ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Mo dao ​zu ​shi​ (MDZS)​ | ปรมาจารย์ลัทธิมาร]​ เซียนหญิงท่องโลก

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 อัพค่าสเตตัส

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 65



     บทที่ 7 อัพค่าสเตตัส


     

    ---------------------------------------


     

    "ออกไ​ป!!"

     

    เสียงตวาดราวสายกัมปนาท​ของท่านอาจารย์​หลานดังขึ้นจนเหล่าวิหคพากันทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้าด้วยความตกใจ ไม่นานจากเสียงนั้นดังขึ้นก็มีร่างของอิสตรีน้อยนางหนึ่งวิ่งเตลิดเปิดเปิง​ออกมา

     

    หลังฟ่านซิงถูกขับไล่ออกมานางก็มานั่งอยู่บริเวณโขดหินใต้สะพานซึ่งดูถ้าจะกลายเป็นที่ประจำของนางไปเสียแล้ว

     

    "ทำไมต้องไล่ออกมาด้วยเล่า!"

     

    บ่นกับตัวเองเบาๆ นางก็แค่ไม่เข้าใจหัวข้อที่ท่านอาจารย์​สอนจึงถามให้กระจ่างแจ้ง​ก็เท่านั้นซึ่งคราแรกอาจารย์​หลานก็อธิบายให้ทว่าเมื่อเขาอธิบายปาเข้าไปรอบที่6คุณหนูสกุลฟ่านก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจจึงโดนไล่ตะเพิด​ออกมา

     

    อ่า...จริงๆก็เข้าใจนั่นแหละว่าทำคนอื่นเสียเวลา

     

    "เกลียดหัวข้อนี้ชะมัด..."

     

    อันที่จริงฟ่านซิงก็นับว่าหัวไวอยู่มิน้อยแต่กลับหัวข้อจินตานนี้นางต้องขอยกธงขาวจริงๆ

     

    ถ้าให้พูด จินตานหรือพลังลมปราณ​ก็เหมือนกับต้นตอพลังงานสำหรับใช้ฝึกวรยุทธ​ทุกรูปแบบสิ่งสำคัญของเหล่าผู้ฝึกตน หากไร้จินตานก็ไร้วรยุทธ​กลายเป็นเพียงมนุษย์​ธรรดาสามัญ​ทั่วไป

     

    อย่างจ้าวจู๋หลิวที่ในอนาคตจะได้รับสมญานาม​เป็นฝ่ามือสลายจินตานนั้นก็มีความสามารถ​ตามสมญานาม​ของเขา หากใครถูกฝ่ามือสลายจินตานซัดเข้าไปสักหมัดก็บอกลาวิถี​เซียนได้เลย เพราะพลังลมปราณ​ของคนผู้นั้นจะมลายหายไปสิ้น

     

    เอาเข้าจริงฟ่านซือเยว่คิดว่ามันเป็นความสามารถที่OPมากๆในโลกวรยุทธ​แบบนี้ หากจ้าวจู๋หลิวมีความทะเยอทะยาน​หน่อยแล้วหักหลังเวินรั่วหานทีเผลอก็คงไม่ยาก ทว่าอีกฝ่ายกลับเป็นคนที่ยึดมั่นคำสอนบุญคุณต้องทดแทน​ชนิดถวายหัวให้นี่สิ

     

    เมื่อถูกไล่ออกมาเช่นนี้ซือเยว่ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ  จะให้นั่งชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ใช่ทีเดี๋ยวค่าความสามารถไม่ขึ้นกันพอดีสิ

     

    คิดได้ดังนั้นจึงมุ่งตรงไปยังหอตำราสกุลหลานแหล่งรวมคัมภีร์​มากมายจนเอามาว่ากองคงสูงท่วมหัว=^=;;

     

    "อยู่ไหนหว่า...?"

     

    สตรีสกุลฟ่านมุดๆโผล่ๆอยู่ในกองคัมภีร์​มาได้สักพักทว่าก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอสิ่งที่เจ้าตัวตามหาเลยแม้แต่น้อยจนเริ่มสังหรณ์ใจ​ว่าที่หอคัมภีร์​แห่งนี้จะไม่มีสิ่งที่เธอต้องการเสียแล้ว

     

    "ทำสิ่งใดอยู่รึแม่นางฟ่าน?" 

     

    "หว​๋​า-โอ้ย!?"

     

    คุณหนูน้อยลงไปนอนลูบศีรษะ​ปอยๆเมื่อจู่ๆก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาขณะที่นางกำลังมุดหัวเข้าไปหาคัมภีร์จนตกใจเอาหัวโขกชั้นวางไปเต็มๆ

     

    "เป็นอะไรหรือไม่แน่นางฟ่าน?"ผู้มาเยือนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงทว่ามิวายส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู 

     

    ฟ่านซือเยว่เมินคำถามนั้นไปชั่วขณะแหงนหน้า​มองบุคคล​ที่ทักโดยมิให้ซุ่มให้เสียง ปรากฏ​เป็นชายร่างสูงตะหง่านเจ้าของผ้าคาดหน้าผากอันเป็นสัญญลักษณ์​ของคนตระกูลหลาน

     

    เพียงเท่านั้นฟ่านซือเยว่ตรัสรู้ได้ทันที่ว่านางเสียมารยาท​ต่อบุคคลสำคัญ​อีกแล้ว

     

    "คุณชายใหญ่หลาน ซือเยว่เสียมารยาทแล้ว"สาวเจ้าเร่งผยุงร่างตนขึ้นจากพื้น​มาคารวะคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลาน ถ้าไม่ติดว่าจะดูโอเวอร์​เกินเหตุ​นางคงนั่งเอาหัวโหม่งพื้นหอคัมภีร์​ไปแล้ว

     

    คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลานเพียงยกยิ้มบาง นึกเอ็นดูสตรีตรงหน้ามิน้อยก่อนกล่าวย้ำอีกครา"เจ้ากำลังสิ่งใดอยู่รึ?"

     

    "ข้ามาหาคัมภีร์​เกี่ยวกับจินตานเจ้าค่ะ คือ...ตัวข้า...ค่อนข้างเรียนรู้ได้ช้านัก จึงถูกท่านอาจารย์​หลานไล่ออกมา..."

     

    ฟ่านซือเยว่เอ่ยกระปอดกระแปด​ด้วยยังรู้สึกเก้อเขิน​จากเหตุการณ์​เมื่อสักครู่อยู่มิน้อย"ต...แต่ข้าก็เข้าใจท่านอาจารย์​หลานนะเจ้าคะ เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นผู้อื่นคงเสียเวลาเรียนหากต้องเฝ้ารอให้ท่านอาจารย์​แถลงไขของสงสัย​ของข้าทั้งหมด มัน...มันคงไม่ยุติธรรม​ต่อผู้อื่น..."

     

    ด้านชิงเหิงจวินเพียงยืนฟังแม่นางน้อยกล่าวเงียบๆ ตัวเขาจะว่าไม่เคยเหนื่อยใจต่อพฤติกรรม​ของแม่นางน้อยสกุลฟ่านเลยก็คงไม่ใช่ สตรีตรงหน้าช่างดีดกะโหลก​เกินคุณหนูจากตระกูลสูงส่งทั่วไปทว่าในความก๋ากั่น​นั้นยังรักษา​มารยาทไม่ข้ามหัวผู้ใหญ่​จนเกินงาม เขาจึงพอทำเป็นปิดตาข้างเดียวได้ต่างจากฉี่เหรินที่เคร่งเรื่องกฎตระกูลมากกว่าเขาหลายเท่า

     

    คุณชายใหญ่ยกยิ้มบางเบาเดินอาดไปอีกฝั่งของหอคัมภีร์​หยิบเอาตำราเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นก่อนส่งมาให้กับนาง

     

    "ตำราเล่ม​นี้คงช่วยคลายข้อสงสัยทั้งหมดของเจ้าได้ หมั่นขวนขวาย​ให้มาด ท่านอาจารย์​จะได้ไม่ดุด่าเจ้าอีก"

     

    "ข...ขอบคุณ​ท่าน ข้าขอขอบคุณ​ท่านจากใจ" 

     

    ฟ่านซิงยื่นมือไปรับตำราโดยมิลืมกล่าวขอบคุณ​คุณ​ชายใหญ่ตระกูล​หลานไปหลายคราด้วยความซาบซึ้ง​จากใจ

     

    "เจ้าจะนั่งศึกษา​ในหอคัมภีร์​นี้ก็ได้ข้าอนุญาติ​เจ้า ทว่าอย่าจดจ่อ​จนลืมเวลาเล่า"

     

    ว่ากล่าวจบคุณชายใหญ่จึงเดินออกไปจากหอคัมภีร์​ปล่อยให้แม่นางฟ่านได้เรียนรู้เนื้อหาภายในตำราไป

     

    หลังชิงเหิงจวินจากไปฟ่านซิงนั้นรีบเร่งเปิดตำราออกไล่อ่านตัวอักษร​จีนแถวแล้วแถวเล่า ท่าทางมุ่งทั่นกับการศึกษา​เล่าเรียนอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน

     

    "นี่ล​่​ะ!"นิ้วบางหยุดลงเมื่อพบเนื้อหาที่ตนต้องการ

     

    จุดเส้นลมปราณเป็นที่รวมของเส้นประสาทที่เปรียบเสมือนสายไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับอวัยวะภายใน เส้นลมปราณนอกจากจะเป็นแนวการเรียงตัวจุดฝังเข็มของพวกแพทย์แล้ว ยังมีลักษณะของช่องทางในการไหลเวียนลมปราณไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย​

     

    หรือจะกล่าวได้ว่าเส้นลมปราณ​นั้นแทบจะไหลเวียนอยู่ทั่วร่างของเราเลยก็ว่าได้ นอกจากจินตานที่เป็นแกนหลักแล้วผู้ฝึกตนน้อยใหญ่จำต้องหมั่นฝึกลมปราณ​ให้แข็งแรงมิงั้นวรยุทธ์​ก็คงมิสามารถพัฒนา​ได้ดังใจหวัง

     

    "อืม...จุดเส้นลมปราณ​หลัก12เส้น..."

     

    ฟ่านซิงจรดนิ้วลงข้างขมับของตน ลากผ่านลำคอเรียวก่อนค่อยๆลากผ่านเรียวแขนของตนช้าๆราวกับว่ากำลังสัมผัส​เส้นลมปราณ​ของตนอยู่

     

    "กับอีก309จุด?​ เยอะแฮะ=^=;;" 

     

    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่หมอยุคจีนโบราณ​ถึงมีฝีมือจับตัวยาก เพราะเนื้อหามันช่างเข้าใจยากเสียนี่กระไร

     

    ทว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจของฟ่านซือเยว่ นางไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษร​จดจำทุกรายละเอียด​ของตำราเล่มนี้จนเวลาล่วงเลยมาถึงยามเซิน(15.00 -​16.59 น.)​จึงค่อยวางตำราลง

     

    ยามนี้ท่านอาจารย์​คงปล่อยเหล่าศิษย์​ทั้งหลายกลับเรือนกันแล้ว หรือหากใครยังมิต้องการพักผ่อนหย่อนกายก็ยังสามารถเดินเล่นได้ตามแต่สะดวกเพียงต้องกลับเข้าเรือนตามที่กฎตระกูลตั้งไว้เช่นเคย

     

    "วันนี้อ่านเท่านี้ก่อนแล้วกัน~"ฟ่านซิงกล่าวพลางยืดแขนบิดขี้เกียจ​ตามวิสัยคงนั่งแช่อยู่กับโต๊ะหนังสือเป็นเวลานาน 

     

    ว่าไปนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วหลังจากที่นางกลับเข้าเกมมาอีกครั้ง แถมตั้งแต่เข้าเกมมาก็ยังไม่ได้ดูค่าความสามารถ​ของตัวเองเลยสักครั้ง

     

    เพราะฉะนั้นก็ขอถือโอกาสเปิดดูเลยแล้วกัน

     

    "เปิดหน้าค่าความสามารถ" 

     

    สิ้นคำกล่าวหน้าจอโฮโลแกรมสำหรับดูค่าสเตตัสของตนเองก็ปรากฏ​ขึ้นตรงหน้า ฟ่านซือเยว่ไล่มองไปที่ละแถวช้าๆ

     

    ค่าสเตตัส ฟ่านซิง

    พลังโจมตี : ✪✪ (2/10)

    ความเร็ว : ✪✪✪✪ (4/10)

    พลังชีวิต : ✪✪ (2/10)

    ป้องกัน  : ✪✪ (2/10)

    ทักษะพิเศษ​

    - ทักษะการปามีด ✪✪✪✪✪✪ (6/10)

    - พลังสเน่ห์​ ✪✪ (2/10)

    อัพเดต​ล่าสุด -​ ทักษะการสะกัดเส้นลมปราณ​✪ (1/10)


     


     

    "น้อยชะมัดเลย..."ฟ่านซิงบ่นเบาๆ อีกเรื่องของเกมนี้ที่เธอยังไม่ได้บอกก็คือการอัพค่าสเตตัสแต่ละอย่างนั้นเข้าขั้นยากบรมเลยทีเดียว นี่ขนาดนางฝึกร่างกายอย่างหนักค่าพลังโจมตียังอัพได้เพียงสองดาวเท่านั้น

     

    ส่วนพลังชีวิตนางได้มาสองดาวเพราะฟ่านซิงเลือกที่จะเป็นผู้ฝึกตนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพลังชีวิตอยู่แล้ว แน่นอนว่าค่าพลังของนางนั้นยังเป็นเพียงระดับผู้ฝึกตนขั้นเริ่มต้นเท่านั้นทั้งๆที่ฟ่านซิงอาศัยอยู่ที่อวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่มานับอาทิตย์​ได้ นี่ถ้านางเลือกเป็นแค่แม่ค้าขายผลผีผาธรรมดาค่าพลังชีวิตนางจะไม่ค้างเติ่ง​อยู่ที่1ดาวไปตลอดชีวิตเหรอ

     

    ส่วนด้านทักษะพิเศษ​นั้นนางไม่แปลกใจหากมันจะอัพค่ามาเกินครึ่ง เพราะนั่นนับเป็นความสามารถ​พิเศษ​ของฟ่านซิงที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้ามาในเกมเหมือนกับค่าความเร็วที่ได้มาจากทักษะยิมนาสติก​ของนาง

     

    พูดถึงเรื่องทักษะพิเศษ​นางคงทำเมินกับการอัพเดต​ล่าสุดของมันมิได้ การสะกัดพลังลมปราณ? นี่แค่เปิดอ่านตำราอ่ารทักษะพิเศษ​ก็เพิ่มมาให้เลยเหรอ?

     

    ทว่า...

     

    "พลังสเน่ห์​นี่คือ????"

     

    ไอ้หัวข้อนี้นี่แหละที่เตะตานางที่สุด ค่าพลังสเน่ห์​มันจะเอาไปใช้ประโยชน์​อะไรได้สักแค่ไหนกันเชียว!

     

    บ่นไปก็เท่านั้นหากถึงคราวจวนตัวจริงๆมันก็คงแสดงความสามารถออกมาเองนั่นล่ะ นางปัดหน้าจอโฮโลแกรมทิ้งทันที

     

    ครืน~

     

    ในจังหวะที่คุณหนูสกุลฟ่านจะเลื่อนบานประตูหอคัมภีร์​ออกเพื่อกลับเรือนพัก ก็มีใครบางคนชิ่งเลื่อนมันออกเสียก่อน

     

    "..."

     

    "คุณชายรองนี่เอง ข้าตกใจหมดเลย แฮะๆ" 

     

    หลานฉี่เหรินปรายตามองแม่นางฟ่านที่จู่ๆก็หัวเราะออกมาอย่างไร้เหตุผล​ ซึ่งผิดกฎตระกูลหลานอีกแล้ว 

     

    เขาฟังมาจากท่านพี่ว่าแม่นางฟ่านนั้นอาจจะยังอยู่ที่หอคัมภีร์​ศึกษาตำราเนื้อหาที่ตนไม่เข้าใจในวันนี้ มิอยากยอมรับเท่าไหร่ทว่าในใจลึกๆคุณชายรองหลานนั้นก็มีความเป็นห่วงเป็น​ใย​คุณ​หนูสกุลฟ่านอยู่ไม่น้อย

     

    ทว่าพอได้เห็นรอยยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สถานการณ์​ของแม่นางก็อดหนวดกระตุกมิได้ นางรู้ตัวบางหรือไม่ว่าทำคนอื่นเขาเดือดร้อนไปหมด หากนางโดนไล่ออกเฉยๆคงมิมีปัญหา​ทว่าหลังนางวิ่งพ้นธรณี​ประตูโถงไป ผู้อาวุโส​ก็ราวกับคนโดนวิญญาณ​ร้ายเข้าสิงการสอนในวันนี้จึงหน้าอึดอัด​กว่าทุกวันที่ผ่านมา

     

    "นี่ก็ยามเซิน(15.00น.-16.59น.)แล้ว ข้าขอตัวก่อนหนาคุณชายรอง"นางโค้งตัวหงกๆก่อนมุดตัวผ่านลำแขนที่กันทางเดินออกไป ปล่อยให้คนอายุมากกว่ามองตามหลังไป


    ยามนี้ยังพอมีเหล่าอนุชนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ไม่น้อย แม้จะมีจำกลุ่มพูดคุยกันบ้างตามประสาทว่ามิได้เสียงดังเจื้อยแจ้ว​แต่อย่างใดด้วยยังต้องรักษากฎสกุลอยู่แสดงให้เห็นว่าแม้จะมาจากต่างสกุลทว่าทุกคนก็ปฏิบัติ​ตามกฎของอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว


    "อ้าวแม่นางฟ่าน แหมๆ ช่างบังเอิญ​เสียนี่กระไร~"


     หรือนางเข้าใจผิด? ไม่ใช่ทุกคนสินะ... 


    ฟ่านซิงมองบุรุษ​เบื้องหน้าด้วยสายตาปลาตาย แน่นอนคนหน้าหนาอย่างจินกวงซ่านมีรึจะใส่ใจ คุณชายจินกระเถิบ​เข้าหาสตรีตรงหน้าแบบเนียนๆ


    "ถูกไล่ออกมาเช่นนั้นช่างน่าสงสารนัก"เจ้าตัวกล่าวพลางโบกพัดคู่ใจเบาๆ"มาให้ข้าช่วยปลอบใจเจ้าดีกว่านะ~" 


    'ครานั้นข้าน่าจะ​ทุ่มหินลงไปด้วยจริงๆสินะ...'​


    ตอนแรกนางแทบใส่เกียร์​วิ่งกลับเรือนพักหลังจินกวงซ่านเอ่ยประโยคนั้นจบ หากเจ้าตัวไม่หยิบกล่องไม้ทรงเล็กขึ้นมาเสียก่อนพอทำให้ซือเยว่สบายใจได้ว่าอีกฝ่ายคงมิได้เล่นพิเรนทร์อะไรอีก


    ฝากล่องถูกเปิดออกปรากฏ​ปิ่นปักผมลวดลายสวยงาม มีอัญมณี​สีสันสดใสประดับมากมายแถมยังมีจี้ห้อยลงมาประปราย​


    สวยนะ แต่ไม่อลังไปใส่มั้ย? 


    คงเลือกชิ้นที่ดูเด่นไว้ก่อนสินะ


    นางเคยอ่านเจอว่าบุรุษ​เจ้าชู้มักจับทางสตรีออก เป็นความสามารถที่น่ากลัวเพราะเขาจะรู้ว่าต้องทำเช่นไรให้พวกนางพอใจและเผลอไผล​ไปกับตนได้ ซึ่งจินกวงซ่านก็ทำมันได้อย่างร้ายกาจ


    ทว่าช่างน่าเสียดาย... 


    ที่ฟ่านซือเยว่มิใช่สตรีที่ชอบปักปิ่นหรือตกแต่งเครื่องประดับบนหัว ดูจากการแต่งกายของนางที่มีผ้าผูกผมเพียงเส้นเดียวก็คงเดาได้


    อีกอย่างอย่าคิดว่านางไม่รู้นัยยะแฝงของการมอบปิ่นให้กับอิสตรีนะ 


    "ขอบคุณ​คุณชายจินมากเจ้าค่ะ ทว่าคงรับมันไว้มิได้" 


    "เจ้ามิต้องเกรงใจไปหรอกแม่นางฟ่าน ข้าเต็มใจหนา~" 


    "คุณชายจิน ข้ามิได้ชมชอบหาเครื่องประดับมาประดับบนหัวข้าเท่าใดนัก ท่านเป็นคนช่างสังเกต​คงพอเดาได้  ทว่าหากท่านยังดึงดันที่จะมอบมันให้กับข้าก็คงเป็นได้เพียงเครื่องประดับของสุนัขที่สกุลข้า"ฟ่านซิงร่ายยาวเป็นหางว่าหวังว่าคุณชายขนมเข่งจะเข้าใจและล่าถอยกลับไปซะที


    ซึ่งเป็นไปตามที่คาด เขาหน้าเสียทันทีเก็บกล่องไม้นั่นเข้าแขนเสื้อโดนพลัน


    "หากมิมีสิ่งใดแล้ว ฟ่านซือเยว่ขอตัว


    นางเร่งฝีเท้าออกมาด้วยหวั่นว่าคุณชายจากหลันหลิงจะเรียกนางอีก จวบจนมาถึงนางเรือนพักที่นางเฝ้าหานัยน์ตา​สีพีชของนางพลันสังเกตแผ่นหลังของใครบางคนที่ดู้คุ้นเคยเข้า 



    "คุณชายเจียง?"นางเอ่ยเสียงเบาคราวเดียวกับที่เจ้าของนามสังเกต​เห็นนางเข้าพอดิบพอดี


    ฝ่ายเจียงเฟิงเหมียนราวกับไม่ทันตั้งตัว เจ้าตัวมีท่าทีประหม่าเล็กน้อยกล่าวเสียงติดขัด 


    "อ่า แม่นางฟ่าน พอดีวันนี้ข้าเห็นเจ้าโดนไล่ออกจากห้องโถงตั้งแต่ยามซื่อ(9.00 -​ 10.59 น.)​จนตอนนี้จะยามโหย่วแล้ว(17.00 -​ 18.59 น.)​ข้าคิดว่าเจ้าคงยังมิได้กินอะไรจึงนำหมั่นโถวมาให้เจ้า"


    กล่องไม้ยื่นมาตรงหน้าซึ่งคาดว่าด้านในคงมีหมั่นโถวอย่างที่คุณชายเจียงกล่าว


    ฟ่านซิงจ้องมันครู่หนึ่ง​ก่อนรับกล่องนั้นมาด้วยรอยยิ้มเกรงอกเกรงใจ นางติดหนี้คุณชายจากอวิ๋นเมิ่งอีกแล้ว.... 


    "ขอบคุณ​คุณ​ชายเจียงเจ้าค่ะ ฟ่านซิงจะเร่งตอบแทนท่านแน่"


    อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้คุณหนูเมืองบุปผาได้กลับเข้าเรือนไปพักผ่อนอย่างที่หวังเสียที


    วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย... 


    ได้แค่บนในใจเพราะในตอนนี้ฟ่านซือเยว่เหนื่อยเกินกว่าจะลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกา​แล้วกล่องหมั่นโถวก็วางอยู่ตนโต๊ะยังมิได้แตะแม้แต่นิด นางเหนื่อยเหลือเกิน ขอนอนตั้งแต่อาทิตย์​ยังไม่ตกดินนี่แหละ


    สตรีตัวน้อยผ่อนลมหายใจหลับตาพริ้มเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทราโดนไม่คิดจะสนใจสิ่งใดอีก รวมถึงจอโฮโลแกรมที่ขึ้นอัพเดตตรงหน้าด้วย



    อัพเดต​ล่าสุด -​ พลังเสน่ห์​ ✪✪✪ (3/10)~

     


     

     

    ​---------------------------------------

     

    #เกมที่ดีต้องอัพค่าพลังยากๆแบบนี้แหละ เอาใหหัวร้อนกันให้หมด555+


    #เห่ย ทำไมไปๆมาๆชักสงสารขนมเข่ง นี่ไรท์ใจร้ายไปบ่น​ิ!? 


    #ขอให้สนุกกับนิยาย และอย่าลืมคอมเมนท์​เป็นกำลังกันด้วยนะ~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×