ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Mo dao ​zu ​shi​ (MDZS)​ | ปรมาจารย์ลัทธิมาร]​ เซียนหญิงท่องโลก

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 ออกเที่ยวตำบลไฉ่อี

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 65



    บทที่ 3 ออกเที่ยวตำบลไฉ่อี

     

    ---------------------------------------


     

    ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์​ ฟ่านซิงแทบจะคลานออกมาจากเรือน ด้วยความที่เธอต้องนั่งสัปหงก​คัดกฎสกุลจนดึกดื่น​ จะได้นอนจริงๆก็ปาเข้ายามโฉ่ว(01.00 น.-02.59 น.)​แล้ว หลับฝันหวานได้ไม่นานยามเหม่าก็มาเยือนอย่างรวดเร็ว​ราวกับเกลียด​กัน

     

    ร่างกายต้องการพักผ่อน... 

     

    ในวันนี้ฟ่านซิงถูกแยกตัวจากศิษย์​คนอื่นๆ เพื่อคัดกฎสกุลให้เสร็จโดยมีศิษย์​สกุลหลานยืนเฝ้าอยู่หน้าหอตำราถึงสองคน

     

    "เห็นว่าพรุ่งนี้เหล่าคุณชายจะลงไปที่เมืองไฉ่อีเพื่อตรวจตรา​ความเรียบร้อยหนิ" 

     

    "เป็นไปตามที่เจ้าว่า ข้าได้ยินมาว่ามีภูติผีอาละวาดจนชาวบ้านแถบนั้นอยู่กันมิได้" 

     

    "แต่ได้คุณชายลงไปปราบก็คงไม่ต้องห่วงอันใดแล้วล่ะ" 

     

    "นั่นสิ" 

     

    ฟ่านซิงหูผึ่ง ​คลานตัวไปแนบชิดติดประตูเรือนลอบฟังคำสนทนาของศิษย์​ทั้งสองอย่างออกรสออกชาติ

     

    ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์​เต็มๆ นอกจากนั่งเรียนและคัดกฎสกุล ฟ่านซิงก็แทบไม่ได้ไปที่ไหนอีกเลย จะเสียงดังก็มิได้ แค่เดินเร็วเข้าหน่อยก็ถูกมองเขม่นแล้ว

     

    นี่นับเป็นโอกาสดีที่เธอจะได้ออกไปนอกเขตพื้นที่​เขาเร้นเมฆา แล้วปล่อยทั้งกายใจให้สุดเหวี่ยง​หลังจากที่ไม่ได้กระทำการมานาน

     

    ฟ่านซิงทำการย่องเบา​ปีนหนีออกนอกเรือนไป หัวละทิ้งทุกสิ่งไม่กลัวเกรง​ต่อบทลงโทษที่จะตามมาทีหลัง ในตอนนี้เธอต้องตามหาหลานฉี่เหริน! 

     

    เดินเลาะจนมาถึงหน้าหอตำรา ฟ่านซิงเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจ 

     

    ซึ่งเป็นตามที่หวัง

     

    ร่างของบุรุษ​อาภรณ์​ขาวกำลังอ่านตำราด้วยความตั้งใจ กิริยาดูสงบเสงี่ยม​ตามแบบฉบับคนตระกูลหลาน แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อหางตาไปสะดุดเข้ากับอีกร่างซึ่งนั่งอ่านตำราแบบเดียวกับคุณชายรองสกุลหลาน

     

    'ชิงเหิงจวิน'

     

    คุณชายใหญ่แห่งแดนเร้นเมฆา ออร่ารอบกายเขานั้นต่างจากหลานฉี่เหรินอย่างสิ้นเชิง​ ทั้งรอยยิ้มที่ถูกประดับไว้ที่มุมปากเล็กน้อยอยู่ตลอด และบรรยากาศ​รอบตัวที่ชวนให้ผ่อนคลาย​

     

    "เอ่อ...คารวะคุณชายใหญ่หลาน"

     

    "ไม่ต้องเป็นพิธีมากก็ได้แม่นางฟ่าน" อีกฝ่ายเอ่ยยิ้มๆพร้อมยกมือรับการทักทาย

     

    ฟ่านซิงยิ้มเกร็งๆก่อนหันไปทางบุคคลที่เธอตามหาไปซะทั่ว ก่อนคลานไปนั่งข้างๆและต้องกระเถิบ​ออกมาในเวลาไม่นานเมื่อถูกสายตาคมตวัดมองคาดโทษ

     

    ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กลับคนเครงกฎระเบียบ

     

    ห้ามเข้าใกล้มากไปสินะ... 

     

    เมื่อถดถอยจนอยู่ในระยะที่น่าพอใจ​ ฟ่านซิงรีบเอ่ยเข้าประเด็น​ที่ปรารถนาไว้ทันที

     

    "นี่ๆคุณชายรองหลาน ข้าได้ยินมาว่าท่านจะลงไปที่ตำบลไฉ่อีงั้นรึ?" 

     

    "เป็นไปตามที่เจ้าว่า" 

     

    "ข้าขอไปด้วยสิ!" 

     

    "ไม่"

     

    ตอบเร็วราวกับไม่ได้ผ่านสมอง คนได้รับคำตอบถึงกับขมวดคิ้ว​ ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่ยอมแพ้

     

    "ทำไมเล่า ถึงข้าจะเป็นสตรีแต่ก็ไม่ได้อ่อนแอจนเป็นภาระพวกท่านหรอกนะ"

     

    ส่วนหนึ่งเธอมั่นใจว่าที่ถูกปฏิเสธ​เพราะการที่เธอเป็นสตรีที่ดูอ้อนแอ้นในสายตาเหล่าบุรุษ​ ซึ่งอาจกลายเป็นภาระให้กับกลุ่มได้

     

    แต่เธอค่อนข้าง​มั่นใจในพลังปราณ​ของเธอที่ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าบุรุษ​คนใด

     

    หลานฉี่เหรินลอบถอนหายใจ พอเดาความคิดของสตรีตรงหน้าได้ เขาย่อมเคยได้ยินข่าวลือของแม่นางฟ่านผู้เป็นสตรีที่มีวรยุทธ​เก่งกาจไม่แพ้บุรุษ​คนใดในยุทธภพ 

     

    นัยน์ตา​สีอ่อนปรายมองเธอราวกับมองเด็กเล็กจอมเอาแต่ใจ

     

    "กฎสกุล​คัดเสร็จ​แล้วรึ" 

     

    ประโยคนั้นทำเอาสตรีสกุลฟ่านชะงักกึก สบตากับผู้กล่าวชั่วครู่ก่อนนัยน์ตา​สีโอรสจะค่อยๆเบนไปด้านข้างแทน

     

    "เดี๋ยวข้ากลับมาคัดทีหลั-" 

     

    "อย่าผัดวันประกันพรุ่ง" 

     

    "โถ่ คุณชายรอง~"โอดครวญ​เสียงกระเส่า พยายามส่งสายตาเว้าวอน​ไปให้กับอีกฝ่าย แต่ก็ถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี

     

    "คัดไม่เสร็จก็อย่าได้หวัง" 

     

    กล่าวจบก็ก้มอ่านตำราที่อ่านค้างไว้อีกครั้ง โดยไม่เงยหน้า​ขึ้นมาสนใจเธออีก

     

    ฟ่านซิงมองคนจิตใจอำมหิตตรงหน้า อยากจะกระชากตำราในมืออีกฝ่าย​มาแล้วเอ่ยต่อรอง​จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา​

     

    แต่ก็เกรงใจคุณชายใหญ่ที่กำลังจ้องมองมาทางนี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

     

    "ข้าอนุญาต​ให้เจ้าออกไปได้"ชิงเหิงจวินกล่าวทำลายความเงียบ หลานฉี่เหรินวางตำราลงมองผู้เป็นพี่ด้วยความไม่เข้าใจ

     

    "ซยงจ่าง..." 

     

    "นางอุดอู้​อยู่แค่ในกูซูมาเป็นอาทิตย์​ ไม่ได้ออกไปไหน ย่อมอยากออกไปเที่ยวเล่นตามประสา​ เจ้าอย่าได้ขุ่นเคือง​ไปเลย"อธิบายให้ผู้เป็นน้องฟังด้วยโทนเสียงนุ่ม


     

    ​​​​ฟ่านซิงตาเป็นประกายก้มขอบคุณ​คุณชายใหญ่สกุลหลานด้วยความซาบซึ้ง​ใจอย่างถึงที่สุด ก่อนจะขอตัวออกไปจากหอตำรา
     

     

    เมื่อไร้ซึ่งร่างสตรีงาม พี่น้องสกุลหลานกลับมาก้มหน้าจดจ่อ​กับตำราเรียนอีกคราแต่ทว่าก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อได้ยิ้นเสียงร้องหวานดังเข้ามาในโสตประสาท​

     

    "ยะฮู้วววววววว"

     

    ด้วยโทนเสียงที่ดูชัดเจน พอเดาได้ว่าเจ้าของเสียงร้องนั้นเป็นของผู้ใด หลานฉี่เหรินขมวดคิ้ว​เมื่อสตรีสกุล​ฟ่านทำผิดกฎ​ตระกูลอย่างเห็นได้ชัดแถมยังกล้าทำผิดในระยะที่มีศิษย์​เอกอย่างพวกเขาอยู่ด้วย

     

    ถ้าไม่ใช้เพราะชิงเหิงจวินผู้เป็นพี่ช่วยเกลี้ยกล่อมไว้ หลังกลับจากตำบลไฉ่อีฟ่านซิงคงได้คัดกฎสกุลหลานเพิ่มอีกเป็นสายธารแน่

     

    เมื่อมีแรงจูงใจ ก็ราวกับมีพลังเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ในวันนั้นฟ่านซิงสามารถคัดกฎสกุลได้อีกหนึ่งจบภายในวันเดีย​ว

     

    จวบจนเวลาที่คุณหนู​ฟ่านเฝ้ารอคอยก็มาถึง... 

     

    สายน้ำใสไม่ต่างจากยามที่มาครั้งแรก ฟ่านซิงที่นั่งอยู่บนเรือหันซ้ายขวาอย่างตื้นตัน​ใจ 

     

    ตำบลไฉ่อีงดงามอย่างที่เคยได้ยินคำเล่าลือมา มิเสียเปล่าที่ได้มาชมเลยแม้แต่น้อย

     

    "ท่านลุง จอดเทียบท่าตรงนี้เลยเจ้าค่ะ"เธอเอ่ยบอกคุณ​ลุงผู้ทำหน้าที่พายเรือให้แก่เธอ ในตอนแรกเธอจะพายด้วยตนเองแต่ก็ถูกปฏิเสธ​

     

    'เคยมาครั้งแรกอย่างน้อยควรมีคนนำทาง มิควรเดินเหินมั่วซั่ว'

     

    ไม่ต้องบอกหรอกเนอะว่าใครเป็นคนกล่าว


     

    เมื่อเรือเกือบเทียบท่า ฟ่านซิงไม่รีรอกระโดดขึ้นฝั่งไปด้วยความรวดเร็วจนท่านลุงสะดุ้ง​แอบหวาดเสียวแทนมิได้

     

    "คุณ​หนู ระวังด้วย" 

     

    "ขอบพระคุณ​ท่านลุงมาก แต่ข้ามิเป็นไรเจ้าค่ะ"ไม่ว่าเปล่ายังหมุนตัว360องศาให้ดูรอบหนึ่ง ฝ่ายชายชราได้แต่ยิ้มในความก๋ากั่น​แสนซนของคุณหนูนางนี้

     

    ฟ่านซิงกระโดดดึ๋งดั๋งไปตามเส้นทางทอดยาว​ มีร้านค้าหลากหลายล้วนแปลกตาฟ่านซิงไปเสียหมด 

     

    ไม่ว่าจะร้านเครื่องเขียนหรือร้านเครื่องประทิน​โฉม ดูแตกต่างจากสมัยปัจจุบัน​ที่เธออาศัย​อยู่​โดยสิ้นเชิง

     

    หญิงสาวเดินเข้าร้านเครื่องเขียนโบราณ​ด้วยความสนองสนใจ เม็ดมณีงามจดจ้องไปยังแผ่นกระดาษ​สีบนชั้น มือหมายหยิบมาแล้วนำไปจ่ายแต่ก็ต้องหยุดชะงักไป

     

    สวรรค์​เถอะ... 

     

    จะออกมาเที่ยวแต่ดันลืมหยิบถุงเงินมาเนี่ยนะ? 

     

    อยากจะตบมือให้กับความขี้ลืมของตนเองสักหนึ่งชุด ฟ่านซิงมองกระดาษเหล่านั้นตาละห้อย​ก่อนจะถอยหลังออกมาจากร้าน

     

    "ท่านพ่อค้า ข้าขอซื้อกระดาษพวกนี้" 

     

    "ทั้งหมด450อีแปะขอรับ คุณชาย" 

     

    เจียงเฟิงเหมียนยื่นกล่องใส่กระดาษมาให้กับเธอ ร่างของเธอยืนมองวัตถุ​ชิ้นนั้นอยู่สักพักก็ถูกคุณชายแห่งอวิ๋นเมิ่งยัดเยียด​ของชิ้นนั้นเขามาในมือ

     

    ฟ่านซิงยิ้มอ่อนด้วยความเกรงใจอยู่ลึกๆ

     

    "เอ่อ...ขอบคุณ​คุณชายเจียง ไว้ข้าจะคืนเงินให้หลังกลับอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่"

     

    ฝ่ายนั้นทำเพียงยิ้มก่อนพยักหน้าหงึกๆ

     

    ทั้งสองร่างพากันเดินไปตามทาง และยังคงรักษาระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด

     

    "อาเหนียงข้าอยากได้กระบี่เล่มนั้น!!" 

     

    "ไม่ได้นะจางหย่ง เจ้าอย่างอแงสิ"

     

    "อาเหนียงอ่าาา"

     

    เบื้องหน้าของพวกเธอคือ ร่างของแม่ลูกที่กำลังยื้อหยุดฉุดกระชาก​อยู่หน้าร้านขายอาวุธ โดยบุตรชายของแม่นางผู้นั้นเอาแต่ร้องโวยวายอยากได้กระบี่มาครอบครอง แต่แน่ล่ะ ยังเยาว์​วัย​นักปล่อยให้ถืออาวุธ​ไปมาคงเป็นอันตราย

     

    ฟ่านซิงเห็นแล้วเผลอยกยิ้มเอ็นดู

     

    สมัยนี้ก็มีเด็กเล็กงอแง​จะเอาของเล่นแล้วสินะ

     

    เจียงเฟิงเหมียนเห็นฟ่านซิงหันหลังไปทำบางอย่างยุกยิก​อยู่ครู่หนึ่ง​ ก่อนคุณหนูตระกูล​ฟ่านเดินเข้าไปหาเด็กชายคนนั้น 

     

    "รับไปสิ ข้าให้" 

     

    กระบี่เล่มงามขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นจากกระดาษสามารถชักออกจากฝักได้เหมือนจริงแถมยังมีพู่สีสดติดไว้ที่ปลายดาบเป็นของประดับให้อีกด้วย

     

    เด็กน้อยจ้องตาใสก่อนจะฉีกยิ้มจนแก้มปริ รับกระดาษ​พับนั้นมาถือไว้

     

    "ขอบคุณขอร​ั​บ!"

     

    เหมือนการพับกระดาษ​ของเธอจะเป็นที่ตื่นตา​ตื่นใจสำหรับเด็กๆมาก มีเด็กมากหน้าหลายตาเข้ามามุงเธอเพื่อขอให้เธอพับกระดาษ​แบบต่างๆให้

     

    "เจี่ยเจียข้าอยากได้แบบเจ้านั่น" 

     

    "คุไนสินะ อืมๆ" 

     

    "เจี่ยเจียเจ้าคะ ข้าอยากได้รูปดอกไม้บ้าง" 

     

    "จ้า"

     

    ผลสุดท้ายคือฟ่านซิงต้องนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงนั้นนานถึง1ชั่วยาม เพราะเด็กที่ได้รับกระดาษ​พับไปก็นำไปเล่าให้แก่สหายตนฟังแล้วพากันกรูเข้ามาจนแทบจะปิดทางเดินจนมิด

     

    เมื่อหลุดออกจากกองกำลังเด็กน้อยได้ ฟ่านซิงก็พบเข้ากับเจียงเฟิงเหมียนที่นั่งเท้าคาง​รอเธออยู่ด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม​

     

    "คุณชายเจียงไม่จำเป็นต้องรอข้าก็ได้เจ้าค่ะ" 

     

    "ข้ารอได้" 

     

    ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า

     

    แต่การได้อยู่กับเจียงเฟิงเหมียนแบบนี้แล้วทำให้เธอรู้สึกเกรงใจจนทำตัวไม่ถูก

     

    "เจ้าดูรักเด็กนะ"

     

    "สมัยข้ายังเยาว์​วัย​ ไม่มีโอกาส​ได้ออดอ้อน​ป๊-...อาเตี่ยกับอาเหนียงแบบนั้นหรอกเจ้าค่ะ" ​

     

    เพราะป๊าม๊าของเธอเสียไปตั้งแต่ฟ่านซิงอายุได้เพียง5ขวบเท่านั้น ชีวิตที่ผ่านมาจึงเป็นเหล่าญาติๆที่คอยดูแลเธอ

     

    เก็บเกี่ยว​เอาผลประโยชน์​ของเธอไปสนองความต้องการ​ของตนเอง

     

    จนถึงคราวเธอหมดประโยชน์​ก็เขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี… 

     

    หึ แต่ก็ถือว่าขูดรีดขูดเนื้อเธอไปได้แบบน่าเจ็บแสบเลยล่ะ 


    เจียงเฟิงเหมียนสัมผัสถึงแรงอารมณ์​ของสตรีข้างกายได้ว่ามันกำลังคุกรุ่น​ เขาจึงเงียบปากไม่คิดจะซักไซ้อะไร​นางอีก

     

    บทสนทนาเกิดขึ้นและจบลงในเวลาไม่นาน ขณะที่พวกเรากำลังเดินเข้าโรงเตี๊ยมที่ถูกจองไว้เรียบร้อยแล้ว

     

    เพราะกลุ่มของคุณชายรองหลานฉี่เหรินยังไม่กลับมา ชิงเหิงจวินจึงตัดสินใจพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในตำบลไฉ่อีสักคืน วันรุ่งขึ้นถ้าคุณชายรองกลับมาค่อยเดินทางกลับอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่

     

    โดยใครจะได้นอนคู่ใครนั้นแล้วแต่ความเหมาะสม ส่วนเธอที่เป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียว​ในกลุ่มจึงได้สิทธิ​พิเศษ​ให้นอนเพียงคนเดียวได้

     

    ศิษย์​ทั้งหลายร่วมโต๊ะกินอาหารกันชั่วครู่​ก่อนจะพากันแยกย้าย​เข้าห้องพักของตนเองซึ่งรวมถึงฟ่านซิงด้วยเช่นกัน​

     

    เข้ายามโฉ่ว(01.00 น.-02.59 น.)​ฟ่านซิงรู้สึกอึดอัดกายขึ้นมา คงเพราะต่างที่เลยนอนไม่หลับหวังออกไปข้างนอกสูดอากาศ​เสียหน่อย

     

    ไม่นึกว่าจะมาเจอเรื่องงามหน้าเข้าเต็มๆในกลางดึกแบบนี้

     

    "อ๊า~แรงอีกเจ้าค่ะ"

     

    "เยี่ยมยอดเหลือเกิน~" 

     

    ในตอนนั้นเอง ฟ่านซิงรู้สึกอยากจะหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด... 





    ---------------------------------------

     

    #แหม่ ได้เที่ยวทีพลังอัพขึ้นเป็นเท่าตัวเลยนะแม่นางฟ่าน

     

    #อะไรล่ะนั่น คงไม่ใช่มานวดแผนโบราณ​กันตอนนี้ใช้มั้ย มุขนี้ไม่น่าฟังขึ้นนะ//เลิ่กลั่ก

     

    #อย่าลืมคอมเม้น​เป็นกำลังใจกันด้วยน่า~

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×