ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction TVXQ] Foxglove : 2Kim

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 55


    Chapter 1


              ร่างเล็กดูบอบบางเดินไปตามทางฟุตบาท  ข้างทางเป็นสวนสาธารณะดูร่มรื่นหากมาเดินเล่นในช่วงเช้าสูดอากาศบริสุทธ์ไปพลาง นั่นคงจะดีไม่น้อย  หากแต่เวลานี้ดูเปล่าเปลี่ยวชอบกล เงียบเสียจนได้ยินเสียงลมพัดผ่านคลอเคล้าไปกับเสียงใบไม้ไหว  วงแขนเล็กโอบกอดตัวเองเมื่อยามสายลมเย็นพัดปะทะร่างจนรู้สึกหนาวเหน็บ เพราะความที่ดึกมากจึงไม่มีผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น  รถสักคันก็แทบไม่มีวิ่ง  ครั้นชะโงกมองหารถแท็กซี่ก็ไม่มีผ่านมาสักคัน  ไม่รู้จะกลับบ้านได้อย่างไร

    บรื้นน!

    เสียงรถจากด้านหลังที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฉุดให้คนตัวเล็กหันหลังกลับไปมอง  แสงไฟคล้ายแสงสปอตไลท์จากหน้ารถคันหรูที่ขับเคลื่อนเข้ามาใกล้ส่องแยงตา  จนใบหน้าหวานต้องหยีตาน้อยๆด้วยความแสบ

    พี่ยุนโฮ พอปรับสายตาให้ชินกับความสว่างจากแสงไฟหน้ารถและเพ่งมองให้ชัดๆ ก็ถึงกับทำให้ร่างเล็กยืนแข็งทื่อ ดึกป่านนี้พี่ยุนโฮขับรถออกไปไหน  แล้วทำไมต้องบังเอิญขับผ่านมาเจอเขาด้วย

    รถคันหรูเคลื่อนเข้ามาช้าๆจนกระทั่งมาจอดข้างๆกับร่างที่ยืนอยู่

    ขึ้นรถเมื่อหน้าต่างรถถูกเลื่อนลงต่ำ  เสียงจากคนข้างในก็ดังขึ้น เป็นเสียงที่ดูไร้อารมณ์และเย็นชาจนหัวใจเขาสั่นกลัวไปหมด กระนั้นก็ยอมขึ้นมานั่งแต่โดยดี

    รถคันหรูเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็ว  จนมือเล็กเอื้อมจับเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้  พลางเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างๆอย่างกล้าๆกลัวๆ

    ทำไมดึกป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน

    ผ..ผมไปทำรายงานบ้านเพื่อนมาครับ โกหกหน้าด้านๆ หากบอกว่าแท้ที่จริงเขาไม่ได้ไปทำอย่างที่พูดออกมา แต่ไปนอนกับผู้ชาย คงจะโดนด่าและตำหนิว่าหน้าไม่อาย และพี่ยุนโฮคงมองเขาด้วยสายตาเหยียดๆ และรังเกลียดไปในที่สุด เขาไม่ต้องการ..แค่นี้พี่ยุนโฮก็เย็นชากับเขาเกินพอแล้ว

    แล้วทำไมไม่โทรมาบอกก่อน กลับบ้านดึกดื่นแบบนี้ ทางก็เปลี่ยว หากโดนลากไปข่มขืนใครจะช่วยนายได้

    พี่ยุนโฮขับรถมาตามผม..เพราะเป็นห..เพราะเป็นห่วงผมอย่างนั้นเหรอ  อยากจะพูดให้ครบประโยค แต่ไม่รู้คนข้างๆโมโหอะไรมาถึงได้เหยียบคันเร่งซะมิด  เมื่อยามเสมองไปตามทางทุกสิ่งทุกอย่างที่สายตามองเห็น ตึกรามบ้านช่องแม้กระทั่งต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมถนนก็เหมือนวูบผ่านไปเพียงชั่วพริบตา  พี่ยุนโฮไม่เคยขับรถเร็วแบบนี้เลย  กำลังโมโหเขาอยู่ใช่มั้ย? มันก็น่าอยู่หรอก

    พี่ยุนโฮได้แต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับพี่สาวของเขา และเป็นพี่เขยที่แสนใจดีกับเขามาโดยตลอด กระทั่งอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้พรากชีวิตผู้ที่เป็นพี่สาวไปอย่างไม่มีวันกลับ  เหตุการณ์ในวันนั้นได้เปลี่ยนแปลงพี่เขยที่ใจดีคนนี้ให้กลายเป็นคนที่เย็นชาไร้หัวใจไปโดยปริยาย

    และภาระที่บ้านตนหนักหน่วงเกินจะแบกรับ  เล่นหุ้นก็ถูกโกงจนล้มละลายเลยไม่มีปัญญาส่งเสียเขาร่ำเรียนหนังสือ จึงขอให้พี่ยุนโฮรับเขามาเลี้ยงดู และพี่เขยคนนี้ก็ตอบตกลงด้วยความเต็มใจ หากไม่ได้พี่ยุนโฮคอยส่งเสีย  เขาก็คงไม่ได้ศึกษาต่อมหาลัยดีๆอย่างปัจจุบันนี้  แสงสว่างในภายภาคหน้าของอนาคตคงริบหรี่และดับวูบ

    ผมอยากจะขอบคุณพี่สักพัน สักล้านครั้งแต่คงไม่เพียงพอที่จะตอบแทนบุญคุณอันมากล้นนี้ได้ ผมควรตอบแทนพี่ด้วยสิ่งไหน

    รถคันหรูเคลื่อนเข้ามาภายในคฤหาสน์ตระกูลชอง  ชายหนุ่มขับเอื่อยๆกระทั่งมาจอดยังที่จอดรถ พร้อมกับคนทั้งสองที่ก้าวลงจากรถมา  ก่อนยุนโฮจะเดินนำหน้าร่างเล็กไป  จุนซูไล้สายตามองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างเลื่อนลอย ไม่ว่าในเวลาที่เขาทำผิดหรือทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ  ก็ไม่เคยโดนด่าโดนว่าตักเตือนอะไร  แต่เขาอยากฟังคำพวกนั้น  อยากได้ยินคำด่าแรงๆจากปากพี่ยุนโฮให้ซึมลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึก  เพื่อช่วยย้ำเตือนหัวใจในเวลาที่เขาเผลอพลั้งทำผิด อย่างในวันนี้และที่เขากลับบ้านดึกแทบทุกวัน และใช้ข้ออ้างสารพัด ด้วยคำแก้ตัวซ้ำๆ  พี่ยุนโฮก็ยังไม่พูดอะไร  พี่ยุนโฮเชื่อเขา หรือทำเป็นไม่สนใจกัน

    ได้โปรด  ช่วยห้ามผมสักครั้ง และใช้ถ้อยคำแรงๆด่าผม   ให้ได้เข็ดและหลาบจำเพื่อที่ผมจะได้ไม่กลับบ้านดึกๆเพื่อไปหาใครคนนั้น   ผมไม่อยากโกหกพี่อีก...ผมไม่อยากทนเจ็บกับผู้ชายคนนั้นอีก

    ไม่สบายหรือเปล่า ฮึ  เมื่อเห็นคนข้างหลังเงียบไป จึงหันมามอง ก็พบว่าเจ้าตัวเล็กมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก  ทั้งยังเดินโงนเงนไปมาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ จึงเดินเข้ามาจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้   ดวงตาคู่สวยปรือปรอยใกล้จะปิดสนิทเข้าไปทุกที  ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองคนตรงหน้า  ก่อนจะฟุบหน้าลงบนแผงอกแข็งแรงพร้อมดวงตาที่ปิดกลั้นสนิท

    จุนซู..จุนซู ฝ่ามือใหญ่จับไหล่บางไว้พลางเขย่าเบาๆให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวแต่ก็ไร้ผล  ร่างสูงโปร่งจึงค่อยๆผละกายออกจากร่างที่สลบใสลนี้  พลางโน้มหน้าเข้าหาใบหน้าหวาน  ยกมือขึ้นอังหน้าผากที่ร้อนจี๋ บ่งบอกได้เลยว่าจุนซูกำลังโดนพิษไข้เล่นงาน

    แสงจันทร์ส่องกระทบลงบนใบหน้าขาวใสและลามไล้มาถึงต้นคอขาวเนียน ทำให้สายตาคมเหลือบเห็นร่องรอยสีช้ำบนต้นคอของจุนซู  และนั่นก็ทำให้หัวใจแกร่งถึงกับกระตุกวูบ ภายใต้หน้ากากที่ฉาบเรียบไปด้วยความเย็นชานั้น ใครเล่าจะรู้ว่าข้างในกำลังร้อนรนเดือดดาลถึงขีดสุด

    พรุ่งนี้..นายควรหาคำตอบที่ดีมาตอบฉัน เกี่ยวกับรอยที่คอนี้นะ คิมจุนซู

     

    แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันใหม่สาดส่องลอดม่านหน้าต่างสีสะอาดตาเข้ามาภายในห้องกว้าง  เงาสะท้อนพาดผ่านเปลือกตาบางที่ยังคงปิดกลั้นสนิทบนใบหน้าขาวใส แสงแดดที่ลอดผ่านมานั้นส่องกระทบลามไล้ไปทั่วเรือนกายของร่างเล็กที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ ไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวจะตื่นขึ้นจากนิทราง่ายๆ หากแต่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ฝ่ามือเล็กจึงควานหาบนหัวเตียงพร้อมหยิบมา ก่อนจะหยีตามองหน้าจอมือถือในฝ่ามือด้วยท่าทีงัวเงีย แต่แล้วก็เบิกตาโพลงพร้อมกดรับสายทันที

     หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

    ฮัลโหลครับ คุณแจจุงน้ำเสียงนั้นดูประหม่าไม่น้อย หากแต่จุนซูพยายามควบคุมน้ำเสียงให้แลดูเป็นปกติที่สุด เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตื่นเต้นข้างใน

    ตื่นหรือยังน่ะเรา เสียงจากปลายสายนั้นเหมือนเป็นน้ำทิพย์ชโลมหัวใจให้ชุ่มชื้น เขาปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีแค่ไหน นานครั้งที่คุณแจจุงจะโทรมาหาเขาเช่นวันนี้

    ตื่นแล้วครับ คุณแจจุงมีอะไรหรอ?”

    อาบน้ำแต่งตัวหรือยัง เดี๋ยวจะแวะไปรับแล้วพาไปส่งที่โรงเรียน หรือว่าเขาหูฝาด...หรือยังไม่ตื่นจากความฝันกัน

    ทำไมวันนี้ถึง..

    พอดีช่วงเช้าว่างน่ะ พอถึงช่วงบ่ายก็ขยับตัวไปไหนไม่ได้ละ คงเข้าใจนะว่าเพราะอะไร

    อืมครับ

    และคืนนี้ฉันคงไม่ได้กอดนาย คิดถึงแย่เลย เหมือนกระแสไฟฟ้าไหลวนไปทั่วร่างลามมาถึงหัวใจจนกระตุกวูบไหว  จุนซูเผลอยิ้มออกมาแม้รู้ดีว่าเป็นเพียงคำพูดหว่านล้อมหวังให้เขาหลอมละลายและมันก็สำเร็จ เขาไม่อาจห้ามความรู้สึกตื่นเต้นผสมปนเปไปกับความดีใจนี้ได้   ปล่อยให้หัวใจได้หลงระเริงไปกับคำพูดนั้น  “ขอเวลาครึ่งชั่วโมงนะครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย

    เสร็จแล้วโทรมาบอกฉันด้วยนะ แล้วเจอกัน

    ด..เดี๋ยวก่อนสิครับ

    ตื๊ดๆๆ...

    กำลังจะถามว่าหากคุณแจจุงมารับเขาในที่โจ่งแจ้งแบบนี้ไม่กลัวใครเห็นเข้าและเป็นข่าวหรือยังไง แต่ก็ถูกปลายสายชิงตัดสายไปเสียก่อน  แต่นั่นก็คงไม่เป็นไรเพราะอีกฝ่ายคงจะบอกว่าเขาเป็นเพียงน้องชายที่รู้จัก   เขารู้หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา คุณแจจุงเป็นคนฉลาดจะต้องตอบคำถามได้ดีเพื่อให้คนฟังซึ่งเป็นนักข่าวได้คล้อยตาม

    เพราะทุกถ้อยคำที่ผู้ชายคนนั้นได้เอื้อนเอ่ยออกมานั้น เขาก็พร้อมที่จะเชื่อและคล้อยตามไปได้ทุกครั้ง  แม้ใจบอกว่าเกินพอแล้วที่จะต้องแบกรับกับความเจ็บปวดนี้  แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง  ได้อยู่ใกล้  หัวใจก็พร้อมจะร่ำร้องเรียกหาได้ทุกเวลา สุดท้ายก็ทรยศกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้  คำว่ารักเพียงคำเดียวมันมีอิทธิพลต่อเขาถึงเพียงนี้เลยหรือ?

    ร่างเล็กยิ้มร่าอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็น เจ้าตัวรีบอาบน้ำแต่งตัวพร้อมเดินลงมาจากบันไดอย่างเร่งรีบ  เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องรอนาน  จึงกดโทรหาแจจุงทันทีพลางยกมือถือขึ้นแนบหู รออีกฝ่ายกดรับด้วยหัวใจที่เต้นระรัวเพราะยังตื่นเต้นไม่หาย

    วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนนะ  มีเรื่องต้องคุยกัน

    ร่างเล็กชะงักงันเมื่อได้ยินต้นเสียงมาจากโซฟาตัวใหญ่ที่มีร่างสูงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองคนตัวเล็กที่ก้าวลงมาจากบันได ละความสนใจจากหนังสือพิมพ์ในฝ่ามือพร้อมวางไว้ข้างๆตัว  จุนซูยืนตัวแข็งทื่อ  รีบลดมือถือลงแนบลำตัว ก่อนจะสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

     

    อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วหรอ จุนซู..จุนซู  ทำไมไม่พูดนะ บนหน้าจอมือถือปรากฎเบอร์ของจุนซูขึ้นมาจึงกดรับสาย  หากแต่ไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายเลย  สัญญาณขาดหายหรือว่ายังไงกัน...

     เล่นตัว?

    ฉันไม่เสียเวลาหรอกนะ  แจจุงกดตัดสายทันทีพร้อมหยิบเรแบรนด์สีดำราคาแพงขึ้นมาสวมใส่ พลางขยับกรอบแว่นตาให้เข้าที่  ดวงตาทรงเสน่ห์ภายใต้แว่นสีดำนั้นกำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ  เขาไม่ชอบให้ใครมาเล่นตัวแบบนี้

     แลมโบกินี่คันหรูเคลื่อนตัวไปข้างหน้าโดยละเป้าหมายจากที่จะขับไปบ้านของจุนซูแปรเปลี่ยนเป็นขับไปเส้นทางอื่นแทน เพราะแท็กซี่ที่ขับเข้ามาในระยะประชิด ทำให้สายตาคมเหลือบมองผ่านบานหน้าต่างรถ  พร้อมทั้งเหยียบคันเร่งเสียมิด จนเข็มที่หน้าปัดรถยนต์วนมาเกือบสุด  แลมโบกินี่คันหรูที่ชายหนุ่มเพิ่งถอยมาหมาดๆ พุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วชนิดที่ไวกว่าแสงจนรถแท็กซี่ตามไม่ทัน แจจุงเหลือบมองกระจกข้างก็พบว่าแท็กซี่คันนั้นได้ลับสายตาไปแล้ว

    ซาแซงแฟน พวกแฟนคลับที่ยอมเสียเงินจำนวนมหาศาลให้พวกแท็กซี่เพื่อที่จะได้ตามติดศิลปินอันเป็นที่รักของตนไปในทุกแห่งหน ไม่มีพื้นที่ให้ศิลปินได้หายใจหรือแม้กระทั่งความเป็นส่วนตัวที่เขาจะต้องสูญเสียเพราะคนพวกนี้  นี่ไม่ใช่ความรักเลยสักนิด  หากแต่กลายเป็นความบ้าคลั่งจนเหมือนพวกโรคจิตมากกว่าเป็นแฟนคลับ  หมดความอดทนมานานแล้ว   และเขาจะต้องอดทนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

    แม้รู้ดีว่าการที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็นศิลปินจนโด่งดังคับฟ้าเป็นที่รักของคนทั่วประเทศและทั่วเอเชียแบบนี้  จะต้องแลกกับหลายๆสิ่งแม้กระทั่งความเป็นส่วนตัวที่จะต้องตัดใจสูญเสียไป  แต่นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรอ?

    .

    .

    พี่ยุนโฮมีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ  ขาเรียวเล็กก้าวไปข้างหน้า เพื่อเดินตรงเข้าไปหาชองยุนโฮด้วยความรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสายตาคู่นั้น แน่นอนว่าเป็นสายตาที่แน่นิ่งและเย็นชา หากแต่เหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นซึ่งเขาไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ายุนโฮต้องการอะไร แค่รู้สึกว่ามันน่ากลัว

    ไม่รอให้จุนซูเดินเข้ามาหา  ร่างสูงโปร่งยันกายลุกขึ้นยืนพร้อมเดินตรงเข้ามาหาร่างเล็กเสียเอง ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นเปิดคอเสื้อของร่างตรงหน้าเผยให้เห็นรอยแดงสีจางๆบริเวณต้นคอระหงปรากฏแก่สายตาคมเด่นชัด ซึ่งนั่นก็ทำให้จุนซูตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจดวงน้อยๆถึงกับเต้นสะดุด  รู้สึกวูบชาไปทั้งตัว

    พี่ยุนโฮ..มือเล็กยกขึ้นจับฝ่ามือนั้นไว้ พลางก้มหน้างุด ทำท่าจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจอเสียงตะคอกจากคนตรงหน้า

    ตอบฉันมาซะ รอยที่คอนี้ได้มาจากไหน ทำรายงานหรอ ฮึ ทำรายงานบ้าอะไรแบบนี้ รายงานเพศศึกษางั้นหรอ!” ยุนโฮตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างเหลืออด เขาทนมานานแล้วที่เห็นเจ้าตัวเล็กกลับบ้านดึกดื่นติดต่อมาหลายวัน  ไม่ใช่ไม่เอะใจอะไร  เพียงแค่อยากไว้ใจ  เพราะหน้าตาใสซื่อและดูขาวสะอาดเหมือนผ้าบริสุทธิ์แบบนี้คงไม่ได้ไปทำเรื่องไม่ดี  มาวันนี้..เขาผิดหวัง..เขาผิดหวังในตัวจุนซูมาก

    ฮึ่กก..รอยนั้น..ยุง..

    ไม่ต้องมาอ้างว่ายุงกัด เมื่อวานฉันเห็นรอยชัดกว่านี้ตอนที่นายสลบไป หลงโง่มาตั้งนานนะ คิดว่าเป็นเด็กดี  เงินน่ะ..ฉันส่งให้นายไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ให้ไปร่าน!” เส้นอารมณ์ขาดผึงจนยากจะยับยั้งโทสะที่ล้นเหลือนี้ได้  จุนซูไม่เคยเห็นยุนโฮโมโหขนาดนี้มาก่อน สิ่งนี้ไม่ใช่เหรอที่เขาต้องการ  เขาต้องการให้พี่เขยตะคอกใส่และใช้ถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?  แต่ทำไมตอนนี้แข้งขามันรู้สึกอ่อนล้าไปหมด พอเอาเข้าจริงๆ เขาอยากจะปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป  ไม่อยากให้พี่ยุนโฮรับรู้ ไม่อยากให้พี่ยุนโฮต้องผิดหวังในตัวเขา...นี่หรือคือสิ่งที่เขาอยากจะตอบแทน  ไม่ใช่เลย..

     “ ผมขอโทษ  ฮืออ พี่ยุนโฮผมขอโทษ หยดน้ำตาใสไหลอาบแก้มนวลอย่างห้ามไม่อยู่  ริมฝีปากบางพร่ำบอกแต่คำขอโทษต่อหน้าผู้มีพระคุณซ้ำๆ หากแต่มันคงสายเกินไปเสียแล้ว จุนซูร้องไห้จนตัวโยนเมื่อถูกชายหนุ่มจับลาดไหล่ตนไว้แน่นพลางบีบแรงๆด้วยความโมโหจนไหล่บางแทบแตกหักคามือ

    ใคร..ไปนอนกับใครมา!” ยุนโฮคาดคั้นคนที่ตัวเล็กกว่าพลางเขย่าร่างเล็กจนตัวโยน จุนซูจะคบใครเขาไม่ว่าเลย  แต่รอให้เรียนจบก่อนไม่ได้เหรอ ใช่สิเขากำลังเป็นห่วง เขาเป็นห่วงจุนซูมาก ไม่อยากให้จุนซูหลงใหลไปกับสิ่งยั่วยุต่างๆจนหัวใจให้ไขว้เขวกระทั่งเสียผู้เสียคนไปในที่สุด เขารู้ดีในนิสัยไม่ค่อยทันคนแบบนี้จะถูกหลอกเอาได้ง่าย  เขายอมรับว่าจุนซูเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักมาก ดูเผินๆในคราแรกนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิงเสียอีก  หากจุนซูจะไปมีอะไรกับใคร ให้เขาเดาต้องเป็นผู้ชายแน่นอน

    เงียบทำไม...ตอบฉันสิ

    ฮึ่กก พี่ยุนโฮ ป..ปล่อยผมเถอะ  ฮืออ จ..เจ็บ

    ปล่อยแน่  แต่ต้องตอบคำถามฉันมาก่อน!”

    ฮึ่กก..ฮืออจุนซูยอมให้ยุนโฮตวาดลั่นอยู่แบบนี้จนกว่าพายุอารมณ์ของอีกฝ่ายจะสงบลง  แน่นอนว่าเขาไม่ยอมเปิดปากบอกความจริงว่าผู้ชายที่เขานอนด้วยเป็นคิมแจจุง  ต่อให้น้ำตาที่รินไหลมันแห้งเหือดไปและกลั่นออกมาเป็นสายเลือดแทนเขาก็ยอม

     นี่เขากำลังทำอะไร..ปกป้องหรอ  เขากำลังปกป้องคนที่ทำให้ตัวเองโดนด่าอยู่แบบนี้อย่างนั้นหรอ?

    ไม่ใช่สิ...เขายินยอมเอง  เขาเต็มใจนอนกับคุณแจจุงตั้งแต่ทีแรก  คุณแจจุงไม่ผิด

    เขาผิดเอง..ผิดตั้งแต่แรก..คนผิดคือเขา

     

    จุนซูก้มหน้างุดเอาแต่ร้องไห้ไม่พูดไม่จา ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น พร้อมปลดปล่อยหยาดน้ำตารินไหลมาเป็นทางกระทั่งไหลย้อยลงมาจนถึงปลายคางสวยก่อนจะลามมาถึงต้นคอขาวเนียนตรงรอยแดงที่ขึ้นสีจางๆ  เหมือนเป็นการชำละล้างตราบาป  หากแต่มันก็ออกไม่หมด

    อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ไม่ต้องไปโรงเรียน ไม่ต้องออกจากบ้าน เพราะนายคงไม่ได้ไปเรียนอย่างเดียว!”  ยุนโฮผละมือออกจากไหล่บางอย่างแรง จนร่างเล็กแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น ม่านตาบางกระพริบถี่เพื่อปัดไล่หยาดน้ำตาที่ครอรื้นจนสายตาพร่าเลือนเพื่อที่จะได้มองคนตรงหน้าได้ชัดขึ้น

    พี่ยุนโฮ..พี่จะพาผมไปไหน ฮึ่กร่างเล็กเดินปลิวไปตามแรงกระชากของชายหนุ่ม กระทั่งโดนลากมาถึงห้องนอนของตัวเอง

    ปัง!

    สิ้นเสียงปิดประตู ร่างทั้งร่างก็โดนผลักเข้ามาภายในห้องกว้างก่อนแผ่นหลังบางจะกระแทกลงไปกับพื้นเตียงอย่างแรง จุนซูใช้มือยันพื้นเตียงไว้เพื่อยันกายลุกขึ้นนั่งพร้อมถอยหลังกรูดจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับหัวเตียง

    ยุนโฮเข้ามาใกล้เรื่อยๆพลางโน้มหน้าเข้าหาใบหน้าหวานในระยะใกล้แค่ลมหายใจคั่น มือใหญ่ใช้ยันหัวเตียงไว้เพื่อปิดกลั้นช่องทางการหนีรอดของคนตัวเล็กไม่ให้หนีไปไหน

    อยู่แต่ในห้องนี้ไปซะหนึ่งอาทิตย์ ไม่ต้องไปโรงเรียน ไม่ต้องออกไปไหน

    คงไม่ตายใช่หรอกใช่มั้ย  ถ้าไม่ได้ออกไปเจอมันน่ะ ฮึ แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็บอกฉันได้นะ ไม่ต้องออกไปร่านถึงข้างนอก!”  พูดจบก็ผละกายออกมาพร้อมหันหลังให้คนตัวเล็กและเดินออกนอกประตูไปก่อนจะปิดประตูลง และไม่ลืมที่จะล็อคไว้

    เสียงแกร็กจากด้านนอกบ่งบอกได้เลยว่าพี่เขยกำลังขังตนไว้ภายในห้องนี้  ร่างเล็กผุดลุกออกจากเตียงพร้อมเดินตรงไปเคาะประตูรัวหวังให้คนข้างนอกเปิดออก

    ปังๆๆๆๆ

    พี่ยุนโฮ  ฮึ่กก...ฮืออ  เปิดประตูเถอะนะ  ผมจะไม่ทำอีกแล้ว  ฮึ่กก อย่าขังผมไว้แบบนี้เลยนะ ฮืออ ใบหน้าหวานแนบไปกับบานประตูเพื่อรอฟังเสียงและปฏิกิริยาของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เงียบ...อีกฝายคงเดินออกไปแล้ว เขาคิดเช่นนั้น

    ฮึ่กก ฮืออจุนซูทรุดตัวลงนั่ง ร่างทั้งร่างค่อยๆไหลลงมาเรื่อยๆกระทั่งลงมานั่งกองกับพื้นคล้ายคนไม่มีแรง เข่าทั้งสองข้างชันขึ้น พร้อมใบหน้าหวานฟุบแนบไปกับหัวเข่าตนปลดปล่อยหยาดน้ำตาออกมาให้สาแก่ใจ

    เสียงสะอื้นร่ำไห้จากคนข้างใน ใช่ว่าตนจะไม่ได้ยิน หากแต่ทำเป็นใจแข็งจะใจอ่อนไม่ได้  เพื่อดัดนิสัยอีกฝ่ายให้หลาบจำ  ไม่รู้ทำแบบนี้จะเข็ดหรือเปล่า

     เขาแค่เป็นห่วงอนาคตของจุนซูมากเกินไป มากเกินจนไม่รู้ว่ามีสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากความรู้สึกนั้นหรือเปล่า?


    ..............................

    มีใครยังเชียร์โฮซูอีกป่ะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยุนไม่ร้ายนะ เพียงแต่ เป็นห่วง เลยรุนแรงนิดนึง  สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ นี่แว่บมาลงเที่ยงคืน อิอิ

    นี่ไงความสัมพันธ์ของโฮซู มีใครเดาถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ถูกป่าวว่ามันจะออกมา
    แบบนี้ อิอิ  ส่วนแจคือ...ก็เหมือนตัวพี่แกนั่นแหละ ไม่ไรมาก
    ส่วนพวกซาแซง ก็ตามนั้นแหละค่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกก 


     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×