คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : KISS GOODBYE [Chapter 2]
Titile: KISS GOODBYE
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG
Pairing: KrisLay
Writer Talk : ขอบคุณในทุกๆ คอมเมนท์นะคะ แล้วดีใจที่มีคนสนใจเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องเกริ่นบอกเลยว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นแนว realistic ค่ะ อิงความจริงบนวิถีโลกม๊ากมาก ไม่ได้นิยายจ๋านัก ฉะนั้นตัวละครจึงมีเหตุผลและที่มาที่ไปสูง อย่างที่มีเมนท์เชียร์ให้คุณหมอเอาอี้ชิงเป็นแฟน บนความเป็นจริงคงยากเพราะตอนที่แล้วคุณหมอได้บอกไว้แล้วว่า รสนิยมทางเพศของคุณหมอไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมโดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่การงาน และสังคมมีหน้ามีตา และตอนต่อๆ ไปจะบอกเหตุผลที่ลึกซึ้งไปอีกอะคะ แล้วนี่คือสาเหตุที่คุณหมอไม่เคยมีแฟนหรือความสัมพันธืจริงๆ จัง ๆ กับใครสักคน
ตอนนี้มีซีน NC นะคะ ไม่ได้ซี๊ดซ๊าดหวือหวา แต่เป็นส่วนสำคัญที่จะอธิบายอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครค่ะ ปุ้มขออนุญาตที่จะไม่ลงที่เด็กดีนะคะ (เอ็นซีอนุบาลกว่านี้ก็เคยโดนแบนมาแล้ว 555)
ใครจะอ่าน NC ขอให้คอมเมนท์ที่ตอนนี้เท่านั้น ตอนนี้นะคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะหาไม่เจอ แล้วลงอีเมล์ค่ะ ถ้าใครลงอีเมล์แล้ว คอมเมนท์แล้วแต่ปุ้มยังไม่ส่งให้ค่อยไปตามทวงได้ที่ Page FB นะคะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงเปิดล็อกประตูห้องทำให้คนที่นั่งจมกับโซฟาในห้องรับแขก เพื่อดูสารคดีในวันพักผ่อนต้องเหลือบไปมอง และภาพที่ปรากฏกับหน่วยตาของเขาคือใบหน้าน่ารักที่คุ้นเคยกำลังแทรกกายผ่านประตูเข้ามาอย่างยากลำบาก เพราะสองมือของอี้ชิงเต็มไปด้วยถุงข้าวของ
“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” คุณหมอคริสถามในระหว่างที่เดินไปช่วยถือถุงใบใหญ่ให้เด็กหนุ่ม
“ของกินฮะ”
“ทำไมมันเยอะขนาดนี้”
“เออผมซื้อมาเก็บไว้ในตู้เผื่อให้คุณคริสเก็บไว้ทานด้วย”
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วของพวกนี้ฉันจะต้องจ่ายเพิ่มให้เธอด้วยหรือเปล่า”คริสถามพลางรื้อถุงเครื่องดื่มจำพวกเบียร์ขึ้นมาดู และจับมันใส่ยัดใส่ตู้เย็นไปแบบลวก ๆ
“ไม่ต้องฮะ” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และหันหน้าไปจัดการกับอาหารที่ตัวเองซื้อมา
“แล้วเงินน่ะพอใช้เหรอ” ถึงน้ำเสียงที่ถามจะดูเฉยชาหากแต่ประโยคคำถามในเชิงห่วงใยมันก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดี หลายๆ ครั้งอี้ชิงก็อยากให้คริสเลิกคุยกับเขาเรื่องค่าตัว เพราะมันทำให้อี้ชิงรู้สึกผิด และอับอาย แต่เขาก็ไม่เคยที่จะได้บอก แต่จากประโยคคำถามเมื่อครู่ และด้วยความคุ้นชินกันมาหลายเดือนมันก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่า ที่คุณหมอถามเรื่องเงินไม่ใช่จะดูถูกแต่ถามเพราะเป็นห่วงกลัวเขาไม่มีเงินจะใช้เสียมากกว่า
“พอฮะ ไม่ต้องห่วง คุณคริสไปรอข้างนอกดีกว่าเดี๋ยวผมจัดอาหารไปให้ทาน”
“ก็ดี”คริสยักไหล่แล้วเดินกลับไปนั่งดูสารคดีต่อ เขาแอบเหลือบมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่กำลังวุ่นวายจากการจัดข้าวของบนซิงค์พลางสงสัยว่าอี้ชิงปฏิบัติแบบนี้กับคนอื่นๆ นอกจากเขาด้วยหรือไม่ หรือมันเป็นเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับเขา
.....................
“เออนี่ฉันจะไปอเมริกาไปอบรม เธออยากได้อะไรไหม” คุณหมออู๋เอ่ยถามคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารอยู่ โดยที่เขากำลังจิบเบียร์ไปพลางๆ หลังอาหารมื้อเย็น
และพอเมื่อได้ยินคำถามจางอี้ชิงจึงเงยหน้าขึ้นมาและเลิกคิ้วเล็ก ๆ ก่อนจะส่ายศีรษะเป็นคำตอบ.
“ไม่เอาเหรอ อืมถ้าอย่างนั้นถ้าเจออะไรน่าสนใจฉันจะซื้อมาฝากเธอแล้วกัน”
“ขอบคุณครับ”
“ฉันจะไปอบรมสักประมาณสามอาทิตย์ ระหว่างนี้ก็คงไม่ได้ติดต่อหาเธอ” คำพูดเรียบเรื่อยของคริสไม่ได้ทำให้อี้ชิงเงยหน้าจากจานอาหาร หากแต่เด็กหนุ่มเลือกจะตอบรับด้วยการพยักหน้ารับเบาๆ
คุณหมอคริสยังคงเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะไปอบรมให้เด็กหนุ่มฟัง อี้ชิงทำได้แต่นั่งเงียบฟังไป หากแต่ในความเงียบงัน ไม่ได้หมายความว่าเด็กหนุ่มไม่รู้สึก.....
เพราะเมื่อได้ยินว่าจะไม่ได้เจอเจ้าของอ้อมกอดใจดีนี้ถึงสามอาทิตย์ใจของเขาก็วูบโหวง ราวกับหัวใจลอยหายไปเสียแล้ว
“นี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่า” คริสเอ่ยกระเซ้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งนิ่งไม่มีปฎิกิริยาอะไรกับคำพูดของเขาเลย คริสลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร และหยิบขวดเบียร์ไปทิ้ง อี้ชิงเองก็รีบลุกตามและเก็บกวาดโต๊ะอาหาร เขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะนั่งเล่นเรื่อยเฉื่อยได้ เพราะถึงมันจะไม่ใช่หน้าที่แต่อี้ชิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายจ่ายเงินนั้นมาให้เขาทำไม เขาจึงควรจะดูแลเอาใจอีกฝ่ายให้พึงพอใจที่สุด
อี้ชิงเก็บกวาดจานชามที่เพิ่งกินเสร็จในระหว่างที่นายแพทย์หนุ่มเข้าไปอาบน้ำ เด็กหนุ่มตัวเล็กค่อย ๆ เรียงจานอย่างเรียบร้อย พลางรู้สึกหวาดกลัวว่าเขาอาจจะไม่มีโอกาสกลับมาทำอะไรเช่นนี้อีก
สามอาทิตย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้
ตั้งแต่รู้จักกันนายแพทย์คริสอู๋ไม่เคยเดินทางไปไหนไกล ทุกๆ อาทิตย์อี้ชิงจะได้พบกับนายแพทย์หนุ่ม หากแต่นี้คงจะเป็นช่วงเวลาที่จะไม่ได้พบกันยาวนานครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกัน และอี้ชิงกลัวว่ามันอาจเป็นการไม่ได้พบกันตลอดไป
อี้ชิงรู้ว่าต่อให้เขาอยากพบเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเป็นฝ่ายติดต่อหาอีกฝ่ายก่อน ไม่มีสิทธิแม้แต่จะถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ใดๆ ของนายแพทย์คริส
+++++++ Kiss Goodbye ++++++
NC {Pleas go to my page}
+++++++ Kiss Goodbye ++++++
คนไม่เคยเหงาก็คงไม่รู้ว่าความเหงาเป็นเช่นไร ส่วนคนที่ต้องตกอยู่กับความเดียวดาย เมื่อยามเหงาก็ยิ่งรู้สึกเหน็บหนาว เสียจนปวดร้าว ราวกับความเยียบเย็นของหิมะในฤดูหนาวที่เสียดแทงเข้ามาในกระดูก
จางอี้ชิงเดินฝ่าอากาศเย็นของยามค่ำคืนในช่วงต้นฤดูหนาว ออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน สถานีที่เจ้าตัวมาบ่อยรองจากสถานีใกล้ห้องพักของเขา
สถานีที่อยู่ติดกับคอนโดมีเนียมของนายแพทย์คริส....
อาทิตย์กว่า ๆ หลังจากที่นายแพทย์หนุ่มไปอเมริกา และไม่มีการติดต่อใด ๆ มาหาอี้ชิง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากแต่อีกฝ่ายติดต่อมาต่างหากซินั่นถึงจะเป็นความแปลกในความคิดของอี้ชิง
แต่การขาดหายไป หลังจากที่คุณหมอคริสเป็นเหมือนกิจวัตรที่อี้ชิงต้องพบเจอทุกอาทิตย์เป็นเวลาร่วมครึ่งปีนั้นมันทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแปลก....
อี้ชิงรู้สึกเหงา เคว้งคว้าง เหน็บหนาว...... และคิดถึง
เด็กหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะรู้สึกผูกผันกับคนใจดีคนนี้ได้มากขนาดนี้ เขาไม่คิดว่าความคิดถึงจะนำพาเขามายังที่นี่ได้ หากแต่อี้ชิงทนไม่ไหวที่จะอยู่คนเดียวในห้องพักเล็กๆ ของเขา
เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปยังคอนโดมีเนียมราคาแพง พนักงานรักษาความปลอดภัยคนที่รับเวรประจำในช่วงดึกเงยหน้ามองอี้ชิง เด็กหนุ่มเดินผ่านไปและแสกนคีย์การ์ดในมือเพื่อเข้าไปในบริเวณตึกเหมือนเช่นทุกทีที่ทำ หากแต่ทุกครั้งเขาจะมาในตอนเย็นไม่ใช่เวลาเกือบเที่ยงคืนขนาดนี้
อี้ชิงรู้ว่าตัวเองทำตัวประหลาด แต่เขาก็ไม่อยากจะนอนเหน็บหนาวในคืนวันอาทิตย์ด้วยความเดียวดาย เขาคงเสพติดรสสัมผัส และความอบอุ่นของนายแพทย์หนุ่มคนนั้นไปแล้ว ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายมองเขาเป็นเพียงเด็กขายบริการ ที่ให้ความสุขแต่เรื่องบนเตียงก็เท่านั้น
แค่คิดมันก็เจ็บร้าวเสียจนรู้สึกร้อนผ่าวที่ปลายจมูกเล็ก ๆ ....
อี้ชิงกดเปิดประตูห้อง ไฟในห้องมืดสนิทจนเด็กหนุ่มต้องพยายามคล่ำหาวิธีเปิดไฟอยู่สักพักเพราะเขาไม่เคยอยู่ในห้องนี้คนเดียวมาก่อน เพียงแต่พอจะเดาวิธีเปิดปิดไฟได้จากที่เคยใช้กับห้องครัว ห้องน้ำ หลังจากที่จัดการกับไฟในห้องพร้อมทั้งฮีทเตอร์ได้แล้ว เด็กหนุ่มก็พาตัวเองทรุดนั่งลงกับโซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก อี้ชิงค่อยๆ เอียงตัวนอนลง และซุกหน้ากับหมอนอิงใบใหญ่ที่นายแพทย์หนุ่มมักใช้หนุนนอนดูโทรทัศน์บ่อยๆ เพราะที่หมอนนั้นยังอวลกลิ่นหอม กลิ่นที่เหมือนเสื้อผ้าของคุณหมอคริสอยู่
อี้ชิงเกลี่ยนิ้วเล่นไปกับคีย์การ์ดในมือ และมันทำให้เจ้าตัวนึกถึงวันที่เจ้าของห้องยื่นการ์ดใบนี้ให้กับเขา
“อ่ะ....เอาไป เธอจะได้เข้ามาห้องนี้ได้สะดวก” อี้ชิงเลิกคิ้วมองตามวัตถุที่ชายหนุ่มยื่นส่งมาให้
“คุณไว้ใจผมเหรอฮะ”
“ก็ห้องนี้มันไม่ได้มีอะไร แต่ถ้าเธออยากจะได้อะไรขอฉันดีๆ ก็ได้ แค่อย่ามาทำร้ายฉันก็พอ ฉันกลัวเจ็บ” คริสพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ซึ่งเด็กหนุ่มก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเล่น
“คุณคริสฮะ”
“หือม” คริสอู๋จ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่จ้องมองเขาด้วยแววตาจริงจัง ซึ่งไม่มีแววตลกขบขันไปกับมุกของเขาด้วย จางอี้ชิงกัดริมฝีปากเล็กสีสดนั้นไปด้วยระหว่างที่มอง คริสจึงเลิกคิ้วเพื่อทวงคำถามอีกครั้ง
“ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงไว้ใจผม ทำไมถึงกล้าเรียกผมขึ้นมาในรถวันนั้น”
นายแพทย์หนุ่มเผยรอยยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่อี้ชิงรู้สึกว่ามันอบอุ่นมาก
“ฉันเห็นแววตาของเธอ แววตาที่กำลังบอกฉันว่าเธอไม่มีที่ไป และต้องการใครสักคน ฉันก็เลยเรียกเธอขึ้นมา และรู้ไหมถึงตอนนี้เธอก็ยังมองฉันด้วยแววตาแบบนั้น”
.
.
.
.
อี้ชิงกลั้นก้อนสะอื้นที่อยู่ดีๆ มันก็ล้นขึ้นมาเมื่อนึกถึงประโยคนั้น และในเวลาแบบนี้เด็กหนุ่มถึงได้เข้าใจในคำพูดที่คุณหมอคริสเคยพูดไว้
เข้าใจในวันที่ไม่มีคุณหมอคริสอยู่ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เบอร์โทรศัพท์คุ้นเคยนั้นจะโทรเรียกหาเขา เข้าใจว่าเขาโหยหา และต้องการใครสักคนแค่ไหน
ความคิดเห็น