คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อะไรเอย!!!....วัดอะไรข๊าว...ขาว แถมสวยสุดๆ
อัแน่ รู้รึป่าวว่า วัดอะไร เด๋วดูต่อไปก่อง
นกที่เห็นอยู่ทางด้านซ้ายและขวานั้น ตอนแรกดูเผินๆ นึกว่าพญานาคค่ะ -_-" แต่พอดูดีๆ แล้วมันไม่ใช่ ตะเกียกตะกายค้นมาได้ว่า คือนกหัสดีลิงค์ มีลักษณะหัวเป็นช้าง ตัวเป็นนก และมีหางเป็นหงษ์ อีกที่ก็ว่า มีตัวเป็นนก หัวเป็นราชสีห์ แต่จมูกยื่นออกไปเป็นงวงคล้ายงวงช้าง แต่เขี้ยวหน้าเป็นงา แต่ที่บอกเหมือนๆ กันก็คือ เป็นนกที่ตัวใหญ่มีกำลังเท่าช้าง ๕ เชือก มีกรงเล็บใหญ่ มีงวงคล้ายงวงช้าง กินเนื้อคนและสัตว์เป็นอาหาร (ง่ะ กินเนื้อคนด้วย ดุจัง)
• อุโบสถวัดร่องขุ่น : เชียงราย
วัดบ้านเกิดของ อจ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ |
ก่อนเข้าเมืองเชียงรายประมาณ ๑๓ กิโลเมตรตรงสามแยกไฟแดงทางเข้าน้ำตกขุนกรณ์ จะเป็นที่ตั้งของวัดร่องขุ่น ซึ่งห่างถนนใหญ่เพียง ๑๐๐ เมตร เท่านั้น วัดร่องขุ่น อยู่ในท้องที่ตำบลอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นวัดบ้านเกิดของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังของไทย ผู้ฝากผลงานด้านพุทธศิลป์ที่เกรียงไกร วิจิตรวิไลและอลังการคณานับไว้บนผืนแผ่นดินไทยและต่างประเทศจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
"ผมสร้างวัดร่องขุ่นมาถึงปีนี้ พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็นเวลากว่า ๖ ปีแล้ว อุโบสถภายนอกเสร็จไปประมาณ ๖๕ เปอร์เซ็นต์ (ใช้เงินไป ๒๘ ล้านบาท) ยังขาดลวดลายปูนปั้นประดับกระจกที่จะนำไปประกอบสิ่งก่อสร้างอีกมากมาย ส่วนภายในจะเป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังทั้ง ๔ ด้านขององค์พระประธาน ลายประดับเพดานและพื้นอุโบสถที่จะใช้วิธีการเขียนภาพบนเซรามิคเผาเคลือบจะใช้เวลาในการตกแต่งมากกว่าภายนอก ซึ่งผมคาดว่าอีก ๕ ปีข้างหน้า การตกแต่งภายนอกคงจะเสร็จสมบูรณ์ ผมอยากจะสร้างงานศิลปะแนวพุทธศิลป์อันยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศชาติแก่แผ่นดินเกิดที่ผมรักยิ่ง และแก่มวลมนุษยชาติทั้งโลกอย่างเต็มสติปัญญาความสามารถ ด้วยการถวายกำลังทรัพย์ที่หามาได้และชีวิตของผมอุทิศให้กับการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสุดท้ายของชีวิตให้หมดสิ้นภูมิรู้ทางโลกและภูมิธรรมที่ร่ำเรียนมาในชาตินี้" วาทะอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (จากเอกสารของวัดร่องขุ่น)
หากท่านมีโอกาสไปเที่ยวเชียงรายก็อย่าลืมแวะไปชมความวิจิตรพิสดารของอุโบสถวัดร่องขุ่น แวะไปให้กำลังใจและสนับสนุนการสร้างวัดร่องขุ่นนี้แก่ท่านอาจารย์เฉลิมชัยได้ทุกวัน หากท่านอาจารย์ไม่มีภารกิจที่ใดแล้วท่านจะอยู่ที่วัดเพื่อควบคุมดูแลงานก่อสร้างวัดและต้อนรับญาติโยมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยท่านสามารถถ่ายภาพและพูดคุยกับอาจารย์ได้อย่างเป็นกันเอง ... ที่สำคัญวัดนี้ไม่มีซองกฐินผ้าป่ามาเรี่ยไรจากผู้มาเยือนแต่อย่างใด แต่ท่านที่อยากสมทบทุนก็สามารถบริจาคเงินได้ด้วยการซื้อหนังสือ ภาพวาด ภาพพิมพ์ การ์ดอวยพรและเสื้อผ้าซึ่งมาจากผลงานของอาจารย์ เรียกว่าได้ทั้งทำบุญและได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากญาติมิตรหรือตัวท่านเองว่าครั้งหนึ่งเราได้มาทำบุญร่วมสร้างวัดที่สวยงามแห่งนี้
สำหรับพี่เล็กนี้ ได้มาเยือนวัดร่องขุ่นถึงสามครั้งแล้ว (ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖-๒๕๔๗) ได้เห็นความก้าวหน้าทั้งอุโบสถและสถานที่รอบๆ บริเวณวัด โดยคราวที่มาครั้งแรกช่วงวันพ่อ (เดือนธันวาคม ปี ๔๖) นั้นภายในอุโบสถยังอยู่ระหว่างการวาดภาพฉากหลังของพระประธาน และบริเวณภายนอกรอบๆ วัดก็ยังดูโล่งๆ แต่เมื่อมาอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมปี ๔๗ นี้ก็ได้พบกับที่จอดรถขนาดกว้างใหญ่ใกล้ๆ กับอาคารที่จำหน่ายของที่ระลึกของวัด และล่าสุดเมื่อคราวที่ไปเยือนมาครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน ปี ๔๗ นี้เช่นกันก็ได้เห็นบริเวณพื้นที่ฝั่งตรงข้ามวัดได้จัดเป็นพลาซ่าขนาดย่อมๆ พร้อมที่จอดรถทัวร์และรถทั่วไป ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก และทำให้ชาวบ้านแถวนั้นมีรายได้จากการจำหน่ายของฝากต่างๆ ซึ่งนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าแวะชมและสนับสนุนการสร้างวัดให้แล้วเสร็จสมบูรณ์เป็นถาวรวัตถุเพื่อประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและจรรโลงใจด้วยพุทธศิลป์จากมันสมองและฝีมือของคนไทย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ขวัญใจของพวกเราทุกคน
ใครสนใจ เข้าไปเวปนี้ได้
http://www.geocities.com/lek41_plus/watrongkhun.html
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sakaara-garden&month=11-2005&date=27&group=4&blog=1
-------------------------------------------------------------------------------------
ได้โปรด เม้นให้หน่อยน้า เม้นๆๆๆๆๆๆๆ
เม้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โหวตด้วยก็จะขอขอบพระคุณอย่างสูงเลยน้า
ความคิดเห็น