คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 เริ่มเรื่องแบบงงๆ
“พี่ฟ่าง”
“……”
“พี่ฟ่าง...”
“….อ...อือ..”
“ตื่นหน่อยสิๆๆๆ”
เสียงปลุกน้องชายสุดที่รัก เรียกพี่ตัวเล็กที่นามว่า “ฟ่าง” หรือ “ข้าวฟ่าง” ที่นอนขดตัวอยู่บนที่นอนหนานุ่ม แรงเขย่าของน้องชายยังแรงไม่พอที่จะทำให้พี่ตื่นแน่ๆ มากที่สุดก็แค่เสียงละเมอสะลืมสะลือ จนน้องอยากจะตบหัวให้รู้แล้วรู้รอด
“..อือ...ฟาง...อะไร..”
“ตื่นมาทำข้าวให้ผมกินหน่อยดิ...นะๆๆ”
ก่อนที่ผู้เป็นน้องจะยกมือโบกหัวคนที่นอนอยู่ซักป๊าป แต่คนที่นอนเหมือนจะรู้ตัว ตื่นขึ้นมาก่อนจะหันมาถามด้วยสีหน้า ตาปรือๆ น้ำลงน้ำลายขี้มูกขี้ตาเกรอะขั้นอัพเกรด หัวฟูๆ กับคำพูดสะลืมสะลือ นี่ถ้าไม่ใช่พี่เขาเนี่ย นึกว่าสัปเหร่อจากไหน มานอนห้องพี่ได้
ยังไงก็ยังดูดีวะ…
“ตื่นไปไหนแต่เช้า...เรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ?”
“อ๋อ ฟางไปทำงานบ้านไอพีร์อ่ะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวแม่งโกรธอีก เนี่ย...มันนัดแปดโมง..”
คนฟังเกาหัวแกร๊กๆ ในท่าทางที่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน จะสอบกลางภาคแล้ว ครูยังให้การบ้านมาอีกเหรอเนี่ย ผงกหัวนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจนิดๆ และสางผมนุ่มๆ มองออกไปนอกหน้าต่างคอนโดชั้นยี่สิบ แล้วจึงหันกลับมามองน้องตัวเอง
“เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อน ไปนั่งรอเลย”
“คร้าบผม!”
เจ้าของชื่อ “ฟาง” ขานรับอย่างร่าเริงเมื่อพี่ชายคนเดียวของเขายอมตื่นมาทำอาหารเช้าให้ เห็นแบบนี้อยากกระโดดจูบปากแรงๆเลยหนิ คนที่เพิ่งตื่นก็ได้แต่ขยี้ผมตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนโปรดเข้าห้องน้ำไป
.
.
.
“แล้วให้พี่ไปส่งรึเปล่าเนี่ย?”
ผ่านมาประมาณ10นาที พี่ชายคนโตของบ้านก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมเสื้อยืดสีเทากับกางเกงสบายๆ บนหัวมีผ้าวางไว้อยู่ เดินมาถึงห้องครัวก็ถามน้องที่นั่งเล่นเกมส์คุ๊กกี้รันส์ในไอโฟนอยู่ พร้อมเดินไปเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเช้า
“ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวเรียกวินแถวนี้ไปเอง”
“โอเคๆ”
พูดไปพราง ทอดไข่ดาวไป ซักพักก็ตักใส่จาน อาหารเช้าของพี่น้องสองคนนี้คือ ข้าวไข่ดาว....แหม่ ทำอย่างกะไม่เคยกิน ทุกคนก็ต้องเคยกินข้าวไข่ดาวใช่มั้ยล่ะ ยิ่งน้องมาเร่งรีบแต่เช้าอย่างนี้ มีข้าวกินก็บุญล้นหัวแล้ว...
“ไข่ดาวอีกละ...พี่ไม่คิดจะทำอย่างอื่นบ้างรึไง?”
“เอาน่า...มันก็กินได้เหมือนกันนั้นแหละ รีบๆกินไปเลย อย่าบ่นมาก”
“คร้าบ...”
พูดอย่างละอาก่อนจะเดินมานั่งตรงข้ามน้องชาย เสียงตอบกลับจากน้องดูเหมือนจะออกแนวเบื่อนิดหน่อยเมื่อพี่ชายยกจานที่ใส่ข้าวพร้อมไข่ยาวมะตูมมาวางตรงหน้า แถมซอสแม็กกี้ให้นิดหน่อยด้วย ก็เล่นให้เขากินไข่ทั้งอาทิตย์ เช้า สาย บ่าย เย็น แบบนี้อ่ะ ไปให้เบื่อได้ยังไง หน้าจะเป็นไข่ดาวอยู่แล้ว
ไข่ตอนนี้มันแพงนะ ประหยัดไว้หน่อยซี่...
ได้แค่คิดในใจ มือเรียวจับช้อนซ้อมแล้วตักอาหารตรงหน้าขึ้นมากิน ถึงจะกินแบบนี้บ่อยไปหน่อย(คิดว่าไม่น่าหน่อยนะ) แต่เขาก็ยอมรับว่าฝีมือพี่ชายนี่อร่อยแปลกๆ(?)นะ แม่บ้านแม่ศรีเรือนจริงๆ มีแฟนนี่ แฟนไม่ต้องทำข้าวเองเลยนะเนี่ย พี่เขาทำให้หมด แถมอร่อย(แปลกๆ)ด้วย
“แล้ววันนี้พี่ฟ่างไปสยามป่ะ? ฝากซื้อรองเท้าให้หน่อยดิ อาทิตย์หน้ากะจะใส่ไปกินเลี้ยงกับเพื่อนหน่อย”
“กินเลี้ยง? เลี้ยงเรื่องอะไรอ่ะ?”
ไอเรื่องซื้อรองเท้าแฟชั่นทั้งหลายหน่ะ เขาไม่ว่าหรอกว่าน้องจะฝากซื้อ เพราะที่คอนโดเนี่ย รองเท้าแปลกๆเต็มไปหมดล้วนเป็นฝีมือการเลือกของฟ่างทั้งนั้น เรียกได้ว่า มีฝีมือการเลือกขั้นเทพเลยก็ว่าได้ แต่....ทำไมต้องสยามแว้?? สงสัยคงเป็นเพราะเขาไปเที่ยวบ่อยในวันหยุดแบบนี้มั้ง อีกเรื่องที่ฝ่างสงสัยอีกก็คือ ไปกินเลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไร?
เพื่อนป่วย? เตรียมตัวสอบตกยกห้อง? ไอพีร์ท้อง?
ล้วนเป็นเรื่องที่ชั่วๆทั้งนั้น แต่ก็ไม่แปลกที่แก็งค์น้องมันจะฉลองเพราะเรื่องแบบนี้ ครั้งที่แล้วมันก็ไปกินเลี้ยงกันเพราะ โดนครูด่ากินไปสองคาบติด เขาอยากถามน้องเขามากๆว่า เพื่ออะไร?
“กินเลี้ยงเรื่องครูคุมสอบห้องผมเขาไปหาย่าที่ต่างจังหวัดอะ ครูคนสวยเค้ามาคุมให้แทน”
นั้นไง...ที่กูคิดไว้ไม่ผิด...ไอเด็กชั่ว...
เมื่อเห็นหน้าน้องที่กำลังฟินเรื่องครูคุมสอบ ทำเอาฟ่างต้องยกมือกุงขมับ ส่ายหัวกับน้องตัวดี หน้าตามันก็น่ารักนะ ทำไมแม่งเลวจังวะ ได้เชื้อใครมาเนี่ย เท่าที่จำได้ก็ไม่มีใครสันดานเลวแบบนี้ในตระกูลนี่หว่า
“เออๆ งั้นผมไปแล้วนะ อย่าลืมล่ะ รองเท้าขอเจ๋งๆนะ”
“เออไปเหอะๆ”
พูดเสร็จก็กวักมือไล่ให้ออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ไม่อยากให้น้องมันไปสาย ส่วนหนึ่งคงเพราะรำคาญด้วย คอยดูนะ ใช้ให้ซื้อของนู้นของนี่ จะหักค่าขนมสิบเท่าตัวเลย ลุกขึ้นไปเก็บจานที่แม่งกินเหลือไว้ ทิ้งลงถังขยะอย่างเสียดาย แล้วหันตัวกลับไปล้างจานอย่างเคยชิน เขาคิดไว้ว่าวันนี้ต้องหลับเอาแรงซะหน่อย เมื่อวานก็ไปกินเหล้า เอาซะเมาเป๋ไปเลย เหมือนเพื่อนแม่งจะแกล้งด้วย ต้องนอนเอาแรงซะหน่อย เมื่อล้างจานเสร็จก็เตรียมตัวจะนอนแบบนอนสต็อป แต่ก็ต้องเบรกเอี๊ยด!เพราะเสียงโทรศัพท์ดังจากห้องนอนของเขา ทำเอาหลอกหลอนและเซงไปตามๆกัน
“ฮัลโหลสัส...มีไรมึง”
//โห่มึง...เปิดคำแรกมาก็ด่ากูเลยนะครับคุณเตี้ย//
เมื่อเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ขึ้นเบอร์คนโทรว่า “ไอธันวา” ฟ่างถึงกับเซ็งไปร้อยชาติพันชาติ เพราะไอเพื่อนคนนี้แหละที่ทำให้เขาเป๋กลับบ้านเมื่อวาน เปิดฉากมาก็ขอด่าซักนิด โทษฐานมากวนเวลานอนกู
“กูไม่เตี้ยเว้ย เขาเรียกตัวเล็ก พกพาง่าย..”ก็แค่พูดเข้าข้างตัวเองล่ะวะ
//บ้านกูเรียกเตี้ยกว่าต้นมะเขือว่ะ//
“แซวกูอีกนานมั้ย? กูจะนอนนนนน”
//กูไม่ให้มึงนอน...กูจะโทรมาชวนมึงไปแดกข้าวเนี่ย//
“กูไม่ไป...ได้ข่าวเมื่อวานมึงทำกูทะเลาะกับหมาข้างห้องนะ”
//มึงอยากทะเลาะกับมันทำไมล่ะ...มาเหอะมึง มื้อนี้กูเลี้ยงเอง คนมาเยอะนะเว้ย!!”
ถึงเขาจะรู้ว่าตัวเองไม่ค่อยชอบออกตังค์เวลาไปกินข้าวกับเพื่อนสักเท่าไหร่ แล้วยิ่งเอาประเด็นว่าจะเลี้ยงมื้อนี้ มันก็น่าสนอยู่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ว่ะ กูง่วงงงงงง....
“แล้วมึงชวนไปแดกข้าวให้เสียตังค์ป่าวทำไมวะ?”
//กูมีเรื่องจะเป่าประกาศให้โลกรู้อ่ะดิ เลยเชิญพวกคุณมึงมาเป็นพยานให้กูหน่อย//
ถุ้ยยยยยย!! เพื่อนกูมันเต็มซักคนป่าววะ!?
“มึงก็ไปบอกโลกดิ มาบอกกูทำไม กูจะนอน”
//อย่าเพิ่งดิมึง เรื่องนี้เด็ดนะเว้ย! ไม่ฟังนี่พลาดมากเลยนะ//
ฟ่างคิดซักพักว่าจะไปดีมั้ย ใจหนึ่งก็ไม่อยากรู้เรื่องใครเท่าไหร่หรอกนะ รู้ไปก็รกหัวเปล่าๆ แต่อีกใจก็อย่ารู้ว่าไอคุณเพื่อนธันวาสุดแสนจะรวยคนนี้เนี่ย มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นจนต้องชวนไปแดกข้าววะ ปกติเป็นคนไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่(แม้จะบ้าก็เหอะ)
“เออๆ! กูไปก็ได้ ที่ไหนเมื่อไหร่ล่ะ?”
//ร้านที่ไปบ่อยๆ มึงมาเดี๋ยวนี้เลย กูอยู่ร้านละ//
อ้าวไอห่า! กูไม่ได้ตั้งตัวเลย
“เออ กูวางละนะ”
ไม่ฟังมันพูดตอบ ร่างเล็กก็กดวางสายอย่างหงุดหงิด วันอาทิตย์ทั้งที อยากจะนอนให้หายมึนซักหน่อย แม่งก็ชวนแดกข้าว คุยเรื่องโม้ของมันอีก ฟ่างเซ็งอ่ะฟ่างเซ็ง!
.
.
.
“มาช้านะมึงงงง เดี๋ยวให้ออกตังค์เลยหนิ”
พอมาถึงที่ร้านอาหารแนววินเทจ ทั้งร้านเต็มไปด้วยกรอบรูปสวยๆ แสงไฟถูกจัดให้เข้ากับบรรยากาศในร้าน แต่แม่งไม่เข้าก็ไอคำพูดของเพื่อนกวนตีนนี่ดิ ขัดบรรยากาศกูจัง!
เค้าพักอยู่ที่คอนโดใจกลางกรุงด้วยเหตุผลว่าอยู่ใกล้มหา’ลัย แล้วก็อยู่ใกล้โรงเรียนฟางด้วย กว่าจะเดินทางมาถึงร้านนี้ รถติดบ้างอะไรบ้าง มาถึงที่ร้านเร็วขนาดนี้ก็ถือว่าเทพมากแล้วจริงๆ
“10นาทีนี่เร็วสุดแล้วนะมึง”
“แต่มึงมาช้าสุด”
“อิเห็ดสด”
เมื่อเจอหน้ากวนของมัน ก็ขอด่าก่อนละกัน รู้สึกเพิ่งโทรหาเมื่อสิบนาทีที่แล้ว เดี๋ยวก็จับยัดกรอบรูปซะหนิ
“เอาหน่ามึง...มาๆไอฟ่าง”
เมื่อได้ยินเสียงหล่อเหมือนพระเอกฝรั่งที่ชื่อ “แจน” นั่งข้างๆไอธันวาโบกมือเรียกแล้วชี้ที่นั่งว่างๆให้ค่อยดีหน่อย ขี้เกียจทะเลาะกับหมา
“อยากแดกอะไรหล่ะ เนี่ย กูสั่งไว้เยอะละ”
ธันวาพูดพร้อมยื่นเมนูอาหารมาให้ ฟ่างกวาดสายตามองอาหารเกือบสิบอย่างบนโต๊ะมันก็ถือว่าคุ้มสำหรับคนที่มาเกือบสิบคนได้
“ไม่เป็นไรว่ะ กูกินที่มึงสั่งนั้นแหละ...ว่าแต่ไอจินไม่มาเหรอวะ”
พูดไปก็ยื่นเมนูอาหารกลับไป ตอนนี้เขาขี้เกียจกินอะไรยุ่งยาก มีไรกินได้ก็กิน ไม่ได้เรื่องมากเหมือนไอลูกคุณหนูกวนตีนแถวนี้ แล้วมองไปรอบโต๊ะสักแปปก็ถามออกมา เพราะเห็นว่าเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่ชื่อ “จิน” หรือ “เฟยจิน” ไม่มากินด้วย
แต่ทำไมเพื่อนแม่งต้องมองหน้ากูอย่างงั้นด้วยวะ?
“อ๋อ มึงก็รู้ว่าไอจินมันอินดี้แค่ไหน มันบอกว่าไร้สาระแล้วตัดสายทิ้งไปเลย”
“เออ กูน่าจะทำแบบนั้นด้วยนะ”
“ถ้ามึงทำแบบนั้นเดี๋ยวกูไปตามมึงถึงห้องเลย”
รำเอียงว่ะ ทีไอจินไม่ไปร่วมงานอะไรมันไม่เห็นเซ้าซี้เลย ต่างจากเขา เวลาไมไปงานอะไรก็ถูกลากให้ไปจนได้ ถ้าคิดในแง้ดี เขาอาจจะสำคัญในสายจาเพื่อน แต่ถ้าแง่ลบอะเหรอ...เห็นกูเป็นหมาไงว่ะ
ถึงจะกระจ่างเรื่องที่จินไม่มาแล้ว แต่ก็ยังสงสัยไอ้สายตาพวกเพื่อนว่ะ มองกูเหมือนเป็นตัวประหลาด
เอ๊ะ!
หรือกูจะเป็นหมาจริงๆเนี่ย
................................................
ตอนแรกจบแร้วววว เป็นไงบ้าง? ฮ่าๆๆๆ น้องฟ่างไม่ได้เป็นหมาหรอก
แค่เพื่อนเค้าสงสัยอะไรมากกว่า
ติดตามตอนหน้าค่ะว่าทำไมถึงมองหน้าฟ่างแปลกๆ
ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในดวงใจด้วนะค้าาาา^^
รักรีดเดอร์ค่ะ >3<
ความคิดเห็น