คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฟิคยังตอนที่สอง
2
ตอนมาหน้าบูดยังไง ตอนกลับก็หน้าบูดอย่างนั้น
ไม่ใช่ใครครับ ไอเด็กถ่านนั่นแหละ
ส่วนสาเหตุหรอ อ่อๆ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่วันนี้ ที่นั่งเบาะหลังรถที่เคยเป็นของมันกลับต้องแบ่งปันไปให้เจ้าตุ๊กตาโปโปโระตัวใหญ่ตูดบานๆ ของขวัญเนื่องในวันอะไรซักอย่างที่ซูโฮเอามันมาให้เมื่อตอนเย็น ก่อนผมจะขึ้นรถมานี่เอง แอบเห็นใบหน้าขาวๆของซูโฮมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด คงไปต่อยกะจือเทา น้องเคนมาสิท่า ศึกครั้งนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครชนะ
และเพราะความตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มของเจ้าโปโปโระผมก็เลยไล่จงอินไปนั่งหน้ารถคู่กับพี่คริส ส่วนผม ก็นอนตีลังกาหนุนขาโปโปโร๊ะอยู่เบาะหลังสบายใจ
วันนี้พี่คริสมารับครับ
แฮ่ๆ ไหนๆก็มาแล้ว แถมยังแต่งตัวหล่อเจิดประหนึ่งหลุดมาจากนิตยาสารแฟชั่น ผมก็เลยไม่ลืมที่จะพาพี่คริสเดินเล่นรอบโรงเรียนสักสองรอบ อวดเพื่อน ‘นี่ๆ พี่ชายข้างบ้านกูเอง หล่อมั้ย’ ประมาณนี้ และมันก็ทำให้สาวๆหลายคนอิจฉาผมไปเลยทีเดียว
แต่เสียใจ พี่คริสมีแฟนแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ถามว่ารู้ได้ไงอ่ะหรอ …อย่าดังไปนะ ตอนพี่คริสมาทานข้าวเย็นที่บ้านอ่ะ แล้วพี่คริสวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะรับแขก ไอ่เราก็เห็นว่ามันสวยดี เลยหยิบมาเซลก้ากะอิดำสักสองสามรูป พอเปิดดูรูปข้างในเท่านั้นแหละ อื้อหือออ….รูปคู่เพียบเลย รูปคู่ของพี่คริสกะใครซักคนซึ่งผมไม่รู้จักอ่ะ ในรูปมันก็เป็นภาษาจีนด้วย คยองซูอ่านไม่ออก ( ‘ ‘)
“ไม่ต้องทำหน้าเคลิ้มขนาดนั้นก็ได้นะพี่” ขนาดนั่งอยู่ข้างหน้า มันยังไม่เลิกแขวะผม
“เรื่องของกู นี่หน้ากู แน่ะๆ อยากได้ตุ๊กตาล่ะสิ กิ้วๆ” ผมยกแขนเจ้าโปโปโระไปเกาๆหน้ามัน
“อะไร -*- ก็แค่ตุ๊กตาปัญญาอ่อน”
“กูให้เอาป่ะ”
“เอา”
“เชี่ย” ไม่ลืม โน้มตัวไปเบิ๊ดกะโหลกมันอีกสักที โทษฐานหมั่นไส้
“พี่อ่ะ เจ็บนะ T_T”
“ยิ่งโตยิ่งตอแหลแล้วมึงอ่ะ”
“เอาล่ะ พอๆๆ” พี่คริสที่นั่งเงียบตั้งแต่ขับรถออกมาจากหน้าโรงเรียนห้ามขึ้น ซึ่งผมก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี พี่เขาขับรถ ต้องการสมาธิ
“พี่มีเรื่องจะถามเราล่ะคยองซู” พี่คริสพูดทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาออกจากถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาตรงหน้า
“หืม ถามไรครับ ว่ามา”
“คนที่นั่งข้างๆเราตอนที่พี่ไปรับนั่นใครหรอ”
เห? นั่งข้างเราตอนที่พี่ไปรับ? จะมีใครวะตอนที่พี่คริสไปรับก็มีแค่ ผม จงอิน แล้วก็….
“…น้องแบค”
“อ่าๆ ชื่อแบคหรอ ฮ่าๆ”
แค่พี่คริสหลุดหัวเราะออกมาเท่านั้นแหละครับ ผมกับไอ้จงอินหันมามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ
“พี่คริสถามทำไมหรอ”
“ปล่าว เห็นว่าน่ารักดี” แววตาพี่คริสดูหวานฉ่ำมาก “แล้วมีแฟนยัง?”
“เห? ผมหรอ ยังไม่มีครับ มีแต่กิ๊ก”
“ไม่ใช่สิ หมายถึงน้องแบค” ทั้งๆที่พยายามเลี่ยง แต่เหมือนพี่คริสจะยิ่งตื้อในคำตอบ ผมรู้ว่าพี่คริสมีแฟนแล้ว แต่พี่คริส กำลังทำเหมือน จะจีบแบคฮยอนอย่างนั้นแหละ
“มันมีคนที่ชอบแล้ว” อันนี้จงอินตอบแทน เพราะเห็นว่าผมเงียบไป
“ก็แสดงว่ายังไม่มีแฟนหรอ อ่า…ติดต่อให้พี่หน่อย”
เหมือนที่ผมคิดไว้เลย พี่คริสจะจีบแบคฮยอน!
“คงไม่ได้หรอกครับ มันมีคนที่ชอบแล้ว สายตาของมันคงมองใครไม่ได้แล้วล่ะครับ”
“หรอ แย่จัง” พี่คริสหน้าเศร้าลงเล็กน้อง
“งั้นผมขอถามพี่คริสบ้าง” ไอเด็กถ่านพูดขึ้น “คนที่ถ่ายรูปคู่กับพี่คริสในโทรศัพท์นั่นใครหรอครับ”
แหม่ะ นับว่าน้องชายผมนี่ฉลาดอยู่พอสมควร ผมรู้ว่ามันไม่ได้อยากรู้ว่าคนในโทรศัพท์พี่คริสเป็นใครหรอก ผมว่ามันถาม เพราะต้องการย้ำสถานะของพี่คริสให้ชัดๆว่าพี่เขาน่ะ ไม่ได้โสดแล้วนะ
“อี้ชิง แฟนพี่เอง”
และพี่คริสก็เป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่เลี่ยงสถานะของตัวเอง แต่โคตรหน้าด้านเลย พี่ก็พี่เถอะ! ไม่คิดเลยว่าการที่พี่เขาไปเรียนเมืองนอกมาได้แค่ปีเดียว กลับมาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้ เจ้าชู้ชิบหาย
“มีแฟนแล้ว แต่ก็จะจีบแบคฮยอนเนี่ยนะ” ผมพโน้มตัวไปข้างๆเบาะคนขับ แล้วก็เหลือกตาโตๆแบบทะเล้นๆใส่พี่คริส
“อือ ไมล่ะ ยังไงอี้ชิงก็ไม่รู้หรอก อยู่ตั้งไกล”
“เลวชิบ” อันนี้ผมพูดเบาๆ พี่คริสคงไม่ได้ยิน
“พี่เชิญจีบเองตามสบายเถอะ แต่บอกเลย ผมกับจงอินไม่สนับสนุนนะ ผมเชียร์เพื่อนผม”
ชานแบคไฟต์ติ้ง!! *ชูป้ายไฟ*
“อ้าว แต่ไม่เป็นไรครับ อย่ากีดกันพี่ก็พอ J” พี่คริสยิ้มโชว์เงิงอีกครั้ง เหอะๆ เน็ตไอดอลจอมหยิ่ง แน่วแน่แค่ชานยอลอย่างน้องแบค กับภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ที่พี่คริสจะอยู่โซล เอาไส้ติ่งเป็นประกันเลยว่า จีบไม่ติดหรอก!!!
23.02 PM
ก็อกๆๆ
ก็อกๆๆๆๆๆ
ปังๆๆๆ
“โว้ยยยย ไอเชี่ยย รู้แล้ว ….ห้าทุ่ม!! เคาะหาพร่องหรอ!!” ผมเหวี่ยงแฮดโฟนอันใหญ่เบ้งไว้ที่โต๊ะก่อนจะลุกไปกระชากประตูด้วยอาการหงุดหงิด จินตนาการว่าลูกบิดประตูเป็นหัวไอ้คนที่เคาะอยู่
ที่ตะโกนด่าออกไป เพราะรู้อยู่แล้วว่าคงไม่ใช่ป๊าหรือมี้หรอก ท่านไปงานเลี้ยงการกุศลกัน กว่าจะกลับก็โน่นแหละ เกือบๆตีสอง
แกรกกก
ทันทีที่เปิดประตู อะไรบางอย่างนุ่มนิ่มๆก็มาปะทะเข้ากับหน้าผมไว้พอดี
“มาขออาศัยห้องด้วยดิ”
“อะไรมึง” ผมพูดพลางก้มเก็บหมอนที่มันปามาใส่หน้าผมเมื่อกี้ เด็กเชี่ย ยิ่งง่วงๆอยู่
“แล้วที่อยู่ตรงข้ามห้องกูนี่รูหนูหรอสัส” ผมชี้ออกไปที่ประตูตรงข้ามห้องตัวเอง ป้ายใหญ่ๆที่เขียนแปะไว้ว่า ‘ห้องน้องอินนี่จ้า’ เด่นหรามาก แม้จะเป็นตอนกลางคืนก็ตาม
“จะดูบอล”
“ก็ไปดูที่ห้องตัวเอ….เฮ้!! กูยังไม่ได้บอกให้มึงเขามาในห้องเลยนะ ไส หัว ออก ไป!” ผมพูดพร้อมกับเดินไปจิกหัวอิดำที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“งืมมมมม คืนเดียวเอง โทรทัศน์ที่ห้องเป็นไรไม่รู้ ติดๆดับๆ”
“ห้องรับแขกข้างล่างจอใหญ่เท่าหนังกลางแปลง นิมนต์เลยครับ กูจะทำการบ้าน” ผมผายมืออกไปที่ประตูหน้าห้อง แต่เหมือนเด็กถ่านตรงหน้าจะไม่สนใจแล้ว มันคว้ารีโมทได้ ก็นั่งจุมปุกอยู่ปลายเตียงทันที ตีนยาวๆก็พาดไปที่ตุ๊กตาโปโปโระที่ผมเพิ่งได้มาเมื่อตอนเย็นด้วย
“ไม่คิดว่าพี่จะมีการบ้าน”
เออ! กูก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีเหมือนกันแหละ แหม่ ก็สอบฟิสิกส์เมื่อตอนบ่าย ได้คะแนนติดลบหกจุดห้าคะแนน เพราะทำไม่ได้ซักข้อและเขียนเพลงลอยกระทงลงไปในกระดาษคำตอบ แง… อาจารย์เลยให้โจทย์มานั่งคัดข้อละสิบจบเนี่ย ทั้งหมดยี่สิบข้อ กูตายยยยยยย
“งานเร่งด่วนส่งพรุ่งนี้เช้า จะดูก็ดูไป อย่ากวนกูละกัน”
ในเมื่อไล่ไม่ไป ก็คงทำได้แค่ปรามให้มันอยู่เงียบๆ ส่วนผม ก็กลับมานั่งประจำที่ คว้าปากกาขึ้นมาคัดต่อ
ครืดดดดดดดดด
คัดต่อไปได้ไม่เท่าไร ไอโฟนบนโต๊ะก็สั่นขึ้น น้องยองมินไลน์มาแหละ ><
‘อยากจะบอกคิดถึงเธอสุดหัวใจ อยากจะให้คำว่ารักสักพันครั้ง
อยากเข้าไปนั่งในใจเธอจัง ขอสักครั้งคำว่ารักจากปากเธอ’
เหอะๆ แม่ง เด็กใครวะ เสี่ยวชิบ แต่เขินนนน >< แอร้
ว่าแล้วก็หยิบไอโฟนขึ้นมาต่อสายถึงเจ้าของข้อความเมื่อกี้ทันที รอได้ไม่นาน เสียงนุ่มๆก็ฮัลโหลกลับมา
“ฮัลโหลครับ นึกว่าพี่จะนอนแล้วซะอีก”
“โอยย พี่ยังนอนไม่ได้หรอก ถ้าไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์ยองมิน” ว่าเขาเสี่ยว กูก็เสี่ยวเหมือนกัน T_T แอร้! คุยกับเด็กแค่นี้ ทำไมเราต้องบิดตัวไปมาด้วย ไม่เข้าใจเลย -//////-
“อ่า เขินนน พี่รีบนอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปโรงเรียนแต่เช้า “
“อืม ยองมินก็เหมือนกันนะ รีบนอน ดื่มนมก่อนนอนด้วยล่ะ จะได้สูงๆ อิอิ”
“ครับๆ คิดถึงนะ เพิ่งแยกจากกันเมื่อเจ็ดชั่วโมงที่แล้วแท้ๆเลย ตอนนี้อยากเจอหน้าหวานๆของพี่อีกแล้ว” ยิ้มแก้มจะแตกละ เด็กมันน่ารัก ><
“คิดถึงเหมื… / พี่ทำไมต้องพูดเสียงดังด้วย ผมดูบอลอยู่นะ!” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค ไอเด็กถ่านนี่ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน และเหมือนจะจงใจพูดเสียงดัง ให้ปลายสายได้ยินด้วยแหละ
เพราะงั้น ผมเลยอดไม่ได้ที่จะส่งลูกตีนน้อยๆไปสะกิดหลังมันเบาๆ
โครมมมม
เบาไปว่ะ แม่งตกเตียงเลย
“พี่อ้ะ!!”
‘สัส เงียบไป’
ผมทำปากงุบงิบๆให้มันอ่าน จากนั้นก็หันมาคุยโทรศัพท์กับน้องยองมินต่อ ไม่วายย ได้ยินเสียงถอนหายใจฟิดฟัด
“คืนนี้พี่นอนกับจงอินหรอ?”
“ป่าว มันมาดูบอลเฉยๆ เดี๋ยวพี่ก็ไล่มันกลับแล้ว”
“อ่อ ครับๆ แต่ถ้ามันได้นอนห้องพี่จริงๆ อย่าให้มันกอดพี่นะ ผมหวง”
“เออ รู้แล้วน่า” ปากก็บอกไปงั้นแหละ เอาจริงๆ ผมกับไอ้จงอินนอนกอดกันมาตั้งแต่เด็กๆละ
“งั้นผม ไม่รบกวนแล้วนะ ฝันดีครับพี่…รักนะ”
ฉ่า -//////- เออ เขินเด็กว่ะ กรี๊ดๆๆๆ
“จะฟ้องแม่” นั่นไง - -+ เอาอีกละ วิญญาญขี้ฟ้องเข้าสิงอิถ่านแบเบาะอีกและ “ผมจะให้แม่ตัดค่าโทรศัพท์พี่ ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังมาจ๊ะจ๋ากันอีก พี่ไม่เป็นเวลาเลย พี่โดนแน่ ฟ้องแน่ แบร่ :P”
“กวนตีน”
เพราะทำอะไรไม่ได้ ผมก็เลยเดินไปคว้ารีโมทมาแล้วกดเปลี่ยนช่องไปซะ ไม่ต้องดู! ถ้าจะฟ้องแม่กูไม่ให้ดู! แบร่:P
“พะ…พี่ ทำอะไรเนี่ย ปะ…เปิดอะไร” มัวแต่ยืนแลบลิ้นปลิ้นตาส่ายตูดดุ๊กดิ๊กเยาะเย้ยมันอยู่ได้ไม่เท่าไร ผมก็เหมือนจะเห็นถึงความผิดปกติบางอย่างบนใบหน้าดำๆ แต่ถูกทาด้วยแป้งฝุ่นจนมันขาววอกนั่น
อิถ่านกำลังหน้าแดง แดงแบบ…แดงยิ่งกว่ามะเขือเทศอ่ะ ดวงตาก็ยังไม่ละออกจากหน้าจอโทรทัศน์ เพราะงั้น ผมก็เลยโยนรีโมทลงบนเตียงแล้วหันกลับไปมองบ้าง
“ด๊วบบบ”
“เอ่อ…”
“พะ…พี่เปิด ช่องนี้…พี่ -/////-“
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อิเชี่ยยยย ช่องห่าไรแว้ ตัวละครดูดกันด๊วบๆปานจะกลืนกินอยู่นั่นอ่ะ กรี๊ดดดดดดดดด คยองรับไม่ได้ ><
สุดท้าย ไอถ่านแบเบาะที่ดูเหมือนจะรวบรวมสติได้ ก็รีบเอื้อมมือไปคว้ารีโมทมากดเปลี่ยนช่องทันที ท่ามกลางความตะลึงของผม ใบหน้าดำๆนั่นยังคงมีสีแดงเจืออยู่เรื่อๆ
กริบ
เงียบครับ เงียบ ไปต่อไม่ถูกเลยกู
“กะ…กูไปทำงานต่อละ” ว่าจบ ผมก็หันหลังเดินมานั่งจุ้มปุกอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือเลย ภาพคนจูบกันนัวเนียเมื่อกี้ยังคงลอยมาเข้าหัวผมเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นฉากหนึ่งในหนังเรื่องไหนเหมือนกัน แต่…เอ้อ ช่างแม่งเหอะ
ตื๊ดๆๆๆๆๆๆ
เสียงนาฬากาปลุกที่ผมตั้งไว้ในตอนเช้า ดังขึ้นรัวๆ รู้สึกเหมือนไม่อยากจะตื่นเลย ขอนอนต่อหน่อยละกัน อยากดังก็ดังไป ช่างแม่งเหอะ
“เวลานี้ พี่ควรจะตื่นไปปลุกผมได้แล้ว ไม่ใช่ให้ผมมายืนปลุกพี่อยู่ตรงนี้”
งืมมม เสียงใครวะ
“และพี่ก็ควรจะลืมตาขึ้นได้แล้ว”
ใช่เลย เสียงนี้!
พรวดดดด
“ไอเชี่ยถ่าน” ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากที่นอน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมานอนอยู่บนเตียงตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ ตอนนี้ ไอจงอินมันมายืนอยู่ตรงหน้าผม และแต่งกายด้วยยูนิฟอร์มของโรงเรียนเรียบร้อยในขณะที่ผม…
ชุดนอนลายเซเลอร์มูนกุ๊กกิ๊ก
“มึงเข้ามาได้ไง เมื่อคืนมึงนอนนี่หรอ”
“อือ”
“จำได้ว่าเมื่อคืนก็นั่งคัดฟิสิกส์อยู่ แล้วก็….เฮ้ยยยยย O_O ชิบหายละ” ผมตาเหลือกตาโปนออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นก็ลนลานลุกขึ้นจากที่นอน ตรงไปที่โต๊ะทำการบ้านทันที
ฟิสิกส์ยังคัดไม่เสร็จ….
ฟึบบบ
“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว” ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ถูกโยนลงมาพาดบ่าผม แต่นั่นก็ไม่น่าตกใจเท่ากับ การบ้านคัดข้อสอบสองร้อยข้อถูกคัดเสร็จหมดแล้ว ด้วยลายมือที่ไม่ค่อยเหมือนผมเท่าไร แต่ก็พยายามบรรจงให้เหมือน
“มึงทำหรอ” อา…อะเมซิ่ง
“ครับ” มันพยักหน้าลงเบาๆ “ผมได้นอนไปสองชั่วโมงเอง เพราะฉะนั้น พี่ต้องมีรางวัลให้ผมนะ”
“รางวัลอะไร กูได้ขอให้มึงทำป่ะ นี่ถามเลย” ผมพูดพลางยัดสมุดลงในกระเป๋านักเรียน
“เอ้า ทำไมพี่พูดแบบนี้อ่ะ งั้นลงไปฟ้องแม่ดีกว่า ว่าเมื่อวานพี่…” มันทำท่าจะเดินหันหลังลงไปฟ้องแม่จริงๆ ผมเลยเข้าไปคว้าแขนมันไว้ก่อน
เย้ยยยยย
ผมกระโดดดึ๋งเดียวก็มาหยุดอยู่ตรงหน้ามันแล้วถาม
“มึงจะเอาอะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เดี๋ยวกูหามาให้” ลำบากชิบเลย นี่ผมยังไม่ได้แปรงฟันนะ เวลาจะพูดไรต้องบีบๆปากนิดนึงไม่ให้กลิ่นมันออกเยอะ อาย -//-
หวังว่ามันคงจะไม่กวนตีนผมแบบ อยากกางเกงในจัสตินบีเบออร์ หรืออยากได้เบอร์โทรซีวอนซูเปอร์จูเนียร์อะไรเทือกนี้หรอกนะ
แต่มันไม่ตอบครับ ตาคมๆก็เหลือบมองไปที่เตียงผมเป็นระยะๆ หรือว่ามันอยากได้เตียงวะ
แต่ไม่น่าใช่นะ…เตียงคิงไซด์ของมันหรูหราไฮโซกว่าผมตั้งเยอะ เตียงเดียวแม่งบรรจุคนได้ทั้งเชียงใหม่อ่ะ อิเหี้ยย
หรือว่า…
“มึงอยากได้โปโปโระหรอ…” ไอ้ตัวเขียวๆที่นอนโก่งตูดอยู่บนเตียงทำให้มึงอยากได้จนอดหลับอดนอนคัดการบ้านแทนกูเชีวเรอะ!
ไม่ตอบอีกเหมือนเดิม เด็กตรงหน้าได้แต่ยืนเอานิ้วจิ้มๆกันไปมาแลเหมือนคนปัญญาอ่อน แล้วอมยิ้ม
“เอาไปดิ” ผมเดินไปหยิบตุ๊กตาโปโปโระมาส่งให้มัน ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึปล่าว ที่แอบเห็นรอยยิ้มชั่วรายจากใบหน้าดำๆของมันด้วย
ใช้เวลาไม่นานเท่าไรในการอาบน้ำขัดๆถูๆ สุดท้าย ก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกลิ่นหอมฉุยๆ
“ผมอยากรู้ว่า เมื่อไรพี่ถึงจะเลิกเจ้าชู้ มีกิ๊กเป็นโหลแบบนั้กที” ไอเด็กถ่านพูดขึ้น มือก็ยังคงสไลด์ดูข้อความในไอฟนของผมไม่หยุด ข้างหลังก็สะพายเจ้าโปโปโระไว้
“ยุ่ง! เอามานี่” ผมเดินไปคว้าไอโฟนคืนแล้วเอาผ้าขนหนูคลุมหัวมันไว้ด้วยความหมั่นไส้ :P
ถามว่าจะหยุดเมื่อไร คำตอบคือ…
“หยุดไม่ได้”
“ทำไมล่ะ?” เอ่อะ…ดึงผ้าขนหนูออกจากหัวแล้วทำไมต้องโยนไปไว้ที่ตีนด้วย คือ เมื่อกี้กูเพิ่งเอาเช็ดหัวป่ะ อิดามมม
“ความสุข กูมีความสุขที่เห็นว่ามีใครหลายๆคนรักกู แล้วก็ดูแลกู”
“แต่พี่กำลังทำเหมือนให้ความหวังทุกคน” ก็จริงอย่างที่มันพูด แต่ในกรณีนี้ ผมได้ชี้แจงแถลงไขกับบรรดาเด็กๆของผมหมดแล้ว ว่า รับได้ที่จะอยู่ในสถานะนี้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป ผมเคยพูดไปแล้วไม่ใช่หรอ?
“กูไม่ได้ให้ความหวัง!”
“พี่ทำเหมือนคนเห็นแก่ตัวเลย!”
“เรื่องของกู รีบลงไปหาอะไรแดกข้างล่างเลย ก่อนที่จะทะเลาะกัน!”
“ฮึ ผมโกรธพี่แล้ว”
กูก็โกรธมึงเหมือนกัน!
เอาโปโปโระกูคืนมา!
ตลอดเวลาที่นั่งรถมาโรงเรียนวันนี้ ผมค่อนข้างพาลนิดหน่อย เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด ไม่ให้หงุดหงิดได้ไง เมื่อเช้านะ พอผมเดินลงมาที่ห้องอาหารกับไอ้จงอิน มี้ก็ทักขึ้นทันทีเลย
“อ้าว จงอิน ข้อศอกไปโดนอะไรมาลูก”
งานเข้าคยองซูละ…T__T
“เอ่อ” มันอ้ำอึ้งนิดหน่อย ตาคมๆก็เหลือบมาทางผมเป็นระยะๆ แน่นอน สารพัดท่าทางที่ผมทำอยู่ข้างหลังมี้ ก็เพื่อจะสื่อให้มันรู้ว่า อย่าฟ้องแม่นะ! ไม่งั้นมึงตาย! อะไรเทือกนี้แหละ
…ซึ่งมันก็ปฏิบัติตามทุกอย่าง
“เมือวานพี่คยองซูมัวแต่เหม่อ เลยจะโดนรถเฉี่ยว แต่ผมช่วยไว้”
หรอ….
ชิ้งงง -*-
รู้สึกได้ถึงรังสีอัมหิตที่มี้ส่งมาให้ จากนั้นก็…
“มี้บอกแล้วใช่ไหม ว่าชีวิตคนเราน่ะ ตั้งอยู่บนความประมาท บลาๆๆๆ )(@&R(#@&!$%_...” อาเมน ไว้อาลัยให้ขี้หูคยองซูด้วย
แต่โดนมี้บ่นครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่เจ็บเท่าประโยคสุดท้าย
“เดือนนี้หักค่าขนม!”
นั่นป่ะไร โดนหักค่าขนมด้วย อิถ่านแบเบาะ อิดำ
กูโคตรเกลียดมึงเลยคิมจงอิน!
“พี่ทำตัวเองนะ ทำไมต้องมองผมแบบนั้น” วันนี้พวกเราออกจากบ้านสายนิดหน่อย เพราะมี้บ่นไปครั่งชั่วโมง โคตรอารมณ์เสียเลย ผมนี่ทำหน้ายับทนทีที่ไอถ่านแบเบาะก้าวขึ้นรถมานั่งข้างๆผม
“เฮอะ!” พูดกับกูทำไม งอน โป้ง!
“ผมเจ็บตัวก็เพราะพี่แท้ๆนะ”
“…” ไม่รู้ไม่สน
“ตามใจ” แล้วมันก็หันกลับไปนั่งมองหน้าต่างเหมือนเดิม เออ หันไปเลย กูเบื่อขี้หน้าดำๆของมึงจะแย่ละ
ผ่านไปสามสิบนาที เหมือนเวลาเดินไปสามสิบปี รถติดชิบหายวายวอด วันนี้ผมเลยต้องลงเดินไกลหน่อย ไม่รู้พวกแม่งเห่อลูก หรืออยากอวดฐานะบ้านตัวเองกันแน่ ถ้าโรงเรียนมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ กูว่า มันคงพาลูกบินลัดฟ้านั่งฮอล์มากันแล้วล่ะ
ไอเชี่ยถ่านนั่นก็เดินไม่รอเลย!
“อ๊ะ พี่คยองซู จงอินน!!”
บันทึกพิเศษของบยอนแบคฮยอน
“อ๊ะ พี่คยองซู จงอินน!!” ผมแหกปากตะโกนเรียกพี่คยองซูกะจงอินที่เดินลิ่วๆอยู่ข้าวหน้า มือทั้งสองข้างก็หอบของพะรุงพะรัง เฮอะ! ไม่ใช่ของผมหรอก ของพี่ชานยอลต่างหากล่ะ
พวกอาหารบำรุงสมองน่ะ พี่ชานยอลเรียนหนัก แล้วก็อ่านหนังสือหนัก พี่เขาควรได้รับเครื่องดื่มอะไรแบบนี้บ้าง
“อ้าว น้องแบค อรุณสวัสดิ์” ผมหันโค้งให้พี่คยองซูที่หันมาทักผมด้วยสีหน้าเหวี่ยงๆ ส่วนอีกคน เห็นหลังๆไวๆ เดินนำไปโน่นละ
“ของไอโย่งมันหรอ โห ลงทุนนะเราเนี่ย”
“ครับ >< ผมอยากให้พี่ชานยอลได้กินของดีๆ” ยอมรับว่าผมทุ่มสุดตัวเลย กับพี่ชานยอล มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ …เอ่อ ล้อเล่น หมายถึง มีเงินเท่าไรในบัญชี ผมก็เอามาซื้อของดีๆให้พี่ชานยอลเกือบหมดแหละ
“อ่อ สู้ๆละกัน พี่เชียร์เราอยู่นะ” พี่คยองซูขยิบตาให้ผมเล็กน้อย จากนั้นก็อาสา ช่วยผมถือของเข้าโรงเรียน
“ขอบคุณครับ >< วันนี้จงอินเดินลิ่วๆนำไปโน่นละ ยังไง ผมฝากของนี่ไปให้พี่ชานยอลด้วยนะ” พอเดินมาถึงหน้าตึก ผมก็ยื่นถุงที่เหลือให้รุ่นพี่ตาโต คือ ปกติผมจะฝากจงอินไปให้ไง แต่วันนี้ เรียกมันไม่ทันละ ฝากพี่คยองซูละกัน
“อ่าๆ โอเค อ๊ะ มันมาโน่นแล้วไง น้องแบคเอาให้มันเลยดีกว่า” พูดจบพี่คยองซูก็ยัดบรรดาสารพัดถุงคืนมาให้ผม และกวักมือเรียกพี่ชานยอลหย็อยๆ
“มาเช้าจังนะมึง” พี่คยองซูทัก วันนี้พี่ชานยอลใส่แว่นมาด้วย หล่อ *-* อยากเซลก้ากับพี่ชานยอลแล้วอัพลงไอจีจุง
“เอ่อ พี่ชานยอล” ผมทักเสียงใส “วันนี้ผมซื้อเครื่องดื่มบำรุงสมองมาให้พี่เต็มเลย พี่ต้องดื่มให้หมดนะ”
“…” พี่ชานยอลได้แต่มองถุงในมือสลับกับใบหน้าผม
“รับสิครับ หนักนะ”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้นะน้องแบค”
“พี่รับไว้เถอะครับ ผมเต็มใจให้”
“พี่ว่า เราเอาเวลานี้ไปหาหนังสืออ่าน เตรียมสอบดีกว่าไหมครับ” พี่ชานยอลยิ้มๆ หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บๆ พี่ชานยอลกำลังจะพูดกลายๆว่าให้ผมเลิกตามพี่เขาอะไรแบบนี้รึปล่าวนะ
“เฮ้ย น้องเขาให้มึงก็รับไปเด่ะ มัวเล่นเล่นตัว ระวังไว้เถอะมึง” พี่คยองซูตบใหล่พี่ชานยอลเบาๆ “แล้วนี่ไอเชี่ยถ่านหายหัวไปไหนแล้ววะ เดินไวชิบ ไม่ง้อกูอีกต่างหาก”
บ่นได้ไม่ทันขาดคำ พี่คยองซูก็หันมาโบกมือบ๊ายบายผมกับพี่ชานยอล เพราะได้รับสายเข้าจากใครซักคนในบรรดากิ๊ก เห็นเรียก ‘น้องเคลวินๆ’ ไม่ขาดปากเลย
“รับสิพี่”
“ครับๆ ขอบคุณมาก”
พี่ชานยอลรับของไปแล้ว แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจ เพราะคำพูดเมื่อกี้ของพี่เขากำลังทำให้ผมคิดมาก
ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ตั้งกล้องถ่ายรูปไปที่แผ่นหลังของพี่ชานยอลที่เดินห่างออกไปแล้ว จากนั้นก็อัพลงไอจี ด้วยข้อความสั้นๆ
‘พี่เขากำลังรำคาญผมรึปล่าวนะ??’
------------
อ่ะฮ้าาา สวัสดีค่า เจิมๆหน่อย คือ ก็อย่างที่บอกไปว่ามันไร้สาระ เพราะงั้น ก็ไม่มีอะไรจะพูดละ อย่าลืม ถ้าจะเวิ่น ฝาก #ฟิคยัง ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น