ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YAOI] Oh!Friend รักพี่เสียดายเพื่อน(รัก)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 เรื่องเม้าส์ภาษาหมาๆ

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 57


    ตอนที่2เรื่องเม้าส์ภาษาหมาๆ

     

     

     

     

     

         “ตกลงมึงมีเรื่องไรวะ แม่งแดกจะอิ่มอยู่แล้วเนี่ย”

         เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เพื่อนร่วมสิบชีวิตที่เริ่มอิ่มจากอาหารที่กิน จนต้องถามถึงตัวปัญหาที่พามากินข้าวเพราะอยากจะบอกเรื่องราวอันหน้ามหัศจรรย์(?)ให้โลกได้รู้ ธันวาที่กำลังนั่งเช็ดปากยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเกริ่นนำ

     

         “กูเจอคนที่ใช่ว่ะ”

         “ห๊ะ!!!

     

         เพื่อนทั้งโต๊ะที่ไม่ว่าจะเป็นฟ่างก็ตกใจสุดขีด ก็ไอหมอเนี่ยมันเจ้าชู้ก็จริงแต่แม่งเรื่องมากกับสเปกจริงอะไรจริง ไม่มีใครโดนใจมันซักคน มันถึงอยู่โสดมาได้ร่วมยี่สิบกว่าปี หรือถ้าคิดอีกแนวก็คือ แม่งไม่มีใครเอา

     

         “พี่เขาเป็นพิธีกรงานหนังสือสัปดาห์ที่แล้วว่ะ ชื่อมีมี่...ชื่อแม่งโครตคาวาอี้อ่ะ”

     

         พูดไปก็ทำหน้าฟินไป คิดถึงงานวันสัปดาห์หนังสือของมหาลัยแล้วก็จำพิธีกรสาวสวยหน้าตาดี เท่าที่ดูน่าจะเป็นรุ่นพี่ปีสาม แล้วไอธันวามันไปตีสนิทกับพี่เค้าได้ไงวะ ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป ไอรูปหล่อม่อเกรียนก็ว่าต่อ

     

         “กูรู้จักเพราะว่าเป็นเพื่อนพี่สาวกูนี่แหละ แม่งอยากจะกระโดดกอดพี่ปันแรงๆเลย”

     

         ท่าทางที่บิดตัวไปมาด้วยความเขินของไอธันวาสายฟ้าฝาด(เปลี่ยนฉายาบ่อยนะ)ทำเอาฟ่างถึงกับยู่หน้าขมวดคิ้ว แม่งปวดท้องไงวะ บิดไปบิดมาอยู่นั้นแหละ

         เห็นแล้วอยากถีบไปดาวอังคาร...

       

          “แล้วพี่มีมี่เขายังมาเป็นพิธีกรงานเกมส์วันพรุ่งนี้อีกว่ะ”

         “ไปปะหล่ะ? พรุ่งนี้เข้าคาบบ่าย”

        

         อยู่ๆเจ้าชายอย่างแจนก็โผล่ถามขึ้นกลางวง ทำเอาคนทั้งวงพยักหน้าอย่างแรงแถมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีก น่ากลัวจริงๆเพื่อนพวกนี้ แต่จะมีเหรอที่ไอฟ่างจะไป(?) จริงๆก็อยากไปหรอกนะ ถ้าไม่ใช้ไอ้ข้อความเอาแต่ใจจากใครบางคนเมื่อสิบนาทีที่แล้ว........

     

         ‘พรุ่งนี้เช้ามาหากูที่หอด้วย ไม่มากูเอาแคมปัสไปถล่มบ้านมึง’

     

         ใช่แล้ว...

         ไอข้อความที่มีขนมติดมาด้วยตลอด...

         แม่งมีอยู่คนเดียว..

         ไอ้เจ้าชายขนมหวาน.....ไอ้จิน

     

         ถ้าไม่ใช่เพราะมึงนะ กูจะได้ไปเจอพี่มีมี่คนสวยอีกรอบแล้วววว

     

         “พี่ครับ เก็บตังค์ด้วยครับ”

           

         ในขณะที่สุดหล่อม่อเกรียนเรียกพนักงานเพื่อจ่ายเงินค่าอาหารที่     ‘ฝูงหมากินกันเกือบแสน(เวอร์ไปๆ) และเจ้ามือก็ออกตังค์เลี้ยง แต่ก็ไม่ลืมถามไอเตี้ยในกลุ่ม

     

         “ไอฟ่าง พรุ่งนี้มึงไปด้วยป่ะ?”

         “เอ่อ...พ...พอดี กูไม่ว่างว่ะ”

         “ไม่ว่าง? อย่าตอแหลดิมึง”

         “เออ กูไม่ว่างจริงๆ ถ้ากูไปทันเดี๋ยวกูตามไปละกัน”

     

         ไอคนคนตอบก็ตอบแบบลังเลนิดๆ ไอคนฟังก็งอนเป็นตูดหมึกอีก แม่งโตแต่ตัวสินะ สมองแม่งยิ่งกว่าเด็กสองเดือน

     

         เออ! จำไว้นะมึง”

         เออ อยากงอนไปก็เรื่องมึง ไม่ง้อหรอกเว้ย พอจ่ายตังค์เสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บ้างก็ไปแดกต่อ บ้างก็หนีไปดูหนัง ส่วนกูนะเหรอ?

         รองเท้าไอน้องชายมันสั่งไว้

         เมื่อนึกขึ้นได้ ฟ่างจึงเดินไปโซนขายรองเท้า เข้าร้านนู้นออกร้านนี้บ้างจนเจอร้องเท้าที่ถูกใจ เลยสอยมาสามคู่ถุงใหญ่ๆ ในขณะที่ฟ่างเดินออกจากร้านแล้วก้มลงมองร้องเท้าที่ซื้ออย่างตื่นเต้น ก็เกิด....

     

         โครม!!

     

         “โอ๊ยยยย!! เจ็บฉิบหายเลย…”

         “น้อง...เป็นไงบ้าง”

     

     

    25%

        

          ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง น่าจะ 180 ได้  รู้สึกว่าจะเป็นคนชนเค้าล้มลงไป ยื่นมือมาช่วยดึงตัวขึ้น ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นด้วยหน้าตาหงุดหงิดนิดๆ ก็คนกำลังมีความสุขแท้ๆ โดนชนล้มข้าวของกระจัดกระจายอย่างนี้ก็ต้องเซ็งกันบ้าง แต่พอเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายรูปงาม ความรู้สึกนั้นก็แว๊บหายไปเลย มาแทนที่ด้วยหัวใจที่เต้นรัว

     

         “...ม...ไม่เป็นไรครับ...”

         “ขอโทษนะครับ...พี่เดินไม่ระวังเอง”

     

         เมื่อคนตัวเล็กยื่นมือไปจับมืออีกคนที่ดึงตัวขึ้นมา หน้าที่ฟ่างรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย แม้ในห้างจะแอร์เย็นฉ่ำก็ตาม จิตใจเขากำลังร้อนผ่าวขึ้นมา ยิ่งรอยยิ้มของพี่ชายคนนี้ หัวใจเหมือนแทบหยุดเต้น

     

         “...ไม่หรอกครับ...ผมต่างหากที่มัวแต่มองของจนไม่ได้ดูทางเดินเลย...”

     

         ฟ่างฉีกยิ้มแห้งๆให้พี่ชายตัวโตนี้ ก่อนจะก้มลงเก็บถุงรองเท้าที่หล่นเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น มือสวยกำลังเอื้อมไปเก็บถุงสุดท้ายที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่มือน้อยก็ต้องไปสัมผัสกับมืออุ่นที่กำลังช่วยเก็บถุงเช่นกัน หน้าวูบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะชักมือกลับ รีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่น กลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฟ่างกำลังมโนไปไกลแค่ไหนกับคนที่เพิ่งรู้จักครั้งแรก......

     

         “ว่าแต่น้องชื่ออะไรเนี่ย พี่จะได้เรียกถูก พี่ชื่อ ภูมินะครับ”

         “...เอ่อ...ข้าวฟ่างครับ....เรียกว่าฟ่างก็ได้ครับ ชื่อเหมือนผู้หญิงใช่มั้ยล่ะครับ ฮ่าๆ...”

     

         พูดไปพลางเกาท้ายทอยไปแก้เขิน ก็ชื่อเขานี่เรียกว่าถ้าไม่เห็นหน้านี้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นผู้ชาย(แม้จะเห็นหน้าก็ไม่นึกว่าเป็นผู้ชาย) แก้มนวลขึ้นสีนิด ในขณะที่พี่ชายที่ชื่อ “ภูมิ” เนี่ยก็ยังถือถุงรองเท้าให้อยู่ ก้มมองลงไปในถุงแล้วจึงถามเสียงเป็นมิตร

     

         “ชอบซื้อรองเท้าเหรอเนี่ย”

         “เปล่าหรอกครับ ซื้อไปให้น้องชาย”

         “งั้นเดี๋ยวพี่พาไปซื้อรองเท้าเอามั้ย? มีอยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านประจำพี่”

     

        พี่ภูมิพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆแต่สามารถทำให้คนตัวเล็กหวั่นไหวได้เหมือนกัน พูดตอบปฏิเสธไปแบบเขินนิดๆ แค่เจอกันครั้งแรกนะเนี่ย.....

     

         หรือไม่ใช่ครั้งแรกนะ.....

     

          “เอ่อ...ไม่เป็นไรดีกว่าครับ...”

         “ถือซะว่าแทนคำขอโทษที่พี่ชนฟ่างเมื่อกี้ละกัน...โอเคมั้ย?”

     

         รุ่นพี่ตัวสูงพูดเป็นข้อเสนอ ก้มหน้าลงมามองคนสูง160หน่อยๆ แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่รู้มั้ยว่ายิ้มนั้น มันทำให้น้องชายคนนี้ฟินไปดาวอังคาร หน้าร้อนเหมือนเป็นไข้ อาการแบบนี้จะใช่รักแรกพบรึเปล่านะ? ฟ่างยิ้มตอบแล้วพยักหน้าหงึกๆให้ ก่อนจะพูด

     

         “ถ้างั้นก็ยินดีครับ...”

     

         ร่างสูงในชุดมาเที่ยวสบายๆ พาคนที่เพิ่งรู้จักกันมายังร้านรองเท้าที่เปิดใหม่ เห็นเค้าว่ากันว่าเป็นร้านที่มีหลายสาขาและยอดนิยมมากๆ ราคาก็สมกับคุณภาพรองเท้าจริงๆ แต่ภูมิก็ยินดีซื้อให้ ฟ่างรู้สึกอยากขอบคุณมากๆ เพราะไม่ใช่แค่เค้าเลือกซื้อรองเท้าคนเดียว รุ่นพี่หน้าหล่อก็เลือกและซื้อให้ด้วย จนได้มาเกือบห้าคู่ และเมื่อถึงตอนกลับบ้าน เขาก็มาส่งที่คอนโดของฟ่าง ทำให้ฟ่างยิ่งอยากรู้จักเขา เพราะเขาทำให้ฟ่างสนใจอะไรหลายๆอย่าง อะไรที่ผู้ชายด้วยกันไม่เคยรู้สึก...

         หลงรักสินะ...

     

         “อ่ะ เอาไปเลือกซะ”

     

         หลังจากกลับมาถึงห้องพัก ฟ่างก็เดินไปหาไอ้เด็กซนอายุ16ที่กำลังนั่งส่องเฟสบุ๊คชาวบ้านอยู่ที่โซฟาราคาแพง โยนถุงเกือบสิบถุงใส่ตักน้องแล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม เวลาได้ดื่มน้ำเย็นๆแล้วรู้สึกสดชื่นจริงๆ ทำให้หน้าหายร้อนขึ้นเยอะเลย...

     

         “โห้!! ซื้อมาประชดไงพี่?”

         “ก็จะได้เลือกเยอะๆไง แล้วก็ไม่ต้องซื้อบ่อยๆด้วย”

     

         นั้นไม่ใช่ประเด็นหรอก แต่จะให้เค้าบอกไปเหรอว่ามีรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักเพราะชนหกล้มซื้อรองเท้าขอโทษ? ไม่ใช่เรื่องว่ะ แถมจะโดนน้องแซวด้วย เลยต้องปิดบังเอาไว้ อย่างน้อยก็ดีที่สุดแหละ

     

         ไม่อยากหน้าแดงต่อหน้าน้องนี้หว่า

     

         “...แน่ใจเหรอ...?”

         “เออดิ! ถามไรแปลกๆ”

         “ผมไมเชื่อว่ะ หน้าตาอย่างพี่มีเงินด้วยเหรอวะ?”

     

         เพร้ง!

     

         ไม่ใช่อะไรแตกหรอกนะ หน้าอันสวย(?)ของฟ่างแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ถามจริง แม่ไม่ได้ไปหยิบไอ้เด็กเวรนี่มาจากดาวอังคารใช่ปะ? นี่ใช่น้องกูป่ะวะ? มีตังค์ให้ใช้ก็บุญล้นหัวแล้ว เดี๋ยวปัดโบกด้วยส้นตึก

     

         “นั้นปากเหรอน้องรัก”

         พูดข่มอารมณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไอ้น้องรักที่สูงเกือบ170ก็ไม่วาย ยกร้องเท้าขึ้นมาส่องดูประมาณว่า ใช่ของแท้รึเปล่า ทำเอาไอ้พี่เตี้ยเลิกคิ้วใส่เล็กน้อย ก่อนที่กำลังเดินเข้าห้องนอนไป ถ้าไม่ใช่เพราะ...

     

         “เอ๊ะ...อะไรเนี่ยยยย.....พี่ขอโทษเรื่องวันนี้นะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก พร้อมเบอร์โทร 081-884-**** ”

     

         ห๊ะ!

     

         ซวยแล้วไงไอฟ่าง...

     

    60%




     

         ไอ้พี่ชายที่กำลังค้างอยู่กับที่ ท่าไหนท่านั้น หน้านี้กำลังแดงขึ้นมา รู้สึกใจเต้นตึกตัก ไอ้น้องชายมันรู้ได้ไงวะ หรือว่า....

     

         “ซ่อนผัวไว้หรือไงพี่”

         “....พ....พูดบ้าอะไรวะ พี่เป็นผู้ชายนะเว้ย!

     

         แล้วทำไมหน้าแดงวะพี่?

     

         ฟางพูดพร้อมยื่นกระดาษใบเล็กๆที่มีขอความเขียนไว้ มันถูกใส่ไว้ในถุงรองเท้าผ้าใบสีเทา ที่ตัวเล็กเห็นแล้วรู้เลยว่าคู่นั้น พี่ภูมิเป็นคนเลือกให้ คำพูดติดอ่างของฟ่างทำให้น้องชายสุดแสบเห็นพิรุธมากขึ้นอีก(ไม่ใช่แค่น้องชาย คนอ่านก็เห็น)ทำไมน้องชายมันตอบไม่ลังเลเลยวะว่าเป็นชายหรือหญิง หรือมันชัดเจนเกิน ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าพี่ชายของเค้าหน้าตาน่ารักมากแค่ไหน ไม่คิดว่ามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันมันจะผิดหรอกนะ

     

         “เค้ารู้จักพี่ได้ไง เล่าให้น้องฟังหน่อย”

     

         ฟางพูดอ้อนใส่พี่ชายตัวเอง เผื่อว่าพี่เขาจะยอมใจอ่อนเล่าเรื่องให้ฟังบ้าง ถึงแม้เค้าจะไม่น่ารักเท่าพี่ฟ่าง แต่ก็หน้าตาเทียบผู้หญิงได้เลยทีเดียว แต่แผนก็พัง เมื่อพี่ชายตัวเล็กรีบวิ่งเข้าห้องนอนตัวเองไปด้วยความเร็วแสง(?) ทำเอาน้องเกาหัวแกร็กๆ อะไรวะ เรื่องแบบนี้มันน่าอายตรงไหน...

     

         มันหน้าอายที่ว่าแค่เจอครั้งแรกก็หลงรักน่ะสิ....

     

         “อะไรวะ กูรู้สึกอะไรอยู่เนี่ย!

     

          ฟ่างพูดกับตัวเองเบาๆอย่างหงุดหงิด ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นซักนิด มันเกิดอะไรขึ้น เค้าเป็นผู้ชาย พี่ภูมิก็เป็นผู้ชาย แต่ทำไม...ทำไม...

     

         โอ๊ยยยย!! ไม่เข้าใจว่ะ!

     

         ขยี้หัวแรงๆ แล้วทุ่มตัวลงกับเตียงแรงๆ ขจัดความคิดทั้งหมด ความรู้สึกอึดอัดที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร อยากจะระบายออกมาจริงๆ เป็นอะไรนะ ที่เจอหน้าเขา หัวใจก็เต้นแรง ทำตัวไม่ถูก รอยยิ้มนั้น มันยังติดอยู่ในหัวของเค้า....

     

         อยากเจอเขาอีกจัง...

     

         ก๊อกๆๆ

     

         ฟ่างสดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น สิ่งที่คิดอยู่ในสมองหายแว๊บไปด้วยความตกใจ กำลังคิดอะไรเพลินๆ ดันมาขัดจังหวะซะได้ ลุกจากตียงไปเปิดประตู มีอยู่ตัวเดียวอ่ะแหละ...

     

         ไอ้ฟาง...

     

         “พี่ยังไม่บอกผมเลย พี่รู้จักคนๆนั้นได้ไง? เขาเป็นใครอะพี่?”

     

         ฟ่างครุ่นคิดซักพัก ว่าจะตอบหรือไม่ตอบดี เรื่องของหัวใจแบบนี้ ควรจะบอกคนอื่นดีเหรอ แต่น้องเค้าไม่ใช่คนอื่นน่ะสิ...

     

         เป็นน้องของเค้า...

     

         “.....เขาเป็นรุ่นพี่หน่ะ รู้จักกันเพราะเหตุบังเอิญนิดหน่อย”
         
         "บังเอิญยังไงว่ะพี่"

         
         โอ๊ยยยย!! ไอน้องงง มึงอยากรู้อยากเห็นมาจาไหนวะ!?




     

      65%

     

    น้องชายสุดแสบว่า ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนุ่มข้างพี่ชายที่ตอนนี้หน้าร้อนนิดๆ    

     

         “รู้แค่ว่าบังเอิญมากก็พอ”

         “ครับๆๆ”

     

         น้องจอมแสบก็ว่าอย่างโดยง่าย เพราะถ้าเกิดเค้าเซ้าซี้มากกว่านี้ จะกลายเป็นว่าพี่จะไม่เล่าให้ฟังอีกเลย เก็บข้องสงสัยไว้แล้วนั่งฟังต่อไป

     

         “แต่เบอร์นั้นอ่ะ พี่ไม่รู้นะ”

         “ก็เขาจะจีบพี่ ก็ต้องให้เบอร์มาดิ”

     

         คำพูดของน้องทำให้ฟ่างนิ่งไป ก้มน่าลง คิดเรื่องวันนี้ เรื่องพี่คนหนึ่ง ที่อยู่ๆก็เข้ามาอยู่ในหัวใจเค้า คิดแล้วหน้าก็แดงผางขึ้นมา อะไรนะ พี่ภูมิจะจีบ? เค้าไม่ได้คิดไปเอง?

     

         หมับ

     

         “พี่ก็น่ารักนะครับ พี่คนนั้นมาจีบก็ไม่แปลกหรอก”

     

         มือเรียวจับคางมนให้เชยขึ้นเล็กน้อย เห็นหน้าแดงก่ำของพี่มันก็อยากจะหัวเราะออกมานะ แต่ก็ต้องกลั่นไว้ก่อน แล้วพูดต่อ

     

         “แล้วผมก็รู้ว่าพี่ก็ชอบเขา”

     

         ไอเตี้ยชะงักซักพัก น้องมันมีตาทิพย์เหรอวะ ถึงมองทะลุปรุโปร่งขนาดนั้น หรือสีหน้าเค้ามันบอกชัดเจนเกินไป(ชัดมากเลยหล่ะ) สะบัดหน้าออกจากการเกาะกุมของมือเรียวแล้วนอนลงกำเตียงด้วยความเหนื่อยล้า

     

         “เปิดใจยอมรับมันเถอะครับ...”

     

         ฟางพูดก่อนจะลุกไปขยี้ผมพี่ชายนิดๆแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ นี้มันเป็นน้องหรือเป็นพี่วะเนี่ย

     

         เล่นหัวกูเลยเหรอ?

        

         “เปิดใจยอมรับมัน...งั้นเหรอ....”

     

         สบถกำตัวเองเบาพร้อมขยี้หัวยุ่งๆที่น้องแม่งทำเมื่อกี้ หลับตาลงเบาๆ อยากลืมความรู้สึกนี้จัง...แต่มันก็ทำไม่ลง

     

         เปิดใจ...มาตั้งแต่แรกแล้ว...

     

         .

         .

         .

     

         กริ๊งงงงงงงงงงงงง!!

     

         “...อ...โอ้ยยย!...”

     

         เสียงนาฬิกาปลุกคู่ใจดังขึ้นทำให้ไอ้เตี้ยในห้องร้องโวยวาย กำลังมีความสุขกับฝันหวานแท้ๆ แต่ได้ข่าวว่าเค้าเป็นคนตั้งปลุกไว้ตอนตี5นี่นา

     

         “มึงทำให้กูต้องตื่นเร็วนะ...”

     

         พูดกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมากดปิดนาฬิกาปลุก เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างผีตายซาก

     

         อะไรวะ!! กูอยากนอนสัสๆ

     

     
     

    ........................................................

    จบตอนค่า^^ เดี๋ยวไปกินข้าวก่อนแล้วมาต่อตอนหน้าให้นะค้าา

    รักหลีดเดอร์ทุกคนค่าา♥

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×