ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) Grass ♞ BAEKDO [END]

    ลำดับตอนที่ #7 : Grass season 2 [1/?]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 57





    Grass 1







     

     



    เด็กน้อยนั่นเหมือนตราบาปของผม ผมพยายามไม่นึกถึงเขา

    ไม่มีวันที่จะยอมรับ แต่เพียงแค่คำนั้นหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็ก

    ริมฝีปากรูปทรงเดียวกับแม่ของเขา เพียงแค่คำเดียวหัวใจของผมก็แพ้อย่างราบคาบ

    “พ่อ



    เวลาเที่ยงตรงบรรยากาศในร้านอาหารพลุกผล่านไปด้วยผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิตนักศึกษาแห่การมาจับจองที่นั่งภายในร้าน ด้านเกือบในสุดเป็นที่ประจำของเขากับแฟนตัวเล็ก คนตัวเล็กข้างหน้านั่งจิ้มโทรศัพท์ตั้งแต่ต้นจนอาหารวางจะเต็มโต๊ะอยู่แล้วยังไม่ท่าทีว่าจะวางมันเลยสักนิด



    “จงแดวางโทรศัพท์ลงได้แล้ว”


    “น่ารักมั้ย”


    มือเล็กยื่นโทรศัพท์พร้อมหันหน้าจอมาทางเขา แบคฮยอนมองสิ่งที่แฟนตัวเล็กต้องการให้ดู ตอนแรกกะว่าคงจะเป็นพวกนาฬิกาเรือนหรูเพราะเห็นเจ้าตัวบ่นอยู่ว่าอยากจะได้ แต่เปล่าหน้าจอแสดงรูปของเด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารักอายุประมาณสองถึงสามขวบกำลังทานอาหารเช้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนแอบถ่าย



    จมูกเล็กรั้นน่าบีบรับกับแก้มย้วยน่าฟัดแบบเด็กถูกเลี้ยงสมบูรณ์ ดวงตาที่หากแบคฮยอนไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไปมันดูเหมือนเขาเอามากๆ แต่ที่สะดุดก็คือริมฝีปากเล็กรูปหัวใจนั่น เหมือนกับใครบางคนที่เขาย่ำยีเสียจนน่าสงสาร หากย้อนกลับไปได้แบคฮยอนคงไม่ทำแบบนั้น


    “อืมน่ารักดี ใครเหรอหลานเราหรือไง”


    ใบหน้าหล่อคมพยักหน้าก่อนจะเอ่ยปากชม ใช่เด็กตรงหน้านั้นน่ารักมากน่ารักเสียจนแบคฮยอนอยากจะมีลูกแบบนี้สักคน เดือนตัวเล็กส่ายหน้าพลางยิ้มกว้างแล้วเฉลยว่าเด็กน้อยคือใคร ความจริงแบคฮยอนไม่ควรจะรู้ว่าเด็กเป็นใครน่าจะดีซะกว่า


    “เปล่าหรอกไม่ใช่หลานผม แต่เป็นลูกพี่ต่างหาก”



    แบคฮยอนเสตามองออกไปนอกร้านหัวคิ้วขมวดเป็นปมเหมือนไม่พอใจที่จงแดยกเรื่องนี้ออกมาพูด เดือนตัวเล็กถอนหายใจกับความใจแข็งของแฟนหนุ่มของตัวเอง แบคฮยอนพยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอดที่เขาถามถึงเด็กน้อยลูกของเจ้าตัวกับคยองซู



    “สามปีแล้วนะพี่แบคฮยอน”



    ใช่เหตุการณ์ทุกอย่างมันผ่านมาแล้วสามปี สามปีแล้วที่คยองซูหายไปพร้อมกับเด็กในท้อง สามปีแล้วที่ปัญหาทุกอย่างกำลังจะคลี่คลาย สามปีแล้วที่ความรู้สึกระหว่างเขากับแบคฮยอนไม่เหมือนเดิม แต่ปัญหาของแบคฮยอนไม่เคยหายหรือเลือนรางไปเลย แบคฮยอนยังเก็บทุกปัญหาไว้กับตัวตลอด ยังเก็บจงแดไว้เพราะรู้สึกผิดที่ตอนคบกันใหม่ๆ แบคฮยอนหักหลังเขา ทุกวันนี้ชายหนุ่มเลยพยายามชดใช้ให้เขาทุกทาง แต่แบคฮยอนอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าที่ทำลงไปน่ะไม่ใช่ความรักแบคฮยอนไม่ได้รักจงแดอีกแล้ว เจ้าตัวคงจะไม่รู้ว่าเวลาที่ดื่มหนักจนเมาหรือแม้จะไม่สบายแบคฮยอนละเมอหาแต่เพียงคนเดียว คนนั้นที่ไม่ใช่จงแดแต่เป็น


    โด คยองซู


     ตอนแรกจงแดก็โมโหพยายามพูดซ้ำๆ ให้แบคฮยอนรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับเขา แต่มันก็เป็นเพียงแค่การล้างบาปซึ่งจงแดคิดว่ามันเพียงพอแล้ว ทำยังไงแบคฮยอนก็ไม่สามารถรักเขาได้อีกต่อไป หัวใจของชายหนุ่มติดไปกับแม่ลูกอ่อนคนนั้นเพียงแต่ไม่รู้ใจตัวเอง ตอนนี้เขาคงต้องทำอะไรให้มันถูกเสียงที


    “เด็กต้องมีพ่อนะพี่แบคฮยอน”


    “เด็กนั่นไม่ใช่ลูกพี่”


    คำพูดซ้ำรูปแบบประโยคซ้ำๆ แบคฮยอนใช้ปฏิเสธมาตลอด แบคฮยอนใช้คำพวกนี้กดความรู้สึกของตัวเองมาเสมอ แม้บางครั้งตัวเขาเองแอบจินตนาการถึงเด็กน้อยคนนั้นว่าหน้าตาเป็นแบบไหน จะเหมือนเขาหรือว่าคยองซูเพียงเท่านั้นแบคฮยอนก็สามารถยิ้มออกมาได้ในเวลาเครียดหนักๆ จากที่ทำงาน แต่เมื่อใบหน้าของจงแดลอยเข้ามาคนที่แบคฮยอนทำร้ายจนทำให้เข้ามารับกรรมจากผลการกระทำของเขา เหตุการณ์วันนั้นที่จงแดโดนวางยายังคนตามหลอกหลอนเขา เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบจงแดทำให้แบคฮยอนกดเรื่องลูกลงไปลึกที่สุด ไม่คิดถึงและไม่ยอมรับมาตลอด


    “ยอมรับเถอะพี่แบคฮยอนมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่ไม่สงสารเด็กเหรอเด็กโตขึ้นทุกวันนะพี่ รีบไปหาเขาก่อนที่เขาจะไม่ยอมรับพี่อีกตลอดไป”


    “แต่


    “คิดเอานะพี่แบคฮยอน” จงแดเก็บโทรศัพท์ของตัวเองเข้ากระเป๋า ก่อนจะยืนขึ้นโดยที่ยังไม่ได้แตะอาหารเที่ยงเลยสักคำ “อ่อแล้วต่อจากนี้พี่ไม่ต้องมารับผมอีกแล้วนะ เราเลิกกันเถอะผมไม่ได้รักพี่อีกแล้ว”


    แบคฮยอนนั่งอึ้งมองหน้าของเดือนตัวเล็ก ใบหน้าน่ารักนั่นไม่ได้ดูเจ็บปวดหรือเสียใจเลยสักนิด จงแดดูเหมือนเป็นปกติทั่วไปเขาเองก็เหมือนกัน ไม่ได้เจ็บเหมือนตอนที่รู้ว่าคยองซูหนีไป ตอนนั้นเจ็บแทบบ้าแบคฮยอนเอาแต่กินเหล้าแทบไม่เข้าเรียน แต่พอมันเกิดขึ้นระหว่างเขากับจงแดคำบอกเลิกนั่นไม่ได้ทำร้ายเขาเลยด้วยซ้ำ หรือเป็นเพราะว่าเราทั้งคู่หมดรักกันตั้งนานแล้ว บางทีอาจจะไม่ได้รักกันเลยก็เป็นได้


    “โชคดีนะพี่”


    เดือนตัวเล็กยกมือขึ้นมาโบกให้อีกคนก่อนจะเดินออกมา โล่งมากอย่างบอกไม่ถูกจงแดไม่เคยโล่งแบบนี้มาก่อนในสามปีที่ผ่านมา บางทีเขากับแบคฮยอนอาจจะไม่ได้รักกันเลยก็เป็นได้ ที่คบกันก็เพราะคนในมหาลัยยุพลางจับคู่ให้พวกเขา จงแดเองช่วงนั้นก็อยากประชดที่บ้านพอดีและหาเรื่องมีแฟนอยากจะให้แม่หันมาสนใจ แต่ลืมไปว่าการทำแบบนั้นมันเป็นความคิดไร้สาระ ตอนรู้เรื่องแบคฮยอนกับคยองซูมันไม่ใช่อาการหึงหวงแบบที่เขาเข้าใจในตอนแรก มันเป็นเพียงความต้องการเอาชนะ แต่รู้มั้ยจงแดน่ะแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้วก็อย่างที่บอกหัวใจแบคฮยอนอยู่ที่คนตัวเล็กเจ้าของใบหน้าน่ารักนั่นตั้งนานแล้ว


    “มารับผมหน่อยสิอี้ชิง”


    เดือนตัวเล็กยกโทรศัพท์โทรหาคนแก่ซื่อบื้อคนนั้น ทั้งที่บอกจะรับผิดชอบเขาแล้วแท้ๆ แต่พอเห็นเขาอยู่กับแบคฮยอนกลับถอยออกไป ตานี่ก็เป็นคนดีเสียเหลือเกินต้องให้อ่อยขนาดไหนนะถึงจะรู้ว่ารอให้มารับผิดชอบอยู่นะ หลังจากวางโทรศัพท์ลงไม่ถึงห้านาทีรถสีดำคันหรูก็มาจอดเทียบ จงแดระบายยิ้มแอบตามมาเฝ้าอีกแล้วนะอี้ชิง!



     

    รถคันหรูจอดเทียบอยู่หน้าร้านของชำในเมืองที่เซฮุนบอกเขาว่าคยองซูย้ายมาอยู่ที่นี่ แบคฮยอนใช้เวลากว่าสามวันในการถามตัวเองว่าจะเอายังไงหลังจากนี้ ใจหนึ่งก็อยากเจอคยองซูอยากเจอลูกที่ปฏิเสธมาตลอดเวลา หลังจากตัดสินใจได้ก็ต้องไปอ้อนวอนขอให้เซฮุนช่วยซึ่งคนตัวขาวใจแข็งไม่น้อยใช้เวลาร่วมห้าวันกว่าเซฮุนจะบอกที่อยู่ของคยองซู แบคฮยอนไม่ได้จะมาคยองซูเพื่อขอให้เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันแบบในละคร เขาเพียงแค่อยากจะช่วยคยองซูในเรื่องการเงินเกี่ยวกับลูก


    “ป้าครับโรงเรียน XXX ไปทางไหนครับ”


    ชายหนุ่มรับเงินทอนสำหรับค่ากาแฟและขนมเล็กๆ น้อยมาจากป้าเจ้าของร้าน ปากก็เอ่ยถามทางโรงเรียนของเด็กน้อย คยองซูเป็นคุณแม่ที่โหดน่าดูลูกอายุแค่สองขวบกว่าก็ส่งเข้าโรงเรียนซะแล้ว หลังจากรู้พิกัดแน่นอนของโรงเรียนแบคฮยอนก็รีบไปให้ถึงเร็วที่สุด นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นมาดูเวลาอีกนิดเดียวก็จะถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว


    แบคฮยอนมาถึงในเวลาที่เด็กๆ เริ่มเดินออกจากประตูหน้าโรงเรียน ด้วยความที่เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ เด็กนักเรียนเลยไม่เยอะมาก แบคฮยอนรีบเดินไปดักรอเด็กน้อยที่ประตูทางออก โชคดีที่เซฮุนบอกเขามาอีกนิดหน่อยว่าคยองซูจะไปรับลูกช้าตาหนูเลยต้องออกมานั่งรอหน้าโรงเรียน เด็กนักเรียนเล็กๆ ทยอยกลับกันเกือบหมดแล้วเหลือเพียงนักเรียนมัธยมปลายเล่นบาสหลังเลิกเรียนด้วยเหตุผลไม่อยากกลับบ้านเร็วอยู่กลุ่มหนึ่ง


    แบคฮยอนเริ่มใจเสียวันนี้คงไม่ใช่ว่าคยองซูมารับลูกเร็วหรือเด็กน้อยไม่มาโรงเรียนหรอกนะ เขาถึงไม่เห็นเด็กตัวเล็กออกมานั่งรอเลย ชายหนุ่มยืนรออีกสักพักก่อนจะตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ แบคฮยอนเตรียมจะเดินกลับไปที่รถถ้าไม่ติดว่ามีเสียงเล็กใสดังมาจากข้างรั้ว ชายหนุ่มถอยออกมายืนดูไม่นานหัวทุยของเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากรูโหว่เล็กๆ ที่กำแพงปูน


    “คุณกระเป๋าอย่าดื้อซี่~


    แบคฮยอนกลั้นยิ้มไม่ได้เมื่อเด็กที่โผล่ออกแค่หัวเอ่ยปากดุกระเป๋าเป้สีแดงลายการ์ตูนใบเล็กที่หลังของตนเอง เจ้าตัวมุดออกมาไม่ได้เพราะกระเป๋าเป้สีแดงลายการ์ตูนนั่นติดกับส่วนบนรูโหว่ของกำแพงปูน ใบหน้าเล็กยุ่งไปหมดริมฝีปากแดงเล็กบ่นไม่หยุดพยายามหมอบตัวให้ต่ำจนในที่สุดก็ลอดออกมาได้


    “คุณกำแพงแพ้แล้ว วันนี้คุณกระเป๋าต้องกลับบ้านกับน้องเฟธคิก~


    พอตัวหลุดออกมาได้เจ้าตัวน้อยก็หันไปเยาะเย้ยกำแพงปูนนั่นด้วยความภูมิใจ เพราะเสียงหัวเราะต่ำของแบคฮยอนทำให้เด็กน้อยหันหน้ามามองก่อนจะแลบลิ้นใส่แล้วเดินผ่านไปนั่งรอหม่ามี๊ที่ม้านั่งตัวประจำ


    “คุณลุงคนนี้นิสัยไม่ดีเลย หัวเราะน้องเฟธ!


    ปากเล็กบ่นออกมาเสียงดัง หน้าตาที่แสดงความแสบออกมาตอนแลบลิ้นใส่แบคฮยอนทำให้เขาอยากฟัดแรงๆ เสียเหลือเกิน คยองซูเลี้ยงลูกแบบไหนกันแน่เจ้าหนูน้อยถึงได้ออกมาแสบขนาดนี้ แต่ก็ดีแบบนี้ค่อยเหมาะเป็นลูกของแบคฮยอนหน่อย


    แบคฮยอนอดตกใจไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าตัวน้อย ในรูปว่าเหมือนเขามากแล้วพอเจอตัวจริงนี่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือเขาย่อส่วนลงมา คุณลุงนิสัยไม่ดีของเด็กน้อยเดินไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ แต่เจ้าตัวน้อยกลับขยับออกไปจนชิดอีกฝั่งของม้านั่งแล้วยกกระเป๋าขึ้นมากลั้นกลาง


    “นี่


    แบคฮยอนลองส่งเสียงเรียกออกไป แต่เด็กน้อยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน นี่สิน้าเด็กที่เข้าเรียนก่อนวัยเขาถึงได้บอกว่าต้องแสบมากกว่าเด็กทั่วไปองเท่า เพราะคุณครูประจำชั้นคงประคบประหงมไม่ห่างแน่


    “นี่ไอ้หนู”


    “อย่าเรียกน้องเฟธว่าไอ้หนูนะ น้องเฟธชื่อน้องเฟธ!!


    เสียงใสตะโกนกลับมาทำเอาแบคฮยอนหัวเราะร่า ใบหน้าน่าเล็กติดดื้อรั้นนั่นหันมามองเขาตาเขียว คิ้วบางขมวดเข้ากันแบบผู้ใหญ่ นี่คยองซูให้ลูกดูละครมากไปใช่มั้ยถึงได้ทำอะไรเลียนแบบผู้ใหญ่มาซะขนาดนั้น


    “อ่าน้องเฟธก็น้องเฟธครับ” พอคุณลุงเรียกชื่อดีๆ เด็กน้อยก็ยิ้มกว้างออกมาจนตาปิด มันทำให้แบคฮยอนนึกถึงแม่ของเจ้าหนูนี่อีกแล้ว “ทำไมเรียกตอนแรกไม่หันล่ะหืม”


    แบคฮยอนยกกระเป๋าเป้ใบเล็กออกไปวางอีกฝั่งพลางขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างเล็ก มือใหญ่ลูบหัวทุยของเจ้าตัวน้อยด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยทำพฤติกรรมแปลกๆ โดยการยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากางออกแล้วค่อยๆ พับนิ้วลงไปทีละนิ้วจนครบทั้งสิบนิ้ว


    “หม่ามี๊บอกว่าห้ามพูดกับคนแปลกหน้า แต่คุณลุงอยู่กับน้องเฟธมาสิบนิ้วแล้วไม่แปลกคุยได้”


    “ฮ่าๆ เอางั้นเลยเหรอ”


    “อื้มสิบนิ้วแล้วปลอดภัย!


    เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้วจับมือแบคฮยอนข้างที่ไม่ได้วางบนหัวตัวเองขึ้นมาแล้วพับนิ้วของแบคฮยอนอีก ในขณะที่จะเงยหน้าขึ้นมองแบคฮยอนตากลมโตใสเหลือบไปเห็นอมยิ้มในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของแบคฮยอนเข้า ตาใสเป็นประกายก่อนจะเอ่ยคำพูดเจ้าเล่ห์สุดน่ารัก


    “ตอนนี้สิบห้านิ้วแล้วแต่ปลอดภัยมากๆ ต้องได้หม่ำอมยิ้มด้วย”


    มือใหญ่ขยี้ผมนิ่มของเจ้าตัวน้อยเบาๆ เจ้าเล่ห์นักแต่ก็ยอมหยิบอมยิ้มในกระเป๋าให้ มือป้อมเล็กเกือบจะหยิบได้แล้วถ้าแบคฮยอนไม่ชักกลับไป


    “ง่าอย่างอแงสิฮะ”


    “ใครงอแงกันหืม”


    มือเล็กชี้มาที่หน้าแบคฮยอนโดยทันที เจ้าตัวเล็กด้วยความที่อยากได้อมยิ้มทำให้กายเล็กปีนขึ้นมานั่งตักแบคฮยอนแล้วเอื้อมมือไปคว้า ผู้ใหญ่ขี้แกล้งยิ่งชูมือสูงขึ้นไปอีกทำให้เด็กน้อยค่อยๆ ยืนบนหน้าขาแข็งแรงแล้วเอื้อมมือตาม แขนเล็กอีกข้างก็โอบคอของแบคฮยอนเอาไว้ แบคฮยอนโอบประครองลูกเอาไว้กลัวว่าเด็กน้อยจะหงายหลังตกลงไป


    “อยากหม่ำต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ” เด็กน้อยละสายตาจากอมยิ้มมาจ้องหน้าคนตัวโต ใบหน้าเล็กพยักรัวด้วยความใกล้ทำให้จมูกเล็กชนกับจมูกโด่งของแบคฮยอนไปมา “เรียกป่าป๊าก่อน”


    เจ้าตัวเล็กนิ่งไปสักพักก่อนจะก่อนจะพยักหน้า ริมฝีปากเล็กแย้มขึ้นก่อนที่เสียงใสจะถูกเปล่งออกมา


    “ป่าป๊าขออมยิ้มน้องเฟธน้า~


    “ครับน้องเฟธของป่าป๊า”

     




    TBC.


     

    ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีซั่นสอง! เย้ๆๆๆๆๆๆ
    น้องเฟธมาแล้วอนุญาติฟัดน้องสองที 5555555555555
    มันเป็นเรื่องแรกที่แต่งแล้วมีเด็กอ่ะ เป็นไงบ้างงง

    ส่วนเรื่องรวมเล่มอ่านไปก่อนนะคะ แล้วค่อยตัดสิ้นใจว่าจะเอาไง
    ชอบไม่ชอบใกล้ๆ จบจะตัดสิ้นใจจากกระแสอีกที
    บ้ายบายยยยย


    #ฟิคหญ้าพิษ








    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×