คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่6 วันเวลาที่แสนเบื่อหน่ายกับงานรื่นเริงของเหล่าภูติ
บทที่6 (วันเวลาที่แสนเบื่อหน่ายกับงานรื่นเริงของเหล่าภูติ)
สายลมที่พัดมาและวันเวลาที่ผันผ่าน จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมาตั้งเก้าปีแล้ว จากเด็กสาวเติบโตเป็นหญิงสาว ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้อ่อนยังคงทอประกายห่วงหาถึงคนที่จากไปเมื่อนานมาแล้ว เส้นผมสีทองยาวสลวยถึงกลางหลังพัดไหววูบไปตามกระแสลมที่พัดมา เขาไปอยู่ที่ไหนกันนะ....ท่านฮาคุริว...
“เมย์ เจ้าเลิกมองหาเจ้าบ้าที่หายหัวไปตั้งเก้าปีแล้วซักทีได้ไหม”ผู้ปกครองผืนป่าแห่งนี้ยังคงมีสภาพไม่ต่างไปจากเด็กสิบขวบอยู่เช่นเดิมไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม
“แหม....ท่านเทนโรว์ละก็...เขาจากข้าไปทั้งๆแบบนั้น....”สีหน้าของหญิงสาวหมองลงเล็กน้อย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะจากเธอไปโดยไม่ลาซักคำ!
“เจ้าก็เหมือนก็แหละ รู้ทั้งรู้แบบนั้นก็ยังอุส่ารอเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ? เจ้าสองคนมันก็ดื้อด้านพอกันนั่นแหละ”เด็กชายนอนเท้าคางกับกิ่งไม้แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์
“ข้าอยากจะรอให้ถึงที่สุดนี่ค่ะ จากไปทั้งๆแบบนั้นมันเกินไป!ถ้าข้าไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากของเขาข้านอนหลับไม่สนิทหรอก!”
“เฮ้อ~เห็นไหมหล่ะ ดื้อด้านจริงๆด้วย...”เด็กชายมองลูกสาวที่น่ารักแล้วก็บ่นออกมาอย่างปลงตก
“ถ้าว่างขนาดมานั่งบ่นละก็มาช่วยกันหน่อยจะเป็นไรค่ะ ฮึ”เมย์ยกตะกร้าผ้าที่เก็บเสร็จแล้วเดินเข้าตัวบ้านไปแบบงอลๆ
“เมย์~~~เจ้าอย่าโกรธข้าซี่”เทนโรว์กระโดดลงจากต้นไม้แล้วเดินเข้าบ้านตามหญิงสาวไป
ภายในบ้านแทบไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยซักนิดนอกจากจะมีข้าวของบางอย่างที่ผู้หญิงวัยรุ่นควรจะมีเพิ่มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย อย่างเช่น โต๊ะเครื่องแป้งหรือพวกเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆที่พวกภูติตนอื่นๆเอามาให้เป็นของขวัญ
“ท่านเทนโรว์ ทำไมท่านฮาคุริวต้องไปด้วยเหรอค่ะ”เมย์วางตะกร้าผ้าลง
“ไม่รู้ซิ อาจจะมีเหตุผลจำเป็นละมั้ง แต่คิดมากไปเจ้านั่นก็ใช่จะกลับมาซะเมื่อไหร่!”เทนโรว์นั่งกอดพนักเก้าอี้โยกไปมามองดูหญิงสาวที่กำลังนั่งพับผ้าเก็บเข้าตู้
“ท่านเทนโรว์ นั่งแบบนั้นเดี๋ยวก็ล้มลงมาหรอก”เมย์ยังคงพับผ้าเก็บและทำงานไปเรื่อยๆ ชีวิตของหญิงสาวช่างเป็นการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย นอกจากทำงานบ้านแล้วก็มีแค่การอบขนมเอาไปแบ่งให้กับภูติตนอื่นๆแล้วก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆแค่นั้น มันเรียบง่ายซะจน..... “น่าเบื่อ” เมย์พึมพำออกมาเบาๆ เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่เรียบง่าย เธออยู่ในวัยที่สมควรจะออกไปเผชิญโลกภายนอกได้แล้วแต่ทุกคนที่นี่โดยเฉพาะท่านเทนโรว์ยืนยันที่จะไม่ให้เธอออกไปจากป่านี้ ทำไมกันนะ?
“เมย์ เจ้ายังอยากจะออกไปข้างนอกป่าอีกหรือ?”เทนโรว์หยุดเล่นเก้าอี้แล้วมองหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ท่านเทนโรว์ ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วตอนนี้ข้าเองก็โตแล้วแต่ข้าไม่เคยได้ก้าวขาออกจากบ้านไปเลยแบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอค่ะ?”หญิงสาวหันมามองผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าที่ขัดใจนิดหน่อย
“ไม่ได้ ข้างนอกนั่นอันตรายเกินไป ยิ่งตอนนี้พวกปีศาจกำลังก่อสงครามกันอยู่เจ้าออกไปก็มีแต่จะถูกจับตัวไปมากกว่า ดีไม่ดีอาจจะถูกจับไปทำเป็นอาหารว่างของพวกมันก็ได้นะ แฮ่~”เด็กชายทำท่าทางเหมือนขู่หญิงสาวแต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้ากับหน้าที่ดูยังไงก็เป็นเด็กอายุไม่เกิน10ขวบ
“นี่ข้าควรจะหัวเราะหรือกลัวท่านดีค่ะ ท่านเทนโรว์”เมย์หันกลับไปให้ความสนใจกับการพับผ้าต่อแทนเด็กชาย
“เมย์อ่า!!ไม่มีอารมณ์ขันเลยให้ตาซิ”เด็กชายทำปากจู๋อย่างไม่พอใจกับปฏิกิริยาตอบโต้ของหญิงสาว
“เฮ้อ~”
ยามบ่ายของวันนี้หญิงสาวอบคุกกี้ถาดใหญ่เอาไว้และเตรียมอบพายอีกอย่าง เธอไม่เคยขาดแคลนเรื่องของกิน ทุกคนที่นี่ดูแลเธออย่างดีดีซะจนคิดว่าตอนนี้เขตอาคมที่กางอยู่รอบบ้านยังจำเป็นอยู่หรือ?แต่ก็คิดได้แค่นั้น เพราะยังไงก็ไม่มีผลอะไรกับชีวิตเธอ
“อื้ม~ หอมดีจังคราวหน้าข้าน่าจะไปเดินเล่นแถวทะเลสาบแล้วเอาพวกขนมไปกินเล่นกับทุกคนด้วย”เมย์สูดกลิ่นหอมของขนมอบใหม่ๆให้เต็มปอด อย่างน้อยมันก็ช่วยผ่อนคลายความเบื่อหน่ายของเธอไปได้บ้าง เธอรักการทำขนมแล้วก็ชอบมันมาก คงจะเพราะมันเป็นหนึ่งในงานอดิเรกไม่กี่อย่างที่เธอทำได้ละมั้ง?
“อยากให้ท่านฮาคุริวได้กินบ้างจัง”หญิงสาวยิ้มให้กับตัวเอง ทุกครั้งที่เธอคิดถึงชายหนุ่มที่เธอได้พบเจอเมื่อครั้นยังเป็นเด็ก มันทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันพองโตและอุ่นวาบขึ้นมาทุกครั้ง
“เป็นความสุขที่ประหลาดจริงๆ” ตอนนี้เทนโรว์กลับไปแล้ว เธอจึงสามารถจมอยู่ในความคิดและความเพ้อฝันของเธอได้อย่างเต็มที่ เธอมันจะคิดถึงสัมผัสยามที่เขาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยนอยู่เสมอ รอยยิ้มและสีหน้าที่เธอได้เห็น แม้ว่าจะไม่เคยได้ยินเสียงของเขาซักครั้งเลยก็เถอะ.....หรือเคยกันแน่นะ? เมย์หยุดความเพ้อเจ้อของตัวเองแล้วคิดทบทวนความฝันที่แสนเรือนรางในยามเช้าที่เขาจากไป
“ฝัน?หรือความจริงกันนะ......”เมย์มองลอดหน้าผ่านต่างออกไปยังท้องฟ้าและภาวนาขออย่าให้สิ่งที่เธอเห็นหรือได้ยินเป็นเพียงแค่ความฝันเลย เพราะหากมันเป็นแค่ความฝัน เธอคงจะไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีกแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเศร้าเกินไปกับการที่เธอได้แต่รอเขามาตลอดหลายปีเพียงเพราะคำสัญญาที่เขาได้ให้เอาไว้ในความฝัน
“คิดมากไปก็เสียเวลา!” หญิงสาวเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นบิดาที่มักจะพูดกรอกหูเธอยามที่เธอคิดถึงเขาก็คราวนี้แหละ เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป เมย์ก็จัดแจงจัดตะกร้าขนมที่เตรียมไว้สำหรับงานปาร์ตี้คืนนี้แล้วเก็บกวาดล้างอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมให้เรียบร้อย
ในระหว่างที่รอเวลางานเลี้ยงเธอก็หยิบหนังสือเล่มใหม่ที่พึ่งได้เป็นของขวัญจากจอมปราชญ์แห่งป่าขึ้นมาอ่านแก้เซงไปพลางๆ ก็นะ......เวลาว่างเยอะก็แบบนี้แหละทำไงได้?
รู้ตัวอีกที ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็มืดซะแล้ว เมย์บิดขี้เกียจจากการที่นอนฟุบไปกับโต๊ะเพราะเผลอหลับไประหว่างอ่านหนังสือ
“นี่ข้าหลับไปนานเท่าไหร่กันเนี่ย?”หญิงสาวรีบุกกุลีกุจรเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ คราวนี้หญิงยาวแต่งตัวในชุดที่สวยกว่าปกติที่ใส่อยู่ประจำ วันนี้มีงานรื่นเริงประจำป่า เส้นผมยาวสลวยของเมย์ถูกถักเป็นเปียใหญ่แล้วประดับด้วยริบบิ้นและดอกไม้ เมื่อเธอจัดแจงตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมย์จึงหยิบตะกร้าขนมที่เตรียมไว้แล้วรีบออกจากบ้านตรงไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงทันที
“เมย์!เจ้ามาแล้ว!”เฟริโอน่าโผเข้ากอดเมย์ผู้ที่เป็นเหมือนน้องสาวของตนทันทีที่หญิงสาวปรากฏตัว
“เจ้ารู้ไหมว่าข้ารอเจ้าตั้งนานแหนะ”ภูติสาวคลายอ้อมกอดแล้วมองหญิงสาวตรงๆราวกับกำลังวิเคราะห์การแต่งตัวของหญิงสาวในวันนี้ “เจ้าดูสวยมากจริงๆ ป่ะๆๆเข้าไปในงานกันเถอะ หนุ่มๆรอเจ้ากันจนเหงือกแห้งแล้ว”
“พี่เฟรินก็พูดเกินไป..”เมย์เกาแก้มอย่างเขินอาย เฟริโอน่าชอบแซวเธออยู่เรื่อย
“ก็จริงนี่นา เจ้าพวกนั้นอยากเห็นเจ้าในชุดสวยๆกันทั้งนั้นแหละ!เมย์น่ารักจะตาย!”เฟริโอน่าจูงมือของหญิงสาวเข้าไปในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสันและเสียงดนตรีที่ไพเราะ
การที่พวกภูติได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักในงานรื่นเริงนั้นไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย ในหนึ่งปีมีการจัดงานรื่นเริงแทบจะไม่ต่ำกว่า10ครั้ง คงเพราะมีเวลาว่างมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ...เมย์ที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก แถมได้ทุกคนที่นี่ช่วยกันเลี้ยงมาย่อมกลายเป็นสมาชิกของป่านี้ไปโดยปริยาย ยิ่งด้วยนิสัยและความน่ารักของเธอด้วยแล้วยิ่งทำให้เป็นที่ชื่นชอบไปกันใหญ่ ทำให้งานไหนๆเธอก็ได้รับเชิญซะทุกครั้งไป แถมทุกครั้งที่เธอไปงานก็จะเอาพวกขนมอร่อยๆไปฝากเสอมทำให้ยิ่งได้คะแนนเพิ่มเข้าไปกันอีกอย่างล้นหลาม จัดงานวันเกิดเธอทีนี่งานอลังการเว่อร์แถมเจ้าของงานก็แทบจะถูกกองภูเขาของขวัญทับตาย
“เมย์ เจ้าไปหาท่านเทนโรว์ก่อนเถอะ รายนู้นเขาเอาแต่บ่นว่าเมื่อไหร่เมย์จะมาๆ จนพวกข้ารำคานจะตายอยู่แล้ว ช่วยทีนะ” เฟริโอน่าดันหลังเมย์ให้ขึ้นบันไดไปข้างบนต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของผู้ปกครองป่า
“อ่า...ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนกันนะคะ”เมย์หน้าเจือลงไปเล็กน้อยเมื่อคิดว่าบิดาของเธอทำความเดือดร้อนให้คนรอบข้างอีกแล้ว “เฮ้อ~ รักข้ามันก็ดี แต่มากไปแบบนี้ก็ไม่ไหวแฮะ” เมย์บ่นกับตัวเองเล็กน้อยขณะที่ขาก็ก้าวขึ้นบันไดไปทีละขั้นๆอย่างใจเย็น
“ท่านเทนโรว์ ข้ามาแล้วค่ะ”เมย์เปิดประตูเข้าไปแล้วพูดกับชายหนุ่มร่างสูงรูปงามผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่ยืนอยู่หลังม่านบางๆ
“โอ้ว? เมย์!ในที่สุดเจ้าก็มา!ข้ารอเจ้าตั้งนาน!”ชายคนนั้นเปิดม่านออกมาแล้ววิ่งเข้าไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมาหมุนไปรอบๆ
“ท่านเทนโรว์.....ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ...”เมย์มองเหล่าภูติสาวที่อยู่ ณ ที่นี้ที่กำลังมองมายังพวกเธออย่างเอ็นดู
“ไม่เอาน่า...ใครๆก็รู้ว่าเราเป็นพ่อลูกกันทำแบบนี้เสียหายที่ไหน”ชายหนุ่มวางหญิงสาวลงแต่ยังคงกอดร่างบางแน่นทั้งๆที่เมื่อเช้าก็พึ่งจะเจอกันไป
“ท่านเทนโรว์ละก็....” ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าปกติจะอยู่ในร่างของเด็กก็เถอะ แต่จริงๆแล้วอายุเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ซินะ พอเจอกอดแบบนี้ในร่างผู้ใหญ่แล้วมันก็.... เมย์ดันตัวของเทนโรว์เวอร์ชั่นผู้ใหญ่ออกแล้วก้มหน้าหงุดด้วยความอายเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มตรงหน้าได้เล็กน้อย แล้วในที่สุดคุณพ่อขี้แกล้งก็ยอมปล่อยลูกสาวขี้อายให้เป็นอิสระ
“เจ้าทานอะไรรึยัง? ป่ะ พวกเราลงไปหาอะไรทานกันดีกว่า เจ้าคงจะหิวแย่แล้ว”ยังไม่ทันที่ตัวลูกสาวจะได้ออกปากตอบเจ้าตัวก็สรุปเองเออเองเสร็จสรรพ จูงมือเจ้าหล่อนลงไปร่วมงานเลี้ยงที่อยู่ข้างล่างอย่างเบิกบานใจ
ภายในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะรอยยิ้มและเสียงดนตรีดั่งเช่นทุกครั้งสตรีตัวหลักของงานผู้เป็นขวัญใจของชาวประชากำลังเต้นรำอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่ยืนล้อมรอบพร้อมกับเหล่าภูติตนอื่นๆที่ผลัดกันสลับมาเต้นคู่กับเธอ
“เป็นเกียรติจริงๆที่ได้เต้นรำกับเจ้า เมย์”ภูติหนุ่มรูปร่างท่าทางผ่าเผยตนหนึ่งซึ่งขณะนี้กำลังเป็นคู่เต้นรำอยู่พูดกับหญิงสาว
“ท่านโรซาลก็พูดเกินไป ข้าเป็นเพียงแค่มนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น”เมย์หมุนตัวไปตามจังหวะเพลง
“ไม่หรอกๆ นับวันเจ้ายิ่งสวยขึ้นทุกทีๆ ซ้ำยังฉลาดหลักแหลมมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ภูติหนุ่มที่ยังไม่มีคู่ทั้งหลายต่างก็หมายปองในตัวเจ้าทั้งนั้น”
“ท่านอย่าล้อข้าเล่นซิ พวกท่านเห็นข้ามาตั้งแต่เป็นทารกแล้วนี่”
“นี่ข้าพูดจริงนะ คนที่จะเข้าไปคุยกับเจ้าได้เนี่ยถึงขนาดต้องจับบัตรคิวกันเลยทีเดียว”
“แหม โอเว่อร์กันจริงๆ ถึงไม่ต้องจับบัตรคิวข้าก็คุยกับทุกคนอยู่แล้วแท้ๆ”
“นั่นซินะ อะ...หมดเวลาซะแล้ว ไว้คราวหน้ามาเต้นรำด้วยกันอีกนะ เมย์” โรซาลและเมย์แยกออกจากกันและบทสนทนาก็จบลงเพียงเท่านั้น ไม่นาน ภูติชายอีกตนก็เคลื่อนเข้ามาแทนที่อีก
“สวัสดี เมย์ วันนี้เจ้าก็สวยอีกแล้วนะ”คราวนี้เป็นภูติหนุ่มที่ค่อนข้างปากหวาน
“สวัสดีค่ะ ปากหวานอีกแล้วนะค่ะฮาล”
“กับคนน่ารักเช่นเจ้าให้พูดจาหวานเลี่ยนทั้งวันก็ยังได้”
“เกรงว่าข้าจะรับไม่ไหวซะก่อนนี่ซิ”
“ฮ่าๆๆ ไม่ทันไรเจ้าก็ต่อปากต่อคำกับข้าได้ซะแล้ว แบบนี้ก็ให้ความรู้สึกแปลกๆไปอีกแบบนะ”ฮาลยิ้มทะเล้น รอบยิ้มนี้ดึงดูดสาวๆมามากมายแต่ใช้ไม่ได้กับคนตรงหน้าซักที
“ท่านนี่ช่างเจ้าชู้ซะจริง ต้องเปลี่ยนคู่แล้วนะ”หญิงสาวเอ่ยเตือนเบาๆ
“น่าเสียดายจัง”ถึงคำพูดจะบอกแบบนั้นแต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากนั้นเมย์ก็ยังคงผลัดคู่เต้นต่อไปเรื่อยๆอีกซักพัก จนกระทั่งเริ่มรู้สึกเหนื่อยจึงค่อยๆปลีกตัวออกมา
“เหนื่อยไหม?เมย์”เฟริโอน่ายื่นแก้วน้ำเย็นๆให้
“ขอบคุณค่ะพี่เฟริน”หญิงสาวรับแก้วด้วยความยินดี
“เนื้อหอมใหญ่แล้วนะเรา หุหุ เลือกได้ซักคนไหนละ?”เฟริโอน่าถามกระเซ้า เดิมทีงานเต้นรำพวกนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้หญิงสาวไม่ต้องรู้สึกเหงากับการจากไปของคนๆหนึ่งแต่หลังๆมานี่รู้สึกจะมีพวกที่ฉวยโอกาสเข้ามาขายขนมจีบกับน้องสาวที่แสนน่ารักของเธออยู่บ่อยๆ
“พี่เฟรินอย่าพูดแบบนี้ซิ ทุกคนเขาก็แค่ล้อเล่นกันน่า”เมย์ดื่มน้ำอย่างไม่ใส่ใจ
“ซื่อจริงๆน๊า~~ เมย์จังที่แสนน่ารัก~”เฟริโอน่ากอดคอหญิงสาวจากด้านหลังทำให้น้ำกระฉอกออกมาเล็กน้อยเพราะไม่ทันระวัง
“โธ่ ทำแบบนี้เดี๋ยวน้ำก็หกหรอก พี่เฟรินละก็”
“คิกๆ ขอโทษจ้า”
“เมย์”เสียงของท่านเทนโรว์เรียกบุตรสาว
“มีอะไรเหรอค่ะท่านเทนโรว์?”หญิงสาวมองตามไป
“ข้ามีของอยากจะให้ ตามข้ามาหน่อยซิ”ชายหนุ่มเดินเข้าไปในป่าที่ห่างออกไปจากงานเลี้ยง เมย์ขอตัวและเดินตามไปจนมาถึงริมทะเลสาบที่ทอประกายและระยิบระยับไปด้วยแสงของดวงดาวที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ
“ท่านเทนโรว์ที่นี่คือ..?”หญิงสาวมองไปยังสภาพรอบๆที่งดงามจับตามอย่างธรรมชาติ
“สวยดีใช่ไหม? ข้ายังไม่เคยภาพเจ้ามาที่นี่ คิดว่าเจ้าน่าจะชอบ”รอยยิ้มบางๆถูกฉาบลงบนหน้าของชายหนุ่ม
“ค่ะ ชอบมาก เอ๊ะ? หรือว่าของที่จะให้นี่คือ..?”
“อ่า..ไม่ใช่หรอก สิ่งนี้ต่างหาก”เทนโรว์หยิบจี้หยดน้ำสีน้ำเงินใสที่ตัวสร้อยถูกแกะสลักเป็นรูปเถาไม้เลื้อยอย่างประณีตเอาไว้ขึ้นมา
“สร้อย? ที่งดงามขนาดนี้...ท่านให้ข้า?”หญิงสาวมองดูสร้อยที่อยู่บนมือบิดา
“สร้อยนี้ จอคอยปกป้องคุ้มครองเจ้า ห้ามให้ห่างกายเด็ดขาด”สีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเห้นมาก่อนสร้างความประหลาดใจให้กับหญิงสาว
“ท่านเทนโรว์?ท่านดูจริงๆจังแปลกๆนะ แค่สร้อยข้าไม่ทำหายหรอกน่า ท่านอย่ากังวลเลย”หญิงสาวยิ้มส่งให้ แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้าเศร้า
“เมย์ ข้าให้สิ่งนี้กับเจ้าเพราะข้าคิดว่าซักวันเจ้าคงจากข้าไป”
“ข้าจะจากไป?”
“ทุกวันเจ้ายังคงเฝ้าคิดถึงแต่เจ้าหมอนั่น ข้ากลัวว่าเจ้าอาจจะแอบออกไปนอกอาณาเขตคุ้มกันของข้า เพราะฉะนั้น ข้าจึงมองสิ่งนี้ไว้แทนตัวข้า มันจะช่วยปกป้องเจ้าให้พ้นจากพวกปีศาจที่คิดไม่ดีและป้องกันไม่ให้ตัวตนของเจ้าสะดุดตาพวกมันมากเกินไป”
“ตัวตนของข้า???”เมย์เลิกคิ้วขึ้นถามเสียงสูง นางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น จะไปโดดเด่นอะไร
“เอาเถอะ ยังไงก็ตาม ไม่ว่ายังไงก็ห้ามถอดเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“นี่หมายความว่าทานยอมให้ข้าออกไปข้างนอกได้แล้วซินะคะ!”หญิงสาวตาเป็นประกาย ยอดไปเลย!
“บอกไว้ก่อนเลยนะว่าข้าไม่ได้ยินดีกับการที่เจ้าจะออกไปข้างนอกซักนิด”เทนโรว์ขมวดคิ้วยุ่งขณะใส่สร้อยให้กับบุตรสาว
“ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณนะคะ ข้ารักท่านที่สุดเลย”เมย์กอดชายหนุ่มอย่างเอาใจ เขาอุส่ายอมลงให้ถึงขนาดนี้นี่นา ต่อจากนี้ไป แปลว่าไม่ต้องรออีกแล้ว นางจะออกไหตามหาเขาเอง ออกไปตามหาคนคนนั้น ออกไปตามหาฮาคุริว!!!
ความคิดเห็น