รอคอย
ผู้เข้าชมรวม
89
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
รอคอย
( Junhyung X Hyunseung )
เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น
เป็นฟิค ชาย X ชาย หากรับไม่ได้เชิญออกค่ะ
“ฮยอนซึง!! รอเขานานไหม??” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นจากด้านหลังของชายร่างบาง ผมทองที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวสีขาวในสวนสาธารณะ
“นาน!! จุนฮยองปล่อยให้ซึงรอนานอีกแล้ว” ชายร่างบางหันไปตอบผู้ที่พึ่งมาเยือน พร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร ทำหน้าบูดบึง
“จุนฮยองขอโทษนะฮยอนซึง จุนฮยองติดธุระจริงๆ ไม่โกรธกันนะ ดีกันๆ” ชายร่างสูงรีบแก้ตัวเมื่อเห็นสีหน้าของคนตรงหน้าไม่ค่อยพอใจตนสักเท่าไร พร้อมกับอ้อนคนตรงหน้า พรางยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของอีกคน
“ดีก็ได้” ฮยอนซึงยอมใจอ้อนให้กับความน่ารัก ขี้อ้อนของคนตรงหน้า ที่พยายามจะง้อให้เขาหายงอน ฮยอนซึงชอบท่าทางของจุนฮยองตอนนี้ที่สุดเลยล่ะ ><’
“นั้นเราไปหาอะไรกินกันเถอะ เขาหิวแล้ว” จุนฮยองรีบเอ่ยปากชวนฮยอนซึง พรางเอามือกุมท้องของตัวเอง เพื่อบ่งบอกว่าท้องของเขาเรียกร้องหาอาหารแล้ว
“ไปไหนกันดีล่ะ??” ฮยอนซึงเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง
“อากาศหนาวๆแบบนี้ เราไปกินราเม็งร้อนๆกันเถอะ!” จุนฮยองออกความเห็นก่อนจะคว้ามือของฮยองซึง แล้วเดินจับมือไปด้วยกัน
ทั้ง 2 คนเดินไปในทางเดินที่ทอดยาวในสวนสาธารณะ มีลมหนาวพัดไม่ขาดสาย หิมะเริ่มตกโปรยปรายลงมาจากฟ้า ทำให้จุนฮยองเดินจับมือฮยอนซึงแน่นขึ้น
“ฮยอนซึงหนาวไหม?”
“หนาว หนาวมากเลย”
จุนฮยองหยุดเดินแล้วหันไปหาคนร่างบาง พรางจับมือของร่างบางขึ้นมา เป่าให้รับลมร้อนจากปากหนาของเขา แล้วถูๆมือให้รู้สึกอุ่นขึ้น
“ทนอีกนิดนะ ใกล้ถึงแล้ว เรารีบเดินกันเถอะเนาะ” จุนฮยองมองหน้าคนที่เริ่มสั่นไปทั้งตัว จมูกเริ่มแดงอย่างเห็นได้ชัด
จุนฮยองคว้ามือคนร่างบางแล้วพาเดินต่ออีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
“อาจุมม่า ราเม็ง 2 ที่ครับ” จุนฮยองตะโกนสั่งอาหารทันทีเมื่อมาถึงร้านอาหาร
“หนาวมากไหม?” ยังคงเป็นเสียงจุนฮยองอีกครั้งที่เอ่ยขึ้น ถามคนที่มาด้วยกันอย่างเป็นห่วง
“หนาวสิ ถามอะไรแปลกๆ”
“555+ อย่าทำหน้าบึงสิ จุนฮยองเป็นห่วงนะ”
“นี้จ่ะ พ่อหนุ่ม” ป้าเจ้าของร้านอาหารยกราเม็งมาให้ 2 ชามโต พร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้กับจุนฮยองและฮยอนซึงที่นั่งรออาหารอยู่ที่โต๊ะมุมสุดของร้าน
“ขอบคุณครับ ^^” ทั้งจุนฮยองและฮยอนซึงเอ่ยปากขอบคุณทันทีที่อาหารมาถึง จุนฮยองรีบรับชามราเม็งมากินอย่างหิวโหย
“ฮอลลล ร้อนๆๆๆ ฮอล”
“555+ บอกแล้วไงว่าให้กินระวังๆ สมน้ำหน้า 5555+” ชายร่างบางหัวเราะชอบใจกับอาการของคนที่นั่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม ที่เหมือนจะโดนราเม็งร้อนๆลวกปาก จนเจ่อแดงขึ้นมา
“ก็คนมันหิวอ่ะ”จุนฮยองมองฮยอนซึงที่กำลังหัวเราเยาะเขาอย่างเคืองๆ ก่อนที่จะหลุดอมยิ้มกับความน่ารักของตรงหน้าไม่ได้
“อา อิ่มจัง กลับบ้านกันเถอะ” จุนฮยองพูดขึ้นหลังจากวางตะเกียบ
“อื้ม กลับบ้านกัน”
.
.
.
.
.
.
ร่างบางเอื้อมมือไปเปิดประตู เปิดไฟ ก็ตกใจ ดวงตาเปิดโตเป็นประกาย เมื่อเห็นว่าภายในห้องมีดอกกุหลาบสีแดงที่เขาชอบมากมายถูกจัดวางเป็นช่อ ทั่วทุกมุมห้อง เขาเหมือนกับอยู่ในสวนดอกกุหลาบเป็นพันๆดอก
“ชอบไหม?” เสียงจากผู้ชายร่างทุ้มคนเดิมเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง
“จะ จุ จุน จุนฮยอง นี้ นี้มันอะไรกัน” ฮยอนซึงสะดุดตื่นจากความคิดของตัวเอง แล้วรีบหันกลับไปตามเสียงที่ดังขึ้น พรางถามจุนฮยองอย่างตระกุตระกะ พร้อมกับชี้นิ้วที่เรียวยาวไปทางดอกกุหลาบ
เมื่อฮยอนซึงหันกลับไปหาจุนฮยองเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังคุกเข่า ในมือถือกล่องแหวนเพชร ที่ส่องแสงสะท้อนหลอดไฟระยิบระยับแพรวพราวออกมา
“แต่งงานกันนะ ฮยอนซึง” คำพูดของคนที่กำลังคุกเข่า ให้กับผู้ชายร่างบางที่เขาคบด้วยมาเป็น เวลาเกือบ 5 ปี เขาเอ่ยคำถามนี้พร้อมกับรอคำตอบจากคนที่เขาเฝ้าคอยทะนุทะนอมมาเป็นเวลานานอย่างใจจดใจจ่อ
“…” ฮยอนซึงนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามได้ๆทั้งสิ้น ฮยอนซึงกำลังสบสนว่าเหตุการณ์ที่เขากำลังเจอนี้มันเป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้กำลังหลับฝันถึง
อากาศภายในห้องเงียบสงบ อีกคนเฝ้ารอคำตอบ ส่วนอีกคนก็กำลังอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
“ทำไมปล่อยให้รอนานจัง นึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้จากปากนายแล้วนะ” ในที่คนที่พูดคนแรก ก็เป็นผู้ชายที่ชื่อ จาง ฮยอนซึง คำพูดนั้นไม่ใช่เป็นคำตอบที่อีกอยากได้ยิน แต่มันดันแปลเป็นความหมายที่ดูเหมือนจะกวนๆ แต่ก็ทำให้คนรอคำตอบหยุดยิ้มไม่ได้
ผู้ชายร่างบางรีบกระโดดออบกอดจุนฮยองแน่น แล้วน้ำเม็ดเล็กๆใสๆ ก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตา
“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ไว้ใจจุนฮยองคนนี้นะ” ประโยคแรกที่ชายร่างสูงพูดขึ้น
“ขอบคุณทำไม ซึงต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น ขอบคุณที่ทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง ขอบคุณที่ไม่เคยทิ้งกันไปไหน”
“จุนฮยองจะไม่มีวันทิ้งฮยอนซึงคนสวยไปไหนเด็ดขาด!!” จุนฮยองพูดขึ้นพร้อมกับบีบจมูกของร่างบางอย่างหมั่นเขี้ยว
“จริงนะ?!” ร่างบางพูดพรางจ้องหน้าจุนฮยองด้วยแววตาที่สดใส พร้อมกับเผยอมยิ้มเล็กๆของตัวเองออกมา
“จุนฮยองเคยโกหกหรอ?” ร่างสูงมองหน้าคนหน้าสวย พรางเอามือของตัวเองลูบไล้ใบหน้าสวยอย่างทะนุทะนอม ก่อนที่ประทับจูบลงบนปากของคนร่างบางเบาๆ
“เราไปทะเลกันนะ” จุนฮยองกระซิบข้างหูของฮยอนซึงเบาๆ ราวกับสายลมที่พัดผ่านใบหูของคนร่างบาง
.
.
.
.
.
“ฮยอนซึงงงงงงงง” เสียงชายหนุ่มที่อยู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งบน ตะโกนลั่นห้อง
“เห้ย!! ไอจุนฮยองเป็นอะไรใจเย็นๆ” ผู้ชายร่างสูงผิวสีแทนพูดเพื่อนสนิทของตนที่อยู่ก็ตะโกนเรียกชื่อใครคนนึงออกมา
“ไอดูจุน ฮยอนซึงอยู่ไหน ซึงกูอยู่ไหน” จุนฮยองตะคอกใส่เพื่อนตัวเองด้วยความบ้าคลั่ง
“….”
“ฮยอนซึงอยู่ไหน? มึงบอกกูมา กูจะไปหาซึง” เมื่อจุนฮยองได้รับความเงียบเป็นคำตอบ เขาก็กระชากเสื้อของดูจุน แล้วถามคำถามเดิมอีกครั้ง
“ฮะ ฮยอนซึง ฮยอนซึงไม่อยู่แล้ว ฮยอนซึงไปแล้ว” ดูจุนตอบตระกรุตระกระ ก้มหน้าลงไม่ยอมมองหน้าของจุนฮยอง
“ไม่ ไม่จริง มึงโกหก มึงบอกกูมา ฮยอนซึงอยู่ไหน?” จุนฮยองไม่เชื่อคำพูดที่ได้ยิน เขาไม่เชื่อ เขาไม่มีวันเชื่อ ฮยอนซึงจะไม่ทิ้งเขา ไม่ ไม่มีวัน
จุนฮยองพยายามกระชากสายน้ำเกลือที่มีเข็มเจาะเข้าไปที่มือ ลงเตียงผู้ป่วยอย่างทุลักทุเล ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาที่ ใต้โครงกระดูกด้านซ้าย ขาข้างขวาหัก
“มึงจะไปไหน มึงใจเย็นๆแล้วฟังกู ฮยอนซึงไม่อยู่แล้ว วันนั้นที่มึงประสบอุบัติเหตุ มึงบาดเจ็บสาหัส ส่วนฮยอนซึงตายคาที่” ดูจุนพยายามรั้งเพื่อนสนิทไม่ให้ไปไหน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้จุนฮยองฟัง
“ไม่ ไม่จริง วันนั้นกูจะไปเที่ยวทะเลกับฮยอนซึง กูกำลังมีความสุขกับฮยอนซึง มึง มึงโกหก ไอดูจุนมึงโกหก” จุนฮยองไม่ยอมรับความจริง เขาส่ายหัว ดื้อที่จะลุกออกจากเตียง ไม่นานน้ำตาก็เอ่อล้นท่วมหน้าของผู้ชายที่ชื่อ ยง จุนฮยอง
“กูไม่เชื่อ กูไม่เชื่อเด็ดขาด ซึงไม่ได้จากกูไปไหน ไม่ ฮือ ไม่มีวัน ฮือ” จุนฮยองคล่ำครวญพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองไม่หยุด เขาไม่อยากจะเชื่อ มันไม่เป็นความจริง ตอนนี้ในหัวของจุนฮยองกำลังว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก
“ไม่เป็นไรนะเว้ย มึงยังมีกูนะ” ดูจุนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ปลอบคนป่วยที่กำลังคร่ำครวญไม่หยุด ดูจุนเอื้อมมือไปตบที่บ่าของจุนฮยองเบาๆ เขาทำได้แค่นี้จริงๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะพูดอะไรเพื่อให้เพื่อนของตัวเองหยุดคิดถึงเรื่องนี้
จุนฮยองร้องหนักขึ้น เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร เขาไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องราวที่ดูจุนเพื่อนสนิทของเขาเล่ามา เขาควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เขาควรจะตามหาฮยอนซึงหรือเปล่า จุนฮยองไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอะไร ตอนนี้เขาสับสน สบสันไปหมด
จุนฮยองเอาแต่นั่งร้องไห้เป็นวันๆ ข้าวปลาอาหารไม่ยอมกิน ร่างกายผอมซูบลงไปมาก จุนฮยองนั่งเพ้อถึงฮยอนซึงทุกวัน ทั้งเช้า เที่ยง เย็น ไม่ก็ทุกเวลาที่ตื่น
“ฮยอนซึง จุนฮยองรักฮยอนซึงนะ”
เม้นติชมกันด้วยน้าาาาา เขาพึ่งหัดแต่งอ่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ who is ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ who is
ความคิดเห็น