ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกาหลี<<

    ลำดับตอนที่ #172 : เอ็นทรานซ์ฤดูหนาวที่เกาหลี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 629
      0
      25 พ.ย. 51

     




    ใกล้การสอบเอ็นทรานซ์ที่ประเทศเกาหลีอีกแล้วนะเนี่ยะ ที่เกาหลีจะมีช่วงเวลาการสอบเอ็นทรานซ์
    ตอนหน้าหนาว ให้ได้เอ็นสะท้าน กันจริงๆ แหละ เพราะคนที่นั่นเค้าจะซีเรียสเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันมาก
    ไม่ใช่แค่ครอบครัวนะ แต่เป็นครูอาจารย์ รุ่นพี่รุ่นน้องที่เรียนโรงเรียนเดียวกันด้วย

    การสอบเอ็นท์สมัยนี้จะเป็นระบบใหม่ตั้งแต่ปี 1994 เรียกว่า
    대학수학능력시험 - แทฮักซูฮักนึงลยอกซีฮอม
    ยาวไปจำยากเนอะ แต่ก็นั่นแหละเด็กเกาหลีก็ไม่เรียกชื่อเต็มนี่เหมือนกัน เค้าจะเรียกการสอบนี้สั้นๆ ว่า

    수능시험 - ซูนึงซีฮอม

    ซึ่งที่เกาหลีคนที่จะเรียนจบมอปลายปี 3 (ม.6) เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สอบนะ
    เด็กหลายคนถือว่ามีความเครียดสะสมถึงขีดสุดเพื่อวันนี้จริงๆ หลังจากร่ำเรียนมาถึง 12 ปี
    วันนี้ถือเป็นวันที่จะกำหนดอนาคตของตัวเองกันเลยทีเดียว

    วันสอบวันนี้จะถือเป็นวันพิเศษมากๆ
    ทุกคนจะร่วมมือร่วมใจกันเพื่อเด็กที่กำลังจะสอบเอ็นทรานซ์
    เรื่องมันก็คือว่า ตอนเช้าในชั่วโมงเร่งด่วนวันปรกติการจราจรก็หนาแน่นอยู่แล้ว
    แต่พวกข้าราชการก็ยอมไปทำงานสาย 1 วัน (โอ้ว ... ยอมทำงานสาย ถ้าเมืองไทยจะลาหยุดดีกว่าไม๊)

    ส่วนตำรวจจะเตรียมมอเตอร์ไซค์เพื่อคอยช่วยรับส่งเด็กไปสอบให้ทันเวลา
    เพราะทุกปีจะมีเด็กที่ไปสอบไม่ทัน แล้วต้องนั่งร้องไห้เสียใจ แต่เชื่อไม๊
    คนเกาหลีแอบใจร้ายอ่ะ คือคนที่ไปสอบไม่ทันต้องรอตั้ง 1 ปี
    จะถูกหาว่า "โง่" ทำไมไม่เตรียมตัวให้ดี รู้อยู่ว่าวันนี้สำคัญของตัวเอง อะไรทำนองนี้

    เรื่องน่าทึ่งสำหรับวันนี้ยังไม่หมดนะเนี่ยะ อย่างวิชาภาษาอังกฤษจะมีการสอบทักษะการฟังด้วย
    เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดเสียงรบกวนบริเวณนั้นจะถูกห้ามหมด รวมทั้งโรงเรียนที่อยู่ในบริเวณ
    ที่เครื่องบินบินผ่าน ก็จะห้ามเครื่องบินบินใกล้โรงเรียน หรืออาจต้องบินให้สูงขึ้นเพื่อให้เสียง
    ไม่ลงมารบกวนการฟังได้ (เอาจริงเอาจังกันซะขนาดนี้ จะแก้ตัวว่าฟังไม่ชัดก็อดเลยดิ)

    การสอบในปี 2008 มีการแยกระดับของคะแนนออกเป็น 9 ระดับ ผู้ที่ได้ระดับ 1-2
    ถือว่ามีคะแนนอยู่ในกลุ่มที่สูงมาก คิดเป็น 4 % เท่านั้นเรียกว่าเป็นระดับ "เฟริสคลาส"
    ระดับคะแนนจะไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงระดับ 9 ที่มีคะแนนน้อยสุด ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนระดับนี้
    จะหา มหาวิทยาลัยเข้าจะค่อนข้างลำบากส่วนพวกมีคะแนนลำดับต้นๆ
    มักจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล คณะแพทย์ จะได้รับความนิยมมากๆ

    อีกเรื่องน่าทึ่งที่พอรู้แล้วนะก็อยากไปเห็นบรรยากาศจริงๆ ก็คือ ตั้งแต่ตอนเช้าของวันสอบ
    ก่อนถึงเวลาเข้าห้องสอบ ไม่มีอะนะที่จะมานั่งทวนข้อสอบกันอ่ะ เพราะว่าพวกรุ่นพี่ (ที่เรียนจบแล้ว)
    รุ่นน้องของโรงเรียน และครูอาจารย์จะไปร้องเพลงประจำโรงเรียน เพลงเชียร์นักเรียนของตัวเองที่สถานที่สอบ


    รุ่นพี่ให้กำลังใจ



    รุ่นน้องให้กำลังใจ (จริงใจมาก)


    คุณครูมาให้กำลังใจ


    ขอบคุณคร้าบผมจะทำให้ดีที่สุด

    เค้าว่ากันว่าบรรยากาศจริงจัง ประทับใจมาก แต่ถ้าเป็นเราไม่รู้ว่าจะยิ่งเกร็งหรือจะรู้สึกดีขึ้นแฮะ
    ส่วนพ่อแม่ก็จะไปที่วัดนั่งสวดมนต์ทั้งวันประมาณ 108 จบ เพื่อขอพรให้ลูกสอบได้
    และก่อนออกจากบ้านก็จะให้อมลูกอมเกาหลีโบราณชื่อว่า 엿 - ย็อต

    ให้เป็นของขวัญพิเศษเป็นเคล็ดว่าสอบติด หรือก็จะมีการให้ขนม 찹쌀떡 - ชับซัลต็อก
    ที่มีลักษณะเหนียวๆ คล้ายขนมโมจิญี่ปุ่นให้กันด้วย


    อันนี้เป็นต็อกอย่างหนึ่งนะ

    อ่า ... โทษทีลืมเล่าไปว่าสมัยก่อนการสอบจะเป็นแบบข้อสอบความจำที่เอาความรู้
    ตั้งแต่เรียนมาทั้งหมดสมัยม. 1 - ม. 6 อ่ะ มาเป็นข้อสอบเข้า ซึ่งก็ทำให้ต้องตั้งใจเรียนทุกวิชา
    และต้องจำทุกอย่างที่เรียนไปทั้งหมด สมัยนั้นคนที่มีความจำดีก็จะสอบได้
    แต่ข้อเสียก็คือบางคนที่มีความสามารถเฉพาะด้านอย่างเช่น เก่งเลขจีเนียสๆ ไปเลย
    หรือเก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่อ่อนวิชาอื่นก็จะสอบเข้าไม่ได้ ซึ่งเป็นการเสียบุคลากรที่มีความชำนาญ
    เฉพาะด้านในอนาคต เกาหลี จึงไปเลียนแบบวิธีการสอบ SAT ของอเมริกา แล้วแยกเป็น 4 วิชา
    ในการสอบเอ็นท์ ก็คือ ภาษาเกาหลี  คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (รวมกับสังคมศาสตร์) และภาษาอังกฤษ ซึ่งก็นี่แหละมาเป็นการสอบที่เรียกว่า ซูนึงซีฮอม ประการฉะนี้


    นั่งรอข้อสอบโอยเครียด


    ที่จริงซูนึงซีฮอม นี้ก็มีปัญหาคล้ายๆ กับสอบแบบ โอเน็ต - เอเน็ต บ้านเรานี้แหละ
    ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ รวมทั้งมีการโกงข้อสอบกัน
    โดยใช้มือถือเหมือนเมืองไทยแต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะจับได้ แต่พวกที่สอบเสร็จแล้ว
    ก็จะต้องรอผลการตรวจอีกเป็นเดือน เพราะว่าเค้าจะเช็คคำตอบจากกระดาษคำตอบที่เรียกว่า OMI Card
    ก็คือกระดาษคำตอบแบบใช้ดินสอฝนๆ บ้านเรา เสร็จแล้วก็จะมาใช้คนตรวจอีกทีกัน
    คอมพิวเตอร์ผิดพลาด ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็จะมีรายการทางทีวีที่จะมีการเฉลยข้อสอบกันเลยทำให้เด็กๆ สามารถรู้
    ได้ว่าตัวเองสอบได้คะแนนสักประมาณเท่าไร (ยกเว้นฝนผิดเอง)
    ซึ่งอันนี้ก็ดีนะ เพราะว่าบางทีคำตอบมันกำกวมใช่ป่ะ ก็จะสามารถแย้งไปยังกรรมการสอบได้
    หรืออาจารย์ออกข้อสอบผิดก็จะรู้ได้เลย หลังจากคะแนนออกมาแล้วคนที่ได้รับคะแนนสูงๆ
    โรงเรียนก็จะทำป้ายขนาดใหญ่มากๆ เอารายชื่อนักเรียนของ
    โรงเรียนที่สอบติดขึ้นโชว์ให้คนทั่วไป
    ได้เห็นด้วย อ่า ... ภูมิใจๆ


    คุณพ่อคุณแม่....ถึงคุณลูก

    เกาหลีนี่ ทำอะไรดูจะต้องเป็นเรื่องจริงๆ จังๆ ขั้นเทพกันไปหมดเลยนะ เฮ่อ ปล่อยวางกันซะบ้างก็ดีนะพี่น้าาาาาาา  เรื่อยๆ สบายๆ แบบน้องไทยบ้างก็ได้ (มั้ง)

     






    เรียบเรียงเนื้อหาโดย Ingigayo + saranghey

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×