ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Kingdom Hearts The Murderer (Crime Devil)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 60


    Chapter 1 : ฆาตกรร้อยศพ


    Riku Part :

    "ไอคาวะ! แกส่งรายงานการชันสูตรศพให้ฉันแล้วหรือยัง!? อาโอบะ! เลิกดื่มกาแฟในเวลางานแล้วมาช่วยกันเช็คกล้องวงจรปิดได้แล้ว!! แซค! เอาของกลางไปให้นักสืบริคุเดี๋ยวนี้!!" เสียงเจ๊อควาดังเข้ามาในโสตประสาทของผม ดึงสติของผมออกจากกองงานเท่าภูเขาตรงหน้ามามองแซคอย่างน่าขัน

    "ประจำเดือนเจ๊แกจะมาแล้วสินะ" ผมพูดขึ้นพลางรับของกลางจากมือเขามา

    "อา...เวลาเจ๊แกเป็นแบบนี้ไม่ค่อยน่าจีบสักเท่าไหร่เลย =3=" แซคพูดอย่างไม่แยแส เขาเป็นคนอารมณ์ดีไม่เครียด ผมชอบเขาก็ตรงนี้แหล่ะ

    "ทำใจนะ ผู้หญิงจะเป็นรอบเดือนมักอารมณ์แปรปรวน" ผมว่า แซคพยักหน้าตาม

    "แซค!!!" เจ๊อควาเรียกอีกครั้ง แซครีบวิ่งแจ้นไปอย่างรวดเร็ว

    "จ้ะ ๆ!! ไปแล้วจ้ะ!!!" ผมหลุดหัวเราะทันที 

    สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับผมชื่อ ริคุ  คาชิวาระ ครับผมเป็นนักสืบเยาวชนประจำสถานีตำรวจนครบาล ปีนี่ผมอายุ 16 ปีแล้วครับหลังจากที่ผมถูกคุณแม่พาหนีออกจากบ้านที่ต่างประเทศมาอยู่ในญี่ปุ่นได้รวม 7 ปีแล้วครับ ผมก็เริ่มใช้ชีวิตเข้าสู่วงการสืบสวน จำเป็นที่จะต้องละชีวิตนักเรียนธรรมดาบางส่วนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเลยได้กลายมาเป็นนักสืบที่นี่ได้จนปัจจุบัน 

    แต่ทว่าผมกำลังอยู่ช่วงทำคดีอยู่ครับ และคดีที่ผมกำลังทำอยู่นั้นเกี่ยวกับฆาตกรร้อยศพ คือ...ถ้าจะให้ผมอธิบายก็คงยาวนะครับ เริ่มต้นคือมีฆาตกรที่ไล่ฆ่าคนไม่เว้นวัย เพศและอายุ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็เป็นอันตรายกันได้ทั้งนั้น ผู้ตายรายล่าสุดเป็นแก๊งซ์อันธพาลที่เคยมีเรื่องจนมีคนฆ่าตัวตายมาแล้ว ผมได้ตรวจสอบประวัติของผู้ตายหลาย ๆ ราย ทั้งหมดล้วนมีประวัติเคยกระทำผิดทั้งนั้น ครั้งแรกเลยสันนิฐานไปว่าเป็นเพราะศาลเตี้ย แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเลยครับ

    อีกอย่างคนร้ายรายนี้ก่อคดีคนเดียว ทั้งร้อยกว่าคดี มันไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่คน ๆ เดียวจะก่อคดีร้อยคดีได้โดยไม่ถูกจับ น่าจะเป็นคนร้ายที่อัจฉริยะน่าดู

    "ไงริคุ! รายงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้วเหรอ?" ทีดัซเพื่อนสนิทของผมที่ติดสอยห้อยตามผมมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่นี่ครั้งแรก คอนโดเราอยู่ใกล้ครับ เลยไปมาหาสู่กันได้

    "ยังเลยเพื่อนรัก คดีนี่มันไม่เหลือเบาะแสอะไรทิ้งไว้เลย ตั้งแต่คลุกอยู่ในวงการสืบสวนมาคดีนี้ฉันก็เพิ่งเคยเจอฆาตกรที่อัจฉริยะที่สุดในยุคก็ตอนนี้แหละ" ผมกล่าว แอบเห็นสีหน้าจ๋อย ๆ ของทีดัซ ผมรู้สึกผิดมากที่พวกเขาอุตส่าห์รอผม แต่ผมกลับไม่ว่างซะได้

    "ฉันขอโทษนะ" ผมรู้สึกผิดจริง ๆ นะถ้าใครไม่รู้ว่าหน้าผมเป็นอย่างไร ให้นึกว่าผมกำลังจะร้องไห้ก็แล้วกันครับ

    "น่า ๆ ไม่เป็นไร ๆ ฉัน ซัลฟี่ กับวัคก้ารอได้ ไม่ต้องรีบหรอก" ทีดัซว่า พอดีกับที่มีคนเขามาพอดี ทีดัซเตรียมลุกออกจากที่

    "ไม่ต้องก็ได้ทีดัซ ฉันมีธุระกับนักสืบริคุแค่ไม่นานหรอก เธอจะนั่งฟังด้วยก็ได้" ผู้บังคับบัญชาเทร่ากล่าว ทีดัซ ทำวันทยหัตถ์แล้วลงไปนั่งที่โซฟาผมรีบจัดที่นั่งให้ท่านใหม่จากนั้นกวาดงานวางไว้ในที่ซึ่งพอจะวางได้ (มันรกมากน่ะครับ)

    "มีอะไรงั้นหรือครับท่านฯ" ผมทำวันทยหัตถ์รอให้ท่านผู้บังคับบัญชานั่งลงก่อนส่วนตนเองค่อยนั่งตาม

    "นักสืบริคุเรามีเรื่องจะต้องคุยกัน" ท่านฯเทร่าเริ่มต้นประเด็น แต่ผมรู้ทันท่านฯเทร่าอยู่แล้วครับ

    "ท่านคงจะหมายถึงเรื่องของฆาตกรร้อยศพสินะครับ" ผมว่า ท่านเทร่ายิ้มให้อย่างชื่นชม ผมกับท่านเทร่ามีนิสัยเสียเหมือนกันคือ รู้ทันกันตลอด ครับ

    "อ่า...เรื่องนั้น...ผมยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ..." ผมชักไม่แน่ใจเหตุผลที่ท่านเทร่ามาในวันนี้ซะแล้วสิ

    "ไม่หรอกเจ้าหนู เนื่องจากว่ามีข่าวลือมาว่าพบคนที่น่าจะเป็นฆาตกรร้อยศพคนนั้นที่โรงเรียนเอนเซนเรียว ฉันอยากจะให้เธอไปสืบดูว่าข่าวนั้นเป็นจริงหรือไม่" ท่านเทร่ากล่าว เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกตะหงิด ๆ 

    "แต่...ข่าวลือนั่นอาจไม่ใช่ความจริงก็ได้นะครับท่านฟันธงได้อย่างไรหรือครับ?" ผมถามกลับเรื่องนี้มันแปลก ๆ จู่ ๆ ก็มีข่าวลือเข้ามาเลยงั้นเหรอ

    "บางทีเธออาจไม่รู้นะเจ้าหนู มันลงมืออีกแล้ว" ท่านเทร่าว่า ผมรับรู้ได้เลยว่าผมกำลังเบิกตาโพลง

    "นี่คือผู้ตายในเช้านี้ นักเรียนหญิงโรงเรียนเอนเซนเรียว เอริกะ อิจิกิ มีจดหมายอีกแล้ว" ท่านเทร่าส่งซองจดหมายมาให้ผม 

    "I am The Murderer." ผมอ่านดัง ๆ มันเนื้อความเดิม ๆ สีตัวหนังสือก็สีเดิม ๆ ผมมองหน้าท่านเทร่า ท่านพยักหน้าให้ 

    "ริคุ..." ทีดัซเรียก ผมมองหน้าเขาครั้งหนึ่ง เขาดูเหมือนจะอ่านความคิดผมออก ทีดัซยิ้มและพยักหน้าให้ ผมก้มมองจดหมายอีกครั้ง

    "ได้ครับท่านเทร่า ผมจะสืบให้แน่ใจแล้วจับฆาตกรร้อยศพมาให้ได้ครับ" ผมตั้งมั่นทุกคนยิ้มให้เหมือนกับการให้กำลังใจ และบอกลาไปพร้อม ๆ กัน

    -----------------------------------------------------------------

    Sora Part : 

    ผมกำลังเดินเข้าบ้านของผม ฝนหยุดตกแล้วหลังจากที่ตกมา 2 วันเต็ม เลือดที่อยู่บนตัวหายไปหมดแล้วด้วย ยกเว้นที่ใบหน้ายังไม่หายหมดแถมติดแน่นอีกต่างหาก

    '...เวรกรรมของมนุษย์ฆาตกร...' ผมสบถในใจ มันก็จริงนี่นะ ในเมื่อชุดนี้มันชุดโปรดของผมเปื้อนเลือดไปแล้วล้างไม่ออกด้วย ทำปฏิกิริยาลูมินอลอีกต่างหาก

    "แต่...อย่างน้อย วันนี้ก็มีเหยื่อให้กินล่ะนะ หึ ๆ" นึกถึงตอนที่ได้เห็นสีหน้าหวาดกลัวของยัยเด็กอัปรีย์นั่นซะจริง ๆ เสียงร้องอันแสนเจ็บและทรมานมันทำให้เขารู้สึกกลับมาสดชื่นอีกครั้งเหมือนได้รับยาชูกำลัง ถึงแม่จะป่วยเพราะตากฝนมากเกินไปตั้งสองวัน แต่มันก็คุ้มดีนะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

    ผมมายืนอยู่หน้าบ้านและกำลังจะเปิดประตูเข้า

    "โซระ! นั้นนายเหรอ!?" เสียงเรียกชื่อของผมดึงให้ผมหันไปมอง พี่เวนิทัสนี่เอง

    "หายไปไหนตั้งสองวันพี่เป็นห่วงแทบแย่นะ!! แล้วนี่คราบอะไร! เลือดใช่ไหม! ฆ่าคนมาอีกแล้วเหรอ! หยุดได้แล้วนะโซระ! นายก็รู้นี่ว่ามันบาป!!" พี่เวนิทัสตะคอกใส่ผมเป็นชุดหนวกหูน่า หน้าตาเหมือนกันใช่ว่าจะมาว่าฉันได้นะ!

    "แล้วนี้เป็นอะไรเนี่ยหน้าซีดเชียว หายใจถี่เกินไปแล้วนะนาย" พี่เขาจับ ๆ หน้าผมเหมือนผมเป็นเด็ก ๆ 

    "เฮย! โซระ! ตัวนายเย็นมากเข้าบ้านไปเร็ว!" พี่เวนิทัสว่า แต่ที่พี่เขาว่ามันก็จริงตอนนี้ผมรู้สึกปวดหัวมาก ตาก็พร่ามัวจนเกือบมองไม่เห็นเขาแล้ว เรี่ยวแรงอ่อนยวบ ผมล้มลงสติขาดห้วงไป ผมไม่ได้ยินที่พี่เวนิทัสเรียกเลย และแล้ว...ผมก็สลบไป...

    --------------------------------------------------------------

    "อย่านะ! อ่อก!!" ในห้องโถงแห่งนี้ ผมเห็นคุณพ่อนอนอยู่ตรงนั้นและมีผู้ชายใส่ชุดสีดำคลุมหัวคนหนึ่งเหยียบคุณพ่อ

    "พ่อฮะ!!" ผมเรียก คุณพ่อมีน้ำสีแดงไหลออกจากปาก เนื้อตัวของคุณพ่อมีรอยฟอกช้ำเต็มตัวเพราะถูก คนคนนั้นต่อยซ้ำหลายรอบ

    "ฉันจะถามแกสักครั้ง ดิสก์นั่นอยู่ที่ไหน!!" เขากระชากคอเสื้อของคุณพ่อ ตะโกนถามใส่หน้าคุณพ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเรากันแน่!!

    "คุณคะ!!" คุณแม่อยากวิ่งไปหาคุณพ่อ แต่คุณแม่ก็ผละออกจากพวกเราไม่ได้เช่นกัน เวนิทัส ร็อคซัส และเว็นทัสเกาะผมไว้แน่นพวกพี่ ๆ สั่นเป็นเจ้าเข้า

    "อย่าเข้ามา!! อั่ก!!" คุณพ่อตะโกนสุดเสียง คนแปลกหน้าเตะเข้าสีข้าง

    "ถามอีกครั้ง แกเอาดิสก์นั่นไปไว้ที่ไหน!" เขาตะโกนอีกครั้งแต่คุณพ่อก็ไม่มีสิ่งที่พวกนั้นตามหาหรอกเพราะมั้นอยู่ที่ผมต่างหากละ! 

    "ถึงตายฉันก็ไม่บอกหรอก!!" คุณพ่อตะคอกกลับใส่โทสะเต็มพิกัด แต่คนแปลกหน้าไม่ยักรู้สึกกลัวเลย

    "ไม่บอกใช่ไหม" ชายแปลกหน้าชักสิ่งของโลหะทรงกระบอกสีดำขึ้นมา

    "หยุดนะ!!!!" ผมตะโกนสุดเสียงอีกครั้ง จนกล่องเสียงแทบระเบิด แต่ก็ไม่อาจหยุดมัจจุราชตรงหน้าให้หยุดการกระทำอันแสนโหดเหี้ยมนี่ได้เลย

    ปัง!!!

    เสียงของปืนที่ปล่อยลูกตะกั่วออกจากรังเพลิง พุ่งเจาะกลางศีรษะของคุณพ่อจนทะลุออกด้านหลัง

    "คุณพ่อ!!!" ผมและพวกพี่ ๆ เรียกหาคุณพ่อ ท่านจากไปแล้วโดยมี ไอ้สวะเดนนรกนี่เป็นคนฆ่าคุณพ่อ ผมช็อกสมองได้แต่ด่าทอไอ้ฆาตกรตรงหน้า

    "ต่อไปก็พวกแกแล้ว ส่งดิสก์มาซะ" ผมมองมันด้วยความแข็งกร้าวอย่างเคียดแค้นเดือดดาน มันมองผมด้วยความสนใจในตัวผม

    "หึ...น่าสนใจดีนี่งั้นฉันฆ่าแกก่อนละกัน!!" มันเล็งปืนมาที่ผม

    "อย่านะ!!" คุณแม่ผละตัวมาขวางผมกับไอ้สวะ

    ปัง!!!

    กระสุนนัดที่สองพุ่งตัดขั้วหัวใจของคุณแม่ต่อหน้าต่อตาผมและพี่ ๆ คุณแม่!!!

    "อ๊าก!!!!" ร็อคซัสสะดุ้งตกใจทันที่ได้ยินเสียงปืนนัดที่สองทุกคนก้มหน้าลง มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่ช็อกจนทำอะไรไม่ถูก

    "เกะกะ สุดท้ายแล้ว" มันเล็งอีกครั้ง

    "หยุดอย่าขยับนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ!!!!" ราวกับเสียงของสวรรค์เมตตาส่งคนมาช่วย

    "ช้าไปสินะ ไม่เป็นไรล่ะกันไว้ค่อยมาคิดบัญชีกันใหม่" มันโดดลงทางหน้าต่างพอดีกับที่ตำรวจวิ่งเข้ามาพอดี ผมมองเห็นสัญลักษณ์ที่อยู่หลังมัน เป็นสัญลักษณ์เทพเจ้าแห่งความตาย

    "พาเด็กไปที่ปลอดภัย คุณนักสืบรีบตรวจสถานที่เกิดเหตุเถอะครับ" ตำรวจนอกเครื่องแแบบคนนั้นบอกพร้อมกับที่มีเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วย

    "ได้ครับจ่า พาพวกเขาไปที่ปลอดภัยเดี๋ยวผมค่อยสอบปากคำพวกเขาเองครับ" เด็กคนนั้นบอกและกล่าวอย่างเป็นระบบ ผมแปลกใจอย่างสุดซึ้ง เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นนักสืบเหรอ อายุแก่กว่าผมแค่ปีเดียวเอง

    แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเดินหน้าด้าน ๆ เข้าไปหาเด็กคนนั้นยื่นดิสก์แห่งความซวยให้เขาแล้วเดินออกมาเฉย ๆ เลย

    ผมรู้ว่าผมเริ่มหมดแรงเพราะช็อค แต่อย่างน้อยขอให้ความตายของคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้เสียไปฟรี ๆ

    ผมเดินเข้าไปหาเด็กคนนั้นสะกิดเขาเล็กน้อย

    "อะไรเหรอ เดี๋ยวฉันตรวจสถานที่เกิดเหตุเสร็จจะไปสอบสวนพวกนายด้วยแล้วล่ะ" ผมยื่นดิกส์ให้เด็กคนนั้น เขามองผมอย่างสงสัย

    "ดิสก์ที่คุณพ่อฝากไว้ก่อนท่านตาย" เขามองไปยังศพชายวัยกลางคนซึ่งก็คือคุณพ่อของผมเอง

    เขารับไปอย่างงง ๆ พลิกมองด้านหลังดิสก์

    "จูซังคิคัง เป็นแกจริง ๆ ด้วยขอบคุณนะนี่เป็นหลักฐานชั้นดีเลย" ผมพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนสติสุดท้ายจะมอดดับลง...

    ------------------------------------------------------------------

    "!!!" ผมสะดุ้งตื่นในห้องของตัวเอง สงสัยจริง ๆ ว่าวันนี้เป็นวันอะไร

    "วันนี้เป็นวันอาทิตย์" เสียงใครคนหนึ่งเรียกให้ผมหันไป พี่เว็นทัสมายืนพิงกำแพงข้างเตียงผม เหมือนพี่เขาจะรู้แล้วสินะว่าผมทำอีกแล้ว อ่านใจผมมาแต่ไกลเลย

    "หึ...พรุ่งนี้แล้วสินะวันแห่งความสนุกสนานของฉัน" ผมพูดขึ้นพี่เว็นทัสผละจากกำแพงมาผลักผมให้นอนลง

    "คนป่วยน่ะนอนลงไป ป่วยขึ้นมาอีกคราวนี้ฉันฆ่านายจริง ๆ แน่" เมื่อกี้ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่เว็นทัสโกรธ ตลกแล้วมั้งปกติพี่เขาไม่โกรธนะ (จริง ๆ คือโกรธไม่เป็น)

    "แค่นี้ฉันสบายอยู่แล้วน่า" ผมบอก แต่ปากกับสภาพร่างกายของผมมันกลับตรงกันข้ามกันเลย

    "สบายมากเลยนะเจ้าหล่อน หัดมองสุขภาพตัวเองบ้างก็ได้นะเธอ" พี่พูดอย่างกะว่าผมเป็นผู้หญิงงั้นแหล่ะ ใช่ว่าผมหน้าสวยแล้วพี่มาแซวได้นะ ดีแค่ไหนที่ไม่จับกะซ้วกไส้มาใส่เครื่องปั่นผลไม้ทำลายหลักฐานก็บุญโขแล้ว

    โอเค ผมยอมแพ้ให้พี่หนึ่งวันก็ได้ วันนี้ปวดหัวระดับแผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์ แต่ยังไง วันนี้ผมจะต้องล่าเหยื่อให้ได้สักคนหรือสองคนเอาให้หายไข้ไปเลยล่ะ

    เพี๊ยะ!!!

    "โอ๊ย!! พี่ทำอะไรเนี่ย!!" พี่เว็นทัสเอาสันหนังสือ 'ประมวลกฎหมาย' ที่พี่ตั้งใจอ่านเตรียมสอบเข้ามหาลัยมาฟาดหัวผม ทำไมพี่!! ผมทำอะไรผิด!!!

    "ไม่ต้องคิดหาวิธีออกไปข้างนอกเลยนะ พี่รู้ว่าเราจะออกไปทำอะไร" โธ่...คุณพี่ครับ เว็นทัสนี่ซัง ขอผมออกไปสักวันไม่ได้เหรอ??

    "ไม่ได้!!" นั่น! เอาอีกแล้วครับท่านผู้อ่าน สกิลอ่านใจคนของพี่แกจะสูงไปไหน?

    "อ่า!!!...ทั้งสองคนผมเอาข้าวมาให้แล้วครับ!!" ผมหันไปมองประตู ร็อคซัส พี่คนที่สามของครอบครัว (คงเรียกได้อยู่นะ) วิ่งมาวางชามซุปข้าวโพดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ 

    บางทีผมก็คิดเหมือนกันนะว่า ผมกับพี่ร็อคซัส สรุปใครเป็นพี่ใครเป็นน้องฟะ!? ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นน้องคนสุดท้องของบ้าน แต่ทำงานด้านต่าง ๆ ได้เก่งกว่า (โดยเฉพาะเรื่องการฆ่า) ห้องตัวเองเอย ห้องน้ำเอย โต๊ะคอมพ์เอย ตู้เสื้อผ้า พวกอาวุธเอย ผมออกจะเก็บได้เรียบร้อยและจัดการหลักฐานได้เนี้ยบกว่า (เพราะการเป็นนักฆ่าห้องจะรกไม่ได้) แต่พี่ร็อคซัสแล้ว นอกจากเรื่องทำอาหาร นอกนั้นก็ไม่เด่นเลย ชอบพูดขอโทษจนติดเป็นนิสัยของเจ้าตัวไปแล้ว...

    จนผมต้องตามประกบพี่แกจาก เซย์เฟอร์ อันธพาลประจำโรงเรียนเก่าของผม ถ้าหากตอนนี้มันยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนั้นอยู่ล่ะก็ ผมก็อยากจะลิ่มลองเหมือนกันว่า เลือดสด ๆ เนื้อสด ๆ ของเจ้านั่นจะหอมหวานขนาดไหนกันน้า...

    "อ่า...พี่ฮะ...เดี๋ยวอีกสักสิบนาทีพี่เวนิทัสจะกลับมาแล้วนะฮะ" พี่ร็อคซัสว่าผมแอบชำเลืองมอง

    "โอ้ โอเคเดี๋ยวพี่ไปเตรียมตัวทำงานพาทไทม์ก่อนละกันนะ ดูแลโซระให้ดี ๆ ล่ะ" โถ...เว็นทัสนี่ซัง...ผมไม่ได้ดื้อขนาดนั้นหรอกนะ!!

    พี่ร็อคซัสได้แต่ตอบกลับครับ ๆ อย่างเดียว สมเป็นพี่จริง ๆ ส่วนผมก็ขอปิดเปลือกตาสักห้านาที

    "โซระ!! อย่าเพิ่งหลับ!!! กินข้าวก่อน!!!" พี่ร็อคซัสทำผมสะดุ้ง และผมก็ลุกไปกินข้าวอย่างว่าง่าย (ที่จริงอยากนอนมากกว่า)...

    ----------------------------------------------------------------------

    เสร็จแบ๊ว ทำไมแชปเตอร์นี้ตอนหลัง ๆ มันเริ่มชักจะเป็นฟิครั่ว ๆ ขึ้นมาหว่า...แทนที่จะเป็นฟิคฆาตกร 

    ขอให้อ่านอย่างวิจารณาญาณในการอ่านด้วยนะคะ...

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×