คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF ❀ ไดอารี่ของแทซอง – 2
#ไดอารี่ของแทซอง
Mark x Jeno
( ft. smrookies )
01/04/16
อรุณสวัสดิ์ครับคุณไดอารี่
คิดถึงผมไหม ㅋㅋㅋ วันนี้เป็นวันหยุดครับ
แต่ว่าผมมีนัดต้องไปทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆที่ห้าง COEX แหละ แล้วตอนนี้ก็ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง
กว่าจะถึงเวลานัดผมก็เลยมานั่งเขียนไดอารี่รอ
จะว่าไป..
ผมก็แอบขี้เกียจเหมือนกันแฮะ (เฮ้ ห้ามฟ้องเพื่อนผมนะคุณไดอารี่!)
งานกลุ่มที่ว่านี่เป็นงานของอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ครับ โดยโจทย์คือพวกเราจะต้องออกแบบ tessellation แบบนี้
และที่สำคัญคือพวกเราต้องเอา
tessellation นี่มาสร้างให้เป็นเรื่องราวหรือนิยายด้วย
โอ้โห งานมโนก็มาอะครับคุณ
ดังนั้นวันนี้พวกเราก็เลยต้องนัดกันมานั่งปรึกษานั่งออกแบบว่าจะทำให้งานออกมาเป็นรูปแบบยังไงดี
อ้อ
ผมอาจจะลืมบอกคุณไดอารี่ไป แหะๆ กลุ่มผมตอนนี้มีทั้งหมด 4 คนครับ คือ ผม ซึงวอน เจโน่
แล้วก็แจมิน (พวกเรามีฉายาว่ากลุ่มเทวดาครับ แบบว่าบังเอิญหน้าตาดีทั้งสี่คนเลยอะ ㅋㅋㅋ)
ตอนนี้ที่โรงเรียนผมก็เปิดเทอมมาเกือบเดือนแล้วล่ะครับ
เร็วมาก! และกลุ่มของพวกเราก็ถือว่าสนิทกันระดับนึงเลยนะครับ
พวกเรากินข้าวด้วยกัน นั่งเรียนด้วยกัน ซ้อมเต้นด้วยกัน เวลามีงานกลุ่มก็อยู่กลุ่มเดียวกันตลอด
บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเราชอบอะไรคล้ายๆกัน หรือมีนิสัยคล้ายกันน่ะครับ
อย่างแจมินกับซึงวอนงี้
ถ้าอยู่คู่กันเมื่อไหร่ก็โลกแตกอะครับ เจ้าสองคนนั้นถูกเพื่อนๆในห้องตั้งชื่อว่าคู่แฝดนรก
เป็นแฝดที่ชอบแกล้งชาวบ้านเขาไปทั่ว
ยิ่งถ้าวันไหนมีดงฮยอกมาร่วมวงด้วยนี่จบเลยครับ กู๊ดบายมายเวิร์ล
โลกแห่งความสงบสุขจะหายไปในพริบตา
ในเมื่อมีนรกก็ต้องมีสวรรค์ครับ
ซึ่งแน่นอนว่าผมกับเจโน่นี่แหละเป็นแฝดสวรรค์ ㅋㅋㅋ พวกเราเป็นคู่เทวดาครับ เป็นคู่คนหล่อเท่นิสัยดีมีอันจะกินครับ เย่ห์ ʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔ
อุ้ย
ไหนๆก็พูดถึงเจโน่แล้ว
ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ
คุณไดอารี่จำเหตุการณ์วันนั้นได้มั้ยครับ!
หลังจากวันที่เจโน่โดนมาร์คฮยองลากออกจากห้องไป
ประเด็นที่ว่าเจโน่กับรุ่นพี่กำลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่ก็เริ่มบูมขึ้นมาในห้องครับ (เอ้อ ผมสนิทกับรุ่นพี่แล้วนะครับ
เมื่อก่อนเรียกรุ่นพี่มาร์คแต่ตอนนี้เรียกมาร์คฮยองได้แล้วแหละ! อวดๆㅋㅋㅋ ) ในช่วงอาทิตย์แรกๆที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่
แต่หลังๆนี่รุ่นพี่จะแวะมาหาค่อนข้างบ่อยเลยครับ ทั้งมาทานข้าวกับพวกผมด้วย
ทั้งมาส่งเจโน่ตอนเช้าและมารอรับตอนเย็น (ขอย้ำครับว่าแค่เจโน่คนเดียว) ซึ่งโดยภาพรวมแล้วมาร์คฮยองเป็นคนดีครับ
เอาใจใส่ดูแลน้องๆดีมาก ดีจนเผื่อแผ่มายังผมและซึงวอนเลยทีเดียว
และอาจจะดีกับเจโน่มากเป็นพิเศษ ㅋㅋㅋ
ยกตัวอย่างเช่น
มีครั้งนึงที่คาบสุดท้ายของตารางเรียนเป็นคลาสเต้นครับ แต่ว่าพอเลิกคลาสแล้วทั้งผม
ซึงวอน เจโน่และแจมิน ก็ยังสนุกสนานกับการเต้นอยู่ พวกเราก็เลยตัดสินใจอยู่ซ้อมต่ออีกเล็กน้อย
พอผ่านไปซักพัก ด้วยท่าเต้นที่ค่อนข้างจะใช้ขาใช้ข้อเท้าเยอะ ทำให้เจโน่เกิดข้อเท้าพลิกเข้า
เพื่อนๆทุกคนต่างตกใจมากและกำลังจะแบกคนเจ็บไปห้องพยาบาลแต่เจ้าแป๊ะเจโน่กลับเอาแต่ยิ้มแล้วก็ปฏิเสธ
บอกว่าตนเองไม่ได้เจ็บเท่าไหร่แถมยังดึงดันที่จะซ้อมเต้นต่ออีก เพื่อนเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอมไปซักที
ทั้งๆที่เจโน่น่ะเจ็บจนลุกไม่ได้ด้วยซ้ำ สุดท้ายนาแจมินก็ทนไม่ไหว เจ้านั่นเลยเล่นไม้แข็งด้วยการต่อสายเรียกหามาร์คฮยองเป็นการด่วน
แน่นอนว่าเจโน่ทำหน้าหงิกใส่คนเป็นพี่ทันทีที่โดนบังคับไปห้องพยาบาล
มาร์คฮยองแทบจะอุ้มออกจากห้องแต่ลีเจโน่ก็ยังดื้อด้านไม่ยอมไป บอกแต่ว่าตัวเองทนไหว
ในเมื่อใช้ไม้แข็งแล้วไม่ได้ผล ไม้อ่อนก็คงต้องทำหน้าที่แล้วล่ะ..
คนเป็นพี่นั่งย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับคนเจ็บที่แสร้งทำเหมือนว่ายังสบายดี
ใบหน้าคมเรียบนิ่งก่อนจะค่อยๆพูดคุยกับอีกคนอย่างใจเย็น
“ ตกลงเจโน่จะไม่ไปห้องพยาบาลใช่ไหมครับ ”
“ คือ.. ผมไม่ได้เจ็บจริงๆนะฮย- ”
“ ไหนเจโน่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฮยองเป็นห่วงไงครับ ”
“ … ”
“ … ”
“ … ”
“ ฮยองรู้นะว่าเราน่ะเจ็บ แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นเป็นกังวล ”
“ … ”
“ เจโน่ต้องรักตัวเองด้วยสิ
ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้แล้วมันอักเสบหนักกว่าเดิมหรือเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงครับ ”
เมื่อเจอประโยคแบบนั้นเข้าไปคนดื้อด้านอย่างเจโน่ก็เริ่มทำตัวไม่ถูก
ทั้งคำพูดเตือนสติทั้งมือใหญ่ของคนเป็นพี่ที่เอื้อมมาลูบหัวอย่างเป็นห่วง
ทำให้เจ้าแป๊ะแทบจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ
“ ไปห้องพยาบาลกันนะครับ ”
“ …. ”
“ เจโน่ไม่อยากเต้นกับฮยอง ไม่อยากซ้อมกับฮยอง ไม่อยากอยู่วงเดียวกับฮยองแล้วเหรอ ”
น้ำตาหยดแหมะลงทันทีที่คนแก่กว่าพูดจบ
ลีเจโน่ฟุบหน้าลงกับหัวเข่าเพื่อซ่อนความอ่อนแอของตนเอง ไม่แปลกเท่าไรนักที่เจโน่จะร้องไห้
เพราะเรื่องการซ้อมและการเดบิวต์เป็นศิลปินนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเซ้นซิทีฟสำหรับเด็กฝึกทุกคน
ที่พวกเขายอมอดทนมาหลายปีก็เพื่อความฝันของตัวเองทั้งนั้น
ใช้เวลาปลอบอยู่เกือบห้านาทีกว่าเจโน่จะหยุดร้องและยอมให้มาร์คฮยองพยุงเพื่อพาไปห้องพยาบาล
ความจริงแล้วที่เจโน่ร้องไห้ผมว่าไม่ใช่เพียงเพราะว่าเจ็บเลยงอแงหรอกครับ
แต่ผมคิดว่าเป็นเพราะเจ้าตัวกำลังเหนื่อยมากกว่า
การเป็นเด็กฝึกไม่ใช่เรื่องง่าย
พวกเขาทั้งเครียดเรื่องเรียนทั้งเหนื่อยเรื่องการซ้อม
แถมยังต้องมาเจ็บข้อเท้าอีกแบบนี้
หลายๆเหตุการณ์ที่รุมเร้าเข้ามาเลยทำให้คนตัวเล็กเลือกที่จะงอแงและปลดปล่อยความเศร้าของตัวเองออกมาเป็นน้ำตาในที่สุด
หลังจากเจโน่กับมาร์คฮยองออกจากห้องไป
ผมกับซึงวอนและแจมินก็รีบเก็บข้าวของทั้งหมดก่อนจะตามไปดูอาการของเจ้าแป๊ะที่ห้องพยาบาล
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่เจ้านั่นไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก จากที่ตรวจเบื้องต้นพบว่าไม่น่ามีอาการกระดูกหักหรือเส้นเอ็นฉีกแต่อย่างใด
แต่อาจารย์ก็แนะนำให้ไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาลอีกรอบเพราะเจโน่เป็นเด็กฝึก
หากมีปัญหาขึ้นมามันอาจจะส่งผลกระทบต่อเจ้านั่นได้
พวกเราเลยขอบคุณอาจารย์ก่อนจะช่วยกันพาคนเจ็บออกมาจากห้องพยาบาล
และอาจจะด้วยความเป็นห่วงหรืออะไรก็ไม่ทราบ
จู่ๆมาร์คฮยองก็ทรุดตัวลงนั่งแล้วบอกให้เจโน่ขึ้นมาขี่หลังตนเอง คนเป็นพี่ที่แบกคนเจ็บขึ้นหลังก้าวเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าโรงเรียน
ก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่พร้อมกับพยุงพาเจโน่เข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย แล้วจึงหันมาแร็พรัวใส่พวกผมว่าเขาจะพาเจโน่ไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาลก่อน
ให้แจมินกลับได้เลยหรือไม่ก็ไปหาดงฮยอกซะ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่แล้วหายลับไปทันที
ทิ้งน้องร่วมวงผู้น่าสงสารให้อยู่กับพวกผมอย่างงงๆ
หลังจากตั้งสติได้
คนที่ถูกทิ้งอย่างนาแจมินก็ถึงกับสบถออกมารัวๆอย่างไม่กลัวเสียลักษณ์ใดใดทั้งสิ้น ผมได้ยินคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเจ้าบ้านั่นพูดว่า
มาร์คฮยองแม่งโครตฮิตเลอร์ มาร์คฮยองแม่งติดแฟน เขาจะฟ้องเมเนฮยอง อะไรทำนองนี้
แต่ก็นะ ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่
เพราะเป็นที่รู้กันดีในกลุ่มว่าเจโน่น่ะเป็นน้องรักของมาร์คฮยองมากขนาดไหน
เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาว่างผมจะมาเล่าเรื่องมาร์คฮยองและน้องรักของเขาให้ฟังนะครับ
ㅋㅋㅋ แต่ตอนนี้ผมต้องเตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงานกลุ่มแล้วล่ะ
บ้ายบายครับคุณไดอารี่
เจอกันคราวหน้านะครับ ปย๊ง!
Talk; ตอนที่สองมาแล้วฮับ! ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ♡ แล้วก็ขออธิบายไว้ล่วงหน้าเลยว่าเนื่องจาก sf เรื่องนี้เป็นไดอารี่ เพราะงั้น.. เราจะเขียนไปจนกว่าน้องโน่จะเดบิวต์ค่ะ 555555555555555555555 (ก็มันเป็นไดอารี่นี่เนอะ) แต่ว่าเราจะมีฟิคเรื่องอื่นๆมาแทรกแน่นอนฮับ สัญญาๆ
ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ซารางเฮ!
ความคิดเห็น