ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHORTFIC l EXO ✿

    ลำดับตอนที่ #1 : SF KRISBAEK - เรื่องจริง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 799
      0
      5 พ.ค. 56

     

     

    เรื่องจริง




    singular






    ถ้าหากคุณ....เคยชอบใครสักคน

     

    มันออกจะยากเกินไป ถ้าจะลบเขาออกไปในหัวใจ

     

    และมันจะยากยิ่งกว่านั้น.....ถ้าเขาเป็นคนสนิทของคุณ

     

     
     

     

     

    “แบคฮยอน” เสียงเรียกของคนที่สนิทสนมกันยิ่งกว่าใครเอ่ยขึ้น คนตัวเล็กที่ถูกเรียกหันไปมองตามต้นเสียงก่อนรอยยิ้มสดใสจะปรากฏขึ้นอย่างดีใจ 

     
     

    “นานเกินไปแล้ว” เสียงใสเอ่ยขึ้น พร้อมกับใบหน้าเล็กยู่ลงเล็กน้อย ใบหน้าหวานเอียงคออย่างน่ารัก แบคฮยอนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หลังจากคนที่นัดรวมตัวออกจะมาสายกว่าเวลาเล็กน้อย

     

     

    “ขอโทษหน่า แล้วชานยอลกับลูฮานละ” คำถามถูกเอ่ยขึ้น เมื่อพบเพียงคนตัวเล็กนั่งอยู่คนเดียว ทั้งที่นัดกันไว้สี่คน

     

    “เดี๋ยวคงมาพร้อมกันน่ะ” ตาเรียวเล็กไล่มองร่างสูง เสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงเข้ารูปยังคงทำให้คนตรงหน้าดูดีกว่าใครเป็นไหน ๆ แบคฮยอนปฏิเสธไม่ได้ว่าแอบหลงรักเพื่อนสนิทคนนี้ไปมากเท่าใด อาจจะมากพอจนไม่สามารถเลิกรักได้

     

     
     

    แต่สิ่งที่เขารู้ตัวดีก็คือความรัก......ที่ไม่มีวันได้รับตอบคืนมาเกินกว่าคำว่าเพื่อน

     

     

     

    คริสยังคงนั่งเงียบสนใจกับสมาร์ทโฟนตรงหน้า จนลืมไปว่ามีใครบางคนนั่งมองเขาอยู่ด้วย  ใบหน้าหวานยิ้มอย่างเศร้า ๆ  คริสเป็นแบบนี้เสมอ เวลาที่อยู่กับเขาสองคน บางทีก็เล่นด้วยจนทำให้หัวใจพองโต แต่บางครั้งกลับไม่สนใจจนทำให้หัวใจดวงน้อยมันอดไม่ได้ที่จะแห้งเหี่ยวเสีย

     

    “คริส..ถ่ายรูปกันไหม”

     

    “หืม”

     

    “ถ่ายรูปไง”

     

    “อืม เอาสิ”

     

    ใบหน้าหวานเลื่อนเข้าไปใกล้อีกคน รอยยิ้มหวานถูกส่งให้กล้อง พร้อมกับคนด้านข้างที่แนบแก้มเข้ามาจนชิดกัน

     

    แชะ

     

    สนิทกันเกินไป....ใกล้กันเกินไป

     

     

    “เออ ดูดีอ่ะ แต่แกน่ายิ้มหน่อยนะ เก๊กอยู่ได้”  บางทีรอยยิ้มบาง ๆ ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนหัวใจที่เต้นแรง

    “ผิดตรงไหน คนมันหล่อ” ไม่ทันพูดจบได้นาน มือเล็กหวังจะผลักหัวคนที่บอกว่าหล่อข้าง ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าอีกคนดันเล่นด้วยจนเกิดการยื้อไปมา เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วชานชราที่ไร้ผู้คน

     

    “เฮ้อ ทำไมนานจังนะ”

     

    “ง่วงหรือไง”

     

    “อืม อุส่ามาที่นี่คนแรกเลยนะ ชิ แล้วจะบอกทำไมให้มาแต่เช้า” ปากเล็กยู่เข้าอย่างน่ารัก ก่อนมือเรียวจะควานหาแว่นกันแดดสีชาในกระเป๋าขึ้นมาสวมไว้

     

    “ง่วงก็นอนก็ได้นิ พิงมาดิ”

     

     

    เสียงหัวใจมันดังเกินไปอีกแล้ว

     

     

    “แหวะ ถ้าหล่อจะพิงอยู่หรอก”

     

     

    “เห้ย...” เสียงใสร้องอย่างตกใจ ไม่ทันตั้งตัวที่คริสกดหัวของตัวเองลงบนบ่า

     

    “ง่วงก็นอน แค่นั้นแหละ” คริสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความห่วงใย จนหัวใจด้วยน้อยมันชุ่มชื่นขึ้นมาราวกับมีเจ้าของตัวจริงมารดน้ำให้ ถ้าเปรียบหัวใจของแบคฮยอนเป็นต้นไม้ คริสก็เปรียบเสมือนน้ำ จะเหี่ยวจะเฉา มันก็ขึ้นอยู่กับคนดูแล แต่..มันผิดตรงที่ คริสไม่ได้รับรู้ด้วยน่ะสิ ว่ามีหัวใจดวงน้อยดวงนี้อยู่ด้วย

     
     

    “อือ ขอบใจ”

     

     

    แล้วแบบนี้จะไม่ให้คิดได้ยังไง

     

     

     

    นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่หลับไป เปลือกตาบางกระพริบถี่ ๆกับแสงแดดที่แยงเข้าตา หัวไหล่ของคริสที่เป็นหมอนก่อนหน้าก็หายไป คนตัวเล็กหันมองรอบข้าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 

     

    “แบคฮยอน”

     
     

    ร่างเล็กของเพื่อนสนิทอีกคนอยู่ตรงข้ามของฝั่งถนน พร้อมกับเพื่อนสนิทตัวสูงอีกสองคน แล้วทำไมเขาถึงยังอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ?  คนตัวเล็กขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มตอบรับคนฝั่งตรงข้ามที่โบกไม้โบกมือให้

     

     

    “เสี่ยวลู่”

     

    “อา ขอโทษนะที่มาช้า”

     

    “อืม”

     

    “เพราะชานยอลแท้ ๆ เลย” ใบหน้าหวานใสหันไปโวยกับคนข้างตัวหลังจากที่ข้ามถนนมาอยู่ฝั่งเดียวกันแล้ว

    “เกี่ยวอะไรละ ช้าเองยังมาบ่น” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างปฏิเสธ

     

    “นี้ ไอบ้า ไม่จริงเลยนะแบคฮยอนอา”

     

    “อืม”

     

    “อะไรกัน แบคฮยอนพูดแต่ อืม อย่างเดียวเลย คริส ทำอะไรแบคหรือเปล่าเนี้ย”

     

    “จะบ้าหรือไง บ๊อง”มือของคริสถูกเคาะลงกลางหัวของคนตัวเล็กที่โวยวายอยู่

     

    “โว๊ะ อะไร เจ็บนะ ไม่เอาและ ไปขึ้นเรือกันเถอะ” ลูฮานจูงมือของแบคฮยอนให้เดินตาม ก่อนที่สัมภาระจะตกเป็นหน้าที่ของคนตัวสูงทั้งสอง

     

     

     

     

    “ลูฮาน ไหวหรือเปล่า”

     

    “อือ ไหวดิ”  คนตัวเล็กทั้งคู่ยืนจับกันอยู่บนเรือ หลังจากที่อีกสองคนมาสายก็เกือบทำให้ไม่ทันเรือ จะปฏิเสธขึ้นเรือที่เต็มแล้วก็คงจะไม่ได้ แต่ด้วยความสูงของทั้งคู่นี้แหละที่เป็นอุปสรรค ที่จับมันดันอยู่สูงเกินเอื้อมซะอย่างงั้น ไม่วายทำให้คนตัวเล็กต้องยืนเกาะกันเอง

     

    “มานี่มา” แบคฮยอนชะงักเมื่อเห็นทั้งคริสและชานยอลจับข้อมือของลูฮานที่กำลังเกาะตนเองอยู่คนละข้าง

     

    “เอ่อ...”

     

    “จะพากันหน้าคะมำทั้งคู่น่ะสิ” ชานยอลเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก ก่อนจะดึงมือของลูฮานให้ไปเกาะตนเองไว้

     

    “ปล่อย ยืนได้”

     

    “เตี้ยแล้วยังไม่เจียมอีก”

     

    แบคฮยอนยังคงยืนนิ่งฟังชานยอลกับลูฮานเถียงกันอยู่กับที่ จนคริสคว้าข้อมือเล็กไว้ให้มาอยู่ข้าง ๆ

     

     

     

    “เป็นอะไรหรือป่าว”

    “ห๊ะ!...อ่อ ไม่ได้เป็นอะไร ทะเลมันสวยดี”

     

     

    ก็แค่....เห็นสายตาคู่นั้นที่มองตาม

     

     

     

    ถึงสักที..

     

     

    แบคฮยอนสวมแว่นกันแดดสีชาพร้อมกับผ้าผืนโตที่ชูขึ้นเพื่อบังแดด ทันทีที่ปลายเท้าเหยียบเข้ากับพื้นดิน ความรู้สึกโคลงเคลงยังคงอยู่จนแทบจะล้มพับลงไปกับพื้น ยังดีที่มีคนข้าง ๆ คอยเป็นที่ยึด

     

     

    “มึนขนาดนั้นเลยรึไง”  คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่ยืนอยู่นิ่ง ๆ เท่านั้น

     

     

     

    “แบคฮยอน” ทำไมเขารู้สึกราวกับว่าวันนี้มีคนเรียกชื่อเขาเยอะเหลือเกินนะ  ร่างเล็กหันไปมองตามเสียง ก่อนที่แรงกอดจากคนตรงหน้าจะพุ่งเข้ามาหาโดยไม่ทันตั้งตัว

     

    “ไค”

     

    “อา คิดถึงจัง”  แบคฮยอนยิ้มให้กับเพื่อนอีกคน เพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจยิ่งกว่าอะไร คนที่รู้ทุกเรื่องของคนตัวเล็กคนนี้

     

     

    “ไม่เจอกันนานเลยนะไค” เสียงทักทายจากรอบข้างยิ่งดังขึ้นเรื่อย หนุ่มผิวแทนพยักหน้ารับก่อนจะจูงมือแบคฮยอนให้เดินตามเพื่อไปที่พัก

     

     

     

     

    “เป็นยังไงบ้าง”

     

    “หืม”

     

    “แอบรักเพื่อนตัวเองไม่ใช่หรือไง”

    “เงียบไปเลย” คนตัวเล็กแทบจะกระโดดไปปิดปากเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โชคดีที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง หลังจากแต่ละคนต่างแยกย้ายไปห้องนอนของตัวเอง

     

    “ไม่คิดจะบอกเขาหรือไง นี้ก็มาเลี้ยงฉลองครั้งสุดท้ายก่อนจบแล้วไม่ใช่หรอ”

     

    “ไม่..มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

     

     

    ไม่มีวัน

     

     

     

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ที่คนตัวเล็กนั่งอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นมะพร้าว ตาเรียวเล็กเหม่อมองทอดไปยังสุดปลายฟ้า จนไม่ได้รู้สึกถึงใครบ้างคนที่นั่งลงข้างกายตนเองด้วยซ้ำ

     

    “มานั่งเล่นเอ็มวีอะไรคนเดียว”

     

    “....”

     

    “เห้ย  เป็นอะไร”

     

    เปล่าหรอก

     

    “แบคฮยอน ได้ยินหรือเปล่า”

     

    ผิดเองแหละ เขาผิดเอง

     

    “ตัวเล็ก” สรรพนามที่ใช่เรียกเวลาที่เขาไม่สบายใจถูกเอ่ยออกมาจากคนตัวสูงข้าง ๆ

     

    “คริส”

     

    “หืม ว่าไงครับ”

     

    “ไคมีเรื่องมาปรึกษานะ มันแอบชอบเพื่อน คริสคิดว่าไง”

     

    “ไม่รู้สิ ชอบเพื่อนตัวเองเนี้ยนะ ตลกไปรึเปล่า”

     

    “อาจริงสิ คริสไม่ค่อยชอบเรื่องที่เอาเพื่อนมาเป็นแฟนนิ” แบคฮยอนขยับตัวเล็กน้อย พิงหัวลงกับต้นมะพร้าวก่อนจะถอนหายใจอย่างอ่อนแรง

     

     

    อีกเรื่องที่แบคฮยอนรู้ดี....

     

     

    “ให้คำปรึกษาไม่ได้เลยสินะ โทษที” ใบหน้าหวานหันไปมองคนข้างๆก่อนจะยิ้มออกมา

     

    “บ้ารึไง ไม่เป็นอะไรหรอก”

    “ตัวเล็ก เป็นเพื่อนที่น่ารักที่สุดในโลกเลย” แก้มนิ่มถูกหยิกเล็กน้อยจากคนข้างๆ  ดวงตาเล็กสั่นไหวชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนบางๆ

     

     

     

    บางทีรอยยิ้มก็ไม่ได้แสดงถึงความสุขเสมอไป

    มันเป็นเพียงการแสดงออกถึงความเศร้าในอีกมุมมองหนึ่งต่างหาก..

     

     

     “ลูฮานกับชานยอลมาแล้ว ไปเล่นน้ำเถอะ”
     

    “หืม ไม่เล่นด้วยกันหรือไง”
     

    “ไม่อ่ะ ไม่อยาก”
     

    “ตลกไปแล้ว มาทะเลนะ”  ใบหน้าเรียวส่ายหน้าทันทีที่สัมผัสได้ถึงมือของอีกคนที่กำลังจับข้อมือตนเองแน่น
     

    “ไม่เอา คริส ไม่เล่นหน่า ” ยิ่งพูดก็ยิ่งไร้ความหมาย เมื่อร่างสูงดึงคนตัวเล็กขึ้น ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นแนบอก

     

    “คริส ทำไมต้องอุ้มแบคฮยอนอย่างนั้นด้วย นี้...”  ลูฮานเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ พอๆกับชานยอลที่ยืนมองอยู่  แบคฮยอนจิกเล็บลงกับไหล่แกร่งอย่างห้ามไม่ได้

     

     

    กลัวน้ำ...

     

    คนคนนี้ไม่รู้เลยบ้างหรือไง

     

     

     

    ร่างสูงที่ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดถึงความหวาดกลัวของคนในอ้อมอก ได้แต่เดินลุยน้ำทะเลลงไปจนความสูงนั้นลึกพอประมาณ  ทันทีที่คริสปล่อยตัวแบคฮยอนลง มือเล็กยังจิกไหลของคริสแน่น  ใบหน้าหวานซบกับอกของคนตัวสูง ซ่อนดวงตาที่เริ่มแดงก่ำไว้

     

    “ตัวเล็ก เป็นอะไรหรือเปล่า” หัวทุยส่ายไปมา ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

     

    “พ..พาไปที่ตื้นกว่านี้หน่อย”

     

    “อือ”

     

    ทันทีที่ปลายเท้าสัมผัสได้ถึงผืนทรายใต้น้ำ  ขาที่พยุงตนเองทั้งสองข้างแทบไร้เรี่ยวแรง แบคฮยอนหลับตาลงก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจของตนเอง  

     

    หากเป็นคนอื่นคนไกล ก็คงจะรู้สึกสับสนกับการกระทำของร่างเล็ก แต่สำหรับเสี่ยวลู่ เพื่อนคนนี้เข้าใจ และรู้เกี่ยวกับแบคฮยอนทุกๆอย่าง ใบหน้าหวานตื่นตกใจเมื่อเห็นหน้าซีดๆ ของเพื่อนตนเองราวกับว่ามันกำลังจะซีดลงเรื่อยๆ ในไม่ช้า

     

    “แบคฮยอน เป็นอะไรหรือเปล่า”
     

    “อือ ไม่เป็นอะไร”
     

    “ขอโทษนะ ไม่สบายหรอกหรอ” คนตัวสูงที่เป็นต้นเหตุเอ่ยขึ้น ใบหน้าหวานที่กำลังจะหันมาโวยก็ต้องชะงัก เมื่อมีมือของแบคฮยอนมาจับไหล่ไว้

     

    มันก็คงไม่แปลกหรอก...

     

    “ไม่เป็นอะไรแล้ว ลูฮาน” คำพูดของแบคฮยอน พร้อมกับสายตาที่อ้อนวอนนั้นทำเอาลูฮานอดที่จะปฏิเสธไม่ได้

    “ก็ดีแล้ว รีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ”

     

    .

    .

     

     

     

    ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มสัมผัสสายน้ำที่กำลังชำระร่างกาย  มือเล็กทั้งสองข้างเลื่อนโอบกอดไหล่ตนเองไว้แน่น  พาลนึกถึงใบหน้าของอีกคนที่ลอยแทรกมาก็อยากจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่  ตอนที่ทั้งสองคนยังไม่รู้จักกัน ตอนที่ทั้งคู่ยังไม่ได้เริ่มความสัมพันธ์ด้วยคำว่าเพื่อน  หากแต่เวลาที่เดินผ่านมาแล้วย่อมย้อนกลับไปไม่ได้

     

     

    ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วนะ

     

     

     

    บยอน แบคฮยอน ...... ผู้แสนโง่เขลา

     

     

    .

     

    .

     

     

     

    เย็นมากแล้วแต่แบคฮยอนก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม  คนตัวเล็กยืนกอดอก สายตาคู่สวยเหม่อมองออกไปอย่างล่องลอย แบคฮยอนก้มมองนาฬิกาในข้อมือ อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่เพื่อน ๆ นัดตน ผ้าคลุมสีน้ำทะเลผืนบางจึงถูกนำมาคลุมตัวไว้ 

     

    คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินออกมาริมหาด ปลายเท้าเปล่ายวบลงไปในผืนทรายทุกครั้งที่ก้าวเดิน  ไม่ไกลมากนักที่เห็นเพื่อนของตัวเองกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ ช่วงเวลาที่ดูมีความสุขของเหล่าเพื่อนฝูง ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกถึงมันเลยนะ?

     

    ร่างบางหลับตาลง หวังจะให้ความรู้สึกของตัวเองมันหายไปกับลมที่พัดผ่านมา

     

    “แบคฮยอน”

     

     

    หยุด

     

     

    “ตัวเล็ก”

     

     

    หยุดได้แล้ว

     

     

    “เป็นอะไรหรือเปล่า” ทันทีที่ลืมตา รอยยิ้มของคริสที่ดูเป็นห่วงเป็นใยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า  รอยยิ้มที่เห็นแล้วทำให้หัวใจของแบคฮยอนอดเต้นแรงไม่ได้

     

    เขาเองใช่ไหม ที่ควรจะหยุด

     

    “จะเป็นอะไรได้ล่ะ อากาศมันดี เสียอารมณ์หมดเลย”

     

    “ฮ่าฮ่า ไอตัวแสบ ไปกันเถอะ” แต่ มือของฝ่ายตรงข้ามที่เอื้อมมาหวังจะจับก็ต้องชะงักลงหลังจากแบคฮยอนขยับตัวหนี

     

    “เป็นอะไรไป”

     

    “เปล่า เดินเองได้”

     

    “โหวว...”

     

    “โอ้ย หัวยุ่งหมดแล้วนะ”

     

    เสียงหัวเราะของลูฮานและชานยอลดังยิ่งขึ้นเมื่อเดินเข้าไปใกล้ อาการหยอกล้อของทั้งสองคนนั้นช่างดูน่ารักและเหมาะสมกันอย่างยิ่งสำหรับบยอน แบคฮยอน  แต่มันคงไม่ใช่สำหรับใครบางคนที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ตัวเขา  คนนำเที่ยวอย่างไคหันมายิ้มให้แทนก่อนที่จะฉุดร่างเล็กๆนั้นลงไปนั่งข้าง ๆ

     

    “กินอะไรไหม”  เสียงทุ้มของคนที่นั่งด้วยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
     

    “ไม่หรอก ยังไม่หิว”  พลันสายตาหันไปเห็นร่างสูงของคนที่เดินมาด้วยกันก่อนหน้านั่งดื่มแอลกอฮอล์หน้านิ่ง ดวงตาใสเกิดอาการวูบไหวขึ้นทันที  อาการหม่นหมองในสายตาของคริสที่แบคฮยอนสังเกตเห็นทำเอาร่างเล็กอดใจหายไม่ได้

     

     

    เพราะเขารู้ว่า คริสชอบลูฮาน

     

     

    ถึงแม้จะยินดีที่ชานยอลและลูฮานแอบมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเกินเพื่อน  แต่อีกด้านนึงของหัวใจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกเจ็บแทนทุกครั้งเมื่อเห็นสายตาของคริส

    ร่างบางถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า คิ้วเรียวขมวดจนแทบจะชิดติดกัน ใบหน้าหวานแสดงอาการออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว จนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กาย หัวเราะออกมา

     

    “นี้ แสดงออกมาขนาดนี้ เจ้านั่นยังไม่รู้อีกหรอ”

     

    “อ.อะไร”

     

    “บยอน แบคฮยอน โกหกไม่เก่งเลย เล่นละครไม่ได้เรื่องด้วย”

     

    “พูดอะไรกันไค” เสียงหวานกระซิบแผ่วเบาหวังจะได้ยินกันเพียงสองคน

     

    “ก็รู้ตัวอยู่แล้วนี้  นายแสดงอาการออกขนาดนี้ ไอบ้านั้นยังไม่รู้ตัวจริง ๆ หรือไง หรือยังทำตัวแกล้งไม่รู้กันแน่ โอ้ย...”  นิ้วเรียวหยิกไปยังต้นขาของอีกคนอย่างหมั่นไส้

     

    “พูดอะไรแบบนี้เล่า จะรู้ได้ยังไงล่ะ”

     

    “ทำไมคนน่ารักอย่างแบคฮยอนถึงได้แอบรักเขาข้างเดียวกันนะ”

     

    “...เพราะมีคนน่ารักกว่าให้เขารักไง ถามแปลก” เสียงหวานที่แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ มองไปยังใบหน้าของเพื่อนรัก

     

     

    ลูฮานน่ะ สวยจนเขาเทียบไม่ได้เลยสักนิด

     

     

    เทียบไม่ได้เลย...

     

     

    เมื่อดวงตากลมโตของผู้ถูกมองหันมาสบตากันพอดี ร่างบางที่แอบมองอยู่สะดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อยอย่างตกใจ

     

    “แบคฮยอน เป็นอะไรหรอ”

     

    “ฮะฮะ  เปล่าหรอก แค่คิดอะไรเพลิน ๆ ”

     

    “คริส พอได้แล้วนะ” เสียงดุของลูฮาน ทำให้แบคฮยอนต้องเลื่อนสายตาไปมองคนที่ถูกกล่าวถึง คริสมองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกเพื่อนทั้งหมดจดจ้อง มีเพียงเสียงหัวเราะจากลำคอ ก่อนจะยกเครื่องดื่มในแก้วจนหมดอีกครั้ง นานเท่าไหร่ที่คริสนั่งดื่มอยู่คนเดียวอย่างไม่มีใครสนใจก็ไม่รู้ แค่ร่างเล็กทั้งสองคนก็ยังคงพยายามห้ามร่างสูงที่นั่งดื่นจนใบหน้าดุจเทพบุตรเริ่มแดงก่ำ

     

     

    “บอกให้พอไง เมาแล้วนะ”

     

    “รู้แล้วหน่า”

     

    “ไป กลับห้องไปเลย”

     

    “เดินไปไหวไหม” แบคฮยอนเอ่ยแทรกขึ้นด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงพยักหน้าหงึกหงักให้พอรู้ว่ายังคงมีสติอยู่

     

    “งั้นเดี๋ยวฉันพากลับห้องเลยแล้วกัน ไปก่อนนะลูฮาน ไคด้วย ฝันดีนะ”

     

    “อืม ระวังตัวด้วย”

     

     

     

    แบคฮยอนออกแรงพยุงร่างสูงที่โงนเงนมาตลอดทางให้อยู่นิ่ง ๆ จนสามารถเปิดประตูห้องพักได้สำเร็จ พาร่างสูงลงไปนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว ร่างเล็กหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอยู่ครู่ หันมองอีกคนที่นั่งก้มหน้าเหมือนคนไร้สติ  ความเงียบเข้าปกคลุมจนเกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดอย่างที่แบคฮยอนไม่ต้องการ

     

    “ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วย”

     

     

    ทันทีที่หันหลังเพื่อออกไป ข้อมือเล็กก็ถูกกระชากด้วยมือใครอีกคน  คริสที่ยืนขึ้นเต็มความสูงค่อยก้าวเดินเข้ามาจนระยะห่างลดลงเรื่อยๆ ทำเอาร่างบางต้องถอยหลังจนชนกับบานประตูไม้ด้านหลัง

     

     

     

     

    “นายน่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?” ราวกับถูกมนต์สะกดของคนตรงหน้า

     

     

     

    บยอน แบคฮยอน ทำอะไรไม่ได้เลย

     

     

    ใบหน้าหวานถูกประคองโดยมือของอีกคน ร่างสูงค่อย ๆ ก้มใบหน้าลงมา จนระยะห่างเริ่มลดลง ก่อนริมฝีปากอ่อนนุ่มจะประทับตามบนริมฝีปากบาง กดจูบซ้ำ ๆ อย่างเนิ่นนาน จนเจ้าของริมฝีปากอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว

     

     

    แบคฮยอนคงจะรู้สึกดีที่สุดหากสัมผัสตรงหน้าเป็นเรื่องจริง ที่ร่างสูงเต็มใจมอบความรักให้กับเขา

     

     

     

    ไม่ใช่ใครบางคนที่เผลอเอ่ยชื่อเรียกออกมา....

                                      

     

     

     

    “ลูฮาน”

     

     

     

     

    ฮึก..

     

     

     

     

    “ป..ปล่อย”  มือเรียวเล็กออกแรงทุบอกคนตรงหน้าอย่างแรงแต่มันกลับไม่ส่งผลต่อร่างสูงเลยสักนิด

     

     

     

    ร่างบางปล่อยให้น้ำตาตนเองไหลออกมาเรื่อย อย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่าย ๆ

     

     

     

    เพราะบยอน แบคฮยอน เป็นได้เพียงเงาของใครอีกคน....

     

     

    “ค....คริส ปล่อยเถอะ” ยิ่งขยับถอยห่าง อีกคนก็ยิ่งแนบชิดเข้ามาเรื่อย ๆ

     

     

    “ลู..ฮาน.....” เสียงกระซิบที่แผ่วเบา แต่คนฟังกลับได้ยินมันชัดเจน

     

     

    จะตอกย้ำกันไปถึงไหนนะ...คริส

     

     

    .

     

     

    .

     

     

     

     

    นานเท่าไหร่ไม่รู้ ที่แบคฮยอนมัวแต่นอนลืมตาจมอยู่บนเตียง  ร่างเล็กขดตัวอยู่กับผ้าห่มผืนหนา อยากจะหายตัวไปจริง ๆ หายตัวไปให้ไกล 

     

     

    กับเรื่องจริงที่หนีไม่ได้

     

     

    คนหนึ่งคนที่เคยเห็นความรักของเขาบ้างไหม?

     

     

    ความรักของแบคฮยอนที่ไม่มีทางเป็นจริง ไม่เคยได้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ หยดน้ำตาใสไหลรินลงมาไม่ขาดสาย ริมฝีปากเม้มแน่นกลั้นเสียงจะอื้นของตนเอง  ความรู้สึกเจ็บปวดที่อดกลั้นมานาน ใบหน้าหวากซุกกับหมอนใบโต

     

     

    ยอมแล้ว

     

     

    แบคฮยอนยอมแล้วกับความพ่ายแพ้

     

     

    แพ้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่ม

     

     

    ห้ามหัวใจไม่ให้เจ็บไม่ได้เลย

     

    .

     

     

    .

                                                                            

     

     

     

     

    ขากลับท่าเรือที่ผู้คนพลุกพล่าน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ไม่สามารถทำให้แบคฮยอนรู้สึกดีขึ้นมาสักนิด ร่างบางยังคงยิ้มให้กับทุกคน รวมถึงคริส ที่เจ้าตัวจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้  กระเป๋าใบโตถูกเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

     

     

    สิ้นสุดกันที ความทรงจำครั้งสุดท้าย

     

     

    “แย่จัง นี้เราจะไม่ได้เจอกันจริง ๆ แล้วเหรอ”

     

    “พูดอะไรแบบนั้นยอล เราแค่เรียนจบนะ นัดมาเจอกันที่หลังก็ได้”

     

    “ครับ ครับ พูดผิดเองแหละ”

     

    “แบคฮยอน วันหลังเรามาเที่ยวกันแบบนี้อีกนะ”

     

    “ถ้ามีโอกาสนะ เราจะย้ายไปอยู่กับป๊าที่จีนแล้ว”

     

    “เฮ้ย ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ใบหน้าหวานเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เป็นเรื่องจริงที่แบคฮยอนตัดสินใจได้ไม่นานมานี้

     

    “กลับไปถึง ก็คงจะบินไปเลย”

     

    “ตลกไปแล้ว”

     

    “ที่บ้านเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วน่ะ”

     

    “แบคฮยอน”

     

    “.....” แบคฮยอนนิ่งเงียบกับเสียงหวานที่เรียกจากอีกคน เขารู้ดีในน้ำเสียงของลูฮาน เพื่อนรักคนนี้เข้าใจเขาทุกอย่าง

     

    “โชคดีนะ”

     

    “อืม”  ร่างบางพยักหน้าตอบรับ  สวมกอดเพื่อนรักตนเอง ก่อนใบหน้าหวานหันไปยิ้มให้กับคนที่ตนรัก

     

    “ไปแล้วนะ...คริส”

     

     

    คำกล่าวลาสุดท้าย....งั้นสินะ

     

    .

     

    .

     

     

     

     

    ร่างบางนั่งมองกระเป๋าใบโตที่ถูกจัดไว้อย่างดีตรงหน้า เมื่อถึงสนามบิน กลับได้แต่นั่งอยู่กับที่รอเวลาที่คืบคลานเข้ามาเรื่อย มือเรียวถือโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามามองชื่อที่ตนเปิดค้างไว้อย่างไม่รู้ตัว

     

     

    คริส

     

     

    ไม่รู้ว่าโชคชะตากลั่นแกล้งหรือไร โทรศัพท์ที่ถืออยู่ก็สั่นขึ้น ยิ่งเห็นชื่อที่หน้าจอยิ่งทำเอาร่างบางแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ แค่เพียงสไลด์เบา ๆ  เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีใจมากแค่ไหน 

     

     

    (แบคฮยอน)

     

    “ว่าไง”

     

    (ขอโทษนะ..)

     

    “คริส”
     

    คำขอโทษที่เอ่ยออกมาจากฝ่ายตรงข้ามทำให้แบคฮยอนได้แต่นั่งสงบนิ่ง แล้วเขาควรจะทำอะไรต่อไปล่ะ?

     

     

    (ขอโทษนะตัวเล็ก)

     

    “อืม”

     

    (..)

     

    “จะไปแล้วนะ”

     

    (..)

     

    มือเรียวกระชับกระเป๋าไว้แน่น หลับตาลง ยืนขึ้นเต็มความสูงเมื่อใกล้ถึงเวลา ก่อนจะเห็นร่างของใครอีกคนที่อยู่ในสายอยู่ตรงหน้า ตาเรียวเบิกขึ้นอย่างตกใจก่อนจะหม่นหมองลงเหมือนเดิม  แต่ใบหน้าหวานยังคงยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่คิดว่าตนเองจะไม่มีวันได้เอ่ยออกมาอีก คำพูดที่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะกล้าเอ่ยออกมา

     

     

     “ฉันรักนายนะ รักมาตลอด...”

     

     

    แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อมันมาถึงจุดสุดทางแล้ว....

     

     

    “แบคฮยอน....”

     
     

    “เราอย่าเป็นเพื่อนกันอีกเลย”

     

     

    เขากำลังจะบ้า...กำลังจะตายเพราะผู้ชายตรงหน้าไปอย่างช้าๆ

     

     

    “ขอร้องล่ะ”

     

     

    ร่างบางพยายามกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมา อยากจะไปจากที่ตรงนี้ซะเดี๋ยวนี้ แต่ทำไมขามันกลับไม่ก้าวเดินตามที่ใจสั่ง จนน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้  ไหล่บางสั่นระริก จนใครที่มองเห็นต่างรู้สึกหดหู่ไปตามกัน 

     

     

    “ตัวเล็ก...”

     

     

    “ข..ขอโทษ.....”  เสียงหวานสั่นพร่า เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก  ร่างบางหันหลังก้าวเดินออกมาอีกทาง

     

     

     

    “แบคฮยอน..”

     

     

     

    หากเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ร่างบางต้องหลับตาลง

     

     

     

    “แบคฮยอน...”

     

     

    เสียงเรียกชื่อของตนเองค่อย ๆ แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ

     

     

    ราวกับไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว

     

     

     

    แบคฮยอนก้มหน้าเดินจากออกมาอย่างไม่ยอมหันหลังกลับ

     

     

     

    เขาห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้เลยสักนิด ...ไม่ได้เลย

     

     

    ......จนวินาทีสุดท้ายที่จะจากกัน

     

     

    แต่ก­ลับต้องหนีหน้าเพราะกลัวคำพูดที่จะได้คืนกลับมา

     

     

    จะเก็บมันไว้­ในกล่องความทรงจำจากนี้และตลอดไ­

     

     

     

     

    หวังว่าโชคชะตาจะนำพาเรามาเจอกั­นอีกครั้ง อย่างที่มันพึ่งจะเป็น…..

     

     

     

    อู๋อี้ฟาน.....

     

     

     




     

     

     





     

    จบเถอะ  หลังจากที่คอมดับเพราะเรื่องนี้มากกว่าสิบรอบ T__T


    #TBC...อยากหยุดเวลา ;)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×