คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : ความจริง
ตอนที่ 7
ความจริง
จินยองยืนมองภาพพี่เเจบอมกับมาร์คที่กำลังนอนกอดกันกลมอย่างน่ารัก
คงเพราะอากาศตอนเช้าที่ค่อนข้างหนาว หรือจะอะไรก็เเล้วเเต่ ฝ่ามือบ้างควักโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดถ่ายภาพสุดน่ารักนั่นเอาไว้
“ฮี่" เผลอหลุดหัวเราะออกมาจนได้ วันนี้เป็นวันไปเรียนปรกติ จินยองที่ตื่นเช้าจนเคยชินลืมตาขึ้นในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย เขาจำได้รางๆว่าเมื่อคืนเผลอหลับไปตั้งเเต่ยังฟังพี่กับเจ้าของห้องห้องนี้เถียงกันไม่จบ
จินยองกำลังจะพลิกตัวไปเพื่อลุกออกจากเตียง หากทว่าหางตาไม่ไปสดุดกับเเผ่นหลังกว้างของพี่ชายตัวเองเสียก่อน
เขายันตัวลุกขึ้นเเล้วก็ต้องถลึงตาโตด้วยความตกใจ เตียงที่เขานอนอยู่มันกว้างก็จริง เเต่ทว่ามันก็นอนได้เเค่สองคนเท่านั้น เเล้วอะไรคือการที่พี่เเจบอมกับมาร์คไปนอนกอดกันกลมอยู่ที่อีกฝั่งของเตียงเเล้วเหลือที่ว่างตรงฝั่งเขาไว้ตั้งมากมาย
คือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ พี่เเจบอมนั่นเเหละไปนอนเบียดมาร์ค เเล้วดูสิ กอดกันเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันเชียว
“พี่เเจบอม ตื่นฮะ" หลังจากที่เสียเวลาขบขันกับเรื่องตรงหน้าไปนานพอสมควร จินยองจึงตัดสินใจปลุกพี่ชายของตัวเองเป็นอันดับเเรก
เจบีที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาขยุกขยิกที่หัวก็รีบมุดตัวซุกเข้ากับผ้าห่มตามความเคยชินที่มักจะทำเป็นประจำเวลาที่จินยองมาปลุก
ดวลาปลุก จินยองจะลูบหัวของเขาไปมาเหมือนในเวลานี้ เเต่เช้านี้มันต่างออกไปตรงที่ผ้าห่มมันอุ่นพิลึก...
“เหี้ย!” เเจบอมค่อยๆลืมตากระพริบถี่ต่อสู่กับความง่วงอยู่ซักพัก
เเต่เมื่อสายตาปรับโฟกัสจนชัด สิ่งที่เห็นตรงหน้า ก็ถึงกับทำให้เขาสถบคำหยาบออกมาในตอนเช้าเเบบนี้ พร้อมเอฟเฟ็คถีบคนที่เขาคิดว่าเป็นผ้าห่มเสียเต็มเเรงจนมาร์คตกลงไปจากเตียงดังตุบ!
“เหี้ย เจ็บโว๊ย!” มาร์คเองก็สถบออกมา เขาตื่นจากนิทราทันทีที่ตัวกระเเทกกับพื้นเเม้จะยังไม่ได้ลืมตาก็ตาม
ควายที่ไหนมันมาถีบเขาวะ ห่ากำลังเคริ้มๆเลย
“ไอ้เจบี มึงถีบกูเหรอวะ" มาร์คลุกขึ้นยืนจ้องพี่ชายของจินยองที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาเอาเรื่อง เจบีเองก็ไม่ยอมลุกขึ้นยืนบนเตียงเพื่อให้ตัวเองอยู่สูงกว่าอีกฝ่ายก่อนจะโต้ตอบด้วยการปาหมอนที่หยิบติดมือขึ้นมาใส่อีกฝ่าย
“เออ กูถีบ ก็มึงอะ มากอดกูทำไมวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย!”
“กู?”
“กู-กอด-มึง" มาร์คมึนงงในประโยคบอกเล่านั้นของเจบี
“โอ๊ยๆๆๆ ปมคึ มัคคึ หยุดทะเลาะกันเถอะ คิคิคิคิคิคิคิคิ" พวกเขาสองคนหันไปทางต้นเสียงนั่นก็คือจินยองที่ยืนเขาอยู่ข้างๆเตียง
“อันที่จริงปมคึจะไปว่ามัคคึเขามันก็ไม่ถูกนะ"
“ดูดิ กอดกันกลมเลย เราคิดว่าคู่รักข้าวใหม่ปลามัน 555555555” จินยองระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมไปกับชูรูปในโทรศัพท์ให้ทั้งสองคนดู
ผู้ชายสองคนมองไปทางต้นเสียง เเต่จุดที่สายตาของทั้งสองโฟกัสกลับไม่ใช่ภาพในโทรศัพท์นั้น เเต่เป็นลูกเเมวตัวน้อยที่กำลังผมฟูหัวเราะตาเป็นขีดอยู่ข้างๆเตียง
จินยองคงไม่ทันได้ระวัง คอเสื้อเเขนยาวตัวใหญ่นั่นถึงได้ตกลงมาอยู่ที่หัวไหล่
ยิ่งผมฟูมันก็ยิ่งดูเซ็กซี่...
“จินยอง!!! ไปอาบน้ำ!!!” เจบีกระชากตัวน้องให้มานอนลงตรงกลางเตียงก่อนจะเอาผ้าห่มห่อๆจนร่างน้อยถูกพันไปด้วยผ้าสีขาวคล้ายคิมบับ
เขาหันไปค้อนตาใส่มาร์คทีนึงราวกับรู้ทันกันถึงความคิดอกุศลของอีกฝ่าย
“ไม่ต้องเอาออก ห่มเเบบนี้เเหละเดินเข้าห้องน้ำไปเลย" เจบีพูดเสียงดุบวกกับใบหน้าเข้มๆ ทำให้จินยองยอมทำตามอย่างว่าง่ายเดินเข้าห้องน้ำไป
เหมือนช่วงเวลาเเห่งความวุ่นวายมันจะไม่จบลงง่ายๆ
“งื่อ~ หยิบผ้าเช็ดตัวให้เราโหน่ย" จินยองที่โผล่ออกมาเเค่หัวจากบานประตูห้องน้ำกำลังทำหน้าจิ้มลิ้มล้องขอผ้าเช็ดตัวจากมาร์คต๊วนที่ในเวลานั้นกำลังจัดกระเป๋านักเรียนของตัวเองอยู่
มาร์คสตั๋นไปเพียงครู่หนึ่งหลังจากที่ได้เห็นใบหน้าเปียกน้ำกับริมฝีปากเเดงๆของจินยอง
“เราหนาวววว~~~ เร็วๆจิ" มาร์คไม่รู้ว่าตัวเองเสียเวลามองคนตรงหน้าไปนานเเค่ไหน รู้เพียงเเค่จินยองเเม่งโคตรอ้อย
“อ่า เเปปนะ" มาร์คกำลังจะเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปให้อีกคน หากว่าเจบีไม่เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
“มึงจะทำไรน้องกู!” เจบีถีบตรงข้อพับที่ขาจนมาร์คล้มลงไปกับพื้น
“มึงจะเอาให้ได้ใช่ไหม!!” มาร์คที่กำลังเดือดเเละทนไม่ไหว มันอะไรกันนักหนาวะ ตั้งเเต่เช้ามาเขาโดนไอ้บ้านี่ถีบไปเเล้วสองรอบเต็มๆ
“ปมมมมม เอาผ้าเช็ดตัวมาให้เค้าเร็ววว เค้าหนาวจะไม่ไหวแย๊วว" เสียงจินยองโวยวาย ถึงทำให้มวยระหว่างทั้งคู่สงบลง
เจบีคว้าผ้าเช็ดตัวเเล้วเดินเอาไปให้จินยองที่กำลังทำหน้ายู่อยู่ตรงประตูห้องน้ำ
ร่างบางรับมันไปก่อนจะเอ่ยขอให้พี่ชายจัดการชุดนักเรียนให้หน่อย
“เดี๋ยวใส่ของฉันไปก่อนก็ได้ อย่าใส่เสื้อซ้ำเลย" มาณืคเอ่ยออกมา ขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเจบีกับน้องรัก จนต้องหันมาส่งสายตา 'เสือก' ใส่อีกคนเเรงๆ
“มาร์คจะให้เรากับจะบมยืมเสื้อเหรอ" จินยองยิ้มออกมาก่อนจะผงกหัวขอบคุณเเล้วหายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ
เห้อ... ไอ้ที่บอกจะให้ยืมหนะเขาหมายถึงจินยองคนเดียว ไอ้เเปะข้างนี่ไม่นับไง
นับว่าเป็นการมาโงเรียนที่สายที่สุดในรอบทศวรรตของจินยอง
11 โมง...
ป่านนี้เพื่อนคงเรียนคาบสุดท้ายของช่วงเช้าก่อนจะเตรียมตัวไปพักเที่ยงกันหมดเเล้วม้างงง
จินยองก้มมองชุดนักเรียนที่มีชื่อของ มาร์ค ต๊วน ปักอยู่บนอก มันค่อนข้างหลวมพอสมควร เเต่ก็ไม่ได้หน้าเกลียดอะไรมากมาย เขาหันไปมองสารถีที่กำลังขับรถเเล่นไปข้างหน้า
มาร์คหันมายิ้มกลับให้อีกฝ่าย เขามองจินยองสลับกับมองถนนเเล้วก็รู้สึกว่าวันนี้มันสดใสกว่าทุกๆวัน
นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าเวลาคนมีความรัก โลกมันมีกจะเป็นสีชมพู
“ยิ้มอยู่นั่น เห็นน้องกูเป็นตลกคาเฟ่เหรอ ขับรถก็มองทางสิวะไอ้ห่า"
ทำไมทุกครั้งที่ตูกำลังฟินได้ที่มึงต้องเป็นคนที่มาขัดจังหวะทุกทีเลยวะ ไอ้ห่าเอ้ย!!
: : My Favorite Emotion : :
การปรากฎตัวของมาร์คเเล้วก็จินยองในคาบบ่าย สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในห้องเป็นอย่างมาก ยิ่งชุดนักเรียนที่จินยองใส่อยู่เป็นชื่อของมาร์คด้วยเเล้ว คราวนี้ต่างฝ่ายต่างก็คิดเองเออเองกันไปใหญ่โตถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“จินยอง มีอะไรจะบอกพวกฉันไหม" ยองเเจหันมาพูดกับเพื่อนหน้าเเมวของตัวเอง เเบมเเบมเองก็เช่นกัน
จินยองเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนของตัวเองฟัง รวมทั้งเเก้ตัวว่าชุดนักเรียนพี่เเจบอมเองก็ใส่เเบบเดียวกับเขา เรากับมาร์คยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ
ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่นา...
จินยองเหลือบไปมองมาร์คที่นั่งอยู่ด้านหลัง อีกคนนอนหลับในท่าประจำไม่สนอกสนใจสิ่งรอบตัวเหมือนอย่างี่ผ่านๆมา
มาร์คตอนนี้กับตอนที่อยู่กับเขานี่ ต่างกันราวกับเป็นคนละคนเลย
กรี๊งงงงงงง~
เสียงออดหมดเวลาเรียนจบลง คุณครูขอยืดเวลาสั่งการบ้านเป็นเเบบฝึกหัดอีกสิบข้อ เเม้จะมีเสียงโอดโอยจากนักเรียนเพียงใด เเต่เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจ
ยองเเจฟุบหน้าลงกับหนังสือเรียนแทบจะทันที
ชีวิตคนเรามันจำเป็นจะต้องมีการบ้านเยอะขนาดนี้ไหมถามใจกระทรวงศึกษาดู
“กลับบ้านกัน" เเรงสะกิดเบาๆที่หัวไหล่รวมทั้งน้ำเสียงทุ้มเเสนคุ้หูทำเอาจินยองเเทบไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าเป็นใคร
“กลับบ้านกัน เเบมขอกระโถน เราว่าเราจะอ้วก" ยองเเจเอ่ยเเซวมาร์คทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้จินยองเพื่อนสนิทของตน เเต่จะว่าไปก็ไม่มีเลยจริงๆซักครั้งที่เขาไม่เเซะอีกฝ่ายเเบบนี้
“เราเบื่อจังเลยยองเเจ ยองเเจดูมาร์คดิ มองเหมือนจะกินหัวเราเลยเรากลัวววว"
“นั่นดิ เราก็กลัววว ใช่สิ ก็เรามันไม่ใช่จินยองงี่คนมุ้งมิ้งนี่"
จินยองหน้าเเดงฉ่าเขินอายไปกับการล้อเลียนของเพื่อนข้างตัว เเม้เรื่องที่ยองเเจกับเเบมเเบมพูด จะเป็นเรื่องของมาร์คล้วนๆก็ตาม เเต่ก็ไม่รู้ทำไม พอฟังๆไปเเล้วรู้สึกร้อนที่หน้าเเปลกๆ
“พวกนายสองคน" เสียงเย็นเหยียบของมาร์คทำเอาทั้งยองเเจเเล้วก็เเบมเเบมเงียบไปเเทบจะในทันทีหลังจากที่หัวเราก๊ากกันอยู่สองคนอย่างก๊าวใจในความหลงเเมวของคนหน้าดุ
“รู้ตัวก็ดีเเล้ว ว่าไม่น่ารักเท่าจินยองงี่"
“ของฉัน . . .”
ทั้งๆที่ตอนนั้นชวนกลับบ้านเเท้ๆ เเต่ทำไมตอนนี้จินยองถึงยังนั่งอยู่ในโรงหนังก็ไม่รู้เนี่ย
ฮือออ กี่โมงกี่ยามเเล้วนะ ต้องรีบกลับไปทำการบ้านซะด้วยสิ
ร่างบางได้เเต่เบะปากขัดใจเเต่ก็ไม่กล้าเเม้เเต่จะขยับตัวหรือยกเเขนขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือนั่นก็เพราะใครบางคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนเอียงหัวซบไหล่เขาอย่างสบายไม่เกรงใจจอหนังที่กำลังฉายฉากบู๊เลือดสาสตรงหน้าเลยซักนิด
เเล้วอะไรคือการที่จินยองต้องมาทนดูฉากที่คุณม้าตายด้วยเนี่ย งือออ คุณม้าาา TT
“งือออ" มาร์คตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินเสียงของคนข้างกายที่จู่ๆก็สะดุ้งสุดตัวพร้อมปล่อยเสียงน่ารักๆออกมาในขณะที่คนส่วนใหญ่ในโรงกลับกรี๊ดกันเสียงดังลั่น
เขามองเข้าไปในจอ คงเป็นเพราะคนโกงถูกค่าตัดคอ เเละด้วยเอ็ฟเฟ็คที่สมจริงเกินไปถึงได้ทำให้ร่างบางตกอกตกใจขนาดนี้
“กลัวเหรอ" มาร์คกระซิบถามจินยองที่นั่งกอดเขาซุกหน้าเข้ากับหน้าขาของตัวเองเป็นก้อนกลมๆอยู่บนเบาะเก้าอี้ของโรงหนัง
“อือ ฉากเมื่อกี้หน้ากลัวมากเลย... ไม่สิเราว่ามันหน้ากลัวทั้งเรื่องเลยเเหะ เเหะ" เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงได้หัวเราะเเห้งๆกลบเกลือนไปในตอนท้าย
มาร์คมองจินยองที่โผล่ออกมาจากหัวเข่าของตัวเองเเค่ตา เเสงเพียงน้อยนิดจากหน้าจอตรงหน้าทำให้ลูกเเก้วสีใสสุกสว่างเเละเปล่งประกายมากกว่าทุกครั้งที่เขาจ้องมอง
“รู้ไหมทำยังไงถึงจะหายกลัว" น้ำเสียงเเหบต่ำกระซิบใกล้ใบหูเล็ก จินยองต้องไม่ทันได้เห็นมันเเน่ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดออกมาที่มุมปากเเบบนั้นของมาร์คต๊วน
“ยะ...ยังไงเหรอ" ร่างบางตอบออกไปอย่างพาซื่อ ดวงตายังคงจ้องใบหน้าของอีกคนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใบหน้าของตนมากนัก
“นายต้องห้ามหลับตา...” ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้จนปลายจมูดชนกับปลายจมูกรั้น จินยองเเทบจะหลับตาอยู่เเล้วถ้าไม่ติดว่าโดนมาร์คพูดดักเอาไว้เสียก่อน
“เพราะถ้านายหลับตา" ขยับใกล้มากขึ้นไปอีก...
“ฉันจะลงโทษนาย" จนกระทั่งริมฝีปากของเราประกบกัน
อีกเเล้ว เขาโดนมาร์คต๊วนหลอกอีกเเล้ว
จินยองไม่ได้กลับตาอย่างที่อีกฝ่ายบอกไว้ เเต่ก็เขินอายเกินกว่าจะมองสบตากับอีกฝ่ายในระยะที่ใกล้เกินไปเเบบนี้
เขามองใบหน้าของมาร์คไม่ชัด มันเบลอไปหมดเเต่ดวงตาคู่นั้นไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆที่มันเบลอเสียขนาดนั้น เเต่กลับรู้สึกเขินไปหมดเมื่อเผลอสบเข้ากับเขาวงกตคู่นั้น
มาร์คค่อยๆละเมียดชิบรสหวานจากกลีบปากล่างจินยองอย่างใจเย็น เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะอย่างไรเสีย ริมฝีปากนี้ก็ต้องตกเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ ทั้งมันเเละเจ้าของของมัน
เขากดจูบเบาๆอย่างนึกเอ็นดู เลียวลิ้นถูกส่งไปทักทายที่รอยเเยกบางเบาเป็นเชิงขออนุญาติเข้าไปเชยชิมความหวานที่หวานยิ่งกว่าด้านในโพรงปากของคนน่ารักที่พยายามหลบตาของเขาอย่างน่าเอ็นดู
มาร์คได้มอบจูบที่อ่อนโยนให้กับจินยองจนเจ้าตัวเเทบจะละลายติดไปกับเบาะของโรงหนัง ฝ่ามือบางที่ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน ค่อยๆยกขึ้นไป วางไว้บนไหล่เเข็งเเกร่งของอีกคนเเทน
ความหวานนี้มันทำให้จินยองเคลิบเคลิ้มเสียจนเผลอหลับตารับจุมพิตที่เริ่มจะยาวนานเเละลึกซึ้งมากขึ้นอย่างเต็มใจ เเม้จะถูกทำโทษที่หลัง เเต่เขาก็คิดว่าไม่เป็นไร
ถ้าเป็นมาร์คต๊วน จะอะไร จินยองก็ยอมหมดนั่นเเหละ
อ่า หน้าอายจังเลย
ความจริงเเล้วจินยองชอบ...ชอบมาร์คมาก มากๆเลย
---------- 100 % --------
TBC.
#มนเพื่อนกัน
คะ ดราม่ามากเลยยยยยยยยยยยย
เราเป็นไข้งะ T_T นี่ไอไปพิมฟิคไป น้ำลายเต็มคอมเลย 55555 ความซกมก
ไหนๆเรื่องนี้ก็จะจบเเล้วไม่มีดนาม่าเลยเดี๋ยวมันจะไม่ครบรสเน๊อะ ^^
ไหนใครเคยอ่าน #มนเพื่อนกัน บ้าง เอาดราม่ากว่าอันนั้นดีมะ55555
เอาอันไหนดีน้าาาา
ก. มาร์คมีคู่หมั่นอยู่เเล้ว *ตามหาที่อยู่ไรท์เตอร์
ข. เเฟนเก่าที่มาร์คเคยรักมากกลับมาจากเมกา *ระดมก้อนหิน
ค. มาร์คต้องย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศตามใบสั่งพ่อ *เเล้วไปปาบ้านอิไรท์
ง. เจบียอมสารภาพว่าจริงๆเเล้วชอบมาร์คอยากให้จินยองหลีกทาง *เดี๋ยววววว
โชคดีเจอกันอีกทีตอนหน้านาจา
ความคิดเห็น