คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : Chapter 40 : เป็นเธอทุกครั้ง
Chapter 40 : เป็นเธอทุกครั้ง
'ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเธอมักจะออกตัวปกป้องมันเสมอ'
-------------꧁༺°•✮•°༻꧂-----------
ในตอนนี้สุมิเระยังคงรักษาระยะห่างจากทั้งสองอยู่พอสมควร เพราะเธอรู้ดีว่าประสาทสัมผัสของบาคุโกนั้นยอดเยี่ยมแทบจะเทียบเท่ากับพวกโปรฮีโร่เพราะแบบนั้นการไม่เข้าประชิดมากไปจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
บรรยากาศในยามค้ำคืนนับว่าค่อนข้างเย็นสบาย ทว่าชิออนที่ใส่ฮู้ดตัวหนาทับออกมาทำให้ตอนนี้เหงื่อกาฬเริ่มไหลอาบทั่วร่างรวมถึงใบหน้าหวานด้วย
เมื่อกลิ่นเหงื่อเริ่มโชย เหล่าแมลงดูดเลือดอย่างยุงก็เริ่มมาบินวนเวียนรอบตัว สร้างความรำคาญให้แก่เด็กสาวไม่น้อย ทว่าถึงจะโดนรุมสูบเลือดจนหมดตัวยังไงก็ห้ามส่งเสียงเด็ดขาดไม่งั้นมีหวังถูกจับได้แน่
ถ้าเป็นแบบนั้นจะอ้างว่าออกมาเดินเล่นก็ใช่เรื่อง=^=;;
บาคุโกและมิโดริยะทั้งสองเดินกันมาจนถึงกราวเบต้าสถานที่แรกในการเรียนวิชาพื้นฐานฮีโร่ วันที่ทั้งสองต้องห้ำหันกัน และเป็นฝ่ายมิโดริยะที่ได้รับชัยชนะ
ฝีเท้าของคนที่เดิมนำมาตลอดอย่างบาคุโกหยุดลงทำให้มิโดริยะต้องหยุดตามไปด้วย ท่าทางของมิโดริยะดูลนลานอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงกระนั้นคนด้านหน้าก็ยังไม่ปริปากพูดอะไรออกมา
บาคุโกตอนที่เงียบขรึมแบบนี้น่ะ...น่าหวาดหวั่นมากกว่ายามที่เจ้าตัวแหกปากโวยวายซะอีก...
ชิออนหยุดยืนดูสถานการณ์อยู่หลังอาคารที่ห่างออกมา แต่ด้วยอัตลักษณ์ของเธอนั้นก็ทำให้การดักฟังบทสนทนาของทั้งสองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
พอร์ทัลขนาดเล็กปรากฏขึ้นตรงหน้าโดยอีกบานนั้นชิออนพยายามให้มันเข้าไปใกล้กับทั้งสองมากที่สุดโดยใช้พุ่มไม้แถวนั้นบดบังไว้อย่างแนบเนียน
"อัตลักษณ์ของแกนั่นน่ะ...ได้รับมาจากออลไมท์ใช่มั้ย?"
ไม่ทันไรก็มีเฮซะแล้ว...
สุมิเระเบิกตากว้างหลังจบประโยคของบาคุโก
เธอรออยู่สักพักก็ยังไม่ได้ยินเสียงมิโดริยะร้องปฏิเสธอย่างที่ควรจะเป็นก็ยิ่งทำให้น้ำหนักของคำพูดนั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะอัตลักษณ์พึ่งโผล่ขึ้นมาเปิดทางสู่การเป็นนักเรียนยูเอย์เขาจึงเริ่มฝึกร่างกายให้แข็งแกร่ง นั่นเป็นประโยคที่มิโดริยะใช้บอกกับผู้เป็นแม่รวมถึงเพื่อนร่วมห้องอย่างสุมิเระด้วย
หากเธอไม่ได้ไปรู้เรื่องพวกนั้นมาก่อนก็คงเชื่อแบบนั้นเช่นกัน ทว่ากลับเป็นเธอเองที่ปกปิดเรื่องนั้นไว้ไม่ให้ทั้งสองล่วงรู้
การที่ทั้งสองชื่นชอบในตัวออลไมท์ หลงไหลในคนๆเดียวกันมาตลอดนั้นเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน
อคติที่บาคุโกมีต่อมิโดริยะนั้นมีมากมายจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้เพราะแบบนั้นความอึดอัดในอกจึงยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก
ใบหน้าที่ยามปกติจะดูเกรี้ยวกราดอย่างกับอสูรคลั่งทว่ายามนี้มันกลับเรียบนิ่งจนแม้แต่เธอยังรู้สึกหวาดผวา นัยน์ตาสีทับทิมนั้นจับจ้องไปที่คนผมเขียวก่อนเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"มาสู้กันซะ"มือหนายื่นไปข้างหน้า"ที่-นี่ ตอน-นี้เลย!"
พวกเอ็งจะทำแบบนั้นกันไม่ด้ายยย=[ ]=!
เด็กสาวทึ่งหัวของตัวเองแทบหลุด เมื่อผลรับมันดันมาลงอีหรอบนี้ซะได้
ลักลอบกันออกมาตอนกลางคืนก็คิดไปหนึ่งกระทงแล้ว ยิ่งมาสู้กันกลางดึกแบบนี้ อาจารย์เขาได้เพิ่มโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกระทงให้ไม่อันแหงๆ!
ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆให้เสียเวล่ำเวลา บาคุโกพุ่งเข้าโจมตีมิโดริยะทันทีซึ่งแน่นอนมิโดริยะต้องห้ามอีกฝ่ายแน่นอน ทว่าบาคุโกไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยทำให้มิโดริยะหลวมตัวไป
---ตู้ม!!!
ชิออนยกมือขึ้นบดบังศีรษะไว้เพื่อป้องกันเศษกระจกที่เกิดจากแรงระเบิดของบาคุโกกระเด็นมาใส่
ระเบิดอนุภาพแรงขนาดนั้นตอนนี้ทางคณะอาจารย์ต้องรับรู้แล้ว ถ้าอดทนรออีกหน่อยไม่ช้าก็เร็วอาจารย์ไอซาวะต้องมาห้ามทัพทั้งสองคนแน่
ทว่าการต่อสู้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ถ้าหากไม่เข้าไปหยุดตั้งแต่ตอนนี้ความเสียหายในกราวเบต้าได้ขยายกว้างขึ้นไปอีกแน่
สุมิเระสูดหายใจเข้าออกอยู่ครู่เดียว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
บาคุโกพุ่งเข้าหาร่างของมิโดริยะที่รอบตัวมีสายฟ้าสีเขียวหุ้มอยู่รอบตัวโดยที่มือของเข้ามีประกายระเบิดเตรียมไว้แล้ว
ทว่าในตอนที่ปล่อยระเบิดออกไป มือของเขากลับผลุดหายเข้าไปในประตูมิติปริศนาที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี อัตลักษณ์ของเขาระเบิดตู้มต้ามทว่าไม่โดนเป้าหมายที่เร่งไว้ซักนิด บาคุโกกัดฟันกรอดเมื่อเจ้าของอัตลักษณ์นั้นมาปรากฏขึ้นตรงหน้าโดยใช้ร่างกายเล็กจิ๋วนั่นกันเขากับเจ้าเดกุไว้
"ส...สุมิเระซัง?!"
"เลิกเข้ามาจุ้นจ้านสักทียัยแมวจร!!"
คนตัวเล็กส่ายหน้าพัลวัน"ใจเย็นๆก่อนนะบาคุโก แรงระเบิดของนายเมื่อกี้มันแรงมากตอนนี้พวกอาจารย์คงรู้กันหมดแล้วล่ะนะ"
สุมิเระพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ด้วยรู้พื้นฐานนิสัยของอีกฝ่ายพอสมควรว่าอีกฝ่ายมุ่งมั่นกับเป้าหมายตนเองมากแค่ไหน
"ใจเย็นลง แล้วมาคุยกันดีๆเถอะ อะไรหลายๆอย่างอาจไม่ใช่อย่างที่นายคิด"
"แกเป็นแม่มันหรือไงถึงต้องมาค่อยกางปีกปกป้องมันตลอดน่ะห๊า!!"
"ถึงไม่ใช่แม่ แต่เห็นแบบนี้มันก็ต้องปกป้องอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!?"
ฟันหนายิ่งขบเข้าหากันเมื่อนัยน์ตาสีม่วงนั้นจ้องเขากลับอย่างไม่คิดจะเกรงกลัวเลยแม้แต่นิด
หญิงสาวตรงหน้าเขาเป็นคนใจกว้าง... กว้างมากพอๆกับ'พื้นที่'อัตลักษณ์ของมันนั่นแหละ
แต่ไหนแต่ไรไม่ว่าเขาจะแกล้งไอ้เจ้าเดกุแค่ไหนก็ไม่มีใครคิดจะปกป้องมันเพราะส่วนมากก็จะหัวเราะไปกับเขา หัวเราะให้กับความน่าสมเพชของมัน และถึงจะมีคนไม่เห็นด้วยก็ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าเข้ามาช่วยมันสักรายเพราะหวาดกลัวเขากันจนหมด
มีเพียงสุมิเระ ชิออนที่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันนั้นก็พุ่งเข้ามากางแขนปกป้องมันโดยไม่หวาดกลัวอัตลักษณ์ที่กำลังปะทุอยู่ในมือเขาแม้แต่นิดเดียว
ยัยนั่นไม่สนว่าใครจะมาจากไหน หากคนๆนั้นมาเพื่ออ้างเหตุผลไร้สาระเพื่อรังแกเจ้าเนิร์ดแล้ว สุมิเระนั้นไม่เคยคิดจะปราณี
แน่นอน...เขาเคยเป็นบุคคลที่ชิออนลงมือสถานหนักมาแล้วครั้งหนึ่ง และนั่นเป็นครั่งหนึ่งที่เขาจะจดจำมันไปจนวันตาย
ตั้งแต่นั้นก็ราวกับชีวิตของเจ้าคนไร้อัตลักษณ์แบบไอ้เนิร์ดนั่นเปลี่ยนไป
เมื่อเจ้าเดกุไม่มีคู่ยัยนี่ก็จะเสนอตัวไปคู่ด้วย ถึงขั้นยอมขัดคำสั่งอาจารย์ทิ้งให้เขาไปคู่กับคนอื่น โดยยกเหตุผลว่า'บาคุโกฮอตอยู่แล้วนี่นา ยังไงๆก็มีคนอยากคู่ด้วยอยู่แล้ว'
คราวใดที่เดกุถูกแกล้งก็เป็นยัยนี่ที่เข้าไปช่วยเหลือ ไม่ว่าเดกุมันมีปัญหาอะไรยัยแมวจรก็จะหันไปหาและยื่นมือไปให้มันเสมอ
และมันเป็นแบบนั้นมาตลอด...
ต่างกับเขา...
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาบาดเจ็บ ตอนที่เกิดเรื่องร้ายหรือหลังจากที่รู้ผลสอบ เธอก็ยังเลือกหันไปหาคนอื่น!
เขาเองก็คอยช่วยเหลือร่างตรงหน้ามาตลอดไม่ใช่เหรอ? เวลาเจ้าตัวถูกกลุ่มนักเรียนหญิงแอนตี้ก็เป็นเขาที่เข้าไปขู่จนพวกหล่อนลามือไป หรือจะตอนถูกพวกวิลเลินลักพาตัวเขาก็ออกตัวปกป้องสุมิเระไม่ให้พวกนั้นเข้ามาโจมตี
เทียบกับเจ้าเดกุที่ไม่เคยทำอะไรเลยยังไงก็ดีกว่าเห็นๆ แล้วทำไม-!
"ทำไมเธอถึงไม่เห็นฉันเป็นที่หนึ่งบ้างวะ!?"
ชิออนที่ถูกตวาดใส่นั้นตีสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ต้องทำยังไงให้อีกฝ่ายใจเย็นลง สักนิดก็ยังดีไม่งั้นบาดแผลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นแบบนั้นมิโดริยะได้ดึงร่างของสุมิเระให้ออกห่างจากเพื่อนสมัยเด็กโดยครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายยกแขนกันร่างบางบ้าง
"คัตจัง มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะนายใจเย็นๆก่อนเถอะ นะ?"
ราวไปกดสวิตช์ทำลายตัวเอง บาคุโกตวัดตาขึ้นมองเจ้าของผมสีเขียวสาหร่ายก่อนยกมือขึ้นเตรียมปลดปล่อยอัตลักษณ์ออกมา
"หุบปากไปเลยไอ้เจ้าเดกุ!!!"
ก่อนที่อะไรๆจะแย่ไปกว่านี้ฝ่ามือใหญ่ของโทชิโนริซังก็คว้าหมับข้อมือของบาคุโกเอาไว้เพื่อไม่ให้นักเรียนของเขาเผลอใช้อัตลักษณ์ทำลายกราวเบต้าไปมากกว่านี้
การเปิดอกพูดคุยของออลไมท์นั้นราวกับเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่มาดับมรสุมเพลิงภายในใจของบาคุโกลงได้
ความลับเรื่องของอัตลักษณ์one for allพลังที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นซึ่งตอนนี้พลังนั้นกำลังไหลเวียนอยู่ในตัวของมิโดริยะ อิซึคุ
ความลับที่เคยปิดไว้แค่สองคน ตอนนี้มันกลายเป็นความลับของเราสี่คนไปเสียแล้ว...
พวกเราเดินกลับหอพักด้วยสภาพที่ดูดีกว่าเดิมเล็กน้อย สำหรับสองคนนั้นน่ะนะ^^;
"ทำไมโทชิโนริถึงเป็นคนมาล่ะคะ? หนูนึกว่าจะเป็นอาจารย์ไอซาวะซะอีก"
"...ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะความสะเพร่าของฉัน เพราะงั้นฉันควรจะรับผิดชอบ"
"งั้นเหรอคะ..."
หลังจากกลับมาถึงก็มีอาจารย์ไอซาวะยืนดักรออยู่หน้าหอพักเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาสีนิลนั้นจับจ้องไปที่ลูกศิษย์ทั้งสองของตน ใบหน้าราวยักษ์โอนิ ทำเอาคนก่อเรื่องทั้งสองต้องลอบกลืนน้ำลายกันเลยทีเดียว
"ออกไปอาละวาดกันกลางดึกหลังพึ่งสอบใบอนุญาตเสร็จเนี่ยนะ...จะไม่คึกกันไปหน่อยเหรอ ห๊ะ?"
อุปกรณ์จับกุมพันรอบตัวของนักเรียนทั้งสองแน่นโดยมีไอซาวะที่รวบเส้นผมสีนิลขึ้นสูงและอยู่ในชุดลำลองสีดำล้วน
สรุปคือบาคุโกและมิโดริยะถูกลงโทษเป็นการกักบริเวณอยู่แต่ในหอพัก โดยที่คนหาเรื่องอย่างบาคุโกโดนไป4วัน ส่วนมิโดริยะที่เป็นคนถูกชวนออกไปแต่ก็ยังตอบสนองความต้องการของพ่อหนุ่มมือระเบิดก็โดนไป3วัน
โดยระหว่างที่ถูกกักบริเวณนั้นทั้งสองจะต้องช่วยกันทำความสะอาดหอพักทั้งหมด ไม่ว่าจะปัด กวาด เช็ด ถูหรือแม้แต่ขัดห้องน้ำ ว่าง่ายๆก็คือหอพักของห้อง1-Aนั้นจะต้องสะอาดเอี่ยมอ่อง
บวกกับต้องเขียนเรียงความสำนึกผิดไปส่งอาจารย์หลังจากนั้นด้วย
เจ้าของเส้นผมสีม่วงยาวสยายลอบซี๊ดปากกับบทลงโทษนั้น ร่างบางยืนอยู่ข้างๆโทชิโนริซังนั้นรอจังหวะที่ร่างสูงจะปล่อยให้นักเรียนกลับขึ้นห้อง
"ส่วนเธอ!สุมิเระ!"
สุมิเระหลุดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผู้เป็นอาจารย์หันขวับมาทางนี้ นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเองกระพริบตาปริบๆ
'เค้าโดนด้วยหยอ⚈^⚈;;?'
"แม้แต่เธอก็อย่าหวังว่าจะรอด! เห็นเพื่อนพากันออกไปนอกหอช่วงเคอร์ฟิวแทนที่จะรายงานอาจารย์ ดันบ้าจี้ตามไปอีก นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มีแผลกลับมาอีกคนน่ะห๊ะ!?"
โดนเทศน์ไปอีกคน...โทชิโนริมองเด็กสาวที่สุดท้ายก็ต้องมานั่งแหมะก้มหัวสำนึกผิดตามเพื่อนทั้งสองไปติดๆโดยมีไอซาวะส่วมบทบาทคุณพ่อขี้บ่นยืนคุมอยู่
"ยัยนั่นไม่จำเป็นต้องโดนลงโทษสักหน่อย อยู่ก็เหมือนไม่อยู่!"บาคุโกโพล่งขึ้นมา แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่คิดจะสบตาเธออยู่ดี
"ใช่ครับอาจารย์ไอซาวะ สุมิเระซังไม่รู้เรื่องนะครับ!"มิโดริยะช่วยเสริม
ความสามัคคีที่ก่อตัวขึ้นโดยแรงจูงใจเดียวกันนั้นทำเอาเจ้าของสมญานามฮีโร่ผู้ลบล้างคิ้วกระตุก
"พวกนายน่ะเงียบไปเลย! ถึงไม่ได้ร่วมทะเลาะแต่ก็ยังมีความผิดที่ไม่แจ้งอาจารย์เรื่องที่พวกเธอพากันออกไปต่อสู้กันโดยพลการ แต่นับว่าสุมิเระไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการทะเลาะวิวาท จะลดโทษลงขั้นหนึ่งโดยเธอจะต้องมาช่วยงานที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์! หวังว่าคงไม่แรงไปใช่มั้ย?"ไอซาวะเลิกคิ้วถามราวกับกำลังลองเชิงแก่มประชด
ซึ่งสำหรับชิออนแล้วเธอคิดว่าโทษของเธอนั้นเบาสุดๆ ถึงจะต้องไปช่วยงานอาจารย์ถึงหนึ่งสัปดาห์ทว่าเธอก็ยังได้ไปนั่งเรียนในห้อง ไม่เหมือนกับสองคนนั้นที่ต้องมาทำความเข้าใจกับเนื้อหาการเรียนนอกรอบ
ยิ่งพวกเธออยู่สาขาฮีโร่ด้วยแล้วเนื้อหายิ่งแปลกแยกไปจากคนอื่นเพราะฉะนั้นสุมิเระขอนอบรับโทษด้วยความเต็มใจ
"ไม่มีปัญหาค่ะ แฮะๆ"
ไอซาวะทำเสียงขึ้นจมูก อันที่จริงเขาไม่ได้อยากจะทำโทษเด็กตรงหน้าหรอกเพราะรู้ดีว่าสุมิเระนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ก็ความผิดที่กล่าวไปก็ไม่สามารถทำเมินได้เช่นกัน
มือหนายื่นมาปัดเศษปูนบนหัวของเด็กสาวออก ก่อนร่างสูงนั้นจะเอ่ยออกมาเสียงแข็ง
"งั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนได้แล้ว!"ไอซาวะพูดจบก็เดินออกไป
เมื่อถูกสั่งพวกเราก็เตรียมแยกกันขึ้นห้องตามที่ผู้เป็นอาจารย์ลั่นวาจาไว้ ทว่าข้อมือของเธอกลับถูกร่างสูงชะลูดของใครบางคนรั้งไว้ซะก่อน
เธอและโทชิโนริซังยืนอยู่แบบนั้นจนมั่นใจว่าทุกคนออกไปกันหมดแล้ว อีกฝ่ายจึงดึงเธอลงมานั่งแหมะที่โซฟากลางห้องโถงใหญ่
"เอ่อ...หนูน้อยสุมิเระจะกินขนมมั้ย?"
"ไม่ค่ะ ขอบคุณ"
"งั้นอยากได้เครื่องดื่มอุ่นๆก่อนนอนสักแก้วมั้ย?"
"คุณรั้งหนูไว้เพื่อถามคำถามพวกนี้จริงเหรอคะ?"
เจอประโยคนี้เข้าไปคนอายุมากกว่าถึงกับต้องกระแอมออกมา โอเค เขาผิดเองที่พยายามเบี่ยงประเด็นชนิดที่แม้แต่เด็กอนุบาลยังดูออก
ทว่าเรื่องที่เขาจะถามร่างบางนั้นก็ชวนอึดอัดอยู่พอสมควรเลยนี่สิ
"อยากจะถามเรื่องที่หนูรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณก่อนหน้านี้หรือเรื่องที่หนูรู้เรื่องการสืบทอดอัตลักษณ์ล่ะคะ?"
---แค่ก!
O_O?!?
ชิออนสะดุ้งเมื่อร่างตรงหน้ากระอักเลือดออกมาคำโตจนวิ่งหาทิชชู่ให้แทบไม่ทัน
"โทษทีนะ"โทชิโนริซังว่าขณะเช็ดริมฝีปาก"แต่ก็ตามที่เธอพูดนั่นแหละหนูน้อยสุมิเระ"
เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้น เธอคิดว่ามันก็ผ่านมาได้สักระยะแล้วนะ เจ้าตัวยังติดใจอยู่อีกเหรอ?
ในที่สุดโทชิโนริซังก็เริ่มพูดถึงเหตุผลที่เขารั้งตัวเธอไว้ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่เธอคิดไว้ ว่าอีกฝ่ายยังแอบสงสัยเรื่องของเธอที่ล่วงรู้ความลับของร่างทรูฟอร์มของเขา
จริงโทชิโนริก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพียงแค่อยากรู้ว่าทำไมร่างบางถึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเวลาที่เขาเป็นออลไมท์ แล้วทำตัวปกติเวลาอยู่ในร่างของโทชิโนริ
หรือว่าชิออนอยากจะเข้าใกล้นัมเบอร์วันฮีโร่เพื่อเอาไว้เป็นเรื่องเล่าในกลุ่มตามฉบับวัยรุ่นทั่วไป
จบคำพูดของเขาดวงตาของเด็กสาวตรงหน้านั้นว่างเปล่า สีหน้าของเธอนั้นเรียบเฉยอย่างที่นานครั้งจะได้เห็น
"คุณจะบอกว่าที่หนูปล่อยผ่านเรื่องนี้มาตลอดเพราะอยากใกล้ชิดกับ'ออลไมท์'เหรอคะ?"
โทชิโนริเบิกจากว้างจนแทบถลนออกมามือส่ายไปมาด้วยความร้อนรน"ไม่ใช่! ไม่ใช่สักนิดเลยหนูน้อยสุมิเระ ฉันก็แค่อยากรู้เหตุผลที่เธอปิดเงียบไว้เท่านั้นเอง!"
นั่นยิ่งทำเธอขมวดคิ้วเข้าไปอีก"ก็ไม่มีเหตุผลอะไรค่ะ แค่เห็นว่าโทชิโนริซังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนร่างก็เลยสงบปากสงบคำเอาไว้เท่านั้นเอง ฮึ่บ!"
ร่างบางดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้
"เป็นฮีโร่อันดับหนึ่งมันเหนื่อยหนูก็แค่ไม่อยากให้ฮีโร่ที่ใครหลายๆคนให้ความรักต้องมาหัวหมุนกับเรื่องแบบนี้"
เพราะยังไงการได้พูดคุยกับอีกฝ่ายในชื่อ'โทชิโนริ'นั้นทำให้เธอมีความสุขมากกว่าการที่ได้คุยกับฮีโร่อันดับหนึ่งอย่าง'ออลไมท์'เสียอีก แต่สุดท้ายยังไงทั้งสองก็คือคนๆเดียวกันอยู่ดี
"การที่โทชิโนริซังจะระแวงหนูก็ไม่แปลกหรอกนะคะ เด็กอายุสิบห้านี่น่าจะอยู่ช่วงปลายจูนิเบียวเลย ปากมากสุดๆ"พูดไปก็หัวเราะออกมา"นี่ก็ดึกมากแล้วยังไงก็ขอตัวไปนอนตีพุงเล่นก่อนนะคะ ฮ่าๆ"
แต่ไม่ทันเดินออกจากรัศมีโซฟา ร่างของชิออนก็ถูบรวบไปจากทางด้านหลังซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นยางิโทชิโนรินั่นเอง ใบหน้าซูบผอมซุกลงที่กลุ่มเส้นผมนุ่มนิ่มอย่างรักใคร่โดยที่ร่างในอ้อมแขนนั้นนั่งแข็งค้างไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ร่างสูงพึมพำออกมาเสียงเบาบาง
"ขอบคุณนะ...ขอบคุณนะสาวน้อยชิออน ฉันดีใจจริงๆที่มีเธอเข้ามาในชีวิต"พูดจบก็จุ๊บลงที่ศีรษะของร่างบางไปหนึ่งทีพร้อมกับสรรพนามของเด็กสาวในอ้อมแขนที่เปลี่ยนไปจากเดิม
"เอ่อ...โทชิโนริซัง"
"อ่ะแฮ่ม!"
สองร่างสะดุ้งโหย่งเมื่อเสียงกระแอมดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของห้องโถงเมื่อหันไปมองก็พบเข้ากับไอซาวะที่เอนหลังพิงขอบประตูอยู่ในมือถือแก้วกาแฟค้างไว้
"อ..ไอซาวะคุง? มาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ?"โทชิโนริถามเสียงสั่น
โปรฮีโร่ใต้ดินไม่เปลี่ยนสีหน้า"ก็ตั้งแต่ประโยค'ฉันดีใจจริงๆที่มีเธอเข้ามาในชีวิต'น่ะครับ"
ดันมาตอนที่พูดประโยคน่าอายที่สุดซะด้วย!
พลันใบหน้าซูบผอมนั้นก็แดงแปร๊ดไล่ไปตั้งแต่หัวยันหลังคอ ชิออนจึงใช้จังหวะนั้นดิ้นคลุกๆออกมาจากอ้อมแขนผอมแห้งแต่หนักชิบเป้งนั้นได้
สุมิเระหันไปสบตากับคนที่ยืนพิงอยู่หน้าประตู ไอซาวะเลิกคิ้วมาให้กับเธอซึ่งตัวเธอก็ไร้คำจะอธิบายทำได้แต่ส่งยิ้มโง่ๆกลับไปให้อาจารย์
"งั้นหนูขอตัวดีกว่านะคะ เอ่อ แต่ว่าโทชิโนริซัง..."เจ้าของชื่อหันมาตามคำเรียกทั้งที่ใบหูยังแดงเถือกอยู่
เด็กสาวเกาท้ายทอยเบาๆนัยน์ตาคู่สวยเหล่ไปทางอื่น
"หนูเองก็ดีใจเหมือนกันที่มีคุณเข้ามาในชีวิต..."ประโยคหลังนั้นเริ่มเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่มีหรือที่อดีตฮีโร่อันดับหนึ่งอย่างโทชิโนรินั้นจะฟังมันไม่ออก
ร่างบางดึงฮู้ดมาส่วมไว้ก่อนเดินเตาะแตะเข้าลิฟท์เพื่อกลับไปที่ห้องของตนเอง ทิ้งให้ผู้ใหญ่สองคนอยู่ในโถงไปแบบนั้น
ใบหน้าที่ว่าแดงอยู่แล้วของโทชิโนริตอนนี้ยิ่งทวีความแดงเข้าไปอีก ผู้สูงอายุยกฝ่ามือปิดหน้าล้มลงไปดีดดิ้นบนโซฟาประหนึ่งตนเป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่นก็มิปาน
ไอซาวะมองภาพตรงหน้าโดยสีหน้ายังคงเป็นเช่นเดิม ทว่ามือที่จับหูแก้วนั้นกำเข้าหากันจนหูแก้วแทบแตกคามือ
"ผมแจ้งตำรวจนะครับ≖_≖"
-------------꧁༺°•✮•°༻꧂-----------
ฉัน...ทำอะไรลงไปกันนะ//เหม่อมองฟ้า
คิดว่าเขามีพิรุจป่ะ ไม่เหรอ? ไม่เนอะ? อื้มๆ
ไอซาวะผู้เคยโดนขู่มาแล้ว จะไปขู่คนอื่นต่อจะเป็นไรไป
1 คอมเมนท์ 100 กำลังใจ
เมนท์กันเยอะๆนะ~
ความคิดเห็น