ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Mo dao ​zu ​shi​ (MDZS)​ | ปรมาจารย์ลัทธิมาร]​ เซียนหญิงท่องโลก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ โลกใบใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 65


     

    บทนำ โลกใบใหม่


    ---------------------------------------

     

    โลกพัฒนา​ก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด ของใช้เริ่มมีความทันล้ำสมัยมากขึ้น ซึ่งแม้แต่เกมออนไลน์​ก็ดูล้ำหน้าจนต้องอุทานว้าวกันไปตามๆกัน

     

    เกมออนไลน์​ปรมาจารย์​ลัทธิมาร​ที่จะพาพวกคุณเข้าไปในโลกเสมือนจริง คุณจะสามารถ​ใช้ชีวิตได้แต่ใจต้องการไปพร้อมกับตัวละครที่พวกคุณชื่นชอบ​

     

    'ฟ่านซิง'​หรือ'ฟ่านซือเยว่'​อ่านคำโปรยข้างกล่องใบใหญ่ ก่อนทำการแกะมันออกมาพินิจชัดๆ

     

    หมวกเชื่อม1ใบที่รูปทรงครับคล้ายครับคราเหมือนกับหมวดกันน็อค​ยังไงหยั่ง​งั้น

     

    กับเครื่องส่งสัญญาณ​ขนาดพกพา​ที่ต้องใช้คู่กับหมวกเชื่อมเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปในเกมได้

     

    "มีอยู่แค่สองชิ้น แต่ราคาปาเข้าไปล้านกว่าเ​นี่​ยนะ​!?"อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา

     

    หญิงสาวยัดซาลาเปาก้อนสุดท้ายเข้าปากแล้ว'ลาก'ตัวเองขึ้นไปนั่งบนเตียงโดยไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องเกมของเธอมาด้วย

     

    "ฮึ่บ!"

     

    ใช้เวลาชั่วครู่​ในการปีนขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ

     

    ร่างระหงมองเรียวขาของตัวเองที่แม้จะดูปกติ แต่ยามจะใช้งานมันกลับอ่อนปวกเปียก​จนหน้าโมโห

     

    เป็นแบบนี้มาได้6ปี ไม่มีวิธีรักษาจนคนที่บ้านเห็นว่าเธอไร้ประโยชน์​แล้วจึงทำการตัดหางปล่อยวัดไม่คิดจะมาสนใจใยดีกันอีก

     

    ทว่าก็ยังคอยส่งเงินมาให้อยู่บ้าง ทำให้เธอไม่มีปัญหา​กับการละทิ้งในครั้งนี้สักเท่าไหร่​

     

    ​​​​สามารถเอาเงินส่งมาซื้อ​เครื่องเกมราคาเป็นล้านแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึง​ฐานะทางบ้านเธอหรอกเนอะ?


    ฟ่านซิงส่วมหมวกเชื่อมเปิดเครื่องส่งสัญญาณ​มาวางไว้หัวเตียงพร้อมเอนหลังลงบนเตียงนุ่ม ก่อนจะหลับตาลง...

     

    ​ในความมืดนั้น​​กระดาน​โฮโลแกรมปรากฏ​อยู่เบื้องหน้า ในกระดานนั้นมีช่องวางไว้ให้ผู้เล่นนั้นกรอกข้อมูล​ลงไปเพื่อง่ายต่อการใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงนั่น

     

    ถ้าไปโผล่ในโลกนั้นโดยไร้ข้อมูล​ใดๆเลยคงใช้ชีวิตยากหน่อยแหละ

     

    ฟ่านซิงไล่สายตาไปตามกระดานโฮโลแกรมว่าต้องกรอกข้อมูลอะไรลงไปบ้างซึ่งที่ต้องใส่ก็ข้อมูลปกติทั่วไป พวกนาม...นามรอง ตระกูล? อ่า...ต้องใส่ตระกูลลงไปด้วยสินะ

     

    ถ้าเลือกที่จะอยู่ใน5ตระกูลเซียนยักษ์​ใหญ่ก็ย่อมได้ แต่จะมีอีกกรณี​หนึ่งที่น้อยคนนักจะเลือกวิธีนี้

     

    การสร้างตระกูล​ขึ้นมาใหม่... 

     

    โดยจะต้องลงข้อมูลรายละเอียด​ต่างๆลงไปซึ่งสามารถสร้างได้แต่ใจนึก แต่หากผู้เล่นสร้างตระกูลที่ดูอลังการมากเกินไป ระบบเกมจะรีเซ็ต​และเปลี่ยนแปลงข้อมูล​ด้วยตัวของมันเอง

     

    เธอเลือกที่จะสร้างตระกูลขึ้นมาเองโดยตระกูลเป็นแซ่เดียวกับเธอ

     

    แซ่'​ฟ่าน'

     

    'นาม ฟ่านซือเยว่

    นามรอง ฟ่านซิง

    ตระกูล ฟ่าน'​

     

    ส่วนเรื่องประมุขตระกูลร่วมถึงประวัติ​เธอให้ระบบสร้างเอง เพราะขี้เกียจ​ไปนั่งคิดประวัต​โคตรเหง้าศักราช​ของต้นตระกูล​

     

    เมื่อลงประวัติ​เสร็จ​ก็ถึงเวลาของการสร้างรูปลักษณ์​ ซึ่งก็มี2วิธีเช่นกัน

     

    1.คือการใช้ร่างจริงของคนเอง

     

    2.สร้างร่างใหม่ขึ้นมาตามแต่ใจชอบ แน่นอนคนมักเลือกวิธีที่2 ใครๆก็อยากสรรค์​สร้างตัวเองให้ออกมาหล่อสวยทั้งนั้นแหละหนา

     

    ซึ่งเธอค่อนข้างมั่นใจในรูปโฉมของตัวเองพอตัวจึงเลือกวิธีที่1ไป

     

    ดีไม่ดี เธอเลือกวิธีที่2อาจจะกลายเป็นว่าสร้างตัวเองให้กลายเป็นสัตว์​ประหลาดไปก็ได้=_=

     

    เมื่อการลงข้อมูลเสร็จครบสมบูรณ์ รอบข้างของเธอก็กลับมาดำมืดอีกครั้ง หญิงสาวหันซ้านหันขวา ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    พรึบ!?

     

    ทว่าเพียงเธอหลับตาลงไม่ถึงเสี้ยววิ ทัศนียภาพ​รอบตัวเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

     

    ตอนนี้ฟ่านชิงกำลังนอนนิ่งอยู่บนตั่งนอนขนาดกลางในห้องกว้างดูเรียบหรู

     

    ลองยกฝ่ามือขึ้นมาพินิจดูก็รู้สึกได้ถึงความเรียบเนียนกว่าปกติมาก ลูบหน้าเบาก็แปลกประหลาดพิกล

     

    มือเผลอไปคว้าคันฉ่องมาโดยบังเอิญ ก่อนนำมายนโฉมของตนเอง

     

    "นี่มันลายเส้นอนิเมะเลยนี้ห​ว​่​า!?"

     

    แม้หน้าตาจังยังดูเหมือนเดิมแต่ โครงหน้ากลับแปลกไปเหมือนไม่ใช่มนุษย์​ธรรมดา ซึ่งสามารถ​หาดูได้ทั่วไปตามYoutube

     

    ก็การ์ตูนนั่นแหละ...

     

    ฟ่านซิงเอามือก่ายหน้าผาก ไม่นึกว่าตัวเกมจะทำออกมาได้เพอร์เฟค​ขนาดเปลี่ยนลักษณะ​ของมนุษย​์ได้ด้วย

     

    แต่ก่อนจะคิอฟุ้งซ่าน​ไปมากกว่านั้น เสียงดังจากหน้าเรือนก็ดังขึ้นขัดซะก่อน

     

    "ศิษย์​พี่หญิงตื่นได้แล้วนะขอรับ รีบตื่นก่อนที่ซิ่นฟูเหรินจะมีโทสะเถอะนะขอรับ"

     

    เสียงกล่าวแก่มเว้าวอน​จากหน้าประตูทำเธอร่างกระตุกไปชั่วครู่อย่างทำตัวไม่ถูก แต่เมื่อได้ยินเสียงคล้ำครวญ​ราวกับจะร้องไห้ของร่างหน้าประตูก็เรียกสติกลับมาได้

     

    "ข้าตื่นแล้วๆรอสักครู่ข้าจะรีบตามไป"

     

    "ขอร​ั​บ!"

     

    เมื่อร่างหน้าประตูเดินห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า ฟ่านซิงก็ขยับตัวเพื่อไปแต่งตัวตามที่ปากว่าไว้ แต่ขณะที่เท้าจะแตะถึงพื้นเธอก็ชะงักไป

     

    นานมากแล้วที่คุณหนูฟ่านซซือเยว่ไม่สามารถ​เดินเหินได้อย่างคนปกติทั่วไป แต่ต้องคลานไปมาอยู่กับพื้นไม่ก็นั่งรถเข็น​

     

    แต่ตอนนี้...เธอจะได้สัมผั​สกับมันอีกครั้ง

     

    จะได้โลดแล่นบนพื้นอย่างอิสระ​ ไม่ต้องทนทุกข์​ติดเตียงอย่างวันวาน...

     

    เท้าเรียบสัมผัสลงบนพื้นไม้เบาๆก่อนร่างระหงจะค่อยๆพยุงร่างของตนเองให้ลุกขึ้นมา แม้จะเซบ้างเพราะไม่ชินแต่ใช้เวลาไม่นานเธอก็สามารถยืนเต็มความสูงได้อย่างสมบูรณ์

     

    เธอเดินไปเปิดประตูเรือน ชมทิวทัศน์​รอบตัวอย่างเพลิดเพลิน

     

    ทิวทัศน์​รอบกายเธอล้อมรอบ​ไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาพันธ์​ ส่งกลินหอมชวนให้เคลิบเคลิ้ม​

     

    ฝีเท้าเริ่มเดินไปตามทางกลิ่นอายของพื้นหญ้าและสัมผัส​ชวนจั๊กจี้​นั้นยิ่งทำเธอรู้สึกคึกคะนอง​

     

    จากเดินเริ่มกลายเป็นกระโดด จากกระโดดเริ่มกลายเป็นวิ่งเต็มแรงขาที่มี

     

    หญิงสาวไม่สนแล้วว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่ในชุดผ้าไหมตัวบาง เธอสนเพียงแค่ว่าในวินาทีนี้เธอจะสามารถวิ่งไปได้ไกลสักแค่ไหนโดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น​

     

    เสียงหัวเราะใสดังก้องกังวานไปทั่วทุ่งมวลบุปฝา เหล่าศิษย์​น้อยใหญ่ต่างหันมามองเป็นตาเดียว

     

    จิตใจที่เหมือนถูกปิดกั้นมานานถูกปลดปล่อยในที่สุด ร่างระหงวิ่งบ้างม้วนตัวตีลังกา​บ้างนับไม่ถ้วน​

     

    จะหยุดได้ก็ตอนที่ศิษย์​คนหนึ่งเข้ามาเรียกไว้นั่นแหละถึงได้กลับเข้าเรือนไปแต่งตัวได้

     

    ฟ่านซิงออกมาจากเรือนอีกครั้งในชุดประจำตระกูลสีโทนแดงดอกชบา ผมถูกมัดรวบไว้เป็นจุกด้านหลังมัดด้วยผ้าสีโทนเดียวกับเสื้อ

     

    ศิษย์คนเดิม ที่เธอรู้จากกระดานแนะนำว่าชื่อ'ฟ่านซิ่ว'​อนุชนสกุลฟ่านที่ร่ำเรียนอยู่ที่สกุลฟ่านมาตั้งแต่ยังเยาว์​วัย อีกฝ่ายเดินนำหน้าไปยังลานฝึกปากก็บ่นงุบงิบฟังไม่ได้ศัพท์​ไปมาราวกับตัดพ้อสิ่งใดอยู่

     

    "ศิษย์​พี่หญิงบอกจะรีบตามมาแล้วใยไปวิ่งเล่นแบบนั้นล่ะขอรับ" 

     

    "วันนี้อากาศ​ดี แค่อยากออกไปชมนกชมไม้ยามเช้าก็เท่านั้น"เธอกล่าวไม่ยี่หระ

     

    "ยามอู่​ไม่นับว่าเช้าแล้วนะขอรับ=*=" 

     

    ยามอู่? อ้อ น่าจะช่วง11โมงถึงเที่ยงๆล่ะมั้ง ใช่มั้ยนะ? 

     

    "หยวนๆกันได้นา" 

     

    ศิษย์คนนั้นถอนหายใจราวกับปลงตกเต็มที ก่อนจะหยุดลงเมื่อมาถึงโถงใหญ่อันเป็นที่ประหาร-เอ้ย! ที่ฝึกซ้อมของพวกตน

     

    "ทำไมมาช้าขนาดนี้ห๊ะ!!"

     

    เสียงคำรามราวกัมปนาทสะเทือนไปทั่วลานฝึก จนสองร่างที่เดินตามกันมาสะดุ้งโหยง

     

    ฟ่านซิงมองไปยังบัลลังก์​ที่มีสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่ เธอเป็นสตรีเพศ​ที่สง่างาม ดูพึ่งพาได้อย่างมาก เรือนผมถูกรวบไว้จนหมดเหลือไว้แต่ปอยผม​บางส่วนที่ปล่อยไว้ 
     

    กระดานแนะนำปรากฏ​ขึ้นตรงหน้า ฟ่านซิงไล่อ่านทุกตัวอักษร​ไม่มีตกหล่น

     

    'ซิ่นเฟยหลง'​บุตรีตระกูลซิ่นรับทำหน้าที่ดูแลการฝึกศิษย์​ควบตำแหน่งฟูเหรินของตระกูลฟ่าน

     

    โอ้โฮเฮะ​ นอกจากหญิงแม่อวี๋จื่อเยวียนฟูเหรินท่าน้ำดอกบัวแล้วยังมีนางเซียนที่ดูน่าเกรงขาม​ขนาดนี้อยู่อีกเหรอ0.0

     

    สำรวจได้ไม่ทันไรดวงตาคมสีอร่ามก็ตวัดมองเธอจนหลุดสะดุ้ง

     

    ฟ่านซิงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กล่าวทักทายจึงรีบประสานมือแล้วโค้งลงทำความเคารพ​

     

    "ซิ่นฟูเหริน"

     

    ซิ่นเฟยหลงขมวดคิ้ว

     

    "เจ้าเป็นศิษย์​พี่ของพวกเขา ใยไม่รู้จักวางตัวให้เป็นแบบอย่าง นี่อะไร นอนกินบ้านกินเมืองยามอู่แล้วยังไม่คิดลุกออกจากเ​ต​ี​ยง!"มาเป็นชุดเลยจ้า

     

    คนกระทำความผิดได้แต่ก้มหน้างุดมองพื้นราวกับวิฟารน้อยโดนดุ แต่ก็หาได้รับความเห็นใจจากฟูเหรินตระกูลฟ่าน

     

    "พอเถอะอาเฟย อาซิงเป็นศิษย์​ที่ดีมาตลอดเจ้าก็รู้ดี"จู่ๆก็มีสตรีอีกนางเดินเข้ามา ร่างนางดูอ้อนแอ้น​กว่าซิ่นเฟยหลงมากนัก ผมถูกม้วนเป็นจุกและครอบด้วยที่ครอบสีหวาน

     

    ไม่รอให้เอ่ยขอ กระดานแนะนำก็ปรากฏ​ขึ้นอีกครั้ง

     

    /'ลี่เฟิงมี่'​บุตรี​คนรองตระกูล​ลี่ ฟูเหรินตระกูลฟ่าน/

     

    ห๊ะ ฟูเหรินอ​ี​กแล​้​ว? 

     

    "เฮอะ! เพราะมีเจ้าคอยให้ท้ายน่ะสิ ศิษย์​ที่ดีของเจ้าถึงได้ประพฤติ​ตัวเช่นนี้"ซิ่นเฟยหลงกล่าวประชด

     

    "อย่าโกรธ​สิ ข้ากล่าวเพราะหวังดีนะ~"

     

    "เห๊อะ!" 

     

    การเถียงง้องแง้ง​ของสองสตรีทำบรรยากาศ​มาคุนั้นมลาย​หายไปสิ้น เหลือไว้แค่เสียงหัวเราะแห้งของเหล่าศิษย์ในตระกูลที่ต้องมายืนดูสตรีมากประสบการณ์​ทั้งสองทะเลาะแง่งอนกัน

     

    เมื่อจบการวิวาทขนาดย่อม ลี่เฟิงมี่ก็หันมายิ้มหวานให้กับเธอพร้อมเอ่ย

     

    "ท่านพี่ฮุ่ยเหอเรียกหาเจ้าอยู่แหนะ รีบไปพบนางเถอะ"

     

    ฟ่านซิงรับคำก่อนเดินแยกตัวออกมา ต้องขอบคุณตัวเกมที่มีกระดานโฮโลแกรนขึ้นบอกข้อมูลต่างๆให้กับผู้เล่นใหม่ ซึ่งจะอยู่เพียง48ชั่วโมงเพื่อให้ผู้เล่นได้ทำความเข้าใจด้วยตัวเอง แต่ผู้เล่นยังสามารถดูค่าความสามารถ​ต่างๆของตนเองได้อยู่เหมือนเดิม

     

    อย่างตอนนี้จอโฮโลแกรม​กำลังบอกเส้นทางไปยังห้องโถงใหญ่ตระกูลฟ่าน รวมไปถึงเส้นทางต่างๆภายในนี้อีกด้วย

     

    "โถง บุปผา...เริง ระบำ?" 

     

    ฟ่านซิงไล่อ่านอักษรภาษาจีนไปทีละตัว ก่อนเริ่มทำการสำรวจไปรอบๆ ห้องโถงถือว่าจัดได้ดูหรูหราแต่ก็ไม่ฟูฟ่าจนเกินไป นิยามของคำว่าเรียบหรูโดยแท้จริง

     

    บนบัลลังก์​กลางโถงใหญ่นั้นมีร่างสองร่างนั่งหลังตรงดูงามสง่า หนึ่งคือบุรุษ​ที่มีรูปร่างกำยำสวมอาภรณ์​เต็มยศที่มองตั้งแต่ปากทางเข้ากูซูยังดูออกเลยว่าคนผู้นี้เป็นประมุขแห่งตระกูลฟ่านอย่างแน่นอน

     

    ส่วนสตรีที่นั่งอยู่เคียงข้างนั้นก็เพียงส่งยิ้มมาให้กับเธอ มือทั้งสองข้างประสานไว้บนหน้าตัก กิริยาดูเพรียบพร้อ​มอย่างหาที่เปรียบมิได้

     

    /'ไป่ฮุ่ยเหอ'​ฟูเหรินตระกูลฟ่าน/

     

    อ่า...สรุปคือฟูเหรินตระกูลฟ่านหมดเลยสินะ อย่าบอกนะว่าประมุขฟ่านจะเป็นพวกตัณหากลับ​ เจ้าชู้ประตู​ดิน ถ้าเป็นงั้นฟ่านซิงถือแผ่นป้ายเตรียมออกจากสกุลเลยได้มั้ยนะ? 

     

    "ยืนบื้ออะไรอยู่ไม่รีบทำความเคารพ​ล​่​ะ!?"ซิ่นเฟยหลงตวาดเสียงไม่เบานัก ทำให้เธอก็เร่งประสานมือคารวะ​บุรุษ​และสตรีเบื้องหน้าอย่างเร่งรีบ

     

    ส่วนคนที่เอ่ยดุเธอก็เดินไปนั่งลงบนบัลลังก์​ด้วยเช่นกัน

     

    ฟ่านซิงมัวแต่สำรวจสตรีทั้งสามจนเผลอไปสบเข้ากับในตาคมของประมุขฟ่านเข้า อีกฝ่ายเอามือเท้าคางกับแท่นวางมืออย่างไม่รักษากิริยาที่ประมุขพึงกระทำ ก่อนยกยิ้มแล้วหัวเราะเสียงกังวาน

     

    "ฮ่าๆๆวันนี้เจ้าเป็นอะไรไปอาซิง ใยทำท่าทางราวกับจะถูกประหารเยี่ยงนั้น เสี่ยวเฟยรังแกเจ้างั้นหรือ?"อีกฝ่ายถามติดตลกซึ่งก็โดนสายตาของซิ่นเฟยหลงทิ่มแทง​ไปที โทษฐานป้ายความผิดกันซึ่งๆหน้า

     

    "ข้ายังไม่ทันทำอะไรนางเลยด้วยซ้ำ"คนถูกพาดพิง​บ่น

     

    ประมุขฟ่านทำเพียงหัวเราะในลำคอกับปฏิกิริยา​ของฟูเหรินตน ก่อนหันมาสนใจเธออีกครั้ง

     

    "อีกไม่กี่วันเจ้าก็ต้องเดินทางไปร่ำเรียนที่อวิ๋นเซิ่นปู้จื่อฉู่แล้ว จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน​ อย่าให้ใครมาข่มขี่​ว่าเจ้าเป็นเพียง'สตรี' จงจำคำสอนของมู่อันไว้"

     

    ฟ่านซิงโค้งรับคำสั่งสอนของท่านประมุขอย่างนอบน้อม​ ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นเฒ่าตัณหา​กลับนั้นมลายหายไปสิ้นเหลือไว้เพียงความเลื่อมใสศรัทธา

     

    ทั้งที่เธอกำลังอยู่ในยุคจีนโบราณที่ผู้คนเห็นค่าบุรุษ​มากกว่าสตรีอย่างเธอ แต่ประมุขฟ่านกับเอ่ยส่งเสริม​เธออย่างเต็มที่

     

    เมื่อพูดคุยสัพเพเหระ​ได้หนึ่งเค่อฟ่านซิงก็ขอตัวออกมา อ้างเหตุผลว่าไปเตรียมของเดินทางในอีกไม่กี่วัน 


    หลังแยกตัวออกมาสำเร็จฟ่านซิงก็ได้รู้ว่าตัวเธอนั้นมีความสนิทกับท่านประมุขและฟูเหรินทั้งสามพอสมควร

     

    ไม่ให้สนิทได้ไง ในเมื่อเธอเป็นถึงบุตรีบุญธรรม​ของท่านประมุขเลยเชียวนะ

     

    ส่วนฟูเหรินทั้งสามก็เป็นสตรีที่ร่วมกันกราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้องกันทั้งสามคน ไม่มีใครคัดค้าน​หรือต่อต้าน

     

    ไม่มีศึกวังหลังอย่างที่เธอแอบกลัวด้วย... 

     

    นางทั้งสามนั้นมีพรสวรรค์​ที่แตกต่างกันซึ่งนับเป็นประโยชน์​ต่อประมุขฟ่านอย่างยิ่ง และแน่นอนนางทั้งสามก็ได้รับความรักจากท่านประมุขกันอย่างเท่าเทียม​


    เรื่องครอบครัวถือว่าสมบูรณ์​ดี...


    ส่วนการดำเนินชีวิต​ที่เหลือ ก็ขึ้นอยู่กับเธอเองแล้วล่ะฟ่านซิง

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    ประมุขฟ่าน

    และฟูเหรินทั้ง3

    ---------------------------------------


    #สร้างตระกูลเองนักเลงพอ(แต่ขี้เกียจ​คิดประวัต​เนี่ยนะ?)

    #ฟูเหรินทั้งสามงานดีมั้ยคะ? นอกจากงานดีแล้ว ความสามารถ​ยังพร้อมด้วยนะ>^<


    #คอมเม้น​เป็นกำลังใจกันด้วยน่า~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×