ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic​ My hero academia (MHA)​ | Boku​ no​ hero ​academia(BNHA)​]​ Why do you think like that? ฉันเป็นฮีโร่ได้น่า

    ลำดับตอนที่ #41 : Chapter​ 40 : เป็นเธอทุกครั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.89K
      510
      23 มิ.ย. 65

    Chapter​ 40 : เป็นเธอทุกครั้ง 

     

    'ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเธอมักจะออกตัวปกป้องมันเสมอ'​ 

     

    -------------꧁༺°•✮•°༻꧂-----------

     

    ในตอนนี้สุมิเระยังคงรักษา​ระยะห่าง​จากทั้งสองอยู่พอสมควร เพราะเธอรู้ดีว่าประสาทสัมผัส​ของบาคุโกนั้นยอดเยี่ยมแทบจะเทียบเท่า​กับพวกโปรฮีโร่เพราะแบบนั้นการไม่เข้าประชิดมากไปจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด


    บรรยากาศ​ในยามค้ำคืนนับว่าค่อนข้าง​เย็นสบาย​ ทว่าชิออนที่ใส่ฮู้ดตัวหนาทับออกมาทำให้ตอนนี้เหงื่อกาฬเริ่มไหลอาบทั่วร่างรวมถึงใบหน้าหวานด้วย


    เมื่อกลิ่นเหงื่อเริ่มโชย เหล่าแมลงดูดเลือดอย่างยุงก็เริ่มมาบินวนเวียนรอบตัว สร้างความรำคาญให้แก่เด็ก​สาวไม่น้อย ทว่าถึงจะโดนรุมสูบเลือดจนหมดตัวยังไงก็ห้ามส่งเสียงเด็ดขาดไม่งั้นมีหวังถูกจับได้แน่


    ถ้าเป็นแบบนั้นจะอ้างว่าออกมาเดินเล่นก็ใช่เรื่อง=^=;;

    บาคุโกและมิโดริยะทั้งสองเดินกันมาจนถึงกราวเบต้าสถานที่​แรกในการเรียนวิชาพื้นฐาน​ฮีโร่ วันที่ทั้งสองต้องห้ำหันกัน และเป็​นฝ่ายมิโดริยะที่ได้รับชัยชนะ


    ฝีเท้าของคนที่เดิมนำมาตลอดอย่างบาคุโกหยุดลงทำให้มิโดริยะต้องหยุดตามไปด้วย ท่าทางของมิโดริยะดูลนลาน​อย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงกระนั้นคนด้านหน้าก็ยังไม่ปริปากพูดอะไรออกมา


    บาคุโกตอนที่เงียบขรึม​แบบนี้น่ะ...น่าหวาดหวั่นมากกว่ายามที่เจ้าตัวแหกปากโวยวาย​ซะอีก... 


    ชิออนหยุดยืนดูสถานการณ์​อยู่หลังอาคารที่ห่างออกมา แต่ด้วย​อัตลักษณ์​ของเธอนั้นก็ทำให้การดักฟังบทสนทนาของทั้งสองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก


    พอร์ทัล​ขนาดเล็กปรากฏ​ขึ้นตรงหน้าโดยอีกบานนั้นชิออนพยายามให้มันเข้าไปใกล้กับทั้งสองมากที่สุดโดยใช้พุ่มไม้แถวนั้นบดบังไว้อย่างแนบเนียน


    "อัตลักษณ์​ของแกนั่นน่ะ...ได้รับมาจากออลไมท์ใช่มั้ย?"


    ไม่ทันไรก็มีเฮซะแล้ว... 


    สุมิเระเบิกตากว้างหลังจบประโยคของบาคุโก 


    เธอรออยู่สักพักก็ยังไม่ได้ยินเสียงมิโดริยะร้องปฏิเสธ​อย่างที่ควรจะเป็นก็ยิ่งทำให้น้ำหนักของคำพูดนั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก


    เพราะอัตลักษณ์​พึ่งโผล่ขึ้นมาเปิดทางสู่การเป็นนักเรียนยูเอย์เขาจึงเริ่มฝึกร่างกายให้แข็งแกร่ง​ นั่นเป็นประโยคที่มิโดริยะใช้บอกกับผู้เป็นแม่รวมถึงเพื่อนร่วมห้องอย่างสุมิเระด้วย


    หากเธอไม่ได้ไปรู้เรื่องพวกนั้นมาก่อนก็คงเชื่อแบบนั้นเช่นกัน ทว่ากลับเป็นเธอเองที่ปกปิดเรื่องนั้นไว้ไม่ให้ทั้งสองล่วงรู้


    การที่ทั้งสองชื่นชอบในตัวออลไมท์ หลงไหลในคนๆเดียวกันมาตลอดนั้นเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน


    อคติที่บาคุโกมีต่อมิโดริยะนั้นมีมากมายจนไม่สามารถบรรยาย​ออกมาได้เพราะแบบนั้นความอึดอัด​ในอกจึงยิ่งทวีคูณ​ขึ้นไปอีก


    ใบหน้าที่ยามปกติจะดูเกรี้ยวกราด​อย่างกับอสูรคลั่งทว่ายามนี้มันกลับเรียบนิ่งจนแม้แต่เธอยังรู้สึกหวาดผวา นัยน์ตา​สีทับทิม​นั้นจับจ้องไปที่คนผมเขียวก่อนเอ่ยออกมาเสียงเรียบ

    "มาสู้กันซะ"มือหนายื่นไปข้างหน้า"ที่-นี่ ตอน-นี้เลย!"


    พวกเอ็งจะทำแบบนั้นกันไม​่​ด้ายยย=[ ]​=! 


    เด็กสาวทึ่งหัวของตัวเองแทบหลุด เมื่อผลรับมันดันมาลงอีหรอบนี้ซะได้


    ลักลอบกันออกมาตอนกลางคืนก็คิดไปหนึ่งกระทงแล้ว ยิ่งมาสู้กันกลางดึกแบบนี้ อาจารย์​เขาได้เพิ่มโปรโมชั่น​ลดแลกแจกแถมกระทงให้ไม่อันแหงๆ! 


    ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆให้เสียเวล่ำเวลา บาคุโกพุ่งเข้าโจมตีมิโดริยะทันทีซึ่งแน่นอนมิโดริยะต้องห้ามอีกฝ่ายแน่นอน ทว่าบาคุโกไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยทำให้มิโดริยะหลวมตัว​ไป


    ---ตู้ม!!! 


    ชิออนยกมือขึ้นบดบังศีรษะ​ไว้เพื่อป้องกันเศษ​กระจกที่เกิดจากแรงระเบิดของบาคุโกกระเด็นมาใส่


    ระเบิดอนุภาพแรงขนาดนั้นตอนนี้ทางคณะอาจารย์​ต้องรับรู้แล้ว ถ้าอดทนรออีกหน่อยไม่ช้าก็เร็วอาจารย์​ไอซาวะต้องมาห้ามทัพทั้งสองคนแน่


    ทว่าการต่อสู้ก็ยิ่งทวีความรุนแรง​มากขึ้น ถ้าหากไม่เข้าไปหยุดตั้งแต่ตอนนี้ความเสียหายในกราวเบต้าได้ขยายกว้างขึ้นไปอีกแน่


    สุมิเระสูดหายใจเข้าออกอยู่ครู่เดียว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้


    บาคุโกพุ่งเข้าหาร่างของมิโดริยะที่รอบตัวมีสายฟ้าสีเขียวหุ้มอยู่รอบตัวโดยที่มือของเข้ามีประกายระเบิดเตรียมไว้แล้ว


    ทว่าในตอนที่ปล่อยระเบิดออกไป มือของเขากลับผลุดหายเข้าไปในประตูมิติปริศนา​ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี อัตลักษณ์​ของเขาระเบิดตู้มต้ามทว่าไม่โดนเป้าหมายที่เร่งไว้ซักนิด บาคุโกกัดฟันกรอดเมื่อเจ้าของอัตลักษณ์​นั้นมาปรากฏ​ขึ้นตรงหน้าโดยใช้ร่างกายเล็กจิ๋วนั่นกันเขากับเจ้าเดกุไว้


    "ส...สุมิเระซัง?!"


    "เลิกเข้ามาจุ้นจ้าน​สักทียัยแมวจร!!" 


    คนตัวเล็กส่ายหน้าพัลวัน​"ใจเย็นๆก่อนนะบาคุโก แรงระเบิดของนายเมื่อกี้มันแรงมากตอนนี้พวกอาจารย์​คงรู้กันหมดแล้วล่ะนะ"


    สุมิเระพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ด้วยรู้พื้นฐานนิสัยของอีกฝ่ายพอสมควรว่าอีกฝ่ายมุ่งมั่น​กับเป้าหมายตนเองมากแค่ไหน


    "ใจเย็นลง แล้วมาคุยกันดีๆเถอะ อะไรหลายๆอย่างอาจไม่ใช่อย่างที่นายคิด"


    "แกเป็นแม่มันหรือไงถึงต้องมาค่อยกางปีกปกป้องมันตลอดน่ะห๊า!!"


    "ถึงไม่ใช่แม่ แต่เห็นแบบนี้มันก็ต้องปกป้องอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!?"


    ฟันหนายิ่งขบเข้าหากันเมื่อนัยน์ตา​สีม่วงนั้นจ้องเขากลับอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว​เลยแม้แต่นิด


    หญิงสาวตรงหน้าเขาเป็นคนใจกว้าง... กว้างมากพอๆกับ'พื้นที่'อัตลักษณ์​ของมันนั่นแหละ


    แต่ไหนแต่ไรไม่ว่าเขาจะแกล้งไอ้เจ้าเดกุแค่ไหนก็ไม่มีใครคิดจะปกป้องมันเพราะส่วนมากก็จะหัวเราะไปกับเขา หัวเราะให้กับความน่าสมเพช​ของมัน และถึงจะมีคนไม่เห็นด้วยก็ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าเข้ามาช่วยมันสักรายเพราะหวาดกลัวเขากันจนหมด


    มีเพียงสุมิเระ ชิออนที่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันนั้นก็พุ่งเข้ามากางแขนปกป้องมันโดยไม่หวาดกลัวอัตลักษณ์​ที่กำลังปะทุอยู่ในมือเขาแม้แต่นิดเดียว


    ยัยนั่นไม่สนว่าใครจะมาจากไหน หากคนๆนั้นมาเพื่ออ้างเหตุผลไร้สาระเพื่อรังแกเจ้าเนิร์ด​แล้ว สุมิเระนั้นไม่เคยคิดจะปราณี


    แน่นอน...เขาเคยเป็นบุคคลที่ชิออนลงมือสถานหนักมาแล้วครั้งหนึ่ง และนั่นเป็นครั่งหนึ่งที่เขาจะจดจำมันไปจนวันตาย


    ตั้งแต่นั้นก็ราวกับชีวิตของเจ้าคนไร้อัตลักษณ์แบบไอ้เนิร์ด​นั่นเปลี่ยนไป


    เมื่อเจ้าเดกุไม่มีคู่ยัยนี่ก็จะเสนอตัวไปคู่ด้วย ถึงขั้นยอมขัดคำสั่งอาจารย์ทิ้ง​ให้เขาไปคู่กับคนอื่น โดยยกเหตุผล​ว่า'บาคุโก​ฮอต​อยู่แล้วนี่นา ยังไงๆก็มีคนอยากคู่ด้วยอยู่แล้ว'​


    คราวใดที่เดกุถูกแกล้งก็เป็นยัยนี่ที่เข้าไปช่วยเหลือ ไม่ว่าเดกุมันมีปัญหา​อะไรยัยแมวจรก็จะหันไปหาและยื่นมือไปให้มันเสมอ


    และมันเป็นแบบนั้นมาตลอด... 


    ต่างกับเขา... 


    ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาบาดเจ็บ ตอนที่เกิดเรื่องร้ายหรือหลังจากที่รู้ผลสอบ เธอก็ยังเลือกหันไปหาคนอื่น!


    เขาเองก็คอยช่วยเหลือร่างตรงหน้ามาตลอดไม่ใช่เหรอ? เวลาเจ้าตัวถูกกลุ่มนักเรียนหญิงแอนตี้ก็เป็นเขาที่เข้าไปขู่จนพวกหล่อนลามือไป หรือจะตอนถูกพวกวิลเลินลักพาตัวเขาก็ออกตัวปกป้องสุมิเระไม่ให้พวกนั้นเข้ามาโจมตี


    เทียบกับเจ้าเดกุที่ไม่เคยทำอะไรเลยยังไงก็ดีกว่าเห็นๆ แล้วทำไม-!


    "ทำไมเธอถึงไม่เห็นฉันเป็นที่หนึ่งบ้​า​งวะ!?" 


    ชิออนที่ถูกตวาดใส่นั้นตีสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ต้องทำยังไงให้อีกฝ่ายใจเย็นลง สักนิดก็ยังดีไม่งั้นบาดแผลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก


    เมื่อเห็นแบบนั้นมิโดริยะได้ดึงร่างของสุมิเระให้ออกห่างจากเพื่อนสมัยเด็กโดยครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายยกแขนกันร่างบางบ้าง


    "คัตจัง มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะนายใจเย็นๆก่อนเถอะ นะ?" 


    ราวไปกดสวิตช์​ทำลายตัวเอง บาคุโกตวัดตาขึ้นมองเจ้าของผมสีเขียวสาหร่ายก่อนยกมือขึ้นเตรียมปลดปล่อย​อัตลักษณ์​ออกมา


    "หุบปาก​ไปเลยไอ้เจ้า​เดกุ!!!" 


    ก่อนที่อะไรๆจะแย่ไปกว่านี้ฝ่ามือใหญ่ของโทชิโนริซังก็คว้าหมับข้อมือของบาคุโกเอาไว้เพื่อไม่ให้นักเรียนของเขาเผลอใช้อัตลักษณ์​ทำลายกราวเบต้าไปมากกว่านี้


    การเปิดอกพูดคุยของออลไมท์นั้นราวกับเป็นน้ำบริสุทธิ์​ที่มาดับมรสุม​เพลิงภายในใจของบาคุโกลงได้


    ความลับเรื่องของอัตลักษณ์​one for allพลังที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นซึ่งตอนนี้พลังนั้นกำลังไหลเวียน​อยู่ในตัวของมิโดริยะ อิซึคุ


    ความลับที่เคยปิดไว้แค่สองคน ตอนนี้มันกลายเป็นความลับของเราสี่คนไปเสียแล้ว... 


    พวกเราเดินกลับหอพักด้วยสภาพที่ดูดีกว่าเดิมเล็กน้อย สำหรับสองคนนั้นน่ะนะ^^;


    "ทำไมโทชิโนริถึงเป็นคนมาล่ะคะ? หนูนึกว่าจะเป็นอาจารย์​ไอซาวะซะอีก" 


    "...ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะความสะเพร่า​ของฉัน เพราะงั้นฉันควรจะรับผิดชอบ" 


    "งั้นเหรอคะ..."


    หลังจากกลับมาถึงก็มีอาจารย์​ไอซาวะยืนดักรอ​อยู่หน้าหอพักเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตา​สีนิลนั้นจับจ้องไปที่ลูกศิษย์​ทั้งสองของตน ใบหน้าราวยักษ์​โอนิ ทำเอาคนก่อเรื่องทั้งสองต้องลอบกลืนน้ำลายกันเลยทีเดียว


    "ออกไปอาละวาดกันกลางดึกหลังพึ่งสอบใบอนุญาต​เสร็จเนี่ยนะ...จะไม่คึกกันไปหน่อยเหรอ ห๊ะ?"


    อุปกรณ์​จับกุมพันรอบตัวของนักเรียนทั้งสองแน่นโดยมีไอซาวะที่รวบเส้นผมสีนิลขึ้นสูงและอยู่ในชุดลำลองสีดำล้วน


    สรุปคือบาคุโกและมิโดริยะถูกลงโทษ​เป็นการกักบริเวณอยู่แต่ในหอพัก โดยที่คนหาเรื่องอย่างบาคุโกโดนไป4วัน ส่วนมิโดริยะที่เป็นคนถูกชวนออกไปแต่ก็ยังตอบสนองความต้องการของพ่อหนุ่มมือระเบิด​ก็โดนไป3วัน 


    โดยระหว่างที่ถูกกักบริเวณ​นั้นทั้งสองจะต้องช่วยกันทำความสะอาดหอพักทั้งหมด ไม่ว่าจะปัด กวาด เช็ด ถูหรือแม้แต่ขัดห้องน้ำ ว่าง่ายๆก็คือหอพักของห้อง1-Aนั้นจะต้องสะอาดเอี่ยมอ่อง​


    บวกกับต้องเขียนเรียงความสำนึกผิดไปส่งอาจารย์​หลังจากนั้นด้วย


    เจ้าของเส้นผมสีม่วงยาวสยายลอบซี๊ดปากกับบทลงโทษ​นั้น ร่างบางยืนอยู่ข้างๆโทชิโนริซังนั้นรอจังหวะที่ร่างสูงจะปล่อยให้นักเรียนกลับขึ้นห้อง


    "ส่วนเ​ธ​อ!สุมิเระ!" 


    สุมิเระหลุดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผู้เป็นอาจารย์​หันขวับมาทางนี้ นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเองกระพริบตาปริบๆ


    'เค้าโดนด้วยห​ยอ⚈^⚈;;?'​


    "แม้แต่เธอก็อย่าหวังว่าจะรอด! เห็นเพื่อนพากันออกไปนอกหอช่วงเคอร์ฟิวแทนที่จะรายงานอาจารย์ ​ดันบ้าจี้ตามไปอีก นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มีแผลกลับมาอีกคนน่ะห๊ะ!?"


    โดนเทศน์​ไปอีกคน...โทชิโนริมองเด็กสาวที่สุดท้ายก็ต้องมานั่งแหมะก้มหัวสำนึกผิดตามเพื่อนทั้งสองไปติดๆโดยมีไอซาวะส่วมบทบาทคุณพ่อขี้บ่นยืนคุมอยู่


    "ยัยนั่นไม่จำเป็นต้องโดนลงโทษ​สักหน่อย อยู่ก็เหมือนไม่อยู่!"บาคุโกโพล่งขึ้นมา แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่คิดจะสบตาเธออยู่ดี


    "ใช่ครับอาจารย์ไอซาวะ​ สุมิเระซังไม่รู้เรื่องนะครับ!"มิโดริยะช่วยเสริม


    ความสามัคคี​ที่ก่อตัวขึ้นโดยแรงจูงใจเดียวกันนั้นทำเอาเจ้าของสมญานาม​ฮีโร่ผู้ลบล้าง​คิ้วกระตุก


    "พวกนายน่ะเงียบไปเลย! ถึงไม่ได้ร่วมทะเลาะแต่ก็ยังมีความผิดที่ไม่แจ้งอาจารย์​เรื่องที่พวกเธอพากันออกไปต่อสู้​กันโดยพลการ แต่นับว่าสุมิเระไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการทะเลาะวิวาท​ จะลดโทษลงขั้นหนึ่งโดยเธอจะต้องมาช่วยงานที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์​! หวังว่าคงไม่แรงไปใช่มั้ย?"ไอซาวะเลิกคิ้วถามราวกับกำลังลองเชิงแก่มประชด


    ซึ่งสำหรับชิออนแล้วเธอคิดว่าโทษของเธอนั้นเบาสุดๆ ถึงจะต้องไปช่วยงานอาจารย์​ถึงหนึ่งสัปดาห์​ทว่าเธอก็ยังได้ไปนั่งเรียนในห้อง ไม่เหมือนกับสองคนนั้นที่ต้องมาทำความเข้าใจกับเนื้อหาการเรียนนอกรอบ​


    ยิ่งพวกเธออยู่สาขาฮีโร่ด้วยแล้วเนื้อหายิ่งแปลกแยกไปจากคนอื่นเพราะฉะนั้นสุมิเระขอนอบรับโทษ​ด้วยความเต็ม​ใจ


    "ไม่มีปัญหา​ค่ะ แฮะๆ" 


    ไอซาวะทำเสียงขึ้นจมูก อันที่จริงเขาไม่ได้อยากจะทำโทษเด็กตรงหน้าหรอกเพราะรู้ดีว่าสุมิเระนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ก็ความผิดที่กล่าวไปก็ไม่สามารถทำเมินได้เช่นกัน 


    มือหนายื่นมาปัดเศษปูนบนหัวของเด็กสาวออก ก่อนร่างสูงนั้นจะเอ่ยออกมาเสียงแข็ง​


    "งั้นก็แยกย้าย​กันเข้านอนได้แ​ล​้​ว!"ไอซาวะพูดจบก็เดินออกไป


    เมื่อถูกสั่งพวกเราก็เตรียมแยกกันขึ้นห้องตามที่ผู้เป็นอาจารย์​ลั่นวาจาไว้ ทว่าข้อมือของเธอกลับถูกร่างสูงชะลูด​ของใครบางคนรั้งไว้ซะก่อน


    เธอและโทชิโนริซังยืนอยู่แบบนั้นจนมั่นใจว่าทุกคนออกไปกันหมดแล้ว อีกฝ่ายจึงดึงเธอลงมานั่งแหมะที่โซฟากลางห้องโถงใหญ่


    "เอ่อ...หนูน้อยสุมิเระจะกินขนมมั้ย?"


    "ไม่ค่ะ ขอบคุณ" 


    "งั้นอยากได้เครื่องดื่ม​อุ่นๆก่อนนอนสักแก้วมั้ย?" 


    "คุณรั้งหนูไว้เพื่อถามคำถามพวกนี้จริงเหรอคะ?" 


    เจอประโยคนี้เข้าไปคนอายุมากกว่าถึงกับต้องกระแอม​ออกมา โอเค เขาผิดเองที่พยายามเบี่ยงประเด็น​ชนิดที่แม้แต่เด็กอนุบาล​ยังดูออก


    ทว่าเรื่องที่เขาจะถามร่างบางนั้นก็ชวนอึดอัดอยู่พอสมควรเลยนี่สิ


    "อยากจะถามเรื่องที่หนูรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณก่อนหน้านี้หรือเรื่องที่หนูรู้เรื่องการสืบทอดอัตลักษณ์​ล่ะคะ?" 


    ---แค่ก! 


    O_O?!? 


    ชิออนสะดุ้งเมื่อร่างตรงหน้ากระอักเลือดออกมาคำโตจนวิ่งหาทิชชู่​ให้แทบไม่ทัน


    "โทษทีนะ"โทชิโนริซังว่าขณะเช็ดริมฝีปาก"แต่ก็ตามที่เธอพูดนั่นแหละหนูน้อยสุมิเระ" 


    เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้น เธอคิดว่ามันก็ผ่านมาได้สักระยะแล้วนะ เจ้าตัวยังติดใจอยู่อีกเหรอ? 


    ในที่สุดโทชิโนริซังก็เริ่มพูดถึงเหตุผลที่เขารั้งตัวเธอไว้ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่เธอคิดไว้ ว่าอีกฝ่ายยังแอบสงสัยเรื่องของเธอที่ล่วงรู้ความลับของร่างทรูฟอร์มของเขา


    จริงโทชิโนริก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพียงแค่อยากรู้ว่าทำไมร่างบางถึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเวลาที่เขาเป็นออลไมท์ แล้วทำตัวปกติเวลาอยู่ในร่างของโทชิโนริ


    หรือว่าชิออนอยากจะเข้าใกล้นัมเบอร์วัน​ฮีโร่เพื่อเอาไว้เป็นเรื่องเล่าในกลุ่มตามฉบับวัยรุ่นทั่วไป


    จบคำพูดของเขาดวงตาของเด็กสาวตรงหน้านั้นว่างเปล่า สีหน้าของเธอนั้นเรียบเฉยอย่างที่นานครั้งจะได้เห็น


    "คุณจะบอกว่าที่หนูปล่อยผ่านเรื่องนี้มาตลอดเพราะอยากใกล้ชิดกับ'ออลไมท์'​เหรอคะ?" 


    โทชิโนริเบิกจากว้างจนแทบถลนออกมามือส่ายไปมาด้วยความร้อนรน​"ไม่ใช่! ไม่ใช่สักนิดเลยหนูน้อยสุมิเระ ฉันก็แค่อยากรู้เหตุผล​ที่เธอปิดเงียบไว้เท่านั้นเอง!" 


    นั่นยิ่งทำเธอขมวดคิ้ว​เข้าไปอีก"ก็ไม่มีเหตุผล​อะไรค่ะ แค่เห็นว่าโทชิโนริซังให้ความสำคัญ​กับการเปลี่ยนร่างก็เลยสงบปากสงบคำเอาไว้เท่านั้นเอง ฮึ่บ!"


    ร่างบางดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้​


    "เป็นฮีโร่อันดับหนึ่งมันเหนื่อยหนูก็แค่ไม่อยากให้ฮีโร่ที่ใครหลายๆคนให้ความรักต้องมาหัวหมุนกับเรื่องแบบนี้"


    เพราะยังไงการได้พูดคุยกับอีกฝ่ายในชื่อ'โทชิโนริ'​นั้นทำให้เธอมีความสุขมากกว่าการที่ได้คุยกับฮีโร่อันดับหนึ่งอย่าง'ออลไมท์'​เสียอีก แต่สุดท้ายยังไงทั้งสองก็คือคนๆเดียวกันอยู่ดี


    "การที่โทชิโนริซังจะระแวงหนูก็ไม่แปลกหรอกนะคะ เด็กอายุสิบห้านี่น่าจะอยู่ช่วงปลายจูนิเบียวเลย ปากมากสุดๆ"พูดไปก็หัวเราะออกมา"นี่ก็ดึกมากแล้วยังไงก็ขอตัวไปนอนตีพุง​เล่นก่อนนะคะ ฮ่าๆ" 


    แต่ไม่ทันเดินออกจากรัศมีโซฟา ร่างของชิออนก็ถูบรวบไปจากทางด้านหลังซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นยางิโทชิโนรินั่นเอง ใบหน้าซูบผอม​ซุกลงที่กลุ่มเส้นผมนุ่มนิ่มอย่างรักใคร่​โดยที่ร่างในอ้อมแขนนั้นนั่งแข็งค้างไม่ขยับเขยื้อน​ไปไหน


    ร่างสูงพึมพำออกมาเสียงเบาบาง


    "ขอบคุณนะ...ขอบคุณ​นะสาวน้อยชิออน ฉันดีใจจริงๆที่มีเธอเข้ามาในชีวิต"พูดจบก็จุ๊บลงที่ศีรษะ​ของร่างบางไปหนึ่งทีพร้อมกับสรรพนามของเด็กสาวในอ้อมแขนที่เปลี่ยนไปจากเดิม


    "เอ่อ...โทชิโนริซัง"


    "อ่ะแฮ่ม!" 


    สองร่างสะดุ้ง​โหย่งเมื่อเสียงกระแอม​ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของห้องโถงเมื่อหันไปมองก็พบเข้ากับไอซาวะที่เอนหลัง​พิงขอบประตู​อยู่ในมือถือแก้วกาแฟค้างไว้


    "อ..ไอซาวะคุง? มาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ?"โทชิโนริถามเสียงสั่น


    โปรฮีโร่ใต้ดินไม่เปลี่ยนสีหน้า"ก็ตั้งแต่ประโยค​'ฉันดีใจจริงๆที่มีเธอเข้ามาในชีวิต'​น่ะครับ" 


    ดันมาตอนที่พูดประโยค​น่าอาย​ที่สุดซ​ะ​ด​้​ว​ย! 


    พลันใบหน้าซูบผอมนั้นก็แดงแปร๊ดไล่ไปตั้งแต่หัวยันหลังคอ ชิออนจึงใช้จังหวะนั้นดิ้นคลุกๆออกมาจากอ้อมแขนผอมแห้งแต่หนักชิบเป้งนั้นได้


    สุมิเระหันไปสบตากับคนที่ยืนพิงอยู่หน้าประตู ไอซาวะเลิกคิ้วมาให้กับเธอซึ่งตัวเธอก็ไร้คำจะอธิบายทำได้แต่ส่งยิ้มโง่ๆกลับไปให้อาจารย์​


    "งั้นหนูขอตัวดีกว่านะคะ เอ่อ แต่ว่าโทชิโนริซัง..."เจ้าของชื่อหันมาตามคำเรียกทั้งที่ใบหูยังแดงเถือก​อยู่


    เด็กสาวเกาท้ายทอยเบาๆนัยน์ตา​คู่สวยเหล่ไปทางอื่น


    "หนูเองก็ดีใจเหมือนกันที่มีคุณเข้ามาในชีวิต..."ประโยคหลังนั้นเริ่มเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่มีหรือที่อดีตฮีโร่อันดับหนึ่งอย่างโทชิโนรินั้นจะฟังมันไม่ออก


    ร่างบางดึงฮู้ดมาส่วมไว้ก่อนเดินเตาะแตะเข้าลิฟท์​เพื่อกลับไปที่ห้องของตนเอง ทิ้งให้ผู้ใหญ่​สองคนอยู่ในโถงไปแบบนั้น


    ใบหน้าที่ว่าแดงอยู่แล้วของโทชิโนริตอนนี้ยิ่งทวีความแดงเข้าไปอีก ผู้สูงอายุยกฝ่ามือปิดหน้าล้มลงไปดีดดิ้นบนโซฟาประหนึ่ง​ตนเป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่นก็มิปาน


    ไอซาวะมองภาพตรงหน้าโดยสีหน้ายังคงเป็นเช่นเดิม ทว่ามือที่จับหูแก้วนั้นกำเข้าหากันจนหูแก้วแทบแตกคามือ


    "ผมแจ้งตำรวจนะครับ≖_≖" 




     -------------꧁༺°•✮•°༻꧂-----------


    ฉัน...ทำอะไรลงไปกันนะ//เหม่อมองฟ้า


    คิดว่าเขามีพิรุจ​ป่ะ ไม่เหรอ? ไม่เนอะ? อื้มๆ


    ไอซาวะผู้เคยโดนขู่มาแล้ว จะไปขู่คนอื่นต่อจะเป็นไรไป


    1 คอมเมนท์​ 100 กำลังใจ

    เมนท์​กันเยอะๆนะ~

     



       
        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×