ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rule Of Blood : สงครามคนวิปลาส

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 - จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 58


















    "ความกลัวคือจุดอ่อนของมนุษย์... แต่ก็เปรียบเสมือนโล่คุ้มกันเช่นกัน"

    __________________________________________________
    Chapter 1

    Beginning

    จุดเริ่มต้น


     

                หญิงสาวที่กำลังจับแขนฉันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย หล่อนกำลังมองหน้าฉัน แต่ฉันมองเห็นเธอไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เธอจับมือฉันเดินไปเรื่อยๆ ผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวขจีที่โบกไปมาตามแรงลมราวกับว่ามันกำลังเต้นระบำอยู่ยังไงอย่างงั้น เสียงเธอเรียกชื่อฉันก้องกังวานไปในหู

              แองจีล่า

              แองจีล่า

              แองจีล่า...

              ฉันสะดุ้งขึ้นมาพร้อมกับความมืด นี่ฉันอยู่ที่ไหน จำได้ว่าก่อนที่จะสลบไป ฉันอยู่บนรถไฟฟ้าใต้ดิน ฉันตายไปแล้วเหรอ ฉันลองหยิกแขนตัวเองแรงๆ ครั้งหนึ่งปรากฏว่ารู้สึกเจ็บ

              ยังไม่ตาย และ ไม่ได้ฝัน

                ในความมืดมิดมีเพียงควันขาวออกจากปากฉัน ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต แสงสว่างอยู่ด้านหน้าของฉันไปไม่ไกลนัก ฉันพยายามดันตัวเองขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล รู้สึกเจ็บแปลบที่น่องขาแล้วก็ตามตัวด้วย ฉันกำลังจะตายหรือเปล่าในขณะที่ฉันกำลังดันตัวเองไปข้างหน้าเหมือนกับหนอน ก็มีมือปริศนาล็อกตัวฉันไว้จากด้านหลัง แสงสว่างนั้นค่อยๆ ไกลออกไป

                วัตถุแหลมคมบางอย่างทิ่มผ่านเสื้อไหมพรมแขนยาวและหลังจากนั้นสติของฉันก็หลุดลอย

     

                กลุ่มเด็กห้าหกคนกำลังละเลงสีน้ำจากคาบศิลปะอย่างเมามัน ลงไปที่เด็กหญิงคนหนึ่งที่ขดตัวพร้อมกับร้องไห้ หล่อนมีผิวขาวอมชมพูที่บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยสีเหลือง น้ำเงิน และแดง มันมักจะเป็นเช่นนี้มาเสมอ

                นังแม่มด

                นังตัวประหลาด

                แม่มด แม่มด

                เหล่าเด็กนิสัยไม่ดีต่างพากันส่งเสียงร้องด่าเด็กหญิงผู้ไร้ทางสู้พร้อมกับละเลงสีอย่างสนุกสนาน แม้จะเป็นเวลาไม่นานนักแต่มันก็นานพอสำหรับแองจีล่า เด็กหญิงผู้โชคร้าย

                เธอเดินไปที่อ่างล้างมือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาผสมปนเปกับสี จนเปรอะเปื้อนไปหมด เด็กสาวเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงก่อนที่ตัวจะสั่นเทิ้ม หล่อนสะอึกสะอื้นอีกครั้ง

                ทำไมฟ้าต้องเล่นตลกกับเธอเช่นนี้... หล่อนคิดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น และมันก็ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเด็กหญิงปริศนามาปรากฏตรงหน้า หล่อนมีเรือนผมสีบลอนสว่างเรียกได้ว่าแสบตา นัยน์ตาสีเทานั้นจ้องมองมาที่แองจีล่าอย่างเอ็นดู เด็กสาวเอียงคอสงสัยเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้เป็นการทักทาย

                “เธอมักจะโดนแกล้งแบบนี้เสมอเลยเหรอ” ร่างเล็กเอ่ยเสียงใส

                “กะ..ก็ ตลอดเลยล่ะ” แองจีล่ายิ้มพลางล้างสีออกจากเสื้อ

                “แล้วไม่คิดจะทำอะไรพวกนั้นบ้างเลยเหรอ?

                “ไม่รู้สิ... ถึงคิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีละมั้ง อยากจะหนีไปให้พ้นๆ มากกว่า”

                “งั้นเหรอ – เธออยากไปอยู่ในที่ที่ไม่มีพวกเขา ไม่มีคนที่ชอบแกล้ง ไม่มีความทุกข์มั้ยละ”

                “มันมีที่แบบนั้นเหรอ”

                “ฮิฮิ” เสียงหัวเราะชวนขนลุกดังขึ้น จากนั้นปากของเด็กหญิงตรงหน้าก็ค่อยๆ ฉีกออก ราวกับว่าเธอไร้ขากรรไกร

     

                หญิงสาวสะดุ้งขึ้นในความมืด พร้อมกับเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า หล่อนหายใจหอบถี่ ร่างบางพยายามดันตัวขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ตื่นขึ้นจากความฝัน หญิงสาวดันตัวเองขึ้นผิงกำแพงก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็กๆ เผยให้เห็นทัศนียภาพนอกหน้าต่างนั้น หิมะค่อยๆ โรยตัวลงมาจากฟ้าอย่างสงบ

                “ฝันแบบนี้อีกแล้ว” หล่อนอุทารกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและมองออกไปอีกครั้ง

                “มันไม่เหมือนบ้านฉันเลย มันไม่ใช่ –“ หล่อนกุมหัวตัวเอง

                “ฉันจำได้ ว่าฉันนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วก็เจอเหตุการณ์บ้าๆ นั้น”

                “นี่มันบ้าชัดๆ ฉันอยู่ที่ไหน – แม่คะ ช่วยหนูด้วย” แองจีล่าขดตัวลงก่อนที่จะปล่อยโฮออกมา เรือนผมสีบลอนของเธอนั้นดูไม่เป็นระเบียบตอนนี้มันยุ่งเหยิงเหมือนกับความคิดของเธอ ที่มันเต็มไปด้วยความสับสนและความกลัว

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

                เสียงเคาะประตูดังขึ้น แองจีล่าเงียบไปสักครู่ ก่อนที่จะเช็ดน้ำตาออก ร่างบางเดินไปที่ประตูที่ยังคงถูกเคาะอยู่ หล่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ แสงไฟจากทางเดินสาดเข้ามาในห้องมืด หญิงสาวเรือนผมสีดำสนิทพร้อมกับนัยน์ตาสีประหลาดยิ้มให้หล่อน

                “สวัสดีค่ะ คุณวิลสัน ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แห่งราชินีไดอาน่า ได้โปรดตามดิชั้นมา” หญิงสาวท่าทางประหลาดฉีกยิ้มก่อนที่จะผายมือ

                “ทำไมฉันต้องไปกับเธอ – และทำไม..”

                “ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถามคุณวิลสัน คุณไม่ได้รับอนุญาตให้พูด!!” ยังไม่ทันจะพูดจบ หญิงสาวปริศนาก็สวนทันควัน

                “ตามมาเถอะค่ะ” หญิงสาวจำเป็นจะต้องตามไปแต่โดยดี โดยไม่รู้ว่าชีวิตของหล่อนกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

               

               

    20 %   

     

    เอ่ออ คือ... ไรต์เตอร์กลัวมันเงียบอ่ะครับ ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อย จริงๆ (หัวเราะ)
    เลยกลัวว่าจะร้างไปเลยเอาที่เขียนไว้มาอัพ ยุ่งเรื่องขึ้นทะเบียนแล้วก็ยืมเงินน่ะครับ
    ยังไงซะ ก็จะมาอัพให้อ่านต่อตลอดนะครับ รอกันหน่อยนะ อาจจะช้าๆ T T แต่ไม่ทิ้งแน่นอนครับ


     

    __________________________________________________


     


     

    TF:)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×