ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Kingdom Hearts The Murderer (Crime Devil)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 60


    Chapter 2 : การพบเจอกัน


    Riku Part :

    จิ๊บ ๆ!!

    ณ เช้าอันสดใสผมลุกขึ้นจากเตียงด้วยความงัวเงีย ผมขยี้ตาตนเองเบา ๆ วันนี้ผมก็ต้องไปสืบคดีที่โรงเรียนใหม่ โรงเรียนเอนเซนเรียว ผมจึงจำเป็นที่จะต้องย้ายที่เรียนใหม่และลาเพื่อน ๆ จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะนายน้อย วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะคะ" มาเรีย สาวใช้ประจำตัวของผมที่คุณแม่ส่งมาให้ดูแลผม ยามอยู่ที่นี่ ทักทายหลังจากผมทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว

    "อรุณสวัสดิ์ครับมาเรีย เช้านี้ทานกับอะไรเหรอครับ?" ผมถามตามประสาคนเพิ่งตื่นนอน เธอยิ้มให้ผมน้อย ๆ

    "วันนี้ทานซุปมิโสะกับปลาดิบไปก่อนนะเจ้าคะ พอดีว่าวัตถุดิบประกอบอาหารใกล้หมดแล้วน่ะเจ้าค่ะ" เธอบอก จะว่าไป...ผมยังไม่ค่อยได้ไปซื้อของทำอาหารเลยนี่นา งั้นวันนี้แวะซักหน่อยละกัน

    "เดี๋ยวตอนเย็นผมซื้อให้ก็แล้วกันนะ" ผมพูด

    "อ่อ ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ พอดีมีร้านสะดวกซื้อใหม่เปิดหน้าคอนโดน่ะเจ้าค่ะ" เธอว่า เอ้า! ก็ได้แล้วแต่เธอละกันนะ 

    ตามลักษณะนิสัยผม ผมเป็นคนสบาย ๆ ครับไม่เครียดมาก แล้วแต่คนอื่นจะคิดยังไง แต่ผมไม่ค่อยสนกับความคิดคนอื่นสักเท่าไหร่น่ะนะ

    "งั้นแล้วแต่เธอแล้วกัน" ผมว่า

    "อ๊ะ! จริงสิ! นายน้อยเจ้าคะ คุณอควาฝากสิ่งนี้มาให้เจ้าค่ะ" มาเรียยื่นกล่องกระดาษสีน้ำตาลใบเล็กให้ผม ผมเปิดมันออก มันคือชุดนักเรียนถ้าจำไม่ผิด เป็นชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเอนเซนเรียวกางเกงและเนคไทน์สีฟ้าลายสก๊อตกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ผมชักไม่แน่ใจซะแล้วสิว่ามันจะใส่ได้ไหมเนี่ย (เหมือนตัวเล็กครับ) แต่...ช่างเถอะครับ

    ผมเดินเข้าห้องตัวเอง สามนาทีต่อมา... ผมเดินออกมาพร้อมชุดนักเรียนใหม่ มันเอ่อ...จะว่าไงดีล่ะครับ...พอดีกับตัวมั้งครับ ผมแอบอิจฉาท่านเทร่าอยู่ก็คือ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมใส่ไซด์อะไร?

    "เหมาะมาก ๆ ค่ะนายน้อย" มาเรียชม

    "อา...ขอบคุณนะ!!" ผมรู้สึกอาย ๆ เล็กน้อย เพราะชุดมันไม่ค่อยเข้ากับหน้าเข้ม ๆ ของผมเลยน่ะสิ 

    ก๊อก ๆ!

    "ขออนุญาตเข้าไปหน่อยนะ" อควาเดินเข้ามา มาเรียเปิดประตูพร้อมทักทายแขกเหมือนทุกครั้งที่มีแขกมา

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอควารับชาหน่อยไหมเจ้าคะ?" มาเรียกล่าวรับเชิญ

    "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มาเรีย ฉันมาแค่แป๊บเดียวจ้ะ ริคุ เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?"    อควาถาม ผมพยักหน้าให้ เธอยื่นกระเป๋านักเรียนแบบถือมาให้ผม (โรงเรียนเก่าผมเป็นแบบสะพายเหมือนเป้น่ะครับ)

    ในนั้นจัดตารางการเรียนการสอนของวันนี้ไว้ครบวงจร ผมยิ้มให้กระเป๋าถือเพื่อนใหม่ ดั่งแนะนำตัวก่อนพวกเราจะออกปฏิบัติการครั้งใหญ่

    "เราพร้อมแล้วนะ แล้วเธอล่ะพร้อมแล้วหรือยัง?" อควาถาม ผมพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องพัก

    ในรถของอควา...

    ผมนั่งเปิดสมุดรายงานการสืบสวนประจำวันนี้ในระหว่างเดินทาง แย่จริง ๆ ครับ เช้านี้มีศพเพิ่มมาอีกสองรายแถมถูกเผาทั้งเป็นจนไหม้แยกศพไม่ออก แล้วยังมีจนหมายจากฆาตกรร้อยศพคนเดิมวางไว้เช่นเคย 

    เอี๊ยด!!

    "มีอะไรเหรอครับอควา!?" ผมถาม

    "ชู่ว!! เธอมาแล้ว" อควาบอก ผมจึงเงียบใครกันนะที่มา? 

    ปัง ๆ!!!

    "สะ...เสียงปืนนี่ครับ!!" ผมตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าอควาซังเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย

    "เฮ้ย!! มันอยู่ทางนั้น!! ตามมันไป!! เอาดิสก์มาให้ได้!! อย่าให้มันหนี!! ไม่งั้นวันนี้หัวกุดแน่!!!" ผมได้ยินเสียงบ่นโอดครวญพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนนับสิบที่ดังมาจากตรอกเล็ก ๆ 

    ผมเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาในชุดฤดูใบไม้ร่วง อายุน่าจะรุ่นเดียวหรืออ่อนกว่าผมปีเดียว เธอใช้ปืนสลิงส่งให้ตัวลอยขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกอิฐแดง ผมมองอยู่ซักพัก ก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาอย่างร้อนรน อาจจะมีบ้างที่ทำอะไรไม่ถูก

    "ลูกพี่ไปทางไหนดีครับ!?" 

    "โอ๊ย!!! ไปทางไหนเอ็งก็แยก ๆ กันไปเหอะน่าไอ้พวกโง่!!!" ลูกพี่ว่า และแน่นอนพวกเขาไปผิดทางกันถ้วนหน้า

    ผ่านไปหลายนาทีเหตุการณ์เริ่มสงบลง กลุ่มบุคคลสิบคนได้หายไปจากที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว

    ตุบ!!

    ผมได้ยินเสียงของตกบนหลังคารถ อควาเปิดกระจกรถข้างผม (พอดีนั่งข้างหลังครับ) ร่างเล็ก ๆ อันบอบบางของเด็กสาวลอดเข้ามาอย่างง่ายดายราวบการเข้า - ออก ทางหน้าต่างรถเป็นเรื่องปกติ ผมอยากถามเธอว่า เอาเวลาที่ไหนไปเปลี่ยนชุดกันแน่ ตอนแรกเธอยังใส่ชุดฤดูใบไม้ร่วงอยู่เลยครับ แล้วตอนนี้กลับเป็นชุดนักเรียนซะอย่างนั้น (ผมอยากได้วิชานี้บ้างจัง)

    "มาช้าจังนะ" อควาเริ่มต้นประโยคทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่

    "เกิดการผิดพลาดระหว่างการปฏิบัตินิดหน่อยค่ะ" ผมมองสิ่งของที่เด็กสาวคนนั้นเอามาให้ อควารับไปอย่างมีชัย

    "ดีมากจ้า" เอ่อ...คือช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับคุณอควา...T[]T 

    ดูเหมือนอควาจะอ่านความคิดผมออกหล่อนยิ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างขำใจ

    "ฉันคงลืมบอกเธอไปสินะ ริคุ นี่คือสายลับจากรัฐบาลที่ส่งมาช่วยเธอไขคดีในระหว่างที่ตามสืบเรื่องนี้อยู่น่ะ ชื่อ  ไคริ ฮินาโตะ" อควากล่าวผมมองเธอนิดหนึ่ง ก็สวยดีนะ นัยย์ตาสีฟ้าอ่อนกับผมสั้นสีชมพูทำให้เธอดูอ่อนมาก น่าจะยังเด็กอยู่

    "กล่าวสวัสดียามเช้านะคะ นักสืบริคุ ยินดีที่ได้ร่วมงานค่ะ" เด็กสาวยื่นมือมาผมจับตอบ

    "เช่นกันครับหวังว่าคงได้เราคงได้ทำงานร่วมกันจนปิดคดีนี้ได้นะครับ คุณไคริ" ผมกล่าวอย่างเป็นทางการที่สุด

    "ขอบคุณค่ะ หมาป่าสีเงินแห่งนครบาล..." 

    ...............................................Riku Part  : End................................................

    Sora Part : 


    มันควรจะเป็นเช้าที่สนุกที่สุดของผม ใช่นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิด หรืออาจจะเคยคิด นับตั้งแต่ที่พี่เวนิทัสประกาศกฎอัยการศึกห้ามผมฆ่าคนอีก

    "โซระ!! นายฟังฉันอยู่หรือเปล่า!!!" เสียงตะคอกของพี่ทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากห้วงภวังค์ความคิดที่จะหนี ในรถเก๋งคันเก่า ที่ใกล้พังเต็มทีแอร์อาจไม่เย็นนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการคุยธุระเป็นส่วนตัว

    "อะไรพี่!! ผมฟังอยู่น่า!! ชิ!" ผมจิ๊ปากเบา ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ได้ยินหรอก แต่มันหงุดหงิดจริง ๆ โชคดีที่ผมซื้อชุดนักเรียนมาอีกชุดกะว่าถ้าว่าง ๆ ค่อยกำจัดหลักฐาน ผมคิดในใจได้เต็มที่ เพราะไม่มีพี่เว็นทัสมาคอยอ่านใจ คุณผู้อ่านทุกท่านเคยรู้สึกอึดอัดไหมที่ต้องมีพี่หรือน้อง อาจจะเป็นฝาแฝดหรือไม่ก็ได้ ที่อ่านใจเก่งและต้องอยู่กับเขาทั้งชีวิต มันอึดอัดนะ ยิ่งเป็นแฝดยิ่งแล้วใหญ่ ทฤษฎีที่ว่า ฝาแฝดสามารถอ่านใจกันได้ ผมคิดว่ามันจริงไปแล้วล่ะ 

    "ไม่! ฉันรู้ว่านายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย! ขอเถอะโซระ! นี่มันสำคัญกับชีวิตอนาคตของนายนะ!" โถ่ เวนิทัสนี่ซังผมรู้น่า พี่ก็พูดแต่เรื่องนี้ซ้ำ ๆ มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วล่ะนะ ผมรู้ว่าพี่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อจ่ายค่าหอ ไอ้ผมก็อุตส่าห์ช่วยหามาให้ก็ไม่เอา (ไรต์//จากการฆ่าคนเนี่ยนะ!!)

    เอี๊ยด!

    รถเก๋งของพวกเราจอดเทียบกับสถานีรถไฟประจำเมือง ผู้คนไม่ค่อยเยอะมาก แถมตัวสถานีเองก็เก่าเต็มทีป้ายจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่แล้ว

    "ตอนเย็นมารอพี่ที่นี่นะ พี่จะเอารถมารับ ห้ามเถลไถลที่ไหนล่ะ!" 

    "คร้าบบบบบบ!!!!!!" ผมลากเสียงยานคาง ให้ตายสิมีพี่ใหญ่แบบนี้ก็น่าเบื่อนะ

    ผมเดินบนฟุตบาตที่ปูพื้นอิฐแดง ฝุ่นละอองคละคลุ้งจากล้อของยานพาหนะทั้งหลาย ถ้าผมมีสุขภาพที่แย่กว่านี้ล่ะก็รับรอง ได้เข้าหาหมอแน่

    แม้จะเป็นโรงเรียนที่ไกลจากที่พัก 2 กิโลเมตร แต่บ้านผมก็ยังมีนโยบายไปส่งครึ่งทางเดินไปอีกครึ่งทาง ประหยัดใช่ไหมล่ะ แหงล่ะ ค่าน้ำมันน่ะมันแพงระดับที่ ซื้ออาหารตุนไปได้ 1 อาทิตย์เลยล่ะ

    แม้จะมียานพาหนะบ้างแต่ก็ยังเป็นเช้าตรู่อันสงบสุขเช่นเคย และโชคดีจริง ๆ ที่เดินไปโรงเรียน เพราะต้องข้ามสะพานคาสึโอโทะริ (ไรต์//คิดเองฮะ) ผมเกาะรั้วเหล็กใหม่เอี่ยม สูดเอากลิ่นเกลือทะเลเข้าไปเต็มปอด คุณนักอ่านทุกท่านลองสูดหายใจเข้าที่ชายทะเลดี ๆ หรือบนภูเขาที่อุดมสมบูรณ์สิ สดชื่นไหม? นั่นแหล่ะโอโซนทั้งนั้น ถ้าหามันเจอนะ

    ผมชอบนะบรรยากาศแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นนักฆ่า แต่ก็ยังอยากมีวันที่สงบ ๆ บ้างเหมือนกันนะ กลิ่นทำให้ผมคิดถึงบ้าน ทำให้ผมคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่จากไป เพราะเจ้าพวกนั้น!!... 

    "สักวันฉันจะต้องแก้แค้นแก...เซฮานอท..." ผมตั้งมั่น ส่วนนั่นเป็นใครผมขอไม่พูดดีกว่า

    ผมผละออกจากรั้ว ออกเดินต่อไปยังโรงเรียนเช่นเคย แม้ว่าความทรงจำในอดีตจะซัดเข้ามาสุมในอกอีกรอบ แต่ว่าคำสอนของคุณแม่ผมจึงต้องอยู่ โดยมีสิ่งที่เรียกว่า แค้น ซึ่งแผดเผาให้ผมและพี่ ๆ เหมือนตายทั้งเป็นมาตลอด 4 ปีนี้ และแน่นอน ที่ผมฆ่าไปทั้งหมดก็เป็นเจ้าพวกนั้นเหมือนกันและประกาศศึก ให้เจ้าพวกนั้นได้รู้ว่า

    '...ผมพร้อมเสมอที่จะปะทะกับ แก...' 

    _____________________ฟุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ____________________

    ผมเดินมาจนถึงเลี้ยวนรก ทำไมถึงเรียกว่าเลี้ยวนรกเหรอ จริง ๆ มันก็เขตชุมชนดี ๆ นั่นแหล่ะนะ คือก่อนที่จะถึงโรงเรียนของผม มันมีเลี้ยวเยอะมากนับสิบ ๆ กว่าเลี้ยวได้ ใครโชคดีอาจเลี้ยวไปเลี้ยวมา ดันมาโผล่ที่เดิมก็ได้นะ 

    อันที่จริงสำหรับผมผมเก่งเรื่องเขาวงกตอยู่แล้วแค่นี้สบายมาก แต่ร็อคซัสน่ะสินักหลงทางตัวยง อย่าให้ร็อคซัสนำคุณเลย จะหลงทางเสียเปล่า

    ผลั่ก!!!

    "โอ๊ย!!!" ผมชนเข้ากับใครคนหนึ่งขณะเลี้ยว แม้ว่าจะไม่เจ็บอะไรมาก แต่ร่างใหญ่ที่ผมชนไปนั้นอาจทำให้ปลิวไปอย่างง่ายดายแน่ ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า 

    "ขอโทษนะครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?" ร่างสูงก้มลงเก็บสิ่งของที่กระจัดกระจายพลางกล่าวขอโทษขอโพยยกใหญ่ เรือนผมสีเงินพยุงผมลุกขึ้น ถ้าให้เดาจากสำเนียงการพูด น่าจะเป็นลูกผู้ดีนะผมว่า

    "อะ...อื้อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ" ผมปัดฝุ่นเล็กน้อยพอดูเป็นมารยาท ผมสบตากับลูกแก้วมรกตคู่นั้น ตาสวยจังแฮะ

    "ขอโทษนะครับ ผมรีบไปหน่อย" เด็กหนุ่มคนนั้นว่า

    "ไม่เป็นไรครับ ผมไม่โทษอะไรหรอก ผมเองก็เหม่อเหมือนกันแหล่ะครับ" 

    "ว่าแต่คุณจะไปไหนเหรอครับ?" ผมถามเขา เห็นอีกฝ่ายรีบร้อนขนาดนั้น แถมยังใส่ชุดโรงเรียนของผมอีก 

    "ไปที่โรงเรียนเอนเซนเรียวครับ พอดีผมเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่เลยไม่รู้จักทางแถว นี้น่ะครับ แหะ ๆ" คนตรงหน้าหัวเราะแห้ง ๆ ผมแอบลอบยิ้มตาม ทั้งท่าทางและมารยาทก็ดี แบบนี้สาว ๆ กรี๊ดแน่ ซึ่งมันไม่ค่อยดีสำหรับผมเท่าไหร่ มันทั้งดังและน่าหนวกหู แต่กิริยาของเขาคนนี้ก็ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ

    "น่าตกใจจริง ๆ ถ้าไม่รังเกียจผมยินดีนำทางให้ครับไหน ๆ พวกเราก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้วนี่นา" อ๊ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนำทางหน่อยก็แล้วกันสงสาร 

    "ขอบคุณครับ ผมชื่อ ริคุครับ" ผมหันไปมองเรือนผมสีเงินแต่ไม่เปิดเผย อารมณ์ ความรู้สึก ดีใจเหรอ? หรืออาจจะกลัวว่าต้องเสียใครไปอีก ใช่อาจจะเป็นเช่นนั้น ลูกแก้วมรกตนั้นมองสบตากับดวงตาสีนภาของผม เหมือนจ้องมองเข้ามาในใจ ด้วยความอ่อนโยนนั้นผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย

    "โซระครับ" นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมมีเพื่อนกับเขา หรืออาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะอยู่เพื่อเป็นเพื่อนกับผม ผมไม่อยากให้เขารู้จักผมมากเกินไป เนื่องจากผมมันเป็นนักฆ่า และการที่เขายิ่งใกล้ชิดผมมากขึ้นเขาก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น...


    .............................................. Sora Part  : End.................................................

    จบ ๆ พอ ๆ ค้างยาวและ มาต่อได้ซะที จะร้องไห้ค่ะ TwT พาร์ทของโซระคุงอาจจะน้อย ๆ หน่อยนะคะ เพื่อการติดตาม (บวกกับความขี้เกียจของไรต์) เปิดเทอมแล้วขอให้ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ ว่าแต่ทุกคนคะ คิดว่า กระรอกจะพิมพ์กับสำนักพิมพ์ดีไหม (เปลี่ยนชื่อตัวละครกับพล็อตน่ะ)

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×