ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 62


    คืนนั้น...ในวันแรกที่เราได้เจอกัน ข้ายังจำมันได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าใด มันก็ยังติดตึงในใจของข้าอยู่เฉเช่นพึ่งเกิดเมื่อวาน ในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง วันนั้นข้าอยู่ในงานเต้นรำ ข้าอยู่ในงานเพียงลำพังในชุดสูทสีดำที่มาพร้อมกับหูกระต่ายสีแดงโดดเด่น แต่มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแขกชายคนอื่นที่ต่างสวมชุดแบบเดียวกับข้า ข้าไม่ได้โดดเด่นเลยเมื่ออยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ เป็นแค่คนไร้คู่คนหนึ่ง ใช่แล้ว ข้ามางานนี้โดยไร้คู่ควงใดๆได้แต่ยืนดูคนมากมายต่างเดินตามหาคู่ของตนมาเต้นกลางฟอร์น ในตอนนั้นข้าก็เริ่มรู้ตัวว่านี่มันไม่ใช่ที่ของข้า เมื่อคิดได้ดังนั้นข้าก็หันหลังให้กับเวที เดินฝ่าผู้คนออกไปหน้างาน แต่ทันใดนั้น...

    แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

    เสียงหอบของหญิงสาวผู้มาในชุดราตรียาวเฉนเช่นแขกหญิงทุกคน นางก็ไม่ได้โดดเด่นเช่นเดียวกับข้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางกลับโดดเด่นในสายตาข้า ดังกับว่าตรงหน้าของข้ามีเพียงแค่นาง ดูนางจะรีบมากจนกระทั่งนางชนกับข้า

    โอ๊ย!!

    นางล้มลงไปนั่งกับพื้นตรงหน้าข้าพอดี ข้ายื่นมือให้กับนางหวังจะพานางลุกขึ้น

    “ให้ข้าช่วยเจ้านะ”นางรับมือข้าและออกแรงดึงตัวเองขึ้น ในจังหวะนั้นมันก็พาให้หน้าของเราสองใกล้กัน ดังเวลาหยุดนิ่ง ทั้งที่นางไม่ได้สวยงามอะไรนั้น แต่มันกลับงดงามที่สุดสำหรับข้า ถึงแม้จะช่วงครู่แต่มันกลับนานนับแรมปี

    “เอ่อ...ข้าไม่เป็นไรแล้วละ ปล่อยข้าเถอะ”นางกล่าวออกมาให้ข้าปล่อยมือนาง มันนำพาข้าออกจากพะวัง

    “ขะ...ข้าขอโทษด้วย”ข้าปล่อยมือนางออก ก่อนที่นางเกือบจะล้มลงอีกครั้งเพราะยังทรงตัวไม่ได้

    “โอะ!ระวัง”ข้ารีบเอามือไปคว้าตัวนางไว้ ไม่ให้นางล้มลงอีกครั้ง นางกับข้าสบตากันอีกครั้ง คราวนี้กลับเป็นนางที่แสดงสีหน้าเขินอาย

    “ขะ..ขอบคุณมากนะ คุณ...”นางกล่าวขอบคุณข้าที่ช่วยนางไว้

    “ข้า....”ไม่ทันที่ข้าจะบอกชื่อ เสียงดนตรีของเพลงใหม่ก็ดังขึ้น

    “เจ้า...พอจะเต้นรำกับข้าสักเพลงไหม”ข้าตัดความคิดที่จะแนะนำตัวออก ก่อนที่ยื่นมือออกไปขอให้นางเต้นรำกับข้า

    “ยินดี”นางถอดสายบัวก่อนที่จะรับมือข้า เราสองเดินไปที่ฟอร์นร่ายรำไปท่ามกลางคู่เต้นมากมาย แต่ตอนนี้ข้ากลับไม่คิดว่าอยู่ท่ามกลางคนมากมายอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้จิตใจของข้ามีเพียงนางที่ร่ายรำกับข้าในตอนนี้เท่านั้น ข้ารู้สึกดังกับว่าทั้งโลกนี้มีเพียงข้ากับนางกำลังเต้นรำอยู่ แต่เมื่อเพลงจบลงนั้นเองเสียงระฆังก็ดังขึ้น

    แก๊ก...แก๊ก...แก๊ก

    “ขะ...ข้าต้องไปแล้ว”นางปล่อยมือข้าก่อนที่จะวิ่งไปที่ทางออก

    “ดะ...เดี๋ยวก่อน!!”ข้าตะโกนไล่หลังนางพลางวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละ แต่ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ฝูงคนเริ่มหนาแน่นขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกว่าข้าจะเบียดตัวออกมาได้นางก็หายตัวไปแล้ว ใช่นางหายไปแล้ว หายไปกับความมืดมิด มองไปที่ใดก็ไม่พบแม้แต่เงาของนางเลย มันไม่เหมือนเช่นในนิทานหรือเทพนิยายที่ข้าเคยได้ฟังในยามที่ข้ายังเป็นเด็ก นางไม่ได้ทิ้งรองเท้าหรือสิ่งใดไว้ สิ่งที่นางทิ้งไว้กลับมีเพียงแค่ใบหน้าของนางที่ยังติดตาข้าจนถึงทุกวันนี้ หลังจากวันนั้นข้าก็เฝ้าตามหานางอยู่ทุกวัน จนกระทั่งในวันคืนจันทร์เต็มดวงวันหนึ่ง วันนี้ข้าก็ยังตามหานางอยู่เช่นเดิมแต่ไม่ว่าจะหาเท่าใด ก็หาไม่พบแต่ถึงกระนั้นข้าก็จะไม่ยอมแพ้ ข้าจะหานางต่อไป จนกว่าจะหาเจอ ในตอนนั้นเองท่ามกลางผู้มากมายที่เดินไขว่ไขว้กันไปมา สายตาของข้าก็ไปสังเกตที่ร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวไม่ได้โดดเด่นอย่างไรเลย แต่กลับโดดเด่นมากในสายตาข้านัก ไม่รอช้าข้ารีบพาร่างของตนวิ่งแหวกฝูงชมมากมายตามนางไปภายในใจก็คิดแต่ว่าคราวนี้แหละจะบอกสิ่งอยากบอกกับนางมาโดยตลอดให้ได้ ข้าวิ่งมาเรื่อยๆจนกระทั่ง

    หมับ!!

    ข้าคว้ามือของนางไว้ได้ ข้าตามนางมาจนทัน

    แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

    ข้าหอบอย่างแรงด้วยความเหนื่อยจากการวิ่งตามนางมาตลอดทาง

    "เจ้า...ยังจำข้าหรือไม่"ข้าถามนางอย่างตรงไปตรงมา เมื่อนางเห็นใบหน้าของข้านางก็อมยิ้มเล็กพลางปรากฎน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของนาง

    "จะลืมลงได้ไงกันละ ก็ตั้งแต่คืนนั้นในหัวข้าก็มีแต่หน้าท่านมาตลอด"

    "ข้าก็เช่นกัน ข้าก็ตามหาเจ้ามาโดยตลอด"

    "คือว่า.../คือว่า!!"ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นใจมาตลอดความรู้สึกเหล่าพาทั้งข้าและนางพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

    "เชิญพูดท่านก่อนเถอะ"

    "เอ่อ...คือว่า...จริงด้วย ในคืนนั้นข้ายังไม่ได้บอกชื่อข้าเลย ข้ามีนามว่า เลเดอซ่า"

    "ข้ามีนามว่า ลูน่า ข้าคิดว่าท่านคงไม่ได้ตามหาข้าเพียงเพื่อบอกนามของท่านกับข้าหรอกนะใช่ไหม"

    "เอ่อ...จริงแล้ว....ข้า...ไม่ทราบว่าเจ้ามีคู่ครองแล้วหรือไร"เป็นไรไปเนี่ยตัวข้า แค่พูดคำง่ายๆยังพูดไม่ได้ อ้อมค้อมอยู่ทำไมกันเล่า

    "อิอิ"นางหัวเราะในลำคอเล็กน้อย

    "ท่านเนี่ย อ้อมค้อนจังเลยนะเจ้าคะ เอาเถอะ ข้าของบอกอย่างสัตย์ตรงว่าข้านั้นหาได้มีคู่ครองไม่"คำพูดนั้นเหมือนแสงแห่งความหวังของข้าที่สาดส่องจากเบื้องบนดังกับว่านี้เป็นวันของข้าแล้ว

    "คือ... หากว่าข้าจะขอเจ้าเป็นคู่ครองจะได้หรือไม่"นี่ก็ตรงไป เสีบงในใจบอกข้า

    "เอ๋"อย่างที่คิดเลยว่านางต้องตกใจขนาดตัวข้าที่เป็นคนพูดเอง ยังตกใจตัวเองเลย

    "ขะ...ข้าหมายถึงว่าช่วงข้าตามหาเจ้ามันทำให้ข้ารับรู้แล้วว่าข้าต้องการเจ้าที่สุด ตั้งแต่คราวนั้นหัวใจข้าก็เรียกหาแต่เจ้า เจ้าที่เป็นคนเดียวเท่านั้น ดังนั้น ถึงแม้ข้าจะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่อาจหาแก้วแหวนเงินทองใดๆแก่เจ้าได้ แต่ได้โปรดยอมรับหัวใจของข้าคนนี้ไปเถอ"ข้าก้มหัวลงเชิงขอร้องให้นางรับความในใจของข้า

    "ข้าทราบแล้วน่ะท่าน ไม่ต้องพรรณาให้ยืดยาวหรอก เพราะความรู้สึกของข้าก็เป็นเช่นเดียวกับของท่าน"

    "เช่นนั้น!!"ข้าเงยหน้าขึ้นด้วยความที่คิดว่าจะสมหวังแล้ว

    "ตกลงเจ้าคะ ลูน่าคนนี้จะยอมเป็นคู่ครองของท่านจากนี้และตลอดไป"ดังระฆังจากสวรรค์นำพาความสุขในใจข้าเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนดังได้รับส่วนที่หายไปกลับมา มันสูงล้นจนข้านั้นบรรยายความรู้สึกนั้นออกมาเป็นคำพูดไม่หมด ข้าอุ้มลูนาเนียหมุนตัวไปรอบด้วยความตื้นตันใจอย่างจริง

    หลังจากนั้นไม่นานเราสองได้แต่งงานกันท่ามกลางชาวบ้านใกล้เรือนเคียงที่ไม่มีใครโดดเด่นเลยสักคน พวกข้าได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆจนกระทั่งเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่พลากชีวิตนับพัน หนึ่งในนั้นก็คือสองสามีภรรยา เลเดอซ่ากับลูน่าที่ล้มตายลงโดยที่มือของทั้งสองยังจับไว้อย่างแน่นหนา ดังกับว่าจะไม่มีใครพรากทั้งสองออกจากกันได้อีก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×