คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : ของจืดๆ
ตอนที่ 5
ของจืดๆ
“ระหว่างฉันกับนาย"
“มากกว่าเพื่อนได้ไหม"
จินยองเบิกตากว้างราวกับสิ่งที่พึ่งได้ฟังนั้นเป็นเพลงเรื่องราวในความฟัน ฝ่ามือน้อยยกขึ้นบีบเเก้มของตัวเองเเรงๆจนเผลออุทานออกมาด้วยความเจ็บ
มาร์คมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู รอยเเดงจางๆจากเเรงบีบบนเเก้มใสดูกลมกลืนไปหมดกับใบหน้าเเดงจัด
จินยองกำลังเขิน ใช่เขารู้ ถ้าตรงนี้มีกระจกซักบาน เเมวน้อยก็คงจะรู้ ว่าตัวทำท่าน่ารักไว้มากขนาดไหน
“คะ...คือ...”
“เรา...” อยากจะยกมือขึ้นตีปากตัวเองเเรงๆซักสามสี่ที ไอ้อาการเกรงเเล้วก็ติดอ่างนี้คืออะไร เขาไม่กล้าเเม้เเต่จะสบตามาร์คด้วยซ้ำ ตอนนี้หัวใจของผมเต้นเเรงมากๆเลยนี่สิทำยังไงดี มากกว่าเพื่อนเหรอ เป็นมากกว่าเพื่อนคือเป็นอะไรอะ ฮืออออ
“ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้"
“ไว้พร้อมเมื่อไหร่ ค่อยมาบอกเรานะ" มาร์คว่ายิ้มๆก่อนจะจูงมือลากคนที่ตัวบางกว่าไปข้างหน้า
เเค่จินยองเขิน มันก็เหมือนการตอบตกลงเเล้วหละ จริงไหม
ฝ่ามือหนาที่คล้องไว้ตรงข้อมือสัมผัสได้ถึงชีพจรที่กำลังเต้นเเรงมากๆของอีกฝ่าย มันดีจริงๆ การที่หัวใจของใครซักคน เต้นตรงเป็นจังหวะเดียวกันกับเราพอดี
เเล้วมันก็ดีจริงๆ ที่คนคนนั้นคือ ปาร์ค จินยอง
------ #มนอีโมชั่น ------
ในคืนวันนั้น จินยองนอนข่มตาไม่ลงเลยจริงๆ
เขาเฝ้าเเต่มองออกไปที่ด้านนอกของหน้าต่าง คุณดวงดาวกับคุณพระจันทร์ที่คล้ายว่ากำลังยิ้มเเล้วหันมาทางนี้
ระหว่างเรา...มากกว่าเพื่อน
ได้ไหม...
“งื้อออออ~” ริมฝีปากอิ่มสวยกัดเข้าที่ผ้าห่มผืนหนา ใบหน้าเเดงซ่านที่หากทว่าไม่มีความมืดมิดยามรัติกาลบดบังก็คงจะเห็นมันได้ชัด
ความขัดเขินเมื่อตอนเย็นยังคงตอกย้ำเหมือนเพื่อเตือนความทรงจำ ว่าเรื่องราวที่พึ่งผ่านไปนั้น ไม่ได้ฝันไป
'ก็อกๆ'
“จินยองงี่ นอนหรือยัง" เพราะเสียงเคาะประตูห้องนอนถึงทำให้ร่างบางกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง เเม้เวลามันจะล่วงเลยมานานจนเกือบจะเที่ยงคืนเเล้วก็ตาม เเต่ดูเหมือนว่าพี่ชายของเขาจะยังไม่ยอมนอนง่ายๆ
“ยังครับพี่เเจบอม" ตะโกนออกไปแบบนั้นก่อนจะรีบจัดหมอนกับตุ๊กตาที่กระจัดกระจายให้เข้าที่เข้าทาง
“งั้นพี่เข้าไปนะ" เเจบอมผลักประตูห้องนอนเข้ามา น้องชายตัวน้อยที่กำลังนั่งคอยอยู่บนเตียงช่างน่าเอ็นดูเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มน้อยๆไปให้
“นอนไม่หลับเหรอฮะ" จินยองเขยิบที่บนเตียงเพื่อเว้นที่ว่างไว้ให้อีกคนนั่ง เเจบอมเว้นระยะออกไปเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาทิ้งน้ำหนักลงบนต้นขาบาง
จินยองค่อยๆยกมือขึ้นลูบหัวของอีกฝ่ายในยามที่เเจบอมกำลังนอนอยู่บนตักของตน
“ทำไมวันนี้พี่ไปหาที่ห้องเเล้วถึงไม่เจอ" มือที่กำลังลูกผมของพี่เเจบอมหยุดชะงัก จินยองตาเลิกลักก่อนจะเสยิ้มออกมา ในหัวคิดคำเเก้ตัวต่างๆนาๆเเต่สุดท้ายก็จบลงด้วยคำโกหกเพื่อให้อีกคนสบายใจ
“เราไม่ค่อยสบายนะ เลยไปนอนห้องพยาบาล ตื่นอีกทีก็เย็นมากๆแล้ว เนี่ย ออกมาจากโรงเรียนคนสุดท้ายเลยนะ"
อิมเเจบอมมองหน้าของคนเป็นน้อยด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เขาเเค่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะโกหกเขาทำไม ในเมื่อเขาถามยองเเจมาเเล้ว อีกฝ่ายบอก โดนไอ้มาร์คลากออกไปตั้งเเต่พักกลางวัน
มันคงสำคัญมากสินะ ถึงได้ยอมโกหกเขาเเบบนี้
“จินยองโกหก" ฝ่ามือหนายกขึ้นจับฝ่ามือบางที่กำลังลูบผมของตนเอาไว้
มือของจินยอง...เล็กนิดเดียงเอง
ตัวเล็กแบบนี้จะไปสู้เเรงใครไหว
“ระ...เรา" คนตัวเล็กอึกอัก ในยามที่ถูกพี่ชายจับได้ว่าโกหก สิ่งที่เขากลัวไม่ใช่การถูกดุ เเต่เป็นความรู้สึกที่เสียไปของอีกฝ่ายมากกว่า
“พี่เเจบอม...รู้"
"พี่เกิดก่อนนายตั้งหลายวินาที ทำไมเเค่นี้พี่จะไม่รู้" เเจบอมกระชับฝ่ามือเล็กของร้องเอาไว้ เขาชอบที่จะจับนั่นสัมผัสนี่บนตัวจินยอง ถึงเเม้ว่าเราสองคนจะเป็นเเฝดกันก็ตาม เเต่ทุกสิ่งทุกอย่างของเราล้วนต่างกัน...
ในตอนที่พวกเขาทั้งคู่เกิดนั้น พ่อต้องย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ ในขณะที่เเม้ต้องดูเเลกิจการของครอบครัวอยู่ที่นี่
เเม่ตัดสินใจเอาจินยองไว้ เเละพ่อตัดสินใจเอาเขาไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เราทั้งสองคนถึงใช้คนละนามสกุล
พ่อของพวกเขาประสบอุบัติเหตุสนเสียชีวิต อิมเเจบอมในวัน6ขวบถูกส่งให้กลับมาอยู่ที่เกาหลี เขารู้อยู่เเล้วว่าตัวเองมีเเฝด เเต่ก็ไม่เคยเห็นหน้ากันจริงๆมาก่อน
ใครๆก็บอกว่าเเฝดต้องหน้าตาเหมือนกัน เเละบางทีก็สามารถสื่อใจถึงกันได้
เเละในทันทีที่เขาพบจินยอง ถึงเเม้หน้าตาของเราทั้งสองจะต่างกันโดยสิ้นเชิง หากเเต่ความรู้สึกผูกพันธ์ราวกับรู้จักกันมานานเเรมปีนั้นช่างอบอุ่นคร้ายเเสงอาทิตย์ที่เขาตามหา
เเละเพราะจินยองคือน้องชายคนเดียวของเขา...
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะทั้งหวง ทั้งห่วงอีกฝ่าย...มากขนาดนี้
เเจบอมมองใบหน้าหวานของคนเป็นน้องที่ในเวลานี้มันงอง้ำจนเเทบยู่ไปทั้งหน้า
เเต่ถึงอย่างนั้นจินยองก็ยังน่ารักมากๆอยู่ดี เเล้วเเบบนี้เขาจะไปโกรธอีกคนลงได้ยังไงกัน
“จะบมจินยองขอโทษ" จินยองมองสบตาพี่ชายฝาเเฝดที่กำลังนอนหนุนตักของตนอยู่ เเจบอมไม่ตอบอะไร เขาทำเพียงยันตัวขึ้นจากตักอุ่นนิ่มจนเเมวน้อยตัวเล็กนึกหวั่นใจในการกระทำนั้นของพี่ชาย
เเจบอมที่อ่านสีหน้าของจินยองออกทั้งหมดทำเพียงส่ายหน้าพร้อมทั้งส่งยิ้มบางๆไปให้
เขาค่อยๆดันไหลบางให้นอนราบลงกับพื้น จัดท่าจัดทางจนมั่นใจว่าน้องของเขาจะนอนสบายถึงได้ทิ้งตัวลงนอนข้างๆอีกฝ่ายบ้าง
“ถ้าคืนนี้จินยองกอดพี่เเน่นๆทั้งคืน พี่อาจจะหายโกรธก็ได้" จินยองฉีกยิ้มทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่จากปากของพี่ชาย รอยริ้วเป็นขีดคล้ายหนวดเเมวที่ตามันช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจนเเจบอมรู้สึกอยากจับน้องมาฟัดๆเเล้วก็ยัดเข้าปากเสียให้รู้เเล้วรู้รอด
เเจบอมเคยคิดว่าอยากมีน้องสาว
เเต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการเเล้วหละ เเค่มีจินยองก็พอเเล้ว
--------------
เช้าวันใหม่ในโรงเรียน จินยองเล่าเรื่องของตนกับมาร์คให้เพื่อนทั้งสองฟัง ทั้งเเบมเเละยองเเจต่างก็มีสีหน้าเรียบเฉย ดูไม่ได้ตกใจอะไรกันมาก
“กุว่าละ" นั่นคือสิ่งที่เพื่อนทั้งสองบอกกับเขา ทำไม ระหว่างเขากับมาร์คมันดูเเฟนมากเลยเหรอ อะไรกัน ที่ผ่านมาเราก็เพื่อนกันนะ ;_;
“ฮ้ายยยยยยยยย" เสียงทักทายจากเเจ็คสัน เเฮปปี้ไวรัสประจำโรงเรียนดังขึ้น พวกเขาทั้งสามคนหันไปทางต้นเสียงพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“เชี่ยยยยยยยยย" ยองเเจที่กำลังยัดข้าวเข้าปากอย่างมีความสุขถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ ดวงตากลมถะหลึงจนปูนโปนออกมานอกเบ้า
เเม้จะพยายามดันตัวเองออกจากโต๊ะทานข้าวเท่าไหร่เเต่ดูท่าว่ามันคงจะไม่ทันซะเเล้วหละ
“จับได้เเล้ว อ้วนน้อยจะหนีฉันไปไหน ฮี้ฮ้า"
“ฮี้ฮ้าพ่องงงง คราวนี้เเกจะชวนฉันไปทำอะไรอี๊กกกก ไม่ไปว้อยยยยยยยย" ยองเเจเป็นคนที่เสียงดังมากๆเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว
เเละยิ่งในสถานการณ์นี้ ยองเเจก็ยิ่งเสียงดังมากขึ้นไปอีก จนเเจ็คสันต้องตะเบ็งเสียงเเข่งตามไปด้วย
สำหรับจินยองที่ตอนนี้ใกล้หูเเตกเต็มทนจำต้องหลบออกมาให้สองคนนั้นตีกันไปเงียบๆ
เเบมเเบมที่จู่ๆก็เดินตามรุ่นน้องที่ชื่อยูคยอมไปอีกทาง
ครับ เพื่อนๆ ทิ้งผมกับไปหมดเลย งือออออ T_T
ยองเเจกำลังพยายามสะบัดตัวออกจากการเเกะกุมของเเจ็คสัน คราวที่เเล้วมาชวนไปฟันดาบ คราวก่อนหน้าก็ชวนไปว่ายน้ำ เจอกันเมื่อวันก่อนก็ชวนไปวิ่ง คราวนี้อะไรอีกกกก เมิง-จะ-ชวน-กุ-ไป-ทำ-อะ-ไร-อี๊กกกกกกก
ขอเถอะให้อยู่อย่างสงบสุขเสียที ทุกวันนี้เหมือนหวาดระเเวง หูต้องคอยฟัง ตาต้องคอยมอง เผลอเป็นไม่ได้เลยจริงๆ จะอะไรกันนักหนาาา ทั้งโรงเรียนมันมีเราคนเดียวหรือไง ฮ้าาาา
“โอ๊ยยยย ไอ้เตี้ยยยยยยย อะไรกับฉันนักหนาวะ!”
“วันนี้เเกจะเอาอะไร ห๊ะ! เเกจะชวนไปทำอะไรอีก จะไหว้พระดำน้ำปลูปะการังอะไรก็ไม่ไปทั้งนั้นโว๊ยยยยยย" ทันทีที่เเขนบางๆหลุดออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ยองเเจตั้งท่าจะเดินหันหลังออกไปจากโรงอาหาร หากทว่าเสียงของหวัง เเจ็คสันกลับดังขึ้นตามหลังมาว่า
“เเล้วถ้าคราวนี้จะชวนมาเป็นเเฟนหละ!”
“นายจะมาเป็นเเฟนกับฉันไหม"
“!!!”
---------------
ในระหว่างที่จินยองกำลังเดินขึ้นห้องเรียนไปอย่างช้าๆ ขาเรียวค่อยๆก้าวขึ้นขั้นบันไดเเต่ละขั้นอย่างไม่รีบร้อน ป่านนี้ยองเเจคงกำลังทะเลาะกับเเจ็คสัน ส่วนเเบมเเบมก็คงสอนการบ้านยูคยอม...
อ่า นี่มันก็เดือนพฤศจิกายนเเล้วสินะ...
หน้าหนาวเเล้วสินะ...
จะคริสมาสเเล้วสินะ...
เขาหยุดยืนมองออกไปนอนหน้าต่างซักครู่ เเววตากลมหลับลงรับลมหนาวที่พัดปะทะใบหน้า อีกไม่นานหิมะก็คงจะตกลงมา
คริสมาสปีนี้ มันก็คงไม่ต่างจากปีที่ผ่านๆมา
“ฉันชอบนายมากจริงนะมาร์ค"
“ได้โปรด รับรักฉันทีเถอะ"
จินยองรีบมองขึ้นไปด้านตรงช่องว่างระหว่างราวบันได ใบหน้านิ่งเรียบของคนคุ้นเคยอย่างมาร์คกำลังยืนนิ่งมองไปที่ฮยอนอา เพื่อนร่วมชั้นที่ออกตัวมาตั้งนานเเล้วว่ารู้สึกยังไงกับอีกฝ่าย
อ่า... สารภาพรักสินะ
มาร์คจะรับรักไหมนะ เเต่ฮยอนอาก็สวยเสียขนาดนั้น
แปลก...
เขาเนี่ยเเหละเเปลก ทำไมจู่ๆถึงได้รู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแบบนี้
'จินยอง ฉันกับนาย มากกว่าเพื่อนได้ไหม'
ทั้งๆที่ตอนนั้นก็บอกกันมาเเบบนี้เเท้ๆ เเล้วตอนนี้มายืนให้คนอื่นสารภาพรักทำไม!
ดวงตากลมถลึงด้วยความตกใจทันทีเมื่อจู่ฝ่ายหญิงก็เขย่งตัวขึ้นป้อนจูบใส่มาร์คต้วนที่ยืนนิ่งมองเธออยู่เฉยๆ
ฝ่ามือเล็กๆของเธอเอื้อมมือไปกับฝ่ามือของมาร์คให้มาวางลงในตำเเหน่งหน้าอกไซต์บิ๊กของเจ้าตัว อกศาการจูบที่ถูกเธอหักเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนเกิดเสียงน่าอายดังทั่วบริเวณไปหมดจนทำให้ความรู้สึกของคนที่เเอบมองอยู่อย่างจินยองรู้สึกเหมือนอยากจะหนีออกไปให้ไกลจากตรงนี้ เเต่ติดตรงที่ขาทั้งสองข้างมันไม่ยอมขยับ
มาร์คกำลังจูบอยู่กับคนอื่น...
ใจหนึ่ง มันบอกเขาว่า...
ทำไมหละ เขาจะจูบใครมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย
เเต่อีกใจหนึ่งมันก็บอกว่า...
ทั้งๆที่มาพูดเเบบนั้นกับเขาเเล้วเเท้ๆ เเต่กับมาจูบกับคนอื่นคืออะไร ถ้าไม่เต็มใจทำไมไม่ปัดออกหรือขัดขืน
ยิ่งเห็นฝ่ามือหนาบีบเค้นไปที่หน้าอกตูมๆนั่น ขอบตาของจินยองมันก็ยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้น ราวกับจูบของคนทั้งสองมันยาวนาน เขารู้สึกเหมือนกำลังคนจมน้ำที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ
มันทั้งอึ้ง ทั้งจุก มั้งพูดไม่ออก...
เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้จริงๆ
เขาไม่รู้จริงๆว่าในตอนนี้
เขาร้องไห้ออกมาทำไม...
พลันสายตาของมาร์คหันมาเห็นจินยองที่ยืนอยู่อีกชั้นนึงตรงช่องว่างระหว่างราวบันได เขารีบผละตัวออกจากผู้หญิงตรงหน้า เเต่ก็ไม่ทันเสียเเล้ว จินยองวิ่งหนีเขาไปแล้ว
เขาเห็นว่าที่ดวงตานั่นมันดูเเดงๆคล้ายว่าเจ้าตัวกำลังร้องไห้
“จูบก็ห่วย เธอไม่เหมาะกับฉันหรอก" ว่ากับเธอเเต่เพียงเท่านั้น เขาผละตัวออกมาอย่างไม่ใยดี ฮยอนอาที่โดนผลักเซจนล้มลงไปนั่งพับอยู่กับพื้น
เธอเห็นเเล้วว่ามาร์ควิ่งตามใครไป มันคเป็นเรื่องจริงสินะที่ใครๆเขาก็บอก ว่ามาร์คต้วนกำลังชอบปาร์คจินยองอยู่
หึ แล้วมาร์คจะได้รู้
ว่าของจืดๆ ยังไงมันก็มาสู้อาหารเผ็ดๆจานหลักอย่างเขาไม่ได้หรอก
--------- 50% --------
“เอ้า ถ้าครูประกาศชื่อใครให้ออกมารับผลสอบกันด้วยนะ" เสียงของอาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์เอ่ยขึ้น นักเรียนทุกคนเดินออกมารับผลคะเเนอันไม่สู้ดีของตนนัก
“เชรดเข้! เกือบตกหวะ" ยองเเจเอ่ยออกมาทันที่เห็นผลสอบของตัวเอง เพราะวิชานี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นวิชาท่องจำ เเต่อาจารย์เขาจะทำอะไรให้ันเเอดวานซ์กว่านั้น ปีพ.ศ.นี่ไม่ธรรมดานะจ้าา ต้องเอาไปเเปลงเป็น ฮ.ศ. อะไรอีกมากมาย บางทีก็นั่งเเปลงพ.ศ.ประดุจกูกำลังทำข้อสอบคณิต อะไรคือการเชื่อมโยงอดีตปัจจุบันเเล้วก็อนาคตเข้าด้วยกัน ขอความเป็นธรรมในการออกข้อสอบด้วย สอนเเค่ในกรอบออกสอบอราวเดอะเวิร์ด
“ปาร์ค จินยอง" จินยองเดินออกไปรับคะเเนนจากมือของอาจารย์หนุ่ม ในใจดวงน้อยลุ้นระทึกกับผลคะเเนนที่กำลังจะออกมา
จุนโฮมองลูกศิษย์หน้าเเมวที่กำลังจะเดินหันหลังจากไปนั่งที่โต๊ะของเจ้าตัว ยอมรับว่าเขาเเอบมองจินยองมานานเเล้วเหมือนกัน
สายตาของคุณครู ที่มองมายังเด็กน้อย
มันไม่ใช่สายตาที่ปลอดภัย...
เเละมันก็ช่างบังเอิญ ที่สายตาเหล่านั้น มาร์คมองมันออก
“มาร์ค ต๊วน" มาร์คเดินออกไปรับใบรายงานผลคะเเนนต่อจากร่างบาง เขาเหล่มองไปที่ใบหน้าหานเล็กน้อย
ตั้งเเต่ตอนนั้นที่จินยองวิ่งหนีตนออกมา เราก็ยังไม่มีโอกาศได้เคลียกันอย่างจริงจัง เพราะมันถึงเวลาเข้าเรียนพอดี
“ยองเเจ... เเบมเเบม...” จินยองกำผลสอบคะเเนนในมือของตัวเองเอาไว้เเน่น ยองเเจกับเเบมเเบมหันไปทางเพื่อนสนิท เเล้วก็ต้องเห็นเเววตากลมใสสั่นระริก
“เราตกอะ" เป็นใครใครก็ช็อค เพราะคนอย่างปาร์ค จินยอง เนี่ยเหรอจะสอบตกวิชาประวัติศาสตร์...
เขาได้รองท็อบมาตลอด คะเเนนที่สูสีกับมาร์คต๊วนผู้อยู่อันดับ1อย่างเขานะเหรอที่สอบตก
อุตส่าห์อ่านมา รู้สึกว่าทำได้ ทำไมผลที่ออกมามันเป็นเเบบนี้ : (
“บ้าบอ เเกหลอกพวกฉันปะเนี่ย" เเบมเเบมยื้อเเย่งใบกระดาษข้อสอบมาจากจินยอง ดวงตาของเพื่อนทั้งสองเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตน
จินยองตกจริงๆ
“เป็นไปได้ไงวะ" ยองเเจพยายามกระพริบตาถี่ๆราวกับว่าตัวเลขคะเเนนบนหัวกระดาษมันจะเปลี่ยนไป
“สำหรับคนตก ห้องเรามีคนเดียว จินยอง ตอนเย็นไปพบครูที่ห้องด้วยนะ"
“ครับ" ทันทีที่รับคำเสร็จ หัวกลมๆนั่นก็เเทบไถลลงไปนอนกับโต๊ะ มันรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าตัวเองทำผิดตรงไหน ไอ้ตอนที่ทำข้อสอบก็ค่อนข้างมันใจว่ามันตรงกับที่อ่านมา
เฟลมาก ความรู้สึกตอนนี้คือมันเฟลมากจริงๆ
เเถมยังตกอยู่คนเดียวในห้องอีก ฮือออออออ ทำไมถึงได้เป็นคนที่เเย่อะไรเเบบนี้นะจินยอง
จุนโฮมองใบหน้าหวานที่กำลังงอง้ำอย่างน่ารัก รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นตรงมุมปากก่อนจะรีบเปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างๆให้กับนักเรียนทุกคนเพื่อไม่ให้ถูกจับได้
ระหว่างการสอน จินยอง มักจะเป็นจุดที่เขาหยุดสายตาเอาไว้เสมอ เเม้ในวันนี้เจ้าตัวจะไม่สดใสร่าเริงเหมือนวันก่อนๆก็ตาม
เเต่ก็อดปฎิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่ามันก็น่ารักไปอีกแบบ
ทุกคนอาจจะมองว่าเขาเป็นโรคจิตก็ได้ที่ชอบเเอบมองลูกศิษย์ของตัวเอง
บางทีเขาก็คิดว่าตัวเองก็อาจจะเป็นเเบบนั้นจริงๆ เเต่น่าเเปลกที่เขาเป็นมันกับเฉพาะปาร์ค จินยองเท่านั้น
เขาสบตากับมาร์ค ต๊วน ที่นั่งอยู่มุมสุดหลังห้อง
สายตาที่เพียงสบกันเสี่ยวนาทีก็รู้หมดถึงทุกอย่างเเม้ไม่ต้องพูดอะไร
'อย่ายุ่งกับจินยอง' นั่นคือสิ่งที่เด็กนั่นต้องการจะบอกเขา
เเต่อย่าลืม ยังไงเสียเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่า เด็กเมื่อวานซืนอย่างมาร์คจะทำอะไรเขาได้จริงไหม
เเทบจะรอเย็นนี้ไม่ไหวเลยหละ
เย็นนี้ ที่เขาจะได้ลิ้มลอง ปาร์ค จินยองที่เเอบมองมานานเสียที
-------------
และในตอนเย็นวันนั้นเอง จินยองเดินเข้าไปในห้องพักครูหมวดสังคม เขากวาดสายตามองหาอาจารย์จุนดฮที่นัดตนไว้ให้มาซ่อมข้อสอบที่สอบตก
“อ่าว มาเเล้วเหรอจินยอง" เสียงกระซิบที่ดังมาจากด้านหลัง ปอกรกับฝ่ามือหนาทั้งสองข้างที่จับไหล่ทั้งสองของเขาเอาไว้ มันทำให้จินยองรู้สึกไม่ดี...
มันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ
ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิดที่ไม่ดีออก ยังไงเสียอาจารย์เขาก็เป็นครูของเรา จะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะปาร์คจินยอง
“คะ..ครับ อาจารย์จะให้ผมทำอะไรเหรอครับ" จินยองรีบหันหน้าไปคุยกับอีกฝ่าย อาจารย์หนุ่มยังคงปรายยิ้มให้กับเขาอย่างสมำเสมอจนจินยองรู้สึกว่ามันมีเรื่องอะไรให้หน้ายิ้มขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งๆที่เขาออกจะซีเรียส ถ้าอาจารย์จะดุที่เขาตกก็จะไม่เเปลกใจเลย เเต่นี่ดูจากสีหน้าเเล้วเหมือนกำลังมีความสุขมากกว่าเสียอย่างนั้น
“วันนี้ครูมีเข้าเวร ครูขอเปลี่ยนสถานที่นะ" จินยองพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถือกระเป๋าเดินตามอีกฝ่ายออกไปโดยไม่คิดอะไร
ตุนโฮเหล่มองร่างน้อยที่เดินตามหลังตนต้อยๆออกมาจากห้องพักครูที่ยังมีคนอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อเคลียเเละสะสางงานที่เหลือ เขารู้สึกว่ามันคงไม่สะดวก ถ้าจะทำอะไรอะไรที่นั่น
“เข้าไปรอครูด้านในเลย" เขาเปิดประตูห้องพยาบาลให้คนน่ารักเดินเข้าไป ก่อนจะกดล็อคประตูจากด้านในเสียงเบาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน
เข้าเวรอะไรกัน เขาก็เเค่กันทุกคนให้ออกห่างจาก ' เรา ' ก็เท่านั้น
“อาจารย์จะให้ผมทำอะไรครับ" จินยองยืนเก้ๆกังอยู่กางห้องพยาบาล ราวกับไม่รู้ว่าถ้าจะนั่ง จะต้องหย่อนก้นลงที่ตรงไหน
ที่นี่มีเเต่เตียง ถ้าจะให้ไปนั่งบนโต๊ะของอาจารย์มันก็คงไม่ใช่
จุนโฮเดินมานั่งลงบนเตียงตัวที่ใกล้กับร่างบงมากที่สุด
“เเทนตัวเองว่าจินยองสิ" ทันทีที่ได้ยินดังนั้น จินยองก็ถึงกับงงในคำพูดของคุณครูตัวเอง
“อ่า...ครับ อาจารย์จะให้จะ...จินยองทำอะไรครับ" ถึงจะรู้สึกประหม่าเอามากๆ เเต่จินยองก็ยอมเเทนตัวเองตามเเบบที่อาจารย์ต้องการ รอยยิ้มที่มุมปากถูกส่งมาให้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ถึงได้ทำให้เขารู้สึกอยากถอยหลังหนีอีกฝ่ายมากขนาดนี้
สายตาที่มองมา มันไม่เหมือนเดิม
นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกได้
“มานั่งนี่สิ" จุนโฮตบที่นั่งข้างตนบนเตียงปุๆ
จินยองมองไปยังจุดนั้นอย่างไม่เข้าใจ จนเเล้วจนเล่า เจ้าเเมวน้อยก็ยังไม่ยอมลงมานั่งตามคำสั่งของเขาเสียที
“เร็ว" กล่าวอีกครั้งอย่างต้องการเร่งรัด ปลาย้สียงกดต่ำเหมือนดุเล็กน้อยมันทำให้จินยองยอมเดินไปนั่งตามที่อีกฝ่ายสั่งอย่างเสียไม่ได้
เเทบไม่รอช้า จุนโฮสวมกอดนักเรียนของตนเเน่นพร้อมทั้งฝังปลายจมูกลงไปบนเเก้มกลมนิ่มสีชมพูอ่อนที่เฝ้าจินตนาการมานานว่ามันจะหอมหวานเหมือนขนมนิ่มๆไหม
เเล้วเขาก็ได้คำตอบเเล้ว ว่าเเก้มของจินยองอร่อยที่สุด
ไม่เเปลกใจ ถ้าไอ้เด็กมาร์คจะหวงก้างมากขนาดนี้ เเต่คงต้องขอโทษที ถ้าเขาจะขอชิมมันเสียหน่อย
“ครู! ทำอะไรฮะ" จินยองพยายามยื้อตัวออกจากอ้อเเขนของจุนโฮ เเม้ในยามที่โดนขโมยหอมเเก้ไปเเล้วก็ตาม เเต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งเปิดโอกาศให้อีกฝ่ายได้ทำตามใจมากยิ่งขึ้น
จุนโฮค่อยๆดันไหล่บางลงไปนอนราบติดกับพื้น จินยองที่กำลังจะเอ่ยร้องขอความช่วยเหลือเป็นต้องเงียบไปเพราะฝ่ามือหนาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาอุกปากตนเอาไว้จนเเน่น
“จินยอง...”
“เป็นของครูนะ"
--------------
มาร์คมองกระดาษคำตอบของจินยองในมือของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
อ่าห์...ใช่เเล้ว เขาไปเเอบหยิบมาจากกระเป๋าของอีกฝ่ายเอง ทันทีที่เลิกเรียน จินยองก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องพักครู ก็เข้าใจว่าเจ้าตัวอยากจะรีบไปสอบซ่อมเพื่อความสบายใจ ตลอดทั้งวันจินยองเอาเเต่อ่านหนังสือ
เเต่จากที่ดูๆเเล้ว จินยองก็ไม่ได้ตอบผิดเยอะถึงกับต้องตกเสียหน่อย
หลังจากที่ไล่เช็คข้อที่ถูกด้วยตาเปล่า คะเเนนจริงๆที่จินยองได้มันคือ 98 เต็ม 100 เเล้วอะไรคือการที่ตรงหัวกระดาษมันเขียนเอาไว้ว่า 48
ถ้าบอกว่ายองเเจตกมันยังน่าเชื่อกว่า เเล้วการที่ครูเขาทำแบบนี้มันหมายความว่าอะไร
ทำไมต้องตรวจข้อสอบผิด ทั้งๆที่มันไม่น่าจะผิดพลาด
หรือว่า!
มาร์ครีบวิ่งออกมาจากห้องเรียนพุ่งตรงไปยังห้องพักอาจารย์หมวดสังคมทันที
ในเวลานี้เขาร้อนใจเเทบบ้า เรียวขาเเกร่งวิ่งขึ้นไปบนบันไดก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องพักครู
เเม้จะกวาดสายตาไปจนทั่วเเต่ก็ไม่พบเเม้เเต่เงาของจินยองหรือว่าครูจุนโฮ
เขาวิ่งต่อไปก่อนจะเจอเเบมเเบมกับรุ่นน้องคนนึงที่ค่อนข้างคุ้นหน้าเเต่จำชื่อไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกันตรงม้านั่งหน้าตึก
เขาวิ่งเข้าไปหาเเบมเเบม สีหน้าตื่นตระหนกในเเบบที่ไม่เคยเเสดงออกมาก่อนถูกเผยออกมาในยามเวลาที่เขากำลังเป็นห่วงใครบางคนสุดหัวใจ
“จินยองอยู่ไหน" มาร์คเอ่ยถามออกไปทั้งอย่างนั้น เเบมเเบมมองมาที่เขาด้วยความมึนงง สภาพหอบเหนื่อยราวกับไปวิ่งเเข่งมานั้นทำให้เจ้าตัวยิ่งงง
“ก็ไปซ่อมประวัติไง น่าจะอยู่ที่ห้องพักครูหมวดสังคม" ตอบออกไปตามเเบบที่คิด นี่ก็มานั่งดักรออยู่ เผื่อว่าจินยองลงมาจะได้ชวนกลับบ้านพร้อมกัน
“ฉันไปมาเเล้ว ไม่เจอ" เเบมเเบมถลึงตาด้วยความตกใจ ถ้าอย่างนั้นจินยองไปไหน
“เเล้วจารย์จุนดฮอยู่ป๊ะ"
“ไม่อยู่ทั้งสอง" มาร์คยิ่งร้อนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก หากนี้เป็นภูเขาไฟ เขาก็ใกล้ระเบิดเต็มที
“อ้อ ผมเห็นว่าพี่กับอาจารย์เข้าไปในห้องพยาบาลด้วยกันนะฮะ เมื่อยี่สิบนาทีที่ผ่านมานี้เอง" ยูคยอมเอ่ยขึ้นเมื่อตนนึกได้ว่าระหว่างทางมาหาพี่เเบมเเบมที่ตึกของเด็กปีสาม เขาพบเข้ากับรุ่นพี่จินยอง เพื่อนสนิทของพี่เเบมที่เดินเข้าไปในห้องพยาบาลก่อนจะตามมาด้วยอาจารย์ประจำหมวดสังคมที่เขาไม่รูเจัก รู้เเต่ว่าสอนวิชาอะไร
ทันทีที่รู้สถานที่ มาร์คต้วนก็รีบวิ่งออกไป
เขาหวังเพียงว่ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับจินยอง
--------- 100% --------
#มนอีโมชั่น
TBC.
เอาเเล้วไง คิคิคิคิคิคิคิ
เม้นต์เยอะๆ คนเขียนจะได้มีกำลังใจเเต่งต่อนะคะ ^^
ถึงจะงานเยอะ เเต่เราก็จะมาอัพให้ทุกๆ1อาทิตย์นะก๊ะ
ความคิดเห็น