คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 : คน | คั่น | กลาง
***เลาแก้คำผิดเเล้วน๊าาาา ><
ตอนที่ 6
คน | คั่น | กลาง
จุนโฮค่อยๆดันไหล่บางลงไปนอนราบติดกับพื้นเตียง จินยองที่กำลังจะเอ่ยร้องขอความช่วยเหลือเป็นต้องเงียบไปเพราะฝ่ามือหนาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาอุดปากตนเอาไว้จนเเน่น
“จินยอง...”
“เป็นของครูนะ"
----------------
มาร์ควิ่งเข้าไปในตัวตึกด้วยความรวดเร็ว เขาไม่เคยรู้สึกร้อนรนถึงขนาดนี้มาก่อน
ราวกับความรู้สึกเป็นห่วงมันกำลังปะทุขึ้นจนจุกไปทั้งใจ
ลมหนาวตีปะทะหน้า เเม้ริมฝีปากจะเเห้งเเตกจนรู้สึกเจ็บ แต่ขาของเขาก็ยังคงวิ่ง...
ราวกับช่วงเวลากับระยะทางระหว่างหน้าตึกไปห้องพยาบาลมันไกลกันมากอย่างกับข้ามทวีป เขาทั้งร้อนรนทั้งกังวล เเม้จะนึกหงุดหงิดที่ไม่ว่าจะออกเเรงวิ่งเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึงเสียที เวลาเพียงเสี้ยววินาที ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับจินยองเเล้วเขาจะทำยังไง!
ทันทีที่เห็นป้ายห้องพยายบาล ฝ่ามือหน้าคว้าเข้าที่ลูกบิดประตู เเต่ช่างโชคร้ายที่มันถูกล็อคจากด้านใน
มาร์คแนบหูของตนเข้ากับประตู ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา เขาเกือบจะถอดใจเเล้วคิดว่าในห้องนี้ไม่มีคนอยู่จริงๆไปเเล้ว หากว่าสายตาคู่คมไม่หันไปสะดุดเข้ากับรองเท้าผ้าใบคู่หนึ่ง
รองเท้าของจินยอง
“จินยอง!!!”
“จินยอง!!! นายอยู่ในนั้นใช่ไหม!!! จินยอง!!!!” มาร์คทั้งเขย่าประตู ทั้งตะโกนเรียก เเต่ทว่าก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเเม้เเต่น้อย
“ยืมกิ๊ฟดำหน่อยได้ไหม" มาร์ควิ่งเข้าไปหานักเรียนหญิงสองคนที่กำลังจะเดินผ่านไป แม้พวกเธอจะเริ่มส่งสายตาในเเบบที่เขามักจะได้รับประจำมาให้ก็ตาม เเต่ในเวลานี้มาร์คไม่มีอารมณ์มาสนใจอะไรทั้งนั้น
ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของเขามันอยู่ตรงนั้น หลังประตูบานนั้น
“อยากได้ก็มาหยิบเองสิ" สาวเจ้าดูเหมือนจะเล่นตัวเล็กน้อย เธอทำท่าเขินอายหลบตาหากทว่ากลับเอียงผมของเธอมาทางเขาเป็นนัยว่าให้ดึงกิ๊ฟติดผมออกไปด้วยตัวเอง
มาร์คตะปบกิฟดำตัวนั้นก่อนจะดึงกระชากออกมาอย่างเเรงจนเธอคนนั้นต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
หญิงสาวกุมหัวตัวเองเอาไว้เเน่นก่อนจะมองมาที่มาร์คด้วยสายตาตัดพ้อ
มาร์คที่กำลังดึงเศษผมที่ติดมากับกิฟทิ้งราวกับมองไม่เห็นเธอคนนั้นอีก ในที่สุดหญิงสาวก็กระทืบเท้าเดินปึงปังออกมาจากตรงนั้น ไอ้ที่เขาว่ากันว่ามาร์ค ต้วนไม่มีหัวใจหรือความรู้สึกก็น่าจะจริงทำกันขนาดนี้ ไม่จิกหัวตบเลยหละ เฮอะ!
มาร์คเเหย่กิฟดำลงไปในรูกุญเเจ เขาพยายามบอกตัวเองให้มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังกระทำตรงหน้า
กริ๊ก..
เสียงลูกกุญเเจถูกปลดล็อคดังขึ้น มาร์ครีบบิดเเละผลักมันเข้าไปด้านใน ภาพตรงหน้าประจักแก่สายตา จินยองที่กำลังถูกครูจุนโฮป้อนจูบอยู่บนเตียง มันทำให้เส้นความอดทนของเขาขาดลง
“จินยอง!!!”
“จินยอง!!! นายอยู่ในนั้นใช่ไหม!!! จินยอง!!!!”
จินยองได้ยินเสียงของมาร์คที่กำลังทุบประตูอยู่ด้านนอก ร่างบางทั้งพยายามดิ้น ขัดขืนเพื่อให้หลุดออกมา เเม้จะถูกฝ่ามือหนาปิดปากเอาไว้จนเเน่น ในเวลานี้จินยองรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว
อั๊ก!
เรี่ยวเเรงทั้งหมดที่พยายามใช้ขัดชืนปกป้องตัวเองหมดลงทันทีที่อีกฝ่ายใช้กำปั้นต่อยลงที่ท้องน้อยของเขา
คุณครูค่อยๆปลดกระดุมชุดนักเรียนของเขาออกอย่างรีบร้อน จนสุดท้ายก็กลายเป็นการกระชากจนหลุดออกมาทั้งหมด
จินยองส่ายหน้าไปมา ในเวลานี้น้ำตาของเขาไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว
เสียงทุบประตูด้านนอกเงียบไปแล้ว ความจุกกำลังเล่นงานร่างบางจนเจ็บ
“ทำไมถึงร้องไห้หละคนดี...”
“เเต่ว่านะ"
“จินยองตอนร้องไห้ ก็เร้าใจครูไปอีกเเบบ"
จุนโฮมองภาพลูกแมวน้อยตรงหน้า ในเวลานี้จินยองช่างน่าขย้ำอะไรเเบบนี้
ผิวขาวหน้าท้องบางเเผ่นอกเล็กที่โผล่ออกมานอนเสื้อเชิ๊ตสีขาว ใบหน้าหวานฉ่ำดวงตาเเดงก่ำเปราะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
จุนโฮปีนขึ้นไปบนเตียงในห้องพยาบาล จินยองพยายามกั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้โดยการกัดปากจนห้อเลือดไปหมด
จุนโฮยกเเขนขึ้นคล่อมร่างบางบนเตียงพร้อมๆไปกับการพิจารณาใบหน้าลูกศิษย์ของตัวเอง
ยิ่งมองใกล้ๆปาร์ค จินยองก็ยิ่งน่ารัก
“ครู ปล่อยผมไปเถอะครับ"
“นะ"
ถ้านี่เป็นการขอความช่วยเหลือหรือเห็นใจ จุนโฮพูดเลยว่ามันไม่ได้น่าสงสาร ยิ่งในสถานการณ์เเบบนี้ มันกลับยิ่งทำให้อารมณ์ของเขามันจุดสูงขึ้น ยากยิ่งที่จะหยุดยั้งตัวเองอีกต่อไป
จินยองมองจุนโฮที่จุดยิ้มขึ้นที่มุมปาก อีกฝ่ายพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจในคำพูดเหล่านั้นของเขา หากทว่าการกระทำกลับตรงกันข้าม
“จินยองอ่า...”
“ครูขอนะ"
จุนโฮโน้มใบหน้าลงไปมอบจูบที่เเสนหวานให้กับลูกเเมวน้อยในกำมือ ฝ่ามือเล็กที่คอยเอาเเต่ผลักไสเขาตลอดเวลา เขาคว้ามันไว้ก่อนจะกดมันลงกับเตียง
จินยองยังคงร้องไห้ไม่หยุด ยิ่งถูกอีกฝ่ายกระทำการล่วงเกินเเบบนี้ เขาก็ยิ่งขัดขืน
จุมพิตดุดัน จาบจ้วง จุนโฮค้นพบว่าโพร่งปากอ่อนนุ่มของจินยองมันหวานมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้เป็นไหนๆ
เขาค่อยๆกัดริมฝีปากอิ่มตึงด้านล่างเบาๆพร้องทั้งดูดมันจนเกิดเสียงหน้าอาย
จินยองหยุดดิ้นเเละขัดขืน โลกทั้งหมดของเขามันมืดลง ราวกับสัตว์ตัวน้อยที่รับรู้ชะตากรรมของตัวเองหลังจากนี้
ราวกับว่าเขาคือกวางตัวน้อย ที่กำลังรอการลงทัณฑ์จากราชสีห์
ผ่าง!!!
ปึ๊ก!
พลัก!!!
“ไอ้ชั่วเอ้ย!!!”
ราวกับเเสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมากลางใจ โลกของจินยองถูกเปิดสวิตไฟอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นมาร์คต้วนปรากฎกายที่ตรงหน้า
หลังจากที่มาร์คเปิดประตูเข้ามาในห้องได้สำเร็จ เขาไม่ลังเลที่จะวิ่งเข้าไปประเคนฝ่าเท้าถีบยันเข้าที่กลางหลังของจุนโฮ
คุณครูของพวกเขาเสียหลังลงไปนอนกองกับพื้น ยิ่งมาร์คได้มองใบหน้าของจินยองใกล้ๆ ความเดือนพาลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ร่างบางที่ด้านบนกระดุมเสื้อหลุดออกทุกเม็ด ไหนจะภาพบาดตาในตอนเเรกที่เปิดประตูเข้ามาอีก
ไอ้ชั่ว มึงไม่ได้ตายดีเเน่!
จุนโฮค่อยๆตั้งหลักลุกขึ้นมาจากพื้น เเต่มาร์คไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำได้สำเร็จ ท่อนขาเเข็งเเกร่งยกขึ้นเตะเสยปลายคางอีกครั้งก่อนจะกระทืบซ้ำลงไปที่หน้าท้องของอีกฝ่าย
จินยองได้เเต่มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เพราะมาร์คแทบไม่เเสดงอารมณ์ใดๆออกมาทางสีหน้าเลย
อีกฝ่ายต่อยคุณครูจนเลือดไหลไปหมด เเต่กระนั้น ใบหน้าของมาร์คก็ยังคงเรียบนิ่ง
มาร์คหยุดต่อยลงเมื่ออีกฝ่ายสลบเเน่นิ่งไปเเล้ว เขารีบปรี่เข้าไปหาใครอีกคนที่ยังคงนอนสอื้นเงียบๆอยู่บนเตียง
“มาร์ค...ฮืออออออออ" จินยองปล่อยโฮออกมาในที่สุด เขาดีใจเหลือเกินที่อีกฝ่ายมาช่วยเขา ความหวาดกลัวในใจ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นถูกลบให้หายออกไปด้วยเพียงฝ่ามือหนาที่ลูบสัมผัสอย่างอ่อนโยนบนเส้นผมสีเข้ม
มาร์คค่อยๆดึงร่างบางๆของจินยองให้ลุกขึ้นนั้น เขามองสำรวจร่างกายของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
“ใส่สิ" มาร์คถอดเสื้อเชิตนักเรียนสีขาวของตนออก จินยองรับมันมาเเต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมสวมมันเสียที
มาร์คที่ตอนนี้เหลือเพียงเสื้อกล้าม ค่อยๆใช้ปลายนิ้วเช็ดรอยน้ำตาออกจากใบหน้าหวาน ปลายนิ้วสากลูกไล้อย่างอ่อนโยนก่อนจะไปจบลงที่ริมฝีปากอิ่มที่เเตกจนมีเลือดซิปติดอยู่
พวกเขาสบตากันในระยะประชิด สำหรับจินยอง เขาคิดว่าในสายตาของมาร์คตอนนี้ เขาคงน่ารังเกียจเต็มที
เพราะร่างบางคิดเเบบนั้น น้ำตาที่ดูเหมือนจะหยุดไหล่ไปเเล้ว ถึงได้กลับมาไหล่อีกครั้ง
มาร์คเองก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเสียขวัญเอามากๆ ถึงได้เป็นคนจัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกฝ่าย
มาร์คค่อยๆติดกระดุมทีละเม็ดๆเข้าด้วยกัน เเม้จินยองจะพยายามเช็ดน้ำตาของตัวเองจนรอบดวงตาช้ำไปหมดเเล้วก็ตาม เเต่มาร์คกลับทำเพียงจัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เรียบร้อยตามเดิม
มาร์คลูบผมที่ยุ่งเหยิงของจินยองให้เข้าทรง ก่อนจะเอื้อมมือลงมาดึงรั้งกกกอดให้จินยองหายเข้าไปในอกของตน
ไม่เป็นไรนะ
ฉันจะอยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้กับนาย
จินยองยกมือขึ้นกอดตอบมาร์คเบาๆ เขาต้องการที่จะซึมซับความอบอุ่นจากคนคนนี้เอาไว้ให้มากที่สุด
ขอบคุณนะมาร์ค ขอบคุณ
ขอบคุณจริงๆ ที่มาช่วยฉัน
--------------
“ผมฝากด้วยนะครับผู้อำนวยการ"
“หวังว่าการตัดสินโทษของครูจุนโฮมันจะเหมาะสม"
“เพราะผมเองก็ไม่ค่อยอยากเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อเท่าไหร่"
มาร์คทำเพียงก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงให้ความเคารพก่อนจะกระชับมือของจินยองให้เเน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วเดินออกไปจากห้องของผู้อำนวยการ
มาร์คมองร่างบางเจ้าของตำเเหน่งตุ๊กตาหน้ารถด้วยสายตาเป็นห่วง
จินยองเอาเเต่นิ่งเเล้วก็กอดตัวเองไว้อยู่เเบบนั้น
มาร์คใช้มือของเขาจับเข้ากับมือของจินยองเบาๆ ร่างบางหันมามองเขาเเต่เขาไม่ได้หันไปมองอีกฝ่ายกลับ ทำเพียงขับรถต่อไปเรื่อยๆเเบบนั้น
“ลงมา" มาร์คเปิดประตูฝั่งจินยองก่อนจะยื่นมือของตนเป็นเชิงให้อีกฝ่ายจับมันไว้
จินยองยื่นมือของตนออกมาจับเข้ากับฝ่ามือหนา ทันทีที่มองทอดออกไปในระยะสายตา ภาพหาดทรายสีขาวกับทะเลสีครามก็ปรากฎเเก่สายตากลมโต อากาศสดชื่น บวกกับเเสงสีสมของท้องฟ้าในยามเย็นเช่นนี้ มันทำให้เขาผ่อนคลายจากความตึงเคลียดเมื่อครู่ที่ตนเป็นคนสร้างขึ้น
มาร์คยิ้มตามยิ้มน้อยๆของจินยอง เขาค่อยๆจูงอีกคนให้เดินลงไปบนหาดทราย เสียงคลื่นกระทบกับชายฝั่งดังคลอประสานกับเสียงนกตัวน้อยที่กำลังบินกลับรัง
มาร์คค่อยๆนั่งคุกเขาลงตรงหน้า ฝ่ามือหนาค่อยๆส่งไปพับขากางเกงให้กับอีกคนราวกับกำลังเเต่งตัวให้ตุ๊กตา
เขาค่อยๆถอดรองเท้าเเล้วก็ถุงเท้าของจินยองออก ทุกการกระทำของมาร์คมันอยู่ในสายตาของเขาตลอด
เขาเงยหน้ามองเจ้าของฝ่าเท้าเปลือยเปล่าก่อนจะยิ้มออกมา
มาร์คลุกขึ้นอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปจับผสานไว้กับฝ่ามือน้อยๆของจินยอง
“ไปเดินเล่นกันนะ" ถ้าหากจะเปรียบว่าความอบอุ่นในเวลานี้ของมาร์คต๊วนเทียบเท่าได้กับอะไร เขาก็คงบอกได้ว่ามันเหมือนกับเเสงอาทิตย์ในยามเย็นเช่นนี้ คือไม่ร้อนเกินไปจนเเผดเผ่า เเต่กลับอบอุ่นมากมายเสียจนรู้สึกชุ่มชื้นไปทั้งหัวใจ
เขาทั้งสองค่อยๆเดินลงไปในทะเล เพราะระดับน้ำของมันลึกอยู่เเค่ระดับข้อเท้าของคนทั้งคู่ มาร์คก็เเค่หวังว่าสายน้ำเย็นๆนี่จะทำให้จินยองสบายใจขึ้นได้ ตอนนี้จินยองเหมือนคนที่มีเรื่องอยากจะพูดมากมายหากทว่าเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้เเทน
มาร์คจับไหล่ให้อีกคนหันมาเผชิญหน้า เส้นผมสีเข้มอ่อนนิ่มบริวไสวตามเเรงลมขับให้ใบหน้าหวานดูน่ารักมากๆ มากมายเสียจนมาร์คอดไม่ได้ที่จะส่งมือไปลูบหัวของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู
“ไม่สบายใจใช่ไหม" มาร์คเอ่ยออกไป เเละจินยองก็พยักหน้าขึ้นลงน้อยเป็นเชิงตอบคำถามว่าใช่
“อยากให้ฉันช่วยไหม"
มาร์คยกมือขึ้นเกลี่ยริมฝีปากอิ่มที่ยังบวมเต่งเเละมีรอยเเตกอยู่บนนั้นเบาๆ
“ให้ฉันช่วยเถอะ"
เเละคำตอบของร่างบาง คือการหลับตาลงเเละเชิดหน้าขึ้นสำหรับจุมพิตนี้ที่มาร์คจะมอบให้
มาร์คค่อยๆโน้มตัวลงไปมอบจุมพิตดื่มด่ำเเละอ่อนโยนให้กับจินยอง ราวกับต้องการจะส่งมอบความรู้สึกเเล้วก็อีกครึ่งหนึ่งของหัวใจไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้ เขาหวง เขาหวงริมฝีปากเเสนหวานของจินยองยิ่งกว่าอะไร ขนมหวานชั้นเลิศที่เขาหวังเพียงจะได้ครอบครองมัน เขาหวังเพียงให้อีกฝ่ายรับรู้เเละตอบรับความรู้สึกของเขาบ้าง
เเต่เพียงเเค่ตอนนี้ จินยองยอมรับจุมพิตที่เเสนหวานนี้ เเละตอบกลับมาอย่างน่ารัก เท่านี้มันก็เพียงพอ เพียงพอเเล้วจริงๆ สำหรับเขา
มาร์คถอนจูบออกมาอย่างเชื่องช้า นึกเสียดายในความหวานที่ไม่ว่าจะชิมเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ
“ฉันลบรอยพวกนั้นให้เเล้ว"
“จินยอง...ทำไมถึงได้หวานอะไรเเบบนี้ ขอร้องเถอะต่อจากนี้ สัญญานะว่าจะเก็บมันเอาไว้ให้ฉันคนเดียว"
“คนบ้า" จินยองปัดฝ่ามือของเขาที่เกาะกุมอยู่ตรงไหล่ออกด้วยความเขินอาย ร่างบางทำเป็นเดินเลี่ยงออกไป เเต่ถึงอย่างนั้น หลักฐานความเขินอายบนเเก้มใสนั่นก็ทำให้มาร์คอารมณ์ดีขึ้นมาได้
อ่า...
จินยองนี่ น่ารักจริงๆเลยเน๊อะ ^^
---------------
“อ่า...อะไรนะฮะ งื้อออ จินยองลืมกุญเเจไว้ในบ้านหนะฮะ ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวรอพี่เเจบอมกลับมาก็ได้ฮะ...ฮะ...เที่ยวให้สนุกนะฮะ รักนะฮะออมม่า"
ทันทีที่จินยองวางสายจากพ่อเเล้วก็เเม่ ที่เเอบหนีไปสวีทกันที่เกาะเชจูสองต่อสองโดยไม่บอกไม่กล่าวกันล่วงหน้า
อันที่จริงก็บอกเเล้วนั่นเเหละว่าจะไปวันครบรอบเเต่งงาน เเต่ทำไมไม่บอกกันซักหน่อยว่ามันคือวันนี้ หงึ!
ดูสิ เเล้วดันลืมกุญเเจไว้ในบ้าน ต้องทำไงละ วันนี้เเจบอมมีซ้อมว่ายน้ำถึงหนึ่งทุ่มด้วย นี่เขาคงไม่ต้องนั่งคุยกับคุณยุงรอจนกว่าพี่ชายจะมาหรอกใช่ไหม ฮือออออ
จินยองลองโทรหาพี่ชายของตน เเต่ทว่ากลับไร้สัญญานตอบรับ วันนี้มันวันอาร๊ายยยยย ทำไมผมถึงได้โชคร้ายอย่างนี้ T_T หรือว่านี่คือปีชงของเนียร์ ฮรึก ฮืออออออ
มาร์คมองใบหน้าหวานข้างตัวที่กำลังอารมณ์หงึได้ที่
“มีไร" จินยองหันมาทางมาร์คก่อนจะค่อยเล่าความเป็นไปทั้งหมดให้มาร์คฟัง
“เเล้วเราดันลืมกุญเเจสำรองไว้ในบ้านงะ โทรหาพี่ พี่ก็ไม่รับ งื้อออ" ร่างบางซุกหน้าของตัวเองลงกับคอนโซนรถคันหรู ทำไมถึงได้เป็นคนไม่รอบคอบเเบบนี้ ลืมวันไหนไม่ลืม มาลืมวันนี้ T^T
“งั้นไปนอนบ้านฉันก่อนก็ได้ เอาไว้พี่ชายว่าง ค่อยให้มารับก็ได้" มาร์คพูดไว้เเค่นั้น จินยองที่มีท่าทีลังเลเพียงนิดอยากจะพูดปฎิเสธออกไปเพราะเกรงใจหากทว่าก็ไม่ทันเสียเเล้วเมื่อมาร์คเหยียบคันเร่งออกตัวสารถีคู่ใจไปข้างหน้า มุ่งตรงไปยันคอนโดของตัวเองเเบบไม่รอฟังคำตอบใดๆของอีกฝ่ายเลยเเม้เเต่น้อย
ถ้าจะขับเร็วขนาดนี้ เเล้วเมื่อกี้จะมาถามเราทำไมกัน หงึ!
-------------
จินยองเดินเข้ามาฝายในห้องสวีทสุดหรูหราของคอนโดใจกลางเมืองที่ต่อให้เก็บเงินทั้งชาติตัวเขาก็คงไม่มีปัญญาซื้อด้วยความรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
มาร์คเดินไปหยิบน้ำมาให้อีกฝ่ายดื่ม ยังดีหน่อยที่วันนี้เเม้บ้านเข้ามาทำความสะอาดให้ ไม่อย่างนั้นจินยองคงได้นั่งปนกับกองเสื้อผ้าไม่ก็มหกรรมจานชามที่กินทิ้งไว้ไม่ยอมล้างของเขา
“ขอบคุณนะ"
ห้องทั้งห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง ทั้งๆที่มาร์คต้วนกำลังมองไปที่จินยอง หากทว่าจินยองกลับไม่มองมาสบตามาที่ตนเลย เอาเเต่เสหลบไปมาอยู่อย่างนั้น
“จินยอง"
“ที่เมื่อตอนเย็นฉันพูดไว้"
“ฉันจริงจังนะ"
เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มาร์คพูดจบ
ถ้าถามว่าทำไมจินยองถึงยังไม่ให้คำตอบกับมาร์คเสียที มันก็คงเป็นเพราะว่าเขายังไม่เเน่ใจ
เขาไม่เเน่ใจ ว่ามาร์คจะชอบเขาจริงๆ เหมือนอย่างที่เขาชอบมาร์คจริงๆหรือเปล่า
มาร์คหล่อขนาดนั้น มีสาวๆชอบตั้งเยอะ
ดูอย่างฮยอนอาสิ
จินยองไม่รู้เลยจริงๆว่าจะเอาอะไรไปสู้ : (
“อ่า จินยองไปอาบน้ำก่อนเถอะ ไปทะเลมาตัวคงเหนียวน่าดู เดี๋ยวจะเอาชุดไปวางไว้ให้นะ"
มาร์คเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไปมากกว่าที่จะนั่งอยู่ตรงนั้นต่อ
แววตาที่ทั้งมั่นใจเเละสับสนมันบ่งบอกเเทบจะทั้งหมดว่าจินยองยังไม่มั่นใจในตัวเขา
ในจังหวะที่มาร์คกำลังจะหายเข้าไปในห้อง จินยองก็ได้เอ่ยเรียกรั้งตัวเขาเอาไว้
มาร์คหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะค่อยๆหันไปทางที่จินยองนั่ง
“เรารู้สึกดีกับมาร์คนะ"
“เเต่รอบตัวมาร์คมีเเต่คนสวยๆทั้งนั้นเลย"
“เรา...เรา....”
จินยองกำมือทั้งสองข้างเอาไว้เเน่นอย่างประหม่า เเม้สายตาคู่นี้จะไม่หันหลบไปนั้น ทว่าเเก้มทั้งสองข้างกับเเดงปรั่งจนมาร์ครู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูไปหมด
เหมือนมาร์ชเมโล่รสสตอเบอร์รี่เลย ให้ตายเถอะ
“นายไม่ต้องทำอะไรหรอก"
“อยู่เฉยๆเเบบเดินนั่นเเหละ"
“เดี๋ยวหลังจากนี้ ฉันจีบเอง"
ฟองสบู่ถูกเป่าลอยละล่องกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณห้องน้ำโดยร่างบางที่กำลังนอนเขินเเละยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า
นึกถึงที่มาร์คพูดเเล้วก็อยากจะจมลงไปในน้ำเสียให้รู้เเล้วรู้รอดไป คิดว่าจินยองเขินไม่เป็นหรือไงบ้าจริง >///<
(ไงจินยอง) จินยองเอื้อมมือไปกดเปิดลำโพงเมื่อเสียงโทรศัพท์ดัง เเละน้ำเสียงที่เข้ามาทักทายนั่นถึงทำให้รู้ว่าปลายสายไม่ใช่ใคร หากเเต่เป็นพี่เเจบอมนั่นเอง
“ฮยองฮะ พ่อกับแม่ไม่อยู่ เเล้วผมก็ลืมกุญเเจไว้ในบ้าน ตอนนี้อยู่บ้านเพื่อนนะ"
จินยองเอ่ยออกไปเเค่นั้นก่อนจะกดตัดสาย หากว่าไม่ได้ยินเสียงของพี่ชายดังรอดออกมาก่อน
(เฮ้ยย อยู่ไหน บอกก่อนเดี๋ยวไปรับ เพื่อนคนไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย)
“เดี๋ยวส่งโลเคชั่นไปให้ ตอนนี้อาบน้ำอยู่เเค่นี้นะ" จินยองกดตัดสายไปก่อนจะขึ้นไปล้างตัวกับฝักบัวจนสะอาด
ในขณะที่กำลังเป่าผมก็กดเเชร์โลเคชั่นไปด้วย อันที่จริงก็ไม่อยากให้เเจบอมมาหรอก เเต่อีกฝ่ายก็คงจะเป็นห่วงเขามากๆน่าดู เเละอาจจะกระหน่ำโทรมาเป็นร้อยๆหรือไม่ก็ไปก่อกวนเเบมเเบมกับยองเเจ เเต่ที่หนักสุดคือการประกาศคนหายลงทวิตเตอร์ให้ชาวบ้านเขาเเชร์กันนั่นเเหละ
โถ่วพี่ชาย บางทีโทรศัพท์น้องก็เเค่เเบตหมด ตอนนั้นยองเเจยื่นโทรศัพท์มาให้ดูเเล้วก็ยังขำ โอ้ยยยยย คุณพี่ชาย อะไรจะต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้น
จินยองเดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเดินนั่งตรงโซฟา
มาร์คเดินสวนเข้าไปใช้ห้องน้ำ หากทว่ากลับใช้เวลาอย่างรวดเร็วก็ออกมาพร้อมกับสภาพผมเปียกไปทั้งหัว
“เราเช็ดให้" จินยองกวักมือเรียกมาร์คให้เดินมานั่งใกล้ๆ เจ้าตัวเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย จินยองค่อยเชิดผมให้อีกคนจนเริ่มเเห้งทีละนิด ผิดกับอีกฝ่ายที่กำลังพ่ายเเพ้ให้กับการกระทำอ่อนโยนเเละกินหอมเย้ายวนใจจากปาร์คจินยองคนนี้คนเดิม
มาร์คจับฝ่ามือที่กำลังเช็ดผมของตนเอาไว้ก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย
จินยองกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ที่ต้องมาสบตากับมาร์คอีกครั้ง คราวนี้ดวงตาคู่คมสื่อความหมายนัยยะที่จินยองเองก็ไม่เข้าใจหากทว่ากลับพอจะเดามันเอา
ปลายนิ้วสากลูบไร้ฝ่ามือบางไปมาในขณะที่ยังจับกันอยู่เบาๆ
“จินยอง"
สายตาสอดประสาน ฝ่ามือกุมกระชับ ใบหน้าเริ่มเขยิบเข้าใกล้
อะไรอะไรมันก็คงจะดีกว่านี้หากทว่า...
กรี๊งงงงงงงง
เเม่งโว๊ะ!
มาร์คสถบกับตัวเองเบาๆในใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของทางคอนโดขึ้นมารับ
“ครับ? อ่าๆ ครับๆ" มาร์ควางสายลงก่อนจะหันมาทางจินยอง
“เดี๋ยวเรามานะ พอดีมีคนมาหา ใครก็ไม่รู้" มาร์คเดินออกไปหากทว่าจินยองก็คว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้
“ให้เราลงไปด้วยสิ สงสัยคงจะเป็นพี่เเจบอมหนะ"
ทันทีที่ชื่อเเจบอมหลุดออกมา มาร์คก็ดันร่างบางไปจนไหล่น้อยประชิดกับกำเเพง
อเไรกัน เมื่อกี้บอกว่ารู้สึกดีกับเขา เเต่ที่นัดผู้ชายอีกคนมาหาคืออะไร
จินยองจะทำเกินไปแล้วนะ
“ง่า~ มาร์คเราเจ็บนะ ไม่ลงไปรับพี่ชายเราเหรอ"
ห๊ะ พี่ชาย
หน้าเเตกไปอีก
อืม
พี่ชาย
“อิมเเจบอม เป็นพี่ชายนายเหรอ"
“อื้ม เกิดก่อนไม่กี่วิเอง เป็นเเฝดเเหละ 555” เมื่อได้ยินดังนั้นเขาถึงได้ยอมปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระก่อนจะบอกให้รอในห้อง เดี๋ยวจะออกไปรับเอง
มาร์คเดินลงมาด้านล่างก่อนจะพบเข้ากับเจ้าของเเผ่นหลังกว้าอย่างอิมเเจบอมยืนหันหลังอยู่ตรงล็อบบี้
“ย่าห์ อิมเเจบอม" มาร์คเอ่ยทักออกไปก่อนจะโบกมือโบกไม้ เจบีหันมาทางเขาด้วยใบหน้าตกใจ
“นี่นาย"
“หุบปากเเล้วตามมา จินยองอยู่ข้างบน" มาร์คเดินไปกดลิฟต์โดยไม่รีรอจนเเจบอมต้องวิ่งตามมา
“นี่จินยองมาอยู่กับนายได้ไง ไอ้เหี้ย มึงทำไรน้องกูยังวะ!” ทันทีที่อยู่ในลิฟต์กันเเค่สองคน เจบีก็ขยุ้มคอเสื้อของอีกฝ่ายจนยับยู่ยี่ผิดรูปทรง
“ตอนนี้หนะยัง เเต่อีกหน่อยก็ไม่เเน่" มาร์คเดินออกไปหลังจากที่ลิฟต์เปิดออก เขากดรหัสประตูก่อนจะเปิดเข้าไป
“จินยองงงงงงงง" ในเวลานี้เจบีไม่มีเวลามาสนใจการตกเเต่งเรียบหรูอะไรของที่นี่ทั้งนั้น เขาโผเข้าหาน้องชายของตน เเต่ยิ่งพบว่าจินยองอยู่ในชุดนอนที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ใช่ของน้องเขาเเน่ๆ เพราะขนาดที่ใหญ่กว่าตัวนั่น ถึงได้มั่นใจว่าเป็นของไอ้ต๊วนเจ้าของห้องเเน่ๆ
“กลับบ้านกัน" เจบีว่าก่อนจะจูงมือจินยองเดิน
“พี่มีกุญเเจบ้านหรือไง" จินยองเอ่ยออกมา เพราะรู้ว่านิสัยของพี่ชายคือไม่พกของพวกนี้
“เออหวะ"
สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการที่เเฝดทั้งสองนอนค้างที่ห้องของมาร์ค หลังจากที่ยืนเถียงกันอยู่นาน ในที่สุดเจบีกับมาร์คก็เงียบลงเมื่อเห็นตัวกลางอย่างจินยองผลอยหลับไปบนเตียง
มาร์คค่อยๆโน้มตัวลงนอนข้างจินยองก่อนจะห่มผ้าให้อย่างทะนุถนอมราวกับกลัวคนตรงหน้าจะเปราะเเตก
“ฝันดีจินยองงี่ของฉัน"
มาร์คค่อยๆลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะปิดตาปล่อยตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราดังเช่นอีกฝ่าย
หากทว่า...
“จินยองงี่น้องกู! ของมึงบ้านพ่องสิไอ้ฟายยยยย!!!!” อิมเเจบอมที่ทนยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ไหว จึงกระโดดขึ้นเตียงพร้อมทั้งนอนคั่นกลางระหว่างมาร์คกับจินยองน้องรักของเขา
เขากอดร่างคนเป็นน้องไว้เเน่น มาร์คมองภาพตรงหน้าก่อนจะล้มเลิกความพยายามที่จะเอาคืน เอาเถอะ ปล่อยคุณพี่หวงน้องเขาไป แม่งงงง ชาติที่เเล้วเกิดเป็นไส้ครีมในโอริโอ้หรือไงชาตินี้ถึงได้ชอบเกิดมาคั่นกลางชาวบ้านชาวช่องเขาเเบบนี้
--------- 100% ----------
TBC.
#มนอีโมชั่น
พี่ปม ชาติที่เเล้วคงจะเป็นไส้ครีมในโอริโอ้จริงๆนั้นเเหละ 5555555
ความคิดเห็น