คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 : พี่เรียกว่าจินยองได้ไหม ...100%
ตอนที่ 4
พี่เรียกว่าจินยองได้ไหม
“เหี้ยเอ๋ย!” ผมสถบกับตัวเองอย่างคนหัวเสียเมื่อแชมพูที่ควรจะอยู่บนหัว บัดนี้มันได้ไหลลงมาจนเข้าตาผมไปหมดแล้ว!
สัส! กูเทมึงไว้บนหัว มึงก็อยู่แค่ที่บนหัวสิ จะลงมาที่ตาที่หน้าทำไม!! อย่าสะเออะได้ปะวะ!
ผมรีบก้มหัวตัวเองลงกับอ่างล้างหน้า วักน้ำจากก๊อกขึ้นเพื่อหวังจะล้างคราบสารเคมีนี่ออกไป แต่เหมือนอะไรๆมันจะลำบากไปเสียหมด ที่ก็แคบ ตาก็มองไม่เห็น
แม่งโว๊ยยยย เดี๋ยวกูไม่สงไม่สระแม่งละ ล้างหน้าอย่างเดียวพอ ค่อยกลับไปล้างฟองที่คอนโดเอา!
แต่แล้ว ก็มีสัมผัสประหลาดคล้ายๆว่าเหมือนเป็นมือของใครซักคน ค่อยๆบรรจงวักน้ำขึ้นมาปาดล้างคราบฟองสีขาวออกจากตาของผม ทันทีที่อาการระคายเคืองลดลง ผมก็รีบเงยหน้าขึ้นมองใครอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านข้างผ่านกระจกของห้องน้ำทันที
“พี่เจบี” ผมเผลอเรียกชื่อของอีกคนออกมาด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ คนที่มาช่วยผมล้างหน้าก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นไอ้รุ่นพี่หน้าโหดประจำโลกานี่เอง
เมื่อนึกไปถึงสภาพของตัวเองดีๆแล้วก็แอบเขินๆแฮะ
ก็ตอนนี้หน้าของผมเปียกไปหมด ที่หัวก็เต็มไปด้วยฟองจากแชมพู ดูยังไงก็ไกลจากคำว่าดูดีอยู่หลายขุม
อื้อหือ พอส่องกระจกดีๆ นี่กูเป็นคนหรือเห็ดโคนวะ พี่เขาเลิกชอบกูยังเนี่ย เจอกูหัวแฉะเข้าไป
“ก้มลงสิ เดี๋ยวช่วย” ปากก็บอกว่าจะช่วย แต่สิ่งที่เฮียแกทำ รู้ไหมคืออะไร
นั่นคือการกดหัวของผมลงไปจ่อใต้ก๊อกน้ำที่เปิดค้างไว้อยู่แล้วด้วยแรงระดับปานกลาง...
อื้อหือ พี่มึง กดซะหน้ากูเกือบติดรูระบายน้ำของอ่างล้างหน้าเลยนะ มึงจะฆ่าหรือจะช่วยกูกันแน่ ลองถามใจตัวเองดู
ระหว่างที่พี่บีกำลังใช้ปลายนิ้วสางเส้นผมไล่พองออกจากหัวของผมออกไป ก็ไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราอีก
แหม่ จะให้พูดอะไร เกิดน้ำเข้าปากสำลักไปก็คงจะดูไม่งาม
“อืมเสร็จแล้ว” พันผ้าบนหัวให้เสร็จสรรพ ก่อนจะจูงให้ผมเดินตามออกมาที่ด้านนอกห้องน้ำ
เราทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงใต้ถุนตึกคณะนิเทศซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำที่พึ่งออกมาเมื่อกี้นี้
สายลมที่พัดมาเรื่อยๆตามแบบฉบับของฤดูใบไม้ผลิ ส่งผลให้บรรยากาศในตอนนี้เป็นไปแบบสบายๆกำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป
ผมหลับตาพริ้ม อ้าแขนทั้งสองข้างออกจากกัน กางรับกับอุณภูมิสบายๆที่กำลังตีกระทบเข้ามา
“เช็ดผม” เจบีวางผ้าเช็ดผมไว้บนศีรษะของรุ่นน้องที่ตนหลงรัก
“เห้ย ไม่เป็นไรพี่ ทิ้งไว้แบบนี้ก็ได้ ลมเย็นแบบนี้ เดี๋ยวก็แห้ง” จูเนียร์หันหน้ามายิ้มให้พร้อมกับบอกปัดปฏิเสธน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่เขายื่นให้
แต่มีหรือที่คนอย่างเขาก็ยอม คงไม่รู้สินะ ว่าเขาต้องไปขอร้องแกมบังคับเพื่อนร่วมคณะที่พอจะมีของแบบนี้อยู่ตั้งนานกว่ามันจะยอมให้ยืม
“เอ่ม...เช็ดก็ดีเน๊อะ แหะๆ” เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หน้าดุเงียบไปพร้อมกับส่งสายตาขรึมมาให้ รุ่นน้องอย่างเขาจึงยอมขยับผ้าเช็ดผมบนหัวไปมาเพื่อเช็ดเส้นผมที่เปียกน้ำให้แห้งขึ้น
เจบีมองรุ่นน้องที่มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็จับผ้าเช็ดผมไปด้วย ว่ากันว่าการกระทำมักไปก่อนความคิดเสมอ ชายหนุ่มยื่นมือขึ้นไปจับมือน้อยที่กำลังเช็ดหัวตัวเองออกเบาๆ แล้วเป็นฝ้ายหยิบฉวยผ้าผืนนั้นไปถือไว้เสียเอง
รุ่นน้องช้อนสายตาขึ้นมองคนเป็นพี่ด้วยแววตางุนงง แต่แล้วก็ได้รับคำตอบ เมื่ออีกคนบรรจงเช็ดศีรษะของเขาให้แทน
“โทรศัพท์มันมีอะไรน่าสนใจนักหนา” เอ่ยปากบ่นไปอย่างนั้น สายตายังคงจับจ้องไปยังเส้นผมเปียกน้ำของจูเนียร์ เขาไม่อยากเช็ดแรงมาก ด้วยความที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนมือหนัก จึงพยายามจะวางน้ำหนักลงให้น้อยที่สุด
เขาอยากทะนุถนอมแมวน้อยตัวนี้เอาไว้ ถ้าทำได้ แทบอยากจะใส่ปลอกคอเลยด้วยซ้ำ
คนอะไร ยิ่งมองยิ่งน่ารัก
“ง่อวว ก็เนี่ยพี่เจบีดูดิ มีคนเอารูปเนียร์ไปลงเพจไอ้ตุ๊ดแต๋วอะไรก็ไม่รู้เนี่ย เนียร์ไม่ใช่ตุ๊ดโว๊ยๆๆๆๆ” ผมชูภาพในมือถือขึ้น ใช้นิ้วชี้จิ้มภาพไปให้อีกฝ่ายดูด้วยอารมณ์บูดขั้นแม็กแบบสุดยอด เอารูปอื่นไม่เอา มาเอารูปตอนที่เขากำลังเกาตูดตัวเอง
‘พี่จูเนียร์ ลูกพีชนยอง ขาว น่ารัก หุ่นดี ก้นแน่น ปี2อักษรมหาลัยโซล ยังโสด แต่ถ้าจะจีบ ต้องต่อคิวหน่อยนะ’
สัสแอดมินเพจ เดี๋ยวมึงเจอกู อีเหี้ย มาก้นนงก้นแน่นอะไร อัปรีย์ อีห่า กูฟ้องนายกแน่ มึงเตรียมตัวโดนขับไล่ออกจากเกาหลีใต้ได้เลย กูจะแจ้งตำรวจจับมึง! มึงโดนจับแน่!!
“ไหน” พี่เจบีฉกสมาร์ทโฟนในมือของผมออกไปถืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งคืนมันมาให้
ผมมองการกระทำของคนเป็นพี่แบบงงๆ หลังจากที่เฮียแกส่งคืนโทรศัพท์มาให้ผมแล้ว เขาก็ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะกดโทรออกหาใครบางคน
“ไอ้จุนฮเว มึงไปจัดการเพจที่กูส่งไปในไลน์ให้หน่อยสิ อืม ขอบใจมาก” พี่แกวางโทรศัพท์ ยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆอย่างคนได้รับชัยชนะ
ช่างเป็นรอยยิ้มที่ชั่วร้านอะไรแบบนี้ นี่บอกที ว่าไม่ได้ไปสั่งอุ้มฆ่าแอดมินเพจเกย์น่ารักโซลอะ
“พี่คงไม่ได้สั่งฆ่าแอดมินเพจใช่ปะ” ผมลองแกล้งแหย่ๆแซวๆพี่มันไปนิดนึง เฮียแกทำเพียงแค้ก้มหน้าลงมามองผม ก่อนจะเอือมมือมาลูบหัวที่เริ่มแห้งแล้วเบาๆ
“ป่าวหรอก ก็แค่สั่งแสปมเพจนะ” ผมพยักหน้ารับเข้าใจ
“พี่ไม่ยอมให้ใครมาทำให้เราไม่สบายใจหรอก”
พี่เจบีเชยคางของผมขึ้นมา บังคับให้สบเข้ากัน เพื่อสื่อถึงความในใจ ที่อยากบอกให้ฟัง แม้ไม่ได้ร้องขอก็ตาม
“รักมากนะ รู้ยัง”
คุณสามารถทนเฮียบีได้มากแค่ไหนกัน
ลองมาเป็นผมไหม
สายตาเฮียบีที่ส่งมาให้แม่ง...พัง
สะตงสติไปหมดละงานนี้ เขินชิบหาย ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
‘รักมากนะรู้ยัง’
โถ่วโว๊ยยยยยยยยย ใครสั่งใครสอนให้พูดคำๆนั้นออกมาด้วยสีหน้าแบบนี้!!!
“น่ารัก” แนะ! มีการส่งมือมาหยิกแก้มเขาด้วย เฮียแกอมยิ้มที่มุมปากน้อย ก่อนจะดึงมือผมขึ้นมาแล้วพาเดินออกไป
จะว่าไป วันนี้เฮียแกยิ้มบ่อยจังเน๊อะ
ก็ไม่มีอะไรหรอกก็แค่รู้สึกว่า
จริงๆแล้วมันก็ดีนะ
------- #มนเพื่อนกัน #ทีมเฮียบี -------
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกเข้า แทบไม่ต้องเดาเลยจริมๆ ว่าคนที่โทรมาคือใคร
เพราะเสียงๆนี้ ผมตั้งไว้ให้เขาคนเดียว
“ไม่รับเหรอ” พี่เจบีหันมาถามหลังจากที่เห็นผมนิ่งไปนาน ผมจ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อว่า ‘Boyfriend’ พร้อมกับรูปเซลฟี่ของมาร์ค ในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด
รับ
หรือ.......ไม่รับ
สุดท้ายผมก็เลือกที่จะตัดสายมันไปแล้วก็กดปิดเสียงโทรศัพท์ของตัวเองเสีย
ผมมองมาที่รุ่นพี่อีกคนที่ยังคงกุมมือของผมเอาไว้ตลอดทางที่เดินมาด้วยกัน
ผมส่งยิ้มน้อยๆไปให้ ก่อนจะส่ายหน้าปฎิเสธพร้อมกับโกหกคำโตไปว่าเป็นเบอร์ขายครีมนมเด้งที่ชอบโทรมาระราน
ผมมองมือของผมที่ถูกกุมอยู่สลับกับกับไหล่กว้างที่เดินนำหน้าอยู่ไม่ไกล เฮียแกพาผมไปเอาของที่ซุ้มคณะอักษร แม้จะบอกปฎิเสธเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟัง ดึงดันจะไปส่งผมที่คอนโดให้ได้เสียอย่างนั้น
เอาแหละครับ ดี ผมจะได้ไม่ต้องเสียตังค่ารถโดยสารแถมยังเดินเข้าไปตั้งไกล กว่าจะถึง
ผมมองพี่เจบีที่กำลังขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบต์คันหรูสีดำ ที่บอกตรงๆว่าราคาแม่งแพงเสียยิ่งกว่ารถยนต์บางรุ่น
โคตรเข้ากับเฮียแกอะ พูดเลย
แต่สงสัยอยู่อย่างนึง...
ขับมอไซต์เครื่องแรงท้าลมทุกวันแบบนี้
แล้วทำไมเงิงเฮียถึงไม่ยุบวะ...
“ใส่ซะ แล้วก็ขึ้นมา” ผมรีบยกมือขึ้นรับหมวกกันน็อกที่เฮียแกโยนมาให้ โหเฮีย ถ้ากูรับพลาดนี่มีสิทธิเลือดตกยางออกกันเลยนะเหวยยย
นี่หรือคนที่บอกว่ารักกัน?
ผมใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อย ตั้งท่าฉีกขา45องศาเตรียมขึ้นคร่อมมอไซต์เต็มที่
“ใส่เสื้อด้วย ลมมันแรง” พี่เจบีถอดเสื้อนอกของตัวเองออกก่อนจะยื่นมันให้ผม
“เออ แล้วพี่ใส่ไรอะ” ผมถามออกไป หลังจากที่สังเกตดีๆว่าหมวกกันน็อกก็มีอันเดียว ถ้าเขาเอามาให้ผมใส่ เขาก็คงไม่มีใส่ แล้วยังจะเสื้อนอกนี่อีก
อื้อหือ ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรเยี่ยงนี้...
จุฑาเทพหลบไป เฮียบีจะเดิน
“ก็เป็นห่วง อยากให้ใส่ ทำไมต้องถามเยอะ” เจบีตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มมุมปากจางๆ เล่นทำหัวใจของคนฟังกระตุกสั่นไหว
จินยองรีบปิดกระจกตรงหมวกกันน็อกลง หวังเพียงเพื่อซ่อนรอยยิ้มที่กลั้นไว้แทบไม่อยู่ของตนเท่านั้น
ถึงพี่เขาจะเป็นคนตรงๆไปนิด แต่ก็ไม่ได้มาชอบนะ
ตัวรถออกทะยานไปตามท้องถนน ด้านข้างเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่กำลังออกดอกผลิบานตามฤดูกาลของมัน
ผมมองเฮียบีผ่านกระจกรถด้านหน้า สีหน้าเรียบนิ่งกับปอยผมด้านหน้าที่ปลิวเสยไปด้านหลังตามแรงลม
เหมือนกูนั่งรถมากับขอนไม้...
ไร้อารมณ์ไปไหมก้อนหินปมเอ้ย!
แม้จะเขินๆอยู่บ้างที่ต้องมานั่งซ้อนท้ายมอไซต์กันแบบนี้ แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับนั่งวินมอเตอร์ไซต์หรอก
แต่คือยังไงมันก็ไม่เหมือนอะ ยิ่งพักนี้เฮียแกทำตัวน่ารักมากขึ้นด้วย โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย!
รักมากนะรู้ยัง หึ
กูก็เขินมากนะ รู้ยัง!
“มาร์ค ฮยอกอยากกินพิซซ่าอะ” ผมมองผู้ชายหน้าหวานข้างตัว ที่มีฐานะเป็นแฟนคนล่าสุดของผมด้วยสายตาเอือมๆ
ตั้งแต่ตอนนั้นที่จินยองเดินออกไปจากห้องน้ำ ผมก็รู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
มันเหมือนมีเรื่องอะไรจะพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดไปทำไม อธิบายเพื่ออะไร
หงุดหงิดตัวเองตอนนี้ชิบ ยิ่งกว่าเวลามีอารมณ์แล้วไม่ได้ช่วยตัวเองเสียอีก
“อืม” ผมตอบรับอีกฝ่ายไป เสหน้าออกไปมองด้านนอกหน้าต่างทันทีที่รถติดไฟแดง
จินยองนะจินยอง ทำอะไรอยู่ กดปุ่มโทรออกจนหน้าจอจะแตกอยู่แล้วเนี่ย! ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ!
อารมณ์เสียวะ
“หือ” ผมหลุดครางหือออกมาเมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่จอดอยู่ด้านข้างไกลออกไปประมาณสองไม้บรรทัดยาว
คนด้านหน้านะ รู้จักดี จำหนังหน้าได้ขึ้นใจว่าไม่ใช่ใคร แต่เป็นไอ้พี่เจบีที่ชอบมาแอบเต๊อะไอ้จินยองมัน แต่ไอ้คนที่ซ้อนท้ายอยู่นี่ดิ แม่ง...
มีรางสังหรณ์แปลกๆวะ
ผมเพ่งมองจนหน้าแทบจะทะลุกระจกรถของตัวเองออกไป หรือว่าจะเป็นจินยองวะ
ไม่ใช่หรอก จินยองป่านนี้น่าจะกลับคอนโดไปแล้วดิ แล้วที่ไม่รับโทรศัพท์อาจจะนอนไปแล้วก็ได้
แต่หุ่นแม่งใกล้เคียงวะ
โอ๊ย คนหุ่นแบบมันมีถมไป คิดมากๆ
“มาร์ค เป็นไร เห็นจ้องอยู่ตั้งนาน” ฮยอกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เพื่อหวังจะดูว่าผมมองอะไรอยู่
“นั่นรุ่นพี่เจบีกับเพื่อนนายนิ เขาก็สมกันดีนะ ซ้อนท้ายมาแบบนี้ คงเป็นแฟนกันแล้วหละ” รู้สึกหน้ากระตุกไปถึงตีนเลยทีเดียวที่ได้ยินประโยคนี้
ผมรีบหันขวับไปมองที่มอไซต์คันนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าคนที่ซ้อนท้ายอยู่นั้นคือจินยองจริงๆ
เพราะตอนที่มือบางคู่นั้นถอดหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ออก ก่อนจะยกขึ้นใส่ให้ใครอีกคนที่อยู่ด้านหน้า
เหมือนตึกถล่มลงตรงหน้า โมโหมากจนแทบอยากหักพวกมะลัยรถไปชนให้แม่งตายๆกันไปซะ
จินยอง นายไปซ้อนท้ายมันทำไมวะ
ก็บอกแล้วไง ว่าผู้ชายคนอื่นนอกจากฉันนะ ไว้ใจไม่ได้ ใครๆก็หวังจะลวนลามนายทั้งนั้น ไม่มีใครบริสุทธิ์ใจกับนายเท่าฉันแล้ว ทำไมไม่เชื่อไม่ฟังไม่จำกันบ้างวะ!
ภาพรถคันนั้นขับพุ่งทะยานออกไป จินยองที่ซุกหน้าของตัวเองลงกับบ่ากว้างของไอ้พี่เจบีนั่น…
แม่งเอ้ย! หงุดหงิดชิบหาย!
ต๊วนจะไม่ทน!!!
“มาร์คเป็นอะไร โอ๊ยขับช้าๆหน่อยฮยอกเมารถแล้วนะ!!” ผมหักรถลงจอดข้างทาง ตวัดสายตาไปทางตุ๊กตาหน้ารถชั่วคราวที่ตอนนี้เริ่มรำคานและไม่ต้องการแล้ว
“ลงไปฮยอก ต่อจากนี้ไม่ต้องมาตุยกันอีก” ผมพูดไว้แค่นั้นก่อนจะผลักอีกฝ่ายลงไปอย่างไม่สนใจใยดี ว่าจะมีรถไปต่อไหมแต่อย่างใด
เพราะตอนนี้ใจผม มันลอยตามมอเตอร์ไซต์คันสีดำนั้นไปไกลแล้ว
ผมเหยียบคันเร่งจนมิด ไล่ตามมอเตอร์ไซต์สีดำของไอ้พี่เจบีให้ทัน
ไม่รู้แหละเว่ย ผมจะไปรับจินยองกลับ ผมจะไม่ให้ใครหน้าไหนมายุ่งวุ่นวายกับเพื่อนของผมทั้งนั้น!!
------- #มนเพื่อนกัน #ทีมมัคบอย -------
“อ้าวพี่เจบี ไมพาผมมานี่อะ” ผมถามอีกฝ่ายแบบงงๆเมื่อที่ๆเราอยู่คือห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านฮิตของวัยรุ่น แทนที่จะเป็นคอนโดของผม
“แล้วนายบอกทางไปคอนโดฉันหรือยังละ ลง” ผมยอมลงจากมอไซต์ง่ายๆ เฮียแกถอดหมวกกันน็อกออก เซ็ตทรงผมให้เข้าที่เข้าทางเล็กน้อย ก่อนจะดึงกระเป๋าเป้ของผมไปสะพายไว้เอง
“ฉันหิว กินเป็นเพื่อนหน่อยสิ” หลังจากพูดจบ พี่เขาก็เดินนำหน้าเข้าไปในห้างทันทีแบบไม่คิดจะรอกัน ราวกับว่ากระเป๋าที่กูเอาไปถือนั้นคือตัวประกัน ถ้ามึงไม่ตามกูเข้าไป กูจะจุดไฟเผากระเป๋ามึงทิ้งมันกลางห้างเนี่ยแหละ
ผมยอมเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน พี่เจบีลดจังหวะก้าวเดินให้ช้าลงในขณะที่ผมกำลังวิ่งไปให้ถึงตัวอีกฝ่าย
อีกครั้งที่เขาฉวยมือของผมไปกุมไว้ พร้อมกับส่งรอยยิ้มบางๆที่มองเท่าไหร่ก็ไม่ชินเสียทีมาให้
“จับไว้ จะได้เดินไปพร้อมๆกัน”
พัง ตาย สลบ
เฮียมึง...
ทำแบบนี้ มีใครไม่หวั่นไหวบ้าง!!
“จูเนียร์อยากกินไรครับ” พี่เจบีหันมาถามผมในขณะที่เรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางร้านอาหารมากหน้าหลายตา
“เนียร์อยากกินเป็ดอะ เป็ดนะ เป็ดๆๆๆๆ” ผมเผลออ้อนแกว่งแขนของเฮียบีไปมาอย่างที่เคยชอบทำกับใครอีกคน
อ่า มาร์ค จะว่าไป ป่านนี้คงจะไปสุดติ่งกับคนคนนั้นอยู่ที่ไหนซักที่แล้วหละมั้ง
เลิกคิดถึงแม่งเถอะ เสียบรรยากาศ
“หืม? ก็เอาสิ อย่าอ้อนบ่อยนะ หวง เก็บไว้ทำตอนอยู่กันสองคนดีกว่า” เฮียบีเอื้อมมือมาขยี้หัวของผมเบาๆ ส่งสายตาเอ็นดูมาให้ราวกับว่าการกระทำเมื่อกี้ของผมมันดูน่ารักมากนักหนา
ก็น่ารักนั่นแหละ มากพอที่จะทำให้ใครบางคนที่แอบตามมาหัวใจกระตุกวูบด้วยความไม่พอใจ
จินยอง นายไปอ้อนไอ้เสาหินนั่นทำไมวะ!!
อยากกินเป็ดบอกป๋ามาร์คดิวะ บอกป๋ามาร์ค เดี๋ยวกูจะเหมามาให้เลยทั้งเล้าเอาไหม จะเป็ดย่าง เป็ดนึ่ง เป็ดตุ๋น เป็ดปักกิ่ง เป็ดฮ่องกง เป็ดไต้หวัน เป็ดอเมไทยกง อะไรกูก็จะหามาให้ แค่มึงบอกกูอะ แค่มึงอ้อนขอกับกูอะ! มึงจะไปอ้อนคนอื่นทำไมวะ ไอ้เหี้ยจู กูหึง!!!
เห้ย ไม่สิ
นี่ผมหลุดคำว่าอะไรออกไปนะ
หึง?
ไม่ๆ แค่หวงพอ เมื่อกี่คิดผิด หอๆหึงๆ ใช้ ห.หีบเหมือนกัน มันก็มีพลาดกันบ้าง
ทำไม ก็ผิดหรือไง ที่ไม่อยากให้เพื่อนไปสนิทกับคนอื่นมากกว่าอะ!!
ผมเข้ามานั่งด้านในร้านขายอาหารจีน เราสั่งอาหารกันมาคนละสามสี่อย่าง ก่อนจะจบลงด้วยเป็ดปักกิ่งจานใหญ่ที่ผมอยากแดกแบบขั้นสุด
“ชอบกินเป็ดขนาดนั้นเลยเหรอ” เจบีแอบมองรุ่นน้องตรงหน้ากินอาหารไป มีความสุขไป เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เวลาอ้อนก็น่ารัก เวลากินก็น่ารัก
น่ารัก...
น่ารักไปหมด…
“โอ๊ะ ก๋วยเตี๋ยวหลอดมีสามชิ้น อีกชิ้นนึงแบ่งกันโน๊ะ” แมวน้อยตรงหน้าพูดออกมาทั้งๆที่ปากยังอมตะเกียบเอาไว้
อือหือ น่ารักอีกแล้ว
ทุบหัวแล้วเอากลับบ้านเลยดีไหม
“นายกินสิ” ผมเอ่ยออกมา เพราะแลเจ้าตัวจะชอบไอ้อาหารจีนตรงหน้ามากๆ ถึงวันนี้ผมจะไม่อิ่มกาย แต่ทว่าได้อิ่มใจก็เป็นพอ
“ได้ไงอะ แบ่งกันคนละครึ่งดีกว่า” น้องใช้ช้อนกลางของตัวเองแบ่งขึ้นอาหารตรงหน้า ก่อนจะตักมันขึ้นมาจ่อที่ปากของผม
“อ้ามมมมม~” จูเนียร์มองรุ่นพี่อีกคนตาใสแป๊ว ยกช้อนขึ้นจรดริมฝีปากของอีกฝ่าย
เจบีนิ่งค้างไปประมาณหนึ่งนาที ก่อนจะได้สติรีบกินอาหารตรงหน้าเข้าไป
จูเนียร์
นายจะมีผลต่อความรู้สึกของฉันมากเกินไปแล้วนะ
ไม่ชอบที่ตัวเองยิ้มบ่อย เพราะมันจะไม่คูล แต่ถ้าเป็นนายก็ชั่งเถอะ เพราะยังไงแล้ว
ฉันก็ยิ้มให้นายแค่คนเดียว
ภาพเพื่อนสนิทหน้าแมวที่กำลังค่อยๆยกช้อนจรดริมฝีปากของรุ่นพี่ตรงหน้า ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างของมาร์คต้วนหยุดชะงัก จินยองที่ยิ้มสดใส รอยยิ้มที่เคยหลงนึกไป ว่ามีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับมัน
แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่แล้ว
มาร์คเลือกที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น ตัดสินใจเดินออกจากห้างไป
เขาทนไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องมาเห็นอะไรแบบนี้
ไม่รู้จริงๆ ว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันคืออะไร รู้แต่ว่าไม่เคยเป็นมาก่อน
แม่งเอ๊ย โคตรไม่ชอบเลยวะ
“พี่เจบี กินดิ ผมเลี้ยงๆ” ผมยกไอศกรีมรสวนิลาสีขาวใส่โคนอย่างดีให้พี่เจบีหนึ่งอัน ส่วนอีกอันในมือก็ใช้ปลายลิ้นเล็กเลียตรงบริเวณที่ใกล้กับโคนสีน้ำตาลอ่อน
เจบีลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นปลายลิ้นเล็กสีแดงไล่เลียไปทั่วริมฝีปากอิ่มที่ได้แต่แอบเฝ้ามองมานาน เขาค้างอยู่ในท่าถือไอติม ดวงตาทั้งสองข้างมองตรงมาที่จูเนียร์อย่างไม่อาจละสายตา
“เอ้าพี่ กินดิ ละลายหมดละเนี่ย โถ่ว” สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียง เขารีบส่งไอศกรีมในมือเข้าปาก ค่อยๆกินไปในขณะที่ตาก็ลอบแอบมองคนข้างๆไปเรื่อยๆ
ใบหน้าน่ารักยกยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้งที่ได้กินไอ้ครีมสีขาวรสหวานเข้าไปในปาก
ตอนนี้เราทั้งสองคนนั่งอยู่ในสวนสาธรณะKซึ่งใกล้กับคอนโดน้องมาก ต้นไม้โดยรอบต่างพากันผลิดอกเบ่งบานเติมแต่งสีสันให้กับสถานที่แห่งนี้จนดูสวยงามหน้ามองไปหมด
ผมมองภาพจูเนียร์ที่กำลังนั่งอยู่ด้านข้างของผม ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นต้นซากุระสีชมพูที่ผลิดอกออกตามฤดูกาล
“จินยอง” ผมส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายออกไปด้วยชื่อเรียกที่ไม่เคยเรียกมาก่อน
ผมพอจะเดาออก ว่าชื่อๆนี้ ไม่ใช่ใครก็สามารถเรียกได้ จะเห็นก็แต่ว่ามี มาร์ค ต้วน เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เรียกน้องของเขาว่าแบบนั้น
คงมีไว้ให้แต่คนที่สนิทจริงๆสินะ
แล้วเขาหละ
มีสิทธิไหม ที่จะเรียกจูเนียร์ว่าจินยอง
“หือ?” แมวน้อยทำหน้าเหรอหราทันทีที่ได้ยินพี่เจบีเรียกเขาด้วยชื่อที่ต้องยอมรับเลยจริงๆ ว่าสงวนไว้ให้คนสนิทจริงๆเท่านั้นเรียก
ขนาดแจ็คสันกับยองแจยังไม่ได้เรียกเขาด้วยชื่อนี้เลย...
จะมีก็แต่มาร์คนั่นแหละที่เรียกเขาแบบนี้
แค่มาร์คคนเดียว...
“พี่เรียกเราว่าจินยองได้ไหม” อีกครั้งที่รุ่นพี่ตรงหน้า ส่งสายตาอ้อนวอนเหมือนขอร้องอะไรบางอย่างกับเขา มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆอย่างคนแบบเจบี ซึ่งอันนี้เขาก็พอดูออก
แต่เมื่อลองนึกทบทวนดูแล้ว มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะยังไงเสีย มันก็แค่ชื่อ...
ฉับพลันสายตากลมโตเหลือบไปเห็นคราบครีมสีขาวสะอาดที่ติดเลอะอยู่ตรงบริเวณขอบปากของเจบีที่ตอนนี้กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่คาดหวังกับคำตอบ
จินยองอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเเตะแล้วเช็ดคราบที่ว่าออกอย่างเบามือ คิดทบทวนถามใจตัวเองจนมั่นใจแล้วว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิด
“ทำไมจะไม่ได้ละครับพี่แจบอม” ลองถือวิสาสะเรียกอีกคนด้วยชื่อจริงที่แอบไปสืบมา
เจบีมีท่าทีตกใจเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีความดีใจมากกว่า เขาแทบอย่าจะคว้าร่างตรงหน้ามากอดให้สาสมกับความน่ารักที่เจ้าตัวมี แต่ก็ทำได้เพียงยกยิ้มบางก่อนจะส่งมือขึ้นไปยีหัวจินยองอย่างนึกเอ็นดู
จินยอง แจบอม
ถ้าชื่อของน้องจะพ้องกับพี่เสียขนาดนี้ ยอมรับเถอะ ว่าเราสองคนเป็นเนื้อคู่กัน
“จินยอง อย่าทำตัวน่ารักให้มันมากนักนะ” ผมหันไปมองอีกฝ่ายที่จู่ๆก็มีท่าทีขึงขันขึ้นมา น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็แข็งกระด้างติดจะดุเสียเล็กน้อย
เป็นอะไร เมาไอติม?
เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีๆอยู่เลย
“พี่เขินนะ รู้ไหม” แต่ประโยคถัดไปนี่แทบทำเอาเขาหลุดยิ้มออกมา เจบียกมือขึ้นปิดหน้าของตัวเองคล้ายเด็กที่กำลังเขินอาย ใบหน้าขึ้นริ้วแดงที่เริ่มลามมาถึงใบหู ส่งผลให้เขาพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างที่พูดจริงๆ
“ทำพี่เป็นได้ถึงขนาดนี้ อย่าลืมรักพี่ละ”
“แล้วถ้าผมไม่รักพี่อะ”
“งั้น...”
“นายไม่ต้องรักพี่ก็ได้ แค่อยู่แบบนี้ให้พี่รักก็พอ”
100%
TBC.
---- #มนเพื่อนกัน #ทีมเฮียบี #ทีมมัคบอย ----
ใครไม่พัง เราพังคะ...
ว่าไงคะรีดเดอร์ ทีมใครดี #ทีมเฮียบี หรือว่า #ทีมมัคบอย 555 แต่เจบีดีโน๊ะ งี้แหละ ครบสูตรพระรอง555 ไปละ ตอนหน้าเจอกันคะ แอบสงสารฮยอกโดนทิ้งกลางทาง
เม้มต์บ้างไรบ้าง ไรต์จะได้มีแรงแต่งต่อ ท้อนะเหวยยยย
ติดแท็กมาได้คะในทวิตชอบอ่าน555 #มนเพื่อนกัน #ทีมมัคบอย #ทีมเฮียบี
ไปละคะ ฝันดี ติชมเราได้นะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านคะ รักกกก
ความคิดเห็น