คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2
Chapter 2 : การพบเจอกัน
Riku Part :
จิ๊บ ๆ!!
ณ เช้าอันสดใสผมลุกขึ้นจากเตียงด้วยความงัวเงีย ผมขยี้ตาตนเองเบา ๆ วันนี้ผมก็ต้องไปสืบคดีที่โรงเรียนใหม่ โรงเรียนเอนเซนเรียว ผมจึงจำเป็นที่จะต้องย้ายที่เรียนใหม่และลาเพื่อน ๆ จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น
"อรุณสวัสดิ์ค่ะนายน้อย วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะคะ" มาเรีย สาวใช้ประจำตัวของผมที่คุณแม่ส่งมาให้ดูแลผม ยามอยู่ที่นี่ ทักทายหลังจากผมทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว
"อรุณสวัสดิ์ครับมาเรีย เช้านี้ทานกับอะไรเหรอครับ?" ผมถามตามประสาคนเพิ่งตื่นนอน เธอยิ้มให้ผมน้อย ๆ
"วันนี้ทานซุปมิโสะกับปลาดิบไปก่อนนะเจ้าคะ พอดีว่าวัตถุดิบประกอบอาหารใกล้หมดแล้วน่ะเจ้าค่ะ" เธอบอก จะว่าไป...ผมยังไม่ค่อยได้ไปซื้อของทำอาหารเลยนี่นา งั้นวันนี้แวะซักหน่อยละกัน
"เดี๋ยวตอนเย็นผมซื้อให้ก็แล้วกันนะ" ผมพูด
"อ่อ ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ พอดีมีร้านสะดวกซื้อใหม่เปิดหน้าคอนโดน่ะเจ้าค่ะ" เธอว่า เอ้า! ก็ได้แล้วแต่เธอละกันนะ
ตามลักษณะนิสัยผม ผมเป็นคนสบาย ๆ ครับไม่เครียดมาก แล้วแต่คนอื่นจะคิดยังไง แต่ผมไม่ค่อยสนกับความคิดคนอื่นสักเท่าไหร่น่ะนะ
"งั้นแล้วแต่เธอแล้วกัน" ผมว่า
"อ๊ะ! จริงสิ! นายน้อยเจ้าคะ คุณอควาฝากสิ่งนี้มาให้เจ้าค่ะ" มาเรียยื่นกล่องกระดาษสีน้ำตาลใบเล็กให้ผม ผมเปิดมันออก มันคือชุดนักเรียนถ้าจำไม่ผิด เป็นชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเอนเซนเรียวกางเกงและเนคไทน์สีฟ้าลายสก๊อตกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ผมชักไม่แน่ใจซะแล้วสิว่ามันจะใส่ได้ไหมเนี่ย (เหมือนตัวเล็กครับ) แต่...ช่างเถอะครับ
ผมเดินเข้าห้องตัวเอง สามนาทีต่อมา... ผมเดินออกมาพร้อมชุดนักเรียนใหม่ มันเอ่อ...จะว่าไงดีล่ะครับ...พอดีกับตัวมั้งครับ ผมแอบอิจฉาท่านเทร่าอยู่ก็คือ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมใส่ไซด์อะไร?
"เหมาะมาก ๆ ค่ะนายน้อย" มาเรียชม
"อา...ขอบคุณนะ!!" ผมรู้สึกอาย ๆ เล็กน้อย เพราะชุดมันไม่ค่อยเข้ากับหน้าเข้ม ๆ ของผมเลยน่ะสิ
ก๊อก ๆ!
"ขออนุญาตเข้าไปหน่อยนะ" อควาเดินเข้ามา มาเรียเปิดประตูพร้อมทักทายแขกเหมือนทุกครั้งที่มีแขกมา
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอควารับชาหน่อยไหมเจ้าคะ?" มาเรียกล่าวรับเชิญ
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มาเรีย ฉันมาแค่แป๊บเดียวจ้ะ ริคุ เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?" อควาถาม ผมพยักหน้าให้ เธอยื่นกระเป๋านักเรียนแบบถือมาให้ผม (โรงเรียนเก่าผมเป็นแบบสะพายเหมือนเป้น่ะครับ)
ในนั้นจัดตารางการเรียนการสอนของวันนี้ไว้ครบวงจร ผมยิ้มให้กระเป๋าถือเพื่อนใหม่ ดั่งแนะนำตัวก่อนพวกเราจะออกปฏิบัติการครั้งใหญ่
"เราพร้อมแล้วนะ แล้วเธอล่ะพร้อมแล้วหรือยัง?" อควาถาม ผมพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องพัก
ในรถของอควา...
ผมนั่งเปิดสมุดรายงานการสืบสวนประจำวันนี้ในระหว่างเดินทาง แย่จริง ๆ ครับ เช้านี้มีศพเพิ่มมาอีกสองรายแถมถูกเผาทั้งเป็นจนไหม้แยกศพไม่ออก แล้วยังมีจนหมายจากฆาตกรร้อยศพคนเดิมวางไว้เช่นเคย
เอี๊ยด!!
"มีอะไรเหรอครับอควา!?" ผมถาม
"ชู่ว!! เธอมาแล้ว" อควาบอก ผมจึงเงียบใครกันนะที่มา?
ปัง ๆ!!!
"สะ...เสียงปืนนี่ครับ!!" ผมตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าอควาซังเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย
"เฮ้ย!! มันอยู่ทางนั้น!! ตามมันไป!! เอาดิสก์มาให้ได้!! อย่าให้มันหนี!! ไม่งั้นวันนี้หัวกุดแน่!!!" ผมได้ยินเสียงบ่นโอดครวญพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนนับสิบที่ดังมาจากตรอกเล็ก ๆ
ผมเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาในชุดฤดูใบไม้ร่วง อายุน่าจะรุ่นเดียวหรืออ่อนกว่าผมปีเดียว เธอใช้ปืนสลิงส่งให้ตัวลอยขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกอิฐแดง ผมมองอยู่ซักพัก ก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาอย่างร้อนรน อาจจะมีบ้างที่ทำอะไรไม่ถูก
"ลูกพี่ไปทางไหนดีครับ!?"
"โอ๊ย!!! ไปทางไหนเอ็งก็แยก ๆ กันไปเหอะน่าไอ้พวกโง่!!!" ลูกพี่ว่า และแน่นอนพวกเขาไปผิดทางกันถ้วนหน้า
ผ่านไปหลายนาทีเหตุการณ์เริ่มสงบลง กลุ่มบุคคลสิบคนได้หายไปจากที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว
ตุบ!!
ผมได้ยินเสียงของตกบนหลังคารถ อควาเปิดกระจกรถข้างผม (พอดีนั่งข้างหลังครับ) ร่างเล็ก ๆ อันบอบบางของเด็กสาวลอดเข้ามาอย่างง่ายดายราวบการเข้า - ออก ทางหน้าต่างรถเป็นเรื่องปกติ ผมอยากถามเธอว่า เอาเวลาที่ไหนไปเปลี่ยนชุดกันแน่ ตอนแรกเธอยังใส่ชุดฤดูใบไม้ร่วงอยู่เลยครับ แล้วตอนนี้กลับเป็นชุดนักเรียนซะอย่างนั้น (ผมอยากได้วิชานี้บ้างจัง)
"มาช้าจังนะ" อควาเริ่มต้นประโยคทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่
"เกิดการผิดพลาดระหว่างการปฏิบัตินิดหน่อยค่ะ" ผมมองสิ่งของที่เด็กสาวคนนั้นเอามาให้ อควารับไปอย่างมีชัย
"ดีมากจ้า" เอ่อ...คือช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับคุณอควา...T[]T
ดูเหมือนอควาจะอ่านความคิดผมออกหล่อนยิ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างขำใจ
"ฉันคงลืมบอกเธอไปสินะ ริคุ นี่คือสายลับจากรัฐบาลที่ส่งมาช่วยเธอไขคดีในระหว่างที่ตามสืบเรื่องนี้อยู่น่ะ ชื่อ ไคริ ฮินาโตะ" อควากล่าวผมมองเธอนิดหนึ่ง ก็สวยดีนะ นัยย์ตาสีฟ้าอ่อนกับผมสั้นสีชมพูทำให้เธอดูอ่อนมาก น่าจะยังเด็กอยู่
"กล่าวสวัสดียามเช้านะคะ นักสืบริคุ ยินดีที่ได้ร่วมงานค่ะ" เด็กสาวยื่นมือมาผมจับตอบ
"เช่นกันครับหวังว่าคงได้เราคงได้ทำงานร่วมกันจนปิดคดีนี้ได้นะครับ คุณไคริ" ผมกล่าวอย่างเป็นทางการที่สุด
"ขอบคุณค่ะ หมาป่าสีเงินแห่งนครบาล..."
...............................................Riku Part : End................................................
Sora Part :
มันควรจะเป็นเช้าที่สนุกที่สุดของผม ใช่นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิด หรืออาจจะเคยคิด นับตั้งแต่ที่พี่เวนิทัสประกาศกฎอัยการศึกห้ามผมฆ่าคนอีก
"โซระ!! นายฟังฉันอยู่หรือเปล่า!!!" เสียงตะคอกของพี่ทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากห้วงภวังค์ความคิดที่จะหนี ในรถเก๋งคันเก่า ที่ใกล้พังเต็มทีแอร์อาจไม่เย็นนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการคุยธุระเป็นส่วนตัว
"อะไรพี่!! ผมฟังอยู่น่า!! ชิ!" ผมจิ๊ปากเบา ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ได้ยินหรอก แต่มันหงุดหงิดจริง ๆ โชคดีที่ผมซื้อชุดนักเรียนมาอีกชุดกะว่าถ้าว่าง ๆ ค่อยกำจัดหลักฐาน ผมคิดในใจได้เต็มที่ เพราะไม่มีพี่เว็นทัสมาคอยอ่านใจ คุณผู้อ่านทุกท่านเคยรู้สึกอึดอัดไหมที่ต้องมีพี่หรือน้อง อาจจะเป็นฝาแฝดหรือไม่ก็ได้ ที่อ่านใจเก่งและต้องอยู่กับเขาทั้งชีวิต มันอึดอัดนะ ยิ่งเป็นแฝดยิ่งแล้วใหญ่ ทฤษฎีที่ว่า ฝาแฝดสามารถอ่านใจกันได้ ผมคิดว่ามันจริงไปแล้วล่ะ
"ไม่! ฉันรู้ว่านายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย! ขอเถอะโซระ! นี่มันสำคัญกับชีวิตอนาคตของนายนะ!" โถ่ เวนิทัสนี่ซังผมรู้น่า พี่ก็พูดแต่เรื่องนี้ซ้ำ ๆ มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วล่ะนะ ผมรู้ว่าพี่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อจ่ายค่าหอ ไอ้ผมก็อุตส่าห์ช่วยหามาให้ก็ไม่เอา (ไรต์//จากการฆ่าคนเนี่ยนะ!!)
เอี๊ยด!
รถเก๋งของพวกเราจอดเทียบกับสถานีรถไฟประจำเมือง ผู้คนไม่ค่อยเยอะมาก แถมตัวสถานีเองก็เก่าเต็มทีป้ายจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่แล้ว
"ตอนเย็นมารอพี่ที่นี่นะ พี่จะเอารถมารับ ห้ามเถลไถลที่ไหนล่ะ!"
"คร้าบบบบบบ!!!!!!" ผมลากเสียงยานคาง ให้ตายสิมีพี่ใหญ่แบบนี้ก็น่าเบื่อนะ
ผมเดินบนฟุตบาตที่ปูพื้นอิฐแดง ฝุ่นละอองคละคลุ้งจากล้อของยานพาหนะทั้งหลาย ถ้าผมมีสุขภาพที่แย่กว่านี้ล่ะก็รับรอง ได้เข้าหาหมอแน่
แม้จะเป็นโรงเรียนที่ไกลจากที่พัก 2 กิโลเมตร แต่บ้านผมก็ยังมีนโยบายไปส่งครึ่งทางเดินไปอีกครึ่งทาง ประหยัดใช่ไหมล่ะ แหงล่ะ ค่าน้ำมันน่ะมันแพงระดับที่ ซื้ออาหารตุนไปได้ 1 อาทิตย์เลยล่ะ
แม้จะมียานพาหนะบ้างแต่ก็ยังเป็นเช้าตรู่อันสงบสุขเช่นเคย และโชคดีจริง ๆ ที่เดินไปโรงเรียน เพราะต้องข้ามสะพานคาสึโอโทะริ (ไรต์//คิดเองฮะ) ผมเกาะรั้วเหล็กใหม่เอี่ยม สูดเอากลิ่นเกลือทะเลเข้าไปเต็มปอด คุณนักอ่านทุกท่านลองสูดหายใจเข้าที่ชายทะเลดี ๆ หรือบนภูเขาที่อุดมสมบูรณ์สิ สดชื่นไหม? นั่นแหล่ะโอโซนทั้งนั้น ถ้าหามันเจอนะ
ผมชอบนะบรรยากาศแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นนักฆ่า แต่ก็ยังอยากมีวันที่สงบ ๆ บ้างเหมือนกันนะ กลิ่นทำให้ผมคิดถึงบ้าน ทำให้ผมคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่จากไป เพราะเจ้าพวกนั้น!!...
"สักวันฉันจะต้องแก้แค้นแก...เซฮานอท..." ผมตั้งมั่น ส่วนนั่นเป็นใครผมขอไม่พูดดีกว่า
ผมผละออกจากรั้ว ออกเดินต่อไปยังโรงเรียนเช่นเคย แม้ว่าความทรงจำในอดีตจะซัดเข้ามาสุมในอกอีกรอบ แต่ว่าคำสอนของคุณแม่ผมจึงต้องอยู่ โดยมีสิ่งที่เรียกว่า แค้น ซึ่งแผดเผาให้ผมและพี่ ๆ เหมือนตายทั้งเป็นมาตลอด 4 ปีนี้ และแน่นอน ที่ผมฆ่าไปทั้งหมดก็เป็นเจ้าพวกนั้นเหมือนกันและประกาศศึก ให้เจ้าพวกนั้นได้รู้ว่า
'...ผมพร้อมเสมอที่จะปะทะกับ แก...'
_____________________ฟุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ____________________
ผมเดินมาจนถึงเลี้ยวนรก ทำไมถึงเรียกว่าเลี้ยวนรกเหรอ จริง ๆ มันก็เขตชุมชนดี ๆ นั่นแหล่ะนะ คือก่อนที่จะถึงโรงเรียนของผม มันมีเลี้ยวเยอะมากนับสิบ ๆ กว่าเลี้ยวได้ ใครโชคดีอาจเลี้ยวไปเลี้ยวมา ดันมาโผล่ที่เดิมก็ได้นะ
อันที่จริงสำหรับผมผมเก่งเรื่องเขาวงกตอยู่แล้วแค่นี้สบายมาก แต่ร็อคซัสน่ะสินักหลงทางตัวยง อย่าให้ร็อคซัสนำคุณเลย จะหลงทางเสียเปล่า
ผลั่ก!!!
"โอ๊ย!!!" ผมชนเข้ากับใครคนหนึ่งขณะเลี้ยว แม้ว่าจะไม่เจ็บอะไรมาก แต่ร่างใหญ่ที่ผมชนไปนั้นอาจทำให้ปลิวไปอย่างง่ายดายแน่ ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า
"ขอโทษนะครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?" ร่างสูงก้มลงเก็บสิ่งของที่กระจัดกระจายพลางกล่าวขอโทษขอโพยยกใหญ่ เรือนผมสีเงินพยุงผมลุกขึ้น ถ้าให้เดาจากสำเนียงการพูด น่าจะเป็นลูกผู้ดีนะผมว่า
"อะ...อื้อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ" ผมปัดฝุ่นเล็กน้อยพอดูเป็นมารยาท ผมสบตากับลูกแก้วมรกตคู่นั้น ตาสวยจังแฮะ
"ขอโทษนะครับ ผมรีบไปหน่อย" เด็กหนุ่มคนนั้นว่า
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่โทษอะไรหรอก ผมเองก็เหม่อเหมือนกันแหล่ะครับ"
"ว่าแต่คุณจะไปไหนเหรอครับ?" ผมถามเขา เห็นอีกฝ่ายรีบร้อนขนาดนั้น แถมยังใส่ชุดโรงเรียนของผมอีก
"ไปที่โรงเรียนเอนเซนเรียวครับ พอดีผมเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่เลยไม่รู้จักทางแถว นี้น่ะครับ แหะ ๆ" คนตรงหน้าหัวเราะแห้ง ๆ ผมแอบลอบยิ้มตาม ทั้งท่าทางและมารยาทก็ดี แบบนี้สาว ๆ กรี๊ดแน่ ซึ่งมันไม่ค่อยดีสำหรับผมเท่าไหร่ มันทั้งดังและน่าหนวกหู แต่กิริยาของเขาคนนี้ก็ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ
"น่าตกใจจริง ๆ ถ้าไม่รังเกียจผมยินดีนำทางให้ครับไหน ๆ พวกเราก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้วนี่นา" อ๊ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนำทางหน่อยก็แล้วกันสงสาร
"ขอบคุณครับ ผมชื่อ ริคุครับ" ผมหันไปมองเรือนผมสีเงินแต่ไม่เปิดเผย อารมณ์ ความรู้สึก ดีใจเหรอ? หรืออาจจะกลัวว่าต้องเสียใครไปอีก ใช่อาจจะเป็นเช่นนั้น ลูกแก้วมรกตนั้นมองสบตากับดวงตาสีนภาของผม เหมือนจ้องมองเข้ามาในใจ ด้วยความอ่อนโยนนั้นผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย
"โซระครับ" นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมมีเพื่อนกับเขา หรืออาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะอยู่เพื่อเป็นเพื่อนกับผม ผมไม่อยากให้เขารู้จักผมมากเกินไป เนื่องจากผมมันเป็นนักฆ่า และการที่เขายิ่งใกล้ชิดผมมากขึ้นเขาก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น...
.............................................. Sora Part : End.................................................
จบ ๆ พอ ๆ ค้างยาวและ มาต่อได้ซะที จะร้องไห้ค่ะ TwT พาร์ทของโซระคุงอาจจะน้อย ๆ หน่อยนะคะ เพื่อการติดตาม (บวกกับความขี้เกียจของไรต์) เปิดเทอมแล้วขอให้ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ ว่าแต่ทุกคนคะ คิดว่า กระรอกจะพิมพ์กับสำนักพิมพ์ดีไหม (เปลี่ยนชื่อตัวละครกับพล็อตน่ะ)
ความคิดเห็น