คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 : คู่เเข่ง 100%
ตอนที่ 3
คู่เเข่ง
“จินยองไปถามที่รักเเกที ว่าตัดต่อไปถึงไหนเเล้ว" ยองเเจเอ่ยถามเพื่อนร่างบางหน้าตาน่ารักของตนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือนวนิยายอยู่ที่โต๊ะเรียนในตอนเช้า จินยองหันมาทำหน้าเหรอหรา ในใจพลางคิด ใครกันที่ยองเเจพูดว่าเป็นที่รักของเขา
“ใครที่รักเรา" ดวงตาเเป๋วมองกลับไปด้วยความพาซื่อ มือบางหยิบที่คั่นหนังสือมาคั่นหน้าที่ตนอ่านค้างไว้ ชเวยองเเจได้เเต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน โถ่ จินยองเพื่อนฉัน นี่ซื่อหรืออะไรเนี่ย!
“ไปถามมาร์คให้หน่อย ว่าตัดวิดีโอไปถึงไหนเเล้ว" ยองเเจยอมบอกออกไปเเบบตรง จินยองก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่ปากอิ่มจะบิดคว่ำลงพร้อมกับคำพูดเบาๆที่หลุดลอดออกมาว่า
'ไปถามเองสิ มาร์คไม่ใช่ที่รักเราซักหน่อย'
-------------------
“จินยอง ขอยืมยางลบหน่อย" ผมส่งยางลบไปให้มาร์คที่นั่งอยู่ด้านหลังโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าตั้งใจเรียนอะไรนักหนาหรอก เพียงเเต่เเค่มันรู้สึกเเปลกๆ
เเปลกๆ ตรงที่ผมไม่กล้าสู้หน้าหรือสบตากับอีกฝ่ายเลยต่างหาก
“จินยอง" ผมเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อหยิบยางลบหากทว่ามาร์คกลับยื้อมันเอาไว้ไม่ยอมปล่อยมันมาให้ผม มาจนถึงตรงนี้คงไม่มีทางเลือกเเล้วสินะ ทำยังไงดี ไม่อยากหันไปเลย T_T
“ขอบคุณครับ" ผมหันไปคว้ายางลบในมือของอีกฝ่ายคืนมาด้วยความรวดเร็วเเบบเงอะๆงะๆ เอ มันเป็นยังไงกันนะไอ้ความรวดเร็วแบบเงอะๆงะๆเนี่ย ลิ้นของผมมันคงจะพันกันไปใหญ่โตเเล้วสินะ อีกคนเป็นเเค่เพื่อนร่วมห้องเเท้ จะพูดครับต่อท้ายคำพูดไปทำไมกัน ฮืออออ นี่ผมทำอะไรลงไป ในสายตาของมาร์ค ผมคงจะดูเป็นพวกเสล่อมากเเน่ๆเลย :(
ดวงตากลมเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาพึ่งสังเกตเห็นรอยปากกาสีเเดงบนก้อนยางลบของตน
เเล้วจินยองจะไม่ใจสั่นเลย ถ้ารอยรอยนั้นไม่ใช่รูป 'หัวใจ' สีเเดงที่มาร์ค ต้วนเป็นคนวาดให้
“วันนี้นยองเป็นไรอะ เเลเหม่อๆ" เเบมเเบมเอ่ยขึ้นมากลางโต๊ะอาหารในช่วงพักกลางวัลที่พวกเขากำลังนั่งรับประทานอาหารกัน จินยองคาบช้อนค้างเอาไว้ที่ปากอย่างน่ารักจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอดที่จะหันมามองไม่ได้ ยองเเจหันไปทำตาขวางใส่พวกผู้ชายเหล่านั้นจนสุดท้ายต่างคนต่างก็ลนลานเดินผ่านไปในที่สุด
“เราปล่าวเหม่อนะเเบมเเบมอะก็พูดไปนั่น" มือบางเขี่ยข้าวในจานไปมาราวกับอาหารตรงหน้ามันไม่ถูกปากเอาเสียเลยทั้งๆที่ก่อนลงมาจากห้องเรียนก็พึ่งบอกไปว่าอยากกินเมนูนี้เเท้ๆ
“ปล่อยมันเเบม คนกำลังมีความรักส์" เสียงซี๊สปากตรงท้ายประโยคของยองเเจเรียกรอยยิ้มขบขันจากเเบมเเบมได้เเต่นั่นไม่ใช่สำหรับจินยอง ความรงความรักอะไรกัน
“ยองเเจนั่นเเหละมั่วที่สุด เราไม่ได้มีความรักซักหน่อย เกิดมาเคยมีคนมาจีบกับเค้าที่ไหนหน้าตาเราก็ธรรมดา สงสัยคงต้องโสดเเบบนี้ไปจนตายเเน่ๆเลย งือออออ" หัวกลมๆซุกไปกับเเขนตัวเอง จินยองปล่อยเสียงน่ารักๆออกมาก่อนจะเงยหน้ามองยองเเจกับเเบมเเบมที่นั่งอยู่อีกฝั่งด้วยเรียวปากเบะบึ้ง
เเบมเเบมอยากจะตบหน้าผากตัวเองซักฉาดใหญ่ๆ อะไรของจินย๊องงงงงง นี่มาบอกว่าตัวเองหน้าตาธรรมดา โอ๊ยยย อยากจะบินกลับไทยไปไหว้พระดำน้ำปลูกปะการังซักรอบ เเค่ท่าเบะปากเมื่อกี้คนรอบโรงอาหารก็เเทบตายกันเป็นเถือกเเล้วมั้ง ดูนั่น พี่ชยอนูนั่งเลือกกำเดาไหลอยู่ ส่วนวอลพินนี่ก็ทำหน้าฟินเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้น7 มีใครไม่ชอบจินยองมั้งวะครับผม เห็นมีเเต่คนพูดถึง นี่จินยองบ้านอยู่หลังเขาหรือไม่สนใจข่าวสารกันเเน่ โว๊ะ!
“นายอะ น่ารัก คนชอบก็เยอะเเยะไป แต่ที่ไม่มีเเฟนหนะ ก็เพราะ...”
“จินยองงี่~~” นั่นประไร
ยองเเจกับเเบมเเบมได้เเต่เบ้ปากมองบนหลังจากที่ได้เห็นบุคคลที่สี่นั่งลงบนโต๊ะอาหารทั้งๆที่ไม่ได้รับเชิญเเต่อย่างใด
“ทำไมตัวเขี่ยข้าวงั้นหละ ไม่อร่อยเหรอ ให้เค้าป้อนไหม" จินยองยกมือขึ้นห้าม อิม เเจบอม เเทบไม่ทัน ไม่บ่อยนัก ที่อีกฝ่ายจะมานั่งร่วมโต๊ะด้วย
“ไม่ต้องหรอกตัว เค้าเเค่อิ่มเเล้วงะ" จินยองหันไปมองอีกคนอย่างอ้อนๆ เพราะถ้าไม่ทำเเบบนี้ พี่เเจบอมก็จะบังคับให้เขาทานมันให้หมด
“น่ารักจัง" เเจบอมบิดเเก้มจินยองอย่างหมั่นเขี้ยว เห้อ ทำไมน้องถึงได้น่ารักเเบบนี้นะ นี่คนหรือตุ๊กตา ฮึ้ย!
“ง่าาา~ จะบมเก๊าเจ็บ เก๊าอยากกินหนม ไปซื้อเป็นเพื่อนหน่อยจิ" เเจบอมมองน้องจินยองที่เอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมาจิ้มกัน ให้ตายเถอะจินยอง! ไปเรียนไอ้ท่าทางพวกนี้มาจากไหน อยู่ด้วยกันทุกวัน ทำไมยิ่งโตน้องมันถึงได้ยิ่งน่ารักเเบบนี้ เเล้วเเบบนี้จะไม่ให้หวงได้ไง!
“ทำไมวันนี้จะบมมานั่งกินข้าวโต๊ะเค้าอะ" จินยองดูดนมกล้วยในมืออย่างอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันที่อากาศสดชื่นจริงๆ
“ก็นายไม่ระวังตัวเลยนี่ เล่นทำท่าน่ารักๆเเบบนั้นรู้ไหมว่าพวกผู้ชายโต๊ะอื่นมองกันด้วยสายตาเเบบไหน" เเจบอมจิบกาเเฟในมือเข้าไปก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ
น้องของเขาคงจะน่ารักมากเกินไป ถ้าไม่ได้เขาคอยตามคุมนะ ป่านนี้คงจะถูกไอ้พวกเสื่อสิงที่ไหนมาขย้ำไปกินเเล้วหละ
“จะบมก็เวอร์ไป ไม่มีหรอกอะไรเเบบนั้นหน่ะ" จินยองยิ้มน้อยๆในความขี้หวงของพี่ชายตรงหน้า พวกเขาสองคงนั่งเล่นกันอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ จินยองรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆกับเเจบอม พอๆกับเเจบอมที่อยากมีจินยองไว้ในสายตาเพื่อดูเเล
มาร์คมองภาพทั้งหมดเหล่านั้นลงมาจากห้องเรียนชั้นสอง เรียวปากยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างร้ายกาจ ไอ้ตี๋นั่นมันเป็นใครวะถึงได้มาเก่ะเเกะจินยองเเบบนั้นเเล้วยองเเจกับเเบมเเบมไปไหน ทำไมถึงทิ้งเพื่อนไว้เเบบนั้น
มาร์คหลับตาลงข่มอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นของตัวเองให้สงบลง อะไรกัน ทั้งๆที่ก็มั่นใจว่าตัวเขาเองก็สืบมาดีเเล้วเเท้ๆว่าจินยองยังไม่มีเเฟน เเล้วไอ้ตี๋ที่มันนั่งอยู่ข้างๆจินยองนั่นคืออะไร
เขาเผลอกำขอบหน้าต่างจนเเน่น ยิ่งจินยองยิ้มเเละหัวเราะมากเท่าไหร่ มาร์คก็ยิ่งอารมณ์เสียมากเท่านั้น
เพราะว่าตัวเขาที่กำลัง 'ชอบ' จินยองอยู่ ไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นเป็นของใคร
มันจะผิดไหม ถ้าเขาอยากจะหวงรอยยิ้มๆนั้น
ไว้ให้กับตัวเองเพียงคนเดียว
----------------
“โอ๊ย! เลิกเดินตามไหม เป็นไร ริดสีดวงเหรอ เดินตามอยู่นั่น ขาก็สั้นพี่ไปหาที่นั่งเหอะ!” ยองเเจคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะประสาทเสียไม่ก็หัวระเบิดจนสมองไหลออกมากองรวมกันที่พื้นในอีกไม่ช้า
เขาบอกเเบมเเบมว่าจะมาเข้าห้องน้ำ เเล้วอะไรคือการที่ไอ้รุ่นพี่ 'หวัง เเจ็คสัน' เดินตามเขาไม่หยุดไม่หย่อนเเบบนี้วะ!
ยองเเจมองค้อนขวับขณะที่ตัวเองกำลังปลดปล่อยสายน้ำให้ไหลออกมาจากปืนขนาดใหญ่ เเจ็คสันเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะรูดซิบกางเกงลงพร้อมปลดเบาลงในโถข้างๆกันกับตัวเขา
โถในห้องน้ำมีเป็นสิบ ทำไมจะต้องมายืนฉี่ข้างๆเขาด้วยวะชเวไม่เข้าใจ
“โห ของนายนี่ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ" สิ้นประโยคนั้นยองเเจเบิกตาโพลงก่อนที่ทั้งสองขาของตัวเองมันยกขึ้นถีบใครอีกคนที่เหมือนจะลืมไปเเล้วว่าเขามีอายุมากกว่าตนโดยอัตโนมัติ
“โอ๊ย!”
“ไอ้โรคจิต! หน้าตาก็ไม่ดี นิสัยก็ไม่ดีอีก! ใครได้เป็นเเฟนโชคร้ายตาย!!!” ยองเเจเดินกระทืบเท้าออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ กว่าหนึ่งอาทิตย์เเล้วที่ตนถูกรุ่นพี่คนนี้เดินตาม
เเรกๆก็คิดว่าเอออาจเเค่บังเอิญ
เเต่มีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆพี่เขาก็เดินเข้ามาเเนะนำตัวเองเสร็จสรรพพร้อมทั้งบอกว่ารู้จักผมอยู่เเล้ว อยากจะชวนมาเข้าชมรมฟันดาบ
ฟันดาบพ่อง!
หน้าชเวนี่เเลรักกีฬาเน๊อะ คาบพละนี่ยังโดดไปห้องพยาบาลเเทบทุกคาบ โลกใบนี้นี่มันมีคนบ้าสติไม่เต็มอยู่เยอะเเยะจริงๆ โอ๊ย! เพลียใจ!
“คยอมสงสัยอะไรก็เอามาถามพี่ได้เลยนะ"ยองเเจเดินออกมาจากห้องน้ำเเล้วก็ต้องเจอกับเเบมเเบมที่กำลังคุยกับรุ่นน้องใบหน้าคุ้นตาอย่าง 'คิม ยูคยอม'
ก็ไอ้น้องคนเนี่ย ต้องมีเรื่องมาหาเเบมได้ทุกวัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นให้สอนการบ้าน เเจว่ามันเป็นการจีบที่ nonsense มากกกกกกก โอ๊ย! ใครๆเขาก็ดูออกหรอกว่าอยากจีบเเบมเเบม
จินยองก็มีมาร์ค เเบมก็มียูคยอม
เเล้วชเวหละ ชเวมีใคร TT_______TT
“นี่ไอ้หน้าจืด เเกเตะฉันเเบบนั้นได้ไง ถ้าขาหักบาดเจ็บไปทำไงฮะ มาเคลียกันหน่อยดิ๊ไอ้หน้าม้าเเตก"
โอ๊ย! ไอ้พี่สั้นนี่ก็ตายอยากตายเย็นจริงๆ!
“โอ๊ย! พี่ชอบผมใช่มะ"
“คือที่ตามตื้อผมอยู่เนี่คือพี่ชอบผมใช่มะ พี่อยากได้ผมใช่มะ"
เเจ้คสันมองรุ่นน้องตรงหน้าด้วยสายตางุนงง อะไรกันที่อยู่ดีๆก็หันมาพูดตะคอกใส่หัวเขาป่าวๆแบบนั้น
“โอเค ผมรู้ว่าพี่ชอบผม จริงๆก็ไม่ได้เเปลกใจเท่าไหร่"
“ผมชินละ กับการเป็นฝ่ายถูกชอบ" ยองเเจพูดจบก็สะบัดหน้าวิ่งไปหาเพื่อนของตนที่ยืนรอโดยที่ข้างๆก็มีคิมยูคยอมยืนอยู่
เเจ็คสันอ้าปากค้างตาโตราวกับสิ่งที่พึ่งได้ฟังมาเมื่อครู่เป็นเรื่องช็อกโลก
นี่ชเวยองเเจเป็นโรคเจ้าชายหรือไงวะ ทำไมถึงได้ขี้มโนเเล้วก็หลงตัวเองได้ถึงขนาดนั้น ตัวก็อ้วน หน้าก็กลม หึ่ย! คนอย่างเขาจะไปชอบได้ยังไง
ยองเเจ บอกเลยนะ นายหน่ะ ไม่ใช่เสป้กฉันโว๊ย!
“งั้นผมไปก่อนนะฮะพี่เเบม เดี๋ยวดึกๆผมจะทักไปหานะครับ" ยูคยอมโค้งลาเเบมเเบมก่อนจะเดินเเยกไปยังทางเชื่อมของตึกพวกม.ปลายปีหนึ่ง
“นี่เเบมเเบม ถามจริง เเกกับยูคยอมนี่ คุยๆกันอยู่ปะ"
“ฮะ! นี่นายไปเอาความคิดผิดๆนั่นมาจากหนายยยยย" เเบมเเบมตกใจที่อยู่เพื่อนของตนก็ถามออกมาอย่างนั้น
เขากับยูคยอมเราเป็นเเค่พี่น้องกันเฉยๆ
ก็เเค่ยูคยอมมาถามการบ้านในข้อที่ตัวน้องทำไม่ได้เฉยๆ
เเค่นั้นเองจริงๆ
“เเหม่~ จ้าาาา มองไปนี่นึกว่าเดตกันอยู่เหอะ รอบตัวนี่เป็นประกายสีชมพู" ยองเเจทำมือเป็นเอฟเฟ็คถึงบรรยกาศวิ้งวับระหว่างีุ่นน้องกับเพื่อนของตนอย่างออกรส เเบมเเบมตีไหล่เพื่อนสนิทของตนไปทีนึงก่อนจะพากันเดินไปที่ห้องเรียนเพราะว่าใกล้หมดเวลาพักกลางวันเข้าไปเต็มที
“เห้ย!” คนทั้งสองร้องอุทานออกมาเเทบจะพร้อมกันเมื่อภาพที่เห็นคือ
“นายเป็นใครวะมายุ่งกับจินยอง"
“เเล้วมันจะทำไม"
“พี่เเจบอมใจเย็นๆฮะ"
---------------------
“พี่เเจบอมตั้งใจเรียนนะฮะ" จินยองพูดขึ้นหลังจากที่เเจบอมเดินมาส่งตัวเองที่หน้าห้องเรียนเป็นที่เรียบร้อย ฝ่ามือน้อยๆยกขึ้นโบกมือลาพี่ชายตัวโต
เเจบอมยิ้มรับก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวคนน่ารักน้อยๆด้วยความเอ็นดู
“เดี๋ยวเย็นนี้เค้ามารับนะ" เเจบอมทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไป จินยองหมุนตัวเดินเข้ามาในห้องเรียนที่ยังไร้ผู้คน เพราะส่วนใหญ่ยังใช้เวลาพักกลางวันอันน้อยนิดกันอย่างคุ้มค่า คือถ้าไม่ออดดังก็อย่าหวังว่าตัวจะถึงห้อง
“นั่นใคร" จินยองตกใจจนไล่บางสะดุ้งน้อยๆ
“มะ...มาร์ค" เเละยิ่งตกใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นร้อยๆเท่าเมื่อเจ้าของเสียงปริศนานั้นไม่ใช่ใคร หากเเต่เป็นคนที่เขาพยายามหลบหน้ามาตลอดทั้งวัน
“นั่นใคร" มาร์คยังคงถามย้ำซ้ำๆในประโยคๆเดิม เเขนเเกร่งวางเท้าคร่อมทับร่างบางที่นั่งตัวลีบอยู่บนโต๊ะ เหมือนเห็นลูกเเมวตัวน้อยๆกำลังจนมุมอยู่ตรงผนังห้อง ใบหน้าหวานที่กำลังฉายเเววกังวลด้วยการเม้มปากอิ่มเข้าหากันพร้อมด้วยสายตาหลุบต่ำ
มาร์คยื่นหน้าเข้าไปใกล้ในจังหวะที่สามารถสัมผัสได้ถึงไอร้อนๆจากลมหายใจของกันเเละกัน
จินยองหลับตาเเน่นปี๋ ทำไมสถานการณ์เเบบนี้มันถึงได้เกิดขึ้นกับเขาซ้ำเเล้วซ้ำเล่าแบบนี้นะ
“ถ้านายไม่ลืมตานายก็จะโดนทำโทษ" มาร์คกดจูบไปเร็วๆที่บริเวญหางตาที่ขึ้นรอยย่นคล้ายหนวดเเมวของจินยองอย่างน่ารัก
“งือ~~” จินยองลืมตาขึ้นพร้อมทั้งเบะปากงอง้ำอย่างขัดใจ มือบางยกขึ้นลูบบริเวณที่ตนพึงถูกฉวยโอกาศด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวของมาร์ค
มาร์คมองปฎิกริยาของคนตรงหน้าก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
น่ารักจัง
“เเต่ถ้านายไม่ตอบ ฉันก็คงต้องทำโทษอีกนั่นเเหละ" จินยองรับยกมือขึ้นปิดใบหน้าด้านข้างของตน หากทว่าเป้าหมายของผู่ล่าใครคราวนี้กลับไปไม่เเก้มกลมสีชมพูอ่อนของเเมวน้อยเเต่อย่างใด
เเต่สิ่งที่มาร์คมุ่งไป นันก็คือ ริมฝีปากอิ่มตึงสีเเดงสดคล้ายเยลลี่รสสตอเบอร์รี่ของจินยองต่างหาก
มาร์คกดจูบเเรงๆไปที่ริมฝีปากสีเเดงระเรื่อด้วยความรวดเร็วพร้อมทั้งดูดดึงริมฝีปากรสหวานจนเกิดเสียงดังน่าอาย เรียกจังหวะการเต้นของหัวใจให้อีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
'จุ๊บ'
เสียงๆนี้ดังขึ้นหากทว่ากลับดังก้องอยู่ในใจของจินยองซ้ำไปซ้ำมาเเม้ว่ามาร์คจะถอนริมฝีปากออกไปแล้วก็ตาม
“ไอ้เเห้งเเกร่น! เมื่อกี้เเกจูบจินยองเหรอวะ" ราวกับภาพสโลโมชั่น เเจบอมที่เดินกลับมาเพื่อจะบอกกับจินยองว่าวันนี้ให้เเวะซื้อของที่ซุปเปอร์ก่อนกลับบ้าน เเต่พอเดินเข้ามาในห้องเรียนของคนเป็นน้อง เขาก็ต้องชะงักค้างราวกับถูกของเเข่งๆตีเข้าที่กลางศีรษะ
น้องชายที่เขาเฝ้าหวงดูเเลประคบประหงบมา17ปี กลับต้องมาถูกไอ้เเห้งที่ไหนก็ไม่รู้ จูบ!
'จุ๊บ' เสียงๆนั้นดังขึ้น ราวกับเสียงของมีกที่เฉื่อนตัดขั้วหัวใจของเเจบอม เเต่ในอีกในนึง มันก็เหมือนกรรไกรที่ตัดเส้นความอดทนของเขาทิ้ง
เเจบอมไม่รังเรเลยที่จะคว้าเเขนของผู้ชายคนนั้นให้หันมาพร้อมทั้งประเคนหมัดหนักๆใส่ใบหน้าที่พระเจ้าทรงปั้นมาอย่างไม่คิดจะออมเเรงเลยซักนิด
'ปัก' ตัวของมาร์คเซไปตามเเรงกระเเทก เขารู้สึกเจ็บที่บริเวณมุมปาก เเล้วมันก็จริงเมื่อมีเลือดติดออกมาตอนยกนิ้วขึ้นไปเเตะ ดวงตาคู่คมมองรุ่นพี่ผู้ชายคนนั้นด้วยสายตานิ่งเรียบ
“มึงกล้ามากนะมาจูบจินยองงี่ของกู วันนี้เเหละ มึงได้กลับไปนอนซมหยอดน้ำข้าวต้มใน--” มาร์คต่อยหมัดหนักๆสวนกลับไปที่ใบหน้าของเเจบอมทั้งๆที่เจ้าตัวยังพูดไม่จบประโยคดีด้วยซ้ำ
เเจบอมเช็ดเลือดที่ออกมาจากมุมปากก่อนจะปาดทิ้งพร้อมทั้งเเสยะยิ้ม
มันก็นานเเล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้ประมือกับคนที่หมัดหนักพอๆกับเขา
“กูให้มึงเลือก"
“ระหว่างเลิกยุ่งกับน้องกู"
“หรือว่าตาย"
“พูดมาก" มาร์คปากระเป๋าหนังสือที่อยู่ใกล้มือของตัวใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างเเรง เเจบอมที่เริ่มขาดสติ กระโจนเข้ามาคว้าคอเสื้อพร้อมชกหมัดหนักๆใส่มาร์คอีกครั้งหากทว่ามาร์คกลับเบี่ยงตัวหลบทัน
จินยองพยายามจะเเยกทั้งสองคนออกจากกันหากทว่าทั้งคู่กลับผลักตัวเขากระเด็นออกมาจากสมรภูมิรบหลังห้อง
“วอลพิน เจ ยองเค มาช่วยเราเเยกสองคนนี้หน่อย" ด้วยความร้อนใจ จินยองเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมห้องสามคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้อง ทั้งสามคนมองไปที่เจบีกับมาร์คเเล้วก็เเทบจะส่ายหน้าออกมาไม่ทัน
เจบี หรือ เเจบอม ขึ้นชื่อเรื่องความ MAD ฉันใด
มาร์ค เอง ก็ขึ้นชื่อเรื่องความ BAD ฉันนั้น
“น๊าาา พวกนายช่วยเราหน่อยนะ นะ น๊าาาา เดี๋ยวเราเลี้ยงติม" เเต่คงเป็นเพราะจินยองลงทุนเกาะเเขนของวอนพิลพร้อมทั้งกระโดดไปมาอย่างออดอ้อนหละมั้ง เเละยิ่งได้ยินว่าอีกคนน่ารักชวนไปเดต(กินไอติม)พวกเขาทั้งสามคนจึงเเทบไม่ลังเลเลนที่จะตอบตกลงเเล้วไปช่วยจับทั้งสามคนเเยก
“นายคิดว่าจะจีบจินยองติดงั้นเหรอ"
“ฝันไปเถอะ" เพื่อนร่วมห้องทั้งสามช่วยกันเเยกเจบีให้เดินออกไปนอกห้อง ในขณะที่จินยองเองก็กันไม่ให้มาร์คพุ่งเข้าไปหาเจบี
“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางนาย ไอ้กระจอกหน้าโง่!!”
มาถึงตรงนี้ยังดีที่มียองเเจกับเเบมเเบมที่เข้ามาช่วยกันกันมาร์คไม่ให้พุ่งเข้าไปหาเเจบอมอีกเเรง ทั้งสองยังคงทำท่าจะพุ่งเขาหากันตลอดเวลา จนโดอุนต้องลงไปกอดขาทั้งสองข้างของเจบีเพื่อล็อคตัวรุ่นพี่เอาไว้ ในขณะที่ยองเเจเองก็ขึ้ยขี้หลังมาร์คเพื่อรั้งไม่ให้เพื่อนของตนพุ่งเข้าไปต่อยรุ่นพี่เจบี
จินยองมองไปเห็นขวดน้ำเปล่าของใครก็ไม่รู้วางไว้บนโต๊ะ เขาไม่ลังเลที่จะเปิดขวดออกพร้อมสาดน้ำเย็นๆใส่ใบหน้าของมาร์คเเละเจบี
“เลิกบ้ากันได้ยัง!” จินยองตะโกนขึ้นท่ามกลางทั้งสองคนที่ดูเหมือนจะสงบลงหลังจากที่เรียกสติของตนคืนมาได้
เจบีเดินออกไปอย่างเสียอารมณ์ ส่วนมาร์คเองก็เดินมานั่งที่โต๊ะเรียนตัวประจำของตนอย่างต้องการจะข่มอารมณ์ของตนที่กำลังครุกกรุ่น
ไอ้เเจบอมมันกล้ามากที่มาว่าเขาเเบบนั้น
คงมั่นใจมากสินะ ว่าตัวเองจะจีบจินยองติด โถ่ ไอ้ตี๋เอ้ย! กลับบ้านไปช่วยเเม่ขายปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้เถอะ หึ! กระจอกบ้านมันสิ นี่เรียกเอลเอสไตล์ ไอ้พวกตาต่ำไร้รสนิยม
เเละนี่จะเป็นครั้งเเรกที่คนระดับเขาจะยอมลดตัวลงไปเป็นคู่เเข่งด้วย
ใช่
เขาขอสาบานกับตนเอง ว่าจะต้องจีบจินยองให้ติดให้ได้!!!
ความคิดเห็น