ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลท่องเที่ยวเกาหลี+++เรียนภาษาเกาหลี

    ลำดับตอนที่ #1 : เงินตราเกาหลี

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 51


    .
    คลิกที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่

    Free Image Hosting at allyoucanupload.com

    .
    ประเทศเกาหลีใต้มีเหรียญที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันคือ
    10 วอน (십원 ชิบ-วอน)
    50 วอน (오십원 โอ-ชิบ-วอน)
    100 วอน (백원 แพก-วอน)
    500 วอน (오백원 โอ-แบก-วอน)
    .
    ธนบัตรที่มีในปัจจุบันคือ
    1000 วอน (천원 ช่อน-วอน)
    5000 วอน (오천원 โอ-ช่อน-วอน)
    10000 วอน (만원 มัน-วอน)
    .
    .
    มาดูประวัติความเป็นมาของเงินเกาหลีกัน
    .
    ก่อนอื่นมาดูเหรียญเกาหลีกันก่อน
    ช่วงที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น (ค.ศ.1910-1945) เกาหลีนั้นใช้เงินตราของญี่ปุ่นมาก่อน
     ประเทศเกาหลีเพิ่งมีเงินตราเป็นของตนเองในปีค.ศ.1959 นี้เอง
    แต่ครั้งนั้นยังมีสกุลเงินเป็น "ฮวาน" (환) อยู่ ไม่ใช่วอน
    ในตอนแรกนั้น เหรียญเกาหลีสั่งทำจากเมืองฟิลาเดลเฟียที่มีมูลค่า 10, 50 และ 100 ฮวาน
    บนเหรียญ 100 ฮวานนั้น ด้านหนึ่งจะมีใบหน้าของประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้
    ส่วนอีกด้านหนึ่งของเหรียญ 100 ฮวานจะเป็นนกฟีนิกซ์สองตัวที่หางบรรจบกัน
       
    ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ ชื่อ อีซึงมัน (이승만)
    .
    ส่วนเหรียญ 10 ฮวาน จะเป็นรูปดอกมูกุงฮวา (무궁화) ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี
    ส่วนเหรียญ 50 ฮวาน จะเป็นรูปเรือ เรือลำนี้มีประวัติความเป็นมาอยู่ว่า
    เมื่อปีค.ศ.1592 ในสงครามอิมจิน จักรพรรดิฮิเดโยชิของญี่ปุ่นได้ส่งพลทหารกว่า 170,000 นาย และเรือรบกว่า 700 ลำ มาบุกเกาหลีเพื่อที่จะเปิดเส้นทางการค้ากับจีน
    เกาหลีได้ต้านทานญี่ปุ่นด้วยเรือรบทำจากเหล็ก จนกระทั่งญี่ปุ่นถอยทัพกลับไปหลังจากรบกันเป็นเวลา 7 ปี
    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรือลำนี้จึงมีชื่อเสียงและได้ชื่อว่า "เรือเต่า" เพราะแข็งแกร่งราวกับกระดองเต่า

    Free Image Hosting at allyoucanupload.com

    เรือเต่า (거북선 คอ-บุก-ซอน)
    ตั้งอยู่ที่อนุสรณ์สงคราม 전쟁기념관 (ชอน-แจง-กี-นยอม-กวาน) กรุงโซล

    .
    ต่อมาสกุลเงินฮวานก็เปลี่ยนเป็นวอนในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1966 หลังจากใช้มาเป็นเวลา 7 ปี
    และจากแต่ก่อนที่จะพิมพ์คำว่า 대한민국 (แท-ฮัน-มิน-กุก) แปลว่า สาธารณรัฐเกาหลี (ที่คนเกาหลีชอบตะโกนออกมาพร้อมๆกัน เป็นจังหวะตอนเชียร์บอลโลกอ่ะ) ก็ได้เปลี่ยนเป็น 한국은행 (ฮัน-กุก อึน-แฮง) หรือ ธนาคารกลางเกาหลี
    จากนั้นก็ได้เกิดเหรียญ 10 วอน ขึ้นมาใหม่ มีสีทอง และมีรูปของ 다보탑 (ทา-โบ-ทับ) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศเกาหลี สร้างขึ้นราวๆปีค.ศ.756 ตั้งอยู่ในวัดพุลกุก 불국사 (พุล-กุก-ซา) เมืองคยองจู จังหวัดคยองซางเหนือ และวัดแห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
     
    ทาโบทับและเหรียญ 10 วอนในอดีตและปัจจุบัน
    .
    และประมาณปลายปีค.ศ.1960 เหรียญ 1 วอนและ 5 วอน ได้กลายมาเป็นเหรียญที่ประชาชนใช้กันมากที่สุด
    ในสมัยนั้นเงิน 5 วอนก็สามารถขึ้นรถรางได้ (แต่ในปัจจุบันค่ารถไฟใต้ดินมีราคาเฉลี่ยประมาณ 800 วอน)
    แต่ว่าเหรียญ 10 วอนกลับเป็นเหรียญที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดในยุคนั้น
    เหรียญ 10 วอนที่ผลิตในปีค.ศ.1971 และ 1972 ได้นำมาใช้จนถึงทุกวันนี้ แต่เหรียญ 1 วอนและ 5 วอนนั้นเริ่มไม่มีใครใช้ไปตั้งแต่ประมาณปีค.ศ.1980 และไม่สามารถพบเห็นหรือเห็นได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน
    .
    ระหว่างปีค.ศ. 1970 เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นในประเทศเกาหลี ทำให้เกิดการผลิตเหรียญ 100 วอนขึ้นใหม่
    ด้านหนึ่งได้ประทับรูปของพลเรือเอก 이순신 (อีซุนชิน) ซึ่งเป็นผู้ที่ออกแบบเรือเต่านั่นเอง

     

    Free Image Hosting at allyoucanupload.com  Free Image Hosting at allyoucanupload.com

     อีซุนชิน และรูปปั้นของท่านหน้าพระราชวังคยองบุก, กรุงโซล

     

    .

    ส่วนเหรียญ 50 วอนนั้นผลิตขึ้นในปีค.ศ.1972 ที่ประทับรูปรวงข้าวโน้มตัวไว้บนเหรียญ เพราะว่าข้าวก็มีความสำคัญกับชาวเกาหลีมากเนื่องจากเป็นอาหารหลักเหมือนกับคนไทยนั่นแหละ
    และในปีค.ศ.1983 ก็ได้เกิดเหรียญมูลค่าใหม่คือเหรียญ 500 วอน รูปที่ใช้บนเหรียญคือรูปนกกระสากางปีก
    ที่พบเห็นได้ง่ายในนาข้าวและคนเกาหลีเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบสันติสุข
    .
    .
    .

     

     

    เอาล่ะ ต่อมาก็เป็นเรื่องของธนบัตรกันบ้าง
    .
    ธนบัตร 1000 วอน สีม่วง มีรูปใบหน้าของ อีฮวาง 이황 (มีชีวิตระหว่างค.ศ.1510-1570) เป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์อี (ยุคโชซอน) หลังจากที่ได้รับราชการตำแหน่งสูงสุด เขาก็ตัดสินใจออกจากราชวังและกลับไปยังหมู่บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของชื่อเสียงของเขา เขาเขียนทฤษฎีและหลักเหตุผลมากมายเกี่ยวกับลัทธิขงจื๊อที่กลายมาเป็นวิชาที่ผู้คนปัจทั้งตะวันออกและตะวันตกของโลกศึกษากันอยู่จนถึงปัจจุบันและยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาโทซันขึ้นมาอีกด้วย
     Free Image Hosting at allyoucanupload.com
    อีฮวาง (이황)

     

    .
    ธนบัตร 5000 วอน สีน้ำตาลอ่อน มีรูปใบหน้าของ อีอี 이이 (ค.ศ.1536-1584) เป็นอีกหนึ่งนักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์อี และรู้จักกันว่าเป็นอัจฉริยะเนื่องจากสามารถผ่านการสอบเข้ารับราชการด้วยวัยเพียง 13 ปี และหลังจากรับราชการอยู่นาน เขาก็ลาออกและอุทิศชีวิตตัวเองให้กับการเขียนหนังสือ เขาเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับปรัชญา ลัทธิขงจื๊อ และการปกครอง
    Free Image Hosting at allyoucanupload.com
    อีอี (이이)
    .

     

    และสุดท้ายกับธนบัตร 10000 วอน สีเขียวอ่อน มีรูปของพระเจ้าเซจงมหาราช (세종대왕 เซ-จง-แด-วัง) (ค.ศ.1397-1450) บุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศเกาหลี เนื่องจากเป็นผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรเกาหลีที่เรียกว่า ฮันกึล (한글) และทำให้ชาวเกาหลีมีตัวอักษรเป็นของตัวเองใช้จนถึงทุกวันนี้ ในสมัยนั้นพระเจ้าเซจงทรงเล็งเห็นว่าประชาชนส่วนมากไม่สามารถอ่านเขียนตัวจีนซึ่งชนชั้นขุนนางใช้กัน พระองค์เข้าใจถึงความรู้สึกอึดอัดใจของประชาชนที่ไม่สามารถถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกผ่านการเขียนได้ พระองค์จึงรับสั่งให้ขุนนางกลุ่มหนึ่งประดิษฐ์ตัวอักษรที่ชาวเกาหลีสามารถเข้าใจได้ง่าย และต่อมาก็ได้พัฒนาเป็นตัวอักษรเกาหลีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ถ้าเปรียบกับไทยก็คงจะเป็นพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั่นแล
    พระเจ้าเซจงมหาราช
    .
    .
    .
    .
    .

     

     

    จบแล้วววว~  แฮ่กๆๆ ... เหนื่อยทั้งคนเขียนและคนอ่านบล็อกแน่ๆ
    สิ่งที่อยู่บนเหรียญและธนบัตรของเกาหลีล้วนแต่เป็นสิ่งที่ชาวเกาหลีเค้าให้ความสำคัญทั้งนั้น
    ทำให้เราได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่และความเป็นมาของชาติที่เก่าแก่ได้เลย
    ไว้จะต้องดูธนบัตรกะเหรียญไทยมั่งละ
    วันนี้เนื้อหาเกี่ยวกะประวัติศาสตร์อัดแน่นมาก
    เราเองก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับการเขียนบล็อกนี้ด้วยเลย
    เยี่ยมๆ
    หวังว่าคงไม่เบื่อตายกันก่อนอ่านจบนะ - -;;
    .
    .
    แหล่งข้อมูลจาก :

    http://mystoriesinkorea.blogspot.com/2007/04/uniqueness-of-korean-currency.h

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×