ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO Fiction] KISS GOODBYE [Kris+Lay,Krislay]

    ลำดับตอนที่ #2 : KISS GOODBYE [Chapter 1]

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 56


    KISS GOODBYE [Chapter 1]

    Titile: KISS GOODBYE 
    Author: Angel Midori
    Genre: Romantic Drama
    Rating: PG
    Pairing: KrisLay


    Writer Talk : เมื่อวานลง Prologue ไป วันนี้เลยลงตอน 1 เลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องลุ้นกันมาก 55 เรื่องนี้แต่งเสร็จแล้วแต่ว่าจะขอลงอาทิตย์ละสองครั้งโดยประมาณนะคะ 

    เนื้อเรื่องก็คิดว่าคงเดากันได้จาก Prologue ว่าออกแนวดราม่า ซึ่งบรรยากาศของเรื่องมันจะออกแนวเย็นๆ โดยเล่าผ่านมุมมองแบบพระเจ้า+มุมมองแบบบุคคลที่ 1 คือคนอ่านรับรู้ว่าตัวละครสองตัวทำอะไรคิดอะไรแต่จะรู้เท่าที่ตัวละครคิด และรู้ ไม่รู้ไปเสียทุกเรื่องของทุกตัวละคร ฉะนั้นมันจะลุ้นๆ หน่อยอ่านไปเดากันไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นน๊า~~ 

    ฝากความกรุณาเมนท์และโหวตด้วยจะขอบคุณมาก ๆ นะคะ



    ********************************************************************************************************

    คริสอู๋แอบหรี่ตามองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่เพิ่งลุกออกไปจากเตียง เขามักแอบมองพฤติกรรมของเด็กคนนี้เสมอ และสังเกตุว่าเด็กหนุ่มมักทำแบบนี้ทุกครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะจากไปในตอนเช้า จูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเขา หยิบซองเงิน เข้าไปอาบน้ำ และก็จากไป


    หากแต่วันนี้ต่างจากทุกครั้ง เด็กเด็กหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี แกล้งไล้ปลายนิ้วกับร่างกายของเขา แต่เวลาเขาทำท่าทางเหมือนจะตื่นเจ้าตัวก็ทำท่าตกใจราวกับกลัวว่าเขาจะรับรู้ว่าเด็กหนุ่มทำอะไรอยู่

    แต่สิ่งที่แปลกที่สุดที่เด็กคนนี้ทำในวันนี้ก็คือรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้านั่น รอยยิ้มที่เผยให้เห็นลักยิ้มลึกที่ข้างแก้ม รอยยิ้มที่น้อยครั้งนักที่เขาจะได้เห็นจากเด็กคนนี้

    คริสละทิ้งกับความแปลกของเด็กหนุ่มไปเสีย เขานอนหงายแผ่กับเตียงกว้าง และเตรียมจะหลับอีกครั้ง
    ในเมื่อวันนี้เป็นวันพักผ่อน คริสไม่อยากจะทำให้เวลานอนของเขาลดน้อยลง และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาแกล้งทำเป็นหลับ เวลาที่เด็กคนนั้นตื่นในตอนเช้า เขาแค่ขี้เกียจหาบทสนทนา และอยากจะนอนหลับต่อไปยาว ๆ

    .

    .

    .

    อี้ชิงหยิบสลิปที่ออกจากตู้เงินฝากมาดูในระหว่างที่เดินกลับห้องเช่าเล็กๆ ของเขา วันนี้เด็กหนุ่มนำเงินที่ได้มาไปฝากเข้าบัญชีเอาไว้ ยอดเงินที่แสดงอยู่บนสลิปนั้นเป็นยอดเงินที่มากที่สุดเท่าที่ในชีวิตที่เขาเคยเห็น ถึงเขาจะไม่ได้อยากได้มันนัก แต่อย่างน้อยมันก็พอเป็นหลักประกันได้ว่าในเวลานี้ถ้าหากมีอะไรฉุกเฉิน หรือถ้าเขาตกงานก็ยังพอมีเงินก้อนนี้ไว้สำรองใช้อยู่

    หากแต่เงินก้อนใหญ่ของอี้ชิงก้อนนี้มันก็คงเป็นเพียงเงินเล็กน้อยของคนที่มีอาชีพศัลยแพทย์ อย่างคุณหมอคริสละมั้ง

    อี้ชิงไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับคนใจดี พอๆ กับที่คริสไม่รู้อะไรในตัวจางอี้ชิงเช่นกัน ทั้งคู่มักเลือกคุยเรื่องเรียบง่ายรอบตัว และเลี่ยงที่จะคุยเรื่องส่วนตัวของกันและกัน อี้ชิงรู้เพียงว่า ผู้ชายใจดีนั้นชื่อคริสเขาเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง ที่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐบาล และมีคลีนิกศัลยกรรมเป็นของตัวเอง คุณหมอคริสเกิดและโตที่สหรัฐอเมริกา และไม่ได้เป็นคนเกาหลีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คุณหมอก็ไม่เคยบอกอี้ชิงว่าเขามีเชื้อชาติอะไรผสมอยู่ ในขณะที่นายแพทย์หนุ่มรับรู้เพียงแต่ ว่าเด็กหนุ่มร่างขาวที่เขาเก็บได้นั้นชื่อเลย์ เลย์เป็นชื่ออังกฤษที่เด็กหนุ่มใช้ และคนตัวเล็กก็ไม่อยากให้ใครรับรู้ชื่อจริงของตัวเองในเวลานี้ อี้ชิงบอกกับคุณหมอเพียงแค่ว่าเขาทำงานที่ร้านอาหารสักแห่ง แต่คุณหมอคริสไม่เคยรับรู้ว่าทำที่ไหน ทำอะไร ส่วนเรื่องงานพิเศษคนตัวโตยิ่งไม่เคยคิดจะถามเพราะลึก ๆ เขาเองไม่นึกชอบกับงานพิเศษของเด็กหนุ่มนัก

    ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแค่เพื่อนคุย และคู่นอน ที่ช่วยให้คนโสดอย่างนายแพทย์คริสอู๋หายเหงาก็แค่นั้น ในวันศุกร์คริสจะโทรหาอี้ชิงเพื่อนัดหมาย และบ่ายวันเสาร์อี้ชิงจะมาหาคริสพร้อมกับอาหารที่เอามาจากร้านที่เด็กหนุ่มทำอยู่ หรือไม่ก็อาหารสดที่เจ้าตัวนำมาทำให้กิน คริสเคยค้านและบอกว่าออกไปหาอะไรกินง่ายกว่า แต่อี้ชิงบอกว่าเขาอยากทำเพราะที่ห้องเช่าเล็กๆ นั่นเขาไม่สามารถทำอาหารได้ คริสเลยอนุญาต และเมื่อมาคิดว่าการที่เขาทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้าเจอกับคนรู้จักคงไม่รู้ว่าจะแนะนำเด็กหนุ่มคนนี้เช่นไร

     

    ในระหว่างรับประทานอาหารพวกเขาอาจจะคุยกันเล็กน้อย หรือบางทีแทบจะไม่มีบทสนทนากันเลยด้วยซ้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ใช่คนช่างคุย หรือถ้าจะคุยคนที่พูดมากกลายเป็นคุณหมอหนุ่มมากกว่า บางครั้งคริสมักบ่นเรื่องงานที่ไม่ได้ดั่งใจกับเด็กหนุ่มที่ทำตัวเป็นผู้รับฟังที่ดีเสมอ และเมื่อหมดจากมื้ออาหาร ทั้งคู่ก็มักจะนั่งดูภาพยนต์ที่คริสหาซื้อมาดูด้วยกัน นายแพทย์หนุ่มชอบดูหนังหากแต่ไม่มีเวลาที่จะดูในโรงภาพยนต์ แต่พอมีอี้ชิงเขาก็รู้สึกเหมือนมีเพื่อนที่จะนั่งดูหนังกับเขาด้วยได้


    และช่วงเวลาในระหว่างที่ภาพยนต์ฉายช่วงเวลานี้แหละที่คริสจะได้เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าน่ารักของเด็กหนุ่ม รอยยิ้มสวย กับลักยิ้มกดลึกจนแก้มบุ๋มซึ่งเด็กหนุ่มคนนี้มักแอบซ่อนไว้ คริสเคยคิดอยากรู้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เด็กคนนี้ไม่สดใสสมวัย แต่เขาก็ไม่เคยถาม

     


    ที่ไม่ได้ถามก็เพราะกลัวว่าถ้าหากเขาลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายมากไป เขาอาจต้องแลกมันด้วยความเป็นส่วนตัวของตัวเอง หรือบางทีเด็กหนุ่มอาจหลบเลี่ยงความอยากรู้อยากเห็นของเขาด้วยการตัดความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ทิ้ง ซึ่งในตอนนี้คริสยังไม่อยากเสียมันไป


    หลังจากกิจกรรมดูภาพยนต์จบลง กิจกรรมสุดท้ายที่อี้ชิงต้องตอบแทนเงินจำนวนไม่น้อยนั้นให้คริสก็คือเซ็กซ์ เซ็กซ์ที่เริ่มแรกคริสรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คุ้นเคยกับมันนัก หากแต่ตอนนี้เด็กหนุ่มเรียนรู้ที่จะตอบรับเขาอย่างรู้ใจ และทำให้เขาพึงใจมากขึ้นเรื่อยๆ


    คริสอู๋ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครยั่งยืนนัก หรือจะเรียกได้ว่าไม่เคยมีคนรักจริงจังเลยเสียดีกว่า เขาเป็นคนรักสนุก จึงเลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับคนแบบเดียวกัน ความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัด แค่สนุกด้วยกันแล้วก็จากไป คนก่อนๆ ที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วยมักเป็นนักเที่ยวในแบบเดียวกัน เพื่อนหรือคนรู้จักแนะนำมาอีกที คริสมักเลือกมากสักหน่อยเวลาจะมีความสัมพันธ์กับใคร เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำให้เขามีปัญหา โดยเฉพาะหน้าที่การงาน และครอบครัวของเขาจะรับรู้เรื่องรสนิยมของเขาไม่ได้

    เพราะโลกใบนี้ และสังคมมีหน้ามีตาของเขายังไม่ยอมรับรสนิยมทางเพศแบบที่เขาเป็นอยู่ และคริสอู๋ก็ไม่พร้อมจะเสี่ยงกับชื่อเสียง และสังคมที่มีที่จะเปิดเผยมัน เขาจึงระมัดระวังมากในการมีความสัมพันธ์กับใครสักคน




    หากแต่กับเด็กหนุ่มที่ชื่อเลย์นั้นต่างออกไป ปรกติเขาไม่ชอบซื้อเด็ก แต่เขาก็จ่ายเงินซื้อเด็กคนนี้ และเขาก็เลือกมีความสัมพันธ์กับคนๆ เดียวมาเกินกว่าสี่ถึงห้าเดือนแล้ว คริสรู้สึกปลอดภัยกับความสัมพันธ์แบบนี้ เด็กหนุ่มไม่สามารถผูกมัดเขาได้เพราะเจ้าตัวได้รับค่าตอบแทนไปแล้ว และคริสก็รู้สึกว่าเขาพึงใจกับเซ็กซ์ กับการมีเลย์เป็นเพื่อนคุยโดยที่เขาไม่ต้องออกไปไขว่คว้าหาใครจากที่เที่ยวข้างนอก


    เขาไม่รู้ว่าเขาจะเบื่อเด็กคนนี้เมื่อไหร่ แต่ในเมื่อตอนนี้ยังไม่เบื่อ เขาก็ยังอยากจะรักษาความสัมพันธ์ฉาบฉวยนี้เอาไว้

     

    >>>KISS GOODBYE<<<

     

    ในยามค่ำของวันอาทิตย์ คริสเดินแกว่งกุญแจรถเข้าไปในบ้านหลังจากเผาเวลาหมดไปด้วยการนอนพักผ่อน หากแต่พอเขาเดินผ่านห้องรับแขกมา ชายหนุ่มก็เห็นใบหน้าคุ้นตาของคนที่เขาเห็นมาแทบทั้งชีวิตกำลังนั่งอยู่ และจากการสังเกตคริสก็รู้ว่าน้องชายของเขาน่าจะมีเรื่องคุยด้วยแน่ๆ


    “พี่ไปอยู่คอนโดมาเหรอ” เทา หรืออู๋จื่อเทาเอ่ยถามพี่ชายที่นั่งลงบนโซฟาด้านตรงข้ามกับเขา คนเป็นพี่พยักหน้ารับเป็นคำตอบแทนการใช้น้ำเสียง

    “พี่รู้ไหมแม่เริ่มหาเมียให้พี่อีกแล้ว”

    คริสเลิกคิ้วกับประโยคบอกเล่าของน้องชายก่อนจะหัวเราะลงคอ

    เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกแน่ๆ เพราะจากคำว่า ”อีกแล้ว” ของ จื่อเทามันบอกอยู่ว่าคงเกิดขึ้นบ่อย และด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้คริสพอจะตั้งรับได้ แม่ของเขาวุ่นวายกับการหาภรรยาให้เขามาหลายคนแล้ว แต่ทุกคนคริสก็เลี่ยงปฏิเสธได้มาตลอด ด้วยสารพัดวิธี ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการที่ลองเดทด้วยแล้วก็ทำตัวเรื่องมากหาข้อติติงพวกเธอเหล่านั้นเสียจนแม่ของเขาต้องยอมให้เลิกลากันไป

    “คราวนี้คงจัดการได้แหละ”

    “แต่แม่บอกผมว่าคราวนี้พี่ปฏิเสธไม่ได้แน่ๆ”

    “ทำไม?

    “ผมก็ไม่รู้ แต่แม่ดูมั่นใจเอามากๆ ผมว่าพี่หาแฟนจริงจังเสียทีน่าจะดีกว่าที่ปล่อยให้ตัวเองโสดแบบนี้ เพราะพี่เป็นแบบนี้แม่ก็มัวแต่เครียดเรื่องหาลูกสะใภ้ใหญ่ให้พี่ไม่เลิกเสียที เขาไม่ยอมให้พี่เป็นโสดง่ายๆ หรอก”

    “ถ้าหาได้ฉันหาไปแล้วไหม อีกอย่างฉันก็ยังรักชีวิตโสดฉันอยู่น่า เอาเหอะฉันว่าเรื่องดูตัวฉันเอาอยู่ ขอบใจแกมากแล้วกัน”

    คริสเดินไปตบบ่าน้องชายเบา ๆ ก่อนจะเดินแกว่งกุญแจรถเดินขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวของเขา

    ไม่ใช่เขาไม่กังวลหากแต่ตอนนี้เขาได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ครั้งแรกที่แม่หาคู่ดูตัวให้ คริสกังวลมาก เพราะเขาไม่สามารถที่จะแต่งงานได้จริงๆ และไม่สามารถเปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองให้พ่อแม่รับรู้ได้ เขาอึดอัด และกลัวที่จะปฏิเสธไม่ได้ ตอนนั้นเขาใช้วิธีสอบชิงทุนเพื่อกลับไปเรียนที่อเมริกา จึงทำให้หนีการแต่งงานไปได้ หากแต่พอกลับมาแม่ก็ยังไม่เลิก แต่เขาก็พยายามวางแผนหาวิธีเลี่ยงหลบมาได้โดยตลอด และคริสคิดว่าปล่อยให้แม่หาคนมาดูตัวให้เขาไป เขาเองก็จะหาวิธีปฏิเสธไปเรื่อยๆ  โดยหวังว่าสักวันแม่ก็คงจะเบื่อไปเอง 
     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×