คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
หากมองคน อย่ามองแค่เปลือกนอก
กับคนบางคน แม้ใกล้ชิดจนรู้นิสัย แต่สันดานและจิตใจกับยากแท้หยั่งถึง เหมือนกลับเหรียญที่มีสองด้าน แต่เรากลับเห็นได้เพียงด้านเดียว...
ความบังเอิญหรือโชคร้ายที่ผ่านมาได้ยินเสียงคุ้นเคยดังแว่วมาจากในห้องน้ำ เป็นเพราะเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม เพราะความเป็นห่วง เลยต้องเดินมาตาม
“อ๊ะ~ คุณแจจุง~” “ไม่ผิดแน่ เสียงจากในห้องน้ำริมสุดเป็นเสียงของจุนซู ดีที่ยังไม่มีคนเข้ามา เขาอยากให้ตัวเองหูฝาดเหลือเกิน จุนซู...นายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือฉันดูแลนายไม่ดีพอ
.
.
.
ร่างเล็กยังคงนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำด้วยความเจ็บปวดที่สะสมมานาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแจจุงยังคงค้างคาหากไม่ได้ชำระสะสางก็เหมือนมีตะกอนเกาะในหัวใจอยู่อย่างนั้นไม่จบสิ้น
ความเจ็บปวดในหัวใจจะสิ้นสุดลง...หากเขาได้เลือกเดินออกมา แม้ความรักจะยังคงอยู่ แต่หากหัวใจไร้สิ่งหล่อเลี้ยงที่เรียกว่า ‘ความสุข’ เขาคงต้องจมปรักอยู่กับความทุกข์ จนมองไม่เห็นอะไร
แม้จะคิดได้...แต่หากถามตัวเองว่าเคยทำได้สักครั้งมั้ย? คำตอบคือไม่
แต่ครั้งนี้...เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ
“พอสักที!” จุนซูเปิดประตูห้องน้ำออกมา พร้อมทั้งล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ก่อนจะเงยขึ้นมองดูตัวเองในกระจก หน้าตาเขาดูซีดเซียวและหมองหม่นขนาดนี้เชียวเหรอ? หากไม่มองตัวเองเสียบ้าง คงจะต้องหลับหูหลับตาทำร้ายตัวเองไปอีกนาน
ร่างเล็กเดินเข้ามานั่งที่เดิมก่อนจะเหลือบมองยุนโฮที่มัวแต่นั่งนิ่งเฉย ไม่คิดจะเอ่ยถามสักคำว่าทำไมเขาถึงมาช้า เขารู้สึกไม่ชอบให้พี่เขยทำสีหน้าเฉยชาแบบนั้น...มันรู้สึกไม่ดีแปลกๆ
ดวงตาเรียวเผลอหันไปสบเข้ากับสายตาคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ไกลพอสมควร ก่อนจะเบี่ยงสายตาไปยังผู้หญิงอีกคนที่เข้ามานั่งกับแจจุงด้วย เพียงแค่นั้นก็กรีดใจเขาจนเจ็บไปหมด
ยุนโฮมองตามสายตาที่จุนซูมองไป...ก็พอจะรู้ ว่าสาเหตุที่จุนซูร้องไห้เป็นเพราะอะไร
“ฮึ่ก...” จุนซูหันมาก้มหน้าสะอื้นไห้ เพราะกลั้นไว้ไม่อยู่ แม้จะต่อหน้าพี่เขยเขาก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้แล้วจริงๆ
“เป็นอะไร..” ยุนโฮถามเสียงเรียบ แต่จุนซูก็ยังคงก้มหน้าร้องไห้ไม่พูดไม่จา “ฉันถามว่าเป็นอะไร!”
กระทั่งยุนโฮไม่สามารถระงับโทสะของตัวเองไว้ได้ คำถามเมื่อครู่จึงเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและโมโหของคนถาม ทั้งที่คิดว่าอยากจะถามดีๆแล้วเชียว แต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าร้องไห้อยู่แบบนั้น เขาไม่ชอบ!
“นายจะพูดออกมามั้ยจุนซู เป็นไบ้หรือไงฮะ!”เวลายุนโฮโมโหดูน่ากลัวจนจุนซูไม่กล้าเงยขึ้นมอง ได้แต่ระบายด้วยการร้องไห้อยู่แบบนั้นจนยุนโฮรู้สึกรำคาญ
“ได้...ไอ้หมอนั่นใช่มั้ย ที่มันทำให้นายร้องไห้เป็นบ้าอยู่แบบนี้” พูดจบยุนโฮก็ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งเดินเข้าไปหาตัวต้นเหตุ จุนซูรู้สึกตกใจเมื่อพี่เขยลุกพรวดออกไปแบบนั้นจึงรีบตามเข้าไปดึงแขน
“พี่ยุนโฮจะทำอะไร ผมไม่เป็นอะไร ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!” ยุนโฮสะบัดแขนจุนซูให้หลุดออกอย่างแรงจนร่างเล็กแทบล้ม
“ไม่ได้เป็นอะไรเหรอ นี่ถ้าฉันไม่แอบไปได้ยินอะไรในห้องน้ำ ก็คงโง่ ไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองเลี้ยงดูอยู่ ไปมั่วอยู่กับใคร!” แจจุงหันมามองยุนโฮกับจุนซูที่เดินเข้ามายังโต๊ะของตน ฮโยจูรู้สึกตกใจเสียงของยุนโฮที่ดูเหมือนจงใจจะเข้ามาหาเรื่องแฟนหนุ่มจนต้องหันไปมอง
“เอะอะโวยวายอะไรกัน คุณมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า” แจจุงพูดด้วยสีหน้าซื่อๆ ราวกับคนไม่ทุกข์ร้อนอะไร ต่างจากจุนซูที่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้น...เพราะเขาคนเดียวแท้ๆ
ผัวะ!
หมัดหนักๆต่อยเข้าที่ใบหน้าหล่ออย่างแรงจนแจจุงเสียหลักฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความแค้นใจ ฝ่ามือยกขึ้นเช็ดริมฝีปากที่มีเลือดไหลซิบอยู่มุมปาก
“นี่คุณ! อยู่ดีๆมาต่อยหน้าแจจุงทำไม นี่มันเรื่องอะไรกัน!” ฮโยจูยืนขึ้นต่อว่ายุนโฮที่จู่ๆมาก็เดินเข้าต่อยแจจุงคนรักของเขา
“ถามแฟนคุณโน่น ลับหลังน่ะ คิดว่ามันมีคุณคนเดียวเหรอ อย่ามองแฟนตัวเองในแง่ดีไปหน่อยเลย!”
“พี่ยุนโฮ...พอเถอะ พอได้แล้ว ผมขอโทษ เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง!” จุนซูเข้าไปกอด
ยุนโฮจากด้านหลังพร้อมทั้งร้องไห้อ้อนวอน นั่นก็ยิ่งทำให้ยุนโฮโมโหหนักกว่าเก่า พลางแกะฝ่ามือของจุนซูออกพร้อมทั้งผละตัวออกมา คนที่มันคอยแต่ทำร้ายจิตใจก็ยังมีหน้าไปเข้าข้างมันอยู่ได้!
ยุนโฮกระชากคอเสื้อของแจจุงให้ลุกขึ้นยืน กระนั้นแจจุงก็ยังไม่โต้ตอบอะไรนอกจากมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มเยาะยั่วโทสะ ความดุดันของยุนโฮทำให้จุนซูรู้สึกอยากจะกรีดข้อมือตายมันตรงนี้ เพราะเขาทำอะไรไม่ได้เลย ห้ามก็ไม่ได้..
“อย่ามายุ่งกับน้องของฉันอีก” ยุนโฮพูดเบาๆ แต่หนักแน่น
“ไม่รับปาก” แจจุงตอบกลับ ความแค้นที่โดนต่อยหน้าเมื่อครู่ทำให้เขาคิดแผนอะไรบางอยางหวังจะแก้แค้นให้คนตรงหน้าอกแตกตาย ฮโยจูและจุนซูไม่ได้ยินที่ทั้งสองพูด แต่แค่รู้สึกว่าคงเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน กระทั่งจุนซูต้องเข้ามาดึงยุนโฮให้ออกห่างจากอีกฝ่าย พร้อมทั้งกอดยุนโฮไว้แน่นๆ กลัวว่าพี่เขยจะเข้าไปทำร้ายแจจุงอีก
ยุนโฮใจอ่อน ยกฝ่ามือขึ้นลูบศีรษะจุนซูด้วยความสงสาร เขารู้ว่าจุนซูขาดความรัก เลยพยายามไขว่คว้าจากใครสักคน แต่ดันเลือกคนผิด...
แจจุงก็ได้แต่มองภาพนั้นด้วยความหงุดหงิด
“ไปคุยกันที่บ้านแล้วกัน” ร่างสูงจูงมือร่างเล็กเดินออกมา จุนซูไม่แม้แต่จะหันมามองแจจุงเลยแม้แต่หางตา เป็นแจจุงที่กลับมองตามแผ่นหลังนั้นไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“แจจุง คุณโอเคนะ” ฮโยจูเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“อืม ฉันโอเค เธอจะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ ว่าเกิดอะไรขึ้น?” แจจุงย้อนถาม
“ไม่ล่ะ...ฉันเชื่อใจคุณ” แจจุงยิ้มให้กับคนรักด้วยความรู้สึกผิด ยิ่งฮโยจูไม่แสดงท่าทีหึงหวงหรือจ้องจับผิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองผิดเต็มๆ
.
.
.
รถของยุนโฮขับเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์ ก่อนจะลงจากรถมาพร้อมกับจุนซูที่ดูเซื่องซึมไปตั้งแต่เหตุการณ์ที่ร้านอาหาร เมื่อเห็นร่างเล็กไม่พูดไม่จา ร่างสูงจึงเข้ามาสวมกอดเพื่อปลอบโยน
“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะไม่ถามอะไรแล้วถ้านายไม่อยากตอบ” ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแสดงความห่วงใย นั่นยิ่งทำให้จุนซูน้ำตาไหล พร้อมทั้งกอดตอบเพื่อรับไออุ่นเข้ามาเต็มๆ
“ผมขอโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมสัญญา พี่ยุนโฮอย่าเกลียดผมเลยนะครับ”
“ฉันเคยพูดด้วยเหรอว่าเกลียดนาย ไม่เอาน่า หยุดร้องไห้ได้แล้วถ้าไม่อยากให้ฉันโกรธ” ต่อไปเขาควรดูแลเอาใจใส่จุนซูมากกว่านี้ เขาจะเป็นผู้ปกครองและปรึกษาที่ดีเพื่อให้จุนซูรู้สึกอุ่นใจ
“พี่ยุนโฮอยากให้ผมทำอะไร ผมจะทำให้พี่ทุกอย่าง พี่ดีกับผมขนาดนี้ ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี”
ยุนโฮค่อยๆผละกายออกจากร่างเล็กก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้คราบน้ำตาของอีกฝ่ายให้จางหาย จุนซูมองยุนโฮตาแป๋ว เพราะความเอ็นดู ฝ่ามือหนาจึงค่อยๆยกขึ้นลูบศีรษะกลมเบาๆ
แม้จุนซูจะแปดเปื้อนยังไง แต่ก็ยังไร้เดียงสาในสายตาเขาเสมอ
“ไม่ต้องตอบแทนอะไรหรอก พี่อยากให้นายยิ้มเยอะๆ แล้วก็ร่าเริงเข้าไว้ อย่าทำตัวให้ฉันต้องเป็นห่วงอีก” จุนซูดูแล้วเข้าข่ายคนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า ซึ่งเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองหรือขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ เพราะฉะนั้นเขาควรดูแลจุนซูอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้ห่างไปไหน
“ยิ้มกว้างๆเลยใช่มั้ยครับ” พูดแล้วก็ยิ้มกว้างๆโชว์ฟันเรียงสวยให้อีกฝ่ายดู รอยยิ้มดูจริงใจและไร้เดียงสานั้น ไม่รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวหรือเปล่า ถึงได้มีความรู้สึกว่าอยากให้จุนซูยิ้มแบบนั้นให้เขาดูคนเดียว
คืนนี้ยุนโฮบอกให้จุนซูเข้ามานอนในห้องด้วย ในตอนแรกจุนซูบอกปัดเพราะกลัวจะเป็นการรบกวน แต่แล้วท้ายที่สุดก็ตอบตกลง เพราะคืนนี้เขาคงนอนคนเดียวไม่ได้เหมือนกัน
“ปิดไฟนอนเลยนะ” ยุนโฮหันมาถามจุนซูที่นอนขดอยู่ข้างๆและหันหน้ามาทางเขา ชายหนุ่มจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้อีกฝ่ายรวมถึงตัวเองด้วย
“ครับ..” เมื่อเห็นคนตัวเล็กตอบตกลง ยุนโฮจึงเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวนอน ไม่นานห้องทั้งห้องถูกปลุกคลุมด้วยความมืด แม้จะน่ากลัวแต่เมื่อได้ไออุ่นที่นอกเหนือจากผ้าห่มแล้วยังมีใครคนหนึ่งที่โอบกอดเขาไว้ก็รู้สึกอุ่นใจ...ความอบอุ่นที่อีกฝ่ายมอบให้ ทำให้ตัวเขารู้สึกดีและหลับตาลงพร้อมกับความสุขที่มีอยู่เต็มเปี่ยม
“ฝันดีนะจุนซู”
“พี่ยุนโฮก็ฝันดีนะครับ”
ทั้งสองคนนอนกอดอยู่บนเตียงเดียวกันตลอดคืน ต่างก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยไม่รู้ตัว และช่วงเวลาดีๆก็มักจะผ่านไปไวเสมอ....
เช้าวันต่อมา
วันนี้เป็นวันแรกที่ยุนโฮขับรถมาส่งจุนซูถึงโรงเรียน ทุกทีจะให้จุนซูนั่งรถประจำทางมาเอง แต่เห็นทีคงจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้อีกแล้ว
“เลิกเรียนกี่โมง”
“6 โมงเย็นครับ”
“โอเค เดี๋ยวฉันมารับ ห้ามเถลไถลไปไหนนะ อยากไปที่ไหนก็บอกฉัน เดี๋ยวจะพาไป”
“มีพี่ชายน่ารักขนาดนี้ ผมไม่กล้าหนีไปไหนแล้วล่ะครับ สัญญากับผมแล้วนะ ว่าจะพาไป ห้ามเบี้ยวด้วย”
จุนซูยิ้มอย่างอารมณ์ดีซึ่งแตกต่างจากวันก่อนโดยสิ้นเชิง นั่นก็ทำให้ยุนโฮรู้สึกดีไม่น้อย เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
“อืม ฉันสัญญา” พูดจบก็ขึ้นรถพร้อมขับออกไป จุนซูยืนมองตามจนกว่ารถคันนั้นจะลับสายตา แล้วจึงเดินก้มหน้าเพื่อเข้าไปข้างในมหาลัย
“ใครมาส่งน่ะจุนซู!” จุนซูสะดุ้งสุดตัว พร้อมทั้งหันมายังต้นเสียง
“โธ่ ยูชอน ตกใจหมด” ปาร์คยูชอนเพื่อนสนิทของเขาเอง
“ใช่พี่เขยของนายป่ะ” ยูชอนเดินกอดคอจุนซูพร้อมทั้งเดินเข้าโรงเรียนมาพร้อมกัน จุนซูเคยพูดถึงยุนโฮให้ยูชอนฟังก็เลยเอ่ยถามออกไปเมื่อเห็นคนที่มาส่งเพื่อนตนเมื่อครู่นี้
“อืมใช่ เขาดูดีใช่มั้ยล่ะ” ร่างเล็กยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงพี่เขย
“ก็...งั้นๆแหละ” ยูชอนนิสัยออกจะห้าวๆ และมักจะปากแข็งแบบนี้เสมอ...เขารู้ว่าเพื่อนสนิทก็สนใจพี่เขยตนอยู่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคนอย่างยูชอนคงไม่ถามหรอก
6 โมงเย็น
ยุนโฮเพิ่งประชุมงานเสร็จ แต่ก็รีบออกจากบริษัททันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องไปรับคนตัวเล็กที่มหาลัย พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของจุนซู วันนี้ว่าจะพาไปซื้อของที่เจ้าตัวอยากได้ เจ้าตัวเล็กคงจะตื่นเต้นน่าดูสินะ หากเขาจะพาไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ไม่ใช่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน
ที่มหาลัย
“จุนซู เรากลับก่อนนะ รอคนเดียวได้ใช่มั้ย”
“อื้ม ได้สิ ยูชอนกลับไปก่อนเหอะ” เมื่อเห็นเพื่อนสนิทยืนกรานที่จะอยู่รอยุนโฮคนเดียวหน้ามหาลัย ยูชอนจึงขึ้นรถประจำทางไปเพื่อกลับบ้าน
“เดี๋ยวสักพักพี่ยุนโฮคงจะมาแล้วล่ะมั้ง” จุนซูพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับยิ้มออกมา วันนี้เขารู้สึกมีความสุขมาก เพราะหากไม่คิดเรื่องของแจจุงหัวใจก็เหมือนไม่ได้แบกอะไรไว้ เมื่อไม่มีความทุกข์ นั่นก็คงจะเรียกว่าความสุขสินะ
คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมเอาหูฟังเสียบหูเพื่อฟังเพลง เขาหลับตาลงเพื่อซึมซับเสียงเพลงและเสียงดนตรีที่ทำเอาเคลิ้มจนเข้าสู่ห้วงภวังค์ แต่แล้วใครคนหนึ่งกับดึงสายหูฟังออกจากหูเขา จุนซูรู้สึกตกใจ จึงเงยหน้าขึ้นมองคนเสียมารยาท
“คุณ...แจจุง” และนั่นก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่า เมื่อคนที่เขาไม่อยากเจอกลับมายืนอยู่ตรงหน้า นักศึกษาต่างมองมาที่ๆเขานั่งอยู่เป็นตาเดียว ผู้หญิงก็พากันชี้และส่งเสียงกรี๊ด เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา คือนักร้องชื่อดังอย่างคิมแจจุง
“มีอะไรจะคุยด้วยหน่อย...ขึ้นรถ”
“แต่ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” จุนซูเน้นเสียง จากเด็กที่ตามใจเขามาตลอด กลับมาดื้อรั้นใส่แบบนี้ เขายิ่งรู้สึกขัดใจ แล้วเขาก็ไม่ชอบสายตาของจุนซูตอนนี้เลย มันดูห่างเหินเกินไป
“แต่ฉันมี”
ณ จุดนี้ อยากจีบอกกับคนอ่านว่า
.............................................
5555555555555 เป็นยังไงบ้างคะคุณผู้อ่าน เย้ยยยยย ดูเจ๊มดจนขึ้นสมองแล้ว ก๊ากกกกกกกกกก
ห่างดราม่ามานานมากก้าาาา ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้นะคะ เดี๋ยววันจันทร์ไรท์ต้องไปฝึกงานแล้ว
เลยแต่งๆ ลงๆ ไว้ก่อน เรื่องนี้ฟีลตอนกลางคืน อุ้มรักแจซูฟีลมากลางวัน ฮ่าๆๆๆๆๆ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ลงอุ้มรักค่ะ ลงบ่อยชิมิคะ เบื่อแล้วสิท่าาาาาาาาาาาาา
ใครอ่านแล้วไม่เม้น เค้าเสียใจ ...........................
ปล.(หัด)ทำ opv ค่ะ เลยเอามาฝาก คือมันไม่เกี่ยวกับฟิคนะ แต่ลองๆทำวีดีโอของแจซูดูบ้างอ่ะค่ะ ^^
http://www.youtube.com/watch?v=TvaiXwKreNI&feature=youtu.be
ความคิดเห็น