็ีHusband สามี
ส่ง Halloween Fiction Contest ครั้งที่ 4
ผู้เข้าชมรวม
292
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Husband สามี
“แม่ฮะ...”
เสียงของเด็กชายวัยเก้าขวบดังขึ้น สตรีวัยกลางคนผู้เป็นแม่หันมาตามเสียงเรียกของบุตรชาย เธอเพียงยิ้มให้และหันกลับไปทำธุระของเธอต่อ น้ำเสียงของบุตรชายนั้นดูเศร้าสร้อยซึ่งเธอเองก็รู้ดี แต่เพื่อความรู้สึกทีดีของลูกเธอเองก็ไม่อยากจะสนทนากับเขาตอนนี้ เธอเกรงว่าคำพูดของเธอจะไปทำร้ายจิตใจของเขาไปมากกว่านี้
“แม่...” เด็กชายยังคงเรียกต่อไป “พ่อเป็นอะไรเหรอฮะ เขาดูแปลกๆไปนะฮะ”
“ดึกมากแล้วเข้านอนเถอะลูก” ผู้เป็นแม่กล่าวพลางลุกขึ้นมาจากโต๊ะทำงานส่วนตัวของเธอ เธอเดินไปหาลูกชายที่กำลังก้มมองหุ่นยนต์ของเล่นที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบเจ็ดขวบของเขา
เธอจับไหล่ลูกชายแล้วพาเดินไปส่งที่ห้องนอนของเขา คำพูดของลูกชายที่กล่าวถึงสามีของเธอ ความหดหู่วิ่งเข้าสู่หัวใจ ความกลัวทิ่มแทงไปที่สมอง ความกังวลเกี่ยวกับบุตรชายเพียงคนเดียวทำให้เธอนอนไม่หลับทุกๆคืน ทุกๆสิ่งมันเกิดจากสามีเธอเพียงคนเดียว
เธอไม่อยากให้ลูกชายคนนี้รู้เรื่องของพ่อของเขา ไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้พ่อของตัวเอง แต่จะให้บอกลูกไปเลยว่าพ่อของลูกอันตรายอย่าไปอยู่ใกล้เขา มันก็ไม่ใช่ ถ้าลูกกลายเป็นคนคิดมากขึ้นมาล่ะ...เขาจะกลายเป็นเด็กมีปม และสิ่งที่เธอทำอาจจะทำลายอนาคตของเขาได้
เธอทำได้เพียงแค่พูดในเรื่องดีๆของสามีเธอเอาไว้ ลูกชายของเธอจะไม่ได้คิดไปว่าพ่อของเขาไม่เหมือนพ่อของคนอื่น เธอจะแยกลูกของเธอกับพ่อของเขาก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยสามีของเธอก็ยังคงเป็นพ่อแท้ๆของเขา และยิ่งไปกว่านั้นหากเธอทำเช่นนี้ อาจเกิดเรื่องร้ายๆตามมาก็ได้ เธอไม่ไว้ใจสามีของเธอเท่าไหร่
“เอาล่ะ เจคถึงห้องของลูกแล้ว เข้าไปนอนเถอะ” เธอเดินเข้าห้องของลูกเธอ ส่งเขาเข้านอน เมื่อเจคลงไปนอนเธอก็หยิบหุ่นยนต์ที่เขาถืออยู่มาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง หลังจากนั้นก็ห่มผ้าห่มให้ลูกชาย
“แม่ฮะ...เล่านิทานให้ผมฟังหน่อยได้ไหมฮะ” เจคร้องขอให้แม่ของเธอเล่านิทานให้ฟังเหมือนเมื่อก่อน ถึงจะรู้ดีว่ายังไงแม่ของเขาก็คงจะไม่เล่าให้ฟังอีกตามเคยและมันก็เป็นเช่นนั้น
“ลูกโตพอที่จะเลิกฟังนิทานก่อนนอนแล้วนะเจค” แม่ของเจคกล่าวพลางส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น “ฝันดีนะเจค”
“ฝันดีฮะ” เจคตอบรับก่อนที่แม่ของเขาจะจุมพิตที่หน้าผาก แล้วเดินไปปิดไฟห้องและเดินออกไปพร้อมปิดประตูอย่างแผ่วเบา เจคมองตามหลังแม่ไปและคิดในใจว่า พรุ่งนี้วันเกิดผมนะฮะแม่...
เมื่อผู้เป็นแม่เดินออกมาจากห้องแล้วเธอก็เลี้ยวซ้ายตรงไปยังห้องรับแขก ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดูข่าวช่วงดึกโดยที่เธอไม่ได้เปิดไฟห้องรับแขก ข่าวก็มีแต่ข่าวเดิมๆ เรื่องอาขญากรรม ข่าวการเมือง หรือแม้กระทั่งข่าวแมวของดาราดังคลอดลูก เธอถอนหายใจแล้วหลับตาลง แสงจากโทรทัศน์ทำให้ในห้องรับแขกเปลี่ยนไป เดี๋ยวฟ้า เดี๋ยวขาว บางช่วงก็มืดสนิทเพราะสัญญาณล่ม มันเป็นเรื่องปรกติของพื้นที่แถวนี้
เวลาผ่านไปจนกระทั่งเที่ยงคืนตรง นาฬิกาเรือนใหญ่ในบ้านส่งเสียงร้องลั่น ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอมองไปที่รายการโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพยนต์สยองขวัญไร้สาระ แบบเรื่องเดิมๆ เธอลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์ เสียงรถยนต์ดังขึ้นมาที่หน้าบ้าน ความกังวลใจนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง
“แมรี่!” เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นมาจากหน้าประตูบ้าน
“เบาๆหน่อยแจ็ค เจคนอนแล้ว” แมรี่นิ่วหน้าสายตาจับจ้องไปยังรูปภาพบนผนังที่มีเธอกำลังอุ้มทารกตัวน้อยแล้วมีสามีนามว่าแจ็คยืนยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ด้านหลัง เธอหวนนึกถึงความสุขครั้งนั้นและคิดมีความหวังเล็กๆว่าความสุขนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเธอก็แค่หวังและแน่นอนมันคงจะเป็นไปไม่ได้หากสามีเธอยังคงเป็นแบบนี้
“ที่รักดูนี่สิ ของขวัญวันเกิดเจคล่ะ” แจ็คหยิบกล่องใบหนึ่งขึ้นมามันมีขนาดประมาณกล่องใส่เค้กสี่ปอนด์ เธอไม่สนใจกล่องนั่น แต่สิง่ที่เธอสนใจคือความจำของเธอเอง เธอลืมวันเกิดของลูกชายแท้ๆของเธอ
“คุณรีบไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเถอะ ถ้าหิวก็ไปเวฟกิน ฉันเตรียมเอาไว้ในตู้ยิน” แมรี่บอกกับแจ็คก่อนจะหันหลังเดินขึ้นไปห้องนอน แต่ยังไม่ทันที่เธอจะผ่านประตูห้องรับแขก ก็ถูกแจ็คโอบเข้าที่ด้านหลัง
“คุณรู้ไหม ผมรักคุณมาก ผมรีบกลับมาบ้านอย่างเร็วเลยนะ เพื่อพรุ่งนี้เช้าเราจะได้ฉลองวันเกิดเจค” แจ็คพูดที่ข้างหูของแมรี่ แมรี่พยายามเอาตัวเองออกจากอ้อมกอดของแจ็ค
“คุณน่าจะกลับมาเร็วกว่านี้ คุณไม่ได้รักเจคเลยเหรอ คุณรู้ไหมฉันกังวลมากหากวันใดวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับเจค ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นและแน่นอน รู้ไหมว่าคนที่จะทำให้เจคเสียใจก็เพราะคุณ ตัวคุณเอง!” แมรี่พูดเสียงดัง ความห่วงใยที่มีต่อบุตรชายนั้นมากเกินกว่าที่แจ็คผู้เป็นพ่อจะให้กับเจคได้
“ให้ตายเถอะแมรี่ ผมยังคิดว่าผมเป็นแบบนั้นอีกเหรอ” แจ็คพูดกับแมรี่ สายตาเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของแมรี่ คิ้วเขาขมวดจนแทบจะชนกัน
“ไม่ว่าคุณจะบำบัดมันมากเท่าไหร่ มันก็จะไม่หายไปจนกว่าคุณจะตาย!” แมรี่เผลอหลุดปากออกมา
“นี่คุณอยากจะให้ผมไปตายงั้นเหรอ” เสียงของแจ็คสั่น เขาปล่อยให้แมรี่เป็นอิสระ ปากก็พร่ำพูดแต่ประโยคเดิม
“คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย คุณอยากให้ผมตาย แมรี่อยากให้ผมตาย แจ็ค แมรี่อยากให้นายตาย แมรี่อยากจะฆ่าฉัน”
“ไม่แจ็คฉันไม่ได้อยากจะฆ่าคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว” แมรี่รู้ดีว่าเธอทำผิดมหันต์ เธอต้องปลอบให้เขาใจเย็นๆก่อน ก่อนที่เรื่องแย่ๆจะเกิดขึ้น เธอหวนไปนึกถึงอดีตที่บ้านหลังเก่าไฟไหม้ทั้งหลัง โชคดีที่ตอนนั้นเจคไปโรงเรียน เจคยังคงไม่รู้เรื่องราวที่พ่อเขาเผาบ้านตัวเอง แมรี่ก็บอกเพียงว่า แม่ลืมปิดเตาแก๊ส
แจ็คเป็นคนสติไม่ดี เธอเพิ่งจะมารู้ก็ตอนที่เหตุการณ์ครั้งก่อน แต่เธอก็ยังคงรักเขาและรักมาก แต่ตอนนี้ความรักของเธอที่มีให้แจ็คมันลดลงและลดลงเรื่อยๆจนมันแทบจะหายไป แต่ผิดกับแจ็ค แจ็คยังคงรักแมรี่เสมอ รักแบบเสมอต้นเสมอปลาย ความรักที่เขามีให้ไม่เคยแปรเปลี่ยน เขาทุ่มเทให้กับความรักนี้มากกว่าเงินตราหรือฐานะอันร่ำรวยที่เขาเคยได้รับและเขาก็ทุ่มเทให้กับมันมากจนเกินไป มากเกินไปที่หากเขาผิดหวัง เขาจะกลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้อีก
“แม่รี่อยากให้ผมตาย แมรี่อยากให้ตาย แมรี่ให้ตาย เธออากให้ตาย เธอ...อยากตาย” แจ็คไม่สนใจคำพูดของแมรี่ที่กำลังปลอบอารมณ์ของเขาก็นำพาเรื่องร้ายๆมาสู่ครอบครัว
“คุณอยากตายงั้นเหรอแมรี่ คุณจะทิ้งผมไปเหรอ คุณอยากได้ขนาดนั้นเลยเหรอ อย่างนั้นเหรอ” แจ็คเดินไปหาแมรี่ แมรี่ก็ก้าวถอยหลัง ความกลัวคลืบคลานเข้าสู่หัวใจของหญิงสาว ขาที่แข็งแรงเริ่มสั่นและอ่อนแรง เหงื่อเม็ดเล็กๆไหลออกมาจากหน้าผาก
แจ็คยังคงเดินตรงไปหาภรรยาที่กำลังหวาดกลัวเขาอยู่อย่างช้าๆ ปากก็พูดออกมา เสียงของเขาเปลี่ยนแปลงไป จากน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นกลายเป็นเสียงแหลมบาดจิตใจของปีศาจ
“ไม่ฉันไม่ได้อยากจะตาย ฉันแค่กังวลเกี่ยวกับชีวิตของครอบครัวเรา” แมรี่กล่าวเสียงสั่น เธอเดินก้าวถอยหลังติดกำแพงหมดหนทางที่จะไปต่อ
“คุณกังวลงั้นเหรอ คุณกังวลเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ไหม ว่ามันจะหายไปอีก” แจ็คถามออกมาเสียงแหลม เขายิ้มให้แบบไม่เป็นมิตร ก้มหน้ามองตาแมรี่ ราวกับจะกระชากวิญญาณเธอออกมาทั้งเป็น
“ใช่” แมรี่ตอบกลับ
“คุณกังวลเกี่ยวกับเพื่อนบ้านไหม? ว่าเขาจะเป็นอันตรายเพราะผม” แจ็คยังคงถามต่อ เขาใกล้แมรี่ขึ้นเรื่อยๆ
“ใช่ ฉันกังวล ฉัน...จะพาคุณไปหาหมอนะแจ็ค”
“คุณจะพาผมไปหาหมองั้นเหรอ?”
“ใช่ แจ็คใช่”
“คุณจะให้หมอฉีดยาให้ผมงั้นเหรอ แล้วคุณก็จะปล่อยให้ผมอยู่โรงพยาบาลกับพวกนางพยาบาลแก่ๆกับหมอห่วยๆนั่นใช่ไหม!” แจ็คตะคอกขึ้นมาจนน้ำลายเขากระเด็นไปโดนใบหน้าของแมรี่ จนเหงื่อและน้ำลายผสมปนเปกันไปหมด
“คุณกังวลเกี่ยวกับลูกของเรา เจค คุณกังวลหรือเปล่า?” แมรี่พยักหน้า “แล้วคุณกังวลเกี่ยวกับผมหรือเปล่า”
เมื่อแจ็คเข้ามาใกล้แมรี่ เธอกลัวเกินกว่าจะตอบคำถามของเขา ข้างกายของเธอมีขวดแก้ววางอยู่บนโต๊ะไม้สัก ขวดเบียร์ที่เธอเพิ่งซดดื่มเมื่อตอนเย็น
แมรี่คว้าขวดและตีเข้าไปที่หัวของแจ็ค ขวดนั้นแตกกระจาย แจ็คมึนไปชั่วขณะ โลหิตไหลออกมาจากศีรษะของเขาเป็นบาดแผลยาวเกือบห้าเซนติเมตร แมรี่รีบออกตัววิ่งหนี เธอนึกถึงเจคบุตรที่นอนหลับไม่รู้เรื่องราวของเธอแล้วเธอก็วิ่งไปที่ห้องของลูกชาย แจ็คเอามือขวากุมหัวแล้วร้องเรียกภรรยาของตนอย่างโกรธแค้น
“แมรี่!!”
เสียงตะโกนของแจ็คไล่ตามหลังแมรี่ที่กำลังวิ่งไปหาลูกชาย เสียงนั้นต้องทำให้เธอเร่งผีเท้าขึ้นอีก แมรี่วิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง... แต่เหตุใดไม่รู้เส้นที่ไปยังห้องของบุตรชายนั้นช่างยาวไกลนัก เธอกระหืดกระหอบวิ่งมาตามทางจนถึงประตูของลูกชาย แล้วเปิดประตูไปหาลูกชายด้วยความรวดเร็ว เจคตื่นมานั่งอยู่บนเตียงก่อนแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นเหรอฮะแม่ ทำไมพ่อถึงเสียงดังล่ะฮะ” เจคถามด้วยความสงสัย จ้องมองมาที่แม่ของตัวเองที่กำลังยืนหอบหายใจ
“แมรี่!!” เสียงของแจ็คดังขึ้น เสียงเขาเหมือนกับสิงโตที่กำลังคำราม แมรี่รีบปิดประตูแล้วล็อคกลอน ก่อนจะวิ่งไปหาเจคที่กำลังงงงวยกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“เจคฟังแม่นะ เจคฟังแม่” แมรี่กล่าวแล้วจับที่ไหลของเจคอย่างร้อนรน
“เกิดอะไรเหรอฮะแม่” เจคจ้องไปที่ใบหน้าที่กำลังหวาดกลัวของผูเป็นแม่ กลิ่นเหงื่อของแมรี่โชยเข้าจมูกเจคทำให้เจครู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก
“เดี๋ยวแม่เล่าให้ฟังนะเจค ตอนนี้ลูกรีบปีนออกหน้าต่างวิ่งออกไปจากที่นี่ วิ่งบ้านคุณนายลิลลี่”
ปัง! ปัง! เสียงกระแทกประตูของแจ็คดังขึ้น แมรี่หันมามองที่ประตูก่อนจะวิ่งไปเปิดหน้าต่างในห้องให้เจควิ่งออกไป
“ไม่นะ แย่แล้ว...” แมรี่กล่าวอย่างหมดหวังเมื่อหน้าต่างบานนั้นไม่สามารถเปิดออกได้ เธอพยายามดึงหน้าต่างขึ้นแต่ดูเหมือนว่าหน้าต่างบานนี้จะล็อค เธอนึกถึงนิสัยขี้ระแวงของเธอที่จะต้องล็อคประตูหน้าต่างในบ้าน เธอระแวงว่าซักวันขโมยจะขึ้นบ้าน กุญแจนั้นอยู่ที่ห้องครัว ซึ่งหากจะไปเอาก็ต้องเจอกับแจ็คที่กำลังคลั่งอยู่แน่นอน
เสียงกระแทกประตูของแจ็คทำให้แมรี่ไม่มีสติพอที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อหนีไปจากที่นี่ เจคหันมากอดแม่ของตัวเอง เธอมองลูกชายด้วยตาที่เวทนา ความสงสาร ความกลัว ความกังวลแล่นเข้าสู่จิตใจ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เธอโอบกอดเจคราวกับว่าเธกำลังจะเสียเขาไปและไม่ได้พบเขาอีกเลย
“เปิดให้ผมหน่อยแมรี่ ผมคิดถึงคุณ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว แมรี่ได้โปรด” แจ็คกล่าวผ่านประตูเข้าไป ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาขัดกับน้ำเสียงที่ทำให้ดูน่าสงสาร “เจค เปิดให้พ่อหน่อยลูก พ่อมีของขวัญจะให้ลูกนะ เจค”
ในมือของแจ็คมีขวานอยู่เล่มหนึ่ง ขวานที่เขาซื้อมาเพียงแค่อารมณ์อยากได้ แมรี่ดูจะหัวเสียมากเมื่อเอามันมาให้เธอดู แมรี่คิดเสมอว่าเขาคงจะไม่ใช้มัน แต่วันนี้เขากลับใช้มันจนได้
เมื่อแมรี่รวบรวมสติที่มีอยู่น้อยนิดได้เธอก็บอกกับเจคให้ไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า
“เจค เข้าไปหลบในตู้นั่น ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่าส่งเสียงดังและอย่าออกมาจนกว่าแม่จะบอก” เจควิ่งไปเข้าไปหลบในตู้โดยก่อนจะวิ่งไปเขาคว้าหุ่นยนต์ตัวโปรดของเขาเข้าไปด้วย
“เจค...พ่อบอกว่าเปิดประตูให้พ่อหน่อย!” แจ็คตะโกนออกมาพร้อมกับขวานที่จามลงไปที่ประตู
ปัง!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!
แมรี่ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว แจ็คยังคงไม่หยุด เขาจามขวานลงไปเรื่อยๆ เสียงที่ดังขึ้นจากการกระทำของแจ็คทำให้แมรี่ประสาทเสียและจิตตก เจคก็เริมรู้สึกหวาดกลัวขึ้น เขามือขึ้นปิดหูหลับตาและนั่งลงในตู้เสื้อผ้าอันมืดมิด
แมรี่นั่งลงกับพื้น รูที่เกิดจากการจามขวานของแจ็คพอที่จะเผยให้เห็นใบหน้าของเขา เขายิ้มให้แมรี่และหัวเราะของมาราวกับคนสติแตก แมรี่ร้องไห้ออกมา เธอรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเธอไม่สามารถขยับได้ตามคำสั่ง เหมือนกับว่าปีศาจร้ายกำลังเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้
แจ็คเอื้อมมือผ่านรูมาเปิดประตูจากด้านใน เขาเดินลากขวานไปหาแมรี่ที่กำลังจนมุม เสียงลากขวานแล่นเข้าโสตประสาทของแมรี่และเจค แมรี่ตัวสั่นราวกับผีเข้า เธอหมดหนทางที่จะวิ่งหนี อย่าแม้แต่จะวิ่งแค่คลานเธอยังไม่สามารถทำได้
“แมรี่...เธอหนีฉันทำไม ฉันกำลังจะช่วยเธอนะแมรี่” แจ็คพูดขึ้นมา แล้วยกขวานขึ้นมาถือด้วยมือทั้งสองข้าง เขาหยุดอยู่หน้าแมรี่ห่างจากร่างกายของเธอไม่ถึงเหนึ่งเมตร
“อย่าเลยนะแจ็ค หยุดเถอะ ได้โปรด ฮือ...” แมรี่พูดอ้อนว้อนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน
“ไม่นะแมรี่ นี่เธอกำลังร้องไห้งั้นเหรอ ใครกันที่ทำให้เธอร้องไห้ โอ๋ โอ๋ โอ๋...” แจ็คกล่าวปลอบแมรี่โดยที่คำกล่าวนั้นมันไม่ได้ช่วยให้แมรี่หยุดร้องได้เลย “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเธอก็หยุดร้อง”
เจคที่กำลังหลบอยู่ในตู้ เขาลืมตาขึ้นมาแง้มประตูตู้เสื้อผ้าออกเล็กน้อย เขามองเห็นภาพแม่ของตัวเองที่กำลังนั่งร้องไห้กับพ่อที่ถือขวานราวกับฆาตกรในภาพยนต์ที่เขาเพิ่งดูไปเมื่อสามวันก่อน เจคไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง แม้แต่การหายใจเขาก็พยายามกลั้นเอาไว้ กลัวว่าเสียงหายใจของเขาจะทำให้พ่อมาเจอเขาด้วย เขากำลังกลัวพ่อของตัวเอง น้ำตาเม็ดเล็กๆกำลังไหลออกจากหางตาดวงน้อย
“ได้โปรดเถอะแจ็ค ได้โปรด” แมรี่พยายามร้องขอชีวิต อ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูน่าสงสาร น้ำเสียงของผู้หมดหวังและน้ำเสียงของผู้ที่กำลังหวาดกลัว
“ผมน่ะโปรดปรานยิ่งกว่านักบุญเสียอีกแมรี่...” เขาพูดจบก็จามขวานลงไปที่ศีรษะของผู้ที่เป็นภรรยาที่รักยิ่งของเขา เสียงกรี๊ดของแมรี่เงียบหายไปทันทีที่ใบมีดของขวานเฉาะเข้าไปในหัวกะโหลก
อ๊ากกกกกกกกกกก!
เจคร้องออกมาทันทีที่พ่อของเขาลงมือฆ่าภรรยาของตนเอง เมื่อแจ็คได้ยินเสียงร้องเขาดึงขวานออกมาจากศีรษะ หันมาทางตู้เสื้อผ้าที่เจคหลบอยู่ แจ็คค่อยเดินไปอย่างเชื่องช้า เสียงฝีเท้าของแจ็คสะกดให้เจคต้องนิ่งเงียบ
เด็กชายไม่สามารถจะมีความคิดเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้ได้ เจคได้แต่เพียงแค่นั่งรอในสิ่งที่มันกำลังจะเกิด
แจ็คเดินมาถึงตู้เสื้อผ้า เขาค่อยๆเปิดมันออกมา มองดูลูกชายตัวน้อยนั่งกอดหุ่นยนต์ที่ตนซื้อให้เป็นของขวัญและเขาก็ยิ้ม ยิ้มแบบที่เขาไม่เคยยิ้มมาก่อน ยิ้มแบบการจากลา
“ฮัลโหล...เจ้าหนูน้อย” เจคมองไปที่พ่อของตัวเอง แจ็คง้างขวานขึ้นมาก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีก
“สักวันแกจะเป็นแบบพ่อ...เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีล่ะ”
ฉึก! ขวานจามเข้าไปที่หัวของแจ็ค
เขาฆ่าตัวตายต่อหน้าลูกชาย....
.
.
.
เฮือก!
เจคในวัยสามสิบแปดสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องนอนตอนเที่ยงคืนตรง เขาฝัน เขาฝันแบบนี้แทบทุกวัน เจคมองหาภรรยาที่ควรจะหลับอยู่ข้างกายภายในห้อง เขาไม่พบเธอ เขาเดินออกไปนอกห้องไปยังห้องรับแขก เสียงรถยนต์ดังขึ้นมาหน้าบ้าน แจ็คยืนรออยู่ชั่วขณะหนึ่ง ภรรยาเขาเดินเข้ามาภายในบ้านพบกับเจคที่ยืนรออยู่ ข้างกายของเธอมีบุตรสาววัยเจ็ดขวบยืนถือตุ๊กตาอยู่
“คุณไปไหนมาแอนนา” แจ็คเอ่ยถาม
“นี่คุณลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้ลูกเราต้องออกจากโรงพยาบาล ฉันก็นึกว่าคุณไปรับเธอแล้ว ฉันบอกคุณแล้วว่าวันนี้ฉันกลับบ้านพรุ่งนี้เช้า โรงพยาบาลโทรมาหาฉันเนี่ย งานนั่นที่จะทำให้เราสบายไปอีกสองปีก็ต้องยกเลิกไปเพราะคุณ แต่ดูสิคุณมัวแต่นอนรู้ไหมว่า มินดี้ลูกของเราต้องรอจนเธอร้องไห้ไปตั้งหลายครั้ง คุณทำให้เธอเสียใจนะรู้ไหม คุณน่าจะตายๆไปซะ!” แอนนาด่าทอเจคอย่างลืมตัวไปว่าลูกสาวนั้นยืนอยู่ข้างๆ
“แอนนา...คุณอยากให้ผมตายอย่างนั้นเหรอ”
ผลงานอื่นๆ ของ จำปาสีดำ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ จำปาสีดำ
ความคิดเห็น