คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : MISSION III - Second [Nevar's Turn]
เขาพลาด…
ใช่ เขาพลาดท่าจนถูกดาบคมๆนั้นฟันเข้า ดีที่มันไม่ใช่บาดแผลใหญ่ถึงตาย แต่มันก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงไปมาก นีวาร์นิ่วหน้ามองคนตรงหน้า
ขี้โกงนี่นา!
บาดแผลของมิคังเริ่มสมานตัวกันอย่างช้าๆ นีวาร์ไม่รู้ว่าเธอใช้ไอเทมอะไร รู้แค่ว่ามันรักษาได้รวดเร็วยิ่งกว่าผ้าพันแผล ถึงแม้จะไม่เร็วเท่าการใช้เวทมนตร์รักษา แต่ถือว่าทำให้มิคังเป็นต่อมากทีเดียว
“บอกวิธีไปท่าเรือมาได้รึยังคะ?” ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนเกินไป นักดาบสาวจ่อคมดาบสีดำที่ปลายจมูกของเด็กหนุ่ม พร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้ายังมีกลอะไรอีก คงจะดีกว่าหากเธอจะรีบปิดบัญชีแล้วสะสางงานให้จบๆไป
ท่าเรือ Stand เป็นชัยภูมิที่สำคัญสำหรับการรบทางน้ำ เชสเซอร์บอกว่า ภารกิจของนีวาร์ไม่ใช่การจัดการกับหน่วยพิเศษจาก Metropolis ที่ถูกส่งมาเพื่อทำลายท่าเรือให้เสียหาย แต่เป็นการซื้อเวลาให้กับทางฝ่ายนักเวทย์ของสภาสูงทำการร่ายเวทย์ป้องกันเมืองท่าไว้ให้ได้ หากไม่ทันการจะทำให้ท่าเรือถูกพังยับไม่มีชิ้นดี ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถรับส่งหรือซ่อมแซมเรือที่เสียหายจากการรบได้ และดูจากความสามารถของมิคังแล้วนีวาร์ก็คงต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก
กลับกัน...มันกลายเป็นว่าเขามั่นใจว่าอาซือเจ้ตรงหน้าสามารถถล่ม Stand Port ให้ราบเป็นหน้ากองได้ง่ายๆราวกับปลอกกล้วย!
เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง...ก่อนที่นักเวทย์แห่งสภาสูงจะทำการร่ายเวทย์สำเร็จ
มันช้า...ช้าเกินไป นีวาร์ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าแม้แต่ชีวิตของตัวเองจะรอดได้ถึงหนึ่งชั่วโมงรึเปล่าด้วยซ้ำ
“ว่ายังไงคะ…” เธอเซ้า จ่อดาบยาวสีดำไว้ที่เดิม เธอกระตุกดาบเล็กๆเมื่อร่างเล็กตรงหน้าขยับใบหน้าเบาๆ แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไร นักมายากลยิ้ม หมวกพ่อมดปีกกว้างที่เคยตกอยู่หายไป และจู่ๆมันก็ตกลงมาจากฟ้ามาวางอยู่บนหัวของเขาเหมือนเดิม
มิคังไม่เห็นดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้เงาหมวกของเขา เธอรู้แค่เพียงว่าเสียงหัวเราะหุหุน่ารำคาญใจนั่นกวนประสาทเธอขนาดไหน นักดาบสาวคิ้วกระตุกด้วยความเริ่มหงุดหงิดและท่าทีลีลาของคนตรงหน้า เธอเลื่อนตัวดาบยาววางบนบ่าของนักมายากล อีกสักหนึ่งเซนติเมตรก็ใกล้คอเหลือเกิน...
“ตอบคำถามผมมาก่อนสิครับ...” เสียงใสนั่นเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี “พี่สาวพอจะมี...ถั่วมั้ย?”
นิ้วเรียวนั่นสัมผัสเข้าที่ดาบของเธอก่อนที่มวลมหาประชาดอกไม้สีชมพูช็อกกิ้งพิ้งค์จะบานปกคลุมทั่วลำดาบ มิคังชักดาบออกมาจากบ่าของเด็กหนุ่ม แต่แล้วมันก็หายไปพร้อมกับร่างของนักมายากลที่เมื่อครู่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ตรงหน้า
“...?!”
“มาเล่นเกมกันต่อดีกว่าเน้อ หุหุหุหุ” เสียงดังมาจากข้างหลัง มิคังหันไปและพบว่าร่างนั้นนั่งห้อยขาลงมาจากหลังคาบ้านอิฐไม้หลังหนึ่ง
“รบกวนคืนดาบมาด้วยนะคะ” เธอเอ่ยออกไป และเหวี่ยงดาบสั้นสีทองอีกเล่มไปทางที่เด็กหนุ่มอยู่ สายลมที่แหลมคมพุ่งโจมตีออกไปตามวิถีดาบอย่างรวดเร็ว มันเป็นการโจมตีระยะไกลที่เธอทำเพียงเพื่อลองเชิงกับนีวาร์อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ทายถูกว่ามันไม่มีทางทำอะไรนักมายากลได้...
นีวาร์ไม่หลบ แต่เพลงดาบสะบั้นเวหาของมิคังกลับไม่โดน มิคังขมวดคิ้วอีกครั้งก่อนที่จะถูกโจมตีกลับด้วยดาบเล่มยาวหลายสิบเล่ม พวกมันจู่โจมมิคังด้วยความเร็วพอๆกับเพลงดาบของเธอ แต่ก็มิคังก็หลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ฉับพลัน สายตาของเธอก็ต้องกับมีดเล่มเล็กหลายสิบเล่มที่โผล่มาจากด้านเยื้องของดาบ
มันไม่ได้มีแค่เซตเดียวหรอกนะ...
นักมายากลนั่งมองอยู่จากเบื้องบนนั้น...หากสังเกตจะรู้ได้ว่าเขาไม่ได้ยิ้มอย่างที่อยู่ต่อหน้ามิคัง ถุงมือที่เขาถอดออกมาถูกใช้เป็นผ้าสำหรับกดแผลไม่ให้เลือดไหลไปมากกว่านี้ เลือดสีแดงสดยังเปื้อนนิ้วขาวๆนั่น เขากัดฟันกรอด แล้วดึงเอาเศษผ้าจากผ้าคลุมมามัดแผลไว้อย่างแน่น เขาค่อนข้างแน่ใจว่ากลเมื่อกี้จะยื้อมิคังไว้ได้นานพอที่เขาจะทำแผลเสร็จ
แต่เปล่า...อาวุธทั้งหมดที่พุ่งโจมตีมิคังปลิวกองระเกะระกะไม่เป็นทางเมื่อถูกสายลมจากดาบพัดกระหน่ำกลับคืน กำแพงลมที่มิคังสร้างขึ้นก็ช่วยให้เธอไม่ได้รับแผลใดๆจากมีดเล่มคมที่หวังจะทำร้ายเธอเมื่อพลาดพลั้งและมัวจดจ่ออยู่กับดาบที่พุ่งใส่ทางด้านหน้าแม้แต่น้อย
นักดาบสาวไม่หลงกลอีกครั้งหรอก...
มิคังตั้งสติ ก่อนที่จะสะบัดดาบลงบนพื้น สายลมที่โอบล้อมกันเป็นพายุขนาดย่อมผลักให้ร่างของเธอลอยขึ้นสูงเหนือดิน เจ้าของร้านอาหารวาดดาบเป็นแนวนอนออกไปทางนักมายากลที่มัวแต่เผลอเรอสะเพร่าด้วยความลืมตัวเพราะบาดเจ็บ วายุคมกริบราวกับดาบนั่นพุ่งเข้าใส่นีวาร์บาดเข้าที่อกบาง ปลายของมันพุ่งเสียบเข้าที่ไหล่ซ้ายเป็นแผลลึก
“อึก!” เขาร้องออกมา เมื่อมิคังตวัดขาเตะเด็กหนุ่มจากทางด้านหลัง นีวาร์พลัดตกจากหลังคาด้วยแรงถีบที่เขานึกไม่ออกว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีแรงได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มเอื้อมมือขวาจับขอบหลังคาไว้ยื้อไม่ให้ทั้งร่างร่วงลงสู่พื้นดิน แผลที่ถูกฟันมีเลือดไหลออกมาอีกรอบหนึ่งพร้อมกับแผลใหม่ที่เขาได้รับ เด็กหนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดขณะที่นักดาบสาวใช้ดาบสั้นสีทองชี้ใส่ เธอวางเท้าลงบนนิ้วของนีวาร์ที่กำลังจับหลังคาไว้เบาๆ
“ฉันให้โอกาสอีกครั้งค่ะ” เธอเอ่ยพลางพยายามมองหาดาบยาวสีดำของเธอ แต่แล้วในศาสตราวุธพวกนั้นที่ตกระเกะระกะอยู่บนก็ไม่มีเล่มไหนเลยที่เป็นของเธอ “แล้วก็คืนดาบของฉันมาด้วย”
“...ก็ได้ครับ” นีวาร์พูดเสียงสั่น...เขากำลังจนมุม มิคังเอื้อมมือจะคว้ามือของนีวาร์ไว้ก่อนที่จะร่วงลงไป เธอรู้อยู่แก่ใจว่าคนเจ็บคงมีแรงฝืนได้ไม่นาน แต่บางทีก็ไม่คิดว่าเขาจะยอมง่ายขนาดนี้...
แต่ไม่หรอก...เธอยังไม่เชื่อใจเขา...และเขาเองก็ยังไม่เชื่อใจเธอ
ตู้ม!! เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เมื่อนีวาร์ใช้มืออีกข้างปาวัตถุกลมๆสีแปลกตาหลายก้อนใส่หน้าของมิคัง เธอปล่อยมือของเด็กหนุ่มก่อนจับดาบสั้นฟันออกไปด้านหน้าตัดผ่าวัตถุนั้นเสีย มันระเบิดออกมาและเธอใช้ดาบสร้างกำแพงลมกั้นไว้ไม่ได้รับการกระแทกจากแรงระเบิด กลุ่มควันสีเทาฟุ้งกระจายไปทั่วจนบดบังทัศนียภาพของมิคัง ดาบลมถูกฟาดฟันออกไปเพื่อไล่ควันเทาพวกนั้นทิ้ง ร่างบางมองหานักมายากล แต่มันก็หายไปแล้ว...
“…!!”
หญิงสาวตกใจเมื่อทั้งร่างของเธอร่วงลงเข้าไปในบ้านอย่างไม่น่าเชื่อ หลังคาอิฐพวกนั้นถล่มลงมาทั้งแพ เธอหล่นปุกลงกับพื้นที่มีเศษอิฐหล่นลงมาก่อน
พรึ่บ!
มิคังหันควับไปรอบตัว เมื่อจู่ๆรอบกายกลับมืดลงอย่างแปลกตา เธอเหมือนติดอยู่ในห้องปิดตาย ร่างบางหลับตาลงก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่เพื่อให้ดวงตาปรับแสง มันมืดมาก...มากจนเธอเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ฝุ่นควันที่เคยฟุ้งกระจายก็ทำเอามิคังสำลักและแสบตา เธอมองไปรอบกาย ก่อนที่แสงไฟจะสว่างมาจากมุมหนึ่งผ่านกลุ่มควันที่เริ่มจางไปแล้ว
“ฉันอยากจะเล่นเกมกับแก” เสียงผู้ชายที่ฟังดูน่าขนลุกดังขึ้นมาจากข้างหลัง เธอมั่นใจว่ามันไม่ใช่เสียงของนีวาร์ และมิคังหันกลับไปฟัน คมดาบของเธอปะทะกับกล่องปริศนาสีดำ มิคังเงยหน้าขึ้นยืนตัวตรงก่อนจะสูด หายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลับตาแล้วครุ่นคิด เพ่งสมาชิกเพื่อหาว่าตัวจริงของนักมายากลอยู่ที่ไหนกันแน่
มิคังฟาดดาบสั้นไปทางซ้าย เธอสัมผัสได้ถึงสายลมที่ดูเปลี่ยนไป กระแสลมในพื้นที่โล่งแบบนี้มันควรจะไหลเวียนไม่มีสะดุด หากแต่เธอคิดว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ขวางทางลมอยู่ทางนั้น หากจะคิดเข้าข้างตัวเองเธอก็คงหวังให้มันเป็นร่างของนักมายากลที่หลอกล่อเธอมาตลอดหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอสัมผัสได้ว่ามันมีพลังงานบางอย่างอยู่แถวนั้น มิคังสัมผัสได้ค่ะ...
แสงไฟเปิดผ่านม่านควันลงมายังตัวของมิคังจนแสบตา เธอเงยหน้าขึ้นมองไฟสปอร์ตไลท์ที่ไม่ทราบแน่ว่ามาจากไหน แต่เธอยืนยันได้ว่าตรงกลางระหว่างไฟทางด้านซ้ายและขวาเธอกำลังเห็นคนลอยอยู่บนไม้กวาด!
“ฮัลโหลวววว”
“จะแสดงอะไรอีกคะนั่น” เธอถอนหายใจอย่างหน่ายๆ พยายามมองหาจุดมุมสุดของบริเวณโดยรอบ เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอถูกหลอกให้มาติดอยู่ในห้องสักอย่างที่แลดูจะกว้างมากจนน่าแปลกที่มันใหญ่เกือบเท่าช่วงตึก นักดาบสาวมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของมุมห้อง มันมืดไปหมด มีเพียงแสงไฟส่องมายังพื้นที่มิคังยืนอยู่และอีกดวงที่ส่งให้เห็นคนบนฟ้าเท่านั้น “ยังไงก็จะไม่บอกทางให้ฉันเหรอคะ?”
“ไม่ได้หรอก” นักมายากลหัวเราะในลำคอตามสไตล์ของเขา แต่แปลกที่มิคังเห็นว่ามันไม่ใช่ยิ้มเล่นๆเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว... “ผมสัญญากับเชสเซอร์ไว้แล้วน่ะ”
แสงไฟอีกดวงปรากฏขึ้นพร้อมกับดาบยาวสีดำทมิฬพอๆกับความมืดรอบกาย มันวางอยู่บนพื้นห่างจากตัวมิคังไปประมาณสองช่วงตัว แต่หญิงสาวยังคงนิ่ง เธอไม่ไว้ใจว่ามันจะเป็นกลอุบายอะไรอีกรึเปล่า...
“เก็บสิ” นีวาร์เอ่ย “ไม่มีทริคอะไรหลอกไว้หรอก หุหุ”
“ฉันจะเชื่อได้ยังไงคะ”
นีวาร์กระโดดลงมาจากไม้กวาด แสงไฟเคลื่อนตามที่เขาเดินไป นักมายากลยังคงอยู่ในชุดพ่อมดสีเข้มเช่นเดิม หากแต่กลิ่นคาวเลือดก็จางอยู่ทั่วร่างไม่ต่างจากมิคังสักเท่าไหร่ เด็กหนุ่มเดินด้วยก้าวที่ไม่ค่อยจะมั่นคงเท่าไหร่ไปหยิบดาบยาวนั่นก่อนจะส่งคืนให้กับมิคังด้วยมือตัวเอง เขาพยายามเพื่อที่จะไม่ให้มิคังเห็นว่าทั่วกายของเขานั้นสั่นไปหมด แต่มิคังรู้
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ย ก่อนจะชายตามองร่างที่เดินตัดหน้าไป
“ก็แค่อยากลองว่าบางทีผมอาจจะเหมาะกับการเป็นนักดาบแบบคุณไหม”
“แล้วเหมาะไหมละคะ?”
“หุหุ” เขาหัวเราะในลำคออีกครั้ง ดวงตาของเขาซ่อนอยู่ใต้เงาของหมวกเวทมนตร์ปีกกว้าง มิคังเห็นเพียงอมยิ้มมุมปากของเขา “ผมว่าคงไม่...นักมายากลยังไงก็คงต้องเป็นนักมายากล”
เขาเหลียวหลังมามองมิคัง ก่อนที่จะดีดนิ้วดังป๊อก เธอเห็นนิ้วของเขานั้นเกรอะไปด้วยเลือดที่แห้งกรังติดอยู่ไม่ต่างจากบาดแผลของเธอที่สมานตัวกันเรียบร้อยแล้ว แสงไฟส่องมาจากทุกทิศทุกทางรวมกันมิคังอยู่จุดเดียว เธอเอื้อมมือขึ้นบังแสงที่จ้าจนปวดตา มือเรียวสวยกำดาบทั้งสองในมือแน่น เธอตั้งท่าเพื่อต่อสู้กับนีวาร์อีกครั้ง ทว่าเด็กหนุ่นกลับคว้าไม้กวาดก่อนที่จะยืนขึ้นบนนั้น อุปกรณ์เวทมนตร์นำพาร่างบางขึ้นสู่เบื้องบนอีกครั้ง
“ผู้โชคดีที่ได้ร่วมสนุกในวันนี้ได้แก่คุณมิคัง!” เขาตะโกนออกมา
กลุ่มควันพวยพุ่งออกมารอบตัวมิคังอีกครั้ง เธอใช้วาดดาบเพื่อสร้างสายลมต้านพวกมันอีกครั้งหนึ่ง และจู่ๆเธอก็พบว่าทั้งร่างของเธอนั้นติดอยู่ในกล่อง!
กล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าล็อคตัวมิคังไว้ มีเพียงส่วนศีรษะของเธอเท่านั้นที่โผล่ออกมา เธอไม่สามารถขยับแขนขาของเธอได้ เป็นว่าหญิงสาวกลายเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ที่ได้ตระเตรียมมาอย่างแท้จริง!
“สิ่งที่จำเป็นสำหรับโชว์มายากลที่ยอดเยี่ยม...” นีวาร์เอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วขึ้นฟ้า “90% คือความตื่นตะลึง...9% คืออารมณ์ขัน...และ...”
“...ความกลัวสักเล็กน้อย” มิคังมองขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะพบว่าดาบสองคมสีเงินเล่มใหญ่เท่าครึ่งช่วงตึกลอยอยู่บนฟ้า และตำแหน่งของมันดันลอยอยู่เหนือหัวของเธอเสียพอดิบพอดี!
“เอาล่ะครับ...ขอเปิดการแสดงโชว์มายากลสุดตระการตาของนีวาร์ แม็คคาร์ธี่ ณ บัดนี้!!”
ความคิดเห็น