คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ : ภาคโบรูโตะ
Boruto Uzumaki :
กริ๊ง!!!
เสียงกริ่งของโรงเรียนอนุบาล R บอกเวลาเลิกเรียนแล้ว
เหล่าหนูน้อยต่างสงเสียงเจื้อยแจ้วดั่งผึ้งที่แตกรัง
เพราะวันนี้คือวันสุดท้ายของการเรียนทำให้เหล่าเด็ก ๆ
โบกมือลาคุณครูที่ยืนรอส่งพวกเขาหน้าโรงเรียนพร้อมโบกมือลาด้วยรอยยิ้ม
"เฮ้ ๆ!" ความวุ่นวายในสนามเด็กเล่น
เหล่าหนูน้อยต่างเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทั้งกระดานลื่น กระดานหก
และม้าหมุนล้วนมีเด็ก ๆ ยึดครองเป็นเจ้าของกันทั้งสิ้น
"เฮ้ย! ไอ้หน้าจืด! มาทำอะไรที่ชิงช้าของข้าวะ?"
นักเลงประจำโรงเรียนอนุบาล R ซึ่งมีอายุมากที่สุดในโรงเรียน
จะบอกง่าย ๆ คือ เจ้าตัวเรียนซ้ำชั้นอนุบาล 3 มา 2 ปีสิถึงจะถูก เขาก้าวมายังเด็กชายผมสีบลอนด์ทอง นัยย์ตาสีฟ้า
เสื้อฮู๊ดแขนสั้นสีชมพูม่วง ซ้อนทับด้วยเสื้อกั๊กขนาดเล็กสีดำ
สวมกางเกงขาสั้นสีเขียวเข้ม มองผู้มาเยือนด้วยสายตาเบื่อหน่าย
"ชิงช้านี้ไม่ใช่ที่ของนายคนเดียวซักหน่อยนี่ โคตะ อีกอย่าง เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นแห่งนี้พ่อของฉันก็เป็นคนซื้อบริจาคให้ทุกคนเล่นกันแบบสาธารณะ...ไม่ใช่ของ
ๆ ใครนี่..." ผมกล่าวเสียงเรียบ
แม้ในใจจะเบื่อจนอยากถล่มโรงเรียนแห่งนี้ทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำไม่ได้
"แหม...ทำปากดีนะไอ้ไก่อ่อน ออกไป!"
โคตะว่าแล้วใช้มือขนาดยักษ์พลั่กร่างเล็ก ๆ ของเขาร่วงตกชิงช้าอย่างง่ายดาย
"โอ้ย!!" เด็กชายร้อง ล้มก้นจ้ำเบ้า
แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาสักเท่าไหร่ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขา
"ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย..."
เด็กชายสองคนที่เป็นลูกน้องของโคตะ เอ่ยข้างหูของเด็กชาย
ทั้งสามยินพื้นที่ชิงช้าอย่างสมบูรณ์...
(เอาเถอะ...ฉันเองก็ไม่ได้ว่าอะไร...)
เขาคิดในใจขณะปัดฝุ่นที่กางเกงแล้วปล่อยชิงช้าที่เคยเล่นไปตามใจของพวกเด็กนักเลง
พ่อของเขาหรือก็คือ ดร.อุซึมากิ นารูโตะ ที่ทุกคนรู้จักคือ
นักวิจัยชื่อดังผู้คิดค้นยาใหม่ ๆ ที่ส่งออกตามโรงพยาบาลต่าง ๆ
และได้ส่งออกนอกประเทศ เดิมที่ดร.อุซึมากิไม่ได้มีทุกอย่างเพียบพร้อมเหมือนในตอนนี้
และแม่ของเขา อุซึมากิ ฮินาตะ ก็เป็นผู้ช่วยของพ่อเขาด้วย
(บางที...ฉันก็แอบอิจฉาพ่อนะ...ที่สามารถสู้ได้จนมีชีวิตที่ดี...)
เด็กชายคิด เป็นบางครั้งที่เขาลูกชายของดร.นาม 'อุซึมากิ
โบรูโตะ' นึกน้อยใจอยู่เสมอว่า พ่อกับแม่นั้นเข้มแข็ง
สามารถผ่านอุปสรรคในชีวิตมาด้วยกันจนเกิดเป็นเขา
แต่ก็ดันมีลูกชายที่ไม่เอาไหนอย่างตน
'ลูกไม่ใช่คนที่ไม่เอาไหนหรอกนะ...โบรูโตะ...คนเรานั้นมีทั้งจุดแข็งและจุดด้อย...แม้คนอื่นจะเอาจุดด้อยของเรามาล้อเล่นแต่พ่อขอให้ลูกรู้ไว้ว่า...คนเหล่านั้นมีอีกมากมายในสังคม
แค่ลูกไม่สนใจและพยายามพัฒนาจุดด้อยของเราให้แข็งแกร่งขึ้น...นั้นแหล่ะคือสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดในตอนนี้...' พ่อเคยสอนเขาไว้เมื่อตอนที่ถูกเพื่อน
ๆ ภายในห้องล้อเลียนเรื่องที่ตนไม่เอาไหน
ขณะนั้นเอง ร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง ก้าวเข้ามาในสนามเด็กเล่น
นัยย์ตาสีขาวโพลนเบิกกว้าง ผิวสีขาวซีดราวกับศพที่เพิ่งตายใหม่ ๆ
มือไขว่คว้าหาอะไรบางอย่างในอากาศ ที่ไหล่ของเธอนั้นมีรอยแผลแห้งกรัง
เหมือนกับว่าเธอถูกอะไรบางอย่างกัดมานานแล้ว
"...อายาชิ..." เด็กชายทักทายเธอตามปกติ
แต่เด็กหญิงกลับยืนนิ่งต่อหน้าเขา ห่างจากเขาไปไม่กี่วา
"อายา...ชิ..."
เด็กชายที่พึงเฉลียวใจในท่าทีแปลก ๆ ของเด็กหญิงเพื่อนร่วมห้อง
ก่อนมือบางของเธอที่ไขว่คว้าหาอากาศ จับแขนของแล้วก็...
กรับ!!!
เสียงฟันที่กัดลงบนเนื้อทำให้เด็กชายที่ยืนตะลึงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเพื่อนร่วมที่เขารู้จักนั้น ได้ฝังฟันที่แขนของเขา
และพยายามฉีกทึ้งออกแต่ไม่เป็นผล
"อายาชิจัง!!!"
คุณครูที่เห็นเหตุการณ์วิ่งเข้ามาดึงอายาชิออกจากเขา
แม้เนื้อเยื่อบางส่วนจะหายไปกับปากเล็ก ๆ ของเด็กหญิง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เธอแทะเขาจนตาย
"เอาโบรูโตะคุงไปที่ห้องพยาบาลเร็วเถอะครับ!!"เสร็จแล้วรีบส่งเค้ากลับบ้านทันที!
แจ้งดร.อุซึมากิด้วย!" คุณครูผู้ดึงเด็กหญิงเอาไว้ว่า
ก่อนจะโดนเธอกัดเข้าที่ข้อมือ
"อ้าก!!! โอ้ย!!"
คุณครูร้องอย่างเจ็บปวดและปล่อยร่างเด็กหญิงออก เธอหันมากัดเข้ากันลำคอคุณครูที่จับเธอฟันซี่เล็กเจาะเข้าเส้นเลือดใหญ่พอดิบพอดี
"กรี๊ด!!!//ว้าก!!!" ทั้งนักเรียน
และคุณครูต่างแตกตื่นเมื่อเห็น
อายาชิกัดกินร่างของคุณครูหนุ่มถูกหนูน้อยแทะอย่างหิวโหย
ทางด้านโบรูโตะ...
ห้องสีขาวสะอาดตาคุณครูประจำห้องพยาบาลที่เพิ่งจะทำแผลให้กับเด็กชายเสร็จ
เธอใช้ผ้าพันแผลม้วนไปตามแขนเล็กอย่างเบามือจนเสร็จ
ปัง!!
เสียงบานประตูเลื่อนของห้องพยาบาลถูกเปิดออกอย่างแรง
ร่างโปร่งของชายหนุ่มผมสีดำยาวระต้นคอสวมแว่นตากรอบกลมดูเนิร์ด ๆ
สูทสีกรมและเนคไทสีเขียวเครื่องแบบของโรงเรียน R แผนกมัธยมก้าวฉับ
ๆ เข้ามาทางที่เด็กชายนั่งให้ครูห้องพยาบาลทำแผล
"โบรูโตะคุงเป็นยังไงบ้างครับ!?" เขาถามทันทีพร้อมกับ สำรวจสภาพเด็กชายว่าไม่มีอะไรเสียหายหนักเกินเยียวยา
"เอ่อ...คุณคือ...?" ครูห้องพยาบาลถามเอ่ยถามอย่างไม่คุ้นหน้าเด็กหนุ่มมาก่อน
เพราะทุกครั้งคนที่จะมารับหรือส่งเด็กชายมีเพียงพ่อกับแม่ของเขาเท่านั้น
"อ่า...ขอโทษที่วิสาสะเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตครับ!
ผมเป็นพี่เลี้ยงของโบรูโตะคุงที่เพิ่งมาทำพาร์ทไทม์ไม่นานมานี้น่ะครับ ชื่อ
คิชิคาว่า โทนูเอะครับ แหะ ๆ" เด็กหนุ่มแนะนำตัวพลางลูบหลังผมอย่างเก้อ ๆ อาย
ๆ
"อ้อ อย่างงั้นเหรอคะ
ตอนนี้น้องเค้าไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ
ทำแผลและฆ่าเชื้อให้แล้วเบื้องต้นอีกไม่นานก็หายแล้วค่ะ เผลอ ๆ
อาจจะหายเร็วคนทั่วไปอีกนะคะ แป๊บ ๆ ก็แผลตกสะเก็ดแล้ว" ครูห้องพยาบาลว่า
ในขณะที่คิชิคาว่าอุ้มเด็กชายลงจากเตียงผู้ป่วย
"ขอบคุณมากนะครับ
อันที่จริงวันนี้คุณอุซึมากิว่าจะมารับโบรูโตะคุงเอง...แต่ว่าดันมีงานผิดพลาดเล็กน้อยเลยให้ผมมารับแทนน่ะครับ
แถมมันก็ใกล้จะเริ่มพาร์ทไทม์ของผมแล้วด้วยก็เลยมารับเองน่ะครับ"
เด็กหนุ่มว่า
"ค่ะตอนนี้สามารถพาเด็กกลับบ้านได้แล้วน่ะค่ะ ขอขอโทษสำหรับวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ ยังไงก็กลับกันระวัง ๆ นะ"
ครูสาวยังพูดขณะมาหลังของทั้งคู่จากไป เด็กหนุ่มจูงมือเด็กชายแน่นแล้วออกจากห้องไป
ตามถนนที่ว่างเปล่าสองหนุ่มเดินทอดน่องอาบแสงแดดอุ่น ๆ
ทั้งสองเตรียมตัวที่จะเข้าเมืองเพื่อแวะหาซื้อของก่อนกลับเข้าบ้านของโบรูโตะ
คิชิคาว่าเรียบเรียงตารางเวลาของพาร์ทไทม์ในวันนี้ในใจ
ก่อนจะรู้สึกว่ามือที่จูงโบรูโตะนั่นหนักแปลก ๆ
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? โบรูโตะคุง?"
คิชิคาว่าถามเมื่อสังเกตสีหน้าแดงเล็กของเด็กชาย
"มะ...ไม่เป็นอะไรครับ...ผมแค่รู้สึกเหนื่อย ๆ
นิดหน่อยครับ..." เด็กชายว่าตามความจริงแล้วพยายามลุกขึ้นด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง
"อย่างงั้นเหรอครับ..."
คิชิคาว่าพูกอย่างไม่น่าไว้ใจ ล
ตื้ด...
เสียงสั่นเรียกเข้ามือถือของเขาดังขึ้น
หน้าจอโชว์หราว่าเป็นผู้ว่าจ้างของเขาเอง เด็กหนุ่มจึงรีบกดรับทันทีอย่างไม่รีรอ
"ครับคิชิคาว่าครับ..."
เด็กหนุ่มพูดขึ้นก่อนจะได้ยินเสียงวุ่นวายของคนในสาย
'ฮัลโหลโทนูเอะคุง! ตอนนี้เธออยู่ไหน!' ผู้ว่าจ้างสาวของเขาซึ่งเป็นแม่ของโบรูโตะ ถามเขาอย่างรีบร้อนมาก
แข่งกับเสียงความวุ่นวาย
"อ่า...ตอนนี้ผมกำลังพาโบรูโตะคุงกลับบ้านน่ะครับ
แถว ๆ ย่านชุมชนครับ..." เด็กหนุ่มตอบอย่างใสซื่อ
พลางชำเลืองมองอาการของเด็กชาย
'รีบพาโบรูโตะไปที่โรงเรียน R แผนกประถมเร็วเข้า!
ตอนนี้ที่นั่นไม่ปลอดภัย! เกิดการรั่วไหลและแพร่ระบาดของ T-Virus ในเมือง R อย่าให้ถูกผู้ติดเชื้อกัดนะ! บางทีฉันกับสามีอาจจะไม่รอดออกไปจากโรงงานนี้แน่
ฝากบอกกับโบรูโตะด้วยว่า พ่อกับแม่รักลูกนะ...' เสียงนายหญิงสั่นเครือและกดตัดสายไป
เขารับฟังอย่างไม่เข้าใจ
สายตาพลันเหลือไปเห็นสุนัขสองตัวกำลังรุมแทะศพของใครบางคน...
"เหวอ!!!" เด็กหนุ่มกรีดร้อง
จนสุนัขเหล่านั้นหันมาสนใจ ท้องที่ถูกผ่าและกัดจนไส้ไหลเป็นทางวิ่งห้อตะบึ่งมาทางพวกเขาทั้งสอง
เด็กหนุ่มวิ่งตัวปลิวโยนเด็กชายขึ้นหลังไป
"แง่ง!!"
เด็กชายเผลอสบนัยย์ตาแดงก่ำนั้นด้วยความตกใจ
มันส่องประกายหิวกระหายสร้างความหวาดกลัวให้เขาเป็นอย่างมาก เด็กชายจึงรีบก้มหน้าหงุดกับแผ่นหลังพี่เลี้ยงหนุ่ม
ปัง ๆ!
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับร่างของสุนัขบ้าสองตัวล้มลงกองกับพื้น
คิชิคาว่าหันกลับไปมอง
“เจ้าหนู! ทางนี้เร็ว!”ร่างสูงของนายตำรวจผู้หนึ่งยืนอยู่บนหลังคารถเก๋ง
เขาโบกมือเรียกพวกเขา
คิชิคาว่ากำชับเด็กชายบนหลังแน่นแล้ววิ่งเข้าไปหาพวกของนายตำรวจ
“ขอบคุณที่ช่วยนะครับ”
คิชิคาว่าเอ่ยตามมารยาท นายตำรวจโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร พลางมองโบรูโตะที่เกาะอยู่บนหลังของเด็กหนุ่ม
“ว่าแต่พวกเธอมาทำอะไรที่นี่
เขตนี้น่ะถูกประกาศว่าเป็นเขตอันตรายมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้วนะ” นายตำรวจว่า
นั่นทำให้คิชิคาว่าขมวดคิ้วสงสัยอย่างมาก
“จริงเหรอครับ? ผมเพิ่งทราบจากปากของคุณนี่แหล่ะครับคุณตำรวจ”
เขาเอ่ย ทำให้นายตำรวจถอนหายใจอย่างเนือย ๆ
“เอาเถอะ
บางทีข่าวสารอาจจะกระจายไปช้า แต่ทางการประกาศให้เขตโรงเรียนแผนกประถม R เป็นเขตปลอดภัยชั่วคราว แล้วมันก็อยู่ใกล้ ๆ
นี่เองครับ” นายตำรวจอธิบาย มันทำให้คิชิคาว่ารู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้าง
“ช่วยนำทางไปทีได้ไหมครับ?
ผมจะได้ให้โบรูโตะคุงพักผ่อนด้วย เขาป่วยตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ยังไม่ทันจะได้กลับบ้านหรือไปหาหมอก็เกิดเรื่องซะก่อนน่ะครับ”
นายตำรวจยิ้มน้อย ๆ พลางมองเด็กชายอีกครั้ง
“อย่างงี้นี่เอง
ป่วยอยู่สินะ งั้นตามผมมาติด ๆ นะครับ แถวนี้อันตรายไปเองคนเดียวโดยไม่มีอะไรติดตัวคงไม่ดีแน่
เผลอ ๆ จะเจอคนท่าทางแปลกอีก ถ้าเจออย่าไปทักเขานะครับให้รีบออกมาทันที”
“ขอบคุณมากจริง ๆ ครับที่เตือน”
เด็กหนุ่มโค้งให้ก่อนจะเดินตามนายตำรวจคนนั้นไปอย่างว่าง่าย
ทั้งสามเดินลัดเลาะไปตามเมืองที่ดูจะวุ่นวาย
เพราะรอบข้างนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่แล้ว ยังมีกู้ภัยอีกแบบนี้มันแย่จริง ๆ เลยแฮะ
“ทางนี้เลยครับ
ตรงไปอีกนิด ก็เห็นประตูโรงเรียนแล้วล่ะครับ”
“ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ”
“คุณคิชิคาว่า!” ดังเด็กชายเหมือนจะรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เขาสะกิดพี่เลี้ยงหนุ่มของตนพร้อมตะโกน
ทว่าเรื่องกลับไม่จบลงแค่นั้น...
ในขณะที่กำลังเข้าสู่ตัวเมือง
กลับมีรถเก๋งคนหนึ่งพุ่งเข้ามาทางคิชิคาว่าและนายตำรวจ
เพียงชั่ววินาทีที่เคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า เขาโยนร่างเล็กของเด็กชายออกข้างถนน
รถเก๋งคันหรูตกลงทับร่างของเขาจนไปไหนไม่ได้
"คุณคิชิคาว่า!!"
เด็กชายที่ถูกโยนออกไปวิ่งเข้าหาเด็กหนุ่มที่ถูกทับในซากรถเก๋ง
เขาพยายามผลักมันออกเพื่อช่วยพี่เลี้ยงที่เขารัก
"อึก...โบรูโตะคุง...หนีไป..." คนที่ถูกทับอยู่ว่า
เด็กชายส่ายหน้าใหญ่เป็นเชิงปฏิเสธ
"ผมจะไม่ไป...ถ้าไม่มีคุณคิชิคาว่า..."
น้ำตาเริ่มไหลออกมาเป็นทางบนแก้มบาง เด็กชายไม่อยากหนีไปคนเดียว
กลัวการที่จะอยู่คนเดียว มันทั้งเหงา และโดดเดี่ยว
"ฟังนะ...โบรูโตะคุง...อึก...มันก็จริงที่คนเราไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวในโลกใบนี้ได้...แต่สักเวลาหนึ่ง...เธอจะเจอกันคนที่ดูแลเธอได้ดีกว่าฉัน...และคือเวลาที่เราต้องอยู่ด้วยตัวเอง...เธอคือความหวังเดียวนะ...โบรูโตะคุง..."
หางตาของเด็กหนุ่มที่มีเลือดเกาะข้างขมับ เห็นไฟที่ลามมากับน้ำมัน
เข้าใกล้ถังน้ำมัน
"โบรูโตะคุง!!! เขาผลักเด็กชายออกไปให้ไกลที่สุด
และทุกอย่างก็จมอยู่ในทะเลเพลิง รถเก๋งพาซวยคันนั้นเละเป็นผุยผงไปพร้อมกับเด็กหนุ่ม
"คุณ-คิ-ชิ-คา-ว่า..."
เด็กชายพูดด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอก เสียงมัจจุราชที่ตามเขามา
บีบให้เขาต้องเร่งวิ่งไปยังจุดหมายที่เดียว
โรงเรียน R แผนกประถม..
พลันสายตาก็มองไปยังเบื้องหลัง เงาร่างยักษ์สีดำทะมึนค่อย ๆ
เดินเข้ามาในเงาของฝุ่นละอองที่ปลิวว่อนไปทั่วอาณาบริเวณ ร่างของคน ๆ
นั้นดูไม่ใช่คนร่างทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยกล้ามเนื้อ กางเกงขาดวิ่น บริเวณศีรษะมีตะขาบเกาะเป็นหน้ากาก
และหน้าอกข้างซ้ายก็กลายพันธุ์เป็นปล้องตะขาบอีกเช่นกัน
“อุ-ซึ-มา-กิ!!”
ทันทีที่ขดตะขาบบนศีรษะเปิดออก เผยใบหน้ามีแต่เส้นเลือดปูดโปนอันคุ้นเคย
ทำให้เด็กชายตกตะลึงพร้อมถอยหลังกรุด
“คะ...คุณคุสึจิ!?” เด็กชายถอยยาว
แต่ร่างกลายพันธุ์ของคนรู้จักนั้นก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยดวงตาสีอำพันล้วน
ที่เต็มไปด้วยความคับแค้น อำมหิต
“เจอ...ตัวสักที...มาให้ฉันฆ่าหน่อยซิ...โบรูโตะคุง...”
เด็กชายเอี่ยวตัวหลบเมื่อร่างกลายพันธุ์พุ่งเข้ามาหมายจะฆ่าให้ตายในครั้งเดียวไปแบบฉิวเฉียด
แล้ววออกตัววิ่งเข้าโรงเรียนไป ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตัวเองมี
“แกหนีฉันไม่พ้นหรอก! อุซึมากิ!
เพราะฉันเนี่ยแหล่ะ...ที่จะตามฆ่าแก...ตามล้างแค้นพวกแกไม่ให้เหลือเหี้ยมแม้แต่ตอเลย!!” เด็กชายไม่รู้หรอกว่าบิดากับมารดาของตัวเองไปทำอะไรให้
สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือ
หนี หนีให้รอดจากสัตว์ร้ายที่มีแต่ความแค้น...
เด็กชายวิ่งขึ้นชั้นสอง
ตรงไปยังห้องที่ใกล้ที่สุด
ผลักประตูเข้ามาแล้วก็กระแทกมันปิดล็อกแล้วถอยออกมาให้ห่างจากประตู
หวังให้ปีศาจร้ายนั้นผ่านไปไม่สนใจห้องที่เขาเข้ามาซ่อน
1
2
3
ไร้เสียงจากผู้ล่า
เด็กชายถอนหายใจโล่งอกเมื่อทุกอย่างกลับมาเงียบสงบ เขาหันไปสำรวจในห้องที่ตัวเองเข้ามาหลบ
มันคือห้องครัวชั้นสองที่มีสิ่งช่วยเอาตัวรอดมากมาย
เด็กชายตรงไปหยิบกระทะและมีดทำครัวอย่างระมัดระวังที่สุด
(คุณแม่สอนไว้ว่าเวลาจับให้ระวัง)
อย่างน้อยก็เตรียมไว้มันทำให้เขารู้สึกอุ่นใจกว่า
ก่อนจะไปหลบอยู่มุมห้อง
รอคอยอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่เข้ามาช่วยให้เด็กชายออกไปจากที่เป็นเหมือนฝันร้ายนี่
‘จะรอคุณน้าตำรวจหรือคุณน้ากู้ภัยสักคนมาช่วยดีล่ะ?’
เด็กชายคิด แต่ก็รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้
‘ตื่นได้แล้วโบรูโตะ
นายก็เห็นแล้วนี่ว่าข้างนอกนั้นมีศพคุณน้าตำรวจอยู่เกลื่อนเลย
แถมยังคุสึจิผู้บ้าคลั่งนั่นอีกล่ะ’
‘ยิ่งอยู่กับพวกผู้ใหญ่ยิ่งอันตราย
และคุสึจิผู้บ้าคลั่งที่ตามเราอยู่จะทำให้พวกเขาเสี่ยงมาขึ้นเท่านั้น ทางที่ดี...เราอยู่คนเดียวรู้สึกปลอดภัยกว่า
ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน...เราโตแล้วต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้!’ ยิ่งคิดเด็กชายก็ยิ่งรู้สึกหมดแรง
พิษไข้ที่เป็นมาตั้งแต่ถูกอายาชิเพื่อนสนิทกัดเข้าที่แขน
ส่งผลให้เขาค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนกับพื้นกระเบื้องสีเขียวอมฟ้าอ่อน
ลูกแก้วสีฟ้าปรือตาด้วยความหนักอึ้ง
“คุณพ่อ...คุณแม่...” เด็กชายปิดดวงตาลงหลับใหลไปด้วยความอ่อนเพลียอันมีมากเหลือล้น
ช่วยผมด้วย...
-----------------------------------------------
ความคิดเห็น