ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO Fiction] KISS GOODBYE [Kris+Lay,Krislay]

    ลำดับตอนที่ #9 : KISS GOODBYE [Chapter 8]

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 61


    Titile: KISS GOODBYE [Chapter 8]
    Author: Angel Midori
    Genre: Romantic Drama
    Rating: PG
    Pairing: KrisLay


    Writer Talk : อย่างที่ talk ไป chapter ก่อนว่าตอนนี้มี NC ฉะนั้นก่อนอ่านตอนนี้ให้เช็คเมล์ก่อนนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้ขอก็ขอได้ก่อนเลย ที่อยากให้อ่านก่อนเพราะว่ามันมีเนื้อเรื่องที่มีผลต่อความรู้สึกของคุณหมอในตอนถัดๆ ไป ถ้าไม่ได้อ่านอาจจะขาดอรรถรสและความเข้าใจได้อะคะ ไม่ได้เรียกคอมเมนท์แต่อย่างใดแต่มันค่อนข้างสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักอะคะ

    แล้วอีกอย่างได้มีโอกาสคุยกับรีดเดอร์ที่อ่านเรื่องนี้ แล้วทำให้ปุ้มอยากอธิบายอะไรบางอย่างที่จะทำให้การอ่านเรื่องนี้อินขึ้น ปุ้มอยากให้อ่านฟิคเรื่องนี้ มองเป็นนิยายเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่แฟนฟิคชั่น แบบที่ว่าชาย-ชาย คบกันรักกันเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ๆ ให้มองเรื่องนี้เป็นนิยายที่อิงความจริง กำลังเล่าเรื่องของชายหนุ่มคู่หนึ่ง โดยอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานที่ดีมาก มีหน้ามีตาในสังคม เกิดในครอบครัวมีหน้ามีตา และคอนเซอร์เวทีฟ แบคกราว์ของเรื่องเกิดที่ประเทศเกาหลีใต้ ที่ยังไม่เปิดรับรสนิยมรักร่วมเพศ หรือการเป็นกระเทย หรือเกย์ จัดคนประเภทนี้ไว้อีกกลุ่มหรือชนชั้นนึงเลย เค้าไม่โอเพ่นพอที่จะยอมรับคนในกลุ่มนี้ให้ออกหน้าออกตาคนกลุ่มนี้ยังถูกเหยียดหยามอยู่ และก็ไม่มีใครกล้าเปิดเผยเพราะมีผลกระทบต่อชีวิตแน่ๆ

    ส่วนอีกฝ่ายถูกมองว่าเป็นเด็กขายตัว สถานะเด็กขายตัวนั้นยอมถูกกดลงไปอีก ให้นึกภาพผู้ชายสักคนจ่ายเงินซื้อเด็กขายตัว หรือพวกเด็กเสี่ย สถานะตรงนั้นถูกกำหนดไปแล้วว่าจ่ายเงิน บ้าน รถ คอนโด ตอบแทนกัน แต่ไม่ผูกมัด และไม่เชิดหน้าชูตา ฉะนั้นสถานะของอี้ชิงคืออยู่ในจุดนั้นของคุณหมอนั้นแหละค่ะ แถมคุณหมอมีสถานะข้างบนที่กล่าวมาค้ำคอ และไม่อยากมีความรักเพราะกลัวการผูกมัด หรือกลัวความรักจะทำให้ตัวเองลำบากเข้าไปอีก

    อี้ชิงจึงอยู่ในสถานะ ไม่ได้รักคนที่เขาไม่รักเรา แต่อยู่ในสถานะ รักคนที่เขาไม่อยากที่จะมีความรักมากกว่า

    เรื่องการไม่ยอมรับของสังคมของเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องหลักที่คลุมเรื่องนี้ทั้งหมดอยู่อะนะคะ ถ้ารีดเดอร์มองข้ามมันไปกลัว่าความอินมันจะน้อยลง

    ขอบคุณนะคะ สำหรับการทนอ่านทอล์คยาวๆ 





    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ฉากที่ไม่ได้ลงในฟิคได้ที่ Page FB นะคะ https://www.facebook.com/AngelMidoriFiction?ref=hl


    >>> Kiss Goodbye<<<


     

    แสงแดดร้อนที่รอดผ่านม่านหน้าต่างหนาทึบของห้องพักสีอ่อน ทำให้อากาศที่อุ่นจากฮีทเตอร์ยิ่งอุ่นร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก ถึงแม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวหากแต่แสงแดดก็ไม่ลดทอนความเจิดจ้าลง โดยเฉพาะเวลาที่ล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยงวันเช่นนี้

     

    คริสอู๋เผยอเปลือกตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าอากาศไม่ได้สบายจนชวนนอนต่อ เขาขยับกายเล็กน้อยก่อนจะเหลียวไปมองพื้นที่ข้างกายของตัวเอง

     

    ตรงนั้นคนตัวเล็กยังหลับตาพริ้มอยู่ แก้มใสที่ป่องออกมาดูน่ารัก อาจเพราะเจ้าตัวยังไม่พ้นวัยเด็กความน่ารักแบบเด็ก ๆ จึงยังมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด คริสลอบยิ้มกับภาพตรงหน้า ปรกติเขาไม่เคยตื่นก่อนอี้ชิงเลย แต่เมื่อคืนมันคงทำให้เด็กน้อยคงอยากจะนอนพักผ่อนให้มากกว่านี้

     

    ความรู้สึกเอ็นดูมันฟุ้งวนอยู่ในอก... ยิ่งรับรู้ว่าอีกฝ่ายบริสุทธิ์กว่าที่ตัวเองเข้าใจก็ยิ่งเอ็นดู

    คริสไล้ปลายนิ้วกับเรือนผมนิ่มเบาๆ ก่อนจะสำรวจรูปหน้าหวานน่ารัก ที่เขาไม่ได้มีโอกาสพินิจเช่นนี้บ่อยนัก

     

    ในความน่ารัก เด็กคนนี้ยังแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลง เสน่ห์ที่ทำให้เขาเผลอไผลชักชวนเด็กคนนี้ให้ไปต่อกับเขานอกจากความสงสารในครั้งแรกที่พบกัน..

     

    ความเจ้าชู้รักสนุกทำให้เขาอยากลิ้มลองเด็กหนุ่มหน้าตาดี ที่ดูอ่อนแอ แต่มีเสน่ห์ และยิ่งลิ้มลองเขายิ่งยากจะเลิก เพราะเลย์มีมากกว่ารสเสน่หาที่ตอบสนองความสุขให้กับเขา...

     

    และยิ่งยามที่ได้รับรู้มากกว่าที่เคยรู้ ความรู้สึกที่ไม่อยากปล่อยมือเล็ก ๆ นี้ไปจากมือของเขาก็ยิ่งมากขึ้น พอมาคิดว่าถ้าต่อไปเด็กคนนี้ไม่ได้เงินจากเขาอีก เลย์ก็อาจต้องไปรับแขกคนอื่นอีก แค่คิดเขารู้สึกไม่พึงใจ...

     

    เขาก็แค่อยากครอบครองร่างกายนี้เพียงคนเดียว และเขาก็พร้อมจะแลกเม็ดเงิน กับข้อแลกเปลี่ยนนี้โดยไม่อิดออด..

     

    หากแต่ตอนนี้กลับมีเสียงเล็กๆ ของหัวใจกำลังกระซิบบอกเขา.......

     

    แค่จองจำอีกฝ่ายด้วยความรัก ใช้หัวใจแลกกาย ใช้หัวใจแลกชีวิตของอีกฝ่ายจะไปยากเช่นไร.....

     

    หากแต่คริสเลือกจะปล่อยเสียงนั้นให้ลอยหายไป...

     

    เพราะเขารู้ดีว่า การใช้หัวใจแลกนั้นมูลค่ามันสูงค่าเกินกว่าจะมาแลกกันได้...

     

    และเพราะเขามิได้อยากให้ใครครอบครองหัวใจของเขา ไม่อยากแลกความเสี่ยงกับความรู้สึกคลั่งไคล้...ไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป...ไม่อยากหลอกลวงใครให้ลุ่มหลงหากเขาไม่คิดที่จะจริงจัง และตอนนี้เขาก็แค่อยากครอบครองร่างกายของอีกฝ่ายไม่ใช่หัวใจ

     

    ร่างกายแลกเงิน.....จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ของทั้งเขาและเลย์

     

    >>>>>Kiss Goodbye<<<<<

     

    คริสปล่อยให้เด็กหนุ่มนอนต่อจนล่วงเลยเวลาเที่ยง และเมื่อร่างกายเริ่มบอกให้เขาหาอะไรใส่ท้อง ชายหนุ่มจึงปลุกเด็กน้อยขี้เซาขึ้นมา...

     

    กว่าอี้ชิงจะเดินสะโหลสะเหล่ไปอาบน้ำแต่งตัวก็กินเวลาไปจนถึงช่วงบ่าย แต่ข้อดีคือที่ร้านอาหารภายในโรงแรมนั้นแทบจะไร้ผู้คน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    คริสเดินนำเด็กหนุ่มลงมาที่ร้านอาหาร คนตัวเล็กแอบเหลียวมองภาพรอบตัวโดยที่คริสแอบมองภาพนั้นอีกที

     

    เลย์เป็นเด็กที่ทำอะไรระมัดระวังเสมอ แม้ยามที่ตัวเองสนใจใคร่รู้อะไรก็จะไม่แสดงออกโจ่งแจ้ง เลย์ถามน้อย แต่ใช้วิธีสังเกตทดแทน..

     

    “อยากกินอะไรเพิ่มไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเขาจัดการสั่งอาหารไปกับบริกรสองสามอย่าง เด็กหนุ่มส่ายศีรษะเป็นคำตอบกลับมา คริสจึงส่งเมนูอาหารคืนให้บริกรกลับไป

     

    เลย์ไม่เรียกร้อง ไม่เคยขออะไรเพิ่มจากที่เขาหยิบยื่นให้ เด็กคนนี้เป็นเช่นนี้เสมอ

     

    “ที่นี้มีเปียโนด้วย” อยู่ดีๆ เด็กหนุ่มก็เอ่ยอุทานออกมาเมื่อเหลือบไปเห็นที่มุมห้อง

     

    นานๆทีที่จะเห็นเด็กคนนี้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ ดวงตากลมใสยังมองเจ้าเครื่องดนตรีนั้นราวกับอยากจะเข้าไปสัมผัสมัน

     

    “เธอเล่นเป็นเหรอ”

     

    คำตอบคือการส่ายศีรษะกลับมาให้

     

    “ผมอยากเล่นเป็นฮะ เคยเห็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเล่น แล้วก็จำมาบ้าง แต่ดีดจริงๆ จังผมทำไม่เป็น”

     

    “ถ้าอย่างนั้นก็พอดีดได้บ้าง”

     

    อี้ชิงพยักหน้ารับ

     

    “ได้บางเพลงครับ ผมอ่านโน้ตไม่เป็น ไม่รู้คอร์ด แต่จำวิธีดีดของรุ่นพี่แทน”

     

    “จริง ๆ ฉันดีดเปียโนเป็นนะ เคยเรียนอยู่หลายปี” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยบอก และนั่นก็เรียนความสนใจจากคนตรงหน้าให้หันมามอง

     

    คุณหมอน่าอิจฉา...คุณหมอมีทุกอย่างในสิ่งที่อี้ชิงนึกอยากมี....

     

    นายแพทย์หนุ่มเดินไปที่อัปไรท์เปียโนสีดำที่วางอยู่มุมห้อง เขากดคีย์เปียโนด้วยปลายนิ้วจนออกมาเป็นท่วงทำนองเพลงที่คุ้นหูของเด็กหนุ่ม เพลงที่เหมือนเคยได้ยินตามรายการโทรทัศน์บ่อยๆ

     

    อี้ชิงก้าวเท้าตามมายืนชิดใกล้และมองภาพตรงหน้าด้วยความสนใจ และเมื่อนายแพทย์หนุ่มเห็นภาพนั้นเขาก็ลอบมองใบหน้าน่ารักที่เผลอแย้มยิ้มที่จนเห็นลักยิ้มที่แก้มขวาชัด..

     

    ดูท่าทางเลย์คงจะสนใจเจ้าเครื่องดนตรีนี้มากจริงๆ

     

    “ลองเล่นดูซิ”

     

    คำเชิญชวนทำให้อี้ชิงต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ คริสพยักพเยิดให้เด็กหนุ่มทดลองกดนิ้วกับคีย์ดู อี้ชิงยืนครุ่นคิดสักพักก่อนจะใช้นิ้วเล็กๆ กดคีย์เป็นเพลงที่ตัวเองจดจำได้

     

    เสียงเพลงไม่คุ้นหูนั้นดังเข้าสู่โสตประสาทของคริส อี้ชิงใช้วิธีจิ้มดีดหากแต่เพลงที่ได้ยินนั้นกลับฟังดูไพเราะ แปลกหู

     

    “เธอดีดเพลงอะไร”

     

    Kiss Goodbye ฮะ”

     

    “เพราะดี”

     

    เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะจิ้มดีดเพลงนั้นต่อไป แต่ยังไม่ทันไรเด็กหนุ่มก็หยุดการกระทำนั้นลง

     

    “ทำไมหยุดเสียล่ะ”

     

    “ผมดีดได้แค่นี้ฮะ ผมจำได้แค่นี้ ผมเคยให้รุ่นพี่เขาสอนให้ แต่ก็สอนได้ไม่จบเพลง” คุณหมอหนุ่มพยักหน้ารับฟัง และแอบหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าของอี้ชิงมุ่ยลง ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงโน้ตตัวตัวไปต่อ

     

    “ไปกินข้าวเหอะ” คริสอู๋ลูบเรือนผมหยักศกเบาๆ  ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะ หากแต่เด็กหนุ่มยังคงกดคีย์เปียโนเพื่อเล่นเพลงนั้นท่อนเดิมซ้ำ ๆ อย่างตั้งใจ

     

    >>> TBC <<<


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×