คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 อัพค่าสเตตัส
บทที่ 7 อัพค่าสเตตัส
---------------------------------------
"ออกไป!!"
เสียงตวาดราวสายกัมปนาทของท่านอาจารย์หลานดังขึ้นจนเหล่าวิหคพากันทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้าด้วยความตกใจ ไม่นานจากเสียงนั้นดังขึ้นก็มีร่างของอิสตรีน้อยนางหนึ่งวิ่งเตลิดเปิดเปิงออกมา
หลังฟ่านซิงถูกขับไล่ออกมานางก็มานั่งอยู่บริเวณโขดหินใต้สะพานซึ่งดูถ้าจะกลายเป็นที่ประจำของนางไปเสียแล้ว
"ทำไมต้องไล่ออกมาด้วยเล่า!"
บ่นกับตัวเองเบาๆ นางก็แค่ไม่เข้าใจหัวข้อที่ท่านอาจารย์สอนจึงถามให้กระจ่างแจ้งก็เท่านั้นซึ่งคราแรกอาจารย์หลานก็อธิบายให้ทว่าเมื่อเขาอธิบายปาเข้าไปรอบที่6คุณหนูสกุลฟ่านก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจจึงโดนไล่ตะเพิดออกมา
อ่า...จริงๆก็เข้าใจนั่นแหละว่าทำคนอื่นเสียเวลา
"เกลียดหัวข้อนี้ชะมัด..."
อันที่จริงฟ่านซิงก็นับว่าหัวไวอยู่มิน้อยแต่กลับหัวข้อจินตานนี้นางต้องขอยกธงขาวจริงๆ
ถ้าให้พูด จินตานหรือพลังลมปราณก็เหมือนกับต้นตอพลังงานสำหรับใช้ฝึกวรยุทธทุกรูปแบบสิ่งสำคัญของเหล่าผู้ฝึกตน หากไร้จินตานก็ไร้วรยุทธกลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรดาสามัญทั่วไป
อย่างจ้าวจู๋หลิวที่ในอนาคตจะได้รับสมญานามเป็นฝ่ามือสลายจินตานนั้นก็มีความสามารถตามสมญานามของเขา หากใครถูกฝ่ามือสลายจินตานซัดเข้าไปสักหมัดก็บอกลาวิถีเซียนได้เลย เพราะพลังลมปราณของคนผู้นั้นจะมลายหายไปสิ้น
เอาเข้าจริงฟ่านซือเยว่คิดว่ามันเป็นความสามารถที่OPมากๆในโลกวรยุทธแบบนี้ หากจ้าวจู๋หลิวมีความทะเยอทะยานหน่อยแล้วหักหลังเวินรั่วหานทีเผลอก็คงไม่ยาก ทว่าอีกฝ่ายกลับเป็นคนที่ยึดมั่นคำสอนบุญคุณต้องทดแทนชนิดถวายหัวให้นี่สิ
เมื่อถูกไล่ออกมาเช่นนี้ซือเยว่ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ จะให้นั่งชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ใช่ทีเดี๋ยวค่าความสามารถไม่ขึ้นกันพอดีสิ
คิดได้ดังนั้นจึงมุ่งตรงไปยังหอตำราสกุลหลานแหล่งรวมคัมภีร์มากมายจนเอามาว่ากองคงสูงท่วมหัว=^=;;
"อยู่ไหนหว่า...?"
สตรีสกุลฟ่านมุดๆโผล่ๆอยู่ในกองคัมภีร์มาได้สักพักทว่าก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอสิ่งที่เจ้าตัวตามหาเลยแม้แต่น้อยจนเริ่มสังหรณ์ใจว่าที่หอคัมภีร์แห่งนี้จะไม่มีสิ่งที่เธอต้องการเสียแล้ว
"ทำสิ่งใดอยู่รึแม่นางฟ่าน?"
"หว๋า-โอ้ย!?"
คุณหนูน้อยลงไปนอนลูบศีรษะปอยๆเมื่อจู่ๆก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาขณะที่นางกำลังมุดหัวเข้าไปหาคัมภีร์จนตกใจเอาหัวโขกชั้นวางไปเต็มๆ
"เป็นอะไรหรือไม่แน่นางฟ่าน?"ผู้มาเยือนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงทว่ามิวายส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู
ฟ่านซือเยว่เมินคำถามนั้นไปชั่วขณะแหงนหน้ามองบุคคลที่ทักโดยมิให้ซุ่มให้เสียง ปรากฏเป็นชายร่างสูงตะหง่านเจ้าของผ้าคาดหน้าผากอันเป็นสัญญลักษณ์ของคนตระกูลหลาน
เพียงเท่านั้นฟ่านซือเยว่ตรัสรู้ได้ทันที่ว่านางเสียมารยาทต่อบุคคลสำคัญอีกแล้ว
"คุณชายใหญ่หลาน ซือเยว่เสียมารยาทแล้ว"สาวเจ้าเร่งผยุงร่างตนขึ้นจากพื้นมาคารวะคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลาน ถ้าไม่ติดว่าจะดูโอเวอร์เกินเหตุนางคงนั่งเอาหัวโหม่งพื้นหอคัมภีร์ไปแล้ว
คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลานเพียงยกยิ้มบาง นึกเอ็นดูสตรีตรงหน้ามิน้อยก่อนกล่าวย้ำอีกครา"เจ้ากำลังสิ่งใดอยู่รึ?"
"ข้ามาหาคัมภีร์เกี่ยวกับจินตานเจ้าค่ะ คือ...ตัวข้า...ค่อนข้างเรียนรู้ได้ช้านัก จึงถูกท่านอาจารย์หลานไล่ออกมา..."
ฟ่านซือเยว่เอ่ยกระปอดกระแปดด้วยยังรู้สึกเก้อเขินจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่มิน้อย"ต...แต่ข้าก็เข้าใจท่านอาจารย์หลานนะเจ้าคะ เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นผู้อื่นคงเสียเวลาเรียนหากต้องเฝ้ารอให้ท่านอาจารย์แถลงไขของสงสัยของข้าทั้งหมด มัน...มันคงไม่ยุติธรรมต่อผู้อื่น..."
ด้านชิงเหิงจวินเพียงยืนฟังแม่นางน้อยกล่าวเงียบๆ ตัวเขาจะว่าไม่เคยเหนื่อยใจต่อพฤติกรรมของแม่นางน้อยสกุลฟ่านเลยก็คงไม่ใช่ สตรีตรงหน้าช่างดีดกะโหลกเกินคุณหนูจากตระกูลสูงส่งทั่วไปทว่าในความก๋ากั่นนั้นยังรักษามารยาทไม่ข้ามหัวผู้ใหญ่จนเกินงาม เขาจึงพอทำเป็นปิดตาข้างเดียวได้ต่างจากฉี่เหรินที่เคร่งเรื่องกฎตระกูลมากกว่าเขาหลายเท่า
คุณชายใหญ่ยกยิ้มบางเบาเดินอาดไปอีกฝั่งของหอคัมภีร์หยิบเอาตำราเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นก่อนส่งมาให้กับนาง
"ตำราเล่มนี้คงช่วยคลายข้อสงสัยทั้งหมดของเจ้าได้ หมั่นขวนขวายให้มาด ท่านอาจารย์จะได้ไม่ดุด่าเจ้าอีก"
"ข...ขอบคุณท่าน ข้าขอขอบคุณท่านจากใจ"
ฟ่านซิงยื่นมือไปรับตำราโดยมิลืมกล่าวขอบคุณคุณชายใหญ่ตระกูลหลานไปหลายคราด้วยความซาบซึ้งจากใจ
"เจ้าจะนั่งศึกษาในหอคัมภีร์นี้ก็ได้ข้าอนุญาติเจ้า ทว่าอย่าจดจ่อจนลืมเวลาเล่า"
ว่ากล่าวจบคุณชายใหญ่จึงเดินออกไปจากหอคัมภีร์ปล่อยให้แม่นางฟ่านได้เรียนรู้เนื้อหาภายในตำราไป
หลังชิงเหิงจวินจากไปฟ่านซิงนั้นรีบเร่งเปิดตำราออกไล่อ่านตัวอักษรจีนแถวแล้วแถวเล่า ท่าทางมุ่งทั่นกับการศึกษาเล่าเรียนอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน
"นี่ล่ะ!"นิ้วบางหยุดลงเมื่อพบเนื้อหาที่ตนต้องการ
จุดเส้นลมปราณเป็นที่รวมของเส้นประสาทที่เปรียบเสมือนสายไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับอวัยวะภายใน เส้นลมปราณนอกจากจะเป็นแนวการเรียงตัวจุดฝังเข็มของพวกแพทย์แล้ว ยังมีลักษณะของช่องทางในการไหลเวียนลมปราณไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย
หรือจะกล่าวได้ว่าเส้นลมปราณนั้นแทบจะไหลเวียนอยู่ทั่วร่างของเราเลยก็ว่าได้ นอกจากจินตานที่เป็นแกนหลักแล้วผู้ฝึกตนน้อยใหญ่จำต้องหมั่นฝึกลมปราณให้แข็งแรงมิงั้นวรยุทธ์ก็คงมิสามารถพัฒนาได้ดังใจหวัง
"อืม...จุดเส้นลมปราณหลัก12เส้น..."
ฟ่านซิงจรดนิ้วลงข้างขมับของตน ลากผ่านลำคอเรียวก่อนค่อยๆลากผ่านเรียวแขนของตนช้าๆราวกับว่ากำลังสัมผัสเส้นลมปราณของตนอยู่
"กับอีก309จุด? เยอะแฮะ=^=;;"
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่หมอยุคจีนโบราณถึงมีฝีมือจับตัวยาก เพราะเนื้อหามันช่างเข้าใจยากเสียนี่กระไร
ทว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจของฟ่านซือเยว่ นางไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษรจดจำทุกรายละเอียดของตำราเล่มนี้จนเวลาล่วงเลยมาถึงยามเซิน(15.00 -16.59 น.)จึงค่อยวางตำราลง
ยามนี้ท่านอาจารย์คงปล่อยเหล่าศิษย์ทั้งหลายกลับเรือนกันแล้ว หรือหากใครยังมิต้องการพักผ่อนหย่อนกายก็ยังสามารถเดินเล่นได้ตามแต่สะดวกเพียงต้องกลับเข้าเรือนตามที่กฎตระกูลตั้งไว้เช่นเคย
"วันนี้อ่านเท่านี้ก่อนแล้วกัน~"ฟ่านซิงกล่าวพลางยืดแขนบิดขี้เกียจตามวิสัยคงนั่งแช่อยู่กับโต๊ะหนังสือเป็นเวลานาน
ว่าไปนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วหลังจากที่นางกลับเข้าเกมมาอีกครั้ง แถมตั้งแต่เข้าเกมมาก็ยังไม่ได้ดูค่าความสามารถของตัวเองเลยสักครั้ง
เพราะฉะนั้นก็ขอถือโอกาสเปิดดูเลยแล้วกัน
"เปิดหน้าค่าความสามารถ"
สิ้นคำกล่าวหน้าจอโฮโลแกรมสำหรับดูค่าสเตตัสของตนเองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ฟ่านซือเยว่ไล่มองไปที่ละแถวช้าๆ
ค่าสเตตัส ฟ่านซิง
พลังโจมตี : ✪✪ (2/10)
ความเร็ว : ✪✪✪✪ (4/10)
พลังชีวิต : ✪✪ (2/10)
ป้องกัน : ✪✪ (2/10)
ทักษะพิเศษ
- ทักษะการปามีด ✪✪✪✪✪✪ (6/10)
- พลังสเน่ห์ ✪✪ (2/10)
อัพเดตล่าสุด - ทักษะการสะกัดเส้นลมปราณ✪ (1/10)
"น้อยชะมัดเลย..."ฟ่านซิงบ่นเบาๆ อีกเรื่องของเกมนี้ที่เธอยังไม่ได้บอกก็คือการอัพค่าสเตตัสแต่ละอย่างนั้นเข้าขั้นยากบรมเลยทีเดียว นี่ขนาดนางฝึกร่างกายอย่างหนักค่าพลังโจมตียังอัพได้เพียงสองดาวเท่านั้น
ส่วนพลังชีวิตนางได้มาสองดาวเพราะฟ่านซิงเลือกที่จะเป็นผู้ฝึกตนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพลังชีวิตอยู่แล้ว แน่นอนว่าค่าพลังของนางนั้นยังเป็นเพียงระดับผู้ฝึกตนขั้นเริ่มต้นเท่านั้นทั้งๆที่ฟ่านซิงอาศัยอยู่ที่อวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่มานับอาทิตย์ได้ นี่ถ้านางเลือกเป็นแค่แม่ค้าขายผลผีผาธรรมดาค่าพลังชีวิตนางจะไม่ค้างเติ่งอยู่ที่1ดาวไปตลอดชีวิตเหรอ
ส่วนด้านทักษะพิเศษนั้นนางไม่แปลกใจหากมันจะอัพค่ามาเกินครึ่ง เพราะนั่นนับเป็นความสามารถพิเศษของฟ่านซิงที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้ามาในเกมเหมือนกับค่าความเร็วที่ได้มาจากทักษะยิมนาสติกของนาง
พูดถึงเรื่องทักษะพิเศษนางคงทำเมินกับการอัพเดตล่าสุดของมันมิได้ การสะกัดพลังลมปราณ? นี่แค่เปิดอ่านตำราอ่ารทักษะพิเศษก็เพิ่มมาให้เลยเหรอ?
ทว่า...
"พลังสเน่ห์นี่คือ????"
ไอ้หัวข้อนี้นี่แหละที่เตะตานางที่สุด ค่าพลังสเน่ห์มันจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้สักแค่ไหนกันเชียว!
บ่นไปก็เท่านั้นหากถึงคราวจวนตัวจริงๆมันก็คงแสดงความสามารถออกมาเองนั่นล่ะ นางปัดหน้าจอโฮโลแกรมทิ้งทันที
ครืน~
ในจังหวะที่คุณหนูสกุลฟ่านจะเลื่อนบานประตูหอคัมภีร์ออกเพื่อกลับเรือนพัก ก็มีใครบางคนชิ่งเลื่อนมันออกเสียก่อน
"..."
"คุณชายรองนี่เอง ข้าตกใจหมดเลย แฮะๆ"
หลานฉี่เหรินปรายตามองแม่นางฟ่านที่จู่ๆก็หัวเราะออกมาอย่างไร้เหตุผล ซึ่งผิดกฎตระกูลหลานอีกแล้ว
เขาฟังมาจากท่านพี่ว่าแม่นางฟ่านนั้นอาจจะยังอยู่ที่หอคัมภีร์ศึกษาตำราเนื้อหาที่ตนไม่เข้าใจในวันนี้ มิอยากยอมรับเท่าไหร่ทว่าในใจลึกๆคุณชายรองหลานนั้นก็มีความเป็นห่วงเป็นใยคุณหนูสกุลฟ่านอยู่ไม่น้อย
ทว่าพอได้เห็นรอยยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สถานการณ์ของแม่นางก็อดหนวดกระตุกมิได้ นางรู้ตัวบางหรือไม่ว่าทำคนอื่นเขาเดือดร้อนไปหมด หากนางโดนไล่ออกเฉยๆคงมิมีปัญหาทว่าหลังนางวิ่งพ้นธรณีประตูโถงไป ผู้อาวุโสก็ราวกับคนโดนวิญญาณร้ายเข้าสิงการสอนในวันนี้จึงหน้าอึดอัดกว่าทุกวันที่ผ่านมา
"นี่ก็ยามเซิน(15.00น.-16.59น.)แล้ว ข้าขอตัวก่อนหนาคุณชายรอง"นางโค้งตัวหงกๆก่อนมุดตัวผ่านลำแขนที่กันทางเดินออกไป ปล่อยให้คนอายุมากกว่ามองตามหลังไป
ยามนี้ยังพอมีเหล่าอนุชนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ไม่น้อย แม้จะมีจำกลุ่มพูดคุยกันบ้างตามประสาทว่ามิได้เสียงดังเจื้อยแจ้วแต่อย่างใดด้วยยังต้องรักษากฎสกุลอยู่แสดงให้เห็นว่าแม้จะมาจากต่างสกุลทว่าทุกคนก็ปฏิบัติตามกฎของอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
"อ้าวแม่นางฟ่าน แหมๆ ช่างบังเอิญเสียนี่กระไร~"
หรือนางเข้าใจผิด? ไม่ใช่ทุกคนสินะ...
ฟ่านซิงมองบุรุษเบื้องหน้าด้วยสายตาปลาตาย แน่นอนคนหน้าหนาอย่างจินกวงซ่านมีรึจะใส่ใจ คุณชายจินกระเถิบเข้าหาสตรีตรงหน้าแบบเนียนๆ
"ถูกไล่ออกมาเช่นนั้นช่างน่าสงสารนัก"เจ้าตัวกล่าวพลางโบกพัดคู่ใจเบาๆ"มาให้ข้าช่วยปลอบใจเจ้าดีกว่านะ~"
'ครานั้นข้าน่าจะทุ่มหินลงไปด้วยจริงๆสินะ...'
ตอนแรกนางแทบใส่เกียร์วิ่งกลับเรือนพักหลังจินกวงซ่านเอ่ยประโยคนั้นจบ หากเจ้าตัวไม่หยิบกล่องไม้ทรงเล็กขึ้นมาเสียก่อนพอทำให้ซือเยว่สบายใจได้ว่าอีกฝ่ายคงมิได้เล่นพิเรนทร์อะไรอีก
ฝากล่องถูกเปิดออกปรากฏปิ่นปักผมลวดลายสวยงาม มีอัญมณีสีสันสดใสประดับมากมายแถมยังมีจี้ห้อยลงมาประปราย
สวยนะ แต่ไม่อลังไปใส่มั้ย?
คงเลือกชิ้นที่ดูเด่นไว้ก่อนสินะ
นางเคยอ่านเจอว่าบุรุษเจ้าชู้มักจับทางสตรีออก เป็นความสามารถที่น่ากลัวเพราะเขาจะรู้ว่าต้องทำเช่นไรให้พวกนางพอใจและเผลอไผลไปกับตนได้ ซึ่งจินกวงซ่านก็ทำมันได้อย่างร้ายกาจ
ทว่าช่างน่าเสียดาย...
ที่ฟ่านซือเยว่มิใช่สตรีที่ชอบปักปิ่นหรือตกแต่งเครื่องประดับบนหัว ดูจากการแต่งกายของนางที่มีผ้าผูกผมเพียงเส้นเดียวก็คงเดาได้
อีกอย่างอย่าคิดว่านางไม่รู้นัยยะแฝงของการมอบปิ่นให้กับอิสตรีนะ
"ขอบคุณคุณชายจินมากเจ้าค่ะ ทว่าคงรับมันไว้มิได้"
"เจ้ามิต้องเกรงใจไปหรอกแม่นางฟ่าน ข้าเต็มใจหนา~"
"คุณชายจิน ข้ามิได้ชมชอบหาเครื่องประดับมาประดับบนหัวข้าเท่าใดนัก ท่านเป็นคนช่างสังเกตคงพอเดาได้ ทว่าหากท่านยังดึงดันที่จะมอบมันให้กับข้าก็คงเป็นได้เพียงเครื่องประดับของสุนัขที่สกุลข้า"ฟ่านซิงร่ายยาวเป็นหางว่าหวังว่าคุณชายขนมเข่งจะเข้าใจและล่าถอยกลับไปซะที
ซึ่งเป็นไปตามที่คาด เขาหน้าเสียทันทีเก็บกล่องไม้นั่นเข้าแขนเสื้อโดนพลัน
"หากมิมีสิ่งใดแล้ว ฟ่านซือเยว่ขอตัว
นางเร่งฝีเท้าออกมาด้วยหวั่นว่าคุณชายจากหลันหลิงจะเรียกนางอีก จวบจนมาถึงนางเรือนพักที่นางเฝ้าหานัยน์ตาสีพีชของนางพลันสังเกตแผ่นหลังของใครบางคนที่ดู้คุ้นเคยเข้า
"คุณชายเจียง?"นางเอ่ยเสียงเบาคราวเดียวกับที่เจ้าของนามสังเกตเห็นนางเข้าพอดิบพอดี
ฝ่ายเจียงเฟิงเหมียนราวกับไม่ทันตั้งตัว เจ้าตัวมีท่าทีประหม่าเล็กน้อยกล่าวเสียงติดขัด
"อ่า แม่นางฟ่าน พอดีวันนี้ข้าเห็นเจ้าโดนไล่ออกจากห้องโถงตั้งแต่ยามซื่อ(9.00 - 10.59 น.)จนตอนนี้จะยามโหย่วแล้ว(17.00 - 18.59 น.)ข้าคิดว่าเจ้าคงยังมิได้กินอะไรจึงนำหมั่นโถวมาให้เจ้า"
กล่องไม้ยื่นมาตรงหน้าซึ่งคาดว่าด้านในคงมีหมั่นโถวอย่างที่คุณชายเจียงกล่าว
ฟ่านซิงจ้องมันครู่หนึ่งก่อนรับกล่องนั้นมาด้วยรอยยิ้มเกรงอกเกรงใจ นางติดหนี้คุณชายจากอวิ๋นเมิ่งอีกแล้ว....
"ขอบคุณคุณชายเจียงเจ้าค่ะ ฟ่านซิงจะเร่งตอบแทนท่านแน่"
อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้คุณหนูเมืองบุปผาได้กลับเข้าเรือนไปพักผ่อนอย่างที่หวังเสียที
วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย...
ได้แค่บนในใจเพราะในตอนนี้ฟ่านซือเยว่เหนื่อยเกินกว่าจะลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาแล้วกล่องหมั่นโถวก็วางอยู่ตนโต๊ะยังมิได้แตะแม้แต่นิด นางเหนื่อยเหลือเกิน ขอนอนตั้งแต่อาทิตย์ยังไม่ตกดินนี่แหละ
สตรีตัวน้อยผ่อนลมหายใจหลับตาพริ้มเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทราโดนไม่คิดจะสนใจสิ่งใดอีก รวมถึงจอโฮโลแกรมที่ขึ้นอัพเดตตรงหน้าด้วย
อัพเดตล่าสุด - พลังเสน่ห์ ✪✪✪ (3/10)~
---------------------------------------
#เกมที่ดีต้องอัพค่าพลังยากๆแบบนี้แหละ เอาใหหัวร้อนกันให้หมด555+
#เห่ย ทำไมไปๆมาๆชักสงสารขนมเข่ง นี่ไรท์ใจร้ายไปบ่นิ!?
#ขอให้สนุกกับนิยาย และอย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังกันด้วยนะ~
ความคิดเห็น