ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกเทพอสูรมหาสงคราม ภาคพิเศษ๑ ภาคงานแต่งของกวินฟ้า

    ลำดับตอนที่ #4 : กวินฟ้า4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 278
      0
      16 ก.พ. 52

    ศึกเทพอสูรมหาสงคราม ภาคพิเศษ ๑

    ภาคงานแต่งของกวินฟ้า ๔

     

                เจ้าพวกบ้า บังอาจนัก กล้าทำเช่นนี้กับข้าเชียวหรือ? หึ่มมมมม

                    พระโอรส จากต่างเมือง แทบจะกินเลือดกินเนื้อคนทั้งสี่

     

                ซวบบบบ

                    กวินฟ้ามิได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย

                    หนอย...ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยหรือไง  ดีล่ะเห็นทีว่าวันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนพวกเจ้าให้รู้สำนึกบ้างเสียแล้ว

               

                เจ้าชายเกเรเหวี่ยงหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของนาคลมอย่างแรงหากแต่ทว่า...

                    หมับบบบ

                    โอ๊ยยยยยยยยยยยยย

     

                    ก่อนที่หมัดจะถูกตัวของ กวินฟ้า หมัดของอีกฝ่ายกลับถูกนิลจับเอาไว้อย่างเหนียวแน่นที่สำคัญยังเพิ่มแรงบีบเข้าไปยังผลให้ชายหนุ่มร่างสูงต้องคุกเข่าลงไปด้วยความเจ็บปวดอย่างช่วยไม่ได้

                โอ๊ยยยย ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าไพร่ชั้นต่ำ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงบังอาจทำร้ายข้า.....

     

                    ยังไม่ทันจบประโยคดี มุก ที่นั่งฟังอยู่นานก็ประเคนเท้าเข้าให้เต็มปาก

                    ผลัวะ

                อ๊อคคคค

                   

                    เจ้าชายเซถลาไปทางด้านหลังก่อนที่จะล้มคะมำไปกับพื้นทั้งยังกวาดข้าวของที่วางอยู่ล้มระเนระนาดตามลงไปด้วย ส่วนที่มุมปากมีเลือดไหลย้อยออกมาเป็นทาง

                โครมมมมมมมมมม

     

                โอ๊ยยยย....ตายแล้ว ร้านข้าพังแน่ๆ

                เสียงของเจ้าของร้านที่หลบอยู่อีกด้านหนึ่งพร้อมกับลูกจ้างสามสี่คนดังขึ้น ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะดวงซวยถึงขนาดนี้เปิดร้านยังไม่ถึงครึ่งวันดีก็มีคนทำท่าจะทะเลาะวิวาทกันเสียแล้ว

     

                    อย่าคิดแม้แต่จะแตะต้องคุณชายของพวกข้า ไม่เช่นนั้นเจ้าไม่ได้ตายดีแน่

                    เจ้าพวกบ้า วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะรอดมือข้าไปได้เลย ย๊ากกกกกกกก

               

                เจ้าของเสียงเอามือปาดเลือดที่ไหลออกมาก่อนเตรียมจะกระโจนเข้าใส่กลุ่มของกวินฟ้าอีกครั้งหมายเอาคืนให้ได้

                หยุดเดี๋ยวนี้นะ รณวงศ์

                    เสียงอันทรงพลังของใครคนหนึ่งร้องห้ามอยู่ทางเบื้องหลัง

                    หืมมมมมม…….”

                    เสียงของคนผู้นี้ทำเอาทั้งห้าคนต้องหันไปมองดู

                    ....อ๋อ.....นึกว่าใครที่ไหนที่แท้ก็เจ้าเองหรอกหรือเจ้าชายทรงกลด เจ้ามาห้ามข้าเอาไว้ทำไม นี้มันเรื่องของข้าไม่ใช่เรื่องของเจ้า

                   

                    เจ้าชายรณวงศ์รู้สึกขัดใจไม่น้อยที่จู่ๆมีคนเข้ามาขวางทางโดยเฉพาะคนผู้นั้นเป็นหนึ่งในบรรดาคู่แข่งของตนเองด้วย

                ถึงจะเป็นเรื่องของเจ้าก็จริง แต่การที่จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นในที่สาธารณะเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่บังควรสำหรับเชื้อสายกษัตริย์เช่นเรา

                    แต่คนพวกนี้มันลบหลู่ข้า ข้าจะต้องสั่งสอนพวกมันให้รู้สึกนึก

     

                    ฮะๆๆ น่าขำ คิดจะสั่งสอนพวกข้าอย่างนั้นหรือ ดูสภาพตัวเองก่อนดีกว่ามัง ขนาดพวกข้ายั้งมือเอาไว้เจ้าชายอย่างท่านยังย่ำแย่ถึงเพียงนี้ หากเอาจริงท่านมิร่อแร่ปางตายหรอกหรือ?

                    มุกกล่าวเยาะหยันอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

                    ....เจ้า......เจ้าคิดว่าตัวเองแน่นักใช่ไหม.....ได้วันนี้ไม่ใช่เจ้าก็ข้าที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง........

                    รณวงศ์ โมโหโกรธาเป็นยิ่งนัก ถึงกับเอามือชี้หน้าฝ่ายตรงข้าม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครหยามเกียรติเขาถึงเพียงนี้

                    รณวงศ์ เจ้าอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า อย่าลืมว่าทั้งเจ้าและข้าต่างมาเข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยเช่นกัน หากเรื่องวิวาทในครั้งนี้ล่วงรู้ไปถึงข้างในวังเข้า ไม่แน่ว่าเจ้าเองอาจจะหมดสิทธิ์เข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยก็ได้

                    ถึงแม้จะยังคงเคียดแค้นชายหนุ่มทั้งสี่อยู่แต่พอได้ยินสิ่งที่พระโอรสทรงกลดกล่าวถึงตัวเขาเองถึงกับชะงัก การที่พระโอรสรณวงศ์มาที่นี้ก็เพื่อหวังว่าจะได้อภิเษกสมรสกับพระธิดาของเจ้าผู้ครองนครโรมพัตร ถ้าเกิดมีเรื่องมีราวขึ้นจริงๆแล้วคนที่จะดูไม่ดีในสายตาของผู้อื่นก็คือตัวของเขาเองมากกว่าพวกไพร่ชั้นต่ำเช่นนี้ เมื่อชั่งความหนักเบาแล้ว หากเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นจริง ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตนเองเป็นแน่

     

                    ..ก็ได้ทรงกลด วันนี้ข้าจะรามือก่อนก็ได้  แต่อย่าคิดนะที่ข้ารามือในวันนี้เป็นเพราะข้าเกรงกลัวเจ้า เจ้าเองก็เหมือนกันระวังตัวเอาไว้ให้ดีอย่าให้ถึงทีข้าบ้างก็แล้วกัน  แล้วในวันงานพิธีข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าผู้ที่เหมาะสมจะเป็นราชบุตรเขยของนครโรมพัตรแห่งนี้มีเพียงข้า เจ้าชายรณวงศ์ เพียงผู้เดียวเท่านั้น

                    รณวงศ์ กล่าวอาฆาตพลางจ้องหน้ามองคนโน้นทีคนนี้ที ก่อนเรียกมหาดเล็กคนสนิทกลับไป

                เจ้าจ้อย กลับกันได้แล้ว หากอยู่ที่นี้นานอีกนิด ข้าอาจจะยั้งใจเอาไว้ไม่อยู่

                    หยู....พระเจ้าข้า

                    มหาดเล็กคนสนิทขานรับก่อนพาสังขารที่สะบักสะบอม คลานหมอบกราบผ่านบรรดาฝ่าเท้าของแม่พวกสาวๆที่ล้อมวงเขาอยู่ไป

     

                โอ้โห เจ้าหมอนี้โลภมากไม่เบา คิดจะแต่งทั้งพี่ทั้งน้องเชียวหรือ? มุกว่าพลางมอง รณวงศ์ ที่เดินจากไป

                    เฮอะ...ขืนเจ้าหมอนี้ได้เป็นราชบุตรเขยจริง ก็น่าสงสารพระธิดาทั้งสองพระองค์แย่  ว่าไหมพี่มรกต

                พอได้แล้ว พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้วนะรู้ไหม? มรกตปรามน้องทั้งสองเพราะรู้สึกทั้งสองคนจะออกความคิดเห็นมากจนเกินไปอีกทั้งเรื่องที่ใครจะได้เป็นราชบุตรเขยนั้นก็มิใช่หน้าที่กงการอะไรที่พวกเขาทั้งหมดจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

                   

                    ด้านเจ้าชายทรงกลด ส่ายหน้าด้วยความระอาในนิสัยของ รณวงศ์  ก่อนหันมามองคนทั้งสี่

                    คนนี้เป็นใครกันนะดูมีสง่าราศี ไม่เหมือนสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป คงจะไม่ใช่แค่บัณฑิตหรือลูกขุนนางธรรมดาเป็นแน่ แต่น่าแปลกองครักษ์ของเขาทั้งสามคนดูท่าทางอ้อนแอ่นชอบกลไม่เหมาะจะเป็นคนคุ้มกันเอาเสียเลย แต่กลับมีพละกำลังมหาศาล แม้กระทั่งรณวงศ์เองก็ยังเสียท่าโดยง่าย เห็นทีข้าคงต้องลองเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาหน่อยเสียแล้ว

                คิดแล้วก็ให้สงสัยนัก จึงลองเขาไปทักทายทั้งสี่ดู

                    ขออภัยท่านทั้งสี่ ไม่ทราบว่าให้ข้าร่วมโต๊ะได้หรือไม่?

     

                    กวินฟ้า มองหน้าผู้มาใหม่ พลางคิดในใจว่า

                    เจ้าชายผู้นี้ดูมีอัธยาศัยดี ไม่ถือตัวไม่แน่ว่าหากข้าสนิทสนมกับเขา ก็อาจจะเข้าไปในเขตพระราชวังในฐานะพระสหายได้

    คิดแล้วก็รีบคลี่พัดเชื้อเชิญในทันที

                    เชิญเจ้าชายทรงกลด ประทับก่อนพระเจ้าข้า

                    แม้กิริยาจะดูให้เกียรติแต่ทว่าลักษณะท่าทางสูงศักดิ์ราวกับกษัตริย์จากแคว้นเมืองใหญ่ก็ไม่ปาน ทำเอาเจ้าชายทรงกลดอดคิดไม่ได้กำลังสนทนาอยู่กับเจ้าชายจากนครใดนครหนึ่งอยู่

     

                    พวกท่านก็เช่นกันเชิญ เจ้าชายทรงกลดตอบพลางเชื้อเชิญให้อีกสามคนนั่งลงเช่นกัน

                    ขอถามท่านทั้งสี่ ไม่ทราบว่าพวกท่านมีนามใด?

                   

                    นายของข้ามีนามว่า กวินฟ้า เป็นบัณฑิตจากต่างเมืองออกแสวงหาความรู้ในศาสตร์ด้านปกครอง ส่วนตัวข้ามีนามว่ามรกต  ส่วนสองคนนี้ชื่อ มุก และ นิล พวกเขาต่างเป็นน้องของข้า พวกเราทั้งสามคนได้รับมอบหมายให้ตามมาอารักขาคุณชายขณะเดินทาง

                    ฟังจากที่พูดก็พอจะคาดเดาได้ว่าพวกเขาคิดที่จะเข้ามาร่วมงานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยเป็นแน่

     

                    ถ้าเช่นนั้น ท่านก็คงมาร่วมงานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยด้วยกระมัง

                    กวินฟ้า หัวเราะเบาๆ พลางเอ่ยตอบว่า

                    หามิได้ ข้าไม่ได้คิดที่จะมาร่วมงานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยแม้แต่น้อย

     

                    พระโอรสทรงกลด ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าพระทัยว่าเหตุใด กวินฟ้า ถึงไม่สนใจการคัดเลือกราชบุตรเขยในครั้งนี้ทั้งๆที่ชายทั่วทั้งนครโรมพัตรและแว่นแคว้นแดนไกลต่างก็หมายใคร่อยากได้พระธิดาทั้งสองเป็นคู่ครอง

                    ชายทั่วทั้งนครโรมพัตรในเวลานี้ต่างมีแต่ผู้หมายปองพระธิดาทั้งสองพระองค์อยู่ แล้วเหตุใดท่านถึงได้ไม่สนใจในพิธีการคัดเลือกราชบุตรเขยในครั้งนี้เล่า โปรดไขความกระจ่างให้ข้าด้วย

     

                    กวินฟ้าลุกขึ้นคลี่พัดวี่ไปมา พลางกล่าวว่า

                    ข้ามาที่นี้เพียงแค่อยากจะรู้เท่านั้นเองว่า คู่ครองของพระธิดาทั้งสองพระองค์จะสง่าและทรงความรู้เพียงใด ในคราวแรกดูเหมือนว่าข้าคงมาเสียเที่ยวเปล่าๆเสียแล้ว

                    เพราะเหตุใดท่านถึงคิดเช่นนั้น เจ้าชายทรงกลดถาม

     

                    ดูจากพระโอรส รณวงศ์ ผู้นั้นเป็นตัวอย่างไรเล่า หากมีคนเช่นนี้อยู่มากมายในพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยเช่นนี้แล้วเห็นทีคงจะไม่มีใครคู่ควรกับพระธิดาทั้งสองเป็นแน่ แต่พอข้าได้พบกับท่าน เจ้าชายทรงกลดข้าจึงได้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ไม่แน่ว่าเวลานี้ข้าเองอาจกำลังสนทนาอยู่กับว่าที่ราชบุตรของนครโรมพัตรอยู่ก็เป็นได้

                    เจ้าชายทรงกลด หัวเราะเล็กน้อย

                    ดูท่านคงประเมินข้าสูงจนเกินไปแล้ว ยังมีเจ้าชายอีกมากมายที่มาในคราวนี้ พวกเขาเองก็มีสิทธิ์และอาจจะเหมาะสมยิ่งกว่าข้า

     

                    แต่ข้าคิดว่าสายตาของข้าคงมองดูไม่ผิดแน่ โปรดอย่าได้ทรงถ่อมตนไปเลย

                    นาคลม กล่าวยกย่องหวังให้เจ้าชายเกิดความรู้สึกที่ดีกับตนเอง

     

                    แล้วท่านบัณฑิตน้อยไม่คิดที่จะประเมินตัวเองบ้างหรอกหรือ?

                    เสียงของชายหนุ่มรุ่นใหญ่ดังแทรกขึ้นมา จนทุกคนต้องเหลียวหันไปมองดู

                    อ้าว!...ท่านอำมาตย์วิชาญ ท่านก็อยู่นี้ด้วยหรือ?

                เจ้าชายทรงกลดเอ่ยทักทายเมื่อเห็นชายร่างใหญ่เดินเข้ามา ดูเหมือนว่า อำมาตย์วิชาญจะอยู่ที่นี้นานแล้วเพียงแต่เจ้าชายทรงกลดไม่ได้ทันสังเกตเห็น

                    อำมาตย์ใหญ่แห่งนครโรมพัตรและลูกชายพร้อมทหารคนสนิทถวายบังคับพระโอรสทรงกลด ก่อนกราบทูลว่า

                    พระเจ้าข้า  ข้าพระพุทธเจ้า ได้รับพระบัญชาจากองค์เหนือหัว ให้มาค้นหาชายหนุ่มทั่วทั้งนครเพื่อดูว่าพวกเขาพอจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยได้หรือไม่ ข้าพระพุทธเจ้าเอง ก็ไม่คิดด้วยว่าจะได้พบกับพระโอรสที่นี้ด้วยเช่นกัน

     

                    ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่า ท่านอำมาตย์เองก็คงหมายตา กวินฟ้า เอาไว้ด้วยแล้วกระมัง?

                พระโอรสกล่าวด้วยความยินดี เพราะส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบนิสัยใจคอกวินฟ้าไม่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนก็ตาม

     

                    พระเจ้าข้า อำมาตย์วิชาญ กราบทูลตามตรง

     

                    นาควายุได้ฟังแทบจะเผ่นหนีในทันที

                    ท่านอำมาตย์ ท่านพูดผิดพูดใหม่ได้นะ ข้านะหรือมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมพิธีได้ด้วย

                กวินฟ้าชี้หน้าตัวเอง พลางพูดขอความเห็น เผื่อว่าจะมีคนไม่เห็นด้วยบ้าง

     

                    ด้วยความรู้กว้างขวางอย่างเช่นท่านบัณฑิตน้อยยังมีคุณสมบัติไม่คู่ควรเข้าร่วมในพิธีแล้ว เช่นนั้นชายหนุ่มทั่วๆไปก็คงไม่มีสิทธิ์ยิ่งกว่าอีกหรืออำมาตย์วิชาญว่า

                    ไหนๆท่านบัณฑิตเอง ก็ศึกษาเล่าเรียนมาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คิดจะนำความรู้มาใช้ประโยชน์บ้าง ข้าคิดว่างานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยในครั้งนี้ท่านบัณฑิตคงได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์เป็นแน่ วิชุกร บุตรชายของท่านอำมาตย์กล่าวเสริมอีกแรง

     

                ข้าเห็นด้วยกับท่านอำมาตย์นะ กวินฟ้า เจ้าน่าจะลองเข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยในครั้งนี้ด้วย ข้าเองก็อยากให้เจ้าร่วมในงานนี้ด้วยเช่นกัน เจ้าชายทรงกลด เองก็ทรงเห็นด้วยเช่นกัน อีกทั้งจะยินดียิ่งหากกวินฟ้าได้เป็นราชบุตรเขยของนครโรมพัตรเพราะมองเห็นว่า กวินฟ้า เป็นผู้มีความรู้ความสามารถสูงผู้หนึ่งน่าจะช่วยทำให้ นครโรมพัตรยิ่งใหญ่เกรียงไกรขึ้นอีกได้

     

                    กรรมของเวร เวรของกรรมแล้ว ไม่ซวยคราวนี้จะไม่ซวยคราวไหน ข้าหวังคิดตามเจ้าชายทรงกลดเข้าไปในวังเฉยๆ แล้วไหงให้ข้าเข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยด้วยเล่า  แล้วนี้ทำไมถึงเห็นดีเห็นงามอะไรกันหนักหนานะถึงได้คะยั้นคะยอให้ข้าเข้าร่วมพิธีขนาดนี้ แล้วนี้ข้าควรจะทำอย่างไรดี?

                    กวินฟ้า กลุ้มหนักอยู่ในใจ มิคาดว่าเหตุการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

     

                    เอ้อ...ข้าคิดว่า อย่างไรเสียข้าคงไม่เหมาะกระมังท่านอำมาตย์ เรื่องเข้าไปคัดเลือกราชบุตรเขยอะไรนี้ เจ้าเห็นด้วยกับข้าใช่ไหมมรกต...กวินฟ้า ดึงชายเสื้อเพื่อนเพื่อหาแนวร่วมคัดค้านด้วย

                    คุณชาย ข้าว่าท่านลองดูหน่อยก็ดีนะมรกตกลับสนับสนุนแทน

                   

                เพียงได้ยินคำพูดของมรกต กวินฟ้า ถึงกับสะดุ้งถลึงตามองในทันที รีบดึงมรกตเข้ามาใกล้พลางกระซิบถามเร็วจี๋

                    เจ้าบ้าไปแล้วหรือไงมรกต ข้าต้องการเข้าไปในวังเฉยๆนะไม่ได้อยากเข้าร่วมพิธีบ้าบออะไรนี้เสียหน่อย แล้วคิดอย่างไรถึงยุให้ข้าเข้าไปคัดเลือกเป็นราชบุตรเขยกับเขาด้วยเล่า?

                    เรื่องนั้นข้ารู้อยู่แล้ว แต่มันช่วยไม่ได้นี้น่า ในเมื่อโอกาสมาถึงแล้วเราก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อนเถอะ เกิดชวดไปมันจะแย่

                    แล้วถ้าเกิดข้าดวงซวยได้เป็นราชบุตรเขยขึ้นมาเจ้าจะว่าไง? กวินฟ้าถามออกอาการสยองนิดๆ

                    เจ้าคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นมัง.......แต่ถ้าเกิดเป็นจริงขึ้นมา เราก็ค่อยหาวิธีแก้ไขกันทีหลังเอาก็แล้วกัน

                    กวินฟ้า ครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่งไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วอย่างไรก็คงต้องลองเสี่ยงดวงดู

                    .....เอาก็เอา....เอาไงก็เอากัน อย่างไรข้าก็บอกท่านอาเอาไว้แล้วว่าจะต้องจัดการเจ้าครุฑชั่วนั้นให้ได้ ต่อให้ลุกน้ำกรดฝ่าขุมนรกข้าก็ต้องเสี่ยงดูแล้วล่ะคราวนี้

     

                    ว่าอย่างไรท่านบัณฑิต ปรึกษากับองครักษ์คนสนิทของท่านแล้ว ไปถึงไหนแล้ว?

                    อำมาตย์วิชาญถาม เมื่อเห็นพวกเขากระซิบกระซาบกันอยู่นาน

     

                    กวินฟ้า ซูดลมหายใจเข้าไปแรงๆก่อนกลั้นใจตอบว่า

                    เอาละในเมื่อท่านอำมาตย์ออกปากถึงเพียงนี้แล้วข้าคงไม่ขัดอะไรอีก แต่ข้าของนำคนของข้าเข้าไปในงานพิธีคัดเลือกด้วยได้หรือไม่

                ย่อมได้แน่นอน

                    อำมาตย์ใหญ่ มีสีหน้ายินดีในขณะที่ กวินฟ้า แอบทำสีหน้าพะอืดพะอมชอบกล

     

                    หวังว่าข้าคงไม่ซวยจริงๆได้เป็นราชบุตรเขยหรอกนะ ไม่อย่างนั้นเท่ากับหนีเสือปะจระเข้แน่

                    นาควายุ คิดอยู่ในใจพลางเหล่มองเจ้าของความคิดที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยหวังว่ามรกตเองก็คงฉลาดพอที่จะคิดหาวิธีเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน ไม่เช่นนั้นคงไม่ยุให้เขาเข้าร่วมพิธีด้วยเป็นแน่

                   

    มุกและนิล ต่างรู้สึกว่าการที่กวินฟ้าเข้าไปเป็นหนึ่งในพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยนี้รู้สึกออกจะผิดแผนไปจากที่คาดคิดเอาไว้แต่แรก  จึงแอบถามมรกตว่า

    ทำไมท่านพี่ถึงยุให้ กวินฟ้า เข้าร่วมพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยด้วยล่ะ

    แล้วเจ้าคิดหรือว่าเราจะเข้าไปวังได้โดยวิธีอื่นนะมรกตตอบ

    คำตอบของมรกต ทำเอาทั้งสองถึงกับอ้าปากค้าง

    ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่า????

     

    ใช่พี่กะให้เป็นแบบนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

    ทั้งสองไม่คิดเลยว่า มรกต คิดเอาไว้แบบนี้ตั้งแต่แรก เพราะไม่เห็นบอกอะไรทั้งสองคนเลย

    แล้วทำไมท่านพี่ถึงไม่บอกกวินฟ้าก่อนล่ะ?

    ขืนบอกความจริง กวินฟ้า ก็ไม่เล่นด้วยนะสิ มรกตว่า

     

                    แล้วท่านพี่ไม่กลัวหรือว่า กวินฟ้า อาจจะได้เป็นราชบุตรเขยจริงๆก็ได้มุกถาม

                    ทำไมจะไม่กลัวแต่มันไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้น่า

                    แล้วท่านพี่ไม่มีแผนการสำรองเตรียมไว้บ้างหรือเผื่อเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา?นิลถาม เพราะทุกครั้งที่มีปัญหา มรกต จะสุขุมและเยือกเย็นที่สุดและคิดอ่านหาวิธีแก้ไขได้อย่างรอบคอบ

                มรกต ส่ายหน้าก่อนตอบว่า

                    ไม่มีหรอกงานนี้เสี่ยงดวงล้วนๆ

     

                    ทั้งสองได้ฟังแทบจะลมจับ

                    อึ๋ย...ตายแน่ ถ้ากวินฟ้ารู้เข้าคงโมโหพวกเราน่าดูมุกโอยครวญ

                    ก็ไม่แน่นะท่านพี่ ถ้ามองในแง่ดีถ้า กวินฟ้า ได้เป็นราชบุตรเขยจริง ถึงตอนนั้นอาจจะมาขอบใจพวกเราก็ได้นิลว่า

                มะเหงกให้นะสิไม่ว่า เจ้าเองก็รู้อยู่นี้ว่า กวินฟ้า ไม่อยากแต่งงาน ดูสีหน้าเขาตอนนี้บ้างสิว่าเป็นอย่างไร

                    มุกบอกให้นิลดู กวินฟ้า ที่แอบทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ในเวลานี้

     

                    คงเป็นเพราะว่ายังไม่ได้เห็นพระธิดาทั้งสองพระองค์อยู่มั๊งถึงได้ทำหน้าแบบนี้ ข้าได้ยินมาว่าทรงสิริโฉมงดงามนัก นิลยังคงมองในแง่ดีอยู่

                    ขนาดสวยๆน่ารักจิ้มลิ้มอย่างนางโจรห้าร้อยนั้น กวินฟ้า ยังไม่คิดจะชอบเลย แล้วอย่างนี้เจ้ายังคิดว่า กวินฟ้า อยากจะเป็นราชบุตรเขยอีกหรือเปล่าล่ะ?

     

    นี้มันอะไรกันนักหนานะ ทำไม กวินฟ้า ถึงไม่อยากแต่งงานนักนะ ข้าชักสงสัยแล้วสิว่านอกจากเรื่องฐานะของเขาแล้ว เขายังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่อีกเป็นแน่นิลพูดออกมาด้วยความไม่เข้าใจและสงสัยมากยิ่งขึ้น

                    พวกเจ้าสองคนเลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว เห็นไหมว่ากวินฟ้ามองพวกเราอยู่นะ?

                    มรกตตัดบทเมื่อมองเห็น กวินฟ้า จ้องมายังทั้งสามคนตาเขม็งด้วยความสงสัยว่าพวกเขากำลังแอบกระซิบกระซาบพูดคุยอะไรกันอยู่

               

    กำลังคิดวางแผนอะไรกันอยู่หรือเปล่าเนี๊ยะ หวังว่าคงไม่ให้ข้าหาเรื่องอะไรใส่ตัวอีกนะ

                กวินฟ้าคิดในใจพลางแอบเคืองนิดๆ

     

                    เช่นนั้นท่านบัณฑิตจงรับป้ายสัญลักษณ์นี้เอาไว้ นี้คือสิ่งที่แสดงถึงการเข้าร่วมในงานพิธี

                    อำมาตย์วิชาญ ยื่นป้ายสัญลักษณ์ประจำนครให้กับกวินฟ้า

                    ขอบคุณท่านอำมาตย์

                    นาควายุ รับป้ายมาอย่างเสียมิได้ ทั้งๆที่ในใจไม่อยากจะแตะต้องเลยแม้แต่น้อย

                    อีกห้าวันจะถึงงานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยแล้ว ขอให้ท่านบัณฑิตถนอมตัวด้วย ข้าคงต้องขอตัวก่อน

                   

                    อำมาตย์วิชาญ ขอตัวกลับก่อนถวายบังคมลา เจ้าชายทรงกลด

                    ข้าพระพุทธเจ้า ถวายบังคมลา พระเจ้าข้า

                    ตามสบายเถอะท่านอำมาตย์

                   

                    เมื่อเห็นท่านอำมาตย์ไปแล้ว เจ้าชายทรงกลดก็พูดกับกวินฟ้าว่า

                    หลังจากนี้แล้วพวกเจ้าจะไปที่ไหนต่ออีก

                พวกข้ายังไม่ได้คิดเอาไว้พระเจ้าข้า?

                    ถ้าเช่นนั้นสนใจที่จะไปสนทนาในตำหนักของข้าหรือไม่? ข้าเองกำลังคิดว่าจะหาเพื่อนคุยอยู่พอดี

     

                    เพียงได้ฟังกวินฟ้าถึงกับตาลุกวาวจนลืมเรื่องที่กลุ้มใจแต่แรกจดหมดสิ้น ในเมื่อโอกาสมาถึงขนาดนี้แล้วมีหรือกวินฟ้าจะไม่รีบคว้า

                ถ้าเช่นนั้นคงต้องรบกวนเจ้าชายแล้ว

                กวินฟ้าตอบก่อนที่จะบอกให้ มุก จ่ายเงินค่าอาหารรวมทั้งค่าเสียหายให้กับเจ้าของร้าน

                จ่ายค่าอาหารรวมทั้งค่าเสียหายให้กับเจ้าของร้านด้วย เราจะไปกันแล้ว

                    ขอรับคุณชาย

                    มุกรับคำ ก่อนวางเงินถุงใหญ่ไว้ ส่วนกวินฟ้าและเจ้าชายทรงกลดก็ค่อยๆก้าวออกจากร้านไป

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดด คุณชายยยยย คุณชายยยยยยยยยยย

     

                    ....พวกนางยังไม่กลับไปกันอีกเหรอ?

                นิล ส่งสายตาให้ทุกคนมองไปยังพวกผู้หญิงที่ยังคงห้อมล้อมอยู่นอกร้านอย่างเหนียวแน่น

                   

                    เอ้อ....มีความอดทนกันจริงๆเลยนะ....

                    นาควายุเองก็อึ้งไม่น้อยเช่นกันไม่คิดว่าพวกนางยังจะอยู่รอเขาอยู่อีก

                    รู้สึกเจ้าเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆเมืองนี้ไม่น้อยนะ กวินฟ้า สงสัยข้าคงเจอคู่แข่งที่ร้ายกาจเข้าแล้ว ฮะๆๆๆ

                    เจ้าชายทรงกลดกล่าวชมพร้อมกับหัวเราะ

                   

                    กวินฟ้า ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่ มรกต มุก และนิล จะเป็นคนเปิดทางให้กับทั้งสอง

                    หลีกทางให้หน่อยนะ เจ้าชายทรงกลดและคุณชายของข้าจะกลับแล้ว

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดด คุณชายยยยยยยยยยยยย

                   

                    แต่กว่าจะฝ่าวงล้อมออกมาได้ก็กินเวลานานอยู่พอควร หลังจากนั้นทั้งหมดก็เดินทางมาได้อีกครู่ใหญ่ก็เริ่มเข้าสู่เขตประตูวังแล้ว เหล่าทหารที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ต่างถวายบังคมพระโอรสทรงกลดก่อนจะนำเสด็จไปสู่ตำหนักที่ประทับ เมื่อมาถึงหน้าพระตำหนักก็มองเห็นนางกำนัลสามคนยืนเฝ้าอยู่ทางด้านนอก ครั้นเจ้าชายทรงกลดเสด็จมาถึงนางกำนัลทั้งสามก็รีบถวายบังคมทันที

                    พวกเจ้ามาทำอะไรที่หน้าตำหนักของเรา

                    นางกำนัลทั้งสามทูลตอบว่า

                    ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า หม่อมฉันทั้งสามตามเสด็จเจ้าหญิงเกตุวดีมาเพคะ เวลานี้พระธิดาทรงรอพระองค์อยู่ที่ห้องโถงเพคะ

                    อะไรนะน้องหญิงมาอย่างนั้นหรือ?

                    เจ้าชายทรงกลดมีสีหน้ายินดียิ่งที่รู้ว่าเจ้าหญิงเกตุวดีเสด็จมาหาพระองค์               

     

                    ด้าน กวินฟ้า เมื่อเห็นว่าเจ้าเจ้าชายมีแขกอยู่ก็คิดว่าคงไม่สะดวกเป็นแน่ที่จะพูดคุยกันในเวลานี้ ครั้นจะพยายามอยู่ที่นี้ต่อก็อาจเป็นที่สงสัยขึ้นมาได้จึงคิดที่จะทูลลากลับ อย่างน้อยการที่ได้เข้ามาถึงในเขตพระราชวังเช่นนี้ก็ถือว่าก้าวหน้ามาอีกขั้นหนึ่งแล้ว

                    ในเมื่อเจ้าชายทรงมีธุระ พวกข้ากลับก่อนคงจะดีกว่า

                เจ้าชายทรงกลดได้ยินกวินฟ้าพูดเช่นนั้นก็ตอบว่า

                    ไม่เป็นไรหรอก น้องหญิงเกตุวดีใช่ใครอื่นไกล อีกอย่างข้าเองก็อยากแนะนำเจ้าให้นางรู้จักด้วย

                    ในเมื่อเจ้าชายทรงกลดพูดเช่นนั้นทั้งสี่จึงตามเจ้าชายทรงกลดเข้าไปในพระตำหนัก โดยมีสายตาของนางกำนัลทั้งสามแอบมองดูอยู่

                    พ่อรูปหล่อนั้นใครนะ?

                    นั้นสิ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ไม่ยักรู้ว่าพระโอรสทรงกลดทรงมีพระสหายรูปงามถึงเพียงนี้

                ข้าเห็นผู้ชายมานักต่อนักแล้วยังไม่เคยเห็นใครรูปงามเท่าพ่อหนุ่มคนนี้เลย นางว่าพลางทำสีหน้าเคลิ้มๆ

                    น่าตาหน้ารักจิ้มลิ้มอย่างนี้ ถ้าได้มาเป็นคู่แม่จะยิกจะหอมทั้งวันเชียว อีกนางพูดอย่างมันเขี้ยว

                    ดีนะที่มีพวกเรากันแค่สามคน ถ้าแม่พวกฝ่ายในมาเห็นเข้ามีหวังคงตามเสด็จพระธิดามาบ่อยๆแน่

                    นางกำนัลทั้งสามซุบซิบพูดคุยกันถึง กวินฟ้า ไม่ขาดปาก

     

                    เมื่อเจ้าชายทรงกลดเข้าไปในห้องโถงใหญ่ก็พบเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยนั่งรอพระองค์อยู่

                    น้องหญิง

                    เสียงเรียกของเจ้าชายทรงกลด ทำให้พระธิดาต้องหันมามองดู

                    เจ้าพี่

                    เจ้าหญิงเกตุวดี สรวลยิ้มเมื่อเห็นเจ้าชายทรงกลดเสด็จเข้ามาหานางแต่ก็แปลกพระทัยที่นอกจากเจ้าชายทรงกลดแล้วยังมีบุรุษแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักตามมาด้วยอีกสี่คน โดยเฉพาะบุรุษหนุ่มชุดขาวฟ้าที่แต่งตัวคล้ายบัณฑิตรูปงามปานเทพบุตรมิมีผิดเพี้ยนจนนางถึงกับตะลึงงันชั่วขณะ

                    เจ้ามาหาพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?

                เจ้าชายทรงกลดตรัสถาม แต่พระธิดาก็ยังทรงนิ่งอยู่ จนต้องตรัสถามขึ้นอีกถึงสองสามครั้งเมื่อเห็นเจ้าหญิงไม่ตอบประการใด

                    น้องหญิง  น้องหญิง….”

                    เพคะ...

                    เจ้าหญิงเกตุวดีทรงตกพระทัย

                   

                เจ้าไม่สบายหรือเปล่าทำไมถึงเงียบไปล่ะ

                    เปล่าเพคะเจ้าพี่....

                    พระธิดาทรงตอบก่อนยกสำรับกระยาหารขึ้นมาและทูลว่า

    เสด็จพ่อทรงให้น้องนำพระกระยาหารมาถวายเจ้าพี่เพคะ

     

    โธ่...เรื่องแค่นี้เอง เจ้าไม่ต้องลำบากก็ได้

                เจ้าชายทรงกลด ยิ้มให้กับนาง

     

                    เจ้าพี่เพคะ........เอ้อ...........

                เกตุวดี ชี้ไปยังคนทั้งสี่ ทำให้เจ้าชายทรงกลดรู้ว่า ยังไม่ได้แนะนำ กวินฟ้า ให้เจ้าหญิงได้รู้จักเลย

                    อ๋อ.....พี่ลืมเสียสนิทไปเลย......ทั้งสี่นี้เป็นเพื่อนของพี่เอง  นี้กวินฟ้า มรกต มุก และ นิล

                   

                    ถวายบังคมองค์หญิงพระเจ้าข้า

                    กวินฟ้า ก้มตัวลงอย่างสง่างาม

     

                    เกตุวดี เพิ่งพิศมองดูชายหนุ่มรูปงามอย่างไม่รู้ตัวเกิดความรู้สึกเขินอายยิ่งนัก แม้นางจะมีเจ้าชายทรงกลดอยู่ในพระทัยแล้วก็ตามแต่การมาพบกับหนุ่มรูปงามเช่นนี้ก็อดที่จะสะเทิ้นตามประสาหญิงไม่ได้

                    ข้ายังไม่เคยพบใครรูปงามเช่นนี้มาก่อนเลย

     

                กิริยาท่าทางของกวินฟ้าดูสง่าและอ่อนโยนทำเอา เจ้าหญิงเกตุวดี ถึงกับหัวใจเต้นแรง

                    นี้กวินฟ้า ก็จะเข้าร่วมงานพิธีคัดเลือกราชบุตรเขยด้วยนะ

                    อะไรนะเพคะ!!!!”

               

                กวินฟ้า นี้เจ้าหญิงเกตุวดี พระราชธิดาขององค์เหนือปราการ ผู้ครองนครโรมพัตร

                    กวินฟ้า ถึงกับตะลึงไม่คิดว่าเจ้าชายทรงกลดจะพระทัยกว้างถึงเพียงนี้

                    งั้นก็แสดงว่านางก็คือคนที่จะต้องเลือกคู่ในงานพิธีนะสิ อะไรจะบังเอิญถึงเพียงนี้

     

                จุดไต้ตำตอชัดๆ

                    มุกเปรยออกมาโดยไม่รู้ตัว

                    ชักจะยุ่งแล้วสิ ท่านพี่ รู้สึกว่า เจ้าหญิงเกตุวดี ชักมีอาการแปลกๆอย่างไรแล้วสิ นิลว่า

     

                    สงสัยจะหลงเสน่ห์ กวินฟ้า เข้าให้อีกคนแล้ว

                    มรกตเองชักเริ่มกลุ้มใจเช่นกัน เพราะรู้สึก กวินฟ้า จะหว่านเสน่ห์ให้กับสาวๆโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว

                    ท่านเป็นบัณฑิตอย่างนั้นหรือ?

                    เกตุวดี ถามเมื่อเห็นการแต่งกายของเขาคล้ายผู้ศึกษาเล่าเรียน

     

                    พระเจ้าข้า

                แม้จะตอบสั้นๆแต่น้ำเสียงก็ไพเราะน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง

                    แล้วท่านมาจากเมืองใด

                    เมืองของหม่อมฉันเป็นเมืองเล็กๆและก็ห่างไกลจากที่นี้พอควร เกรงว่าพระธิดาคงจะอาจจะไม่รู้จัก          

                   

                    พระธิดาแห่งนครโรมพัตรมองดูบัณฑิตหนุ่มผู้นี้แล้วให้รู้สึกพึงใจเป็นยิ่งนักด้วยรูปร่างหน้าตาและกริยาช่างต้องใจนางอย่างมิอาจห้ามได้ แต่ครั้นพอนึกอีกทีก็ให้รู้สึกกระดากพระทัยอยู่ไม่น้อยด้วยเหตุว่านางนั้นมีใจให้กับเจ้าชายทรงกลดอยู่ก่อนหน้า พอได้มาพบหน้าหนุ่มรูปงามกลับเผลอไผลไปหลงใหลราวกับสตรีที่มีจิตใจรวนเร นึกแล้วก็ให้รู้สึกผิดนัก

    เอ้อ.....เจ้าพี่เพคะนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วเสวยพระยาหารก่อนเถอะเพคะ

                    พระธิดาทรงตรัสบอกเจ้าชายทรงกลด

                    จริงสิ....พี่เองก็ชักจะหิวแล้ว

                    เจ้าชายทรงกลดตอบก่อนหันมาบอกกวินฟ้าว่า

                    พวกเจ้าเองก็มากินกับเราสิ เดี๋ยวเราจะให้นางกำนัลจัดอาหารมาเพิ่มอีก

                    พระเจ้าข้า

                    กวินฟ้าตอบแบบไม่ต้องคิดอะไร

     

                    อา....ได้กินอีกแล้ว....

                    แค่คิดน้ำลายก็แทบสอขึ้นมาทันที ใบหน้าเปี่ยมยิ้มโดยไม่รู้ตัว

     

                    ไม่คิดถึงเรื่องอื่นบ้างหรือไงนะ?

    มุกพูดขึ้นเบาๆพร้อมทั้งเอาปิดหน้านิดๆด้วยความปลงเพราะรู้ถึงนิสัยการกินของ กวินฟ้า ดีว่าเป็นโรคที่รักษาได้ยากยิ่ง แต่คนที่ดูมีสีหน้าหนักใจมากกว่ากลับเป็น มรกต แทนเพราะมองออกว่าขณะนี้เจ้าหญิงเกตุวดีกำลังแอบมองดู กวินฟ้า อยู่อย่างเงียบๆ บางครั้งยังเห็นนางเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

                   

    เฮ้อ....ให้ตายสิ....งานเข้าอีกแล้ว....หมั่นไส้จริงๆเลย...พ่อคนเสน่ห์นี้....

                    มรกตรรู้สึกหงุดหงิดนิดๆหมั่นไส้หน่อยๆที่นาควายุเผลอหว่านเสน่ห์จนทำให้เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์แอบชอบโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว ดูท่าว่างานนี้นอกจากเรื่องการกำจัดครุฑที่เป็นเป้าหมายหลักแล้ว การออกจากนครโรมพัตรที่เป็นเป้าหมายรองก็คงจะต้องมีอุปสรรคตามไปด้วยเป็นแน่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×