ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ห้องเก็บของ]

    ลำดับตอนที่ #9 : jhgjg

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 88
      0
      23 พ.ย. 56


    โอ๊ย จะอกเเตกตาย ไม่คิดว่าตัวเองจะมีสามีข้ามคืน �เมื่อคืนยังโสดอยู่เเท้ๆ พอฉันรู้ข่าวนี้ฉันถึงกับอาละวาดทำลายข้าวของจนบ้านเละ �กินไม่ได้นอนไม่หลับจนกระทั้งนึกถึงหน้ายัยยูริขึ้นมา ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ Iphone5 ออกมาจากกระเป๋าเเบนเนรมด์เเละโทรหายูริ

    ไม่นานปลายสายก็รับ�

    "ฮัลโหล"

    "ยูริว่างคุยไหม?"

    "เเฮกๆ มีอะไรเหรอซูยอง" ฉันรู้สึกว่าเสียงของยูริ มันดูเหนื่อยๆ?

    "เธอทำอะไรอยู่เหรอ"�

    "กรี๊ดอย่ามายุ่งกับฉัน! เธอพูดว่าอะไรนะซูยอง"�

    "ฉันถามว่า เธอทำอะไรอยู่ "

    "อ้อ ไม่มีอะไรหรอก มีอะไรอีกไหมถ้าไม่มีฉันวางละนะ!"

    "เออ ยูริ คือ ฉัน..."

    ตี๊ดดดดดดด

    อ็าาาก ฉันเเทบจะคลั่งเรื่องเเต่งงานอยู่เเล้ว ยังโดนยัยยูริ ตัดสายอีก ช่วงนี้ยิ่งไม่อยากไปไหนอยู่ เป็นข่าวข้ามคืนไปเม้ากันทั่วประเทศ ไปไหนคงมีเเต่คนจับตามองเป็นว่าเล่น หนังสือพิมพ์ก็ไม่อยากจะอ่าน เฟซบุ๊ค ก็ดันมีข่าวฉันเต็มไปหมด ถ้าข่าวลือฉันจะไม่เเยเเสเลยซักนิดเเต่นี่ดันเป็นเรื่องจริงซะนี่!

    "ก็อกๆ"�

    "เข้ามาได้"�

    ประตูเปิดมาพร้อมกับ เจสสิก้า ผู้จัดการร่างเล็กที่คอยจัดตารางงานต่างๆ เธอเป็นคนคอยดูเเลฉันตลอดไม่ว่าฉันจะไปไหนทำอะไรเธอจะรู้ความเคลื่อนไหวของฉันเเทบจะทั้งหมด ฉันคงจะสนิทกับเธอมาก ถ้าเธอไม่เป็นคนที่เงียบ นิ่ง สงบ ราวกับนํ้าเเข็ง

    "วันนี่เธอต้องไปเดินเเบบ ปฎิเสธไม่ได้งานนี่สำคัญ" เธอมองฉันด้วยสายตาที่เย็นเชียบ

    "ถ้าเธอบอกว่าสำคัญจริงๆก็คงต้องไป กี่โมงละ"�

    "อีกสี่สิบนาที" เจสสิก้าพูดเเละเดินออกไปจากห้อง ถึงจะไม่ค่อยอยากออกไปไหนเเต่คราวนี้คงช่วยไม่ได้�


    ฉันเเต่งหน้าเเต่งตัวทำผมเสร็จเเล้วจึงเดินลงมาหาเจสสิก้าที่คอยอยู่ข้างล้าง เธอพาฉันไปทีบริษัทใหญ่ยักษ์ที่ดูหรูหราเเห่งหนึ่ง เเละพาเข้าไปในห้องเเต่งตัว เธอจัดเเจงเลือกเสื้อผ้าให้เเละยังเตือนฉันอีกด้วยว่า อย่าได้ทำให้มีรอยขีดข่วนเป็นอันขาด ไม่งั้นฉันอาจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายไปถึงรุ่นหลานเลยก็ว่าได้!

    "ซูยอง เธอเเต่งตัวเสร็จเเล้วเดินไปตรงซ้ายสุดจะมีช่างเเต่งหน้ารออยู่ ฉันมีธุระนิดหน่อย" เธอตะโกนเข้ามาขณะฉันเเต่งตัวอยู่�

    "ได้ๆ" ฉันตะโกนออกไปเเละเเต่งตัวต่อ ชุดที่ฉันใส่ถือว่าดูดีไม่รกเเละโล่งจนเกินไปที่สำคัญเข้ากับขนาดตัวของฉันเสียด้วยถ้าให้ฉันเด่าคงเป็นชุดฟินน่าเล่

    ฉันเดินออกมาจากห้องเเต่งตัว เเละเดินไปซ้ายสุด เห็นกระเทยร่างยักษ์กำลังนินทาฉันอย่างสนุกปาก ทำไมฉันถึงคิดอย่างนั้นนะเหรอ? ก็เพราะพอหล่อนเห็นฉันหน้าหล่อนกลายเป็นสีขาวซีดเเถมยังส่งยิ้มเหยๆมาให้ฉันอีกต่างหาก

    "เออ คุณซูยองเชิญนั่งตรงนี้เลยค่ะ" ฉันเดินเข้ามานั่งประจำที่รอให้เเละหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเบาๆ มันคงช่วยทำให้ฉันผ่อนคลายได้บ้าง

    ฉันนั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังกระเทยที่นั่งเเต่งหน้าให้ฉันโดยที่ปากของหล่อนก็พลอยพูดไม่หยุดไปด้วย รู้สึกได้อัพเดตข่าวไปในตัวมากเลยทีเดียว

    "นี่เธอรู้ไหมว่าใครจะมาเดินเเบบคู่กับคุณซูยอง"

    "เเหม่จะเป็นใครได้ละก็ �ชานยอลไงละเธอ "�

    "ว่าไงน่ะ!!!" ฉันถึงกับตะโกนลั่นห้อง เเละดึงหูฟังออกจากหู�

    "ก็เดินเเบบกับคุณชานยอลไงค่ะ"�

    "งั้นฝากบอกกับคุณเจสสิก้าด้วยนะ ว่าฉันจะ กลับ บ้าน!" ฉันหยิบกระเป๋าเเละเดินออกไป งานสำคัญยังไงฉันก็ไม่เดินหรอก โดยเฉพาะกับเขา!


    2 เดือนก่อน �

    "นี่ซูยองไปเเต่งหน้าได้เเล้ว งานจะเริ่มเเล้วนะ" ตอนนี้ฉันรู้สึกลั่นล้าสุด เพราะได้เดินให้กับเเบรนด์เนมหรูเริ่ดสุดฮอตที่ฉันใช้อยู่ประจำ เเล้วยิ่งงานนี้มีคนดังเเนวหน้าระดับประเทศมาดูกันถ้วนหน้า ยิ่งทำให้ฉันมีความสุขจนเเทบจะลอยได้

    "ค่า" ฉันฉีกยิ้มเเละเดินไปนั่งประจำที่ตัวเอง จะว่าไปใครจะเป็นคนที่มาเดินเเบบเป็นคู่ฉันกันนะ

    "เออ คุณพี่ค่ะ พี่รู้รึเปล่าว่าใครจะมาเดินเเบบคู่ฉัน" �ฉันถามช่างเเต่งหน้า

    "อ้อก็ชานยอลนักร้องเพลงร็อกที่ตอนนี้ดังระเบิดทั่วประเทศไงจ๊ะ" ชานยอล ชื่อนี้ฉันคุ้นๆนะ ถึงฉันจะชอบฟังเพลงสากลเเละไม่ค่อยสนใจเเนวเพลงร็อกเท่าไร่ เเต่คนนี้ดังจริงอะไรจริง เห็นเขาบอกว่าเป็นนักร้องที่มีความสามารถเเถมยังมีหน้าตาที่ หล่อเหลา?

    "นี่ไงเดินมาเเล้ว" เธอพูดพร้อมชี้นิ้วไปทางผู้ชายที่พึ่งเข้ามาใหม่ ผู้ชายร่างสูงโปรงเเละส่วนเรื่องหน้าตาก็คงไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ฉันได้ยินมาเเน่นอน


    "สวัสดีครับ เขาพูดพร้อมส่งยิ้มมาให้ฉัน

    "อ้อสวัสดีค่ะ" ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้เขา ชานยอลเดินมานั่งข้างๆฉันพร้อมเปิดนิตยาสารอ่าน พร้อมมาคุยกับฉันบ้างบางครั้งบางคราว�

    กริ้งงงงง

    ฉันมองชื่อคนที่โทรมาหา เฮ้อ เเม่ฉันนี่เอง ปกติท่านไม่ค่อยโทรหาฉันหรอกนอกจากจะมาสั่งสอน หรือมาเตือนให้ฉันทำตัวดีๆ

    "สวัสดีค่ะ" ฉันตอบด้วยนํ้าเสียงเอื่อยๆ

    "นี่ซูยอง พูดกับเเม่ให้ดีๆหน่อยสิ" นํ้าเสียงสูงเเหลมดังออกจากโทรศัพท์ทำเอาเยื่อเเก้วหูฉันเเทบฉีก

    "ค่าาา เเล้วนี่เเม่มีธุระอะไรเหรอค่ะ" ฉันพูดพร้อมเบ้ปาก ฉันกับเเม่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร่ตั้งเเต่เด็กๆเเล้ว คุยกันไม่ถึงห้านาทีต้องมีเรื่องทุกครั้ง คงเป็นเพราะฉันกับเเม่เป็นคนใจร้อนเเละไม่ยอมคนทั้งคู่

    "พรุ่งนี้เเกต้องไปดูตัว"

    "ก็บอกไปตั้งหลายครั้งเเล้วว่าหนูยังไม่พร้อมถ้าพร้อม เดี๋ยวจะบอกเเม่เอง เเล้ววันนี้หนูมีงานด้วย"�

    "ไม่ได้ เเกต้องไป"

    "หนู ไม่ ไป!"�

    "ทำเพื่อเเม่เเค่นี้ไม่ได้รึไง!"�

    "ไม่ได้!"�

    "ฉันจะส่งคนไปรับเเกเดี๋ยวนี้!"

    "ส่งมาก็ไร้ประโยชน์ เพราะยังไงหนูก็ไม่ไป!"

    "เเกกล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอ!"

    "เเล้วที่ทำอยู่มันคืออะไรละ วางละนะ รำคาญ!"

    "ถ้าเเกวางนะ..."�

    ตี๊ดดด�

    ฉันกดวางสายเเละกดปิดเครื่อง คนกำลังอารมณ์ดีอยู่เเท้ๆมาทำให้อารมณ์เสีย ให้ตายยังไงฉันก็ไม่เอาหรอก!

    "นี่คุณไม่ควรขึ้นเสียงกับเเม่เเบบนั้นนะ" ฉันมองมาทางชายหนุ่มที่พูดกับฉัน เขาจ้องฉันตาเขม็ง�

    "เเล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย นี่เเม่ฉันไม่ใช่คุณ!" ฉันสะบัดหน้าเเละลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะเดินออกไปจากห้องนี้ วันนี้เป็นวันดีฉันไม่ค่อยอยากจะมีเรื่องหรอกนะ

    "คนเนรคุณ" เสียงของชานยอลทำให้ฉันหันกลับไปมองเขาอย่างเอาเรื่อง�

    "นายว่ายังไงน่ะ" ฉันเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อชานยอล เขายืนประจันหน้ากับฉันเเละเหยียดยิ้ม ฉันรู้สึกเตี้ยไปเลยเมื่อเทียบกับเขา ปกติฉันถือว่าเป็นผู้หญิงที่ตัวสูงเลยทีเดียวฉันจะเจอเเต่คนที่สูงเท่าฉันหรือไล่เลี่ยกับฉัน นี่ขนาดฉันใส่สั้นสูงเเล้วยังสูงไม่เท่าเขาเลย

    "ก็คนเนรคุณยังไงล่ะ" เขาพูดพร้อมหยักคิ้ว�

    "เนรคุณก็เรื่องของฉันไม่ต้องมาเ สื อ ก ! " ฉันสะบัดหน้าเดินกระทืบเท้าออกมาจากห้องเเต่งตัว มาสูดอากาศข้างนอก ตอนเเรกนึกว่าจะเป็นผู้ชายที่น่าจะเข้ากันได้ดี ที่ไหนได้ก็เป็นเเค่ ผู้ชายที่มารยาทสูง กราบตีนเเม่วันละสามครั้งก็เท่านั้นเเหละ!

    ฉันยืนสงบสติอารมณ์อยู่ข้างนอก ก่อนจะค่อยเดินเข้าไป เอาตามตรงฉันเทียบหน้าชานยอลไม่ติด เเต่ยังไงก็ชั่งฉันก็ไม่เจอเขาอีกเเล้ว�

    "พอถึงคนใส่ชุดสีฟ้าเเล้วซูยองกับชานยอลก็ออกไปเลย ฝ่ายหญิงหมุนเเละให้ฝ่ายชายรับ เข้าใจไหมค่ะ"

    ฉันพยักหน้าสายตาพลางมอง นางเเบบคนอื่นๆเดินเฉิดฉายอยู่บนเเคทวอร์ท หลังเสร็จงานนี้ฉันคงได้เสียเงินให้กับเสื้อผ้าสักสองสามตัว�

    "พอคนนั้นเดินเข้ามาเธอก็เดินต่อเลยนะ" เจสสิก้า ดูเสื้อผ้าหน้าผมให้ฉันเป็นครั้งสุดท้าย เจสสิก้าเดินไปบอกเเบบเดียวกันกับชานยอล ฉันรอดูนางเเบบเดินคนเเล้วคนเล่าจนถึงคนใส่ชุดสีฟ้า�

    ฉันจับหน้าอกข้างซ้ายที่ตอนนี้มันเต้นแรงพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ออกมามากมาย จนในกระทั้งถึงคิวของฉัน สองเท้าเดินขึ้นไปวงเวทีอย่างสง่าสายตาเชียบคมสามารถสยบคนดูได้อยู่หมัด แสงแฟล็ตถ่ายภาพทุกวินาทีในการอยู่บนเวทีของฉัน �ทุกอย่างมันช่างเพอร์เฟ็กเสียเหลือเกินเหลือก็แต่ฉันต้องหมุนตัวและชานยอลก็รับตัวฉันไว้ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี

    “พอฉันหมุนตัวแล้วนายรับนะ” ฉันกระซิบกับชานยอลเป็นการส่งสัญญาณ ฉันเริ่มหมุนตัวตามที่ซ้อมเอาไว้ กระโปรงพริ้วไหวอย่างสวยงาม แต่ในวินาทีถัดมาฉันถึงรู้สึกถึงความว่างเปล่า หรือเขาไม่ได้รับตัวฉัน!

    “โอ๊ย” ฉันรู้สึกเจ็บแปร๊ดไปทั้งสะโพกรู้สึกเหมือนมันจะแตกออกมาเป็นชิ้นๆ แต่นั้นมันยังไม่เท่ากับกล้องมากมายถ่ายภาพฉันล้มลงท่าสุดอนาจบนเวทีและไอบ้าชานยอลมันยืนหัวเราะฉันอย่างซะใจ!

    “ทำไมนายไม่ รับ ฉัน !

    “อ้อ ขอโทษทีมันไม่ได้ยิน” ชายยอลเหยียดยิ้มมาให้ฉัน อยากจะลุกขึ้นไปตบหน้าสักสองสามที แต่ร่างกายกลับไม่อำนวย ฉันขยับตัวแทบไม่ได้เลยสักนิดรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว ฉันทำได้เพียงเเต่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างเคียดเเค้น

    “โดนถ่ายภาพให้สนุกนะครับ” ไอบ้านั้นเดินออกไปอย่างไม่รู้สึกอะไร หูฉันแดงเพราะความโกรธ กำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือด ริมฝีปากบางเชียบเป็นเส้นตรง สายตาเเดงกำเคียดเเค้นผู้ชายที่สร้างความอับอายครั้งนี้

    ไอบ้า ชานยอล ฉัน เกลียด แก!

    ณ ปัจจุบัน

    ฉันกำลังก้าวขาเรียวสวยออกจาก สถานที่นี้ให้เร็วที่สุด

    “อ้าวคุณกะจะเบี้ยวงานง่ายๆเหรอ นอกจากจะเป็นลูกไม่รักดีแล้ว ยังมีนิสัยเบี้ยวงานซะด้วย “ ไอบ้าน่ารำคาญอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย

    “ขอโทษนะ นายไปหาคนอื่นไปเดินละกัน พอดีฉันเกลียดขี้หน้านาย!

    “ฉันก็ไม่ได้ชอบเธอเท่าไร่ หรอกนะ และที่สำคัญฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับเธอด้วย”

    “เรื่องนั้นสินะ”คงไม่พ้นเรื่องแต่งงานสินะ - -

    “ยังดีที่เธอสามารถแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก”

    “ฉันไม่ได้โง่หรอกย่ะ!

    “จะถึงเวลาแล้ว เตรียมตัวด้วยละกัน เดี๋ยวจะไม่สวย ^^ “ ชานยอลพูดพร้อมเดินออกไป อ้อจะว่าไป วันนี้ฉันก็เพิ่งคิดแผนดีๆ จะมาเซอร์ไพร์ชานยอลซะหน่อย เขาคงจะชอบไม่เบา แก้แค้นให้มันสาสมกับที่เขาแกล้งฉันเอาไว้!

    “ซูยองเสร็จรึยัง”

    “อ้อเสร็จแล้วๆ”ฉันเดินไปพบกับเจสสิก้า

    “คราวนี้ฉันคงไม่เห็นเธอโชว์ตลกกลางเวทีอีกนะ 5555”

    “เฮ้อ เลิกตอกย้ำซะทีเถอะ” ตั้งแต่วันนั้น เจสสิก้า ก็คอยล้อฉันเรื่องที่ฉันล้มบนเวทีตลอด อย่างกับเธอดูจะชอบมันเอามากๆ

    “พอคนนั้นลงมาเธอขึ้นไปได้เลยนะ”

    “อืม”

    ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ฉันสามารถสะกดคนดูได้อยู่หมัดรวมถึงนักวิจารณ์ก็ดูเหมือนจะถูกใจไม่น้อย ฉันลงเวทีด้วยความภาคภูมิใจ

    “ซูยอง”

    “ห่ะ” ฉันหันไปตามเสียงเรียก

    “เดี๋ยวเธอไปคุยธุระกับฉันหน่อยสิ”

    “อืม”

    ฉันนั่งรถของชานยอลไปที่ร้านอาหารทางฐานะถือว่าดีเลยทีเดียว เขาคงจะดูเพอร์เฟ็ค์เอามากๆ ถ้าเลิกทำตัวเป็นลูกแง่ติดแม่ และมารังแกผู้หญิง ที่สวยสง่าอย่าง ซูยอง!

    ฉันและชานยอลลงมาจากรถและได้ยินเสียงกรี๊ดกระหึ่มซึ่งฉันคาดว่าน่าจะเป็นแฟนคลับของเขาอย่างแน่นอน ฉันเดิน






















































    เเสงเเดดอ่อนๆส่องเข้ามาทางหน้าตานั้นทำให้ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นเเสงเเดงส่องกระทบนัยน์ตาทำให้ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นๆไปมองบนเพดานคิ้วของหญิงสาวถึงกับขวมดเเทบจะทันที ถ้าเธอจำไม่ผิดห้องของเธอเพนดานสีขาวไม่ใช่เหรอ เเล้วทำไมเพดานถึงเป็นสีดำ!

    "นี่มันอะไรกันเนี่ย" ยุนอาขยี้หัวเเละพยุงตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยความยากลำบาก รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวเเถมยังปวดจี๊ดที่หัว ยุนอาพยายามไล่เรียงเรื่องเเต่ในหัวมีเเต่ความว่างเปล่า เธอจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ได้เลยเเม้เเต่นิด�

    "บ้าเอ๊ย!"ยุนอาเปิดผ้าห่มดูร่างกายที่ตอนนี้ใส่เเค่บราเเละกางเกงในเท่านั้น! เธอจัดการหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่เเละยกตัวเองขึ้นจากเตียง

    "เมื่อคืนเธออาจจะเมามากเกินเหตุเลยมาเข้าห้องคนอื่นมั่วซั่ว" ยุนอาพยายามคิดในเเง่ดี เธอคงจะต้องรีบออกไปก่อนที่เจ้าของห้องจะมาเห็น ยุนอาใช้มือข้างนึงกุมหัวที่ตอนนี้รู้สึกปวดจนเเทบจะระเบิดเเละใช้อีกมืออีกข้างในการทรงตัว�

    "อ้าวตื่นเเล้วเหรอครับ ที่รัก" ยุนอาหันหน้าตามเสียงเรียกเธอว่า" ที่รัก" เธอไปเป็นที่รักใครตอนไหน ยุนอาถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน นี่มันเซฮุน เขามาทำอะไรที่นี่???

    "นี่ห้องนายเหรอ" ยุนอามองซ้ายมองขวา รู้สึกอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดในใจรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

    "ใช่ครับ" เซฮุนเหยียดยิ้มที่มุมปากเขาสาวเท้าเข้าใกล้ยุนอามากขึ้นในขณะที่ยุนอาเองก็ถอยหนีเขาเช่นกัน�

    "ถอยหนีผมทำไมละครับ" เซฮุนใช้มือโอบหลังยุนอาเอาไว้ ยุนอาถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เธอก็ไม่รู้จะถอยหนีเขาทำไมเเต่ที่เเน่ๆคือเธอไม่อยากจะอยู่ใกล้เขา!

    "ฉันไม่อยากอยู่ใกล้นาย" ยุนอาบอกด้วยนํ้าเสียงที่เเผ่วเบาพร้อมพลักเซฮุนออก

    "หิ เเล้วทำไมเมื่อวาน . . . . ." เซฮุนลากเสียงยาวพร้อมใช้มือสัมผัสใบหน้ายุนอา นั้นถึงกับทำให้ยุนอารู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว ใบหน้ากลายเป็นสีเเดงกํ่า

    "ฉันขอโทษนะ ฉันต้องไปเเล้ว" ยุนอาปัดมือเซฮุนออก เเละกำลังเดินออกจากห้อง

    "ถ้าเธอเดินออกไปจากห้องนี้ เธอจะต้องเสียใจ"ยุนอาถึงกับหยุดนิ่ง�

    "เสียใจยังไง" จิตใจเริ่มปั่นปวน เหงื่อเริ่มออกอย่างไม่มีสาเหตุ�

    เซฮุนเข้ามายื่นโทรศัพท์ให้ ภาพที่เธอนอนบนเตียงเผยร่องอกเเละหุ่นเพรียมบางเเละยังมีภาพที่เซฮุนเข้ามานัวเนีย ภาพเหล่านี้ทำให้ยุนอาหน้าชาเหมือนมีใครมาตบหน้ามันช่างน่าอับอายจนเธอเเทบอยากเอาหน้ามุดดิน �ถ้าคนอื่นมาเห็นขึ้นมาจะเป็นยังไง คนอื่นก็คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างว่า ความคิดต่างๆนาผุดขึ้นมาในหัว มันทำให้เธอกลัว กลัวถึงขั่วหัวใจ

    "นายจะให้ฉันทำยังไง" จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เรื่องนี้จะกลายเป็นความลับไปตลอดกาล!

    "มานั่งก่อนสิครับ" เซฮุนพูดพร้อมใช้มือโอบเอวยุนอาอย่างถือวิสาสะ�
    ยุนอาถึงกับตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้� ตอนนี้เธอเหมือนนกที่ติดอยู่ในกรงไม่มีผิด

    “นายต้องการอะไร” ยุนอาพยายามรักษาระยะห่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอไม่เคยคิดว่า รุ่นน้องที่น่ารัก ใส่ซื่อจะกลายเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้�

    "ผมก็เเค่ต้องการให้นูน่าทำตามที่ผมสั่งทุกอย่างก็เท่านั้นเอง ^^" เซฮุนพูดพร้อมส่งยิ้มมาให้�

    "ทุกอย่างในความหมายของนายหมายความว่าอะไร" ผู้หญิงอย่างเธอไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร มันคงจะไม่ใช่ให้มาถูก บ้าน กวาดพื้น ทำการบ้านให้อะไรเถือกนั้นเเน่นอน�

    "นูน่าก็รู้เเล้วจะถามผมทำไมละครับ"เซฮุนหัวเราะออกมาก่อนที่หน้าของเขาจะสงบนิ่งเหลือเพียงรอยยิ้มมุมปาก ยุนอากำมือจนเห็นเส้นเลือดพยายามระงับอารมณ์ความโกรธที่ตอนนี้เเทบจะระเบิดออกมา

    "นายมันเลว"

    "อย่างน้อยคนเลวๆอย่างผมก็ทำให้นูน่ามีความสุขทั้งคืนก็เเล้วกัน"�

    "เเล้ววันนี้นายจะให้ฉันทำอะไร" ตอนนี้เธอถึงรู้สึกรังเกียจเด็กหนุ่มนี่เข้าใส้ไม่อยากจะทำเเม้กระทั้งสบตา คนที่คิดว่าดีสุดท้ายกลับร้ายที่สุดถ้าไม่เจอกับตัวเธอคงไม่รู้เลยว่ามันเป็นยังไง�

    "ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าซะด้วยสิ เอาเป็นว่าถ้าคิดออกเเล้วจะพูดละกัน" เซฮุนพูดพร้อมส่งยิ้มหวานพราวเสนห์มาให้�

    "งั้นถ้านายมีอะไรก็โทรเรียกฉันละกัน" ยุนอาหยิบเศษกระดาษเเละเขียนเบอรโทรลงไป ในใจเธออยากจะออกจากห้องนี้เป็นบ้า�

    "จำที่ผมบอกไม่ได้เหรอครับว่านูน่าต้องทำตามคำสั่งผม ทุกอย่าง งั้นคำสั่งเเรกนูน่าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าผมจะบอกให้ออก"�

    "อืม" �หญิงสาวนั่งนิ่ง สายตาทอดมองออกไปทางหน้าต่าง มันคงเป็นทางเดียวที่ทำให้เธอหนีออกจากเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้

    สายตาของเซฮุนนั่งมองมองยุนอาอย่างไม่ละสายตา ดวงตาคู่นี้ทำให้เขาหลงไหลเธอเข้าอย่างจัง ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปที่กำลังเผยออกน้อยๆ มันชักทำให้เขาอยากครอบครองริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าเสียเเล้วสิ

    เซฮุนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ยุนอาที่ยงคงมองหน้าต่างออกไปเซฮุนประคองหน้าเรียวสวยก่อนที่จะประทับริมฝีปากลงเบาๆก่อนที่จะเริ่มนักหน่วงขึ้น ลิ้นสากเข้าไปตักตวงความหวานละมุนในโพรงปาก จะว่าไปเขาเองก็ชักจะติดใจสาวน้อยคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เซฮุนโอบตัวยุนอาเอาเพื่อไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน

    "อ๋อยอั๊น" ยุนอาพยายามพลักเซฮุนที่กำลังครอบครองริมฝีปากได้รูปของเธอ เเต่ดูเหมือนจะไร้ผลเซฮุนยังคงจูบเธออยู่อย่างนั้น เเถมยังโอบเธอเเน่นขึ้น �จนกระทั้งยุนอาจำนนเเละเคลิ้มตามจูบของชายหนุ่ม มันทั้งนุ่มนวน เเละร้อนเเรงในเวลาเดียวกัน

    "อื่อ" �เซฮุนค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาเเละมองยุนอาที่หอบออกมาน้อยๆ เธอรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัว

    "ตั้งเเต่วินาทีนูน่าเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นนะครับ ^^"�


    yoona talk�

    "ตั้งเเต่วินาทีนี้ไปนูน่าเป็นของผมคนเดียวนะครับ^^" ถ้าเมื่อคืนฉันไม่ตกหลุมพรางเขา ฉันคงไม่ต้องมาเป็นของเขาเเบบนี้หรอก! �ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่ไปไว้ใจซาตานอย่างเขา!

    “ไปกินข้าวกัน”

    “ฉันไม่หิว” ฉันพูดพร้อมสะบัดหน้าไปทางอื่น

    “แต่ผมหิว = =” เซฮุนพูดพร้อมจับมือฉันไปกินข้าวในที่ๆมีคนพลุกพล่าน �ความดังของเขาก็ถือว่าดังพอตัว คนมองเขามากเลยทีเดียว นั่นมันทำให้ฉันต้องคอยเอาผมปิดหน้าพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รู้สึกอึดอัดเป็นบ้า

    “อย่าทำแบบนี้ได้ไหมเนี่ย” เซฮุนพูดพร้อมทำหน้าเบื่อมาให้ฉันจึงค่อยๆจัดผม ให้ดูเหมือนคนปกติ

    “รับอะไรดีค่ะ” พนักงานหญิงยิ้มหวานพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้เซฮุน

    “เออ ขออันนี้ครับ”� เซฮุนชี้ไปที่เมนู และส่งยิ้มให้นั้นถึงกับทำให้พนักงานสาวอายจนตัวม้วนเลยทีเดียว

    “เออ ขออันนี้ด้วยค่ะ” ฉันพูดและชี้เมนูที่ฉันต้องการ จะว่าไปตอนนี้ฉันก็เริ่มหิวซะแล้วสิ ท้องของฉันรู้สึกปั่นป่วนไปหมด

    “กรุณาบอกชื่อ เมนู ด้วย นะ� ค่ะ!” พนักงานสาวพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างและจิกตาใส่ฉัน จนทำให้ฉันรู้สึกหน้าเสียอย่างบอกไม่ถูก อยากจะเอาตัวแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

    “เธอเอาแบบเดียวกับผมครับ”

    “อ้อได้เลยค่ะ ^^”พนักงานกลับมาพูดเสียงหวานอีกครั้ง คนละระดับ ราวฟ้ากับเหว

    “ได้แล้วค่ะ” เธอเดินมาพร้อมกับวางจานสปาเก็ตตี้สุดหรูวางอยู่ตรงหน้า ฉันกลืนน้ำลายอย่างห้ามไม่ได้ ทั้งหน้าตาและสีสันชวนรับประทานบวกกับกลิ่นหอมเตะจมูกมันยิ่งทำให้ฉันอยากจะเขมือบมันเข้าไปทั้งจาน

    “เชิญทานให้อร่อยนะค่ะ” พนักงานสาวพูดและส่งยิ้มให้เซฮุนพร้อมส่งสายตาเคียดแค้นให้ฉัน และเดินออกไป บอกตามตรงฉันรู้สึกดีที่พนักงานสาวเดินออกไปเสียที ถึงเธอจะคอยส่งสายตามาให้เซฮุนก็เถอะ

    “นายนี่ผู้หญิงชอบเยอะนะ”

    “ก็คนมันหล่อ”

    “หึ หลงตัวเอง” ฉันพูดมันออกมันเบาๆ คนบ้าอะไรพูดได้ไม่อายปาก

    “ก็มันเป็นเรื่องจริง” เขาพูดพร้อมยิ้มออกมา ท่าทางหยิ่งยโสและใบหน้าที่ดูมั้นใจในตัวเองจนน่าหมั่นใส้ มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยมี ฉันรู้สึกอิจฉาเขาอิจฉาในสิ่งเหล่านี้ �สิ่งที่ฉันอยากจะมีมันบ้าง

    “เหม่อมากระวังสปาเก๊ตตี้จะเย็นซะก่อนนะ”

    “อ้อ อืม” ฉันก้มหน้าก้มตากินสปาเก๊ตตี้ จนหมด

    “เธอยืนรอฉันหน้าร้านเลยเดี๋ยวฉันจ่ายตังค์ก่อน”

    “อะ อืม” ฉันเดินไปยืนรอเซฮุนหน้าร้าน จนกระทั้งเขาจ่ายตังค์เสร็จ

    “อยากกินอะไรอีกไหม”

    “แล้วแต่นาย”

    “ไปกินเค้กกัน” เขาพูดพร้อมลากฉันไปกินเค้กโดยที่ฉันเองก็ไม่ได้เต็มใจเลยซักนิด อย่างที่รู้ เซฮุนถือไพ่เหนือกว่า!

    “ขอเค้กช็อกโกแลตที่นึงครับ” เซฮุนไปนั่งที่นั่งริมสุดที่เป็นที่นั่งสำหรับสองคนเก้าอี้สีชมพูหวานแหววดูน่ารัก น่าจะเป็นที่สำหรับคู่รักสินะ ฉันสังเกตคู่รักที่นั่งอยู่ในบริเวณนี้ ตักเค้กป้อนให้กัน กอด จูบ นั้นมันถึงทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นมาทันที

    “ที่หน้าแดงนี่อยากโดนรึเปล่า” เซฮุรพูดพร้อมส่งยิ้มกวนประสาทมาให้

    “บ้า!” ฉันพูดและไปนั่ง พร้อมหลบหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงไปเรียบร้อย

    “มาแล้วค่ะ เชิญทานให้อร่อยนะค่ะ” พนักงานพูดและเดินออกไป ฉันมองถาดเค้กที่ว่งอยู่บนโต็ะความจริงมันควรมีสองอันไม่ใช่เหรอ?

    “นายสั่งมาอันเดียวเหรอ”

    “ใช่ ฉันกลัวกินไม่หมด”

    “อ้อ” ฉันพูดเเละตักเค้กเข้าปาก เราสองคนมั่วแต่มองคู่รักคู่อื่น มันช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน โลกของเขาคงมีเเต่สีชมพู อิจฉาจัง

    “นี่เค้กเปื้อนนะ” เซฮุนพูดพร้อมชี้มาที่ปากของฉัน คงจะทำเหมือนพระเอกในซีรีย์สินะ หวังไปซะเถอะ ฉันไม่หลงกลนายหรอก!

    “ถ้านายคิดจะเอามาเช็ดปากให้นะฝันไปเถอะ”

    “เหอะ อย่างนั้นนะ มันเชยไปแล้วละ” เซฮุนพูดพร้อมเอาหน้าเข้ามาใกล้และใช้ลิ้นเลียเศษเค้กที่ติดอยู่มุมปากของฉัน

    “นี่นาย 0/////0” ฉันพลักเซฮุนออก �รู้สึกหน้าของฉันแดงแปร๊ดอย่างรวดเร็ว ทำอะไรไม่ถูกมือไม้สั่นไปหมด

    “เอ๊ะ รู้สึกว่าเค้กที่ติดอยู่ที่ปากเธอมันหวานเป็นพิเศษนะ” เซฮุนพูดพร้อมยิ้มมุมปาก

    “ย่าห์!” ฉันตะโกนขึ้น ทั้งโกรธทั้งอาย เเต่ดูท่าทางเซฮุนจะไม่กลัวกับสิ่งที่ฉันพูดเเม้เเต่น้อย�

    “เอ๊ะเศษเค้กยังติดอีกข้างนึงนิอยู่เฉยๆนะเดี๋ยวเอาออกให้” เซฮุนพูเเเละกำลังเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีกรอบ

    “อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!"�ฉันพูดเเละเอามือปิดปากไว้ เซฮุนยิ้มก่อนที่จะมาจูบแก้มฉัน สัมผัสอุ่นๆจากริมฝีปากนุ่มของเขาทำให้ฉันหัวใจเต้นรัว หน้าของฉันรู้สึกร้อนราวกับถูกแดดแผดเผา

    “นูน่าน่ารักจังเลย ^^

    ใครก็ได้ช่วยฉันพาฉันออกจากเซฮุนผู้ร้ายกาจคนนี้ที TT TT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×