ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Karpe Diem, เมื่อรัก | Finland

    ลำดับตอนที่ #3 : Kape Diem ♡ | Prank

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 57


    - 1 -
    Prank 

     

              1 เดือน ก่อนหน้านั้น

     

                20/12/20xx           

                ‘ Dear RoseMinty,

                This is a really quick message from Youtube world. We are deadly want you to be part of this contest. WHAT ARE YOU GOING TO GET? You are one of million who got this chance, to win 10,000 Please join us! Details down below

    Prank contest

    Topic: Love prank

    http://www.youtube.com/watch?v=0djfAs-ioek

     Enjoy it!

    Youtube ‘

    ถึง RoseMinty นี่เป็นข้ออย่างด่วนจาก ยูทูบเวิลด์ พวกเรามีความต้องการอยากให้คุณมาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน สิ่งที่คุณจะได้คือเงินรางวัล 10,000 เหรียญยูโร กรุณาเข้าร่วมสนุกกับเรา!

    รายละเอียดจะยู่ที่วีดีโอด้านล่าง Prank contest หัวข้อ ความรัก )

     

    Youtube boxs:

    สวัสดี โรสฉันชื่อแคร์ จาก Clearofficial ฉันหวังว่าเธอจะสนุกกับ Tag: Prank love ..... ’

    ‘Tag: Prank love สวัสดี ฉัน มิลลี่ แมรลี่ อย่าลืมทำวีดีโอตอบกลับนะ ฉัน... ’          

      กติกาการแข่งขัน

    1.   ห้ามจัดฉาก หรือ เตรียมการ ถ้าพบหรือทราบตัดสิทธิทันที

    2.   ทำให้คนแปลกหน้าหลงรัก

    3.   อัดวีดีโอทุกๆ วันสุดท้ายของทุกเดือน

    4.   ระยะเวลาลา 1 เดือนกับ 14 วัน

    5.    วันที่ 14 กุมภาฯ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของภารกิจ บันทึกวิดีโอ รายละเอียด: ต้องทำให้คนที่ถูกแกล้งพูดคำว่า ‘ฉันชอบ/รัก เธอ’ 

    6.   ตัดสินผู้ชนะจากยอดดผู้ชมที่มีเยอะที่สุด

    7.   การแข่งขันเริ่มขึ้นวันที่ 1/1/20xx สิ้นสุดการแข่งขัน 14/2/20xx

    8.   ตัดสินยอดผู้ชมครั้งสุดท้ายวันที่ 15/2/20xx 

     

    ฉันกดออกจากหน้า Inbox ทันทีที่อ่านข้อความจากยูทูป โอเค! นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ฉันมีสิทธ์ที่จะได้เงิน 10,000 เหรียญยูโร! ไม่อยากจะเชื่อว่ายูทูปจะส่งอีเมล์มาหาฉัน พระเจ้า! นี่คงเป็นเพราะฉันเป็นหนึ่งในวัยรุ่นฟินนิชที่มียอดผู้ชมในยูทูปสูงที่สุดในช่วงสองปีที่ผ่านมา จึงทำให้ฉันถูกขนานนามในโลกโซเชียลมีเดียว่า ‘Internet Celebrity หรือ Net Idol ’  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ฉันไม่ได้เกิดความรู้สึกปราบปลื้มยินดีแต่อย่างใด อย่างแรก ฉันโพสวิดีโอเพราะความเบื่อหน่ายจากโลกแห่งความจริง และเห็นว่ามันน่าตื่นเต้นดีที่มีคนมากมายมาดู จากนั้นมันก็เปลี่ยนไปเป็นการแข่งขัน ที่ฉันกับคีช่าแข่งกันว่าใคร มียอดผู้ชมเยอะที่สุด โดยการโพสคลิป Prank (แกล้ง) และแน่นอนคลิปแกล้งของฉันที่มีวิวเยอะที่สุด และนั่นก็คงจะเป็น.. คลิปที่ฉันแกล้งเป็นแกล้งปั่นจักรยานในห้าง ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่ได้คิดว่าจะมีรวมๆ ถึง 2 ล้านกว่าวิว และความสวยความงาม จึงถูกเรียกว่า Beauty Vlogger อย่างไม่รู้ตัว

                จุดเริ่มต้มก็ทั่วไปก็เหมือน YouTuber คนอื่นๆ อย่างเช่น JacksGap หรือ Zoella บอกตามตรงความจริงแล้วมันเริ่มต้นที่เห็น ‘แจ็ค แฮร์รี่’ เพราะเจ้านั่นเป็นคนโพสคลิปแกล้งฉันก่อน เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันต้องเอาคืนให้ได้ คงสงสัยว่าแจ็คมาเกี่ยวอะไรด้วย เราเป็นเพื่อนกันสมัยเด็กๆ ก่อนที่ฉันจะย้ายมาที่ฟินแลนด์ เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าฉันเคยอาศัยอยู่ที่ทางเหนือของอังกฤษ จากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่ฟิลแลนด์ด้วยงานของพ่อ รู้สึกจะนอกเรื่องมานานเมื่อกี้บ่นถึงไหนแล้วนะ อ้อ..! เงินหนึ่งหมื่นเหรียญฯ! ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดมือไปแน่ๆ แค่แพลงค์ง่ายๆ ทำไมคนอย่างโรสเบลจะทำไม่ได้หล่ะ กล้ามาถ้าทายคนอย่างโรสเบล ฉันหรือจะไม่กล้าทำหล่ะ! 

    วันอาทิตย์ ณ คอนโดของโรสเบล

                ฉันนอนเหยียดยาวเหมือนตัวหนอนบนโซฟาหนังสีดำกับผ้านวมหนุ่นๆ พร้อมกับแกว่งขาไปมาเพื่อรับลมร้อจากเตาผิง วันนี้คือวันอาทิตย์เป็นวันที่ตารางทุกอย่างของฉันว่าง ไม่มีเรียนและไม่มีงาน และตอนนี้ฉันรู้สึกสุขสมอารมณ์หมายที่สุด!  อีกอย่างอากาศวันนี้ข้างจะหนาวแถบจะทำให้ฉันแข็งได้ มันเลยเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ฉันไม่อยากย่างเท้าออกไปไหน อีกอย่างเลยว่ามันคือข้ออ้างของความขี้เกียจสุดๆ! หลังจากตัดต่อคลิปวีดิโอที่ฉันต้องโพสลงแถบทุกๆ หรือที่เรียอีกอย่างกว่า ‘Vlog’ เป็นคำแสลงที่ยืมมาจาก ‘Blog’ แต่เปลี่ยนจากกานเขียน เป็นการอัดวีดิโอลงไปแทน จากที่เรียก ‘Video Diary’ ก็เรียกง่ายๆว่าวล็อกแทนไงล่ะ พล่ามอยู่นานฉันก็อัพโหลดวีดิโอประวันลงมันลงยูทูปทันที

                ‘สวัสดีทุกคน ไม่ต้องบอกว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน วู้วว เราอยู่ที่ ทะเลสาบสปาปร์เกอร์ อากาศวันนี้หนาวมาก หนาวขนาดที่แบบทะเลสาบกลายจะเป็นน้ำแข็งแล้ว..

                เสียงพูดของฉันดังขึ้นแสดงให้เห็นว่าเอัพโหลดเสร็จเรียบร้อย และนี่คือสิ่งที่ฉันทำแถบทุกวันๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนฉันก็จะอัพโหลดวีดิโอตัวเองลงยูทูปตลอดมา มันทำให้ฉันมีคนติดตามไม่น้อยในระยะเวลสองปีที่เริ่มเล่นมา และให้ตายเถอะ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมีพัสดุส่งมาที่มาที่คอนโดเยอะมากมาย มากจนสะห้องฉันแทบจะไม่มีที่ให้วางของก็เพราะกล่องพัสดุที่ได้มาจากแฟนคลับทุกสารทิศ มันเป็นปัญหาเพราะคอนโดที่ฉันอยู่มันไม่ได้ใหญ่เอาเสียเลย ฉันพึ่งย้ายออกจากบ้านมาอยู่ที่คอนโดกลางจัตุรัสเฮลซินกิได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ จากนั้นไม่นานก็มีของส่งมาเต็มไปหมด ฉันเคยทำวีดิโอบอกอฟนคลับไปแล้วว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของและส่งมาให้ เชื่อมั้ยแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเลยสักนิด! เฮ้อยังไงก็ตามฉันก็ดีใจที่พวกเขายังให้ความสนใจจากฉัน พวกเขาไม่รู้หรอกว่าการที่ส่งของมาให้หรือ คอมเม้นต์เล็กๆ น้อยๆ มันทำให้ฉันมีความสุขเพียงใด 

                 ฉันเช่าคอนโดอยู่กับคีช่า เพื่อนสาวคนแรกที่ฉันรู้จักหลังจากย้ายมาจากอังกฤษ  อ้อ! คอนโดที่เราอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่มากนัก เดินออกไปไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง แถมไนต์คลับที่ฉันพึ่งสมัครเข้าทำงาน ก็อยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก ถือได้ว่าฉันอยู่ใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้ ถือว่าโชคดีจริงๆ ทีไ่ด้คอนโดใจกลางเมืองแบบนี้

                พอเหลือมองไปที่โตะด้านหน้า มันก็อดไม่ที่จะลุดมาจัดการเก็บเอกสารที่วางละระเกะระกะอยู่บนฝาแมกบุคแอร์เสียบใส่ในแฟ้มให้เรียบร้อย เพราะจะต้องส่งให้กับไนต์คลับที่ฉันทำงานพรุ่งนี้ตอนเย็น เดี๋ยวจะลืม.. ฉันรู้สึกไม่ได้ทำงานจริงจังแบบนี้มานานพอสมควร ถ้าไม่นับงานพาร์ททามเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และแคชเชียร์ หลังจากเข้ามาเรียนคณะดุริยางคศิลป์ ทำให้ฉันตอนนี้มีทักษะทางด้านแกะแพลง มันจึงเป็นผลงานที่ใช้สมัครงานที่ไหนๆ ได้ อย่างงี้หล่ะ เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องเรียนมหาวิทยาลัยต่อ มีวัยรุ่นมากมายในเมืองไม่เรียนมหาลัย’ เพราะต้องการเดินตามทางของตัวเอง ทว่าท่าหากพวกเขาไม่เรียกต่อ งานอย่างมากก็เป็นแค่พนักงานเก็บจานเท่านั้น

                ฉันเปิดประตูเข้ามาอีกห้องหนึ่งของคอนโด พลางเขย่งปลายเท้าข้ามกองขยะที่กองเกะกะอยู่บนพื้น กระป่องเบียร์เปล่าที่ระเนระนาดตั้งแต่เมื่อคืน เช่นเดียวกับเพื่อนชายที่นอนไม่รู้เรื่องรวมกับกองขยะพวกนั้น

                สกปรกชะมัด..

                ฉันปรายตามองวิลเลี่ยมกับจอยซ์นอนกึ่งเปลื้องผ้าชิ้นบนนอนอยู่บนพื้น  ส่วนคีช่ากับทรอยก็หลับสนิทอยู่ที่โซฟอีกตัว เพราะเมื่อคืนเรามีปาร์ตี้ Vodka ฉันซึ่งไม่ได้ดื่มเยอะจึงทำให้มีชีวิตรอดมาจากพวกนี้ได้ ขอบคุณพระเจ้า! ฉันเขย่งเท้าพาตัวเองเดินมาถึงห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไว้อาบน้ำเสร็จค่อยปลุกพวกมัน แต่ทว่าขณะที่เปิดประตูห้องน้ำ ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันก็ทำให้ฉันค้างและอึ้งไปชั่วขณะ

                “เวร! เธอเห็นฉันป่ะวะ!

                บอกเลยว่าเต็มๆ..

                ปึ้ง!

                ฉันกระพริบตาถี่ๆ เพื่อลืมภาพที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ให้ตายเถอะ ทำไมฉันไม่ได้ตระหนักเลยว่าเนลล์ไม่ได้อยู่เมื่อกี้ และภาพที่ฉันเห็นเมื่อกี้มันเป็นภาพด้านเหลังปลือยเปล่าของเนลล์ ไม่มีแม้แต่ผ้าเช็ดตัวขักผืน และพอหมอนั่นรู้ตัวก็รีบตะครุบผ้ามาคลุมตัวทันที

                อี๋ ภาพที่เห็นมันติดตาชะมัด..

                ฉันเดินกลับมาที่โซฟาหาตัวเองเพื่อตั้งหลัก  และพยายามลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คงลืมไม่ได้เพราะเจ้าของภาพฉาวได้เดินมาหาฉันด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์

                “ยัยบ้า ทำไมเธอไม่เคาะประตูวะ ไม่เห็นไฟเปิดเหรอไง” เนลล์เดินมาต่อว่าฉันเพื่อกรบเกลื่อนความเขิล ถึงแม้ว่าหน้าจะขึ้งไม่หน่อยก็เถอะ        

                “เชอะ! พูดอย่างกับฉันอยากเห็น ฉันจะไปรู้ได้ไงอะ แล้วไหงตื่นเช้าหล่ะ” ฉันแบะปากละตอบ ถีงแแม้ว่าเราจะรู้จักกันตั้งแต่อังกฤษ และถึงแม้ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่ถือกันมากนัก แต่ฉันกับเนลล์ก็ถือตัวกันพอสมควร

                “ฉันอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนละ

                “หา!” ฉันเผลอร้ออย่างตกใจ และมองใบหน้านิ่งอย่างไม่เชื่อตัวเอง

                “อืม..” เนลล์นักไหล่ตอบอย่างไม่สนใจ ให้ตายสิเขานอนในห้องน้ำทั้งคืนงั้นเหรอ

                “ว่าแต่นายแก้ผ้าทำไม ฉันตกใจแทบบ้า” ฉันทำเป็นเหล่ะตามองเขาอย่างระแวงๆ “โรคจิตปะเนี่ย

                “ยัยทะลึ่ง ถามแปลกๆ ฉันพึ่งอาบน้ำเสร็จ” เนลล์ว่า

                ฉันมองทางเขาและทำท่าไม่เชื่อเพื่อจะแหย่เขาเล่น แต่ไม่ทันไรเนลล์ก็ยื่นมือโคกหัวฉันอย่างแรง

                “นี่!แต่ก่อนที่ฉันจะได้เขาเรื่องเขา เสียงคีช่าก็ร้องเสียงลั่นทำให้เราทั้งคู่ต้องพร้อมใจกันวิ่งไปดู         

                “กรี๊ดดดดดดดด

                อั่ก!

                “โอ้ยยย

                “คีช่าแกเป็นอะไรเนี่ย

                ฉันวิ่งโร่เข้าไปหาคีช่าอย่างตกใจ และภาพที่เห็นเธอกลิ้งหล่นลงมาจากโซฟา ส่วนคนอื่นๆ ก็พงกตัวตื่นขึ้นมามองทางต้นเสียงอย่างงงวย

                “โอยยทำไมฉันมานั่งตรงนี้ได้” คีช่าว่าขณะที่หันซ้ายหันขวามองรอบข้างด้วยตาปลือ

                “เกิดอะไรขึ้นวะ” จอยซ์ลุกขึ้นนั่งมองพวกเราพร้อมกับตาข้างนึงเลิกขึ้นมาดู เหมือนคนพึ่งตื่นนอน

                “หนวกหูคนจะนอนโว้ย!” วิลเลี่ยมตะโกนบ้าง

                “โอ้ยเจ็บตูด” คีช่าว่าละคลำก้นตัวเองป้อยๆ

                “เฮอะ ยัยบ้า ร้องสะน่ากลัว ร้องอย่างกับเจอผี” เนลล์บ่นงุบงิบอย่างคนแก่พลางเดินหยิบเสื้อผ้าไปยังห้องน้ำ ฉันหันไปมองคีช่าที่ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เอ่อ... สิ่งที่เกิดขึ้นที่ว่ามันเป็นเพียงการหล่นลงจากเตียง

                “เอาหน่า” ฉันว่าแล้วเดินตามหลังเขาไป

                “โรสกี่โมงเเล้วอะ” คีช่าปลือตาถามอีกที

                “กำลังจะบ่ายสองอะ

                “อื้มมม” คีช่าตอบลากเสียงนาวแล้วก็สะบัดหัวแรงๆ

                “ปวดหัวเป็นบ้า เมื่อคือฉันดื่มไปไม่รู้กี่ขวด” คีซ่าว่าเดินโซซัดโซเซมานั่งข้างๆ

                “ไม่ให้ปวดหัวได้ไงล่ะ แกดูสภาพห้อสิ และอย่างกับรังหนู”  คีช่าหัวเราะหึหึเบาๆ

                “ย่ะ

                “นี่ๆ! พวกนายต้องออกจากห้องฉันก่อน 5 โมงนะ” ฉันตะโกนบอกผีสามตัวที่ยังหลับสนิทบนพื้นไม่เหลือซากความหล่อ

                “หน่าเดี๋ยวฉันจัดการเอง แกจะไปทำไรก็ทำเถอะ” คีช่าว่า ฉันพยักไหล่บอกแล้วแต่ และปรายตาพวกผีที่พูดถึงที่พื้น ทรอย ฟานจอยซ์ แม็กเกิลท์ และ วิลเลี่ยม ซีแวนด์ ทั้งหมดเป็น YouTuber ที่ติดชาร์ตอยู่ในฟินแลนด์และทั่วโลกตอนนี้ จอยซ์ แม็กเกลท์เป็นนักร้องคัพเวอร์ที่ค่าย Sony Music ของอังกฤษ ส่วน ทรอย ฟาน กับวิลลเลี่ยม ซีแวนด์ ก็ทำงานอยู่ในบริษัทยูทูบในตัวเมืองและเป็นพิธีกรรายการทีวี แต่เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังเป็น 1 ใน 20 คนหนุ่มหล่อป๊อปปูล่าในเว็บดังของวัยรุ่นเฮลซินกิที่นี่ ถึงแม้ว่าจะมีแมวมองมาถามไปเล่นหนังมากมาย แต่พวกนี้มันก็ไม่สนใจสักนิดเดียว เฮอะ! ฉันอยากจะถ่ายรูปของพวกมันตอนนี้ไปลงจริงๆ

               หลังจากที่เนลล์ออกจากห้องน้ำ ฉันก็ไล่คีช่าให้ไปอาบน้ำและปลุกพวกที่เหลือไปอาบน้ำต่อ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่มาทำแบบนี้ทุกวันไม่ก็ไม่ไหวนะ ฉันนี่มันจู้จี้จุกจิกใช่ไหมล่ะ พวกเขาค่อยๆ ลุกอย่างงัวเงียและทยอยๆ เข้าไปอาบน้ำ พวกเราสนิทกันค่อนข้างมากและพวกนั้นก็มาห้องฉันแทบทุกวัน จึงไม่เปลกที่เสื้อผ้าพวกมันจะกระจัดกระจายอยู่ตามห้อง เพราะคอนโดที่ฉันอยู่เป็นห้องชุด จึงทำให้สะดวกเป็นอย่างมากเวลาจะไปไหนมาไหนและเป็นที่สังสรรค์ของเหล่าเพื่อนสนิท

                “ตรงนี้อีกๆ ” ฉันชี้นิ้วสั่งทรอยที่กำลังเก็บเศษขยะในห้องรับแขก

                “คร้าบๆ

                “เธอจะรีบไปไหนเนี่ย” วิลเลี่ยมว่าขณะนั่งเล่นไอแพดมินิฉันบนโซฟาอย่างไม่สบายใจ ไม่ชวยใครเลยนะยะ

                “มายพาร์ททามจ็อบย่ะ

                “วันอาทิตย์เนี้ยนะ” เนลล์ถามสงสัย เพราะปกติคนธรรมดาเขาไม่เริ่มงานวันหยุดใช่ไหมล่ะ

                “อือหึ ที่ไนต์คลับน่ะ” เนลล์มองและพยักหน้า

                “ที่อยู่ทางถนนโชลีอ่ะนะ ฉันได้ยินว่าเป็นร้านเดียวที่เปิดวันอาทิตย์” คีช่าว่าขณะสพายกระเป๋าเป้และเสื้อผ้าพะลุงลังของทรอย            

                “อาหะ

                “ขยันจริงๆ นะ” คีช่าว่าพลางจิ๊ปาก ส่วนคนอื่นก็จิ๊ปากตาม ส่วยทรอยก็ขำกับท่าทางของคีช่า จนทำให้เขาอดหมั่นเขี้ยวไม่ไหวและก็เข้าไปสวมกอดคีช่าจากด้านหลังอย่างหมั่นใส้คนตัวเล็กในอ้อมกอด ยัยนั่นยิ้มเขินๆ ทั้งที่พยามจะสบับทรอยออก แต่คนตัวเล็กอยากหน่อยล่ะ ที่จะหลุดมือจากผู้ชายตัวโต

                “วี้ดวิ่วมั่นใส้โว้ย” เนลล์กับวิลเลี่ยมผิวปากล้อสองคนนั้น ส่วนฉันก็ได้แต่หัวเราะตามพวกมันล้อเลียนคีช่ากับทรอย คีช่าเดทกับทรอยได้เกือบห้าเดือนกว่าแล้วมั้ง ตอนแรกพวกเราก็เป็นเพื่อนกันธรรมดาแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนไปสปาร์กกันตอนไหน มารู้ทีหลังก็ปาไปหลายเดือนมาแล้ว ไม่บอกฉันสักคำ

                หลังจากที่พวกเขากลับไปกันหมดฉันก็เตรียมตัวไปที่ไนท์คลับพลางรีบก้าวฉับๆ เดินเข้าไปในลิฟและจิ้มนิ้วไปชั้น G แต่ทว่าลิฟกลับไม่ลงไปชั้นล่าง แต่มันดันขึ้นไปชั้นบน และทำให็ฉันไปโผล่ถึงชั้น 9 ให้ตายสิ ฉันขึ้นลิฟท์ที่เรียกไปชั้นบนสินะ ฉันกำลังรีบนะ ว่าละจิ้มนิ้วซ้ำๆ ที่ชั้น G อย่างเบื่อๆทว่าพอลิฟท์เปิดผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามา ฉันเงยหน้ามองใครคนนั้นที่เดินเข้ามาในลิฟต์อย่างไม่สนใจ นี่นายไม่รู้เลยใช่มั้ยว่ากำลังทำให้ฉันเสียเวลา ฉันคิดในใจ ทว่าในตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองตรงมาที่ฉันเหมือนจะรู้ทัน แต่ฉันไม่ได้สนใจ เพราะใบหน้าเขาดูไม่ได้สนใจว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ ฉันถอนหายใจพลางกรอกตาและเสมอมองไปทางอื่น

                ปั้ง!

                “กรี๊ด!” ฉันเผลอร้องขึ้นมาเมื่ออยู่ๆ ไฟฟ้าในลิฟต์ก็ดับอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มิหน้ำซ้ำลิฟต์ก็หยุดกรัทันหันแถมกระตุกอย่างแรงเหมือนทำท่าจะหล่นลงไปด้านล่าง ฉันเซล้มเซไปหาคนข้างๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ

                “ทำไมไฟถึงดับอะ เกิดอะไรขึ้น” ฉันว่างอย่างลนลานกับคนข้างๆ แล้วเกาะแขนเขาแน่นด้วยความกลัว ทันใดนั้นอยู่ๆ ลิฟทำให้ฉันสั่นโงนเงนเหมือนราวกลับมีคนเขย่า

                คลื่น!

                “แผ่นดินไหวข้างนอก

                “นายว่าไงนะ!

                “บอกว่า แผ่น-ดิน-ไหว..

                “กรี้ดดด!” ฉันล้มเซไปทางเขาอีกครั้ง เพราลิฟท์ที่ส่ายไปส่ายมาอย่างแรง จนครั้งนี้ทำให้เราทั้งคู่ล้มคว่ำไปกองอยู่บนพื้นด้านล่าง

                “ธะ.. เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามพร้อมกับพยายามคลำตัวฉันในความมืด แต่ืว่าทำให้มือเขาแตะตัวฉันอย่างสะเปะสะปะ

                “นี่! ปล่อยฉันนะ นายคิดจะลวนลามฉันเหรอ!” ฉันว่าละพยายามยามดันตัวเขาออก แต่ทว่ายังไงก็ดันไม่ออก ลิฟต์ยังคงโงนเงนทำให้เรากลิ้งไปมา

                “เธออยู่เฉยๆ ได้ไหม” เขาว่าจับตัวฉันอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้ดึงฉันเข้าไปกอดแรงๆ

                “กรี้ดดดด ปล่อยนะไอ้บ้า!

                “หยุดกรี๊ดสักที เสียงกรี้ดของเธอทำให้ฉันเสียสะติ เป็นบ้าหรือไงวะ” เขาพูดอย่างเริ่มจะมีน้ำโห

                “ฉันไม่เงียบ มีอะไรมั้ย!” ฉันว่าละพยายามดิ้นอย่างแรง ให้หลุดจากเขา แต่..

                “จะเงียบเอง หรือจะให้ฉันทำให้เธอเงียบ!

                “พูดอะไรของนาย!

                “จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย” เขาว่าละกระชับตัวฉันให้แน่นยิ่งขึ้น สภาพฉันตอนนี้คืออยู่บนตัวเขา พร้อมกับแขนของหมดนั่นที่เกาะกุมฉันอย่างแนบแน่น แต่อยู่ๆ ลิฟท์ก็สั่นอีกครั้ง ทำให้ตัวเราทั้งคู่ไหลไปมาตามแรงสั่น และไม่นานไฟฟ้าก็สว่างขึ้นมาทันที ฉันหลับตาแน่นพลางหายใจถี่ๆ ด้วยความเหนื่อย ความเงียบทำให้ได้ยินเพียงเสียงหายใจของเราทั้งคู่ ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ สายตาของคนตรงหน้าทำให้ฉันเหมือนคนไม่มีสติ และหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

                ตึก ตัก ตึก ตัก..

                “เอ่ออ..

                ตึก ตัก ตึก ตัก..

                “ไฟติดแล้ว..

                ผลัก!

                เสียงคนตรงหน้าทำให้ฉันตื่นจากพะวัง อยู่ๆ เขาก็ขึ้นมาคล่อมตัวฉัน แต่ว่าครั้งนี้ฉันมีสติพอที่จะผลักออก ทว่าใบหน้ากลับใกล้เข้ามา ใบหน้ารูปใข่นั่น...จมูกเขา ปากเขา และดวงตาเป็นประกายสีนำ้ตาฮาเซลนัท..            มันทำให้ฉันหยุดนิ่ง

                “นี่! เธอ.. เป็นบ้าหรือไง ร้องอยู่ได้!” คนข้างบนเฉ่งด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

                “นายนั้นแหล่ะ! ทำไมต้องมากอดฉันด้วย

                “เอ้า นี่ฉันช่วยเธอไว้นะ ไม่งั้นเธอก็เจ็บตัวไปแล้ว ยังจะมาว่า เฮอะว่าแต่ในนี้ร้อนเป็นบ้า” เขาว่าแล้วมองไปรอบๆ ลิฟต์สี่เหลี่ยมเล็กๆ

                “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องนะ” ฉันว่าละมองหน้าเขาอย่าโกรธๆ “เพราะนายคนเดียว!

                “ฉันเกี่ยวอะไรด้วย

                “ถ้านายไม่เรียกลิฟต์นี่ขึ้นมาฉันก็คงไม่อยู่ตรงนี้! กับ! นาย!

                “เป็นบ้าอะไรของเธอวะ ฉันก็เรียกลิฟต์ขึ้นมาปกติ เธอนั่นแหล่ะบ้า!” เขาว่าอย่างมีน้ำโหบ้าง

                 “ฉันมันบ้าเหรอ!” ฉันลุกขึ้นแล้วคว้างกระเป๋าใส่เขาอย่างอดไม่ได้

                “ฉันเกลียดเสียงร้องเธอว่ะ เหลมชิบ” เขาพึมพำแล้วจับหูตัวเองเบาไ

                หงุดหงิดชะมัด! ฉันถอนหายใจและหันหน้าไปทางอื่น เราเงียบกันสักครู่ ไม่นานอยู่หมอนั่นก็ถอดเสื้ออก และนั่นทำให้ฉันมองเขาอย่างตกใจ

                “นายจะทำอะไรหน่ะ” ฉันมองเขาอย่างระแวง ไม่แน่หมอนี่อาจจะเป็นพวกโรคจิต บ้ากาม

                “หยุดๆ คิดเพ้อเจอ ฉันร้อน” เขาตอบอย่างไม่สนใจพลางถอดเสื้อตัวสุดท้ายอออก จนเหลือเพียงเสื้อกล้าม ดูเหมือนฮีทเตอร์จะทำงานผิดปกติจนทำให้ที่นี่มันร้อนเกินไป

                “นี่หยุดนะ!” ฉันว่าละจับแขนเขาไว้

                “เฮ้ย ปล่อยนะยัยบ้า!

                “ไม่ปล่อย!

                “ปล่อยโว้ย!

                “ไม่ปล่อย!

                ฉันพยายามจะจับเสื้อที่เขากำลังจะถอดออก ส่วนเขาก็ยื้อและพยายามดึงมือฉันออก ทำให้เราทั้งคู่ตอนนี้เหมือนสู้กัน โดยที่เขาเหลือเพียงเสื้อกล้ามตัวเดียวบนตัวและฉันที่พยายามจับตัวแขนจับตัวเขาสะเปะสะปะเพื่อให้เขาหยุด.

                ผ่าง!

                แชะ! แชะ แชะ

                เสียงคล้ายกับกดชัตเตอร์ทำให้ฉันต้องหยุดการต่อสู้กับเขาชั่วคราว และต้องช็อคเพราะว่ามีคนมากมายยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์และมองเราสองคนอย่างตกใจ และหนึ่งในกลุ่มนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นที่มองเราตาไม่กระพริบ และฉันมั่นใจว่าเธอต้องรู้จักฉัแน่ T0T

                “อุปส์! นั่นมัน โรสมิทตี้หรือหรือเปล่า” หนึ่งในกลุ่มนั่นตะโกนออกมา เสียงนั่นทำให้ฉันหน้าชาไปสักพัก

                “ใช่ ขอถ่ายรูปเร็วๆ ว่าแต่เขามาทำอะไรกับผู้ชายสองต่อสองน่ะ” อีกเสียงแว่วออกมากพร้อมกับกลุ่มวัยรุ่นที่แทรกตัวออกมาถ่ายรูปฉัน

                “ในลิฟต์ก็ไม่เว้น..แว้ดๆๆ”  

                “แชะ แชะ!

                พระเจ้าช่วยยยยยยยยยยย!

     ▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂
    คุยกัน 

    เรารีไรท์นิดหน่อยนะคะ แต่เนื้อเรื่องทั้งหมดเหมือเดิน ชอบไม่ชอบติชนได้เลยจุ้บๆ 
    หนึ่งคอมเม้นต์เป็นอะไรที่สำคัญมาก 5555555 มาอ่านละมาเม้นหน่อยนะ คะ :) - aways. 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×