ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Doraemon Nobita No Biohazard ภาค Muda Ni Kaizouban

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : ภาคเดคิซุงิ

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 61


    Dekisugi Hidetoshi :


    ในถนนที่ว่างเปล่า ความเงียบที่ถูกแทรกด้วยเสียงจักจั่นที่ร้องเซ็งแซ่รับปิดเทอมหน้าร้อนของพวกเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องลงมาจากดวงอาทิตย์ยามช่วงบ่ายหลังโรงเรียนเลิก ทำให้บรรยากาศรอบข้างนั้นดูอบอุ่นและน่านอนเป็นที่สุด

    ริมถนนหน้าโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ร่างของเด็กหนุ่มผมสีดำขลับ นัยย์ตาสีน้ำเงินเข้ม สวมเสื้อสีขาวออกฟ้าอ่อนปกสีน้ำเงินเข้ม หน้าที่จัดว่าดีถึงขั้นหล่อ ในมือนั้นมีหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดหลายที่เขาจะต้องเอาไปคืน ขณะที่สองขานั้นกำลังออกวิ่งรีบไปห้องสมุดนั้น สายตาพลันเห็นกลุ่มเด็กหนุ่มสาวที่คุ้นเคยเดินสวนมาทางเขา

    "อ้ะ! เดคิสุงิคุงนี่!" เสียงเด็กหนุ่มคนแรกที่เขาคุ้นเคยดี เด็กหนุ่มผมดำใส่แว่นกลมหน้าที่แทบปิดนัยย์ตาสีเปลือกเกือบจะสนิท ผมสีดำเหลือบน้ำตาลเข้ม เสื้อสีเหลืองปกขาว ส่งยิ้มสดใสมาให้เขา เด็กหนุ่มก็ส่งยิ้มตอบ

    "ว่าไงเดคิสุงิ!" เด็กหนุ่มร่างยักษ์ทักทาย

    "สวัสดีตอนบ่ายจ้าเดคิสุงิคุง" เด็กสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มเอ่ยขึ้น

    "เป็นไงบ้างเดคิสุงิ" เด็กหนุ่มปากแหลมพูดขึ้น

    "ว่าไงทุกคน จะไปไหนกันเหรอดูคึกคักจัง" เด็กหนุ่มตอบกลับทุกคนด้วยท่าทางเป็นมิตร

    "อ่อ พอดีว่าตอนนี้น่ะพวกเราปิดเทอมกันแล้วน่ะ เลยว่าจะไปขอร้องโดราเอม่อนพาไปเที่ยวน่ะ" โนบิตะอธิบาย เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ โดราเอม่อนที่พวกโนบิตะหมายถึงหุ่นยนต์แมวสีฟ้า ที่นั่งไทม์แมชชีนมาจากอนาคตเพื่อช่วยโนบิตะ

    "อ้อ อย่างงั้นเหรอ ดูน่าสนใจจังเลยน้า" เดคิสุงิว่า อย่างดีใจแทนทุกคนที่จะได้หยุดพักผ่อนหลังจากที่ยุ่งกับการเรียนมาตลอดทั้งเทอมนี้

    "ว่าแต่ เดคิสุงิ ทำไมนายไม่มาด้วยกันเลยล่ะ หยุดปิดเทอมทั้งทีนายน่าจะออกห่างจากหนังสือบ้างนะ" เด็กหนุ่มร่างยักษ์เอ่ยปากชวน เดคิสุงิคิดหนักเล็กน้อย

    "ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะแต่มันออกกะทันหันไปสักหน่อยแฮะ แถมต้องไปบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยสิ...และฉันยังมีหนังสือที่ยังต้องเอาไปคืนก่อนจะหมดวันยืมน่ะนะ แล้วก็มีงานทดลองบางอย่างที่ฉันก็อยากลองศึกษาอยู่ ฉันน่าจะไปไม่ได้น่ะขอโทษนะทุกคน..." เดคิสุงิตอบปฏิเสธ ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าเข้าใจดี

    "อ่อ...อย่างงั้นเหรอ..." โนบิตะทำหน้าอ่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ออกมาให้เขา

    "นายนี่สุดยอดเลยนะ เดคิสุงิ ขนาดวันหยุดปิดเทอมยังขยันได้ขนาดนี้ เหนื่อยก็พักบ้างนะเพื่อน" ซูเนโอะเด็กหนุ่มปากแหลมพูด จากใจจริง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนจริง ๆ จัง ๆ แต่แค่เฉพาะเขาเท่านั้นที่ละเว้นให้ในฐานะเพื่อน

    "อืม ขอบคุณ โฮเนคาว่าคุง" เด็กหนุ่มรับคำห่วงใยของเพื่อนไว้ 

    "ยังไงก็อย่าฝืนนะจ๊ะ เดคิสุงิคุง" ชิสุกะ เด็กสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มว่าด้วยความห่วงใย ซึ่งเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหากเธอจะห่วง

    "อืม ขอบคุณนะ มินาโมโตะจัง" 

    "งั้นพวกเราไปกันเถอะ...แล้วเจอกันนะเดคิสุงิคุง..." โนบิตะว่า 

    "อื้อ...แล้วเจอกันนะ ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวล่ะ" เด็กหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย ทุกคนต่างบอกลาเดคิสุงิแล้วเดินสวนทางไป เสียงเจื้อยแจ้วค่อย ๆ หายไปจนเหลือเพียงเสียงลมในอากาศเท่านั้น

    "เที่ยวงั้นเหรอ...ดูน่าสนุกจังน้า..." เด็กหนุ่มพูดขึ้นก่อนจะส่ายหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว แล้วรีบวิ่งไปยังโรงเรียนของตัวเองทันที 

    แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าโรงเรียนเขาก็ชนเข้ากับใครบางคนเข้า...

    "เหวอ!/ว้าย!" เด็กหนุ่มร้องผสานเสียงพร้อมกับคน ๆ นั้น ในขณะที่หนังสือซึ่งเขาเป็นคนถือมานั้นต่างกระจัดกระจายอย่างสวยงามบนพื้นโดยรอบ ข้าง ๆ นั้นมีร่างของเด็กสาวผมสีดำยาวสวมที่คาดผมสีส้มในชุดนักเรียนล้มลงข้าง ๆ

    "อุย...ขะ...ขอโทษนะคะ เป็นอะไรไหมคะ!" น้ำเสียงตื่นตระหนกของเด็กสาว ทำให้เด็กหนุ่มเหลือบไปมอง เธอก้มตัวขอโทษพร้อมกับก้มช่วยเก็บหนังสือให้เขา เด็กหนุ่มจำเธอได้ดี เธอคือประธานนักเรียนสาวสวยประจำโรงเรียนของเขาเอง เธอมีชื่อว่า "มิโดริคาว่า   เซย์นะ"

    "เอ๊ะ...หนังสือ..." เธอเตรียมตัวจะก้มเก็บ แต่เด็กหนุ่มขัดขึ้นทันที

    "อ้ะ ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวเก็บเองครับ" เขาตอบไปตามมารยาทสุภาพบุรุษที่ดี (?) เขามองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหน้าโรงเรียนของเขา

    "เซย์นะ!!! ทำอะไรอยู่น่ะ!! เราต้องรีบไปแล้วนะ!!!" เด็กสาวคนนั้นตะโกนมายังเซย์นะที่ยังทำอะไรไม่ถูก

    "ดะ...เดี๋ยวสิ รอก่อน!" เธอตะโกนกลับ เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นจึงตอบเธอไปว่า

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่าให้เพื่อนของคุณต้องรอนานเลยครับ..." เขาว่า เด็กสาวเหลือบมองก่อนจะขานแล้วรีบตรงไปยังเพื่อนของเธอ

    "จะรีบเร่งไปไหนกันยะ!!! เธอก็เห็นไม่ใช่เหรอไง!!! ว่าฉันเดินไปชนน้องเขาก่อนต้องจัดการอะไรให้เขาก่อนสิ!!!"

    "แหมๆ อีเว้นท์เดินชนกันที่หัวมุมประตูโรงเรียนแบบนี้นี่มัน..จะเป็นการปักธง รักแรกพบในเกมจีบสาวหรือเปล่าน้า...แถมรุ่นน้องคนนั้นก็ยังเป็น คนดังด้วยนี่ คิคิ"

    "ดะ...เดี๋ยวก่อน..สิ! อย่ามานอกเรื่องน้า!!" เด็กสาวทั้งสองเถียงกันไปมา จนกระทั่งเด็กหนุ่มไม่ได้ยินพวกเธอเถียงกันเลย

    เด็กหนุ่มก้มหน้าเก็บหนังสือ พลันก่อนที่มือจะทันหยิบหนังหนังสือเล่มสุดท้ายนั้น ก็ดันมีคนเดินเข้ามาตรงที่ที่เขาทำหนังสือร่วงซะก่อน

    "เฮ้ย! ไอ้หนูมาทำหนังสือร่วงขวางทางเดินพวกข้าเกะกะ จริง ถอยไปถ้าไม่อยากโดนกุเตะ" ชายอันธพาลที่ข้างกายเขานั้นมีเพื่อนของเขาเขายืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย

    "เอ่อ...ขอโทษด้วยนะครับ ผมจะรีบเก็บหนังสือแล้วจะรีบไปจากตรงนี้ทันทีครับ!" เดคิสุงิกล่าว ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่เขารู้ว่าอย่าไปมีเรื่องเลยจะดีกว่า

    "กุไม่ได้ต้องการคำขอโทษโว้ย!!! กุอยากให้เองรีบไสหัวไปจากตรงนี้ให้ไวเลยไง!!" ชายหนุ่มอันธพาลตะคอกเสียงดังทำเอาเดคิสุงิถึงกับสะดุ้งโหยง

    "เฮ่ย ๆ คาตากิริ แกใจเย็นหน่อยดิวะ" ชายหนุ่มอีกคนที่ท่าทางดูสุขุม ใจเย็นเข้ามาห้ามเพื่อนชายของตัวเอง ผมสีดำที่ยาวระต้นคอพร้อมนัยย์ตาสีนิล ให้ความรู้สึกยะเยือกเล็กน้อย

    "พี่ขอโทษแทนมันด้วยนะ พอดีเพื่อนพี่มันอารมณ์ร้อนไปหน่อย นี่หนังสือของนายใช่ไหม? เอาไปสิ" ชายหนุ่มหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาแล้วยื่นคืนให้เดคิสุงิ 

    "อ่า...ขอบคุณครับ" เด็กหนุ่มรีบคว้าทันที แล้วหลีกทางให้ทั้งสองคนผ่านไป 

    "โถ่ ชิรามิเนะ...แกจะห้ามกุทำไมอ่า..." คาตากิริถามทันทีที่เดินผ่านเด็กหนุ่มไป ชิรามิเนะหัวมามองเพื่อนชายด้วยสายตาจิก ๆ

    "ขืนกุไม่ห้ามเอง มีหวังแกได้ตีน้องเขาแน่ และเรื่องก็จะเดือดร้อนมาถึงฉันอีก ขี้เกียจเคลียร์ให้ว้อย!" ชิรามิเนะตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ 

    "ง่า...ขอโตดก้าบ..." คาตากิริทำหน้าหง๋อเหมือนลูกหมา

    "ว่าแต่เองเถอะ ถ่อมาถึงโรงเรียนนี่มีอะไรวะ?" ชิรามิเนะถามเพื่อนหนุ่มของตน อย่างสงสัย เพราะตั้งแต่จากบ้านเจ้าตัวก็ไม่บอกอะไรเขาเลย

    "ฉันจะไปดูการแข่งเทนนิสของพวกสาว ๆ น่ะ" คำตอบนั้นทำให้ชิรามิเนะเงียบหลายวินาที จนคาตากิริต้องทำหน้าบึ้ง

    "เออ ๆ กุบอกก็ได้! กูจะไปดูท่านเซย์นะลงแข่งเทนนิสโว้ย" 

    "หา? ยัยนั่นอ่ะนะ หึ มีอะไรดีกับเขาล่ะ?" 

    "โห่ แรงนะเอง เดี๋ยวก็โดนพวกแฟนคลับดักตีหรอกมึง" คาตากิริค้อนเสียงเขียว

    "เรื่อง - ของ - กรู" ชิรามิเนะทำสีหน้าไม่กลัวอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น...

    และแล้วความเงียบก็มาเยือนอีกครั้ง สุดท้ายรอบข้างก็เหลือเพียงเด็กหนุ่มนาม เดคิสุงิ   ฮิเดโทชิ คนเดียว...

    "เฮ้อ..." เขาถอนหายใจก่อนสองเท้าจะรีบวิ่งเข้าโรงเรียน ไปยังห้องสมุดอย่างรวดเร็ว...

    Dekisugi Talk :

    ตลอดทั้งวันนี้มันควรจะเป็นวันที่ดี ทุกอย่างมันควรจะเป็นอย่างที่มันเป็นถ้าหาก ไม่มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นน่ะนะ

    สิ่งที่เกิดหลังจากนั้นเป็นเหมือนดั่งฝันร้าย

    เอาล่ะ ผมจะเล่าไปพร้อม ๆ กับที่กำลังหนีซอมบี้ด้วยแล้วกันนะ อย่างแรก ผมตื่นขึ้นในเช้าของวันถัดมา พร้อมกับพบว่าบ้านของเพื่อนบ้านข้าง ๆ เกิดไฟไหม้ลามมายังบ้านของผม คุณพ่อกับคุณแม่ที่ลงไปช่วยดับไฟก็ถูกเพื่อนที่มีท่าทีแปลกไปกัด

    ต่อมาพวกท่านก็กลายเป็นพวกมัน

    นี่ผมหลุดมาอยู่ในโลกของเกมซอมบี้ในตำนานรึไงนะ โอเค...ยอมรับ...ผมสติแตก ถึงจะเป็นอัจฉริยะหัวกะทิยังไง แต่ถ้าเจออะไรแบบปุ๊บปั๊บก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกันนะ

    ผมวิ่งหลบหลีกพวกซอมบี้ไปอย่างง่ายดาย มีไฟไหม้เป็นหย่อม ๆระหว่างทาง แต่ก็ไม่เกะกะทางหนีมานัก

    สี่แยกในซอยคับแคบนี่ผมเกลียดที่สุด แถมสามทางซ้ายขวาหลังก็มีพวกมันดักรอไว้อยู่ คงมีเพียงทางเดียวแหละนะที่จะหนี เดินหน้าแม่ม!

    เมื่อเดินมาได้สักพัก ผมหันซ้ายหันขวาสองข้างทาง...

    ทางซ้ายเป็นทางตัน ส่วนด้านขวามีลังไม้วางระเกะระกะเต็มไปหมด นี่ไม่คิดจะให้หนีแบบดี ๆ เลยใช่ไหม? ไอ้คนสร้าง

    “เอาวะ สมองก็มีใช้มันให้เป็นประโยชน์สิ” ผมจัดการเลื่อนกล่องไม้บางกล่องออกจากทางเดิน

    อืออา...

    ให้ตายมีพวกมันอยู่ข้างหน้านี้ด้วย?

    กล่องไม้ใบสุดท้ายถูกเลื่อนเรียบร้อย ผมยืนทำใจก่อนสักพัก...

    “วิ่งสู้ฟัด!!!!” ร่างของผมวิ่งฉิวผ่านพวกซอมบี้ต้อกต๋อยเหล่านั้นไป บางตัวทีขวางทางผมก็ล็อกหลบพยายามไม่ให้มันถูกต้องตัวผมเป็นอันขาด

    วิ่งมาได้สักพัก ผมก็มาถึงยังหัวมุมหนึ่ง ที่นี่ดูเหมือนเพิ่งจะมีการปะทะกันไป ร่างของชายคนหนึ่งนั่งพิงกับเสาไฟฟ้า เลือดกรอกปากเต็มใบหน้า และร่างกาย ข้าง ๆ มีซากของสุนัขที่ถูกยิงตาย ดูแล้วน่าจะเป็นสุนัขซอมบี้แน่นอน

    “อึก...” เสียงครางเบา ๆ ดังมาจากร่างของคนนั้น ผมจึงรีบวิ่งไปดูอาการเผื่อจะสามารถช่วยเขาได้

    “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า! ทำใจดี ๆ ไว้นะครับ!” ผมพยายามจะเข้าไปช่วยทว่ากลับถูกมือที่ไร้เรี่ยวแรงนั้นปักออกไปอย่างไม่ใยดี

    “ทะ...ที่...กำบัง...ต้องรีบสร้าง......มะ...ไม่อย่างงั้น...อ่อก!” เขาพูดอะไรบางอย่างก่อนจะกระอั่กเลือดออกมากองใหญ่ และแน่นิ่งไปทั้งอย่างนั้น

    เขาตายแล้ว...

    ผมไม่มีเวลามาไว้อาลัยนักหันสำรวจเส้นทางด้านซ้าย มันเป็นทางเปิดโล่งที่มีลังไม้วางไว้เพียบ หรือว่าที่กำบังที่ชายคนนั้นพูดถึงจะหมายถึงเจ้าสิ่งนี้กันแน่นะ?

    “ยะ...ยังไงก็เถอะต้องรีบหาอะไรมากันแล้ว เจ้าพวกตัวประหลาดมันเริ่มดันรั้วมาแล้ว!” ไม่ว่าเปล่า ผมรีบตรงเข้าไปดันกล่องใกล้ประตูรั้วที่สุด ก่อนที่ซอมบี้จะทันพังรั้งเสร็จ

    “รอดไปที เอาล่ะ ไปต่อกันเลย” วิ่งต่อไปอีกผมเจอเข้ากับสวยของบ้านหลังหนึ่งมีพวกมันอยู่เกลื่อนหน้าบ้านเลย ผมจึงหลบมาจากพวกมันเพื่อไปต่อ

    “หืม?” ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก ผมนี่เป็นตัวดึงปัญหารึเปล่า? เดินไปอีก เจอกับสองชายหญิงยื่นดูอะไรบางอย่างด้วยท่าทางตื่นตระหนก

    “พ่อคะ!/พ่อครับ!” ผมมองลอดไหล่ของพวกเขาไปเห็นร่างของคนชราคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่ล้อมรอบตัวเขา โดยที่สองชายหญิง (สองพี่น้องผู้บล็อกทางไปต่อของผม) พยายามจะฝ่าไฟเข้าไปแต่ก็ต้องยอมแพ้

    “บ้าชิบ! ไฟแรงเกินไปฝ่าเข้าไปไม่ได้!” ทำให้ผมต้องคิดหนักอีกครั้งว่าตัวเองจะช่วยอะไรพวกเขาได้ไหม?

    ถังดับเพลิง...?

    ใช่แล้ว บ้านที่ผมเพิ่งจะผ่านมาหลังนั้น ผมจำได้ว่าประตูห้องเก็บของมันไม่ได้ล็อก บางทีน่าจะเอาถังดับเพลิงจากที่นั่นมาได้นะ

    “อ๊าก!!!

    “พ่อคะ!!” ผู้หญิงหน้าของผมกรีดร้องหนักขึ้น แย่แล้วไฟเริ่มกลืนชายชราไปแล้ว ผมต้องรีบไม่อย่างนั้นเขาตายแน่!

    อืออา...

    ซอมบี้สองสามตัวพยายามขวนผมให้ได้ ไม่มีวันซะหรอก ผมเร่งสปีดวิ่งผ่านมันไปเฉย ๆ เลี้ยวสู่สนามของบ้าน หลบอีกสามตัวแล้วเข้าห้องเก็บของไป

    นี่ไงล่ะถังดับเพลิง!

    ผมหยิบขึ้นมาอยู่ไม่รอช้า ไม่ให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว

    อืออา...

    เสียงคุ้นหูดังอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะมีมือใครสักคนพุ่งหลาวเข้ามาหา ผมล็อกหลบแบบดิจิตอล ทำให้เจ้าสิ่งนั้นเข้าชนฝาหัวแหลกคนกำแพง

    “ขอโทษครับขอทางหน่อยครับ!” ผมบอกกับชายหญิงและพุ่งเข้าไปฉีดน้ำยาดับเพลิง ใส่ไฟที่ไหม้ชายชรา

    "พะ...พ่อคะ.../พ...พ่อ.." ลูกทั้งสองของชายคนนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการทันที ทำให้ผมหนักใจมาก

    "ทะ...ทันไหมนะ?" ผมภาวนาเบา ๆ ขอให้เขารอด

    "ยะ...ยังไม่ตา..." ดูเหมือนว่าชายที่ถูกไฟครอกทั้งตัวจะเปล่งเสียงออกมาได้อยู่ ซึ่งทำให้ลูกทั้งสองของชายชาคนนั้นรู้สึกโล่งอกไปเปราะที่บิดาของตัวเองนั้นยังไม่ตาย

    "ขอบคุณที่มาช่วยพ่อฉันนะ เดี๋ยวจากนี้พวกฉันจะพาพ่อไปส่งโรงพยาบาลเอง..." ผู้ที่เป็นลูกชายกล่าวขอบคุณ

    "ไม่เป็นไรแน่นะครับ? ระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาลจะไม่โดนพวกคนแปลกๆ เล่นงานเหรอ?" ผมยังคงเป็นห่วงพวกเขาอยู่ดีว่าอาจจะถูกพวกซอมบี้ดักซุ่มโจมตีกลางทางหรือเปล่า

    "ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฉันจะใช้รถยนต์ส่วนตัวที่บ้านไปส่งเอง" หลังจากที่ชายคนนั้นให้เหตุผลเสร็จเขาก็พูดต่อ... 

    "ว่าแต่เธอน่ะ รีบหาที่ปลอดภัยดีกว่า ตอนนี้พวกตำรวจได้ประกาศให้ทุกคนไปหลบในเขตโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆแล้วนะ!" 

    "โรงเรียนที่อยู่ใกล้ ๆ...เอ๊ะ! โรงเรียนผมนี่นา"

    "เอายังงั้นก็ได้ เดี๋ยวผมจะลองมุ่งหน้าไปที่นั่นดู ขอให้ทั้งสามคนปลอดภัยนะครับ" 

    "ระวังตัวด้วยนะ..."

    บริเวณหน้าโรงเรียนดูเงียบผิดปกติ มันเงียบมากแทบจะเรียกได้ว่าวังเวงไปเลยก็ว่าได้

    “ตะ...แต่อย่างไรก็แล้วแต่ เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่ ดังนั้นก็เข้าไปซะ” ผมพูดกับตัวเอง ออกขาก้าวอย่างระมัดระวังหน้าตึกเรียนมีศพของชายสามคนนอนอยู่ด้วยกัน ดูท่าทางจะตายได้ไม่นานด้วยสิ ข้างในตึกก็มี เพียงแต่น้อยกว่าเฉย ๆ

    ผมตรงเข้าห้องพยาบาลหวังว่าจะปลอดภัยแต่ทว่า...

    "เหวอ!!" ผมตกใจแทบหงายหลังเมื่อจู่ ๆ ก็หันไปปะกับปากกระบอกปืนพกที่จ่อจัง ๆ ตรงหน้าของผม

    "....อ้าว...นายมัน....รุ่นน้องในตอนนั้นนี่หว่า...”เสียงนี้มัน รุ่นพี่ที่เจอเมื่อสามวันที่แล้วนี่นา รู้สึกจะชื่อ ชิรามิเนะ ยังมีชีวิตรอดอยู่สินะโชคดีจัง

    "ไม่เป็นอะไรใช่ไหม..." รุ่นพี่ช่วยพยุงผมขึ้นยืนพร้อมเก็บปืนลงซองปืนตามเดิม

    "คะ ครับ...ไม่เป็นอะไร" ผมว่า

    แล้วเราก็ไม่คุยอะไรกันอีกปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศในตอนนี้

    "เอ่อ คือว่า..." ผมตั้งท่าจะเริ่มต้นบทสนทนา

    "ถ้าคิดจะถามในเรื่องที่เกิดขึ้นล่ะก็ ฉันคงต้องขอบอกไว้ก่อนว่าฉันเองก็ไม่รู้เหมือน" แต่ดันโดนรุ่นพี่ชิรามิเนะดักได้ซะงั้น ผมก็เลยเงียบไป

    "นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันก็ไม่รู้ พอฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งพี่ชายของฉันก็ถูกพวกคนประหลาดนั่นฆ่าตายหมดแล้ว" รุ่นพี่เริ่มต้นเล่าเรื่องราวของตัวเองสั้น ๆ ผมพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่

    "งั้นเหรอครับ" ผมเอ่ยรับน้อย ๆ พลางมองไปยังประตูห้องพยาบาลที่ถูกรุ่นพี่ล็อกไปแล้ว

    หวังว่าทุกคนจะยังปลอดภัยดีนะ...

    ผมทำได้เพียงแค่ภาวนาเท่านั้น


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×