ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [IRC project 2.0] T.R.I.C.K.

    ลำดับตอนที่ #11 : MISSION III - Second [Nevar's Turn]

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 57


    เขาพลาด

                ใช่ เขาพลาดท่าจนถูกดาบคมๆนั้นฟันเข้า ดีที่มันไม่ใช่บาดแผลใหญ่ถึงตาย แต่มันก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงไปมาก นีวาร์นิ่วหน้ามองคนตรงหน้า

                ขี้โกงนี่นา!

                บาดแผลของมิคังเริ่มสมานตัวกันอย่างช้าๆ นีวาร์ไม่รู้ว่าเธอใช้ไอเทมอะไร รู้แค่ว่ามันรักษาได้รวดเร็วยิ่งกว่าผ้าพันแผล ถึงแม้จะไม่เร็วเท่าการใช้เวทมนตร์รักษา แต่ถือว่าทำให้มิคังเป็นต่อมากทีเดียว

                บอกวิธีไปท่าเรือมาได้รึยังคะ?ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนเกินไป นักดาบสาวจ่อคมดาบสีดำที่ปลายจมูกของเด็กหนุ่ม พร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้ายังมีกลอะไรอีก คงจะดีกว่าหากเธอจะรีบปิดบัญชีแล้วสะสางงานให้จบๆไป

                ท่าเรือ Stand เป็นชัยภูมิที่สำคัญสำหรับการรบทางน้ำ เชสเซอร์บอกว่า ภารกิจของนีวาร์ไม่ใช่การจัดการกับหน่วยพิเศษจาก Metropolis ที่ถูกส่งมาเพื่อทำลายท่าเรือให้เสียหาย แต่เป็นการซื้อเวลาให้กับทางฝ่ายนักเวทย์ของสภาสูงทำการร่ายเวทย์ป้องกันเมืองท่าไว้ให้ได้ หากไม่ทันการจะทำให้ท่าเรือถูกพังยับไม่มีชิ้นดี ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถรับส่งหรือซ่อมแซมเรือที่เสียหายจากการรบได้ และดูจากความสามารถของมิคังแล้วนีวาร์ก็คงต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก

                กลับกัน...มันกลายเป็นว่าเขามั่นใจว่าอาซือเจ้ตรงหน้าสามารถถล่ม Stand Port ให้ราบเป็นหน้ากองได้ง่ายๆราวกับปลอกกล้วย!

                เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง...ก่อนที่นักเวทย์แห่งสภาสูงจะทำการร่ายเวทย์สำเร็จ

                มันช้า...ช้าเกินไป นีวาร์ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าแม้แต่ชีวิตของตัวเองจะรอดได้ถึงหนึ่งชั่วโมงรึเปล่าด้วยซ้ำ

                ว่ายังไงคะ…” เธอเซ้า จ่อดาบยาวสีดำไว้ที่เดิม เธอกระตุกดาบเล็กๆเมื่อร่างเล็กตรงหน้าขยับใบหน้าเบาๆ แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไร นักมายากลยิ้ม หมวกพ่อมดปีกกว้างที่เคยตกอยู่หายไป และจู่ๆมันก็ตกลงมาจากฟ้ามาวางอยู่บนหัวของเขาเหมือนเดิม

                มิคังไม่เห็นดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้เงาหมวกของเขา เธอรู้แค่เพียงว่าเสียงหัวเราะหุหุน่ารำคาญใจนั่นกวนประสาทเธอขนาดไหน นักดาบสาวคิ้วกระตุกด้วยความเริ่มหงุดหงิดและท่าทีลีลาของคนตรงหน้า เธอเลื่อนตัวดาบยาววางบนบ่าของนักมายากล อีกสักหนึ่งเซนติเมตรก็ใกล้คอเหลือเกิน...

                ตอบคำถามผมมาก่อนสิครับ...เสียงใสนั่นเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี พี่สาวพอจะมี...ถั่วมั้ย?

    นิ้วเรียวนั่นสัมผัสเข้าที่ดาบของเธอก่อนที่มวลมหาประชาดอกไม้สีชมพูช็อกกิ้งพิ้งค์จะบานปกคลุมทั่วลำดาบ มิคังชักดาบออกมาจากบ่าของเด็กหนุ่ม แต่แล้วมันก็หายไปพร้อมกับร่างของนักมายากลที่เมื่อครู่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ตรงหน้า

                ...?!”

                “มาเล่นเกมกันต่อดีกว่าเน้อ หุหุหุหุเสียงดังมาจากข้างหลัง มิคังหันไปและพบว่าร่างนั้นนั่งห้อยขาลงมาจากหลังคาบ้านอิฐไม้หลังหนึ่ง

                รบกวนคืนดาบมาด้วยนะคะ เธอเอ่ยออกไป และเหวี่ยงดาบสั้นสีทองอีกเล่มไปทางที่เด็กหนุ่มอยู่ สายลมที่แหลมคมพุ่งโจมตีออกไปตามวิถีดาบอย่างรวดเร็ว มันเป็นการโจมตีระยะไกลที่เธอทำเพียงเพื่อลองเชิงกับนีวาร์อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ทายถูกว่ามันไม่มีทางทำอะไรนักมายากลได้...

                นีวาร์ไม่หลบ แต่เพลงดาบสะบั้นเวหาของมิคังกลับไม่โดน มิคังขมวดคิ้วอีกครั้งก่อนที่จะถูกโจมตีกลับด้วยดาบเล่มยาวหลายสิบเล่ม พวกมันจู่โจมมิคังด้วยความเร็วพอๆกับเพลงดาบของเธอ แต่ก็มิคังก็หลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ฉับพลัน สายตาของเธอก็ต้องกับมีดเล่มเล็กหลายสิบเล่มที่โผล่มาจากด้านเยื้องของดาบ

                มันไม่ได้มีแค่เซตเดียวหรอกนะ...

    นักมายากลนั่งมองอยู่จากเบื้องบนนั้น...หากสังเกตจะรู้ได้ว่าเขาไม่ได้ยิ้มอย่างที่อยู่ต่อหน้ามิคัง ถุงมือที่เขาถอดออกมาถูกใช้เป็นผ้าสำหรับกดแผลไม่ให้เลือดไหลไปมากกว่านี้  เลือดสีแดงสดยังเปื้อนนิ้วขาวๆนั่น เขากัดฟันกรอด แล้วดึงเอาเศษผ้าจากผ้าคลุมมามัดแผลไว้อย่างแน่น เขาค่อนข้างแน่ใจว่ากลเมื่อกี้จะยื้อมิคังไว้ได้นานพอที่เขาจะทำแผลเสร็จ

    แต่เปล่า...อาวุธทั้งหมดที่พุ่งโจมตีมิคังปลิวกองระเกะระกะไม่เป็นทางเมื่อถูกสายลมจากดาบพัดกระหน่ำกลับคืน กำแพงลมที่มิคังสร้างขึ้นก็ช่วยให้เธอไม่ได้รับแผลใดๆจากมีดเล่มคมที่หวังจะทำร้ายเธอเมื่อพลาดพลั้งและมัวจดจ่ออยู่กับดาบที่พุ่งใส่ทางด้านหน้าแม้แต่น้อย

    นักดาบสาวไม่หลงกลอีกครั้งหรอก...

    มิคังตั้งสติ ก่อนที่จะสะบัดดาบลงบนพื้น สายลมที่โอบล้อมกันเป็นพายุขนาดย่อมผลักให้ร่างของเธอลอยขึ้นสูงเหนือดิน เจ้าของร้านอาหารวาดดาบเป็นแนวนอนออกไปทางนักมายากลที่มัวแต่เผลอเรอสะเพร่าด้วยความลืมตัวเพราะบาดเจ็บ วายุคมกริบราวกับดาบนั่นพุ่งเข้าใส่นีวาร์บาดเข้าที่อกบาง ปลายของมันพุ่งเสียบเข้าที่ไหล่ซ้ายเป็นแผลลึก

    อึก!” เขาร้องออกมา เมื่อมิคังตวัดขาเตะเด็กหนุ่มจากทางด้านหลัง นีวาร์พลัดตกจากหลังคาด้วยแรงถีบที่เขานึกไม่ออกว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีแรงได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มเอื้อมมือขวาจับขอบหลังคาไว้ยื้อไม่ให้ทั้งร่างร่วงลงสู่พื้นดิน แผลที่ถูกฟันมีเลือดไหลออกมาอีกรอบหนึ่งพร้อมกับแผลใหม่ที่เขาได้รับ เด็กหนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดขณะที่นักดาบสาวใช้ดาบสั้นสีทองชี้ใส่ เธอวางเท้าลงบนนิ้วของนีวาร์ที่กำลังจับหลังคาไว้เบาๆ

    ฉันให้โอกาสอีกครั้งค่ะเธอเอ่ยพลางพยายามมองหาดาบยาวสีดำของเธอ แต่แล้วในศาสตราวุธพวกนั้นที่ตกระเกะระกะอยู่บนก็ไม่มีเล่มไหนเลยที่เป็นของเธอ แล้วก็คืนดาบของฉันมาด้วย

    ...ก็ได้ครับนีวาร์พูดเสียงสั่น...เขากำลังจนมุม มิคังเอื้อมมือจะคว้ามือของนีวาร์ไว้ก่อนที่จะร่วงลงไป เธอรู้อยู่แก่ใจว่าคนเจ็บคงมีแรงฝืนได้ไม่นาน แต่บางทีก็ไม่คิดว่าเขาจะยอมง่ายขนาดนี้...

    แต่ไม่หรอก...เธอยังไม่เชื่อใจเขา...และเขาเองก็ยังไม่เชื่อใจเธอ

                ตู้ม!! เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เมื่อนีวาร์ใช้มืออีกข้างปาวัตถุกลมๆสีแปลกตาหลายก้อนใส่หน้าของมิคัง เธอปล่อยมือของเด็กหนุ่มก่อนจับดาบสั้นฟันออกไปด้านหน้าตัดผ่าวัตถุนั้นเสีย มันระเบิดออกมาและเธอใช้ดาบสร้างกำแพงลมกั้นไว้ไม่ได้รับการกระแทกจากแรงระเบิด กลุ่มควันสีเทาฟุ้งกระจายไปทั่วจนบดบังทัศนียภาพของมิคัง ดาบลมถูกฟาดฟันออกไปเพื่อไล่ควันเทาพวกนั้นทิ้ง ร่างบางมองหานักมายากล แต่มันก็หายไปแล้ว...

    “…!!”

                หญิงสาวตกใจเมื่อทั้งร่างของเธอร่วงลงเข้าไปในบ้านอย่างไม่น่าเชื่อ หลังคาอิฐพวกนั้นถล่มลงมาทั้งแพ เธอหล่นปุกลงกับพื้นที่มีเศษอิฐหล่นลงมาก่อน

                พรึ่บ!

                มิคังหันควับไปรอบตัว เมื่อจู่ๆรอบกายกลับมืดลงอย่างแปลกตา เธอเหมือนติดอยู่ในห้องปิดตาย ร่างบางหลับตาลงก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่เพื่อให้ดวงตาปรับแสง มันมืดมาก...มากจนเธอเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ฝุ่นควันที่เคยฟุ้งกระจายก็ทำเอามิคังสำลักและแสบตา เธอมองไปรอบกาย ก่อนที่แสงไฟจะสว่างมาจากมุมหนึ่งผ่านกลุ่มควันที่เริ่มจางไปแล้ว

                ฉันอยากจะเล่นเกมกับแกเสียงผู้ชายที่ฟังดูน่าขนลุกดังขึ้นมาจากข้างหลัง เธอมั่นใจว่ามันไม่ใช่เสียงของนีวาร์ และมิคังหันกลับไปฟัน คมดาบของเธอปะทะกับกล่องปริศนาสีดำ มิคังเงยหน้าขึ้นยืนตัวตรงก่อนจะสูด หายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลับตาแล้วครุ่นคิด เพ่งสมาชิกเพื่อหาว่าตัวจริงของนักมายากลอยู่ที่ไหนกันแน่

                มิคังฟาดดาบสั้นไปทางซ้าย เธอสัมผัสได้ถึงสายลมที่ดูเปลี่ยนไป กระแสลมในพื้นที่โล่งแบบนี้มันควรจะไหลเวียนไม่มีสะดุด หากแต่เธอคิดว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ขวางทางลมอยู่ทางนั้น หากจะคิดเข้าข้างตัวเองเธอก็คงหวังให้มันเป็นร่างของนักมายากลที่หลอกล่อเธอมาตลอดหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอสัมผัสได้ว่ามันมีพลังงานบางอย่างอยู่แถวนั้น มิคังสัมผัสได้ค่ะ...

                แสงไฟเปิดผ่านม่านควันลงมายังตัวของมิคังจนแสบตา เธอเงยหน้าขึ้นมองไฟสปอร์ตไลท์ที่ไม่ทราบแน่ว่ามาจากไหน แต่เธอยืนยันได้ว่าตรงกลางระหว่างไฟทางด้านซ้ายและขวาเธอกำลังเห็นคนลอยอยู่บนไม้กวาด!

                ฮัลโหลวววว

                “จะแสดงอะไรอีกคะนั่นเธอถอนหายใจอย่างหน่ายๆ พยายามมองหาจุดมุมสุดของบริเวณโดยรอบ เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอถูกหลอกให้มาติดอยู่ในห้องสักอย่างที่แลดูจะกว้างมากจนน่าแปลกที่มันใหญ่เกือบเท่าช่วงตึก นักดาบสาวมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของมุมห้อง มันมืดไปหมด มีเพียงแสงไฟส่องมายังพื้นที่มิคังยืนอยู่และอีกดวงที่ส่งให้เห็นคนบนฟ้าเท่านั้น ยังไงก็จะไม่บอกทางให้ฉันเหรอคะ?

                ไม่ได้หรอกนักมายากลหัวเราะในลำคอตามสไตล์ของเขา แต่แปลกที่มิคังเห็นว่ามันไม่ใช่ยิ้มเล่นๆเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว... ผมสัญญากับเชสเซอร์ไว้แล้วน่ะ

                แสงไฟอีกดวงปรากฏขึ้นพร้อมกับดาบยาวสีดำทมิฬพอๆกับความมืดรอบกาย มันวางอยู่บนพื้นห่างจากตัวมิคังไปประมาณสองช่วงตัว แต่หญิงสาวยังคงนิ่ง เธอไม่ไว้ใจว่ามันจะเป็นกลอุบายอะไรอีกรึเปล่า...

                เก็บสินีวาร์เอ่ย ไม่มีทริคอะไรหลอกไว้หรอก หุหุ

                “ฉันจะเชื่อได้ยังไงคะ

                นีวาร์กระโดดลงมาจากไม้กวาด แสงไฟเคลื่อนตามที่เขาเดินไป นักมายากลยังคงอยู่ในชุดพ่อมดสีเข้มเช่นเดิม หากแต่กลิ่นคาวเลือดก็จางอยู่ทั่วร่างไม่ต่างจากมิคังสักเท่าไหร่ เด็กหนุ่มเดินด้วยก้าวที่ไม่ค่อยจะมั่นคงเท่าไหร่ไปหยิบดาบยาวนั่นก่อนจะส่งคืนให้กับมิคังด้วยมือตัวเอง เขาพยายามเพื่อที่จะไม่ให้มิคังเห็นว่าทั่วกายของเขานั้นสั่นไปหมด แต่มิคังรู้

                “ขอบคุณค่ะเธอเอ่ย ก่อนจะชายตามองร่างที่เดินตัดหน้าไป

                ก็แค่อยากลองว่าบางทีผมอาจจะเหมาะกับการเป็นนักดาบแบบคุณไหม

                แล้วเหมาะไหมละคะ?

                “หุหุเขาหัวเราะในลำคออีกครั้ง ดวงตาของเขาซ่อนอยู่ใต้เงาของหมวกเวทมนตร์ปีกกว้าง มิคังเห็นเพียงอมยิ้มมุมปากของเขา ผมว่าคงไม่...นักมายากลยังไงก็คงต้องเป็นนักมายากล

                เขาเหลียวหลังมามองมิคัง ก่อนที่จะดีดนิ้วดังป๊อก เธอเห็นนิ้วของเขานั้นเกรอะไปด้วยเลือดที่แห้งกรังติดอยู่ไม่ต่างจากบาดแผลของเธอที่สมานตัวกันเรียบร้อยแล้ว แสงไฟส่องมาจากทุกทิศทุกทางรวมกันมิคังอยู่จุดเดียว เธอเอื้อมมือขึ้นบังแสงที่จ้าจนปวดตา มือเรียวสวยกำดาบทั้งสองในมือแน่น เธอตั้งท่าเพื่อต่อสู้กับนีวาร์อีกครั้ง ทว่าเด็กหนุ่นกลับคว้าไม้กวาดก่อนที่จะยืนขึ้นบนนั้น อุปกรณ์เวทมนตร์นำพาร่างบางขึ้นสู่เบื้องบนอีกครั้ง

                ผู้โชคดีที่ได้ร่วมสนุกในวันนี้ได้แก่คุณมิคัง!” เขาตะโกนออกมา

                กลุ่มควันพวยพุ่งออกมารอบตัวมิคังอีกครั้ง เธอใช้วาดดาบเพื่อสร้างสายลมต้านพวกมันอีกครั้งหนึ่ง และจู่ๆเธอก็พบว่าทั้งร่างของเธอนั้นติดอยู่ในกล่อง!

                กล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าล็อคตัวมิคังไว้ มีเพียงส่วนศีรษะของเธอเท่านั้นที่โผล่ออกมา เธอไม่สามารถขยับแขนขาของเธอได้ เป็นว่าหญิงสาวกลายเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ที่ได้ตระเตรียมมาอย่างแท้จริง!

                “สิ่งที่จำเป็นสำหรับโชว์มายากลที่ยอดเยี่ยม... นีวาร์เอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วขึ้นฟ้า 90% คือความตื่นตะลึง...9% คืออารมณ์ขัน...และ...

                “...ความกลัวสักเล็กน้อยมิคังมองขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะพบว่าดาบสองคมสีเงินเล่มใหญ่เท่าครึ่งช่วงตึกลอยอยู่บนฟ้า และตำแหน่งของมันดันลอยอยู่เหนือหัวของเธอเสียพอดิบพอดี!

                เอาล่ะครับ...ขอเปิดการแสดงโชว์มายากลสุดตระการตาของนีวาร์ แม็คคาร์ธี่ ณ บัดนี้!!”

               

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×