ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดบุรุษเหนือปฐพี | [BL,Mpreg]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ตัวละครเรื่องนี้งานดีทุกคน (1)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 63


     

    นานมาแล้ว มีอาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์อยู่อาณาจักรหนึ่ง ชื่ออาณาจักรซาเฟียร่า กษัตริย์ที่ปกครองทรงเปี่ยมไปด้วยไมตรีและความซื่อสัตย์ คอยช่วยเหลือประชาชนอยู่เสมอ ความสามารถล้นเหลือแม้จะยังเยาว์ นามว่า' ดีแลน '

     

    เมื่อเจริญวัยพระองค์ตกหลุมรักกับหญิงสาวจากป่าต้องมนต์  ‘เฮสเทีย ’ แม้มีผู้คนต่อต้านมากมาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็อภิเษกสมรสกัน ไม่นานจากนั้นราชินีเฮสเทียก็ตั้งครรภ์ 

     

    หมอหลวงที่มาตรวจครรภ์ให้ราชินีกลับพบว่าท่านมิใช่มนุษย์ แต่เป็นเผ่าพันธ์ดราโกเนียที่สูญหายไปเกือบพันปี หมอหลวงคิดก่อกบฏ ลอบสังหารราชินี 

     

    เหล่าประชาชนเริ่มรู้เรื่อง ความโลภเข้าครอบงำ ร่วมก่อกบฎ บ้านเมืองวุ่นวาย ราชาเกรงว่าหากลุกลามไปกว่านี้จะมีการสูญเสียมากมาย เขาจึงพาราชินีไปซ่อนตัว แล้วสัญญาว่าจะรีบกลับมาหาให้เร็วที่สุด

     

    สุดท้าย พระราชาก็พลาดโดนแทงไปยังดวงใจสิ้นพระชนม์ทันที ราชินีรู้เข้าก็โกรธแค้น หวังสังหารผู้กบฎให้หมดสิ้น แต่เพราะคำพูดสุดท้ายของราชาหยุดนางไว้ ‘แม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จงอย่าใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสิ้นเด็ดขาด’ ท่านจึงทำไม่ลง 

     

    ราชินีกลับเข้าป่าต้องมนต์แล้วใช้พลังทั้งหมดปิดผนึกป่า ต่อไปนี้จะไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเข้ามาได้อีก สิ่งที่เคยนำออกไปจะคืนกลับมาสู่ป่า

     

    จากนั้นก็ไม่เคยมีใครได้เห็นราชินีและเด็กในครรภ์อีกเลย⌟

     

    “….”

     

    “เฮ้…นี่นายยังไม่กลับบ้านอีกหรอ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังของผม ด้วยความตกใจหนังสือที่อ่านอยู่จึงตกลงพื้น

     

    หญิงสาวก้มตัวเก็บขึ้นมาแล้วเปิดอ่าน

     

    “น…นาย”

     

    ผมรีบหันหน้าหนี เธอต้องหัวเราะใส่ผมแน่นอน ชื่อหนังสือก็เขียนอยู่ว่า MY PRINCESS เด็กผู้ชายที่ไหนเขาจะอ่านกัน

     

    แต่ไม่เป็นแบบที่คิด ผู้หญิงคนนั้นตาเป็นประกาย

     

    “นี่ๆ นายอ่านมันด้วยหรอ ฉันน่ะอยากอ่านมันมาก แต่ดันอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกนี่สิ”

     

    “ถ้าไม่รบกวน นายอ่านให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย!”

     

    หญิงสาวทำท่าทางตื่นเต้นจนอีกฝ่ายปฎิเสธไม่ลง

     

    “ก็ได้”

     

    2 ปีต่อมา บ้านเมืองเสียหายไร้กำลังจะไปต่อ ทั้งสิ่งของจากป่าต้องมนต์ก็หายไปหมด โชคดีที่ ' ซาดิโอ้ ' กษัตริย์จากอีกอาณาจักร สหายสนิทของราชาดีแลนเข้ามากอบกู้ ประหารผู้ก่อกบฎจนหมด แล้วรวมอาณาจักรเข้าด้วยกัน กลายเป็นอาณาจักร โอลิเวีย

     

    ต่อมา ' อีธาร ' บุตรของราชาซาดิโอ้ พบรักกับหญิงชาวบ้านที่แสนดี ทั้งสองร่วมกันต่อสู้จนกระทั่งได้ร่วมเคียงชีวิตด้วยกันตลอดไป

     

    “แล้วลูกของราชาดีแลนกับราชินีเฮสเทียล่ะ”

     

    “กลายเป็นตัวร้ายเพราะความอิจฉา จนกระทั่งโดนอีธารสังหาร”

     

    “เสียดายจัง เป็นคนที่น่าสงสารแท้ๆ”

     

    “อืม อยากเข้าไปช่วยจังเลยนะ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ

     

    “หือ?”

     

    “เปล่าๆ…เรารีบกลับบ้านกันเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว”  ผมรีบพูดตัดบทแล้วเก็บของ แต่ก็นึกขึ้นได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ชื่ออะไร พวกเรายังไม่รู้จักกันเลยหนิ

     

    “จริงสิ ฉันยังไม่ได้ถามชื่อเธอเล--”

     

    “ถ้าอยากไปช่วย ก็ไปเลยสิ”  ไม่ทันที่ผมจะตั้งตัว เธอคนนั้นก็ผลักผม ด้วยที่นั่งผมอยู่ริมหน้าหน้าต่าง ผมจึงค่อยๆเสียหลัก ตกลงไปจากชั้น 4 ของตึกเรียน

     

    “ขอให้โชคดี ‘ เอวา ’ ” ผู้หญิงคนนั้นพูดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆหายตัวไป….พร้อมกับผม

     

    มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ยยยยยย?!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมลืมตาขึ้นอีกทีในที่ที่ไม่รู้จัก ห้องขาวสะอาด ลมอ่อนๆพัดเข้ามาจากหน้าต่าง เห็นได้ชัดว่าพึ่งจะเช้า ทั้งที่เมื่อกี้เวลา 5โมงเย็น 

     

    ‘ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ’ ผมเริ่มมองสำรวจรอบๆห้อง ทั้งห้องมีแต่ของเล่นเด็ก แล้วตอนนี้ร่างกายผมก็เล็กลงด้วยเหมือนกัน มือป้อมๆนี่ขยับลำบากชะมัด ดูทรงแล้วน่าจะประมาณ 2 ขวบเห็นจะได้

     

    “องค์ชาย ตื่นแล้วหรือเพคะ” อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาในห้อง 

     

    “?”

     

    “ข้าทำข้าวเช้ามาให้แล้วเจ้าค่ะ” ผมเดาว่าเธอน่าจะเป็นคนรับใช้ของร่างนี้สินะ

     

    “หากต้องการอะไรเพิ่ม เรียกข้าได้เสมอนะคะ องค์ชายเอวา”

     

    “เอวา?!….”  ชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมา ทำให้ผมสำลัก

     

    “องค์ชาย!! ระวังร้อนเจ้าค่ะ”  เธอรีบเข้าเช็ดให้ผม ระหว่างนั้นผมก็เห็นบรรยากาศภายนอกต้นไม้สีแปลกๆ นกแปลกๆสัตว์แปลกๆ พวกมันบางตัวมองเข้ามาอย่างเป็นมิตร บรรยากาศแบบนี้ก็คุ้นเช่นกัน

    แล้วถ้าผมเดาไม่ผิด

     

    “มิลิน?”

     

    “คะ?” 

     

    อ่าาาา…..นั่นไงล่ะผมเดาไม่ผิดจริงๆด้วย ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในร่างของเอวา ลูกของราชาดีแลนและราชินีเฮสเทีย ที่นี่คงเป็นป่าต้องมนต์ ส่วนคนนี้คงเป็นมิลินมนุษย์คนเดียวที่ราชินีเฮสเทียให้เข้าป่า จากที่ผมเคยอ่านนิยายมาหลายเรื่อง ก็พอรู้แล้วล่ะว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบไหน 

    แต่ก็ยังน่าเหลือเชื่ออยู่ดี

     

    “ที่นี่คือป่าต้องมนต์งั้นหรอ?”

     

    “เจ้าค่ะ” มิลินหันมาตอบผมด้วยรอยยิ้ม

     

    “เอาล่ะ ถ้าองค์ชายทรงรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราไปชำระล้างร่างกายกันเถอะค่ะ” มิลินเดินเข้ามาอุ้มผมขึ้น 

     

    ชะ…ชำระล้างร่างกาย!! งั้นก็อาบน้ำน่ะสิ ผมอายุ 17 แล้วนะจะให้ผู้หญิงมาอาบน้ำให้ได้ยังไง!!

     

    “องค์ชายอย่าดิ้นสิเพคะ เดี๋ยวก็จะได้ออกไปเล่นแล้วนะคะ แปปเดียวเอง”

     

    “ไม่เอาๆๆ” ผมดิ้นให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แรงของเด็ก2ขวบก็สู้มิลินไม่ได้อยู่ดี

     

    “ไม่ต้องอายนะคะ มิลินคนนี้เลี้ยงท่านมาตั้งแต่เกิด เคยเห็นมาหมดแล้วล่ะเจ้าค่ะ” มิลินยิ้มขำเมื่อเห็นองค์ชายตัวน้อยของตนหน้าแดงด้วยความเขินอาย

     

    ไม่ๆๆๆๆ ถ้าให้มิลินเห็นล่ะก็ผมจะอายไปตลอดชีวิตเลยนะ ถึงจะเป็นร่างของเอวาก็เถอะ

     

    ก๊อก….ก๊อก เสียงจากประตูดังขี้น ช่วยไว้ได้พอดีเลย!!! มิลินมองไปที่ประตูรอยยิ้มค่อยๆหายไปก่อนจะอุ้มผมกลับเข้าห้อง

    “รอนี่ก่อนนะเพคะ องค์ชาย” มิลินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเดินออกไป

    ด้วยที่ว่าเนื้อเรื่องของเอวามีไม่มากนัก ผมจึงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แต่ไหนๆก็หลุดเข้ามาในนิยายที่ตัวเองชอบแล้ว ก็ต้องอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา

    ผมเดินไปแง้มประตูออก ก็เห็น มิลินยืนคุยกับองครักษ์จากอาณาจักรโอลิเวีย ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ป่านี้ควรจะมีผนึกที่คอยปกป้องป่าอยู่ ในเนื้อเรื่องเอวาก็ควรจะปรากฎตัวออกมาตอนที่อีธารออกมาสำรวจป่า

     

    “พวกท่าน….เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร” มิลินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอจะไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น

     

    “พวกข้าคือทหารจากอาณาจักรโอลิเวีย มาตามหาราชินีเฮสเทียและบุตร”

     

    “งั้นท่านคงมาผิดที่ ในป่าแห่งนี้มีแค่ข้าเท่านั้น พวกท่านรีบออกไปเถอะ ใครก็ว่าสัตว์ในป่าต้องมนต์ดุร้ายนะเจ้าคะ” กล่าวจบมิลินก็แสยะยิ้ม องครักษ์จึงหันไปมองรอบๆ ก็เห็นพวกสัตย์น้อยใหญ่กำลังจ้องพวกเขาด้วยสีตาแดงก่ำอยู่

     

    “เจ้าคงเป็นมิลิน…ข้ารับใช้อันซื่อสัตย์ของเฮสเทียสินะ”  เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา มันทั้งน่ายำเกรงและเย็นยะเยือก องครักษ์ต่างหลีกทางให้

     

    “ท่านซาดิโอ้” มิลินทำความเคารพให้กับผู้มาใหม่ ชื่อเสียงของซาดิโอ้เลื่องลือไปทั่วอาณาจักร แม้แต่มิลินที่พึ่งเข้ามาไม่นานก็ทราบดี ลักษณะพิเศษของท่านที่มักจะใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลานั่นก็เป็นสิ่งที่บอกได้

     

    “พาตัวเฮสเทียกับเด็กออกมาเถอะ ข้าจัดการพวกนั้นจนหมดแล้ว”  พวกนั้นที่เขาหมายถึงน่าจะเป็นพวกกบฎ มิลินมองตรงไปยังดวงตาสีเขียวเข้มของซาดิโอ้ ความจริงจังในสายตาเขานั้น ทำให้มิลินยอมพูดออกมา

     

    “ท่านเฮสเทีย…สิ้นแล้วเพคะ ตั้งแต่ให้กำเนิดองค์ชายเอวาได้ไม่นาน”

     

    “เจ้าคือเอวาสินะ” 

     

    ซาดิโอ้มองตรงมายังผม ซวยล่ะ ถูกเห็นเข้าจนได้ ผมหันไปมองหน้ามิลิน เธอก็พยักหน้าให้ ผมจึงเดินออกมา มิลินก็เข้ามาอุ้มผมขึ้น โดนอุ้มบ่อยจังนะเราเนี่ย

     

    “….”

     

    “หน้าเจ้าช่างคล้ายเฮสเทียและดีแลนยิ่งนัก” ซาดิโอ้ยื่นมือมาลูบหัวผม

     

    “เจ้าอยากกลับไปกับข้ามั้ย?” 

     

    ใจจริงผมอยากไป แต่ในเนื้อเรื่องมันไม่ใช่แบบนี้ ถ้าผมไปมันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเข้ามั้ยนะ

     

    “มิลินไปด้วยมั้ย?” ผมเลยปัดความคิดออกแล้วหันไปถามมิลินแทนเลยดีกว่า

     

    “ข้า…” 

     

    “หากพวกท่านอยู่ที่นี่ต่อก็อาจเกิดอันตรายได้ ผนึกคลายแล้ว ใครจะปกป้องพวกท่านได้” องครักษ์ผมน้ำตาลแดงคนหนึ่งพูดขึ้นมา

     

    “ท่านเฮสเทียสั่งให้ข้าคอยปกป้ององค์ชายเอวา ไปว่าท่านจะไปที่ไหนข้าก็จะไปด้วยเจ้าค่ะ” มิลินหันไปตอบซาดิโอ้

     

    “พวกเจ้าเตรียมรถม้า!” องครักษ์ผมน้ำตาลแดงหันไปสั่งคนอื่นๆ

     

    พวกเราพากันไปเคารพหลุมศพของราชินีเฮสเทียก่อน จากนั้นเราก็ไปขึ้นรถม้า มิลินเลือกที่จะนั่งม้าไปกับองครักษ์ผมน้ำตาลแดง ส่วนผมถูกส่งให้ซาดิโอ้ ตอนแรกก็วุ่นวายกันพอสมควร เพราะ ราชาจับตัวผมแรงไปจนผมร้องไห้ เพราะร่างกายเด็กนี่ ผมจึงร้องไห้ง่าย มิลินก็เข้ามาปลอบอยู่นาน แล้วสอนวิธีอุ้มให้ถูกต้อง จนราชาสามารถอุ้มได้

     

    “คุณมิลินใจดีจังเลยนะครับ” องครักษ์ผมน้ำตาลแดงหันไปพูดกับมิลิน

     

    “ไม่หรอกค่ะ” มิลินตอบนิ่งๆ สายตายังจดจ้องไปที่กระท่อมที่เคยอยู่ บางครั้งสายลมที่พัดผ่าน ก็ทำให้เห็นเหมือนว่ากำลังมีผู้หญิงผมยาวสีแซฟไฟร์ยืนโบกมือให้ด้วยรอยยิ้ม

     

    ในรถม้าทั้งเงียบและเย็นมาก ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกันเลยซักคำ จนกระทั่งมีเสียงดังมาจากข้างนอก รถม้าหยุดกระทันหัน พวกเรามองออกไป ก็เห็นพวกสัตว์ต่างๆมายืนขวางไว้

     

    “ทำยังไงกันดีครับท่านซาดิโอ้ พวกมันไม่ยอมหลบไปเลย”

     

    ผมพยายามยืนมือไปหาพวกมันเป็นเชิงให้ซาดิโอ้เดินเข้าไป และแน่นอนซาดิโอ้ถอนหายใจเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปตามที่ผมต้องการ ผมยื่นมือไปจับหัวเจ้าสิงโตตัวหนึ่ง ซาดิโอ้ก็คุกเข่าให้ผมจับสะดวก ทำเอาเหล่าองครักษ์ตะลึงไปตามๆกัน

     

    “เอาไว้จะมาหาใหม่นะ” ผมยิ้ม

     

    ซาดิโอ้มองหน้าผมก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็ค่อยๆเดินหลีกทางให้รถม้า ผมโบกมือให้พวกมึงเป็นเชิงบอกลา แล้วรถม้าก็ไปต่อ

     

    “ก่อนกลับไปที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย” ซาดิโอ้หันไปบอกองครักษ์ พวกเขาก็พยักหน้า

     

    สักพักก็ถึงจุดที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ยืนต้นอยู่ ข้างๆนั้นมีป้ายหลุมศพอยู่ด้วยเช่นกัน ซาดิโอ้เดินเข้าไปโดยที่อุ้มผมอยู่ หญิงรับใช้นำช่อดอกไม้มาให้ ทุกๆคนต่างพากันยืนรอตรงรถม้า เพราะ รู้ดีว่าเวลานี้ท่านซาดิโอ้ตรงการความเป็นส่วนตัว

     

    “….”

     

    “ที่นี่….” ผมเอ่ยถาม

     

    “พ่อของเจ้านอนอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ” ซาดิโอ้วางดอกไม้ลงหน้าหลุมศพ

     

    “ข้ามาช้าไปใช่หรือไม่ ดีแลน” ซาดิโอ้พูดเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่อ่อนไหวของเขา

     

    “ไม่เป็นไรนะ” ผมยื่นมือไปลูบแก้มของซาดิโอ้ ยิ้มให้ด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก

     

    ซาดิโอ้มองผมนิ่ง ก่อนจะกอดผมไว้เบาๆ

     

    “ต่อไปนี้ข้าจะดูแลเจ้าเอง เอวา”

     

    “อืม!”

     

    ทั้งสองเดินกลับมาที่รถม้า แล้วออกเดินทางต่อ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ในรถม้าที่เคยเงียบและเย็นจนน่าใจหาย กลับกลายเป็นอบอุ่นเหมือนได้อยู่ในอ้อมกอดของใครซักคนที่เรารัก….เหมือนครอบครัว

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตัดมาฝั่งอาณาจักรโอลิเวีย ณ พระราชวังที่ตั้งใหม่ของสองอาณาจักร

     

    “เห็นว่าท่านพ่อพาตัวอะไรไม่รู้กลับมาด้วยล่ะ” เด็กผู้ชายตัวน้อยผมสีบลอนด์ทองนัยน์ตาสีฟ้าสว่างกำลังลูบหัวลูกหมาในมือด้วยความเอ็นดู

     

    “จะเป็นตัวอะไรก็ช่าง….ขอให้เล่นด้วยแล้วสนุกก็พอ” เด็กอีกคนที่อายุไล่เลี่ยกันตอบ พร้อมกับทิ้งตุ๊กตาตัวเก่าที่ถูกกรีดจนขาดนั้นทิ้งไป ผมสีดำสนิท และนัยน์ตาสีแดงเลือดของเขาช่างดูไม่เหมือนเด็กเลยซักนิด

     

     

    ////////

     

    Talk

     

    ช่วงเกริ่นๆเรื่องค่ะ สารภาพว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะให้จบแบบไหน ฮาเร็ม เป็นคู่ หรืออย่างไร  เอาไว้ให้ถึงกลางๆเรื่องแล้วจะให้เลือกกันนะคะ❤️

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×