คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฟิคยังตอนที่หนึ่ง
1
วันหยุดก็มักผ่านไปเร็วเสมอ
เช้าวันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อมาถึงแล้ว ยิ่งน่าเบื่อยกกำลังสองคูณสามบวกเจ็ดทั้งหมดยกกำลังห้าเข้าไปเมื่อไอถ่านแบเบาะเอาแต่เงียบตลอดการรับประทานอาหารเช้า จนพี่คริสที่มาทานข้าวด้วยยังอดสงสัยไม่ได้
เพราะงั้น พอขึ้นรถมาผมก็เลยถามมันออกไปด้วยภาษาสุภาพ
“เป็นส้นตีนอะไร”
“ฮึ L”
“นี่มึงกล้าเมินกูหรอถ่าน กูเป็นพี่นะ”
“… “
“ยังไม่หันหน้ากลับมาอีก” ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้อง กูถีบติดกระจกรถไปละ - -+
“…”
“เออ ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย!” เริ่มอารมณ์เสียแล้วนะ
แล้วสุดท้าย เราทั้งคู่ก็นั่งเงียบกันมาตลอดทาง มีบางครั้งที่ผมหยิบไอโฟนออกมากดตัดสายน้องเคนกับน้องเคลวินทิ้ง ไม่มีอารมณ์จะคุย !
เพราะเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างไฮโซ มีลูกชายลูกสาวของคนมีตังค์ เลยทำให้หน้าโรงเรียนรถติดมากๆ โคตรพ่อโคตรแม่ติด
ผมกับไอเด็กถ่านเลยตกลงกันว่าจะให้ลุงคนขับจอดรถที่ปากซอยแล้วเดินต่อเข้าไปกันเองซึ่งไม่ไกลเท่าไร …แค่ทำให้กูหอบแดกได้ทุกวันแหละ
เป็นเพราะอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านที่ถ่านแบเบาะทำหน้าบูดหน้าเบี้ยว เป็นส้นตีนอะไรก็ไม่ยอมบอก ผมก็เลยเปิดประตูรถลงมาโดยไม่แหกตาดูอะไรเลย
รถมอเตอร์ไซค์ส่งพิซซ่าคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง สูงขนาดไหนไม่รู้ รู้แต่ถ้าโดนชน ก็คงนอนตายในสภาพไข่เบี้ยวอ่ะ T^T
ปิ้นนนนนนนนน
ผมได้แต่ยืนหลับตาปี๋ รอรับชะตากรรมตรงหน้า ทั้งๆที่ชอบด่านางเอกในละครอยู่ตลอดๆว่าเวลาเจอแบบนี้ แทนที่แม่งจะยืนอ้าปาก เอาเวลาไปกระโดดหลบรถไม่ดีกว่าหรอ
แต่พอเจอเข้ากับตัวเอง ก็รู้เลย…ขากูแข็งแล้วเนี่ยย
ฟึบบบบ
แรงฉุดมหาศาลทำให้ร่างผมปลิวไปหลบอยู่ข้างทาง รถพิซซ่าคันนั้นวิ่งตัดหน้าผมไปอย่างฉิวเฉียด
“โธ่! ไอ้สาดดดด รีบไปเผากงเต๊กหรอ ไอเชี่ยยย!”
ทำได้แค่ตะโกนไล่หลังไปเท่านั้นแหละ ไม่รู้จะรีบไปไหนนักหนา จำได้ว่า ไอโปรโมชั่น ส่งช้าแดกฟรีมันล้มเลิกไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ
ว่าแต่…เดี๋ยวนะ
O_O
พอเหมือนจะรู้สติ ผมก็ต้องเหลือกตาให้โตขึ้นกว่าเดิม เมื่อเจ้าของแรงมหาศาลเมื่อกี้ กำลังนอนอยู่ใต้ร่างผมและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
เอาอีกแล้วมึง คยองซู ทำลูกชายเขาเจ็บอีกแล้ว T^T
“ถ่าน! จงอิน! เป็นไงบ้าง” ผมพยายามขืนตัวเพื่อดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่..มันลุกไม่ได้ง่ะ
“ปล่อยมือออกจากเอวกูดิ” ไอนี่ได้ทีโอบเลยนะมึง
“เจ็บอ่ะ” พอลุกขึ้นตั้งหลัก ผมก็จับข้อมือ ข้อศอกมันมาพลิกดู อือหือ ถลอกหมดเลย มี้ด่ากูแน่!
“ขอโทษ”
“ผมเจ็บตัวเพราะพี่อีกแล้ว น้ำตาจะไหล” มันยกข้อศอกขึ้นมาดู พร้อมกับเบะปาก
“เออ ขอโทษ กูขอโทษ อย่านะ มึงอย่าร้องนะ”
เหมือนจะไม่ทันละ
“ฮือออออ” น้ำใสๆค่อยๆไหลออกจากดวงตาคู่สวย จากนั้นก็ไหลออกมาเป็นทางยาว และตามมาด้วยเสียงโฮ ไม่เกรงใจประชาชีที่เดินแรดๆแรดมารอบๆตัวกูแต่ไม่มีใครมาช่วยซักคน
“ขอโทษทั้งเรื่องก่อนหน้านี้ที่มึงทำหน้าเป็นส้นตี…เอ่อ ที่มึงงอนกู ทั้งๆที่กูไม่รู้งอนอะไร แล้วก็ขอโทษที่ทำให้มึงต้องเจ็บ” กูจะร้องตามละ เป็นพี่ประสาอะไร ปกป้องน้องไม่ได้ แถมยังทำให้น้องต้องมาเจ็บตัวอีก
“กูมันแย่เอง”
“ฮรืออออออ”
“หยุดร้อง แล้วลุกไปทำแผลในโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวเลือดก็ไหลหมดตัวหรอก”
“ฮรืออออ ฮรือออออ!”
เอ้า! ไอเชี่ยนิ ร้องหนักกว่าเก่าอีก
“ผมไม่แมนเลยใช่ไหมเนี่ยย ฮรืออออ”
กรรม
“ไม่ใช่ไม่แมน แค่มึงยังเด็กนะ จงอิน”
……………………………………
สุดท้ายผมก็แบกไอถ่านแบเบาะขึ้นหลังมาโรงเรียนจนได้
ค่อนข้างเป็นจุดสนใจเลย…ไอถ่านนี่ตัวสูงอย่างกับเสาไฟฟ้า แถมหนักอย่างกับโอ่ง กูก็ตัวเล็กนิดเดียว ช่างไม่บาลานซ์เอาซะเลย
“พี่เดินไวๆหน่อยได้มั้ยเนี่ย แสบแผล” เสียงมันพูดอยู่ข้างๆหูผมนี่แหละ
“เร่งนักเดี๋ยวกูโยนลงบ่อปลาคาร์ฟหน้าห้องอธิการเลยสัส” หนักก็หนัก ลำพังเดินตัวปลิวก็ขาลากละ แล้วนี่ยังมีเห็บดำนามว่าจงอินกระโดดเกาะหลังมาอีก ตาย กู T_T
“…พี่ไม่ปลุกผม”
“หือ?” มันว่าไงนะ เมื่อกี้มันพูดอะไรอู้อี้ๆอยู่ข้างๆหูผมนะ
“วันนี้พี่ไม่ปลุกผม มันเป็นหน้าที่ของพี่ไม่ใช่รึไง”
อ่า…มึงงอนกูเรื่องนี้สินะ
“ก็ปลุกแล้วไม่เคยตื่น มึงเคยเห็นตีนกูมั้ย บวมหมดและ กระโดดถีบประตูมึงเนี่ย วันนี้ก็ตื่นเองได้ไม่ใช่อ่อ?” จริงๆครับ ผมกระโดดถีบประตูห้องมันจนตีนบวมหมดละ ไม่เชื่อเดี๋ยวถอดรองเท้าถุงเท้า งัดออกมาโชว์เลย
“ก็ชอบให้พี่ปลุก ต่อไปนี้จะไม่ล็อคห้องแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องกระโดดถีบประตู”
“เมื่อไรมึงจะโตเนี่ย ฮะ!”
“ผมโตแล้วนะ ไอเรื่องให้พี่ปลุกกับเรื่องโตแล้วนี่มันคนละเรื่องเลยนะ”
“ก็มึงทำตัวเหมือนเด็กๆ ยังๆ มึงยังไม่โต”
“ไม่รู้แหละ พรุ่งนี้ไปปลุกด้วย จะไม่ล็อคห้อง!” มันเน้นเสียงอีกครั้งประจวบกับมาถึงห้องพยาบาลพอดี ผมเลยวางมันลงและไปตามเจ้าหน้าที่มาทำแผล
เด็กหนอเด็ก…
“คยองซู” น้ำเสียงร้อนรนทำผมละความสนใจจากไอเด็กถ่าน หันไปมองบุคคลมาใหม่ ซูโฮนั่นเอง ออร่าเจิดมาแต่ไกล แสบตาอ่ะ ใครมีแว่นดำ ขอยืมหน่อย
“คยองซูเป็นไงบ้าง ได้ยินมาว่าเกือบโดนรถชนหรอ ขวัญเอ้ยขวัญมา” ลูบหัวเบาๆ กูต้องครางหงิงๆด้วยป่ะ เอ้ย!ไม่ใช่หมา
“อ่อ จงอินช่วยเราไว้อ่ะ แต่น้องสิ เจ็บแย่เลย”
“หรอ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว วันนี้เรามีของมาให้ด้วย อยู่หลังรถนะ ไปเอากัน” ไอเชี่ย คำพูดติดเรท เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรอ่าน
“อ่อ ไปสิ” พอซูโฮฉุดมือผมจะจูงออกจากห้องเท่านั้นแหละ ไอเด็กถ่านที่นั่งให้เจ้าหน้าที่ทำแผลอยู่ก็ร้องออกมาลั่นห้อง
“โอยยยยยย โอยย เจ็บบบบบบ” ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน ใส่ยาฆ่าเชื้อ ล้างแผลอะไรก็แล้ว ไม่ร้องซักแอะ พอจะแปะผ้าก็อซเท่านั้น แหกปากขึ้นมาเชียว
“เอ่อ ลืมไปว่าน้องเจ็บ ไว้วันหลังนะซูโฮ เราขอบใจมากที่มีของมาให้ ถึงจะไม่รู้ว่าคืออะไรก็เถอะ”
“อ่อ หรอๆ ไม่เป็นไรครับ เพื่อคยอง ซูโฮไม่ได้ลำบากอะไรเลย จิ๊บๆ งั้นไปนะ คยองอยู่ดูน้องไปเถอะ”
“บายย”
จุ๊บบ
ผมเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บแก้มขาวๆเหมือนไม่มีเลือดนั่น ก่อนจะผละออกมานั่งข้างๆเตียงที่ไอ้เด็กถ่านนั่งทำแผลอยู่ต่อ
“จะฟ้องแม่”
“อะไรมึง”
“จะฟ้อง…” ฟ้องเชี่ยไรวะ กูทำไรผิดเนี่ย
“ฟ้องไร อย่ามาขี้ฟ้องเหมือนเด็กๆได้ป่ะ ไหนว่าโตแล้ว”
“ก็โตแล้ว” ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลทำแผลเสร็จแล้ว แล้วก็เก็บของเดินออกไปแล้ว เหลือก็แต่ผมกับเด็กโข่งที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียง
“หรือจะฟ้องเรื่องที่กูทำให้มึงต้องเป็นแผลแบบนี้ เอาเถอะ ก็กูผิดจริงๆอ่ะ” ผมพูดพลางก้มหน้าทำท่าหงอยๆ
“…”
“มึงไม่คิดจะพูดไรหน่อยหรอ” พอเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบ และเริ่มจะนานเกินไป ผมก็เลยเงยหน้าขึ้นมา และพบว่าเด็กนั่นมองผมอยู่
มองอะไรมึงงง
“ฮึ L วันนี้จะฟ้องแม่”!!
เอะอะก็ฟ้องแม่ๆ เฮอะ! ยังไงถ่านแบเบาะก็ยังแบเบาะอยู่วันยังค่ำ
เด็ก….
“โอเค ดีมาก วางผมลงได้ครับ”
เด็กถ่านพูดออกมาเบาๆ จากนั้นผมก็วางมันลงกับเก้าอี้ หลังจากที่ออกจากห้องพยาบาลมา ไอนี่ก็งอแงๆจะให้ผมแบกขึ้นหลังไปส่งที่ห้องให้ได้ ทั้งๆที่ตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอก แม่งเรียนอยู่ชั้นสาม ผมหอบแดกพอดี
“ไม่เอาอ่ะ พี่ต้องไปส่งผมนะ”
“ได้ข่าวว่ามึงเจ็บข้อศอกและแขนนิดหน่อย ขาไม่เกี่ยว อย่ามาตอแหลเถอะ!”
“แต่ผมเจ็บนี่!”
“เรื่องของมึง”
“เรื่องของพี่ด้วย ฮึบ!” แล้วมันก็กระโดดขึ้นหลังผมโดยไม่สนเลยว่า ผมจะไปส่งหรือไม่
สุดท้าย ก็เลยต้องหอบสังขารตัวเองพร้อมกับลูกลิงตัวโตๆติดหลังขึ้นมาส่งบนห้องเรียนเนี่ยแหละ เหนื่อยโคตรๆ
“สวัสดีพี่คยองซู อ้าว จงอิน ยังไม่ตายหรอกหรอ?” เสียงใสๆเจื้อยแจ้วๆนี่เป็นของน้องแบคฮยอนครับ น้องนั่งข้างจงอิน
“ก็เห็นอยู่”มันตอบกลับไป ในใจคงนึกอยากกระโดดบีบคอคนหน้าสวยนี้แน่ๆ น้องแบคเขาเป็นเน็ตไอดอลครับ กำลังดังเชียว น้องเขาน่ารักมาก ติดคุณหนูเอาแต่ใจนิดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ น้องปากหมากมากนะ เห็นได้จากประโยคที่ทักเพื่อนเมื่อกี้
“งั้นแสดงว่าตายแล้ว”
“ต่อไปนี้ไม่ต้องเอาของมาฝากไปให้พี่ชานยอลเลยนะ”
“เฮ้ยย ล้อเล่นๆ ขอโทษ จงอินสุดหล่ออ สุดหล่อของน้องแบคค” อ้อๆ ผมลืมบอกไปใช่ไหมว่าน้องแบคแอบชอบไอโย่งเพื่อนผมอ่ะ
จะว่าแอบชอบก็ไม่ถูกหรอก ก็น้องเล่นเขียน ‘BYUN BAEKHYUN ♥ PARK CHANYEOL’ ใส่ลงในกระดาษแล้วอัพลงไอจี ประกาศให้ประชาชีรู้ขนาดนี้
แหม่! แรดเหมือนกูเลยนะ….
ผมทำท่าจะเดินออกจากห้องและตรงไปที่ตึกตัวเอง แต่หนุ่มหน้าหวานที่วิ่งร้อยเมตรมาแต่ไกลก็สไลด์มาดักหน้าซะก่อน
“อ้าว น้องยองมิน”
ชีวิตกูวุ่นวายเสมอ เอาจริงเลย T_T
“พี่คยองซู ผมเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ”
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว”
“อ่า ดีจัง ขอบคุณพระเจ้า” ต้องขอบคุณไอถ่านนี่สิ ถึงจะถูก “พี่ครับ! นี่ เมื่อวานผมไปงานกับป๋ามา ได้น้ำหอมมาสองขวด ผมเอาให้พี่ขวดนึง มันหอมมาก พี่ต้องใช้นะ”
น้องยองมินยื่นขวดน้ำหอมมาให้ จมูกก็ซุกๆอยู่แถวๆหลังใบหูผม
ไอห่านี่อนาจาร คนอยู่เยอะนะมึง
“ผมจะดมๆพี่ทุกวันเลย”
“เอ่อ พี่ว่าตอนนี้ก็ได้เวลาเรียนแล้ว..”
“อ้อ ใช่ๆ เดี๋ยวผมไปส่ง พี่อย่าลืมใช้น้ำหอมนะ ผมจะได้ดมๆ” ว่าแล้วก็ยื่นจมูกมาฟุดฟิดๆแถวๆแก้มผม มือก็โอบรอบเอวผมแล้วออกแรงดันให้ออกมานอกห้อง
ไม่วาย ได้ยินเสียงไอเด็กถ่านพูดตามหลังมา
“ฟ้องแม่แน่!”
“คยองซูทานนี่ด้วยนะ แล้วก็นี่ๆ”
“อันนี้คยองก็ต้องทานเหมือนกันนะ มีประโยชน์”
“แล้วพี่คยองซูอย่าลืมทานน้ำผมไม้รวมที่ผมให้ป้าแม่บ้านทำมาให้นะครับ ดีต่อสุขภาพ”
กูจะอ้วกละ…โฮรรรรร
ตอนนี้เป็นคาบพักกลางวันครับ โต๊ะอาหารอันแสนชุลมุนประกอบไปด้วย ซูโฮ น้องเคน แล้วก็จือเทา ที่เอาอาหารมาประเคนให้ผมถึงโต๊ะ อือหือ อาหารแต่ละอย่างนี่ดีๆทั้งนั้น ค่าอาหารบนโต๊ะนี้มื้อเดียว ยังแพงกว่าเงินเก็บในบัญชีกูทั้งชีวิตอ่ะ T___T
อ่อ ถามถึงไอถ่านน่ะหรอ มันให้ชานยอล หรือไอโย่งของผมแหละ ติวเคมีอยู่บนห้องแหน่ะ
ไอเด็กนี่มันกวนส้นตีนครับ พอถึงคาบพักไม่ลงมาแดกข้าว พอหมดพัก เริ่มเข้าเรียนคาบบ่ายเท่านั้นแหละ ขยันส่งข้อความมาหาผมจัง ให้ผมซื้อลูกชิ้นขึ้นไปให้ ไอเราจะไม่หยิบมาเปิดอ่านก็กระไรอยู่ โทรศัพท์สั่นทั้งชั่วโมง ชานยอลที่นั่งข้างๆผมแทบจะล้วงมันออกไปโยนทิ้งด้วยเหตุผลที่ว่า …มันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ยอลแม่ง ทำเหมือนไอโฟนกูไม่มีค่าเลยอยากทิ้งก็ทิ้ง
“อ้าว พี่คยองซูหยุดทำไมล่ะครับ อิ่มหรอ เพิ่งทานไปนิดเดียวเองนะ เนี่ย เนี่ยยำไข่นกกระจอกเทศของพี่ซูโฮพี่ก็ยังไม่ได้ทานเลย ไหนจะผัดหางฉลามอีก” น้องเคนครับ มันทำหน้างอทันทีที่ผมวางช้อนกับส้อมลง ไม่ต้องสงสัยไปนะว่าทำไมบรรดาเด็กๆในฮาเร็มถึงได้ปรองดองกันดีเหลือเกิน ผมเคยบอกพวกเขาไปแล้วล่ะว่าผมมีคุยๆอยู่หลายคน ถ้ารับได้ก็เข้ามา รับไม่ได้ก็ไสหัวออกไป
สรุปแล้ว พวกเขารับได้ครับ… ดีเหมือนกัน ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งสับรางให้เมื่อยตัวเอง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมขออยู่คนเดียวดีกว่า
“แดก เอ้ย กินไม่ไหวละ อิ่ม”
“ว้า อาหารยังพร่องไปไม่ถึงครึ่งโต๊ะเลย” จือเทาพูดมาด้วยน้ำเสียงเหมือนจะเสียดายของ
“ทีหลังไม่ต้องทำมาเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ แค่พวกนายทำข้าวกับไข่ต้มมา เราก็กิน เรากินได้หมดแหละ”
“อ่า..คยองซูของเรานี่น่ารักจัง” อันนี้ประโยคของซูโฮครับ “อิจฉาจงอินจริงๆที่ได้อยู่ใกล้คยองซูทุกวัน”
อือหือ คนอย่างถ่านแบเบาะ อย่าไปอิจฉามันเลย
“อิจฉาทำไมซูโฮอ่า เราไม่ได้ชอบน้องเหมือนชอบพวกนายซักหน่อย อยากเป็นแค่น้องเราหรอ?”
“โอ้ ไม่ๆๆ ไม่นะ ไม่อิจฉาแล้วก็ได้ เราไม่อยากเป็นน้อง เราอยากเป็นมากกว่านั้น” พูดจบ ซูโฮก็ทำท่าซารังแฮ แล้วเอียงหัวน่ารักๆ ไม่สนใจอีกสองคนที่นั่งหัวโด่อยู่บนโต๊ะเลยสักนิด
แน่นอนครับ..ความสัมพันธ์ของผมกับทุกคน ไม่มีใครเกินเลยมาถึงขั้น ‘แฟน’ ทุกคนอยู่ในช่วง ‘ดูใจ’ มันเลยไม่แปลก ที่พวกเขาพยายามจะทำคะแนน
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมีอะไรดีนักหนา บรรดาลูกเศรษฐีทั้งหลายถึงได้หลงมาชอบผมนัก
“พี่ซูโฮกำลังแย่งซีนละ” เหมือนน้องเคนจะเริ่มรู้ตัวว่าโดนซูโฮทำแต้มนำไปแล้ว “ผมยอมไม่ได้!”
ว่าแล้วน้องเคนก็ลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างๆผม ติดเลยก็ว่าได้ คือ พื้นที่ตรงนี้มันกว้างมากถึงขนาดลงไปนอนเต้นเจนเทิลแมนได้ มึงมานั่งเบียดกูไม
“พี่ครับ…” มือค่อยๆเลื้อยมาโอบรอบเอว
“พี่คยองซู!” ไอเด็กถ่านเดินมาตอนไหนไม่รู้ รู้แต่แม่งตะโกนใส่หูผม คนมองเต็มโรงอาหารเลย เด่นไปละมึง
“ตะโกนหาพร่องหรอ อยู่ใกล้แค่นี้”
“ผมโทรหาพี่ไม่ติด ปิดเครื่องทำไม”
“กูไม่ได้ปิด!”
“พี่ปิด! ไม่งั้นมันจะขึ้นให้ฝากข้อความเสียงหรอ”
“ไอสัสนี่ กูบอกว่าไม่ได้ปิดๆ ไม่เชื่อมึงดู ….เฮ้ยยยยย ” ประโยคหลังผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อลูบๆคลำๆดูที่กระเป๋ากางเกงแล้ว ไม่เจอกับวัตถุทรงเหลี่ยมๆ แดกแบตตัวพ่ออยู่ในนั้น “ไอเชี่ยยยยย ไอโฟนกูหายยย”
“หรอ”
“เออดิ หวังว่าคงมีคนเก็บได้เอามาคืนนะ ในนั้นมีทั้งเบอร์คนสำคัญๆเยอะแยะเลย”
“กิ๊กมากกว่า”
“มึงช่วยตกใจกับกูก่อนได้ป่ะถ่าน” ไอนี่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย โทรศัพท์พี่ของมันหายเลยนะ มันทำเหมือนว่า หายหรอ อือๆ นิ่งสรึดดดดด
“ไม่เป็นไรนะคยอง เดี๋ยวเราซื้อให้ก็ได้”
“ไม่ต้องหรอกพี่ซูโฮ เดี๋ยวผมซื้อให้พี่คยองซูเอง”
“อ่า ไม่ดีๆ ต้องฉันสิ ซื้อให้คยอง” แล้วสามทหารเสือก็เถียงกันข้ามหัวผมไปมา สุดท้ายก็จบลงด้วยประโยคที่ว่า
‘เย็นนี้เจอกันหลังโรงเรียน ใครชนะจะเป็นผู้ที่ซื้อโทรศัพท์ให้คยองซูแล้วดูเหมาะสมที่สุด’ เหตุผลปัญญาอ่อนมาก ไปไหนก็ไปเลย อยากจะห้ามอยู่หรอก แต่ในใจลึกๆ กำลังเสียดายโอโฟน
สามทหารเสือลุกออกจากโต๊ะไปแล้วบอกว่าจะไปฟิตร่างกาย ตอนนี้เลยเหลือแค่ผม ชานยอลที่มาพร้อมกับไอถ่านแล้วก็น้องแบคที่ยืนหนีบไข่บิดไปมาด้วยความเขินเพื่อนตัวสูงของผม
“เดี๋ยวคงมีคนเก็บได้แล้วเอามาคืนแหละ” ชานยอลพูดดีมาก
“ช่างมันเถอะพี่ ตอนนี้ผมหิวข้าวแล้วอ่ะ”
“มึงก็ไปซื้อสิ ตีนเป็นโรคเท้าช้างหรอ ถึงเดินไปซื้อมาแดกเองไม่ได้อ่ะ” กูไม่มีอารมณ์นะ อย่ามาเยอะ ไอถ่าน!
“ผมเจ็บ…ผม”
“…จะฟ้องแม่ มึงนี่ไม่โตจริงๆนะ”
“โตแล้ว”
“เอ่อ อย่าเถียงกันเลย เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ก็ได้ พี่จะไปซื้อข้าวมากินอยู่พอดี น้องแบคจะฝากอะไรมั้ย?”
“ไม่ครับๆ พี่ชานยอลไปเถอะ”
“ผมเอาอะไรก็ได้ พี่ซื้อมาเถอะ” มันหันไปพูดกับพี่ชานยอลพลางดันหลังพี่เขาให้ไปเร็วๆ คงหิวแย่เลยสิ
“พี่คยองซูวววววว” พอลับหลังชานยอลเท่านั้นแหละ น้องแบคก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม มือเรียวเล็กทั้งสองข้างก็บีบๆนวดๆแขนผมไปด้วย
“เมื่อกี้น้องเดินผ่านหน้าห้องน้ำหญิง นังเยจินผีจีนจะเอาคุ้กกี้ไปให้พี่ชานยอลอีกแล้วอ้ะ” แล้วจะให้กูทำไงวะ
“…
“ผมเคยได้ยินพี่ชานยอลบ่นๆด้วยนะว่าคุ้กกี้ฝีมือเยจินอร่อยมาก ถ้าพี่ชานยอลติดใจนังเยจินขึ้นมาทำไงดีพี่”
“ก็รุกสิ…” นี่เป็นความเห็นของน้องถ่าน
“อืมม ใช่ พี่ว่าน้องแบคต้องรุก มัวแต่ยืนบิดไปบิดมา เขินอยู่อย่างนี้ ไม่ทันกินหรอกน้องเอ๋ย”
“รุกหรอ” ใบหน้าสวยนิ่งไปราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก แต่ผ่านไปไม่ถึงนาที น้องเขาก็ดีดนิ้วเป๊าะพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างไปถึงอียิปต์
“มอมเหล้าพี่ชานยอลแล้วขืนใจเลยมั้ยพี่” น้องแบคเสนอ
น้องกูแรง - -“
“เอิ่ม พี่ว่าทำแบบนี้ น้องจะได้แค่ตัวมันนะ “ ไม่ใช่อะไรนะ คือ กำลังนึกภาพไอโย่งนอนร้องไห้อยู่บนเตียงมีผ้าห่มผืนหนาคลุมยอดอกเปลือยปล่าวแล้วร้องห่มร้องให้เหมือนนางเอกละครหลังข่าวอยู่
ขนลุกเลย กูหลอนน
“พยายามเป็นจูบแรกของพี่เขาสิ..” ไอเชี่ยถ่านแนะนำอะไรน้องแบควะ จูบอะไร
“ทำไมต้องจูบแรก?” นั่นสิ งงเหมือนน้องแบคเลย
“จูบแรกเป็นจูบที่ฝังใจ”
“มึงเอาให้เคลียร์ดิ๊ รู้อยู่ว่ากูโง่ โชว์ฉลาดจังนะมึงอ่ะ ทำเป็นพูดกำกวม” พยายามเร่งเอาคำตอบไง เพราะหางตาเหลือบไปเห็นไอโย่งเดินถือชามอะไรมาโน่นแล้ว
“ก็จูบอ่ะ ไม่มีอะไร ก็จูบไงพี่งงอะไรเนี่ย จะให้ผมอธิบายอะไร พี่จูบเก่งกว่าผมอีก”
“มึงเคยจูบกับกูหรอ รู้ว่ากูจูบเก่ง ทำมาเป็นรู้ดี”
“ไม่เคย”
“โอ๊ะโอ ไคซูนี้มีความลับใช่ไหม~”
“ไม่ใช่ละน้องแบค อย่าเข้าใจผิด มึงคิดไรกะกูป่ะเนี่ยถ่าน” ผมเลิกคิ้วถามไอถ่าน ตอนนี้มันนั่งกระดิกตีนรอคอยข้าวร้อนๆจากไอโย่งที่เดินมาจะถึงโต๊ะอยู่แล้ว
“ปล่าว” แล้วดูมึงพูดดิ๊ นี่มึงจะแกล้งแบคใช่ไหม หน้าน้องเขาเริ่มช็อคละ คงคิดว่ากูกับมึงมีซัมธิงรองกันแน่ๆ ไม่มีอะไรนะโว้ยยยยย ไคซูไม่มีความลับเชี่ยไรทั้งนั้นนนนน
“จริงๆแล้วพี่ต้องป้อนผมนะ” พอตักข้าวเข้าปากไปคำแรก ไอถ่านก็พูดขึ้นทั้งๆที่ข้าวคาปาก อือหือ เมื่อกี้กูเห็นเศษหมูกระเด็นออกมาอยู่ในจานชานยอลด้วย จงอินแม่งซกมกเชี่ยๆ
“จริงห่าไร ลำเลิกบุญคุณจริงนะมึงอ่ะ ใช้ข้อศอกแดกข้าวหรอ”
“แต่ผมเจ็บเพราะพี่นะ”
“เรื่องของมึง”
“ชิ เย็นนี้มีหลายเรื่องที่ต้องฟ้องแม่เลย เฮ้ พี่ชานยอล นั่นมันน่องไก่ของผมนะ!”
”อ่าๆ พี่เห็นจงอินไม่กินซักที พี่ก็เลยกินแทนให้”
“ผมเก็บไว้กินทีหลังต่างหาก” มันว่าพลางเอื้อมมือไปตักน่องไก่ในจานไอโย่งคืนสู่จานตัวเองแล้วพองแก้มเหมือนเด็กๆ
คิดว่าน่ารักหรอ อุบาวท์สุดๆอ่ะ
“น้องแบคเป็นอะไรรึปล่าวครับ วันนี้ดูเงียบๆนะ” เออ เงียบจริงๆแหละ คือถ้าไอโย่งไม่ทักเมื่อกี้ ผมนึกว่าเรานั่งกันอยู่แค่สามคนแล้วนะ มันเงียบต้องแต่เราคุยเรื่องจูบแรกอะไรนั่นและ
“อ๋อ ปล่าวครับ พอดีคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พี่ชานยอลทานต่อเถอะ คาบบ่ายพี่มีสอบเก็บคะแนนวิชาฟิสิกส์ไม่ใข่หรอ?”
สอบเก็บคะแนนวิชาฟิสิกส์ไม่ใข่หรอ
สอบเก็บคะแนนวิชาฟิสิกส์ไม่ใข่หรอ!!
สอบเก็บคะแนนวิชาฟิสิกส์!!!!!
ไอเชี่ยยยยยยย อาจารย์บอกตอนไหนวะเนี่ยยย ทำไมคยองซูไม่รู้เรื่องงงง น้องแบคอยู่ม.5 แท้ๆ รู้ดีกว่ากูอีก
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคยองซู อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง”
“(T___T)”
“นั่นไง ว่าแล้ว ไม่เป็นไร เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเราติวให้ก็ได้” ชานยอล มึงพ่อพระมาก กราบงามๆเลย
ตุบบบ
เสียงของแข็งบางอย่างกระแทกลงกับโต๊ะอาหาร เรียกความสนในจากพวกเราทั้งสี่ ไม่สิ ทั้งสามได้เป็นอย่างดี จงอินแม่งยังแดกไม่เสร็จ เลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
ผู้ชายร่างสูง ใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดตีน ใบหน้าหล่อเหลาโคตรๆ ปากนิดจมูกหน่อย ดูรวมๆหลายคนอาจมองว่ามันเป็นตุ๊ด แต่จริงๆ แมนกว่าใครในปฐพี เขาคือ
“เซฮุน” ผมพึมพำเบาๆ
เซฮุนวางวัตถุทรงเหลี่ยมๆอันแสนคุ้นตาไว้ตรงหน้าผม มันคือไอโฟนของผมนั่นเอง ไอถ่าน พอได้ยินผมเรียกชื่อเซฮุน ก็เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวตรงหน้า ทั้งๆที่ตีนไก่ยังคงคาอยู่ที่ปาก
มึงจะซกมกเอาโล่หรอ ไอ้เด็กดำ
“เราเห็นคยองซูลืมมันไว้ที่โต๊ะม้าหินอ่อน”
“อ่อๆ” ผมหลบตามัน “ขอบคุณ”
“ไปนะ”
“อือ”
เงียบ
เกิดความเงียบขึ้นบนโต๊ะอาหาร หลังจากที่เซฮุนเดินหันหลังออกไปแล้ว จงอินรีบคายตีนไก่ในปากทิ้งจากนั้นก็กระดกน้ำขึ้นอึกๆแล้วพูด
“รู้นะพี่คิดอะไรอยู่”
“อะไร!” ผมทำหน้าเลิกลั่ก “ รู้ไร มึงจะมารู้ความคิดกูได้ไง”
“ฮึ J” มันแสยะยิ้มครับ ทำหน้ากวนตีนมาก ณ จุดนี้ “พี่ยังลืมพี่เซฮุนไม่ได้”
“…”
“ผมรู้นะ ว่าพี่ไม่ได้ทำไอโฟนหาย” ตอนนี้เหงื่อมากไมไม่รู้แม่งไหลมาจากทวีปไหนนักหนา กำลังมากระจุกรวมกันอยู่ที่ใบหน้าผม มันค่อยๆไหลอาบไปทั่วใบหน้า เปรียบเสมือน ใบหน้าน้อยๆของคยองซูเป็นน้ำตกไนแองการ่า มือทั้งสองชื้นไปด้วยเหงือ ความรู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่แอบขโมยกางเกงในพี่คริสมาใส่แล้วเล่นโดนจับได้ยังไงไม่รู้
“พี่แค่ ‘แกล้งลืม’ มันใช่ไหมล่ะ“
“อะไร แกล้งลืมอะไร รีบแดกข้าวให้หมดๆซะ กูจะไปติวฟิสิกส์” ผมดันจานข้าว ที่มันเพิ่งคายตีนไก่ลงไปเมื่อกี้ไปให้มันอีกรอบ
“พี่ยังลืมพี่เซฮุนไม่ได้” มันพูดย้ำอีกรอบ “สายตาของพี่น่ะ อ่านง่ายจะตายไป ผมอยู่กับพี่มาตั่งแต่เกิดนะ อย่าลืม”
“คยองซู” ชานยอลเรียกผมเสียงอ่อน แน่นอน เราเป็นเพื่อนกันมาได้นานพอสมควร เพราะฉะนั้น ไม่แปลกที่มันจะรู้เรื่องของผมดีไปซะทุกอย่าง ไม่ต่างจากไอเด็กถ่าน ที่ขลุกอยูกับผมมาตั้งแต่เกิด และเรื่องนี้มันก็รู้
ผมเคยคบกับเซฮุนเมื่อสองปีก่อน พูดได้เต็มปากเลยว่าคบ เพราะคนนี้ผมรักมาก ผมลงทุนรุกเข้าหาเซฮุนด้วยตัวเอง เพราะกลัวว่า ถ้ามัวแต่กระแดะเขินอายแล้วคนอื่นจะมาชิงเซฮุนไปซะก่อน ถึงภายนอกมันจะดูตุ๊ดๆแต่โครตพ่อโคตรแม่ป็อปอ่ะ
ตลอดช่วงเวลาที่คบกันมา ผมดูแลเซฮุนดีมากๆ จนบางที ก็โดนมี้ดุอยู่หลายครั้ง จากการฟ้องของเด็กถ่าน ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้น้อง ไม่ค่อยดูแลน้อง จนบางทีผมก็อยากจะเถียงออกไปอยู่เหมือนกันว่า ‘น้องเป็นเด็กนักเรียนม.4 ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน!’ แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เงียบครับ ขืนพูดไป
ถูกลดสถานะลงไปเป็นคนใช้แน่…
พอเริ่มเข้าเดือนที่หก ความสัมพันธ์เริ่มระหองระแหง เมื่อผม ไม่ได้หยุดอยู่ที่เซฮุนแค่คนเดียว …
ก็อย่างว่าแหละ คนมันหน้าตาดี ไปไหนใครๆก็เข้ามาจีบ มันเลยทำให้ผม สะสมเด็กๆกิ๊กก๊อกได้เกือบโหล และสุดท้าย เซฮุนก็จับได้และระเบิดมันออกมา
ผมชิงบอกเลิกเซฮุนไปซะก่อน เพราะการถูกบอกเลิก มันเจ็บและเสียหน้ากว่าเป็นไหนๆ
“กูไม่ได้คิดอะไรกับมันแล้วจริงๆ ทุกวันนี้กูก็มีความสุขกับชีวิตแบบนี้ พวกมึงอย่าคิดไปเองได้ป่ะ”
“ช่ายย แล้วอีกอย่าง ตอนนี้พี่เซฮุน ก็คบกับพี่ลูฮานอยู่ด้วย น้องแบคเชียร์คู่นี้อยู่ ><อ๊ะ จงอิน เสียมารยาทน่ะ ตีนไก่นั่นของแบคนะ”
“ก็พูดมากอ่ะ แง่มๆ”
“สนใจกินตีนแบคด้วยมั๊ย เอาคืนมานะ!” แล้วบรรยาการคุกรุ่นบนโต๊ะก็หายไปโดยมีเสียงตบตีแย่งตีนไก่ของไอเด็กถ่านกับน้องแบคเข้ามาแทน
จริงๆนะ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเซฮุนแล้วจริงๆ ก็แค่แกล้งลืมโทรศัพท์ไว้ที่ม้าหินอ่อนตอนเซฮุนเดินมาเพราะอยากรู้ว่ามันยังสนใจผมอยู่รึปล่าวเท่านั้นเอง
ไม่ได้คิดเลยนะ!!
J
-----------------------
ฮ่าๆๆๆๆๆ จบอีกหนึ่งตอน คือ มีคนจำได้ด้วยว่าเราเคยลงไปแล้วและก็เคยลบไปรอบนึง ฮ่าๆๆๆ รูปป่ะว่าดีใจอ่ะ *-* ไม่คิดว่าจะมีคนจำได้ คือตอนนั้นลงไปไม่กี่ตอน ยังไงก็ ขอฝากพี่คยองขาโหด?กับน้องถ่านแบเบาะไว้ในอ้อมอกอ้มใจด้วยนะค้าาาา
ความคิดเห็น