คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ประสบการณ์ทางวิญญาณ โดย พระ นิปโก
จากวันแรกที่ได้เข้ามาอยู่ที่วัดอ้อน้อย ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึง บริเวณแวดล้อมในวัดร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะที่จะปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก
ในวันแรกข้าพเจ้าเข้ามาบวช เพื่อต้องการความสงบและหลุดพ้นจากความวุ้นวายทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้าเข้ามาบวชเป็นพระจริงๆ กลับวุ้นวายขึ้นอีกกับสามเณร เพราะพระใหม่จะต้องอยู่ดูแลและทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้เหล่าสามเณรที่เข้ามาบวชมีระเบียบ มีวินัย แล้วก็เห็นว่าจะเป็นเรื่องยากมากที่เดียวจริงๆ ไม่นานความวุ้นวายและซุกซนของเหล่าสามเณรก็เริ่มพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้าพเจ้าดีใจมากที่สามารถหนีความวุ้นวายแล้วมาเจอกับเรื่องวุ้นวายอีก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือ เราจะเอาชนะสิ่งต่างๆได้อย่างไร เพราะปัญหาทุกปัญหามีทางออกและแก้ไขมันได้ ถ้าหากตัวของเราเห็นว่ามันคือปัญหาแล้วต้องเดินหนีมันไป เราก็จะไม่พบกับคำว่า “ประสบความสำเร็จ” แต่ในทางกลับกันถ้าเราคิดพิจารณาเปิดใจและใจเย็น ใช้สติควบคุมพยายามที่จะเอาชนะปัญหาที่เข้ามา ต่อสู้และเอาชนะมันจนได้ ไม่นานความพยายาม ความกดดัน ความอดอัด และความท้อแท้ทางจิตใจ มันจะหลุดออกไปจากตัวตนของเรา เหลือไว้เพียงแต่สุขที่เราได้กระทำนั้นถูกต้องด้วยดีแล้ว
ในวันที่ 17 เหล่าพระและสามเณรทุกรูป จะต้องไปธุดงค์ที่ทองผาภูมิ เมื่อข้าพเจ้าได้มาถึงที่ทองผาภูมิ คืนวันแรกก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้นอนในป่าจริงๆ หลังจากที่ทำวัตรเย็นและฉันน้ำปานะแล้ว ข้าพเจ้ากลับกลดเพื่อสรงน้ำและสวดมนต์เข้านอน ข้าพเจ้าจำได้ว่า ข้าพเจ้าสวดมนต์สั้นๆอะระหังสัมมาจบแล้วก็เข้านอนเลย หลังนอนหลับตาซักครู่หนึ่ง ในขณะนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้คิดอะไร นอกจากนึกในใจว่า “ไอพวกเณรมันคุยกันเสียงดังจังวะ มันน่าจะโดนสักที” ไม่นานก็มีเสียงดังที่หัวนอนข้าพเจ้าสามครั้ง ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คิดอะไร เมื่อนอนไปได้สักครู่ก็ได้ยินเสียงเคาะอีกเรื่อยๆ จนข้าพเจ้าทนไม่ไหว หยิบไฟฉายออกไปดูเผื่อเป็นกบเขียดที่กระโดดชนเต้น พอข้าพเจ้าออกมาดูรอบๆ เต้นและเดินดูบริเวณรอบๆ เต้น ปรากฏว่าไม่พบอะไรข้าพเจ้าเลยเข้าเต้นนอน เสียงนั้นก็เงียบไป หลังจากนั้นไม่นาน เสียงนั้นก็มาอีก (เสียงเคาะเต้น) ดังอยู่เป็นระยะเรื่อยๆ ข้าพเจ้าก็ไม่สนใจแล้วก็นอนต่อ หลังจากที่ข้าพเจ้าได้นอนอยู่ก็เกิดนึกขึ้นได้ว่าเรามาปฏิบัติธรรมสวดมนต์แล้ว บอกเจ้าที่เจ้าทางแล้ว แต่ยังไม่ได้แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย สิ่งที่มองไม่เห็นเลยต้องการสื่อเพื่อบอกว่า ท่านยังไม่ได้แผ่เมตตาหรือแผ่บุญกุศล ที่ท่านมีให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้าที่เจ้าทางที่ท่านมาขอพักอาศัยอยู่ คืนวันต่อมาข้าพเจ้าก็สวดมนต์และไม่ลืมที่จะแผ่เมตตานั้นตลอดมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก มีบ้างในบางคืน เป็นเสียงเดิน ร้อง หรือเงา ทั้งที่เราอาจจะคิดไปเองและไม่ได้คิดไปเอง แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้กลัวอันใด เมื่อข้าพเจ้าเป็นพระสงฆ์แล้ว ยอมมีผ้าเหลืองติดตัวและมีจิตใจที่จะเป็นสงฆ์ที่ดีอยู่ในสมณะ อันตรายใดๆก็ไม่อาจเข้ามาทำร้ายเราได้ ( สงฆ์ทั้งหลายกระทำการใดย่อมได้อย่างนั้น )
ความคิดเห็น