ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายอัจฉริยะ ปะทะ สาวน้อยตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 2 : ความจริงที่ควรรู้

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 49


    "ก๊อก ก๊อก ก๊อก "

    "เชิญ" เสียงของผู้ชายวัยกลางคนฟังดูน่าขนลุกดังลอดผ่านประตูไม้สักที่ทั้งสองยืนรออยู่

    เมฮายะตีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจอะไร แต่ชิเมรุกลับยิ้มออกมาอย่างขบขัน แล้วทั้งคู่ก็ผลักประตูตรงหน้าเข้าไปในห้องอาจารย์ใหญ่ที่ไม่เคยให้เด็กเข้าหรือแม้แต่เฉียดมาในบริเวณนี้

    ภายในห้องถูกตกแต่งสไตล์ยุโรปโบราณบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของห้องเป็นอย่างดี แสงไฟสีนวลผ่องและหยากไย่ตามเพดานทำให้แลดูน่าสะพรึงกลัว แต่ไม่ใช่สำหรับฮายะและเมลรุ

    อาจารย์ใหญ่ยังคงเป็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาฉายชัดถึงความเข้มงวดเช่นเดียวกับตอนที่ทั้งสองเข้ามาที่นี่ครั้งแรก ด้านหลังของอาจารย์ใหญ่เป็นชายผิวคล้ำรูปร่างบึกบึนสวมสูทสีดำชวนให้นึกถึงแก๊งมาเฟีย

    แถมบรรยากาศในห้องนั้นเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงแม้แต่ลมหายใจของใคร

    อาจารย์ใหญ่เป้นคนแรกที่เอ่ยคำพูดออกมา

     "ฉันอยากให้พวกเธอรับรู้อะไรบางอย่างที่เธอควรจะรู้"    คำเปรยหน้าสนใจทำให้ฮายะเผลอยิ้มมุมปากออกมา แต่เมลรุกลับแสดงสีหน้าเซ็งอย่างเห็นได้ชัด

    "ขอรวบรัด"    ฮายะเอ่ยประโยคสั้นๆที่ส่งผลให้เลือดภายในกายของบุรุษผู้อาวุโสกว่าเย็นเฉียบ แต่ท่ามกลางความเครียดชิเมรุเป็นคนเดียวที่ยิ้มกว้าง

    ….เด็ก 2คนนี่… อ.ใหญ่กวาดสายตาพิจารณาทั้งคู่อยู่พักหนึ่ง ก่อนผายมือไปยังชายนิโกร

    "นี่คือ…คนของคามูย่า"

    เมฮายะเลิกคิ้วขึ้นส่วนชิเมรุสบถพึมพำ "มาเฟียปัญญาอ่อน"  แต่โชคยังเข้าข้างเพราะนอกจากฮายะที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วอาจารย์กับชายร่างยักษ์คนนั้นก็ไม่ได้ยินคำปรามาสของชิเมรุ

     "นายให้นำเอาตั่วเครื่องบิน และเงินสด จำนวนนึงให้คุณทั้ง 2 คนเดินทาง ไปยังประเทศไทย"

    " ….นี่เป็นความต้องการของพ่อแม่พวกคุณทั้ง2คน แม้แต่ท่านคามูย่ายังไม่อาจทราบได้ถึงจุดประสงค์ของพวกเขา แต่อย่างน้อยมันก็เป็นอย่างเดียวที่ทั้ง4ฝากแก่ท่านคามูย่าก่อนจะเสียชีวิต" บุรุษแปลกหน้าอธิบายตัดหน้าชิมารุที่กำลังจะถามถึงเหตูผล

    ทั้งคู่ มองหน้ากัน ก่อนที่เมฮายะ จะกล่าวขึ้นว่า "พวกเราจะเชื่อได้ยังไง"

    "นั่นแล้วแต่พิจารณาของคุณเอง"    คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจของชิเมรุ แต่เมฮายะแย้มรอยยิ้มกว้างอย่างที่ไม่ค่อยมีคนได้เห็นเท่าไหร่นัก

    "เอาไง?"

    ชิเมรุหันมาถามกับ เมฮายะเบาๆ หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรแต่แววตาของเธอก็บอกชัดเจนว่า 'ทำไมจะไม่ลองออกจากคุกทั้งๆที่มีหนทางอยู่ตรงหน้าล่ะ'

    "ก็ดี  ฉันอยากไปเที่ยวไทยตั้งนานแล้ว" ชิมารุตอบราวกับว่านี่เป็นโครงการทัวร์ท่องไทย

    "โอเค ฉันอยากไป….ฮายะอยากออกจากที่นี่ สรุปคือไปครับ" ชิมารุกล่าวหน้าระรื่น ดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสสบกับใบหน้ากร้านของลูกน้องเจ้าพ่อมาเฟียอย่างไม่เกรงกลัว

     "เย็นนี้จะมีคนมารับพวกคุณตอน 18. นาฬิกา"

    ว่าจบเชาก็เดินออกจากห้องอาจารย์ใหญ่ทันทีโดยไม่ลืมทิ่งท้าย "แต่หลังจากไปไทยแล้วพวกคุณต้องอยู่ของพวกคุณเอง"

    "หมายความว่าไง"   ชิเมรุขมวดคิ้วมุ่น

    "สำหรับเด็กกำพร้าที่อยู่ในกะลามาตั้งแต่ไม่รู้ความ การออกไปเผชิญโลกภายนอก เหมือนการจับสัตว์เลี้ยงไปปล่อยในป่านั่นแหละครับ"

    ชิเมรุกัดฟันกรอด เขาเป็นคนที่มีทิฐิสูงเลยไม่ชอบให้ใครก้ตามมาเหยียดหยามศักดิ์ศรีโดยเฉพาะคำว่า ทำไม่ได้หรือโง่

    แต่คนที่บึ้งตึงมาตลอดกลับระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นห้อง

    "แต่ไม่ได้มีจำกัดความว่าสัตว์เลี้ยงต้องอ่อนแอกว่าสัตว์ป่า…อย่ามาดูถูกเราเลยถ้าหากว่าท่านเองก็เป็นแค่ลูกไล่ที่พึ่งร่มเงาจากนายใหญ่เท่านั้น"

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "ว่าไงชิเมรุ"    เพื่อนๆที่มาออฟังข่าวจากทั้งคู่ถาม แต่คำถามกลับพุ่งเป้าไปยังคนที่พูดง่ายกว่า

    "เมลรุคุงอย่าบอกนะว่าเขาไล่ออกน่ะ ไม่เอานะ…ฮายะจะไปไหนก็ไปเมลรุต้องอยู่กับพวกเรานะ"    พวกสาวๆกรี๊ดกร๊าดกันเป็นทิวแถว เมื่อเห็นชิเมรุพยักหน้าเรียบๆ

    ชิเมรุหน้าตาดีผมของเขาค่อนข้างยาวสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีฟ้าสดใสเสมอนั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจของสาวๆที่แอนโทนี่มากเป็นพิเศษ และรอยยิ้มที่มักประดับบนใบหน้านั้นเหมือนจะโปรยเสน่ห์แทนเจ้าของโดยไม่รู้ตัว

    และไม่ผิดจากที่คาด ชิเมรุที่เป็นขวัญใจกับเมฮายะคนพิลึก เพื่อนๆก็เทความเสียใจไปให้ชิเมรุมากกว่าที่จะแสดงความเสียใจกับฮายะที่เรียกที่นี่ว่าคุกทุกวัน

    "ฮายะจังช่วยเก็บของนะ"    นากิวิ่งกระหืดกระหอบมาหาฮายะที่แยกตัวออกมาจากเพื่อนสนิท ถึงจะทำหน้าเรียบเฉยแต่นากิก็คิดว่าภายใต้หน้ากากนั้นฮายะก็ต้องเศร้าใจอยู่บ้างที่ไม่มีเพื่อนคนไหนคิดจะมาลาหรือแสดงความเสียใจที่เธอต้องจากไปจากที่นี่และอาจจะไม่ได้กลับมาอีกด้วยซ้ำ

    "ขอบคุณนะ"

    นากิยิ้มให้กับเพื่อนสาวก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้องของฮายะ

    นากิยังอายุน้อยกว่าฮายะ3-4ปีก็ยังเป็นเด็กอยู่มาก เป็นคนอัธยาศัยดีและเข้ากับคนได้ง่าย แต่ด้วยความที่เป็นเด็กพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็นก็มีมากเป็นธรรมดา นากิ กวาดสายตามองรอบๆห้องของเพื่อน ซึ่งก็ดูปกติดี แต่แปลกที่ว่าชั้นวางหนังสือที่สูงใหญ่จนคับห้องของฮายะมีแต่หนังสือเกี่ยวกับ

    วิธีปฏิเสธแบบแยบยล

    กลโกงในคาสิโน

    กลเม็ดเรื่องอาวุธ

    หรือ วิธีลับในมุมมืด

    ก่อนที่นากิจะหยิบหนังสือหนึ่งในนั้นมาลองเปิดดูเนื้อหาข้างใน ฮายะก็ก้าวฉับๆเข้ามาในห้องจนเธอเผลอสะดุ้งทำให้ฮายะหันมาถามอย่างแปลกใจ

    "มีอะไรรึเปล่า?"

    " เปล่าๆ  มาช่วยกันเก็บของก่อนเถอะ" นากิกล่าวพร้อมเก็บความสงสัยไว้ในใจ


    +++++++++++++++++++++++++++++++

    แล้วจะพยายามมาอัฟบ่อยๆๆน้าค้า อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×