ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Mo dao ​zu ​shi​ (MDZS)​ | ปรมาจารย์ลัทธิมาร]​ เซียนหญิงท่องโลก

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 วิมาน​สวรรค์​ข้างห้อง

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 65



    บทที่ 4 วิมานสวรรค์​ข้างห้อง

     

    ---------------------------------------


    'อ...อ๊า'​


    'ฮืม...'​


    'อ๊ะ! ​คุณชายจินเจ้าค่า~'​


    ฟ่านซิงค่อยๆเลื่อน​ปิดประตูโรงเตี๊ยมลงช้าๆ นัยน์ตาสีโอรส​นั้นสั่นระริก​แทบร่ำไห้ออกมาเสียตรงนั้น


    ดึกดื่นปานนี้ทำไมไม่ยอมรับยอมนอน มาทำเรื่องบัดสีอะไรก​ั​น!? 


    แล้วทำกันในห้องไม่ได้เ​หรอ!? 


    ในคือนั้นฟ่านซิงแทบไม่ได้นอน เพราะเอาแตะพลิกซ้ายพลิกขวา มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม​จนกลายเป็นก้อนกลมแล้วปิดหูทั้งสองข้างแน่น


    'ค...คุณชาย จะต่อในห้องหรือเจ้าคะ'​


    'เจ้ารังเกียจ​รึ?'​


    'ก...ก็ไตามแต่ใจคุณชายเลยเจ้าค่ะ'


    'ฮึๆ'​


    'อ๊า~'


    คราวนี้เหมือนเสียงจะใกล้กว่าเดิมเพราะทั้งสองได้ย้ายที่กลับเข้ามาในห้องพักแล้ว ฟ่านซิงยิ่งทรมาน​กว่าเก่า


    ในโรงเตี๊ยมนี้ไม่ได้มีแค่พวกเอ็งสองคนน​ะ! 


    เกรงใจ​กันบ้​า​ง!! 



    เหม่อ...


    ในตอนนี้ฟ่านซิงกำลังเหม่อมองไปที่บางสิ่งอย่างไร้จุดมุ่งหมาย ขอบตา​เธอคล้ำราวคนไม่ได้นอน ซึ่ง...ใช่ เธอไม่ได้นอนเลยจนถึงยามเหม่า(05.00 น.-06.59 น.)​ เหล่าศิษย์​กูซูซึ่งได้ค้างแรมที่โรงเตี๊ยม​ก็ต้องเดินทางกลับอวิ๋น​เซิน​ปู​้​จื้อฉู่กันแล้ว


    เมื่อร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน


    นำมาซึ่งสติพากันมลายหายไป(อีกแล้ว)​


    "ฟ่านซือเยว่...เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่?"คุณชายเจียงแห่งท่าเรือสัตบงกช​ถามไถ่​อย่างนึกเป็นห่วงเมื่อเห็นสตรีข้างกายนั้นเอาแต่นั่งเหม่อมาตั้งแต่เช้า


    "ไม่...ข้าน่ะไม่เป็นไร ไม่เป็นไร​จริงๆ..."


    ถึงจะตอบไปเช่นนั้นแต่นางก็ยังไม่เลิกเหม่อเสียทีจนเจียงเฟิงเหมียนอดห่วงกว่าเดิมมิได้


    แม่นางฟ่านเอ๋ยเวลามีให้เจ้าเหม่อลอยตั้งมากมาย ไยถึงมาเหม่อในเวลาเรียนเช่นนี้เล่า


    ฝ่ายฟ่านซิงผู้ถูกกล่าวอ้าง ในตอนนี้หัวเธอขาวโพลน ​มีแต่เหตุการณ์​ระทึก​เมื่อคืนเท่านั้นที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่จางหาย


    เธอเห็นคู่ชายหญิงประกอบร่างกัน...


    อย่างเร่าร้อนเสียด้วย...


    ถึงจะไม่ทันสังเกตุว่าชายหญิง​คู่นั้นเป็นใคร จึงได้กล้ากระทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง​กลางโรงเตี๊ยมแบบนั้นได้ แม้พื้นที่ตรงนั้นจะมีแค่เธอก็ตาม อย่างน้อยก็ควรเห็นแก่​เจ้าที่บ้างเถอะ...


    แต่ก็ถือว่าเคราะห์​ดีที่ฝ่ายนั้นก็ไม่ทันได้สังเกตุ​เห็นเธอเช่นกัน


    ต่างคนต่างไม่รู้ เจ๊า​กัน​ไป​


    เวลาล่วงเลยจนเข้ายามเซิน(15.00 น.-16.59 น.)​ฟ่านซิงปลีกตัว​ออกมานั่งพักพิง​อยู่ที่สระน้ำที่เมื่อครั้งก่อนเธอใช้เป็นสถานที่​ซ่อนตัว​


    แต่ภาพแสนติดตานั่นก็ยังไม่จางหายไปไหนจนตัวฟ่านซิงอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกับก้อนหินสักที​สองที


    หงุดหงิด!


    "เป็นเพราะไอ้​เสื้อทอง​นั่นแท้ๆที่ทำให้เราต้องมามีสภาพแ​บ​บ​น​ี​้!" 


    บ่นกับตัวเองโดยไม่ทันสังเกตุ​เลยว่ากำลังมีเงาของใครบางคน​​คืบคลานเข้ามาหาโดยที่ฟ่านซิงไม่ทันได้รู้ตัว


    "หืม...'ไอ้​เสื้อทอง'​งั้นรึ? หมายถึงใครกันหนอแม่นางฟ่าน~"


    เสียงกระซิบ​แหบพร่าดังขึ้นข้างหูจนหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยง แทบพลัดตกสระบัวอยู่ร่อมร่อ ยังดีที่ทรงตัวไว้ได้ทัน ฟ่านซิงตวัดตาจ้องเขม็ง​ไปยังบุคคลที่ลอบประชิดตัวตนเองโดยมิให้ซุ่มมิให้เสียงอย่างคาดโทษ​ 


    ในเวลานั้นราวกาลเวลาหยุดนิ่งสองสายตาสบประสาน​กันอย่างลึกซึ้ง​


    ก็บ้าแล้ว... 


    ฟ่านซิงกระพริบตา​ปริบ​ๆ จ้องมองบุรุษ​เบื้องหน้าที่โผล่มาไม่ให้ซุ่มเสียงก่อนจะได้สติ เธอถอยกรูด​ออกจากอีกฝ่ายด้วยท่าทางหวาดผวา​


    ฝ่ายผู้ถูกกระทำกิริยา​เช่นนั้นใส่ได้แต่จุ๊ปากส่ายศีรษะ​ไปมาด้วยความเอ็นดูสตรีเบื้องหน้า เขาแค่ออกมาสูดอากาศ​ข้างนอกให้ผ่อนคลาย​จากการเรียนที่แสนจะหน้าเบื่อเพียงเท่านั้น มิฝันว่าจะมาได้ยินสตรีงามเอ่ยวาจาถึงตนเข้า


    "อ คุณชายจิน?" 


    ฟ่านซิงเอ่ยเสียงสั่นเครือ​ สายตาจดจ้องบุรุษ​เบื้องหน้า เส้นผมมัดรวบสีเปลือกไม้กับอาภรณ์​สีเหลืองทองอร่ามลวดลายดอกโบตั๋น​ หน้าผากของอีกฝ่ายแต้มชาดแสดงถึงสัญลักษณ์​ตระกูล


    พบตัวผู้ร้ายแล้ว... 


    'จินกวงซ่าน'คุณชายจินแห่งหลันหลิง บุรุษเจ้าสำราญที่สตรีใดได้ประสบ​พบเจอเป็นต้องใจสั่นสะท้าน​


    "ใช่แล้วแม่นางฟ่าน ข้าเอง แล้วถ้าไม่เป็นการรบกวน แม่นางพอจะแถลงให้ข้าได้เข้าใจได้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าถึงไปเป็​นต้นเหตุที่ทำให้แม่นางทุกข์ใจ​ได้" 


    จินกวงซ่านถามพลางยักคิ้วหลิ่วตาส่งยิ้มพราวเสน่ห์​มาให้อย่างจงใจ 


    ชื่อเสียงเรียงนาม​ของแม่นางฟ่านซือเยว่หรือฟ่านซิงนั้นเขาพอได้ยินผ่านหูมาบ้างจะเห็นผ่านตาก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาได้มามองนางในระยะประชิดขนาดนี้มาก่อน ทำให้จินกวงซ่านได้ยลโฉมของบุตรี​สกุลฟ่านได้อย่างชัดเจน


    ผิวพรรณ​ผ่องสมบูรณ์และทรวดทรงองค์เอวคอดงดงาม ​เส้นเกศาสีดำสลวยปล่อยยาวสยายไปตามลม หน้าตาอ่อนช้อยงดงาม ริมฝีปากบางสวยเรียวเล็กอวบอิ่ม​ นัยตาสีโอรสสดใสดุจมณีเม็ดงาม เรียกได้ว่าเป็นสตรีที่มีคุณสมบัติครบ ตรงสเปค​จินกวงซ่านเป็นที่สุด


    ฟ่านซิงที่ถูกจ้องมองอย่างเปิดเผย​ ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เธอไม่ชอบให้ใครมาจ้องแบบนี้


    โดยเฉพาะ​อย่างยิ่งการจ้องราวกับจะกลืนกินของอีกฝ่าย เธอยิ่งไม่ชอบ


    "เกรงว่าคุณชายจินจะเข้าใจผิดไป สิ่งที่ข้ากล่าวไปก่อนหน้า มิได้มีการพาดพิงถึงตัวคุณชายจินแต่อย่างใด" 


    กล่าวโกหกไปคำโต พลางถดถอยตัวออกห่างจากอีกฝ่าย


    แต่เหมือนว่าฝ่ายคุณชายสกุลจินจะไม่ต้องการเช่นนั้น เมื่อเขาได้เขยิบ​ตามมาประชิดตัว


    มิวายส่งมือมาเกี่ยวเอวเธอให้เข้าไปแนบชิดจนเกินปกติที่บุรุษ​จะกระทำต่อสตรีที่เจอกันครั้งแรก​


    คุณชายรองหลาน ขอโทษที่เคยกล่าวว่าร้ายท่านไปนะเจ้าค​ะ!!! 


    ฟ่านซิงหลับตาปี๋ ผลักอีกฝ่ายให้ห่างจากตัวแต่ก็ลืมไปว่าจุดที่พวกตนกำลังยืนอยู่นั้นคดเคี้ยว​เกินกว่าที่เธอจะทรงตัว​ได้หากเกิดแรงพลักดันหรือสั่นสะเทือน​


    "อ​๊​ะ!"


    "โอ๊ะ!?" 


    ด้วยสัญชาตญาณ​ของมนุษย​์ ฟ่านซิงรีบคว้าคอเสื้อของคุณชายจินมาด้วยอย่างลืมตัว ทำให้ทั้งเธอและเขาล้มตึงลงไปกองกับพื้นหญ้าอย่างหลีกเลี่ยงมิได้


    สภาพในตอนนี้ของทั้งสอง ช่างล่อแหลม​เกินจะเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปได้ ใครมาเห็นก็คงบอกพร้อมต้องกันว่าจินกวงซ่านคุณชายจากตระกูล​จินกำลังทำมิดีมิร้ายคุณหนูตระกูล​ฟ่านอยู่แน่ๆ


    เธอทำอะไร​ลงไป... 


    ท่าแบบนี้มันชวนเข้าใจผิดเกินไปแล้ว! 


    ร่างของหญิงสาว​ที่ถูกคร่อมโดยคุณชายจินกวงซ่าน ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกไปจากตัวเธอเลยแม้แต่นิด


    กลับกัน​จินกวงซ่านยังพยายามทิ้งตัวลงมาแนบชิดมากกว่าเดิมเสียนี่


    ถ้าหากหญิงสาวไม่ยกมือดันแผงอกของคุณชายจินไว้ ทั้งเธอและเขาคงแนบชิดกันไปมากกว่านี้เป็นแน่


    ซึ่งตัวฟ่านซิงเองก็ไม่ต้องการ​ให้เป็นเช่นนั้น


    "คุณชาย...ทำเช่นนี้รู้ใช้มั้ยว่าถ้าข้านำไปบอกใคร ชื่อเสียงของตระกูลจินคงไม่เหลือ"เธอเอ่ยเสียงลอดไรฟัน


    "เจ้ากล้าขนาดนั้นเชียวหรือแม่นางฟ่าน"เจ้าตัวเอียงคอถาม ทำเล่นหูเล่นตา เห็นแล้วยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจ


    "ข้ากล้ากว่าที่ท่านคิด"ตวัดตาสบกับอีกฝ่ายที่ดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ​อะไรเลย กลับกันยังดูสนุกสนานอีกต่างหาก


    แต่ในขนาดนั้นจินกวงซ่านขบคิดบางอย่างได้ ประจวบเหมาะกับเสียงฝีเท้าที่เคลื่อนตัวใกล้เข้ามาราวกับโชคชะตาเข้าข้างเขา


    คุณชายผู้สูงศักดิ์​ยิ้มเจ้าเล่ห์​


    "เห...งั้นถ้าหากเป็น'เจ้า'ที่ทำล่ะ?"


    ฟรึบ! 


    ร่างของฟ่านซิงถูกจับพลิกกายภายในเสี้ยววิ ในตอนนี้เป็นเธอเองที่กำลังคร่อมร่างของคุณชายสกุลจินอยู่


    เอ๊ะ? 


    "พวกเจ้าทำอันใดกันห๊ะ!!" 


    ฟ่านซิงเบิกตากว้าง เมื่อจู่ๆมีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลัง หันไปมองก็พบว่าเป็นศิษย์​สกุลหลานที่อาจมาเดินตรวจความเรียบร้อย และก็ได้มาเจอเหตุการณ์​น่าไม่อายเช่นนี้เข้าอย่างพอดิบพอดี


    เหล่มองร่างข้างใต้ อีกฝ่ายทำเพียงนอนเท้าแขนกับพื้นมองมาที่เธออย่างสนุกสนาน ไม่มีท่าทีวิตกแม้แต่นิดเดียว​


    คุณชายตรงหน้าเธอนั้น... 


    ร้ายกาจ... 


    ในวันถัดมา ทั้งเธอและคุณชายจินกวงซ่านถูกเรียกตัวมาที่หอบรรพชน​ เบื้องหน้าคือร่างของท่านอาจารย์​หลานยืนหน้าขรึม​อยู่


    บ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายได้ดี


    ส่วนรอบกายนั้นเต็มไปด้วยบุรุษในอาภรณ์​ขาวยืนล้อมรอบอยู่จำนวนหนึ่งแม้แต่หลานฉี่เหรินและชิงเหิงจวิน


    ร่วมไปถึงเจียงเฟิงเหมียนและเว่ยฉางเจ๋อด้วย


    "พวกเจ้าทั้งสอง ทำการอนาจาร​ที่เขากูซูอย่างมิอายฟ้าดินกฏนับพันข้อที่สลักอยู่บนภูผาเจ้าคิดจะใส่ใจหรือไม่ โบยห้าสิบไม้ ทั้งสองคน" 


    คำตัดสินจบลงอย่างรวดเร็ว​ แม้จะถูกลงโทษทั้งคู่แต่ถ่อยคำดุด่าทั้งหมดก็ตกมาอยู่ที่นางเพียงผู้เดียว


    เธอถูกล็อค​ตัวโดยบุรุษ​อาภรณ์​ขาวแม้จะพยายามขัดขืน​เพื่ออธิบาย​ก็หาได้มีใครรับฟัง  ทำไมพวกเขาไม่คิดที่จะรับฟังเธอบ้าง หรือเป็นเพราะตระกูล​ของเธอไม่ได้มีชื่อเสียง​พอให้ใส่ใจอย่างนั้นรึ? 


    "ประเดี๋ยว​ก่อนผู้อาวุโส​หลาน เหตุการณ์​ในครั้งนี้อาจเป็นการเข้าใจผิดกัน"


    จู่ๆจินกวงซ่านก็เอ่ยขัดขึ้นมาอย่างไร้มารยาท​ แม้จะไม่พอใจแต่อาจารย์​หลานก็ยอมใจเย็นลงรับฟังคุณชายจากหลันหลิง


    "เหตุการณ์​ในครั้งนี้เกรงว่าจะเป็นการเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ข้าและอาซิงเพียงหยอกเย้า​เล่นกันตามประสาคนรู้จัก ทว่าอาซิงกับซุกซนสะดุดหินเข้า ตัวข้าเพียงช่วยรับร่างของนางไว้เท่านั้นเอง ประจวบเหมาะ​กับที่ศิษย์​คนนั้นมาพบเข้าพอดี" 


    อีกฝ่ายพูดยาวเหยียดอย่างลื่นไหล ไม่มีคำสะดุดแม้แต่นิด 


    การกระทำมิได้เข้ากับก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่น้อย เขาจงใจทำแบบนั้นเพื่อให้เธอถูกเข้าใจผิดแท้ๆแล้วตอนนี้คิดจะทำอะไรอีกกันแน่?! 


    ซึ่งไม่ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร ฟ่านซิงจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด


    "ขอขมาท่านอาจารย์​ ข้าฟ่านซิงสำนึกผิดแล้ว..."เธอคุกเข่าลงพื้น ก้มหน้าแนบชิดอก ได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะ​อย่างไม่สบอารมณ์​จากร่างข้างกาย


    "แม่นางฟ่านเป็นจริงอย่างที่คุณชายจินว่ามาหรือไม่" 


    "ข้ามิมีสิ่งใดจะแก้ตัว ฟ่านซิงสำนึกผิดแล้วกรุณาลงโทษตามความเหมาะสม"ฟ่านซิงแนบหัวลงมาก


    "อาซิง...เจ้าอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย เพียงยอมรับ-" 


    "โปรดท่านอาจารย์​หลานเมตตา และอีกอย่าง...​"คุณชายจินที่กำลังแสร้งเป็นเกลี้ยกล่อม ถูกนางเอ่ยขัดอย่างไม่คิดจะใส่ใจทว่าดวงตากับตวัดมองร่างข้างๆอย่างเย็นชา"คุณชายจินโปรดอย่าเอ่ยเรียกข้าว่าอาซิงอีก เราสองคนมิได้สนิท​กัน" 


    ฝ่ายจินกวงซ่านยิ่งไม่สบอารมณ์​ สตรีนางนี้ช่างยึดมั่นในศักดิ์ศรี ยึดมั่นจนหน้าขันออกมา แต่ก็ขันมิออก


    อาจารย์​หลานถอนหายใจ ​สั่งเสียงลอดไรฟัน


    "โบยนาง..." 


    หลังจากนั้นสิ่งที่ได้ยินก็ไม่มีอย่างอื่นนอกเสียจากเสียงไม้พายที่กระทบลงกับเนื้อมนุษย์


    ผู้คนรอบข้างพากันหันหน้าหนี รู้สึกหน่วงที่ใจยามเห็นสตรีงามถูกไม้โบยจนร่างโยกเยก​ไปตามแรงหวด นึกแปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีเสียงกรีดร้องห่มร้องไห้อย่างเจ็บปวดออกมาจากสตรีตรงหน้าเลย?

     

    คิดอย่างนั้นโดยไม่รู้เลยว่าฟ่านซิงพยายามกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซึมเพื่อไม่ให้เผยเสียงร้องออกมา


    ในตอนนี้หัวเธอขาวโพลนไปหมด เจ็บแทบจะขาดใจแต่ก็มิอาจหมดสติลงได้ เพราะแรงของไม้นั้นจะปลุกหญิงสาวขึ้นมาทุกๆครั้งที่เธอกำลังจะหมดสติไป


    จนในที่สุดการโบยห้าสิบไม้ก็จบลง ร่างของฟ่านซิงร่วงลงสู่พื้นหอบรรพชน จน​เกรงว่าหากหัวกระแทกลงกับพื้น นางคงได้แผลเพิ่มมาอีกเป็นแน่


    ฟึบ... 


    ร่างของฟ่านซิงร่วงลงสู่อ้อมแขนของคุณชายเจียงแห่งอวิ๋น​เมิ่ง ร่างสูงค่อยๆประคอง​นางขึ้นบนหลังโดยมีเว่ยฉางเจ๋อช่วยอีกแรง ก่อนจะพากันเดินออกไปจากบริเวณ​หอบรรพชนแห่งนี้... 


    จินกวงซ่านเลิกคิ้วสูงขนาดถูกประคอง​โดยเด็กรับใช้สกุลจินนายหนึ่ง สายตาเรียวคมไม่ละไปจากคู่ชายหญิงที่ฝ่ายชายแบกฝ่ายหญิงขึ้นหลังเดินออกไปอย่างทะนุถนอม


    ก่อนที่เขาจะเผยยิ้มออกมา


    แต่เป็นรอยยิ้มที่เด็กรับใช้ข้างกายนั้นเห็นแล้วไม่รู้สึกดีเอาซะเลย





    ---------------------------------------


    #ตากุ้งยิงถลนไปถึงคิ้วแล้วมั้งฟ่านซิงเอ้ยยยย มีอย่างที่ไหนมาโซเดมาคอมกันหน้าห้องแบบเน้คุณชายจิน!? 

    เห็นแบบนี้ฟ่านซิงก็มีศักดิ์ศรี​ที่สูงลิ่ว​เหมือนกันนะ จะใช้อำนาจข่มแม่นางคนนี้อาจจะยากหน่อย


    #อยากลงมีมให้คุณชายจินมากว่า...หล่อนมีพิรุจ​อีกแล้วนะ=^=++


    #อย่าลืมเม้น​ส่งกำลังกันด้วยน่า~จุ๊บๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×