขืนยืนอยู่นานกว่านี้ ผมได้หน้าแดงให้เธอเห็นแหงๆ
to be continue
ปีนี้ผมอายุ 16 ปีครับ ขึ้นไฮสคูลปี 2 แต่ว่าพ่อผมต้องย้ายกลับไปทำงานที่ประเทศไทย  ผมกับแม่จึงต้องย้ายตามไปด้วย  เห็นว่าพ่อติดต่อทางโรงเรียนที่ประเทศไทยไว้เรียบร้อยแล้ว และจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
“เฮ้ยริว แกจะไปจริงๆหรอวะ” มาซายะพูดขึ้น  มาซายะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่มของผมทีเดียว เราโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกันเป็นประจำ  ผมเองก็คงคิดถึงมันมากเช่นเดียวกัน
“อืม.. พ่อฉันต้องย้ายไปทำงานที่โน่น” ผมตอบมันอย่างเศร้าๆ
“อย่างงี้พวกเราก็คิดถึงแกแย่สิวะ” ทาคาชิ หนึ่งในเพื่อนสนิทของผมพูดขึ้น
“เอาน่า  เดี๋ยวฉันจะขอพ่อให้กลับมาเยี่ยมพวกแกทุกปิดเทอมเลย”
“ก็แค่แป็บเดียวแหละวะ  พอนานๆเข้าแกก็ขี้เกียจมา” มาซายะแย้ง
“ถ้ามาไม่ได้ฉันก็ยังติดต่อกับพวกแกทางอีเมล์ได้อยู่ดีแหละ  ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ถ้างั้นแกจะทำยังไงกับอายะจังวะ” โทรุที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง  อายะจังเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ผมสนิทด้วยมากที่สุด  ได้ยินพวกเพื่อนๆมันพูดว่า อายะจังน่ะแอบชอบผม
“ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ฉันชอบอายะจังแบบเพื่อน ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น” ผมชี้แจงใหัโทรุฟัง ผมว่าไอ้โทรุนี่แหละที่ชอบอายะจังซะเอง
“งั้นก่อนไป แกอย่าลืมไปคุยกับอายะจังให้เข้าใจล่ะ” โทรุย้ำผมอีกครั้ง  ผมเองก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว
“นี่เย็นมากแล้ว ฉันกลับบ้านก่อนนะเว้ย” ผมบอกลาเพื่อนๆ
“โชคดีเว้ย แกจะไปไทยเมื่อไหร่นะ  พรุ่งนี้รึป่าว” มาซายะถาม
“อื้ม  แล้วเจอกันนะ  ฉันคงไปประมาน 2 อาทิตย์  โชคดีนะทุกคน” ผมโบกมือลาพวกมันแล้วเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์เหงาๆ
ก่อนหน้าที่ผมจะต้องย้ายไปอยู่ประเทศไทยนั้นพ่อก็พาผมไปเที่ยวทะเลทางแถบภาคใต้ของประเทศไทยครับ นั่นก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว  ผมเป็นคนรักทะเลและชอบการว่ายน้ำมาก  ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมก็มักจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศที่โอกินาวาเป็นประจำทุกครั้งที่มีโอกาส
พอพ่อพามาที่แปลกใหม่ผมก็ตื่นเต้นมากทีเดียวครับ  เราพักโรมแรมระดับหรูเหมือนกัน  ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าโรงแรมชื่ออะไร  รู้แต่ว่ามีสระว่ายน้ำให้ผมเล่นก็พอใจแล้ว
วันที่มาเช็คอินนั้นผมเห็นอีกครอบครัวหนึ่งมาพร้อมกันครับ  ครอบครัวนั้นมีกัน 4 คน คงจะเป็นพ่อแม่ และลูกอีก 2 คน คนพี่คงอายุพอๆกับผม  เธอผอมเพรียว หน้าตาหวานแต่คมเข้ม ผิวสีแทนอย่างคนไทย ผมซอยสั้นประบ่า  อาจจะเรียกว่าเป็นรักแรกพบก็ได้มั้งครับ ที่ผมเห็นเธอคนนั้นแล้วรู้สึกถูกชะตาอย่างประหลาด  ผมว่าผมพบปลายของด้ายแดง*แล้วล่ะครับ  แต่ว่าเธอคงไม่ได้สังเกตเห็นผมหรอกครับ เพราะเธอกำลังยุ่งๆกับการตรวจเช็คกระเป๋าเดินทาง
เย็นวันนั้น ผมลงไปว่ายน้ำเล่น ผมเห็นเธอกับน้องสาวของเธอก็กำลังเล่นน้ำอยู่เช่นเดียวกันครับ  แต่ผมก็ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปทำความรู้จักหรอกนะ
แต่ว่าอยู่ดีๆ น้องสาวของเธอก็ว่ายน้ำมาหาผม  ผมคิดว่าอย่างงั้นนะ แล้วก็ทำท่าเหมือนจะจมน้ำ  ผมที่ถนัดการว่ายน้ำ พอเห็นอย่างงี้มีหรือจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงคนนั้นกำลังแกล้งจมน้ำเพื่อเรียกร้องความสนใจ  ผมเองซึ่งอยากใกล้ชิดกับพี่สาวของเธออยู่แล้วจึงช่วยอุ้มเธอขึ้นมา  ผมเห็นพี่สาวของเธอรีบวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง จึงอดนึกตำหนิเด็กหญิงคนนี้ไม่ได้
“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ” เธอบอกกับผมทันทีที่ขึ้นมาหาน้องสาวเธอ
“ดีนะที่ผมช่วยไว้ทัน  ทีหน้าทีหลังหัดดูแลเด็กดีๆซะมั่งสิ  ปล่อยให้ว่ายที่ลึกๆคนเดียวได้ยังไงน่ะ  เธอนี่เป็นพี่ภาษาอะไรกัน” ผมแสร้งตำหนิ  เพราะจะให้พูดตรงๆว่าเธอกำลังโดนน้องสาวหลอกก็ใช่ที่
“ขอโทษค่ะ” สีหน้าเธอเจื่อนอย่างคนสำนึกผิด จนผมอดสงสารไม่ได้ แต่ก็แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เหมือนกัน  เธอจะทำหน้าอย่างไงนะเมื่อรู้ว่าคนที่สำลักน้ำตรงหน้ากำลังโกหก
“ช่างเถอะ อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน  ผมไม่ได้อยู่ช่วยได้ทุกครั้งหรอกนะ” ผมพูดพร้อมกับพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เพราะผมทั้งขำและตื่นเต้นเหลือเกิน  ไม่เคยเป็นอย่างงี้มาก่อนเลยด้วยครับ อีกอย่างเธออยู่ในชุดว่ายน้ำที่ทำให้ผมเขิน
“เดี๋ยว  แล้วคุณชื่ออะไร” เธอตะโกนถามขณะที่ผมกำลังจะกระโดดน้ำแก้เขิน
“ก่อนจะถามชื่อคนอื่นน่ะ บอกชื่อตัวเองก่อนสิ”  ผมจึงถือโอกาสถามชื่อเธอไปในตัว
“ฝน” เป็นชื่อที่น่ารักทีเดียวครับ
“ริว”  ผมบอกชื่อผมไป และรีบกระโดดน้ำทันที เพราะถ้าขืนยืนอยู่นานกว่านี้ ผมได้หน้าแดงให้เธอเห็นแหงๆ
to be continue
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น